บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^
โพสต์ที่ 301
นั่งอ่านแล้วรู้สึกประทับใจในความรู้ความสามารถของหมอฝนมากๆ เรื่องบางเรื่องคุณหมอสามารถสรุปให้เข้าใจได้ดีจริงๆ
และที่ชอบที่สุดคือ
[quote="Fon^^"]
ปกติเวลาเราดำเนินธุรกิจหรือเปิดบริษัท จะมี วงจรธุรกิจ ซึ่งบอกการเติบโตและวงจรว่าอยู่ช่วงใด
วงจรธุรกิจทั่วไปก็เหมือน วัฏสงสาร ค่ะ คือมีการ
และที่ชอบที่สุดคือ
[quote="Fon^^"]
ปกติเวลาเราดำเนินธุรกิจหรือเปิดบริษัท จะมี วงจรธุรกิจ ซึ่งบอกการเติบโตและวงจรว่าอยู่ช่วงใด
วงจรธุรกิจทั่วไปก็เหมือน วัฏสงสาร ค่ะ คือมีการ
- sutee_p
- Verified User
- โพสต์: 325
- ผู้ติดตาม: 0
บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^
โพสต์ที่ 302
[quote="Fon^^"]
ขอเปิดประเด็นเรื่องการคิด Working Capital เลยละกันนะคะ ฮ่าๆ
Working Capital คือ เงินทุนหมุนเวียนสำหรับดำเนินงาน
ซึ่ง Net Working Capital = Operating Current Assets - Operating Current Liability
( เงินทุนดำเนินงานหมุนเวียนสุทธิ = สินทรัพย์ดำเนินงานหมุนเวียน - หนี้สินดำเนินงานหมุนเวียน )
โดยที่สินทรัพย์ดำเนินงานธุรกิจคือ สินค้าคงเหลือ(Inv) และ ลูกหนี้การค้า(A/R)
ขอเปิดประเด็นเรื่องการคิด Working Capital เลยละกันนะคะ ฮ่าๆ
Working Capital คือ เงินทุนหมุนเวียนสำหรับดำเนินงาน
ซึ่ง Net Working Capital = Operating Current Assets - Operating Current Liability
( เงินทุนดำเนินงานหมุนเวียนสุทธิ = สินทรัพย์ดำเนินงานหมุนเวียน - หนี้สินดำเนินงานหมุนเวียน )
โดยที่สินทรัพย์ดำเนินงานธุรกิจคือ สินค้าคงเหลือ(Inv) และ ลูกหนี้การค้า(A/R)
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^
โพสต์ที่ 303
เข้ามาร่วมคุยด้วยครับ
เรื่อง FCF ที่ต้องคำนวณ การเปลี่ยนแปลง WC
1. ผมมีความเห็นว่า เราไม่ควรใช้ข้อมูลจากงบดุลมาหักลบกัน เช่น ลูกหนี้การค้าปีนี้ - ลูกหนี้การค้าปีก่อน
เพราะ จำนวนลูกหนี้การค้าที่บันทึกในงบดุลนั้น ไม่ใช่ลูกหนี้การค้าทั้งหมดของบริษัท แต่เป็นลูกหนี้การค้าสุทธิที่หักการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญแล้ว ดังนั้นถ้าเราจะนำตัวเลขในงบดุลมาหักกันจะไม่เท่ากับจำนวนลูกหนี้การค้าที่เพิ่มขึ้น หรือลดลงในแต่ละงวด
2. การนำตัวเลขการเปลี่ยนแปลงใน ลูกหนี้การค้า สินค้าคงคลัง และเจ้าหนี้การค้า บางงวดบัญชีมาตำนวณ เราต้องระมัดระวังตรวจสอบก่อนว่า ตัวเลขในงวดนั้นเป็นตัวเลขปกติหรือไม่ เพราะตามความเป็นจริงแล้ว ในแต่ละงวดบัญชีย่อมมีความผันผวนมากบ้างน้อยบ้าง
ปล. ช่วงไม่กี่ปีมานี้ ผมได้ยินคำว่า Economies of Speed แทน Economies of Scale คงเป็นเพราะดลกยุคนี้เปลี่ยนแปลงเร็วมาก ทำสินค้าเลียนแบบได้เร็ว เทคโนโลยี่เปลี่ยนแปลงเร็ว รวมทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนแปลงเร็ว แม้กระทั่งฟอร์มการเล่นฟุตบอลยังเปลี่ยนแปลงเร็วเลยแฮะ รอบก่อนๆทีมจากอเมริกาใต้โชว์ฟอร์มเทพกันแทบทุกทีม แต่ทีมจากยุโรปมีแต่คนบ่นว่าน่าผิดหวัง ที่ไหนได้รอบรองกลับเป็นทีมจากยุโรปเข้าถึง 3 ทีมจากการชนะยอดทีมจากอเมริกาใต้ทั้งหมด
เรื่อง FCF ที่ต้องคำนวณ การเปลี่ยนแปลง WC
1. ผมมีความเห็นว่า เราไม่ควรใช้ข้อมูลจากงบดุลมาหักลบกัน เช่น ลูกหนี้การค้าปีนี้ - ลูกหนี้การค้าปีก่อน
เพราะ จำนวนลูกหนี้การค้าที่บันทึกในงบดุลนั้น ไม่ใช่ลูกหนี้การค้าทั้งหมดของบริษัท แต่เป็นลูกหนี้การค้าสุทธิที่หักการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญแล้ว ดังนั้นถ้าเราจะนำตัวเลขในงบดุลมาหักกันจะไม่เท่ากับจำนวนลูกหนี้การค้าที่เพิ่มขึ้น หรือลดลงในแต่ละงวด
2. การนำตัวเลขการเปลี่ยนแปลงใน ลูกหนี้การค้า สินค้าคงคลัง และเจ้าหนี้การค้า บางงวดบัญชีมาตำนวณ เราต้องระมัดระวังตรวจสอบก่อนว่า ตัวเลขในงวดนั้นเป็นตัวเลขปกติหรือไม่ เพราะตามความเป็นจริงแล้ว ในแต่ละงวดบัญชีย่อมมีความผันผวนมากบ้างน้อยบ้าง
ปล. ช่วงไม่กี่ปีมานี้ ผมได้ยินคำว่า Economies of Speed แทน Economies of Scale คงเป็นเพราะดลกยุคนี้เปลี่ยนแปลงเร็วมาก ทำสินค้าเลียนแบบได้เร็ว เทคโนโลยี่เปลี่ยนแปลงเร็ว รวมทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนแปลงเร็ว แม้กระทั่งฟอร์มการเล่นฟุตบอลยังเปลี่ยนแปลงเร็วเลยแฮะ รอบก่อนๆทีมจากอเมริกาใต้โชว์ฟอร์มเทพกันแทบทุกทีม แต่ทีมจากยุโรปมีแต่คนบ่นว่าน่าผิดหวัง ที่ไหนได้รอบรองกลับเป็นทีมจากยุโรปเข้าถึง 3 ทีมจากการชนะยอดทีมจากอเมริกาใต้ทั้งหมด
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4740
- ผู้ติดตาม: 0
บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^
โพสต์ที่ 304
[quote="chatchai"]
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
- Fon^^
- Verified User
- โพสต์: 604
- ผู้ติดตาม: 0
บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^
โพสต์ที่ 307
ขอบคุณ คุณ กาละมัง และคุณ sathaporne มากนะคะ
ฝนไม่รู้มาก่อนเลยว่า Economies of Scale ฝนเขียนผิดมาตลอดค่ะ :oops:
(ภาษาปะกิตป่วยมากค่ะ)
คุณ vilage dome@perth และอาจารย์ mprandy เข้ามาแนะนำครบแล้ว ขอบคุณค่ะ
ฝนมาขยายความต่อนิดหน่อยแล้วกันนะคะ :D
Economies of Scale (EoS) คือ การประหยัดจากขนาด
ตามที่ฝนเข้าใจ หมายถึง หากเราผลิตหรือให้บริการต่อหน่วยมากขึ้นแล้ว ต้นทุนต่อหน่วยต้องลดลงเรื่อยๆ
ซึ่งสามารถวัดผลได้โดยดูจาก ปริมาณหน่วยการผลิตหรือบริการเพิ่มขึ้น ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยผลิตหรือบริการลดลงค่ะ
สำหรับบริษัทในตลาดหุ้นที่เรามีข้อมูลไม่มากนัก ถ้าดูต่อหน่วยคงหาข้อมูลไม่ได้เชียว ^^"
EoS ฝนจึงประยุกต์ใช้โดยดูจาก
กำไรเพิ่มขึ้นในอัตราที่มากกว่า การเพิ่มขึ้นของยอดขายค่ะ
หรือ อัตรากำไรส่วนเกินมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ
ฉะนั้นทางปฏิบัติฝนจึงประยุกต์ใช้ Degree of Operating Leverage (D.O.L) และ Contribution margin ratio มาเป็นเกณฑ์วัดค่ะ
โดยที่ธรรมชาติของอุตสาหกรรมที่ทำให้ได้ประโยชน์จาก EoS
จึงเป็นอุตสาหกรรมที่มี Fixed cost สูงมากเมื่อเทียบกับ Variable cost ค่ะ
เหมือนกราฟ CVP analysis ค่ะ
ฝนไม่รู้มาก่อนเลยว่า Economies of Scale ฝนเขียนผิดมาตลอดค่ะ :oops:
(ภาษาปะกิตป่วยมากค่ะ)
คุณ vilage dome@perth และอาจารย์ mprandy เข้ามาแนะนำครบแล้ว ขอบคุณค่ะ
ฝนมาขยายความต่อนิดหน่อยแล้วกันนะคะ :D
Economies of Scale (EoS) คือ การประหยัดจากขนาด
ตามที่ฝนเข้าใจ หมายถึง หากเราผลิตหรือให้บริการต่อหน่วยมากขึ้นแล้ว ต้นทุนต่อหน่วยต้องลดลงเรื่อยๆ
ซึ่งสามารถวัดผลได้โดยดูจาก ปริมาณหน่วยการผลิตหรือบริการเพิ่มขึ้น ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยผลิตหรือบริการลดลงค่ะ
สำหรับบริษัทในตลาดหุ้นที่เรามีข้อมูลไม่มากนัก ถ้าดูต่อหน่วยคงหาข้อมูลไม่ได้เชียว ^^"
EoS ฝนจึงประยุกต์ใช้โดยดูจาก
กำไรเพิ่มขึ้นในอัตราที่มากกว่า การเพิ่มขึ้นของยอดขายค่ะ
หรือ อัตรากำไรส่วนเกินมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ
ฉะนั้นทางปฏิบัติฝนจึงประยุกต์ใช้ Degree of Operating Leverage (D.O.L) และ Contribution margin ratio มาเป็นเกณฑ์วัดค่ะ
โดยที่ธรรมชาติของอุตสาหกรรมที่ทำให้ได้ประโยชน์จาก EoS
จึงเป็นอุตสาหกรรมที่มี Fixed cost สูงมากเมื่อเทียบกับ Variable cost ค่ะ
เหมือนกราฟ CVP analysis ค่ะ
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
- Fon^^
- Verified User
- โพสต์: 604
- ผู้ติดตาม: 0
บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^
โพสต์ที่ 308
คราวนี้ลองมาเปรียบเทียบแต่ละอุตสาหกรรมกันนะคะ
1 ค้าปลีก
ยกตัวอย่างค้าปลีก IT และ ค้าปลีกสินค้าที่มีสาขาเยอะๆนะคะ
DOL เฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังประมาณ 1.2 - 1.5 โดยถึงแม้ยอดขายจะเพิ่มขึ้นแต่กำไรก็เพิ่มในอัตราเดียวกันค่ะ
Contribution margin ratio เฉลี่ยประมาณ 15-20%
ถ้าสังเกตุดูธุรกิจค้าปลีก ถึงแม้ว่ายอดขายจะโตขึ้นแต่ DOL และ Contribution margin ratio ไม่เพิ่มขึ้นเลยค่ะ
2 อุตสาหกรรมรพ. อันนี้ขอยกกรณีของ BH นะคะ
2548 2549 2550 2551 2552
DOL 5 ปีย้อนหลัง = 1.29 1.19 3.79 -5.75 0.37
Contribution margin ratio = 53.03 53.14 50.11 80.65 81.87
ถ้าเรามองแต่ละอุตสาหกรรมธุรกิจที่มี EoS สูงๆ
น่าจะเป็น รพ. , โรงแรม , ผลิตสินค้า it เฉพาะ เช่น microsoft ตามตัวอย่างอ. mprandy , ปิโตรเลียม และ เคมีภัณฑ์
ส่วนอุตสาหกรรมที่ EoS ไม่สูงนัก น่าจะเป็นอุตสาหกรรมที่มีต้นทุน Variable cost ต่อหน่วยสูง เช่นค้าปลีก ค้าส่ง ผลิตอาหาร อุตสาหกรรมแปรรูป
ในทางกลับกันอุตสาหกรรมที่มี EoS สูงก็มีข้อเสีย
โดยถ้า D.O.L สูงหากยอดขายลดลงมาก กำไรจะลดลงในอัตราที่มากกว่ามากอาจจะทำให้บริษัทขาดทุนสูงมากมายได้ค่ะ
เหมือนกรณีของ BH ปี 51 fixed cost สูงขึ้น และยอดขายไม่ได้โตตาม กำไรก็ลดลงในอัตราที่มากกว่าค่ะ
ทางทฤษฏี นักการเงิน เค้าจึงบอกว่า D.O.L ว่าเป็นความเสี่ยงจากการดำเนินงาน
ถ้า D.O.L สูงแสดงว่ามีความเสี่ยงจากการดำเนินงานมากขึ้นค่ะ
เพราะมีการพึ่งพิง fixed cost สูงมากไป
ฝนคิดว่า คิดแบบนั้นอาจจะไม่เหมาะทีเดียว เนื่องจากแต่ละอุตสาหกรรมก็มีธรรมชาติต่างกันไปค่ะ
1 ค้าปลีก
ยกตัวอย่างค้าปลีก IT และ ค้าปลีกสินค้าที่มีสาขาเยอะๆนะคะ
DOL เฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังประมาณ 1.2 - 1.5 โดยถึงแม้ยอดขายจะเพิ่มขึ้นแต่กำไรก็เพิ่มในอัตราเดียวกันค่ะ
Contribution margin ratio เฉลี่ยประมาณ 15-20%
ถ้าสังเกตุดูธุรกิจค้าปลีก ถึงแม้ว่ายอดขายจะโตขึ้นแต่ DOL และ Contribution margin ratio ไม่เพิ่มขึ้นเลยค่ะ
2 อุตสาหกรรมรพ. อันนี้ขอยกกรณีของ BH นะคะ
2548 2549 2550 2551 2552
DOL 5 ปีย้อนหลัง = 1.29 1.19 3.79 -5.75 0.37
Contribution margin ratio = 53.03 53.14 50.11 80.65 81.87
ถ้าเรามองแต่ละอุตสาหกรรมธุรกิจที่มี EoS สูงๆ
น่าจะเป็น รพ. , โรงแรม , ผลิตสินค้า it เฉพาะ เช่น microsoft ตามตัวอย่างอ. mprandy , ปิโตรเลียม และ เคมีภัณฑ์
ส่วนอุตสาหกรรมที่ EoS ไม่สูงนัก น่าจะเป็นอุตสาหกรรมที่มีต้นทุน Variable cost ต่อหน่วยสูง เช่นค้าปลีก ค้าส่ง ผลิตอาหาร อุตสาหกรรมแปรรูป
ในทางกลับกันอุตสาหกรรมที่มี EoS สูงก็มีข้อเสีย
โดยถ้า D.O.L สูงหากยอดขายลดลงมาก กำไรจะลดลงในอัตราที่มากกว่ามากอาจจะทำให้บริษัทขาดทุนสูงมากมายได้ค่ะ
เหมือนกรณีของ BH ปี 51 fixed cost สูงขึ้น และยอดขายไม่ได้โตตาม กำไรก็ลดลงในอัตราที่มากกว่าค่ะ
ทางทฤษฏี นักการเงิน เค้าจึงบอกว่า D.O.L ว่าเป็นความเสี่ยงจากการดำเนินงาน
ถ้า D.O.L สูงแสดงว่ามีความเสี่ยงจากการดำเนินงานมากขึ้นค่ะ
เพราะมีการพึ่งพิง fixed cost สูงมากไป
ฝนคิดว่า คิดแบบนั้นอาจจะไม่เหมาะทีเดียว เนื่องจากแต่ละอุตสาหกรรมก็มีธรรมชาติต่างกันไปค่ะ
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
- Fon^^
- Verified User
- โพสต์: 604
- ผู้ติดตาม: 0
บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^
โพสต์ที่ 309
พูดถึงเรื่องค้าปลีก กับ EoS
ตัวอย่าง จากพี่หมอสามัญชน นะคะ
กรณีที่1. ในหนึ่งชั่วโมงมีลูกค้ามาซื้อของราคา 11,500 บาท
หักค่าvariable ในส่วนต้นทุน 10,000 บาท
หักค่า fix 1,000 บาท
กำไร 500 บาท/ชั่วโมง
กรณีที่2. เป็นของอีกหนึ่งบริษัทที่มี fix และ vari เท่าๆกัน
แต่ยอดขายเป็นสามเท่าของบริษัทแรก
คือมีลูกค้ามาซื้อของราคา 34,500 บาท(11,500*3)
หักค่าvariable ในส่วนต้นทุน 30,000 บาท
หักค่า fix 1,000 บาท
กำไร 3, 500 บาท
เพราะfix cost ไม่เพิ่ม
แทนที่จะเป็น 500*3 = 1,500 บาท
ถ้ายอดขายได้มากแบบนี้โดย SG&A ไม่เพิ่มขึ้น
ค้าปลีกก็สามารถมี EoS ได้เช่นกัน เพราะต้นทุนต่อหน่วยลดลงมากมายค่ะ
ในทางปฏิบัติหากยอดขายเพิ่มขึ้นมากๆ
ฝนลองสังเกตุว่ามันจะเพิ่มตรงค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เพิ่มขึ้นมากด้วยค่ะ
พอฝนไปดูตรงหมายเหตุประกอบงบ ตรงค่าใช้จ่ายตามลักษณะ
ส่วนใหญ่จะเพิ่มตรงเงินเดือน ค่าใช้จ่าย ผลประโยชน์พนักงานค่ะ
แบบนี้แสดงว่า หากค้าปลีกบ้านเราสามารถจัดการระบบการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอน่าจะได้ประโยชน์มากมายานะคะ ^^"
(ขอบคุณพี่หมอสามัญชนมากค่ะ ที่มาช่วงทัก อันนี้ฝนพลาดเองเหมือนกันค่ะ ค้าปลีกมี EoS เช่นกันถ้ายอดขายเยอะมากๆ )
ตัวอย่าง จากพี่หมอสามัญชน นะคะ
กรณีที่1. ในหนึ่งชั่วโมงมีลูกค้ามาซื้อของราคา 11,500 บาท
หักค่าvariable ในส่วนต้นทุน 10,000 บาท
หักค่า fix 1,000 บาท
กำไร 500 บาท/ชั่วโมง
กรณีที่2. เป็นของอีกหนึ่งบริษัทที่มี fix และ vari เท่าๆกัน
แต่ยอดขายเป็นสามเท่าของบริษัทแรก
คือมีลูกค้ามาซื้อของราคา 34,500 บาท(11,500*3)
หักค่าvariable ในส่วนต้นทุน 30,000 บาท
หักค่า fix 1,000 บาท
กำไร 3, 500 บาท
เพราะfix cost ไม่เพิ่ม
แทนที่จะเป็น 500*3 = 1,500 บาท
ถ้ายอดขายได้มากแบบนี้โดย SG&A ไม่เพิ่มขึ้น
ค้าปลีกก็สามารถมี EoS ได้เช่นกัน เพราะต้นทุนต่อหน่วยลดลงมากมายค่ะ
ในทางปฏิบัติหากยอดขายเพิ่มขึ้นมากๆ
ฝนลองสังเกตุว่ามันจะเพิ่มตรงค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เพิ่มขึ้นมากด้วยค่ะ
พอฝนไปดูตรงหมายเหตุประกอบงบ ตรงค่าใช้จ่ายตามลักษณะ
ส่วนใหญ่จะเพิ่มตรงเงินเดือน ค่าใช้จ่าย ผลประโยชน์พนักงานค่ะ
แบบนี้แสดงว่า หากค้าปลีกบ้านเราสามารถจัดการระบบการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอน่าจะได้ประโยชน์มากมายานะคะ ^^"
(ขอบคุณพี่หมอสามัญชนมากค่ะ ที่มาช่วงทัก อันนี้ฝนพลาดเองเหมือนกันค่ะ ค้าปลีกมี EoS เช่นกันถ้ายอดขายเยอะมากๆ )
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
- Fon^^
- Verified User
- โพสต์: 604
- ผู้ติดตาม: 0
บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^
โพสต์ที่ 310
sutee_p
โดยไม่ได้คิดรวมรายได้หรือค่าใช้จ่ายอื่นค่ะ พวกค่าใช้จ่ายค้างจ่าย แบบนี้ฝนตัดออกนะคะ
ปกติฝนคิดจากงบดุล โดยใช้ Avg.A/R + Avg.Inv - Avg.A/Pขอรบกวนถามคุณหมอฝนนะครับ เกี่ยวกับ สินทรัพย์ดำเนินงานหมุนเวียน
ถ้ารายการในงบดุลมีรายการอื่นๆรวมด้วยในส่วนของสินทรัพย์หมุนเวียน เช่น
- เงินลงทุนชั่วคราว
- เงินให้กู้ยืมระยะสั้นแก่กิจการที่เกี่ยวข้องกัน
- สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น
คุณหมอฝนจะนำมาพิจารณารวมด้วยไหมครับ
หรือจะนำมาพิจารณาเฉพาะ สินค้าคงเหลือ(Inv) และ ลูกหนี้การค้า(A/R)
และ หนี้สินดำเนินงานหมุนเวียน
ถ้ารายการในงบดุลมีรายการอื่นๆรวมด้วยในส่วนของหนี้สินหมุนเวียน เช่น
- เจ้าหนี้การค้า - กิจการอื่น
- หนี้สินหมุนเวียนอื่น
- ภาษีเงินได้นิติบุคคลค้างจ่าย
- เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน
- ค่าใช้จ่ายค้างจ่ายเฉพาะ
- เงินกู้ยืมระยะสั้น - ยาว
หรือจะนำมาพิจารณาเฉพาะ เจ้าหนี้การค้า(A/P)
โดยไม่ได้คิดรวมรายได้หรือค่าใช้จ่ายอื่นค่ะ พวกค่าใช้จ่ายค้างจ่าย แบบนี้ฝนตัดออกนะคะ
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
- Fon^^
- Verified User
- โพสต์: 604
- ผู้ติดตาม: 0
บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^
โพสต์ที่ 311
ขอบคุณพี่ฉัตรชัยมากนะคะ มาช่วยแนะนำจุดอ่อนในการคิด Working Capital
จากแต่ละงบค่ะ
รบกวนถามพี่ฉัตรชัยหน่อยนะคะ
ปกติฝนคิด working capital โดยใช้ค่า Avg.A/R จากงบดุล
โดยที่งบดุลเป็น Accrual Basis
เอามาคิด FCF ซึ่งควรจะเป็น Cash Basis
แบบนี้จะมีผลต่อ FCF รึเปล่าคะ
ปกติพี่ฉัตรชัยคิด working capital ยังไงคะ
ขอบคุณค่ะ
จากแต่ละงบค่ะ
รบกวนถามพี่ฉัตรชัยหน่อยนะคะ
ปกติฝนคิด working capital โดยใช้ค่า Avg.A/R จากงบดุล
โดยที่งบดุลเป็น Accrual Basis
เอามาคิด FCF ซึ่งควรจะเป็น Cash Basis
แบบนี้จะมีผลต่อ FCF รึเปล่าคะ
ปกติพี่ฉัตรชัยคิด working capital ยังไงคะ
ขอบคุณค่ะ
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
- Fon^^
- Verified User
- โพสต์: 604
- ผู้ติดตาม: 0
บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^
โพสต์ที่ 312
dome@perth
สวัสดีค่ะพี่ โดม พี่ unnop.t พี่หมอมุข
ตอนแรกๆฝนเชียร์ เกาหลีใต้ กับ ญี่ปุ่น แต่ว่าตกรอบแบบน่าภาคภูมิใจไปซะละ
ฝนว่า เยอรมัน เป็นแชมป์ค่ะ ชัวร์
ทีมเวิร์คดีมาก เล่นบอลแม่นเหมือนจับวาง อยากได้กี่ลูกดังใจนึกค่ะ
Bias เล็กน้อย :lol:
unnop.t555 เยอรมันสู้ๆครับ พี่ฉัตรชัย
Paul VIทีมผมเชียร์ ร่วงไปหมดแล้ว อังกฤษ บราซิล อาร์เจน
เอ่อ ว่าแต่ว่า คิดว่าใครเป็นแชมป์ครับ บอลโลกคราวนี้
สวัสดีค่ะพี่ โดม พี่ unnop.t พี่หมอมุข
ตอนแรกๆฝนเชียร์ เกาหลีใต้ กับ ญี่ปุ่น แต่ว่าตกรอบแบบน่าภาคภูมิใจไปซะละ
ฝนว่า เยอรมัน เป็นแชมป์ค่ะ ชัวร์
ทีมเวิร์คดีมาก เล่นบอลแม่นเหมือนจับวาง อยากได้กี่ลูกดังใจนึกค่ะ
Bias เล็กน้อย :lol:
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
- VI Wannabe
- Verified User
- โพสต์: 1013
- ผู้ติดตาม: 0
บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^
โพสต์ที่ 313
ผมมาลองคิดต่อดูนะครับ
จริงๆเรื่อง Sales Growth ของ ค้าปลีกกับ EoS นี่ มันขึ้นอยู่กับ ว่าเราพูด ถึง Same Store Sales (SSS) หรือ Total Sales หรือเปล่าครับ ?
ถ้าบอกว่า ยอดขายเพิ่มขึ้น แต่ SSS ไม่ เพิ่ม อย่างนี้ยอดขายที่เพิ่มน่าจะเกิดจากการเพิ่มสาขาซึ่งแปลว่า ไม่เกิด EoS
แต่ถ้า SSS เพิ่ม ส่งผลให้ TSS เพิ่ม อย่างนี้น่าจะเกิด EoS หรือเปล่าครับ
จริงๆเหมือนดูแค่ SSS ก็บอกได้ว่า EoS กำลังดีขึ้นหรือแย่ลงเลยหรือเปล่าครับเนี่ย ?
จริงๆเรื่อง Sales Growth ของ ค้าปลีกกับ EoS นี่ มันขึ้นอยู่กับ ว่าเราพูด ถึง Same Store Sales (SSS) หรือ Total Sales หรือเปล่าครับ ?
ถ้าบอกว่า ยอดขายเพิ่มขึ้น แต่ SSS ไม่ เพิ่ม อย่างนี้ยอดขายที่เพิ่มน่าจะเกิดจากการเพิ่มสาขาซึ่งแปลว่า ไม่เกิด EoS
แต่ถ้า SSS เพิ่ม ส่งผลให้ TSS เพิ่ม อย่างนี้น่าจะเกิด EoS หรือเปล่าครับ
จริงๆเหมือนดูแค่ SSS ก็บอกได้ว่า EoS กำลังดีขึ้นหรือแย่ลงเลยหรือเปล่าครับเนี่ย ?
"Attempt to be fearful when others are greedy and to be greedy only when others are fearful"
"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
-
- Verified User
- โพสต์: 241
- ผู้ติดตาม: 0
บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^
โพสต์ที่ 316
ขอบคุณพี่ฉัตรมากเลยครับ ก่อนพี่ฉัตรมาบอก ผมใช้ลูกหนี้การค้าสุทธิมาตลอดเลย จะได้ไปแก้ไขใหม่ ผมว่าก็เหมาะสมกว่าจริงๆเพราะว่าเวลาเก็บเงินก็ต้องไปเก็บกับลูกหนี้ทั้งหมด
"สุขใดยิ่งกว่าความสงบใจไม่มี"
- BABY TERMITE
- Verified User
- โพสต์: 368
- ผู้ติดตาม: 0
บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^
โพสต์ที่ 317
[quote="ดำ"][quote="Fon^^"]ฝนว่า เยอรมัน เป็นแชมป์ค่ะ ชัวร์
ทีมเวิร์คดีมาก
ทีมเวิร์คดีมาก
ปลวกน้อยคอยวันเติบใหญ่
- Fon^^
- Verified User
- โพสต์: 604
- ผู้ติดตาม: 0
บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^
โพสต์ที่ 320
พี่นพพรอย่าเพิ่งไปใหนนะคะ เดี๋ยวจะไม่มีคนตามอ่านกระทู้ค่ะ แฮ่ๆ ^^"
ฝนขอเล่าไร้สาระเล็กน้อย วัฏจักรหุ้นก็เหมือนโรคมะเร็งทางการแพทย์นะคะ
Stage 1 การเริ่มต้น
ก้าวแรกที่ฝนเริ่มตัดสินใจลงทุน ตอนนั้นผ่านมาก็ 5-6 ปี
ฝนอ่านหนังสือจับฉ่ายมาก ไม่รู้ว่าต้องรู้อะไรบ้าง อ่านเท่าที่ความสามารถจะพอมีค่ะ
นอกจากหนังสือ ฝนอ่านกระทู้พี่วิบูลย์ ตะแกรงร่อนหุ้น อ่าน 2 รอบ พร้อมหนังสือการเงินและบัญชี เรียนรู้ไปด้วยค่ะ
( ถ้าอ่านอีก 1 รอบครบ 3 รอบจบคบไม่ได้ :lol: )
กระทู้การวิเคราะห์หุ้นทางปฏิบัติ ฝนเรียนรู้จากห้อง wg ขอบคุณพี่ฉัตรชัยมากมายค่ะ ที่ช่วยแนะนำการวิเคราะห์หุ้นอย่างละเอียดเอาใว้
ระยะแรกฝนหวัง 20% ต่อปี โห ยากนะเนี่ยแบบเราจะทำได้รึเปล่านะ
Stage 2 ระยะเติบโต
ช่วงนี้ฝนเริ่มสามารถตกผลึกความรู้ได้พอสมควร
สามารถประยุกต์ใช้กับการวิเคราะห์หุ้นในทางปฏิบัติมากขึ้นค่ะ เช่น Economies of Scale (ใช้ภาษาถูกกับเค้าซักที ขอบคุณพี่ๆที่แนะนำนะคะ ^^ ) , CVP analysis เป็นต้น
ระยะนี้ฝนหวังผลตอบแทนมากขึ้นเป็น 30% ต่อปี
Stage 3 ระยะลุกลาม
พอฝนเริ่มลงทุนซักระยะ 3-4 ปี ก็เริ่มได้ผลตอบแทนดีขึ้น
ช่วงนี้ความโลภเข้าสิง หาหุ้น อ่านรายงานประจำปี เอากันให้ตายกันไปข้างนึง :twisted:
จนลืมเป้ามายสำคัญ คือ เวลา
ฝนมาลงทุนในหุ้นเพราะต้องการสมดุลชีวิต ระหว่าง เวลา และ ความมั่งคั่ง ค่ะ
ระยะลุกลามนี้ เครียดกับการลงทุนมาก ทำยังไงฝนถึงจะได้ 40-50% ตลอดไปนะ
End Stage ระยะสุดท้าย
ทางการแพทย์บอกว่าหมดทางเยียวยาแล้ว ไปเขียนพินัยบุญเถอะ ^^"
พอฝนเริ่มเห็นบริษัท ตลาด นักลงทุน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และ ดับไป เป็นระลอกๆ
เริ่มเห็นว่าการลงทุนให้ตัวเองรอดในระยะยาวยากมาก
ถ้าใช้ความโลภและผลตอบแทนเป็นที่ตั้ง ฝนเกรงว่าด้วยความสามารถระดับฝน กลัวจะอยู่ไม่ยาวค่ะ
ระยะนี้ฝนผลตอบแทนคาดหวังระยะยาว 25% ต่อปี และ ความเสี่ยงในการสะดุดขาตัวเองน้อยๆค่ะ
ตอนนี้ฝนสามารถตอบได้ว่า ถ้านับนักลงทุนที่มีความสุข
ฝนคือคนหนึ่งที่มีความสุข ในการลงทุนเสมอค่ะ
พี่นพพรมีอะไรแลกเปลี่ยนได้เลยนะคะ
ถ้าฝนตอบเองไม่ได้ ซึ่งส่วนมากก็จะตอบไม่ได้ค่ะ :oops:
ก็ช่วยๆกันหาคำตอบค่ะ พี่เก่งๆใจดีๆ ใน tvi มีเยอะค่ะ ^^
สู้ๆ
ฝนขอเล่าไร้สาระเล็กน้อย วัฏจักรหุ้นก็เหมือนโรคมะเร็งทางการแพทย์นะคะ
Stage 1 การเริ่มต้น
ก้าวแรกที่ฝนเริ่มตัดสินใจลงทุน ตอนนั้นผ่านมาก็ 5-6 ปี
ฝนอ่านหนังสือจับฉ่ายมาก ไม่รู้ว่าต้องรู้อะไรบ้าง อ่านเท่าที่ความสามารถจะพอมีค่ะ
นอกจากหนังสือ ฝนอ่านกระทู้พี่วิบูลย์ ตะแกรงร่อนหุ้น อ่าน 2 รอบ พร้อมหนังสือการเงินและบัญชี เรียนรู้ไปด้วยค่ะ
( ถ้าอ่านอีก 1 รอบครบ 3 รอบจบคบไม่ได้ :lol: )
กระทู้การวิเคราะห์หุ้นทางปฏิบัติ ฝนเรียนรู้จากห้อง wg ขอบคุณพี่ฉัตรชัยมากมายค่ะ ที่ช่วยแนะนำการวิเคราะห์หุ้นอย่างละเอียดเอาใว้
ระยะแรกฝนหวัง 20% ต่อปี โห ยากนะเนี่ยแบบเราจะทำได้รึเปล่านะ
Stage 2 ระยะเติบโต
ช่วงนี้ฝนเริ่มสามารถตกผลึกความรู้ได้พอสมควร
สามารถประยุกต์ใช้กับการวิเคราะห์หุ้นในทางปฏิบัติมากขึ้นค่ะ เช่น Economies of Scale (ใช้ภาษาถูกกับเค้าซักที ขอบคุณพี่ๆที่แนะนำนะคะ ^^ ) , CVP analysis เป็นต้น
ระยะนี้ฝนหวังผลตอบแทนมากขึ้นเป็น 30% ต่อปี
Stage 3 ระยะลุกลาม
พอฝนเริ่มลงทุนซักระยะ 3-4 ปี ก็เริ่มได้ผลตอบแทนดีขึ้น
ช่วงนี้ความโลภเข้าสิง หาหุ้น อ่านรายงานประจำปี เอากันให้ตายกันไปข้างนึง :twisted:
จนลืมเป้ามายสำคัญ คือ เวลา
ฝนมาลงทุนในหุ้นเพราะต้องการสมดุลชีวิต ระหว่าง เวลา และ ความมั่งคั่ง ค่ะ
ระยะลุกลามนี้ เครียดกับการลงทุนมาก ทำยังไงฝนถึงจะได้ 40-50% ตลอดไปนะ
End Stage ระยะสุดท้าย
ทางการแพทย์บอกว่าหมดทางเยียวยาแล้ว ไปเขียนพินัยบุญเถอะ ^^"
พอฝนเริ่มเห็นบริษัท ตลาด นักลงทุน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และ ดับไป เป็นระลอกๆ
เริ่มเห็นว่าการลงทุนให้ตัวเองรอดในระยะยาวยากมาก
ถ้าใช้ความโลภและผลตอบแทนเป็นที่ตั้ง ฝนเกรงว่าด้วยความสามารถระดับฝน กลัวจะอยู่ไม่ยาวค่ะ
ระยะนี้ฝนผลตอบแทนคาดหวังระยะยาว 25% ต่อปี และ ความเสี่ยงในการสะดุดขาตัวเองน้อยๆค่ะ
ตอนนี้ฝนสามารถตอบได้ว่า ถ้านับนักลงทุนที่มีความสุข
ฝนคือคนหนึ่งที่มีความสุข ในการลงทุนเสมอค่ะ
พี่นพพรมีอะไรแลกเปลี่ยนได้เลยนะคะ
ถ้าฝนตอบเองไม่ได้ ซึ่งส่วนมากก็จะตอบไม่ได้ค่ะ :oops:
ก็ช่วยๆกันหาคำตอบค่ะ พี่เก่งๆใจดีๆ ใน tvi มีเยอะค่ะ ^^
สู้ๆ
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
- Fon^^
- Verified User
- โพสต์: 604
- ผู้ติดตาม: 0
บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^
โพสต์ที่ 321
นอกเรื่องอีกนิด ไม่มีใครตามไม่ทันหรอกค่ะ
ขนาดบราซิลยังโดนตามทันแพ้ 2:1 เลยค่ะ ฮ่าๆ เกมส์ต่อไปเลยหมดสนุกเลย ^^"
พี่ดำ พี่หมีเชียร์ทีมใหนคะ ทีมที่ฝนเชียร์ตกรอบหมดละ
ตา Mueller เยอรมันเก่งมาก หลังจากยิงเข้า ดูหน้าตาดีขึ้นเยอะเลย :B
ฝนเชียร์ตา Mueller นี้แหละ งุงิๆ
ขนาดบราซิลยังโดนตามทันแพ้ 2:1 เลยค่ะ ฮ่าๆ เกมส์ต่อไปเลยหมดสนุกเลย ^^"
พี่ดำ พี่หมีเชียร์ทีมใหนคะ ทีมที่ฝนเชียร์ตกรอบหมดละ
ตา Mueller เยอรมันเก่งมาก หลังจากยิงเข้า ดูหน้าตาดีขึ้นเยอะเลย :B
ฝนเชียร์ตา Mueller นี้แหละ งุงิๆ
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^
โพสต์ที่ 322
[quote="Fon^^"]นอกเรื่องอีกนิด ไม่มีใครตามไม่ทันหรอกค่ะ
ขนาดบราซิลยังโดนตามทันแพ้ 2:1 เลยค่ะ ฮ่าๆ เกมส์ต่อไปเลยหมดสนุกเลย ^^"
พี่ดำ พี่หมีเชียร์ทีมใหนคะ ทีมที่ฝนเชียร์ตกรอบหมดละ
ตา Mueller เยอรมันเก่งมาก หลังจากยิงเข้า ดูหน้าตาดีขึ้นเยอะเลย
ขนาดบราซิลยังโดนตามทันแพ้ 2:1 เลยค่ะ ฮ่าๆ เกมส์ต่อไปเลยหมดสนุกเลย ^^"
พี่ดำ พี่หมีเชียร์ทีมใหนคะ ทีมที่ฝนเชียร์ตกรอบหมดละ
ตา Mueller เยอรมันเก่งมาก หลังจากยิงเข้า ดูหน้าตาดีขึ้นเยอะเลย
ไม่สน return rate เยอะ, ขอแค่ financial freedom ภายใน 14 ปีก็พอ..
------------------------
------------------------
- SunShine@Night
- Verified User
- โพสต์: 2196
- ผู้ติดตาม: 0
บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^
โพสต์ที่ 323
[quote="mprandy"][quote="Fon^^"]นอกเรื่องอีกนิด ไม่มีใครตามไม่ทันหรอกค่ะ
ขนาดบราซิลยังโดนตามทันแพ้ 2:1 เลยค่ะ ฮ่าๆ เกมส์ต่อไปเลยหมดสนุกเลย ^^"
พี่ดำ พี่หมีเชียร์ทีมใหนคะ ทีมที่ฝนเชียร์ตกรอบหมดละ
ตา Mueller เยอรมันเก่งมาก หลังจากยิงเข้า ดูหน้าตาดีขึ้นเยอะเลย
ขนาดบราซิลยังโดนตามทันแพ้ 2:1 เลยค่ะ ฮ่าๆ เกมส์ต่อไปเลยหมดสนุกเลย ^^"
พี่ดำ พี่หมีเชียร์ทีมใหนคะ ทีมที่ฝนเชียร์ตกรอบหมดละ
ตา Mueller เยอรมันเก่งมาก หลังจากยิงเข้า ดูหน้าตาดีขึ้นเยอะเลย
VI ฝึกหัด สำนักปีเตอร์ ลินช์
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
-
- Verified User
- โพสต์: 1598
- ผู้ติดตาม: 0
บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^
โพสต์ที่ 324
เรื่อง EOS ลองไปดูงบของ snc ยุดแรกๆน่าจะเห็นภาพมากขึ้นนะครับ
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10538
- ผู้ติดตาม: 0
บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^
โพสต์ที่ 325
ผมว่านักลงทุนใหม่ ๆ มี bias สูง ... ชอบมองโลกในแง่ดี มองแต่โอกาสกำไร ซื้อหุ้นไหนมองหุ้นนั้นดีไปหมด ข่าวบ้าน ๆ ก็มองเปนดี ข่าวร้ายก็มองแบบไม่ร้าย แถมบางทีมองกลับเปนดีไปซะอีก
เห็นด้วยกับ หมอด้า เดี๋ยวนี้เห็นหลายคนเข้ามาลงทุนหุ้น ปึ้บปั้บ ก็จะตั้งเป้าหมายเอา 1000 ล้านก็มี
คือการตั้งเป้าหมายเป็นเรื่องที่ดี แต่เป้าหมายนั้นต้องเป็นไปได้ และก็ต้องไม่ย้อนมาทำลายตัวเอง
บางครั้งเป้าหมายที่วางสูงมาก ตั้งกันปีละเป็น 100 % ก็มี ก็กลายเป็นต้องเล่นหุ้นแบบกล้าเสี่ยงมาก เล่นหุ้นแบบเซียนบอก เล่น margin อัดกันสูงๆ (ไม่ได้บอกว่าคนใช้มาร์จิ้น จะต้องมีปัญหาทุกรายนะครับ ที่ใช้แล้ว พอเหมาะพอควรแล้วได้ผลตอบแทนดีก็มีเยอะ)
สุดท้าย ตลาดหุ้นไม่เคยปราณีใคร เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน จะกระอักเป็นโลหิตตาย แล้วก็เข็ดตลาดหุ้นไปอีกนาน
- BABY TERMITE
- Verified User
- โพสต์: 368
- ผู้ติดตาม: 0
บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^
โพสต์ที่ 326
[quote="Fon^^"]นอกเรื่องอีกนิด ไม่มีใครตามไม่ทันหรอกค่ะ
ขนาดบราซิลยังโดนตามทันแพ้ 2:1 เลยค่ะ ฮ่าๆ เกมส์ต่อไปเลยหมดสนุกเลย ^^"
พี่ดำ พี่หมีเชียร์ทีมใหนคะ ทีมที่ฝนเชียร์ตกรอบหมดละ
ตา Mueller เยอรมันเก่งมาก หลังจากยิงเข้า ดูหน้าตาดีขึ้นเยอะเลย
ขนาดบราซิลยังโดนตามทันแพ้ 2:1 เลยค่ะ ฮ่าๆ เกมส์ต่อไปเลยหมดสนุกเลย ^^"
พี่ดำ พี่หมีเชียร์ทีมใหนคะ ทีมที่ฝนเชียร์ตกรอบหมดละ
ตา Mueller เยอรมันเก่งมาก หลังจากยิงเข้า ดูหน้าตาดีขึ้นเยอะเลย
ปลวกน้อยคอยวันเติบใหญ่
- nanoVI
- Verified User
- โพสต์: 487
- ผู้ติดตาม: 0
บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^
โพสต์ที่ 327
:shock: สงสัยว่าปลาหมึกพอลอยากเป็น "ซาซิมิ" เลือกข้างสเปนซะงั้น
http://www.pantip.com/cafe/supachalasai ... 43164.html
http://www.pantip.com/cafe/supachalasai ... 43164.html
-
- Verified User
- โพสต์: 241
- ผู้ติดตาม: 0
บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^
โพสต์ที่ 328
จริงๆครับตลาดหุ้นไม่ปราณีใครไม่ว่าหน้าไหน
ช่วงนี้เป็นกันหรือเปล่าครับ มีแต่คนอยากเข้าตลาดหุ้น แค่คนรอบตัวผมก็เกือบสิบคนแล้วครับ :shock:
ช่วงนี้เป็นกันหรือเปล่าครับ มีแต่คนอยากเข้าตลาดหุ้น แค่คนรอบตัวผมก็เกือบสิบคนแล้วครับ :shock:
"สุขใดยิ่งกว่าความสงบใจไม่มี"
- กล้วยไม้ขาว
- Verified User
- โพสต์: 1074
- ผู้ติดตาม: 0
บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^
โพสต์ที่ 329
เขียนละเอียดสมเป็นหมอจริงๆ เคยต้องลงเรียนวิชาเดียวกับหมอๆ
ได้อ่านแล็กเชอร์หมอทีเดียวก่อนสอบ อ่านง่ายมาก เลยสอบผ่านสบายๆ
ยังติดใจจนทุกวันนี้
นี่มีหมอสาวๆ มาแล็กเชอร์หุ้นให้อ่าน จะำพลาดได้ไงเนี่ย ว่าจะอ่านจริงจังอีกสักรอบหลังจากที่อ่านเก็บข้อมูลมารอบนึง
ขอเอาโำพสต์นี้ทำที่คั่นกระทู้ส่วนตัวนะครับ
ขอบคุณคุณหมอฝนที่สละเวลามาให้ความรู้ครับ ตอนนี้เป็นสาวป๊อปปูล่าสุดในเว็บไปแล้วครับ เนื่องจากความหน้าตาดี เก่ง และยังมีน้ำใจอีก
ได้อ่านแล็กเชอร์หมอทีเดียวก่อนสอบ อ่านง่ายมาก เลยสอบผ่านสบายๆ
ยังติดใจจนทุกวันนี้
นี่มีหมอสาวๆ มาแล็กเชอร์หุ้นให้อ่าน จะำพลาดได้ไงเนี่ย ว่าจะอ่านจริงจังอีกสักรอบหลังจากที่อ่านเก็บข้อมูลมารอบนึง
ขอเอาโำพสต์นี้ทำที่คั่นกระทู้ส่วนตัวนะครับ
ขอบคุณคุณหมอฝนที่สละเวลามาให้ความรู้ครับ ตอนนี้เป็นสาวป๊อปปูล่าสุดในเว็บไปแล้วครับ เนื่องจากความหน้าตาดี เก่ง และยังมีน้ำใจอีก