มาโชว์พอร์ตเป็นกรณีศึกษากันดีกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
มาโชว์พอร์ตเป็นกรณีศึกษากันดีกว่า
โพสต์ที่ 1
มีหุ้นอะไรบ้าง กี่% เงินสดกี่%
หุ้นแต่ละตัวซื้อเมือวัน/เดือน/ปี (เท่าที่จำได้)
เหตุผลทีซื้อ
ทุกอย่างบอกเท่าที่อยากบอก
ไม่ว่ากำไรหรือขาดทุน คือวิทยาทาน
ผมเห็นพอร์ตหลายคนแล้ว ผมทึ่งมาก
คิดในสิ่งที่ผม เมื่อรู้แล้วอึ้ง
เลือกหุ้น ได้อย่างสุดยอด
การโชว์พอร์ต บอกเหตุผลทีซื้อและขาย
คือ การเปลือยความรู้ทังหมดในขณะนั้น
ใครบ้างที่กล้าทำ
1. คนที่ฉลาดและมั่นใจมากว่า จะพัฒนาความรู้พิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ
2. จิตใจดีมาก มีความสุขในการให้ความรู้
3. คนที่ชื่อสุยศักดิ์
หุ้นแต่ละตัวซื้อเมือวัน/เดือน/ปี (เท่าที่จำได้)
เหตุผลทีซื้อ
ทุกอย่างบอกเท่าที่อยากบอก
ไม่ว่ากำไรหรือขาดทุน คือวิทยาทาน
ผมเห็นพอร์ตหลายคนแล้ว ผมทึ่งมาก
คิดในสิ่งที่ผม เมื่อรู้แล้วอึ้ง
เลือกหุ้น ได้อย่างสุดยอด
การโชว์พอร์ต บอกเหตุผลทีซื้อและขาย
คือ การเปลือยความรู้ทังหมดในขณะนั้น
ใครบ้างที่กล้าทำ
1. คนที่ฉลาดและมั่นใจมากว่า จะพัฒนาความรู้พิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ
2. จิตใจดีมาก มีความสุขในการให้ความรู้
3. คนที่ชื่อสุยศักดิ์
Blueplanet
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 0
มาโชว์พอร์ตเป็นกรณีศึกษากันดีกว่า
โพสต์ที่ 4
ดูในกระทู้ดูดวงได้เลยครับ มีคนตอบเพียบ :lol:
- holidaytours
- Verified User
- โพสต์: 349
- ผู้ติดตาม: 0
มาโชว์พอร์ตเป็นกรณีศึกษากันดีกว่า
โพสต์ที่ 5
:lol:
ผมว่าคนทั่วไปคงไม่ค่อยกล้าโชว์เพื่อให้เป็นกรณีศึกษานะครับ
เพราะมันเขินนะครับ
ผมว่าคนทั่วไปคงไม่ค่อยกล้าโชว์เพื่อให้เป็นกรณีศึกษานะครับ
เพราะมันเขินนะครับ
สิ่งทั้งหลาย ขึ้นอยู่กับใจ มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จเพราะใจ - พุทธภาษิต
งาน อาชีพเสริมทำเงินล้าน สร้างรายได้ ธุรกิจส่วนตัว รวย!
งาน อาชีพเสริมทำเงินล้าน สร้างรายได้ ธุรกิจส่วนตัว รวย!
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
มาโชว์พอร์ตเป็นกรณีศึกษากันดีกว่า
โพสต์ที่ 9
TCCC 96-97% ซื้อครั้งแรก 16/11/09 แล้วซื้อสะสมมาเรื่อยๆ
ปันผลเยอะดี แนวโน้มเกษตรดี
STPI 3-4% ซื้อ เมื่อ 14/5/10 หุ้นตัวนี้เคยขายขาดทุน
ราคาประมาณ 3.10 มั้ง ขายแล้วไม่กล้าดูเลย ซื้อเพราะ กำไรเยอะดี
ทั้งๆที่ เคยตั้งกฎไว้ว่าจะไม่เล่นหุ้นรับเหมา
ปันผลเยอะดี แนวโน้มเกษตรดี
STPI 3-4% ซื้อ เมื่อ 14/5/10 หุ้นตัวนี้เคยขายขาดทุน
ราคาประมาณ 3.10 มั้ง ขายแล้วไม่กล้าดูเลย ซื้อเพราะ กำไรเยอะดี
ทั้งๆที่ เคยตั้งกฎไว้ว่าจะไม่เล่นหุ้นรับเหมา
Blueplanet
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
มาโชว์พอร์ตเป็นกรณีศึกษากันดีกว่า
โพสต์ที่ 10
พี่ blueplanet แนวโน้มในอนาคตของ TCCC เป็นยังไงบ้างครับblueplanet เขียน:TCCC 96-97% ซื้อครั้งแรก 16/11/09 แล้วซื้อสะสมมาเรื่อยๆ
ปันผลเยอะดี แนวโน้มเกษตรดี
STPI 3-4% ซื้อ เมื่อ 14/5/10 หุ้นตัวนี้เคยขายขาดทุน
ราคาประมาณ 3.10 มั้ง ขายแล้วไม่กล้าดูเลย ซื้อเพราะ กำไรเยอะดี
ทั้งๆที่ เคยตั้งกฎไว้ว่าจะไม่เล่นหุ้นรับเหมา
พอดีเคยอ่านความเห็นของพี่อินทรีย์ทองแดงแล้วรู้สึกว่า ธุรกิจยากเกินความสามารถที่ผมจะเข้าใจได้อ่ะครับ...
- densin
- Verified User
- โพสต์: 1073
- ผู้ติดตาม: 0
มาโชว์พอร์ตเป็นกรณีศึกษากันดีกว่า
โพสต์ที่ 11
คุณ blueplannet มีความพยายามจริงๆทีจะ share พอร์ท
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=42542
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=42542
VI สายมืด = VI หน้ามืดซื้อตัวฮอทๆอย่าไม่ลืมหูลืมตา
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10538
- ผู้ติดตาม: 0
มาโชว์พอร์ตเป็นกรณีศึกษากันดีกว่า
โพสต์ที่ 12
คุณ blue ครับ เวป ไทยวีไอ นี่ ผู้ก่อตั้งเวป เริ่มต้น คือการให้แนวคิด เรื่องหุ้นคุณค่าครับ
สังเกตมั้ยครับ คุณ VIB007 ก็แทบ ไม่เคยเอ่ย ถึงหุ้นในพอร์ต เลย ด้วยซ้ำ ตั้งแต่ปี 2003 ที่เริ่มตั้งกระทู้
ในปัจจุบัน เราก็ยังเน้นการหาปลา ด้วยตัวเอง ไม่ใช่ วิธีการถูกป้อนปลา แล้ว อนาคตก็หากินเองไม่เป็น
เอาล่ะ คุณ blue อาจจะ บอกว่า การที่แต่ละคนมาบอกว่าถือหุ้นอะไร จะได้วิจารณ์ - วิเคราะห์ ว่าทำไม อย่างไร น่าสนใจ ดี-ไม่ดี ตรงไหน พลาดหรือไม่พลาดอย่างไร
แต่เราก็มีห้องร้อยหุ้น ให้ ถามให้ วิเคราะห์ ข้อดี - ข้อเสีย จุดเด่น - จุดด้อย แล้วครับ ถ้าสนใจรายตัวก็เข้าไปถามๆกันในนั้น
ถ้าไม่มีหุ้นที่อยู่ในห้องร้อยหุ้นก็ เสนอขึ้นมา เมื่อมีข้อมูลมากพอ + มีคนสนใจติดตาม ก็จะย้ายเข้าห้อง ร้อยหุ้นให้
ถ้าต้องการรู้กันจริงๆ ถ้าพอรู้จักกันก็ติดต่อกันเอง ถามไถ่กันเอง จะได้ เรียนรู้แนวคิดของกันและกัน ก็น่าจะเพียงพอแล้วล่ะครับ
แลกเปลี่ยนความเห็นกันนะครับ :D
สังเกตมั้ยครับ คุณ VIB007 ก็แทบ ไม่เคยเอ่ย ถึงหุ้นในพอร์ต เลย ด้วยซ้ำ ตั้งแต่ปี 2003 ที่เริ่มตั้งกระทู้
ในปัจจุบัน เราก็ยังเน้นการหาปลา ด้วยตัวเอง ไม่ใช่ วิธีการถูกป้อนปลา แล้ว อนาคตก็หากินเองไม่เป็น
เอาล่ะ คุณ blue อาจจะ บอกว่า การที่แต่ละคนมาบอกว่าถือหุ้นอะไร จะได้วิจารณ์ - วิเคราะห์ ว่าทำไม อย่างไร น่าสนใจ ดี-ไม่ดี ตรงไหน พลาดหรือไม่พลาดอย่างไร
แต่เราก็มีห้องร้อยหุ้น ให้ ถามให้ วิเคราะห์ ข้อดี - ข้อเสีย จุดเด่น - จุดด้อย แล้วครับ ถ้าสนใจรายตัวก็เข้าไปถามๆกันในนั้น
ถ้าไม่มีหุ้นที่อยู่ในห้องร้อยหุ้นก็ เสนอขึ้นมา เมื่อมีข้อมูลมากพอ + มีคนสนใจติดตาม ก็จะย้ายเข้าห้อง ร้อยหุ้นให้
ถ้าต้องการรู้กันจริงๆ ถ้าพอรู้จักกันก็ติดต่อกันเอง ถามไถ่กันเอง จะได้ เรียนรู้แนวคิดของกันและกัน ก็น่าจะเพียงพอแล้วล่ะครับ
แลกเปลี่ยนความเห็นกันนะครับ :D
-
- Verified User
- โพสต์: 1746
- ผู้ติดตาม: 0
มาโชว์พอร์ตเป็นกรณีศึกษากันดีกว่า
โพสต์ที่ 13
ผมกลับคิดว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายที่จะแชร์หุ้นในพอร์ตตนเองให้คนอื่นรับทราบนะ
และถ้าใครมาถามว่าผมถือหุ้นอะไร เท่าไหร่ เพราะอะไร ผมก็บอกไปตรง ๆ ไม่ได้คิดมากอะไร
เพราะยังไงเราบอกไป ใครจะตามมันก็เป็นเรื่องที่เค้าต้องรับความเสี่ยงเอาเอง
จะซื้อไม่ซื้อมันก็อยู่ที่แนวทางการลงทุนของแต่ละคนว่าจะ match กับตัวหุ้นนั้น ๆ หรือเปล่า
เพียงแต่รู้สึกว่าสังคมส่วนใหญ่อาจมองว่าการกระทำในลักษณะนี้ อาจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี
ก็เลยไม่ค่อยมีใครบอกกันมั๊ง ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่น่าคิดมากอะไรจะขนาดนั้น
อาจจะคล้าย ๆ เรื่องเงินเดือน ถึงจะเข้าใจได้ว่าไม่ควรเปิดเผยเงินเดือนตัวเองให้คนในองค์กรเดียวกันรับรู้
แต่ถ้าคนนอก เพื่อน หรือญาติถาม ก็ไม่เห็นว่าจะต้องอ้อมแอ้มหรือปิดบังไปทำไม
ถ้าบอกแล้วจะมายืมเงิน ก็เตะออกไปไกล ๆ ก็เท่านั้น
และถ้าใครมาถามว่าผมถือหุ้นอะไร เท่าไหร่ เพราะอะไร ผมก็บอกไปตรง ๆ ไม่ได้คิดมากอะไร
เพราะยังไงเราบอกไป ใครจะตามมันก็เป็นเรื่องที่เค้าต้องรับความเสี่ยงเอาเอง
จะซื้อไม่ซื้อมันก็อยู่ที่แนวทางการลงทุนของแต่ละคนว่าจะ match กับตัวหุ้นนั้น ๆ หรือเปล่า
เพียงแต่รู้สึกว่าสังคมส่วนใหญ่อาจมองว่าการกระทำในลักษณะนี้ อาจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี
ก็เลยไม่ค่อยมีใครบอกกันมั๊ง ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่น่าคิดมากอะไรจะขนาดนั้น
อาจจะคล้าย ๆ เรื่องเงินเดือน ถึงจะเข้าใจได้ว่าไม่ควรเปิดเผยเงินเดือนตัวเองให้คนในองค์กรเดียวกันรับรู้
แต่ถ้าคนนอก เพื่อน หรือญาติถาม ก็ไม่เห็นว่าจะต้องอ้อมแอ้มหรือปิดบังไปทำไม
ถ้าบอกแล้วจะมายืมเงิน ก็เตะออกไปไกล ๆ ก็เท่านั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 1746
- ผู้ติดตาม: 0
มาโชว์พอร์ตเป็นกรณีศึกษากันดีกว่า
โพสต์ที่ 14
ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญสุด ไม่ได้อยู่ที่การที่เรา "ค้นหา" หุ้นด้วยตัวเองหรือรับฟังมาจากเพื่อนฝูงเปล่า
แต่สำคัญอยู่ที่ว่าเรา "ตัดสินใจ" ที่จะซื้อหรือลงทุนในหุ้นที่ได้มาเหล่านั้น ด้วยเหตุผลอะไรเสียมากกว่า
ไม่งั้นถ้าใครคิดอยากจะหาปลาด้วยตนเอง ก็คงต้องปลีกวิเวกและเปิด SET คนหาหุ้นทีละตัว ๆ
แต่อีกคนหนึ่งเลือกที่จะมีสังคมนักลงทุน ได้รับรู้รับฟังหุ้นที่น่าสนใจจากกลุ่มเพื่อน ๆ
ถ้าคนนั้นรับข้อมูลมาแล้วนำมาวิเคราะห์ และตัดสินใจอย่างมีเหตุผล จะผิดหรือถูก หุ้นจะขึ้นหรือลง ผมก็มองว่าเป็นการหาปลาด้วยตนเอง
แต่ถ้าคนนั้นรับข้อมูลมาแล้วซื้อด้วยอารมณ์ความรู้สึก โดยไม่ได้รู้ไม่ได้คิดที่จะศึกษาแม้แต่อย่างน้อยงบการเงินคร่าว ๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับการรอถูกป้อนอาหาร
จบดื้อ ๆ ตรงนี้แหละครับ นึกไม่ออกแล้ว
แต่สำคัญอยู่ที่ว่าเรา "ตัดสินใจ" ที่จะซื้อหรือลงทุนในหุ้นที่ได้มาเหล่านั้น ด้วยเหตุผลอะไรเสียมากกว่า
ไม่งั้นถ้าใครคิดอยากจะหาปลาด้วยตนเอง ก็คงต้องปลีกวิเวกและเปิด SET คนหาหุ้นทีละตัว ๆ
แต่อีกคนหนึ่งเลือกที่จะมีสังคมนักลงทุน ได้รับรู้รับฟังหุ้นที่น่าสนใจจากกลุ่มเพื่อน ๆ
ถ้าคนนั้นรับข้อมูลมาแล้วนำมาวิเคราะห์ และตัดสินใจอย่างมีเหตุผล จะผิดหรือถูก หุ้นจะขึ้นหรือลง ผมก็มองว่าเป็นการหาปลาด้วยตนเอง
แต่ถ้าคนนั้นรับข้อมูลมาแล้วซื้อด้วยอารมณ์ความรู้สึก โดยไม่ได้รู้ไม่ได้คิดที่จะศึกษาแม้แต่อย่างน้อยงบการเงินคร่าว ๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับการรอถูกป้อนอาหาร
จบดื้อ ๆ ตรงนี้แหละครับ นึกไม่ออกแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 381
- ผู้ติดตาม: 0
มาโชว์พอร์ตเป็นกรณีศึกษากันดีกว่า
โพสต์ที่ 16
[quote="akekarat"]ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญสุด ไม่ได้อยู่ที่การที่เรา "ค้นหา" หุ้นด้วยตัวเองหรือรับฟังมาจากเพื่อนฝูงเปล่า
แต่สำคัญอยู่ที่ว่าเรา "ตัดสินใจ" ที่จะซื้อหรือลงทุนในหุ้นที่ได้มาเหล่านั้น ด้วยเหตุผลอะไรเสียมากกว่า
ไม่งั้นถ้าใครคิดอยากจะหาปลาด้วยตนเอง ก็คงต้องปลีกวิเวกและเปิด SET คนหาหุ้นทีละตัว ๆ
แต่อีกคนหนึ่งเลือกที่จะมีสังคมนักลงทุน ได้รับรู้รับฟังหุ้นที่น่าสนใจจากกลุ่มเพื่อน ๆ
ถ้าคนนั้นรับข้อมูลมาแล้วนำมาวิเคราะห์ และตัดสินใจอย่างมีเหตุผล จะผิดหรือถูก หุ้นจะขึ้นหรือลง ผมก็มองว่าเป็นการหาปลาด้วยตนเอง
แต่ถ้าคนนั้นรับข้อมูลมาแล้วซื้อด้วยอารมณ์ความรู้สึก โดยไม่ได้รู้ไม่ได้คิดที่จะศึกษาแม้แต่อย่างน้อยงบการเงินคร่าว ๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับการรอถูกป้อนอาหาร
จบดื้อ ๆ ตรงนี้แหละครับ
แต่สำคัญอยู่ที่ว่าเรา "ตัดสินใจ" ที่จะซื้อหรือลงทุนในหุ้นที่ได้มาเหล่านั้น ด้วยเหตุผลอะไรเสียมากกว่า
ไม่งั้นถ้าใครคิดอยากจะหาปลาด้วยตนเอง ก็คงต้องปลีกวิเวกและเปิด SET คนหาหุ้นทีละตัว ๆ
แต่อีกคนหนึ่งเลือกที่จะมีสังคมนักลงทุน ได้รับรู้รับฟังหุ้นที่น่าสนใจจากกลุ่มเพื่อน ๆ
ถ้าคนนั้นรับข้อมูลมาแล้วนำมาวิเคราะห์ และตัดสินใจอย่างมีเหตุผล จะผิดหรือถูก หุ้นจะขึ้นหรือลง ผมก็มองว่าเป็นการหาปลาด้วยตนเอง
แต่ถ้าคนนั้นรับข้อมูลมาแล้วซื้อด้วยอารมณ์ความรู้สึก โดยไม่ได้รู้ไม่ได้คิดที่จะศึกษาแม้แต่อย่างน้อยงบการเงินคร่าว ๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับการรอถูกป้อนอาหาร
จบดื้อ ๆ ตรงนี้แหละครับ
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
มาโชว์พอร์ตเป็นกรณีศึกษากันดีกว่า
โพสต์ที่ 19
สำหรับผม ขึ้นอยู่กับคนฟังครับ ถ้าคนฟังเป็นนักลงทุนที่มีภูมิต้านทาน มีความรู้ความเข้าใจในตลาดหุ้นระดับหนึ่ง รู้ว่าจะเอาตัวรอดในตลาดยังไง ผมก็คุยเรื่องหุ้นในพอร์ตนะ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการลงทุน ผมถือว่าเป็นกิจกรรมการลงทุนที่สำคัญมากๆ ในกระบวนการลงทุนakekarat เขียน:ผมกลับคิดว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายที่จะแชร์หุ้นในพอร์ตตนเองให้คนอื่นรับทราบนะ
และถ้าใครมาถามว่าผมถือหุ้นอะไร เท่าไหร่ เพราะอะไร ผมก็บอกไปตรง ๆ ไม่ได้คิดมากอะไร
เพราะยังไงเราบอกไป ใครจะตามมันก็เป็นเรื่องที่เค้าต้องรับความเสี่ยงเอาเอง
จะซื้อไม่ซื้อมันก็อยู่ที่แนวทางการลงทุนของแต่ละคนว่าจะ match กับตัวหุ้นนั้น ๆ หรือเปล่า
เพียงแต่รู้สึกว่าสังคมส่วนใหญ่อาจมองว่าการกระทำในลักษณะนี้ อาจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี
ก็เลยไม่ค่อยมีใครบอกกันมั๊ง ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่น่าคิดมากอะไรจะขนาดนั้น
อาจจะคล้าย ๆ เรื่องเงินเดือน ถึงจะเข้าใจได้ว่าไม่ควรเปิดเผยเงินเดือนตัวเองให้คนในองค์กรเดียวกันรับรู้
แต่ถ้าคนนอก เพื่อน หรือญาติถาม ก็ไม่เห็นว่าจะต้องอ้อมแอ้มหรือปิดบังไปทำไม
ถ้าบอกแล้วจะมายืมเงิน ก็เตะออกไปไกล ๆ ก็เท่านั้น
แต่ถ้าคนฟังเป็นคนที่ไม่มีภูมิต้านทานดังกล่าว ผมไม่กล้าบอกเท่าไหร่ครับ... กลัวบาป... คุยก็คุยในระดับที่จะไม่เกิดอันตรายกับพอร์ตของเค้าได้
-
- Verified User
- โพสต์: 1254
- ผู้ติดตาม: 0
มาโชว์พอร์ตเป็นกรณีศึกษากันดีกว่า
โพสต์ที่ 20
ถ้ามีการจัดแข่งขันลงทุนหุ้นแบบวีไอขึ้นมาโดยเชิญเซียนผู้มีเกียรติในเว็ปร่วมแข่งขันด้วยก็อาจจะเป็นหนทางหนึ่งที่ทำให้ได้ศึกษาวิธีการลงทุนของเซียนที่เป็นidolของนักลงทุนแต่ล่ะคนได้เป็นอย่างดีทีเดียวครับ
- picklife
- Verified User
- โพสต์: 2565
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มาโชว์พอร์ตเป็นกรณีศึกษากันดีกว่า
โพสต์ที่ 23
ความพยายามสูงส่งครับพี่ แต่ก็ดีครับมีหลายแนวหลากหลายความคิดดีครับ...อิอิ ส่วนเรื่องหุ้นอะไรผมว่าหาดีๆก็จะรู้นะครับว่าถืออะไร ส่วนสัดส่วนของพอร์ทผมว่าอันนี้แล้วแต่คนจริงๆนะครับ ถ้ามั่นใจก็เยอะเองblueplanet เขียน:มีหุ้นอะไรบ้าง กี่% เงินสดกี่%
ข้อนี้ผมไม่เห็นด้วยที่จะถามนะครับ เพราะการถามแสดงว่าพี่กำลังต้องการราคาทุนของเซียนหรือปล่าวครับ ผมว่าการลงทุนที่ถูกต้องจะต้องไม่สนใจราคาทุนนะครับ แรกๆผมมะเข้านักแต่ทุกวันนี้เริ่มเข้าใจละ ถ้าตัดเรื่องทุนออกผมว่าศักยภาพการลงทุนเราจะสูงขึ้นเยอะมากๆๆๆๆๆครับblueplanet เขียน:หุ้นแต่ละตัวซื้อเมือวัน/เดือน/ปี (เท่าที่จำได้)
Upsideเยอะ+ความแน่นอนของUpsideค่อนข้างเยอะblueplanet เขียน:เหตุผลทีซื้อ
ทุกอย่างบอกเท่าที่อยากบอก
ไม่ว่ากำไรหรือขาดทุน คือวิทยาทาน
ผมเห็นหลายคนก็อึ้งเหมือนกันครับ ถือ100% สุดโต่งมากๆๆครับblueplanet เขียน:ผมเห็นพอร์ตหลายคนแล้ว ผมทึ่งมาก
คิดในสิ่งที่ผม เมื่อรู้แล้วอึ้ง
เลือกหุ้น ได้อย่างสุดยอด
การโชว์พอร์ต บอกเหตุผลทีซื้อและขาย
คือ การเปลือยความรู้ทังหมดในขณะนั้น
ส่วนเรื่องบอกบอกดังกล่าวเป็นการเปลือยความรู้ทั้งหมด ผมว่าไม่นะครับพี่
มะชอบประโยคนี้เลยนะครับพี่ เพราะรู้สึกเหมือนชักจูงให้คนทำในสิ่งที่พี่ต้องการนะครับ ผมว่าคนในTVIฉลาดพอที่จะเข้าใจความหมายนะครับ.....blueplanet เขียน: ใครบ้างที่กล้าทำ
1. คนที่ฉลาดและมั่นใจมากว่า จะพัฒนาความรู้พิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ
2. จิตใจดีมาก มีความสุขในการให้ความรู้
3. คนที่ชื่อสุยศักดิ์
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
-
- Verified User
- โพสต์: 216
- ผู้ติดตาม: 0
มาโชว์พอร์ตเป็นกรณีศึกษากันดีกว่า
โพสต์ที่ 24
blueplanet เขียน:TCCC 96-97% ซื้อครั้งแรก 16/11/09 แล้วซื้อสะสมมาเรื่อยๆ
ปันผลเยอะดี แนวโน้มเกษตรดี
STPI 3-4% ซื้อ เมื่อ 14/5/10 หุ้นตัวนี้เคยขายขาดทุน
ราคาประมาณ 3.10 มั้ง ขายแล้วไม่กล้าดูเลย ซื้อเพราะ กำไรเยอะดี
ทั้งๆที่ เคยตั้งกฎไว้ว่าจะไม่เล่นหุ้นรับเหมา
ตอนที่ซื้อตอนแรกเพราะอะไรครับ?
แล้วเพราะอะไรถึงขายขาดทุนครับ?
แล้วซื้อกลับใหม่เพราะอะไรครับ เพราะพื้นฐานกิจการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น? หรือซื้อตามเซียนหรือใน TVI เขาซื้อกัน?
ทำไมถึงตั้งกฎว่าจะไม่เล่นหุ้นรับเหมา เพราะกำไรไม่สม่ำเสมอ? คาดการณ์์ยาก? หรือไม่เข้าใจธุรกิจ? ถ้าเป็นตามเหตุผลนี้อันตรายครับ
ขอบคุณครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1230
- ผู้ติดตาม: 0
มาโชว์พอร์ตเป็นกรณีศึกษากันดีกว่า
โพสต์ที่ 27
เพียงเพื่อหาหุ้นดีเพื่อการลงทุนที่ดีก็เป็นเรื่องหนึ่ง
แต่หลังๆ นี้ ผมสังเกตว่าเราพยายามสร้างให้เกิด หรือ ติดตามหา vi fund flow มากกว่าหรือเปล่า กล่าวคือ เราพยายามเลือกหาหุ้นดีที่เราตั้งใจทำหรือเสาะหาหุ้นที่กำลังถูกทำให้เด่นขึ้นมาอย่างตั้งใจ เพราะว่ามันเร่งผลตอบแทนได้เร็วดี (ซึ่ง ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าปั่นหุ้นหรือหุ้นปั่นได้หรือเปล่า)
แล้วเราก็บอกว่านักลงทุนต่างก็มีวิจารณญาน ต้องรับผิดชอบการตัดสินใจเอง ทั้งที่ชีวิตจริงก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีวิจารณญานที่ดี (เพราะว่าความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลจริงและความสามารถในการวิเคราะห์ได้ดีไม่เท่ากัน)
ก็เพียงเป็นเสียงสะท้อนความรู้สึกหนึ่งนะครับ
แต่หลังๆ นี้ ผมสังเกตว่าเราพยายามสร้างให้เกิด หรือ ติดตามหา vi fund flow มากกว่าหรือเปล่า กล่าวคือ เราพยายามเลือกหาหุ้นดีที่เราตั้งใจทำหรือเสาะหาหุ้นที่กำลังถูกทำให้เด่นขึ้นมาอย่างตั้งใจ เพราะว่ามันเร่งผลตอบแทนได้เร็วดี (ซึ่ง ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าปั่นหุ้นหรือหุ้นปั่นได้หรือเปล่า)
แล้วเราก็บอกว่านักลงทุนต่างก็มีวิจารณญาน ต้องรับผิดชอบการตัดสินใจเอง ทั้งที่ชีวิตจริงก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีวิจารณญานที่ดี (เพราะว่าความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลจริงและความสามารถในการวิเคราะห์ได้ดีไม่เท่ากัน)
ก็เพียงเป็นเสียงสะท้อนความรู้สึกหนึ่งนะครับ
- Skyforever
- Verified User
- โพสต์: 1203
- ผู้ติดตาม: 0
มาโชว์พอร์ตเป็นกรณีศึกษากันดีกว่า
โพสต์ที่ 28
[quote="akekarat"]ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญสุด ไม่ได้อยู่ที่การที่เรา "ค้นหา" หุ้นด้วยตัวเองหรือรับฟังมาจากเพื่อนฝูงเปล่า
แต่สำคัญอยู่ที่ว่าเรา "ตัดสินใจ" ที่จะซื้อหรือลงทุนในหุ้นที่ได้มาเหล่านั้น ด้วยเหตุผลอะไรเสียมากกว่า
ไม่งั้นถ้าใครคิดอยากจะหาปลาด้วยตนเอง ก็คงต้องปลีกวิเวกและเปิด SET คนหาหุ้นทีละตัว ๆ
แต่อีกคนหนึ่งเลือกที่จะมีสังคมนักลงทุน ได้รับรู้รับฟังหุ้นที่น่าสนใจจากกลุ่มเพื่อน ๆ
ถ้าคนนั้นรับข้อมูลมาแล้วนำมาวิเคราะห์ และตัดสินใจอย่างมีเหตุผล จะผิดหรือถูก หุ้นจะขึ้นหรือลง ผมก็มองว่าเป็นการหาปลาด้วยตนเอง
แต่ถ้าคนนั้นรับข้อมูลมาแล้วซื้อด้วยอารมณ์ความรู้สึก โดยไม่ได้รู้ไม่ได้คิดที่จะศึกษาแม้แต่อย่างน้อยงบการเงินคร่าว ๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับการรอถูกป้อนอาหาร
จบดื้อ ๆ ตรงนี้แหละครับ
แต่สำคัญอยู่ที่ว่าเรา "ตัดสินใจ" ที่จะซื้อหรือลงทุนในหุ้นที่ได้มาเหล่านั้น ด้วยเหตุผลอะไรเสียมากกว่า
ไม่งั้นถ้าใครคิดอยากจะหาปลาด้วยตนเอง ก็คงต้องปลีกวิเวกและเปิด SET คนหาหุ้นทีละตัว ๆ
แต่อีกคนหนึ่งเลือกที่จะมีสังคมนักลงทุน ได้รับรู้รับฟังหุ้นที่น่าสนใจจากกลุ่มเพื่อน ๆ
ถ้าคนนั้นรับข้อมูลมาแล้วนำมาวิเคราะห์ และตัดสินใจอย่างมีเหตุผล จะผิดหรือถูก หุ้นจะขึ้นหรือลง ผมก็มองว่าเป็นการหาปลาด้วยตนเอง
แต่ถ้าคนนั้นรับข้อมูลมาแล้วซื้อด้วยอารมณ์ความรู้สึก โดยไม่ได้รู้ไม่ได้คิดที่จะศึกษาแม้แต่อย่างน้อยงบการเงินคร่าว ๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับการรอถูกป้อนอาหาร
จบดื้อ ๆ ตรงนี้แหละครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1746
- ผู้ติดตาม: 0
มาโชว์พอร์ตเป็นกรณีศึกษากันดีกว่า
โพสต์ที่ 29
ผมกลับไปอ่านข้างบนอีกรอบ ก็มั่นใจว่าคุณ blueplanet ถามว่า
แต่ถ้ามองในแง่ดี... การที่ถามวันเวลาที่ซื้อ หรือแม้ราคาในขณะนั้น
มันสามารถบอกเหตุผลที่แตกต่างกันของสาเหตุในการเลือกลงทุนในหุ้นแต่ละตัวได้
ไม่ได้หมายความสักแต่ว่าผู้ถามอยากจะทราบว่าใครถือหุ้น ที่ต้นทุนเท่าไหร่
ยกตัวอย่างละกัน เอาหุ้นที่ผมมีอยู่เอง MCS
ถ้าผมบอกว่า ผมซื้อเมื่อปี 2007 ที่ 3-4 บาท เพราะมองว่าบริษัทมีการเติบโตที่ดี ปันผลเหมาะสม
แต่ถ้าดูช่วง subprime ปลายปี 2008 ผมซื้อเพิ่มที่ 1.8 - 2.0 บาท เพราะเห็นว่าปัจจัยพื้นฐานไม่ได้ถูกกระทบ และราคาหุ้นตอบสนองลงมาแรงเกินเหตุ
หรือแม้แต่ช่วงกลางปี 2009 ที่ผมซื้อเพิ่มที่ 3 บาทปลาย ๆ เนื่องจากมีการขยายกำลังการผลิต แนวโน้มเติบโตเด่นชัด
ผมว่านี่ก็สามารถเป็นเหตุผล "ที่ดี" ที่สามารถอธิบายสาเหตุที่ต้องถามถึงช่วงเวลาที่ซื้อได้
และพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า ไม่ได้ต้องการทราบราคาทุน แต่ต้องการทราบถึงแรงจูงใจที่ซื้อหุ้น ด้วยเหตุปัจจัยทั้งหมดที่มีอยู่ในขณะนั้น
เพียงแต่ว่า ในความเป็นจริงแล้ว "ผู้ถาม" ต้องการทราบ "ราคาทุน" หรือ "แรงจูงใจในขณะนั้น"
อันนี้ คนที่รู้จริง ๆ มีคนเดียว
บางท่านอาจคิดว่า ที่ถามมาแบบนี้ เพื่อต้องการทราบราคาต้นทุนหุ้นแต่ละตัวซื้อเมือวัน/เดือน/ปี (เท่าที่จำได้)
แต่ถ้ามองในแง่ดี... การที่ถามวันเวลาที่ซื้อ หรือแม้ราคาในขณะนั้น
มันสามารถบอกเหตุผลที่แตกต่างกันของสาเหตุในการเลือกลงทุนในหุ้นแต่ละตัวได้
ไม่ได้หมายความสักแต่ว่าผู้ถามอยากจะทราบว่าใครถือหุ้น ที่ต้นทุนเท่าไหร่
ยกตัวอย่างละกัน เอาหุ้นที่ผมมีอยู่เอง MCS
ถ้าผมบอกว่า ผมซื้อเมื่อปี 2007 ที่ 3-4 บาท เพราะมองว่าบริษัทมีการเติบโตที่ดี ปันผลเหมาะสม
แต่ถ้าดูช่วง subprime ปลายปี 2008 ผมซื้อเพิ่มที่ 1.8 - 2.0 บาท เพราะเห็นว่าปัจจัยพื้นฐานไม่ได้ถูกกระทบ และราคาหุ้นตอบสนองลงมาแรงเกินเหตุ
หรือแม้แต่ช่วงกลางปี 2009 ที่ผมซื้อเพิ่มที่ 3 บาทปลาย ๆ เนื่องจากมีการขยายกำลังการผลิต แนวโน้มเติบโตเด่นชัด
ผมว่านี่ก็สามารถเป็นเหตุผล "ที่ดี" ที่สามารถอธิบายสาเหตุที่ต้องถามถึงช่วงเวลาที่ซื้อได้
และพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า ไม่ได้ต้องการทราบราคาทุน แต่ต้องการทราบถึงแรงจูงใจที่ซื้อหุ้น ด้วยเหตุปัจจัยทั้งหมดที่มีอยู่ในขณะนั้น
เพียงแต่ว่า ในความเป็นจริงแล้ว "ผู้ถาม" ต้องการทราบ "ราคาทุน" หรือ "แรงจูงใจในขณะนั้น"
อันนี้ คนที่รู้จริง ๆ มีคนเดียว
-
- Verified User
- โพสต์: 1746
- ผู้ติดตาม: 0
มาโชว์พอร์ตเป็นกรณีศึกษากันดีกว่า
โพสต์ที่ 30
หรือยกอีกตัวอย่างหนึ่ง จะได้เห็นกันชัด ๆ ... 1 ในอดีต 3 ทหารเสือของ TVI ... หุ้น SNC
เมื่อยุครุ่งเรือง 3 > 6 > 10 > 12 > 17 แต่ละช่วงเวลา แต่ละคนก็ซื้อด้วยเหตุและปัจจัยในขณะนั้น ที่แตกต่างกันไป
พอมายุคเสื่อมถอย 17 > 12 > 10 > 6 > 3 ก็มีทั้งซื้อ และขาย ด้วยเหตุและปัจจัยที่แตกต่างกัน
พอมาช่วงคืนชีพ 3 > 6 > 10 จนถึงตอนนี้ .. สาเหตุที่นำมาคิด วิเคราะห์ และเลือกลงทุน มันก็มีขึ้นมาใหม่ ๆ
ดังนั้น การถามช่วงเวลาที่ลงทุน มันจะบอกได้ชัดเจนว่า
นักลงทุนท่านนั้น เลือกลงทุนด้วยเหตุผลอะไร แนวทางอย่างไร
แต่ถ้าถามว่า "ทุนเท่าไหร่" แต่ไม่ได้ถามว่า "ซื้อเมื่อไหร่" อันนี้ ... จะสหบาทาไป ก็คงไม่มีใครว่าหรอกครับ
เมื่อยุครุ่งเรือง 3 > 6 > 10 > 12 > 17 แต่ละช่วงเวลา แต่ละคนก็ซื้อด้วยเหตุและปัจจัยในขณะนั้น ที่แตกต่างกันไป
พอมายุคเสื่อมถอย 17 > 12 > 10 > 6 > 3 ก็มีทั้งซื้อ และขาย ด้วยเหตุและปัจจัยที่แตกต่างกัน
พอมาช่วงคืนชีพ 3 > 6 > 10 จนถึงตอนนี้ .. สาเหตุที่นำมาคิด วิเคราะห์ และเลือกลงทุน มันก็มีขึ้นมาใหม่ ๆ
ดังนั้น การถามช่วงเวลาที่ลงทุน มันจะบอกได้ชัดเจนว่า
นักลงทุนท่านนั้น เลือกลงทุนด้วยเหตุผลอะไร แนวทางอย่างไร
แต่ถ้าถามว่า "ทุนเท่าไหร่" แต่ไม่ได้ถามว่า "ซื้อเมื่อไหร่" อันนี้ ... จะสหบาทาไป ก็คงไม่มีใครว่าหรอกครับ