ผมแปลกใจทำไม เจ้าสัว cp ถึงบอกว่า 2สูง จะช่วยชาติครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 535
- ผู้ติดตาม: 0
ผมแปลกใจทำไม เจ้าสัว cp ถึงบอกว่า 2สูง จะช่วยชาติครับ
โพสต์ที่ 1
ตอนนี้เจ้าสัว ออกมาอีกแล้ว บอกว่า นโยบาย 2สูงจะทำให้ ชาติไทยเจริญ ผมละ งง จริงๆ
ทำไม ประเทศ จีน ที่ตอนนี้ โตมากสุดๆ ทำไมยังใช้ นโยบาย 2 ต่ำครับ ไม่เห็นใช้ นโยบาย 2 สูงเลย
เท่าที่อ่านข่าวมา ไม่นานนี้ ทางการจีนก็ กำลัง จะควบคุมราคา อาหาร ไม่ให้ สูงเกินไป
แล้วยัง ใช้ นโยบาย หยวนต่ำอีก
ถ้า ประเทศไทยใช้ นโยบาย 2 สูงแบบ เจ้าสัว cp ว่า ผมว่า ประเทศไทย มีหวัง ตกต่ำกว่านี้แน่
ลองคิดดู ครับ ถ้า ราคา สินค้าในไทยสูงขึ้น คนไทย จนจำนวนมากจะอยู่ได้อย่างไรครับ
ถ้าจะบอกว่าให้ขึ้นเงินเดือนขั้นต่ำเป็น 15000 บาท
ผมว่าโรงงาน คงเลิกกิจการกันหมดครับ
แล้วเงินเฟ้อจะเป็นเท่าไหร่ครับ
ผมว่า เจ้าสัว มีวาระ ซ่อนเร้น ครับ
ทำไม ประเทศ จีน ที่ตอนนี้ โตมากสุดๆ ทำไมยังใช้ นโยบาย 2 ต่ำครับ ไม่เห็นใช้ นโยบาย 2 สูงเลย
เท่าที่อ่านข่าวมา ไม่นานนี้ ทางการจีนก็ กำลัง จะควบคุมราคา อาหาร ไม่ให้ สูงเกินไป
แล้วยัง ใช้ นโยบาย หยวนต่ำอีก
ถ้า ประเทศไทยใช้ นโยบาย 2 สูงแบบ เจ้าสัว cp ว่า ผมว่า ประเทศไทย มีหวัง ตกต่ำกว่านี้แน่
ลองคิดดู ครับ ถ้า ราคา สินค้าในไทยสูงขึ้น คนไทย จนจำนวนมากจะอยู่ได้อย่างไรครับ
ถ้าจะบอกว่าให้ขึ้นเงินเดือนขั้นต่ำเป็น 15000 บาท
ผมว่าโรงงาน คงเลิกกิจการกันหมดครับ
แล้วเงินเฟ้อจะเป็นเท่าไหร่ครับ
ผมว่า เจ้าสัว มีวาระ ซ่อนเร้น ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 535
- ผู้ติดตาม: 0
ผมแปลกใจทำไม เจ้าสัว cp ถึงบอกว่า 2สูง จะช่วยชาติครับ
โพสต์ที่ 2
ลืมไป การที่จะทำให้ ค่าครองชีพสูงขึ้น เงินเดือนสูงขึ้นหมายความว่า ประเทศเรา ต้อง ผลิตสินค้า ที่ มีกำไร ต่อหน่วยสูงขึ้น หรือยกระดับ การพัฒนา แล้วค่าแรง ก็จะสูงขึ้นไปเอง แต่การที่เราจะ ไปกำหนดเอาเองผมว่า มีแต่จะทำให้แย่ลง ครับ
อย่างตอนนี้ ค่าแรง ก็เพิ่ม ตามการพัฒนาอยู้แล้ว
อย่างเมื่อ 10 ปีก่อน ค่าแรงก็ต่ำกว่านี้ ตอนนี้ก็มีการปรับให้สูงขึ้นมาเรื่อยๆ ต่อไปอีกไม่กี่ ปี เงินเดือนขั้นต่ำก็ต้อง เป็น 15000 บาท อยู่ดี แล้ว ข้าวแกงก็คงเป็น จานละ 80 บาท
ถึงจุดนั้นประเทศไทยถ้า สามารถ ก้าวเดินไป เป็นประเทศ ที่ออกแบบสินค้า ทุกอย่างก็จะดีขึ้นไปเอง
อย่างตอนนี้ ค่าแรง ก็เพิ่ม ตามการพัฒนาอยู้แล้ว
อย่างเมื่อ 10 ปีก่อน ค่าแรงก็ต่ำกว่านี้ ตอนนี้ก็มีการปรับให้สูงขึ้นมาเรื่อยๆ ต่อไปอีกไม่กี่ ปี เงินเดือนขั้นต่ำก็ต้อง เป็น 15000 บาท อยู่ดี แล้ว ข้าวแกงก็คงเป็น จานละ 80 บาท
ถึงจุดนั้นประเทศไทยถ้า สามารถ ก้าวเดินไป เป็นประเทศ ที่ออกแบบสินค้า ทุกอย่างก็จะดีขึ้นไปเอง
-
- Verified User
- โพสต์: 48
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ผมแปลกใจทำไม เจ้าสัว cp ถึงบอกว่า 2สูง จะช่วยชาติครับ
โพสต์ที่ 3
[quote="matee"]ตอนนี้เจ้าสัว ออกมาอีกแล้ว บอกว่า นโยบาย
- ซุนเซ็ก
- Verified User
- โพสต์: 1104
- ผู้ติดตาม: 0
ผมแปลกใจทำไม เจ้าสัว cp ถึงบอกว่า 2สูง จะช่วยชาติครับ
โพสต์ที่ 4
2 สูง
เงินเดือนสูง - ฟังเหมือนดี แต่ไม่นานเงินเฟ้อตามทัน คงได้ก๋วยเตี๋ยวชามละ 80 :lol:
อาหารสูง - ใครรวย? ผู้ผลิตอาหารเบอร์หนึ่งของประเทศ?
ด้วยความผมอ่อนคุณวุฒิ ท่านผู้รู้โปรดแนะนำว่ามันจะดีได้อย่างไร
นโยบายนี้ เท่าที่ผมคิดออกก็มีเท่านั้น
เงินเดือนสูง - ฟังเหมือนดี แต่ไม่นานเงินเฟ้อตามทัน คงได้ก๋วยเตี๋ยวชามละ 80 :lol:
อาหารสูง - ใครรวย? ผู้ผลิตอาหารเบอร์หนึ่งของประเทศ?
ด้วยความผมอ่อนคุณวุฒิ ท่านผู้รู้โปรดแนะนำว่ามันจะดีได้อย่างไร
นโยบายนี้ เท่าที่ผมคิดออกก็มีเท่านั้น
ผมไม่ได้อยู่ในเว็บนี้แล้ว, มีอะไรติดต่อได้ทาง FB - 27/9/2555
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
-
- Verified User
- โพสต์: 430
- ผู้ติดตาม: 0
ผมแปลกใจทำไม เจ้าสัว cp ถึงบอกว่า 2สูง จะช่วยชาติครับ
โพสต์ที่ 5
แต่เจ้าสัวทำจริงนะ
จำได้ ตอนที่เจ้าสัว ออกมาเสนอแนวคิดนี้
1.พนักงานเครือ cp ทุกคนได้ปรับเงินเดือนกันถ้วนหน้า(แต่น้อยไปหน่อย) :lol:
2.ร้านFresh mart สินค้ารู้สึกจะแพง ๆ (แต่เขาClaimว่าผลิตมาแบบเน้น ๆคุณภาพ)
อย่างฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ครับ ที่ใช้ 2 สูง แบบที่เจ้าสัวอยากให้เป็น
แต่พื้นฐานของประเทศไทย จะเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร
จำได้ ตอนที่เจ้าสัว ออกมาเสนอแนวคิดนี้
1.พนักงานเครือ cp ทุกคนได้ปรับเงินเดือนกันถ้วนหน้า(แต่น้อยไปหน่อย) :lol:
2.ร้านFresh mart สินค้ารู้สึกจะแพง ๆ (แต่เขาClaimว่าผลิตมาแบบเน้น ๆคุณภาพ)
อย่างฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ครับ ที่ใช้ 2 สูง แบบที่เจ้าสัวอยากให้เป็น
แต่พื้นฐานของประเทศไทย จะเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร
- leaderinshadow
- Verified User
- โพสต์: 1765
- ผู้ติดตาม: 0
ผมแปลกใจทำไม เจ้าสัว cp ถึงบอกว่า 2สูง จะช่วยชาติครับ
โพสต์ที่ 6
2 สูง
คือ 2 วิธี ที่ทำให้ธุรกิจ(CP) มีรายได้และกำไรสูงขึ้นคับ
ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น ก็จะได้มีเงินไปซื้อปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ อาหารสัตว์
จาก CP มากขึ้น (รวมทั้งรายได้จากฟาร์มCP ก็มากขึ้น)
พอธุรกิจ(CP) มีรายได้และกำไรสูงขึ้น เจ้าของก็จะรวยขึ้นและจ่ายภาษีมากขึ้น
ทีนี้ รัฐก็จะรวยขึ้น ก็ควรจ่ายเงินเดือนข้าราชการมากขึ้น เพื่อที่ข้าราชการจะได้บริโภค(สินค้า CP ซื้อของใน 7-11) มากขึ้น
เศรษฐกิจประเทศก็จะดีขึ้นเพราะธุรกิจมีรายได้มากขึ้น โดยเฉพาะ CP
แต่เจ้าสัวไม่เน้นให้ลูกจ้างเอกชนมีรายได้มากขึ้นนะครับ
เพราะถ้าเอกชนต้องจ้างพนักงานแพง ธุรกิจ(CP) ก็จะมีรายจ่ายสูงขึ้น
ดังนั้นกำไร ก็จะลดลง
ด้วยเหตุฉะนี้ ต้อง 2 สูงครับ 3 สูงเมื่อไหร่(เงินเดือนภาคเอกชนสูง) เดี่ยวกำไรลด
อิๆๆ
คือ 2 วิธี ที่ทำให้ธุรกิจ(CP) มีรายได้และกำไรสูงขึ้นคับ
ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น ก็จะได้มีเงินไปซื้อปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ อาหารสัตว์
จาก CP มากขึ้น (รวมทั้งรายได้จากฟาร์มCP ก็มากขึ้น)
พอธุรกิจ(CP) มีรายได้และกำไรสูงขึ้น เจ้าของก็จะรวยขึ้นและจ่ายภาษีมากขึ้น
ทีนี้ รัฐก็จะรวยขึ้น ก็ควรจ่ายเงินเดือนข้าราชการมากขึ้น เพื่อที่ข้าราชการจะได้บริโภค(สินค้า CP ซื้อของใน 7-11) มากขึ้น
เศรษฐกิจประเทศก็จะดีขึ้นเพราะธุรกิจมีรายได้มากขึ้น โดยเฉพาะ CP
แต่เจ้าสัวไม่เน้นให้ลูกจ้างเอกชนมีรายได้มากขึ้นนะครับ
เพราะถ้าเอกชนต้องจ้างพนักงานแพง ธุรกิจ(CP) ก็จะมีรายจ่ายสูงขึ้น
ดังนั้นกำไร ก็จะลดลง
ด้วยเหตุฉะนี้ ต้อง 2 สูงครับ 3 สูงเมื่อไหร่(เงินเดือนภาคเอกชนสูง) เดี่ยวกำไรลด
อิๆๆ
- pornchai_w
- Verified User
- โพสต์: 244
- ผู้ติดตาม: 0
ผมแปลกใจทำไม เจ้าสัว cp ถึงบอกว่า 2สูง จะช่วยชาติครับ
โพสต์ที่ 9
ในส่วนของเกษตรกรนั้น ไม่จำเป็นต้องราคาสินค้าสูงขึ้นหรอกครับ
แค่เพียงตัดวงจรผู้ค้าคนกลางออก ให้เกษตรกรขายสินค้าได้ราคาเหมาะสม
ปัจจุบัน เกษตรกรขาย 2 บาท ผ่านพ่อค้าคนกลาง 2-5 คน ราคาผู้บริโภค 10 บาท
ที่เหมาะสม เกษตรขาย 7 บาท ผ่านกลุ่มของเกษตรกร ราคาผู้บริโภค 10 บาท
หากทำได้ลักษณะนี้ก็จะเหมือนกับที่ญี่ปุ่นที่ชาวนาชาวสวน เป็นชนชั้นกลางถึงมีฐานะดี มีการรวมกลุ่มและวางแผนการผลิตอย่างเหมาะสม ทำให้มีอำนาจในการกำหนดราคาสินค้าได้
ในส่วนของเกษตรกรได้รายได้มากขึ้น
ในส่วนของประชาชนก็จ่ายเงินเท่าเดิม
ส่วนที่เสียประโยชน์ก็เป็นพ่อค้าคนกลาง ที่กินหัวคิว เป็นทอดๆ
ส่วนบริษัทที่นำสินค้ามาเพิ่มมูลค่าก็อาจจะบวกส่วนต่างได้บ้างอย่างเหมาะสม :mrgreen:
แค่เพียงตัดวงจรผู้ค้าคนกลางออก ให้เกษตรกรขายสินค้าได้ราคาเหมาะสม
ปัจจุบัน เกษตรกรขาย 2 บาท ผ่านพ่อค้าคนกลาง 2-5 คน ราคาผู้บริโภค 10 บาท
ที่เหมาะสม เกษตรขาย 7 บาท ผ่านกลุ่มของเกษตรกร ราคาผู้บริโภค 10 บาท
หากทำได้ลักษณะนี้ก็จะเหมือนกับที่ญี่ปุ่นที่ชาวนาชาวสวน เป็นชนชั้นกลางถึงมีฐานะดี มีการรวมกลุ่มและวางแผนการผลิตอย่างเหมาะสม ทำให้มีอำนาจในการกำหนดราคาสินค้าได้
ในส่วนของเกษตรกรได้รายได้มากขึ้น
ในส่วนของประชาชนก็จ่ายเงินเท่าเดิม
ส่วนที่เสียประโยชน์ก็เป็นพ่อค้าคนกลาง ที่กินหัวคิว เป็นทอดๆ
ส่วนบริษัทที่นำสินค้ามาเพิ่มมูลค่าก็อาจจะบวกส่วนต่างได้บ้างอย่างเหมาะสม :mrgreen:
Blog ของคนใช้เงินเก่ง ^_^
http://pefinance.wordpress.com/about/
http://pefinance.wordpress.com/about/
- gradius173
- Verified User
- โพสต์: 198
- ผู้ติดตาม: 0
ผมแปลกใจทำไม เจ้าสัว cp ถึงบอกว่า 2สูง จะช่วยชาติครับ
โพสต์ที่ 10
มันไม่สามารถเป็นจริงได้อยู่แล้วเรื่อง2สูง
หากเป็นพวกประเทศอุตสาหกรรมไฮเทค หรือการบริการระดับสูง
ก็พอเป็นไปได้
แต่เรามันเป็นประเทศที่ต่ำหมด ไม่ว่าเทคโนโลยีการผลิต การบริการ(อาจมีดีพวกสปา โรงแรม โรงพยาบาลที่ไปวัดไปวาได้ แต่การเงิน ออกแบบ ที่ปรึกษา ยังไม่สามารถแข่งขันได้)
รวมถึงภาคการเกษตรที่เราถือว่ามีดี แต่ที่ดูเหมือนดีก็แค่โฆษณาชวนเชื่อ
แต่แท้จริงยังเป็นการเกษตรที่เทคโนโลยีต่ำ ผลผลิตต่อไร่น้อย พึ่งพาดินฟ้าอากาศเป็นหลัก
หากใช้สองสูงคงไม่ได้ไปแข่งกับใคร นอนตายได้เลย
ก่อนจะใช้สองสูงผมว่าต้องเปลี่ยนโมเดลประเทศใหม่ก่อน
เราต้องผลิตสินค้าที่มีbarrierสูง ลอกเลียนแบบได้ยาก
ไม่ใช่สินค้าเกษตร และเกษตรแปรรูปธรรมดาๆแน่นอน
เพราะสินค้าเกษตรเป็นอะไรที่หาแทนได้ง่าย ไม่มีข้าวก็กินขนมปังได้
ไม่มีไก่ก็กินหมูได้ และที่สำคัญเก็บรักษานานไม่ได้(รอราคาแพงค่อยปล่อยก็ไม่ได้)
เรื่องพ่อค้าคนกลางผมยังคิดว่าจำเป็น แต่ปัญหาอยู่ที่เกษตรกรมากกว่า
ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง อาจเป็นเพราะการขาดความรู้ที่จะใช้ปรับตัว หรือภาระหนี้สินที่มี หรืออ่อนด้านการตลาด
อันนี้ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องเข้ามาแก้ไข ด้วยความจริงใจและทุ่มเท
ติดตามประเมินผลอย่างใกล้ชิด
หากเป็นพวกประเทศอุตสาหกรรมไฮเทค หรือการบริการระดับสูง
ก็พอเป็นไปได้
แต่เรามันเป็นประเทศที่ต่ำหมด ไม่ว่าเทคโนโลยีการผลิต การบริการ(อาจมีดีพวกสปา โรงแรม โรงพยาบาลที่ไปวัดไปวาได้ แต่การเงิน ออกแบบ ที่ปรึกษา ยังไม่สามารถแข่งขันได้)
รวมถึงภาคการเกษตรที่เราถือว่ามีดี แต่ที่ดูเหมือนดีก็แค่โฆษณาชวนเชื่อ
แต่แท้จริงยังเป็นการเกษตรที่เทคโนโลยีต่ำ ผลผลิตต่อไร่น้อย พึ่งพาดินฟ้าอากาศเป็นหลัก
หากใช้สองสูงคงไม่ได้ไปแข่งกับใคร นอนตายได้เลย
ก่อนจะใช้สองสูงผมว่าต้องเปลี่ยนโมเดลประเทศใหม่ก่อน
เราต้องผลิตสินค้าที่มีbarrierสูง ลอกเลียนแบบได้ยาก
ไม่ใช่สินค้าเกษตร และเกษตรแปรรูปธรรมดาๆแน่นอน
เพราะสินค้าเกษตรเป็นอะไรที่หาแทนได้ง่าย ไม่มีข้าวก็กินขนมปังได้
ไม่มีไก่ก็กินหมูได้ และที่สำคัญเก็บรักษานานไม่ได้(รอราคาแพงค่อยปล่อยก็ไม่ได้)
เรื่องพ่อค้าคนกลางผมยังคิดว่าจำเป็น แต่ปัญหาอยู่ที่เกษตรกรมากกว่า
ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง อาจเป็นเพราะการขาดความรู้ที่จะใช้ปรับตัว หรือภาระหนี้สินที่มี หรืออ่อนด้านการตลาด
อันนี้ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องเข้ามาแก้ไข ด้วยความจริงใจและทุ่มเท
ติดตามประเมินผลอย่างใกล้ชิด
-
- Verified User
- โพสต์: 807
- ผู้ติดตาม: 0
ผมแปลกใจทำไม เจ้าสัว cp ถึงบอกว่า 2สูง จะช่วยชาติครับ
โพสต์ที่ 11
ผมว่าแท้จริงแล้วเกษตรกรนั้นอยู่ในชนชั้นของผู้ประกอบการ ซึ่งมีความเสี่ยงและผลตอบแทนที่ต้องบริหาร เช่นเดียวกับธุรกิจหรือการลงทุนทั่วไป
จะผลิตอะไร ผลิตให้ใคร จะจัดจำหน่ายอย่างไร ควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างไร ความเ้สี่ยงคืออะไร จะบริหารความเสี่ยงอย่างไร ตัวเองมีจุดแข็งจุดอ่อนอย่างไร เกษตรกรได้ตระหนักถึงฐานะของตนเองในฐานะของผู้ประกอบการหรือไม่
เกษตรกรสร้างชาติมาได้ด้วยความขยันขันแข็ง บนผืนดินอันอุดมสมบูรณ์ ในน้ำมีปลาในนามีข้าว ไม่ต้องดิ้นรน แต่ปัจจัยพื้นฐานเหล่านั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว
ณ ตอนนี้สินค้าจะผลิตที่ไหนอย่างไร ก็สามารถส่งไปขายได้ทั่วโลก การนำเข้า ส่งออก สะดวกสบาย สินค้าเกษตรไทยตอนนี้แทบจะไม่เหลือ barrier of entry (ตัวสุดท้ายคงเป็นกำแพงภาษี)
สำหรับสินค้าเกษตร ผู้ผลิตจะทำงานเหนื่อยยากแค่ไหนไม่สำคัญ ความเป็น commodity นั้นทำให้ผู้ผลิตไม่สามารถกำหนดราคาสินค้าได้ ผู้ประกอบการ (เกษตรกร) ได้สำรวจตลาดก่อนทำการผลิตหรือไม่ ? มีการเพิ่มมูลค่าผลผลิตอย่างไร ? มีการสร้าง barrier of entry ให้กับธุรกิจของตัวเองเพียงใด ? มีการรวมตัวเพื่อสร้างอำนาจต่อรองมากน้อยแค่ไหน? หรือแค่แห่ผลิต (ปลูก/เลี้ยง) ตามกันให้ผลผลิตออกมามากๆ แล้วราคาตก เหมือนไล่ราคาหุ้นร้อนตามข่าว แล้วสุดท้ายก็เจ๊งกันหมด
หากไม่สำรวจตลาด ไม่แปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า ไม่หาช่องทางจัดจำหน่าย ไม่พัฒนาธุรกิจการเกษตรด้วยตนเองในฐานะผู้ประกอบการ อย่างน้อยก็ต้องรู้จักกระจายความเสี่ยง เพื่อรับผลตอบแทนที่เหมาะสมบนความเสี่ยงที่ต่ำ
เกษตรผสมผสาน ผลิตแต่พอมี พอกิน ไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่สร้างหนี้สินเกินตัว หรือหลักเศรษฐกิจพอเพียงนั่นเอง คือคำตอบ
เทียบกับการลงทุนก็คงเหมือนกับการซื้อกองทุนดัชนีแบบ dollar cost average ไม่เดาตลาด ไม่ศึกษาปัจจัยพื้นฐาน ไม่ดูกราฟ ไม่ตามข่าว แค่ลงทุนอย่างพอเพียงโดยไม่ใช้มาร์จิ้น ก็ทำให้นักลงทุนได้ผลตอบแทนในระดับเฉลี่ยได้แล้วจริงไหม
ทางสุดท้ายนั่นคือถ้า CP รู้ดีนักก็ให้เขานำแล้วทำงานให้เขา ซื้อวัตถุดิบเขา ผลิตของให้เขามารับซื้อ ไม่มีอำนาจต่อรองทั้งซื้อและขาย (เสมือนเป็นลูกจ้าง) เขาจะได้ควบคุมราคาได้ จะได้ขึ้นราคาสินค้าเกษตรได้ เกษตรกรจะได้อยู่ดีกินดีขึ้นภายใต้การกำกับดูแลของเขา (?)
ลองคิดดูก่อนเถิด ว่าสินค้าเกษตรต้นน้ำนั้น สุดท้ายมันก็เป็น comodity ต่อให้ปล่อยลอยตัวจริง ราคาก็ต้องเป็นไปตามอุปสงค์อุปทานอยู่ดี แหล่งผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพมีอยู่ทั่วประเทศ พร้อมจะตัดราคากันทุกเมื่ออยู่แล้ว ผู้บริโภคจึงได้เปรียบสุดๆ แค่ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ มันจะทำให้ผู้ผลิตต้นน้ำขายข้าวได้แพงขึ้นจริงหรือ ?
การที่ทฤษฎี 2 สูงจะเป็นไปได้ เกษตรกรควรมีจุดยืนอย่างไร และเกษตรกรได้เข้าใจทางเลือกและจุดยืนของตัวเองดีแล้วหรือครับ
ลูกหลานเกษตรกรคนหนึ่ง
จะผลิตอะไร ผลิตให้ใคร จะจัดจำหน่ายอย่างไร ควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างไร ความเ้สี่ยงคืออะไร จะบริหารความเสี่ยงอย่างไร ตัวเองมีจุดแข็งจุดอ่อนอย่างไร เกษตรกรได้ตระหนักถึงฐานะของตนเองในฐานะของผู้ประกอบการหรือไม่
เกษตรกรสร้างชาติมาได้ด้วยความขยันขันแข็ง บนผืนดินอันอุดมสมบูรณ์ ในน้ำมีปลาในนามีข้าว ไม่ต้องดิ้นรน แต่ปัจจัยพื้นฐานเหล่านั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว
ณ ตอนนี้สินค้าจะผลิตที่ไหนอย่างไร ก็สามารถส่งไปขายได้ทั่วโลก การนำเข้า ส่งออก สะดวกสบาย สินค้าเกษตรไทยตอนนี้แทบจะไม่เหลือ barrier of entry (ตัวสุดท้ายคงเป็นกำแพงภาษี)
สำหรับสินค้าเกษตร ผู้ผลิตจะทำงานเหนื่อยยากแค่ไหนไม่สำคัญ ความเป็น commodity นั้นทำให้ผู้ผลิตไม่สามารถกำหนดราคาสินค้าได้ ผู้ประกอบการ (เกษตรกร) ได้สำรวจตลาดก่อนทำการผลิตหรือไม่ ? มีการเพิ่มมูลค่าผลผลิตอย่างไร ? มีการสร้าง barrier of entry ให้กับธุรกิจของตัวเองเพียงใด ? มีการรวมตัวเพื่อสร้างอำนาจต่อรองมากน้อยแค่ไหน? หรือแค่แห่ผลิต (ปลูก/เลี้ยง) ตามกันให้ผลผลิตออกมามากๆ แล้วราคาตก เหมือนไล่ราคาหุ้นร้อนตามข่าว แล้วสุดท้ายก็เจ๊งกันหมด
หากไม่สำรวจตลาด ไม่แปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า ไม่หาช่องทางจัดจำหน่าย ไม่พัฒนาธุรกิจการเกษตรด้วยตนเองในฐานะผู้ประกอบการ อย่างน้อยก็ต้องรู้จักกระจายความเสี่ยง เพื่อรับผลตอบแทนที่เหมาะสมบนความเสี่ยงที่ต่ำ
เกษตรผสมผสาน ผลิตแต่พอมี พอกิน ไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่สร้างหนี้สินเกินตัว หรือหลักเศรษฐกิจพอเพียงนั่นเอง คือคำตอบ
เทียบกับการลงทุนก็คงเหมือนกับการซื้อกองทุนดัชนีแบบ dollar cost average ไม่เดาตลาด ไม่ศึกษาปัจจัยพื้นฐาน ไม่ดูกราฟ ไม่ตามข่าว แค่ลงทุนอย่างพอเพียงโดยไม่ใช้มาร์จิ้น ก็ทำให้นักลงทุนได้ผลตอบแทนในระดับเฉลี่ยได้แล้วจริงไหม
ทางสุดท้ายนั่นคือถ้า CP รู้ดีนักก็ให้เขานำแล้วทำงานให้เขา ซื้อวัตถุดิบเขา ผลิตของให้เขามารับซื้อ ไม่มีอำนาจต่อรองทั้งซื้อและขาย (เสมือนเป็นลูกจ้าง) เขาจะได้ควบคุมราคาได้ จะได้ขึ้นราคาสินค้าเกษตรได้ เกษตรกรจะได้อยู่ดีกินดีขึ้นภายใต้การกำกับดูแลของเขา (?)
ลองคิดดูก่อนเถิด ว่าสินค้าเกษตรต้นน้ำนั้น สุดท้ายมันก็เป็น comodity ต่อให้ปล่อยลอยตัวจริง ราคาก็ต้องเป็นไปตามอุปสงค์อุปทานอยู่ดี แหล่งผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพมีอยู่ทั่วประเทศ พร้อมจะตัดราคากันทุกเมื่ออยู่แล้ว ผู้บริโภคจึงได้เปรียบสุดๆ แค่ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ มันจะทำให้ผู้ผลิตต้นน้ำขายข้าวได้แพงขึ้นจริงหรือ ?
การที่ทฤษฎี 2 สูงจะเป็นไปได้ เกษตรกรควรมีจุดยืนอย่างไร และเกษตรกรได้เข้าใจทางเลือกและจุดยืนของตัวเองดีแล้วหรือครับ
ลูกหลานเกษตรกรคนหนึ่ง
อย่ายอมแพ้
-
- Verified User
- โพสต์: 1301
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ผมแปลกใจทำไม เจ้าสัว cp ถึงบอกว่า 2สูง จะช่วยชาติครับ
โพสต์ที่ 13
[quote="matee"]
-
- Verified User
- โพสต์: 535
- ผู้ติดตาม: 0
ผมแปลกใจทำไม เจ้าสัว cp ถึงบอกว่า 2สูง จะช่วยชาติครับ
โพสต์ที่ 15
ผมแย้งนิดนึงครับว่า ถ้าค่าแรงสูงขึ้นโดยไทยยังมีประสิทธิภาพการผลิต
เหมือนปัจจุบัน ประเทศไทยจะเหมือนกัน กรีซ ครับ
โรงงานต่างๆ จะ เจ๊งหมดครับ
ถ้าจะให้ค่าแรงสูง หมายความว่า เมืองไทยจะต้องมี บริษัท แบบ เกาหลีหรือยี่ปุ้น
เช่น samsung หรือ อย่าง ไตัหวัน ก็พวก บริษัทที่ผลิต mainboard ทั้งหลาย
asus msi หรืออื่นครับ
หรืออย่าง แอบเปิ้ล ครับ ออกแบบ ผลิตภัณฑ์ ที่ขายได้ราคาแพงกำไรสูง
แต่ว่า ไปจ้างให้โรงงานใน จีน ผลิต ให้โดยจ่าย ค่าจ้าง ถูกๆ อย่างพวก iphone จีนผลิตให้
แอบเปิ้ล ได้กำไรนิดเดียว แต่ แอบเปิ้ล เป็น เจ้าของ สินค้า ขายได้กำไร เป็น 10 เท่า
แรงงานในไทย จะสูงได้ ถ้าเราเป็น เจ้าของแบรนด์
เป็นคนออกแบบ ผลิตภัณฑ์ ครับ
ถ้าเรารับจ้าง ทำตามแบบ เหมือนปุจจุบัน ถ้าขึ้นค่าแรง
เขาก็ไปจ้างที่อื่นผลิต ครับ
เหมือนปัจจุบัน ประเทศไทยจะเหมือนกัน กรีซ ครับ
โรงงานต่างๆ จะ เจ๊งหมดครับ
ถ้าจะให้ค่าแรงสูง หมายความว่า เมืองไทยจะต้องมี บริษัท แบบ เกาหลีหรือยี่ปุ้น
เช่น samsung หรือ อย่าง ไตัหวัน ก็พวก บริษัทที่ผลิต mainboard ทั้งหลาย
asus msi หรืออื่นครับ
หรืออย่าง แอบเปิ้ล ครับ ออกแบบ ผลิตภัณฑ์ ที่ขายได้ราคาแพงกำไรสูง
แต่ว่า ไปจ้างให้โรงงานใน จีน ผลิต ให้โดยจ่าย ค่าจ้าง ถูกๆ อย่างพวก iphone จีนผลิตให้
แอบเปิ้ล ได้กำไรนิดเดียว แต่ แอบเปิ้ล เป็น เจ้าของ สินค้า ขายได้กำไร เป็น 10 เท่า
แรงงานในไทย จะสูงได้ ถ้าเราเป็น เจ้าของแบรนด์
เป็นคนออกแบบ ผลิตภัณฑ์ ครับ
ถ้าเรารับจ้าง ทำตามแบบ เหมือนปุจจุบัน ถ้าขึ้นค่าแรง
เขาก็ไปจ้างที่อื่นผลิต ครับ
- OutOfMyMind
- Verified User
- โพสต์: 1232
- ผู้ติดตาม: 0
ผมแปลกใจทำไม เจ้าสัว cp ถึงบอกว่า 2สูง จะช่วยชาติครับ
โพสต์ที่ 16
ลองสังเกตุดูให้ดีครับ ประเทศที่เจริญแล้ว เขามีค่าครองชีพ สูงหรือต่ำกว่าประเทศที่ยังไม่เจริญ
เราจำเป็นจะต้องให้สินค้าหลักของเรามันราคาสูง เพื่อที่จะทำให้ขายในราคาสูงได้ เราจำเป็นจะต้องพัฒนาคุณภาพให้สูง เพื่อให้ขายได้ ทุกอย่างมันจึงสอดคล้องและผลักดันไปให้ประเทศพัฒนาก้าวหน้า
ความร่ำรวยของนักลงทุนอยู่ที่มุลค่าของหุ้นในพอร์ตที่คุณสต๊อกไว้ฉันใด
ความมั่งคั่งของประเทศก็อยู่ที่ราคาของผลผลิตที่เรามี
สมมุติประเทศไทยผลิตข้าวได้ปีละ 30 ล้านตัน
หากราคาข้าวตันละ 5000 พอร์ตข้าวเราก็มีมูลค่าแค่ 30x5000 ล้านบาท
หากเราขายข้าวตันละ 10000 พอร์ตเราก็ขึ้นเท่าตัวเป็น 30x10000 ล้านบาท
เงินก็กระจายเข้าเกษตรกรคนส่วนใหญ่ แล้วหมุนออกมาเป็นการใช้จ่าย ระบบ ศก ก็หมุนเวียน
เราจะขายสินค้าให้ได้ราคาแพง มันท้าทาย มันต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์
แต่หากเราตั้งเป้าขายราคาถูก มันเหมือนจะขายง่าย แต่จริง ๆ แล้วมันเจ็บตัว เกษตรกรก็อยู่อย่างซังกะตาย คนขายก็หมดมุกในการสร้างตลาด มีแต่เอาราคาเข้าสู้ ไม่มีงบการตลาด ไม่มีงบ R&D
จะทำงานหนักเพื่อให้ได้เงินเยอะ ๆ
หรือจะทำงานเบา ๆ ได้เงินน้อย ๆ พออยู่ ๆ กันไป
แบบไหนมันท้าทายกว่ากัน
สำหรับผม ผมเชียร์ 2 สูงครับ
เราจำเป็นจะต้องให้สินค้าหลักของเรามันราคาสูง เพื่อที่จะทำให้ขายในราคาสูงได้ เราจำเป็นจะต้องพัฒนาคุณภาพให้สูง เพื่อให้ขายได้ ทุกอย่างมันจึงสอดคล้องและผลักดันไปให้ประเทศพัฒนาก้าวหน้า
ความร่ำรวยของนักลงทุนอยู่ที่มุลค่าของหุ้นในพอร์ตที่คุณสต๊อกไว้ฉันใด
ความมั่งคั่งของประเทศก็อยู่ที่ราคาของผลผลิตที่เรามี
สมมุติประเทศไทยผลิตข้าวได้ปีละ 30 ล้านตัน
หากราคาข้าวตันละ 5000 พอร์ตข้าวเราก็มีมูลค่าแค่ 30x5000 ล้านบาท
หากเราขายข้าวตันละ 10000 พอร์ตเราก็ขึ้นเท่าตัวเป็น 30x10000 ล้านบาท
เงินก็กระจายเข้าเกษตรกรคนส่วนใหญ่ แล้วหมุนออกมาเป็นการใช้จ่าย ระบบ ศก ก็หมุนเวียน
เราจะขายสินค้าให้ได้ราคาแพง มันท้าทาย มันต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์
แต่หากเราตั้งเป้าขายราคาถูก มันเหมือนจะขายง่าย แต่จริง ๆ แล้วมันเจ็บตัว เกษตรกรก็อยู่อย่างซังกะตาย คนขายก็หมดมุกในการสร้างตลาด มีแต่เอาราคาเข้าสู้ ไม่มีงบการตลาด ไม่มีงบ R&D
จะทำงานหนักเพื่อให้ได้เงินเยอะ ๆ
หรือจะทำงานเบา ๆ ได้เงินน้อย ๆ พออยู่ ๆ กันไป
แบบไหนมันท้าทายกว่ากัน
สำหรับผม ผมเชียร์ 2 สูงครับ
แชทบอทสำหรับนักลงทุนเน้นคุณค่า
https://www.chathoon.com/
https://www.chathoon.com/
- newbie_12
- Verified User
- โพสต์: 2904
- ผู้ติดตาม: 0
ผมแปลกใจทำไม เจ้าสัว cp ถึงบอกว่า 2สูง จะช่วยชาติครับ
โพสต์ที่ 17
เชียร์สองสูงครับ
เราจะมองแค่ในประเทศไม่ได้ เราต้องมองระดับโลกครับ การค้าขายเงินทองที่มันไหลไปไหลมาระหว่างประเทศนั้นเยอะมาก
สินค้า X เราผลิตเราขายในประเทศไทยได้ 32 บาท เวลาต่างชาติมาซื้อสินค้าตัวนี้ หรือขายออกต่างประเทศ เราก็ได้เงินดอลมา 1 ดอล
ในทำนองเดียวกัน หากสินค้า X เราผลิต เราขายในประเทศเราราคา 64 บาท ต่างชาติถ้าจะมาซื้อสินค้านี้ ก็ต้องซื้อด้วยเงิน 2 ดอล
ฉันใดก็ฉันนั้นครับ
เราจะมองแค่ในประเทศไม่ได้ เราต้องมองระดับโลกครับ การค้าขายเงินทองที่มันไหลไปไหลมาระหว่างประเทศนั้นเยอะมาก
สินค้า X เราผลิตเราขายในประเทศไทยได้ 32 บาท เวลาต่างชาติมาซื้อสินค้าตัวนี้ หรือขายออกต่างประเทศ เราก็ได้เงินดอลมา 1 ดอล
ในทำนองเดียวกัน หากสินค้า X เราผลิต เราขายในประเทศเราราคา 64 บาท ต่างชาติถ้าจะมาซื้อสินค้านี้ ก็ต้องซื้อด้วยเงิน 2 ดอล
ฉันใดก็ฉันนั้นครับ
.
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
-
- Verified User
- โพสต์: 157
- ผู้ติดตาม: 0
ผมแปลกใจทำไม เจ้าสัว cp ถึงบอกว่า 2สูง จะช่วยชาติครับ
โพสต์ที่ 19
ผมว่าถ้าจะให้ 2 สูงประสบความสำเร็จ
ต้องมีสูงที่ 3 คือ ความสำมารถของคนในประเทศ
ให้สามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ สามารถแข่งขันกับคนอื่นได้
ซึ่งถ้าแค่ ราคา กับต้นทุน(เงินเดือน) สูง เพียงอย่างเดียวแต่ คุณภาพหรือ
เทคโนโลยี ไม่ได้เปลี่ยน ย่อมไม่สามารถแข่งขันกับชาวโลกได้อยู่แล้ว
ดังนั้นต้องเป็น 3 สูงครับ
ต้องมีสูงที่ 3 คือ ความสำมารถของคนในประเทศ
ให้สามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ สามารถแข่งขันกับคนอื่นได้
ซึ่งถ้าแค่ ราคา กับต้นทุน(เงินเดือน) สูง เพียงอย่างเดียวแต่ คุณภาพหรือ
เทคโนโลยี ไม่ได้เปลี่ยน ย่อมไม่สามารถแข่งขันกับชาวโลกได้อยู่แล้ว
ดังนั้นต้องเป็น 3 สูงครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 41
- ผู้ติดตาม: 0
ผมแปลกใจทำไม เจ้าสัว cp ถึงบอกว่า 2สูง จะช่วยชาติครับ
โพสต์ที่ 20
ในเมื่อเราปรับ ราคาสินค้า และ เงินเดือนขึ้นดังที่บอก การบริโภคและ ส่งออกจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ใน เมื่อ ประเทศอื่นสามารถนำเข้า สินค้าเกษตร จาก เวียตนาม และ ประเทศไกล้เคียงได้ในราคาที่ ถูกกว่าnewbie_12 เขียน:
สินค้า X เราผลิตเราขายในประเทศไทยได้ 32 บาท เวลาต่างชาติมาซื้อสินค้าตัวนี้ หรือขายออกต่างประเทศ เราก็ได้เงินดอลมา 1 ดอล
ในทำนองเดียวกัน หากสินค้า X เราผลิต เราขายในประเทศเราราคา 64 บาท ต่างชาติถ้าจะมาซื้อสินค้านี้ ก็ต้องซื้อด้วยเงิน 2 ดอล
ฉันใดก็ฉันนั้นครับ
หรือว่าการเพิ่มราคาสินค้า และ คุณภาพต้องไปคู่กัน โดยที่ไทยเราต้องมีความได้เปรียบทางด้าน คุณภาพ เป็นจุดแข็ง
เชื่อว่าท้ายที่สุด สินค้าเกษตร ต้องมีการปรับโครงสร้างราคาแน่นอน เพราะเป็นแหล่งน้ำของไทย
เจ้าสัวแนะนำให้ กลุ่มเกษตรผู้ผลิตข้าวจับมือกัน และกำหนด ราคาได้อย่างเช่ง กลุ่ม opec, มีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับในข้อนีั
-
- Verified User
- โพสต์: 4
- ผู้ติดตาม: 0
ผมแปลกใจทำไม เจ้าสัว cp ถึงบอกว่า 2สูง จะช่วยชาติครับ
โพสต์ที่ 21
ไม่กลัวว่าถึงตอนนั้นจะ ดอลละ 64 บาทด้วยเหรอครับnewbie_12 เขียน:เชียร์สองสูงครับ
เราจะมองแค่ในประเทศไม่ได้ เราต้องมองระดับโลกครับ การค้าขายเงินทองที่มันไหลไปไหลมาระหว่างประเทศนั้นเยอะมาก
สินค้า X เราผลิตเราขายในประเทศไทยได้ 32 บาท เวลาต่างชาติมาซื้อสินค้าตัวนี้ หรือขายออกต่างประเทศ เราก็ได้เงินดอลมา 1 ดอล
ในทำนองเดียวกัน หากสินค้า X เราผลิต เราขายในประเทศเราราคา 64 บาท ต่างชาติถ้าจะมาซื้อสินค้านี้ ก็ต้องซื้อด้วยเงิน 2 ดอล
ฉันใดก็ฉันนั้นครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 807
- ผู้ติดตาม: 0
ผมแปลกใจทำไม เจ้าสัว cp ถึงบอกว่า 2สูง จะช่วยชาติครับ
โพสต์ที่ 22
อันนี้เห็นด้วยนะ แค่รวมกลุ่มกันเพื่อหาช่องทางจำหน่ายเอง และแปรรูปผลิตภัณฑ์ส่วนเกินกันเอง โดยไม่ผ่านคนกลางก็ได้มาร์จิ้นเพิ่มอีกเยอะแล้วครับ ราคาขึ้นก็ขาย raw mat ราคาลงก็เน้นแปรรูป ถ้าสามารถสร้างองค์กรชุมชนที่ประสิทธิภาพสูงพอมารองรับเรื่องนี้ได้ล่ะก็ จะได้มีอำนาจต่อรองกับเจ้าสัวด้วย 555Blueocean เขียน:เจ้าสัวแนะนำให้ กลุ่มเกษตรผู้ผลิตข้าวจับมือกัน และกำหนด ราคาได้อย่างเช่ง กลุ่ม opec, มีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับในข้อนีั
อย่ายอมแพ้
-
- Verified User
- โพสต์: 96
- ผู้ติดตาม: 0
ผมแปลกใจทำไม เจ้าสัว cp ถึงบอกว่า 2สูง จะช่วยชาติครับ
โพสต์ที่ 23
ขออนุญาติแลกเปลี่ยนผ่านบทความของ"ลม เปลี่ยนทิศ" นสพ.ไทยรัฐ
เห็นว่าอธิบายได้เห็นภาพรวมมากขึ้น ครับ
แก้เหลื่อมล้ำด้วย 2 ทฤษฎี
ผมเคยคุยปัญหาของบ้านเมืองกับ เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานเครือซีพีหลายครั้ง ทุกครั้งเจ้าสัวจะต้องพูดถึง ปัญหาความเหลื่อมล้ำรายได้ ของ คนรวย กับ คนจน ระหว่าง คนจนเมือง กับ คนจนชนบท ที่ถ่างกว้างออกไปทุกที จนเป็นปัญหาใหญ่ของบ้านเมือง
วันนี้เรื่องความเหลื่อมล้ำทางสังคม กลับมาเป็นเรื่องฮิตให้ถกกันอีกครั้ง
ทุกครั้งที่คุยกันเรื่องนี้ เจ้าสัวธนินท์ จะยก "ทฤษฎีสองสูง" ขึ้นมาอธิบายเพื่อบอกผ่านไปยังรัฐบาลทุกรัฐบาลที่ผ่านมาว่า "ทฤษฎีสองสูง" สามารถแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางรายได้ของ "คนจนเมือง" และ "คนจนชนบท" ได้จริง
เมื่อสองวันก่อน เจ้าสัวธนินท์ ก็ออกมาตอกย้ำเรื่องนี้อีกครั้ง วันนี้ ผมเลยขอนำเรื่อง "ทฤษฎีสองสูง" ของ เจ้าสัวธนินท์ มาเขียนถึงอีกครั้ง
สูงแรก เจ้าสัวธนินท์ ขอให้รัฐบาลขึ้นเงินเดือนข้าราชการให้สูงขึ้นทันที แล้วค่อยๆเพิ่มในอนาคตให้เพียงพอ (ทุกวันนี้เงินเดือนข้าราชการผมว่าไม่เป็นธรรม เรียนจบปริญญาโทเงินเดือนแค่หมื่นบาท จบด็อกเตอร์เรียนแทบตายเงินเดือนหมื่นกว่าบาท สู้เงินเดือนคนขับรถเมล์ยังไม่ได้) เมื่อขึ้นเงินเดือนข้าราชการแล้ว บริษัทเอกชนก็จะขึ้นเงินเดือนตาม ทำให้มี "กำลังซื้อ" เพิ่มขึ้นในตลาดทันทีมหาศาล
สูงสอง เจ้าสัวธนินท์ ขอให้ขึ้นราคาสินค้าเกษตรให้สูงขึ้น เพื่อ ให้เกษตรกรทั่วประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้น เมื่อเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ก็มี "กำลังซื้อ" สูงขึ้น มีเงินลงทุนขยายการผลิตมากขึ้น ทำให้ คุณภาพการผลิตสูงขึ้น ขายได้ราคามากขึ้น เมื่อคนยากจนมีกำลังซื้อมากขึ้น ก็ไปทำให้อุตสาหกรรมและบริการขยายตัวมากขึ้น สุดท้ายประเทศและนักธุรกิจก็จะได้ประโยชน์ทั้งหมด
เรื่อง "ทฤษฎีสองสูง" นี้ ผมเห็นด้วยกับ เจ้าสัวธนินท์ มานานแล้ว แต่ก็ยังไม่มีรัฐบาลไหนยอมนำไปปฏิบัติให้เป็นจริง ยังใช้แต่ ทฤษฎีตะวันตก ที่ไม่มีวันเป็นจริงในสังคมไทย เพราะพื้นฐานทางสังคม สภาวะแวดล้อม การใช้ชีวิต ทุกอย่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ยิ่งใช้ทฤษฎีตะวันตกมาเป็นฐานในการคิดแก้ไขปัญหามากเท่าไร ก็ยิ่งมองไม่เห็นหนทางแก้ปัญหามากขึ้นเท่านั้น
ก็ไม่รู้มี รัฐมนตรีจีน คนไหนแอบมาอ่านเจอ "ทฤษฎีสองสูง" ของ เจ้าสัวธนินท์ หรือเปล่า เพราะเมื่อต้นปีนี้เอง รัฐบาลจีน เพิ่งประกาศนโยบายใหม่ ให้รัฐบาลรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาในราคาที่สูงขึ้นจาก ปีก่อนร้อยละ 10.5 ด้วยเหตุผลเดียวกับที่ เจ้าสัวธนินท์ เสนอก็คือ เพื่อ ให้เกษตรกรที่ยากจนในชนบทมีรายได้สูงขึ้น เพื่อให้มี "กำลังซื้อ" มากขึ้น และยังเป็นการจูงใจให้เกษตรกรเพิ่มผลผลิตให้มีคุณภาพสูงขึ้นด้วย
นโยบายของ รัฐบาลจีน ครั้งนี้ ผมดูแล้วพิเศษตรงที่มีหลักของ "ทฤษฎี ขาดทุนคือกำไร" ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมเข้าไปด้วย
การที่ รัฐบาลจีน รับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาในราคาที่สูงขึ้นร้อยละ 10.5 โดยราคาข้าวในตลาดไม่ได้เพิ่มขึ้น ทำให้ชาวนาจีนมีรายได้เพิ่มขึ้นทันทีอีกร้อยละ 10.5 ในฤดูการเก็บเกี่ยวปีนี้ แน่นอนว่ารัฐบาลจีนย่อมต้องขาดทุนไปร้อยละ 10.5 เช่นเดียวกัน
แต่ รัฐบาลจีน คงคิดแบบทฤษฎี "ขาดทุนคือกำไร" ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัฐบาลขาดทุนนิดหน่อยไม่เป็นไร แต่ขอให้ชาวนาจีนมีรายได้เพิ่มขึ้นก็พอใจแล้ว เมื่อชาวนาจีนอยู่ดีๆก็มีรายได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10.5 ในปีนี้ ก็ทำให้ชาวนาจีนมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.5 ด้วยผลผลิตเท่าเดิม ทำให้มีเงินใช้จ่ายมากขึ้น มีเงินลงทุนในการเพาะปลูกมากขึ้น
เมื่อชาวนาจีนมีการใช้จ่ายมากขึ้น ก็ทำให้เศรษฐกิจประเทศจีนหมุน เวียนมากขึ้น สุดท้ายประเทศก็ได้กำไรมากขึ้น
การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางฐานะ ผมเชื่อว่าทำได้ ถ้านำ สองทฤษฎีนี้มาประยุกต์ใช้เข้าด้วยกัน รัฐต้องทำให้ราคาสินค้าเกษตร สูงขึ้น และ ต้องเพิ่มเงินเดือนข้าราชการให้สูงขึ้น ดึงให้เงินเดือนเอกชนสูงขึ้นด้วย จะเพิ่มกำลังซื้อในประเทศมหาศาล แล้วความเหลื่อมล้ำก็จะค่อยๆลดลงไปเอง แต่จะให้ทุกคนมีรายได้เท่าเทียมกันนั้น เพ้อฝันเกินไป มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว.
"ลม เปลี่ยนทิศ"
เห็นว่าอธิบายได้เห็นภาพรวมมากขึ้น ครับ
แก้เหลื่อมล้ำด้วย 2 ทฤษฎี
ผมเคยคุยปัญหาของบ้านเมืองกับ เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานเครือซีพีหลายครั้ง ทุกครั้งเจ้าสัวจะต้องพูดถึง ปัญหาความเหลื่อมล้ำรายได้ ของ คนรวย กับ คนจน ระหว่าง คนจนเมือง กับ คนจนชนบท ที่ถ่างกว้างออกไปทุกที จนเป็นปัญหาใหญ่ของบ้านเมือง
วันนี้เรื่องความเหลื่อมล้ำทางสังคม กลับมาเป็นเรื่องฮิตให้ถกกันอีกครั้ง
ทุกครั้งที่คุยกันเรื่องนี้ เจ้าสัวธนินท์ จะยก "ทฤษฎีสองสูง" ขึ้นมาอธิบายเพื่อบอกผ่านไปยังรัฐบาลทุกรัฐบาลที่ผ่านมาว่า "ทฤษฎีสองสูง" สามารถแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางรายได้ของ "คนจนเมือง" และ "คนจนชนบท" ได้จริง
เมื่อสองวันก่อน เจ้าสัวธนินท์ ก็ออกมาตอกย้ำเรื่องนี้อีกครั้ง วันนี้ ผมเลยขอนำเรื่อง "ทฤษฎีสองสูง" ของ เจ้าสัวธนินท์ มาเขียนถึงอีกครั้ง
สูงแรก เจ้าสัวธนินท์ ขอให้รัฐบาลขึ้นเงินเดือนข้าราชการให้สูงขึ้นทันที แล้วค่อยๆเพิ่มในอนาคตให้เพียงพอ (ทุกวันนี้เงินเดือนข้าราชการผมว่าไม่เป็นธรรม เรียนจบปริญญาโทเงินเดือนแค่หมื่นบาท จบด็อกเตอร์เรียนแทบตายเงินเดือนหมื่นกว่าบาท สู้เงินเดือนคนขับรถเมล์ยังไม่ได้) เมื่อขึ้นเงินเดือนข้าราชการแล้ว บริษัทเอกชนก็จะขึ้นเงินเดือนตาม ทำให้มี "กำลังซื้อ" เพิ่มขึ้นในตลาดทันทีมหาศาล
สูงสอง เจ้าสัวธนินท์ ขอให้ขึ้นราคาสินค้าเกษตรให้สูงขึ้น เพื่อ ให้เกษตรกรทั่วประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้น เมื่อเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ก็มี "กำลังซื้อ" สูงขึ้น มีเงินลงทุนขยายการผลิตมากขึ้น ทำให้ คุณภาพการผลิตสูงขึ้น ขายได้ราคามากขึ้น เมื่อคนยากจนมีกำลังซื้อมากขึ้น ก็ไปทำให้อุตสาหกรรมและบริการขยายตัวมากขึ้น สุดท้ายประเทศและนักธุรกิจก็จะได้ประโยชน์ทั้งหมด
เรื่อง "ทฤษฎีสองสูง" นี้ ผมเห็นด้วยกับ เจ้าสัวธนินท์ มานานแล้ว แต่ก็ยังไม่มีรัฐบาลไหนยอมนำไปปฏิบัติให้เป็นจริง ยังใช้แต่ ทฤษฎีตะวันตก ที่ไม่มีวันเป็นจริงในสังคมไทย เพราะพื้นฐานทางสังคม สภาวะแวดล้อม การใช้ชีวิต ทุกอย่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ยิ่งใช้ทฤษฎีตะวันตกมาเป็นฐานในการคิดแก้ไขปัญหามากเท่าไร ก็ยิ่งมองไม่เห็นหนทางแก้ปัญหามากขึ้นเท่านั้น
ก็ไม่รู้มี รัฐมนตรีจีน คนไหนแอบมาอ่านเจอ "ทฤษฎีสองสูง" ของ เจ้าสัวธนินท์ หรือเปล่า เพราะเมื่อต้นปีนี้เอง รัฐบาลจีน เพิ่งประกาศนโยบายใหม่ ให้รัฐบาลรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาในราคาที่สูงขึ้นจาก ปีก่อนร้อยละ 10.5 ด้วยเหตุผลเดียวกับที่ เจ้าสัวธนินท์ เสนอก็คือ เพื่อ ให้เกษตรกรที่ยากจนในชนบทมีรายได้สูงขึ้น เพื่อให้มี "กำลังซื้อ" มากขึ้น และยังเป็นการจูงใจให้เกษตรกรเพิ่มผลผลิตให้มีคุณภาพสูงขึ้นด้วย
นโยบายของ รัฐบาลจีน ครั้งนี้ ผมดูแล้วพิเศษตรงที่มีหลักของ "ทฤษฎี ขาดทุนคือกำไร" ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมเข้าไปด้วย
การที่ รัฐบาลจีน รับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาในราคาที่สูงขึ้นร้อยละ 10.5 โดยราคาข้าวในตลาดไม่ได้เพิ่มขึ้น ทำให้ชาวนาจีนมีรายได้เพิ่มขึ้นทันทีอีกร้อยละ 10.5 ในฤดูการเก็บเกี่ยวปีนี้ แน่นอนว่ารัฐบาลจีนย่อมต้องขาดทุนไปร้อยละ 10.5 เช่นเดียวกัน
แต่ รัฐบาลจีน คงคิดแบบทฤษฎี "ขาดทุนคือกำไร" ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัฐบาลขาดทุนนิดหน่อยไม่เป็นไร แต่ขอให้ชาวนาจีนมีรายได้เพิ่มขึ้นก็พอใจแล้ว เมื่อชาวนาจีนอยู่ดีๆก็มีรายได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10.5 ในปีนี้ ก็ทำให้ชาวนาจีนมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.5 ด้วยผลผลิตเท่าเดิม ทำให้มีเงินใช้จ่ายมากขึ้น มีเงินลงทุนในการเพาะปลูกมากขึ้น
เมื่อชาวนาจีนมีการใช้จ่ายมากขึ้น ก็ทำให้เศรษฐกิจประเทศจีนหมุน เวียนมากขึ้น สุดท้ายประเทศก็ได้กำไรมากขึ้น
การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางฐานะ ผมเชื่อว่าทำได้ ถ้านำ สองทฤษฎีนี้มาประยุกต์ใช้เข้าด้วยกัน รัฐต้องทำให้ราคาสินค้าเกษตร สูงขึ้น และ ต้องเพิ่มเงินเดือนข้าราชการให้สูงขึ้น ดึงให้เงินเดือนเอกชนสูงขึ้นด้วย จะเพิ่มกำลังซื้อในประเทศมหาศาล แล้วความเหลื่อมล้ำก็จะค่อยๆลดลงไปเอง แต่จะให้ทุกคนมีรายได้เท่าเทียมกันนั้น เพ้อฝันเกินไป มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว.
"ลม เปลี่ยนทิศ"
- Sumotin
- Verified User
- โพสต์: 1131
- ผู้ติดตาม: 0
ผมแปลกใจทำไม เจ้าสัว cp ถึงบอกว่า 2สูง จะช่วยชาติครับ
โพสต์ที่ 24
ผมว่ามองไม่ถูกนะครับ ถ้าขึ้นราคาสินค้าเกษตร เราจะแข่งกับประเทศอื่นอย่างไร ถึงเราจะเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งของโลก แต่ข้าวก็มีสินค้าทดแทนมากมาย ไม่จำเป็นต้องมาซื้อข้าวเราด้วยอีกอย่างยังทำให้ความสามารถในการแข่งขันลดลง และการที่เพิ่มราคาขึ้นไม่ได้แปลว่าเกษตรกรจะได้รายได้เพิ่มเป็น 2 เท่าอย่างที่คิดๆกันนะครับ ผมว่าผลดีอาจจะไปตกอยู่กับพ่อค้าคนกลางมากกว่าด้วยซ้ำ
สิ่งที่อาจจะส่งผลอีกอย่างหนึ่งคือ inflation จะสูงขึ้นทำให้ค่าเงินเราลดค่าลงอันนี้อาจจะทำให้เราได้เงินมากขึ้นก็จริง แต่ระยะยาวไม่ได้แปลว่าจะดีนะครับ เพราะเรายังต้องนำเข้า เทคโนโลยีใหม่ๆมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องจักร ซึ่งก็เป็น import ที่จะทำให้ cost เราสูงขึ้นอยู่ดีครับ
ผมว่าการรวมกลุ่มของเกษตรกร เพื่อเพิ่มความสามารถในการเพิ่มผลผลิตและการแปรรูปผลิตภัณฑ์ น่าจะเป็นทางออกที่ดีในการเพิ่มคุณภาพชีวิตของคนในประเทศ เมื่อคุณภาพชีวิตดีขึ้น การศึกษาก็จะสูงขึ้น นำไปสู่การพัฒนาของประเทศต่อไปครับ หลักๆคือให้โอกาสคนจนครับ
สิ่งที่อาจจะส่งผลอีกอย่างหนึ่งคือ inflation จะสูงขึ้นทำให้ค่าเงินเราลดค่าลงอันนี้อาจจะทำให้เราได้เงินมากขึ้นก็จริง แต่ระยะยาวไม่ได้แปลว่าจะดีนะครับ เพราะเรายังต้องนำเข้า เทคโนโลยีใหม่ๆมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องจักร ซึ่งก็เป็น import ที่จะทำให้ cost เราสูงขึ้นอยู่ดีครับ
ผมว่าการรวมกลุ่มของเกษตรกร เพื่อเพิ่มความสามารถในการเพิ่มผลผลิตและการแปรรูปผลิตภัณฑ์ น่าจะเป็นทางออกที่ดีในการเพิ่มคุณภาพชีวิตของคนในประเทศ เมื่อคุณภาพชีวิตดีขึ้น การศึกษาก็จะสูงขึ้น นำไปสู่การพัฒนาของประเทศต่อไปครับ หลักๆคือให้โอกาสคนจนครับ
Timing is everything, no matter what you do.
CAGR of 34% in the past 15 years of investment
CAGR of 34% in the past 15 years of investment
-
- Verified User
- โพสต์: 77
- ผู้ติดตาม: 0
ผมแปลกใจทำไม เจ้าสัว cp ถึงบอกว่า 2สูง จะช่วยชาติครับ
โพสต์ที่ 25
ผมว่าทฤษฎีสองสูงมีจุดอ่อนครับ [Macroeconomics]
คือเมื่อข้าราชการและเอกชนเงินเดือนสูงขึ้น ผลคืออะไร
-> กำลังซื้อของคนส่วนนี้เพิ่มขึ้นมหาศาล
-> ทำให้มีความต้องการซื้อสินค้าต่างๆ เพิ่มขึ้นมาก ในขณะที่การผลิตในประเทศทำได้จำกัด
-> ทำให้ราคาของแพงขึ้น
-> คนที่เงินเดือนไม่ขึ้นเป็นอย่างไร ก็ต้องซื้อของแพงไป
-> ถ้าขึ้นค่าสินค้าเกษตรตาม เป็นอย่างไร
-> เกษตรกรได้เงินเยอะขึ้นจริง แต่ก็ต้องซื้อของแพงในสัดส่วนที่เท่ากัน
จริงๆ หลักการนี้ก็เหมือนการที่บอกว่า ถ้าเงินในประเทศไม่พอ ก็พิมพ์เงินเพิ่ม แล้วเอามาขึ้นเงินเดือนให้ทั้งระบบ
ผลก็จะทำให้ทั้งค่าแรง(รายรับ) และ ค่าสินค้า(รายจ่าย) เพิ่มขึ้นในสัดส่วนเดียวกัน ซึ่งท้ายสุดก็กลายเป็นเท่าปกติอยู่ดี
เหมือนกับที่เยอรมันแพ้สงครามแล้วไม่มีเงินใช้หนี้สงคราม เลยใช้วิธีพิมพ์เงินมาใช้หนี้ ผลก็คือเศรษฐกิจพัง เกิดเงินเฟ้อมหาศาล
---------------------------------------------------------------------------
สิ่งที่จะทำให้ประเทศร่ำรวยได้ในระยะยาวคือ ประสิทธิภาพในการการผลิต คือผลผลิตต่อเวลาที่สูงขึ้นต่างหากครับ
หรือ Real GDP รวม(ที่ปรับชดเชยเงินเฟ้อแล้ว) ให้มีค่าสูงขึ้น
แต่แม้แต่ตัว GDP เอง ในตัวมันก็มีปัญหา
1. GDP ไม่ได้วัดคุณค่าของสิ่งที่อยู่นอกตลาด
- คนที่เลี้ยงลูกเอง ไม่ได้ถูกวัดใน GDP แต่คนที่จ้างคนอื่นเลี้ยงลูก ถูกวัดด้วย GDP
- คนที่ทำอาหารอร่อยๆ ดีๆ กินเอง ไม่ได้ถูกวัดใน GDP แต่คนที่ไปซื้ออาหารที่คนอื่นทำ ถูกวัดด้วย GDP
ทั้งๆ ที่คุณค่าเท่าๆ กัน หรืออาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ
2. GDP ไม่ได้วัดคุณภาพของสิ่งแวดล้อม
การเร่งผลิตอะไรมากๆ จนสิ่งแวดล้อมเสียอย่างถาวร ก็เหมือนคนที่อยู่บนกองสมบัติ แล้วขุดสมบัติมาขาย สุดท้ายสมบัติก็จะหมดอย่างถาวร
ในบรรดาปัจจัยการผลิต 4 อย่าง : Human, Physical, Technological, Natural Resource
มี natural resource นี่แหละครับที่หลายๆ อย่างเสียไปแล้วเสียไปเลย ไม่สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้อีก
3. GDP ไม่ได้วัดการกระจายรายได้
ประเทศที่ GDP สูงแต่มีความแตกต่างของรายได้คนจน กับคนรวย แตกต่างกันมาก คนในประเทศนั้นไม่น่าจะมีความสุขมากนัก
แต่ GDP วัดสิ่งนี้ไม่ได้
4. GDP ไม่ได้วัดความเพลิดเพลินใจ ประเทศที่มุ่งเน้นทำงาน อาจจะมี GDP สูงจริง แต่คนอาจจะเป็นโรคเพราะความเครียดมาก
---------------------------------------------------------------------------
การจะให้ Real GDP สูงขึ้นได้ ก็ต้องพัฒนาทุนทั้ง 4 อย่าง
- Human Capital พัฒนาการศึกษาคนให้ดีขึ้น มีความรู้ในการผลิตและทำงานมากขึ้น
- Physical Capital มีเครื่องมีที่เหมาะสมกับการทำงาน คนทำคอม มีคอม คนเป็นช่างมีเครื่องมือ มีโรงงานทันสมัย
- Technical ความรู้ทางเทคโนโลยี ที่ต้องอาศัยการวิจัยคิดค้น
- Natural Resource ตัวนี้ต้องจัดการดีๆ หาทางที่ทำให้นำมาใช้แล้ว Renewable ได้คือใช้ใหม่ได้ จึงจะเกิดประโยชน์ในระยะยาวสูงสุดครับ
อ้างอิงจาก Principles of Macroeconomics โดย N. Gregory Mankiw
มีในห้องสมุดมารวยครับ
คือเมื่อข้าราชการและเอกชนเงินเดือนสูงขึ้น ผลคืออะไร
-> กำลังซื้อของคนส่วนนี้เพิ่มขึ้นมหาศาล
-> ทำให้มีความต้องการซื้อสินค้าต่างๆ เพิ่มขึ้นมาก ในขณะที่การผลิตในประเทศทำได้จำกัด
-> ทำให้ราคาของแพงขึ้น
-> คนที่เงินเดือนไม่ขึ้นเป็นอย่างไร ก็ต้องซื้อของแพงไป
-> ถ้าขึ้นค่าสินค้าเกษตรตาม เป็นอย่างไร
-> เกษตรกรได้เงินเยอะขึ้นจริง แต่ก็ต้องซื้อของแพงในสัดส่วนที่เท่ากัน
จริงๆ หลักการนี้ก็เหมือนการที่บอกว่า ถ้าเงินในประเทศไม่พอ ก็พิมพ์เงินเพิ่ม แล้วเอามาขึ้นเงินเดือนให้ทั้งระบบ
ผลก็จะทำให้ทั้งค่าแรง(รายรับ) และ ค่าสินค้า(รายจ่าย) เพิ่มขึ้นในสัดส่วนเดียวกัน ซึ่งท้ายสุดก็กลายเป็นเท่าปกติอยู่ดี
เหมือนกับที่เยอรมันแพ้สงครามแล้วไม่มีเงินใช้หนี้สงคราม เลยใช้วิธีพิมพ์เงินมาใช้หนี้ ผลก็คือเศรษฐกิจพัง เกิดเงินเฟ้อมหาศาล
---------------------------------------------------------------------------
สิ่งที่จะทำให้ประเทศร่ำรวยได้ในระยะยาวคือ ประสิทธิภาพในการการผลิต คือผลผลิตต่อเวลาที่สูงขึ้นต่างหากครับ
หรือ Real GDP รวม(ที่ปรับชดเชยเงินเฟ้อแล้ว) ให้มีค่าสูงขึ้น
แต่แม้แต่ตัว GDP เอง ในตัวมันก็มีปัญหา
1. GDP ไม่ได้วัดคุณค่าของสิ่งที่อยู่นอกตลาด
- คนที่เลี้ยงลูกเอง ไม่ได้ถูกวัดใน GDP แต่คนที่จ้างคนอื่นเลี้ยงลูก ถูกวัดด้วย GDP
- คนที่ทำอาหารอร่อยๆ ดีๆ กินเอง ไม่ได้ถูกวัดใน GDP แต่คนที่ไปซื้ออาหารที่คนอื่นทำ ถูกวัดด้วย GDP
ทั้งๆ ที่คุณค่าเท่าๆ กัน หรืออาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ
2. GDP ไม่ได้วัดคุณภาพของสิ่งแวดล้อม
การเร่งผลิตอะไรมากๆ จนสิ่งแวดล้อมเสียอย่างถาวร ก็เหมือนคนที่อยู่บนกองสมบัติ แล้วขุดสมบัติมาขาย สุดท้ายสมบัติก็จะหมดอย่างถาวร
ในบรรดาปัจจัยการผลิต 4 อย่าง : Human, Physical, Technological, Natural Resource
มี natural resource นี่แหละครับที่หลายๆ อย่างเสียไปแล้วเสียไปเลย ไม่สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้อีก
3. GDP ไม่ได้วัดการกระจายรายได้
ประเทศที่ GDP สูงแต่มีความแตกต่างของรายได้คนจน กับคนรวย แตกต่างกันมาก คนในประเทศนั้นไม่น่าจะมีความสุขมากนัก
แต่ GDP วัดสิ่งนี้ไม่ได้
4. GDP ไม่ได้วัดความเพลิดเพลินใจ ประเทศที่มุ่งเน้นทำงาน อาจจะมี GDP สูงจริง แต่คนอาจจะเป็นโรคเพราะความเครียดมาก
---------------------------------------------------------------------------
การจะให้ Real GDP สูงขึ้นได้ ก็ต้องพัฒนาทุนทั้ง 4 อย่าง
- Human Capital พัฒนาการศึกษาคนให้ดีขึ้น มีความรู้ในการผลิตและทำงานมากขึ้น
- Physical Capital มีเครื่องมีที่เหมาะสมกับการทำงาน คนทำคอม มีคอม คนเป็นช่างมีเครื่องมือ มีโรงงานทันสมัย
- Technical ความรู้ทางเทคโนโลยี ที่ต้องอาศัยการวิจัยคิดค้น
- Natural Resource ตัวนี้ต้องจัดการดีๆ หาทางที่ทำให้นำมาใช้แล้ว Renewable ได้คือใช้ใหม่ได้ จึงจะเกิดประโยชน์ในระยะยาวสูงสุดครับ
อ้างอิงจาก Principles of Macroeconomics โดย N. Gregory Mankiw
มีในห้องสมุดมารวยครับ
- tn143
- Verified User
- โพสต์: 229
- ผู้ติดตาม: 0
ผมแปลกใจทำไม เจ้าสัว cp ถึงบอกว่า 2สูง จะช่วยชาติครับ
โพสต์ที่ 26
1.สูงเกษตรกร ดีแน่ๆ เห็นด้วย
เพราะ การใส่เงินไปให้คนรายได้น้อย ได้ผลต่อเศรษฐกิจมากกว่า คนรายได้มาก
ชาวนารายได้สูง ก็จ่ายหมดไม่เหลือเก็บ หมุนเวียนในตลาดสด กินข้าวแกง
แม่ค้าก็ยังใช้จ่ายวนเวียนระดับล่างอีกหลายรอบ
ส่วนคนรายได้สูง ได้เงิน 2000 บาท อาจจะใช้ 1000 ออมไว้ 1000
เงินที่ใช้ก็อาจจะซื้อของในห้าง ซื้อของนอก ซื้อหุ้น
หมุนเวียนในระบบได้ไม่กี่รอบก็หมดไป
ส่วนจะกระทบราคาสินค้าเกษตร ก็แล้วแต่ ศิลปะการใช้เงิน
ของแต่ละรัฐบาล ประกันราคา กับจำนำ มันก็ให้ผลต่างกัน
การให้เงินกู้ กับให้ขาดมันก็ให้ผลต่างกัน
2.สูงเงินเดือนราชการ ไม่คิดว่าจะดีเท่าไหร่
ทุกวันนี้เงินเดือนราชการ ก็80% ของงบประมาณแล้ว
บริษัทไหน มีโสหุ้ย 80% เหลือเศษๆไปลงทุนได้หน่อยนึง
ขืนเพิ่มอีก จะกลายเป็นหนี้ท่วม
จะเพิ่มได้ต้องลดคน เพิ่มประสิทธภาพ
ซึ่งผมว่าแตะต้องยากมาก อย่าฝันเลย
เพราะ การใส่เงินไปให้คนรายได้น้อย ได้ผลต่อเศรษฐกิจมากกว่า คนรายได้มาก
ชาวนารายได้สูง ก็จ่ายหมดไม่เหลือเก็บ หมุนเวียนในตลาดสด กินข้าวแกง
แม่ค้าก็ยังใช้จ่ายวนเวียนระดับล่างอีกหลายรอบ
ส่วนคนรายได้สูง ได้เงิน 2000 บาท อาจจะใช้ 1000 ออมไว้ 1000
เงินที่ใช้ก็อาจจะซื้อของในห้าง ซื้อของนอก ซื้อหุ้น
หมุนเวียนในระบบได้ไม่กี่รอบก็หมดไป
ส่วนจะกระทบราคาสินค้าเกษตร ก็แล้วแต่ ศิลปะการใช้เงิน
ของแต่ละรัฐบาล ประกันราคา กับจำนำ มันก็ให้ผลต่างกัน
การให้เงินกู้ กับให้ขาดมันก็ให้ผลต่างกัน
2.สูงเงินเดือนราชการ ไม่คิดว่าจะดีเท่าไหร่
ทุกวันนี้เงินเดือนราชการ ก็80% ของงบประมาณแล้ว
บริษัทไหน มีโสหุ้ย 80% เหลือเศษๆไปลงทุนได้หน่อยนึง
ขืนเพิ่มอีก จะกลายเป็นหนี้ท่วม
จะเพิ่มได้ต้องลดคน เพิ่มประสิทธภาพ
ซึ่งผมว่าแตะต้องยากมาก อย่าฝันเลย
- champ_st
- Verified User
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
ผมแปลกใจทำไม เจ้าสัว cp ถึงบอกว่า 2สูง จะช่วยชาติครับ
โพสต์ที่ 27
ผมว่านะ ไอ้ 2 สูงที่ว่าเนี่ย ถ้าเป้น
1 ทำให้คนไทยมีการศึกษาสูงๆ ก็จะทำให้เงินเดือนต่างๆสูงขึ้นเอง GDP ของประเทศสูงขึ้นเอง
2ทำให้คนไทยมีคุณธรรมสูงขึ้น มันก้จะทำให้แผ่นดินสูงขึ้นด้วย ประเทศก็จะน่าอยู่
1 ทำให้คนไทยมีการศึกษาสูงๆ ก็จะทำให้เงินเดือนต่างๆสูงขึ้นเอง GDP ของประเทศสูงขึ้นเอง
2ทำให้คนไทยมีคุณธรรมสูงขึ้น มันก้จะทำให้แผ่นดินสูงขึ้นด้วย ประเทศก็จะน่าอยู่
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- คนรักน้ำมัน
- Verified User
- โพสต์: 266
- ผู้ติดตาม: 0
ผมแปลกใจทำไม เจ้าสัว cp ถึงบอกว่า 2สูง จะช่วยชาติครับ
โพสต์ที่ 28
ผมว่าเจตนาแกดีนะครับ สำหรับ 2 สูง คือแกคงอยากให้เกษตรกรมีรายได้ที่ดีขึ้น คือยกระดับฐานะของคนส่วนใหญ่ในประเทศ คือคนรากหญ้า(เกษตรกร)และคนชั้นกลาง(พนักงาน)ได้ลืมตาอ้าปากได้ ประเทศชาติจะได้มั่นคง แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าพ่อค้าคนกลางจะรวยขึ้นขนาดไหน
หุ้นไม่ใช่เพียงแค่กระดาษแผ่นหนึ่ง มันเป็นเอกสารที่แสดงถึงความมีส่วนเป็นเจ้าของในกิจการนั้นด้วย เมือคิดจะลงทุน จงใช้มุมมองอย่างเจ้าของกิจการ เน้นลงไปในกิจการและข้อมูลเบี้องหลัง ไม่ใช่แค่มองว่ามันเป็นแค่หุ้น ต้องรู้ใช้ชัดว่ากิจการนี้ทำอะไร และทำได้ดีแค่ไหน?
- CEO
- Verified User
- โพสต์: 1243
- ผู้ติดตาม: 0
ผมแปลกใจทำไม เจ้าสัว cp ถึงบอกว่า 2สูง จะช่วยชาติครับ
โพสต์ที่ 29
1. ขึ้นราคาสินค้าเกษตร ทำให้ cpf กำไรมากขึ้น เพราะ เครือซีพีเป็นขาใหญ่ด้านเกษตร
2. ขึ้นเงินเดือน ทำให้มีกำลังซื้อคนเมืองมากขึ้น ทำให้ cpall กำไรมากขึ้น
ผมคนไม่มีความรู้น้อย คิดได้แค่นี้ครับ
ส่วนเงินตราต่างประเทศจะเข้ามาได้อย่างไร ความสามารถในการแข่งขันจะเพิ่มหรือลดลงผมไม่ทราบ
ตอนนี้โรงงานคนไทยเล็กๆหันไปใช้แรงงานพม่ากันหลายๆแห่งครับ เพื่อลดต้นทุน ไม่จ้างคนไทยแล้ว
2. ขึ้นเงินเดือน ทำให้มีกำลังซื้อคนเมืองมากขึ้น ทำให้ cpall กำไรมากขึ้น
ผมคนไม่มีความรู้น้อย คิดได้แค่นี้ครับ
ส่วนเงินตราต่างประเทศจะเข้ามาได้อย่างไร ความสามารถในการแข่งขันจะเพิ่มหรือลดลงผมไม่ทราบ
ตอนนี้โรงงานคนไทยเล็กๆหันไปใช้แรงงานพม่ากันหลายๆแห่งครับ เพื่อลดต้นทุน ไม่จ้างคนไทยแล้ว
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..