ชวนคุย

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 31

โพสต์

por_jai เขียน: :8) ทางเทคนิคอลการถือยาวนั้นเปรียบได้กับการดูกราฟระดับเดือนระดับควอร์เต้อร์หรือเยียร์

      อาจารย์สอนว่า ถือหุ้นยาวนานอย่างนี้เรียกว่า
      การถือหุ้นโดยต้องทนทานการทุบตีจากเจ้ามือให้ได้ครับ
     
      ทางบู๊ลิ้มบอกต้องฝึกวิชา ระฆังทองคุ้มกาย
      อย่างท่านปรมาจารย์ของเรา
      ถ้าใครสังเกตุผิวจะออกสีเหลืองทองๆ
      เป็นสัญลักษณ์ของผู้ฝึกวิชานี้ได้ขั้นที่9
      ถือเป็นขอบเขตสูงสุดที่จะมีได้ของวิชานี้แล้ว...ฮ่า...
      ผมก็ออกเหลืองๆเหมือนกัน
      แต่น้องๆหมอที่รู้จักในเวบบอกว่า
      ของพี่ป้อมนี่น่าจะเป็นเหลืองดีซ่าน
      เป็นอาการของพวกไฟธาตุแตกมากกว่า...ฮ่า....

พูดถึงเรื่องเทคนิคเนี้ยผมว่ามีประโยชน์มากนะครับ
จริงๆแล้วหนังสือแนววีไอที่ผมว่าผมชอบสุดๆน่าจะเป็น
ดันโดนะ

คำว่าออกหัวผมได้เงิน ออกก้อยผมเสียเงินนิดหน่อย

ผมว่าคำนี้มันโดนจริงๆผมขอยกตัวอย่าง tuf(ผมไม่มีหุ้นแล้วนะครับ) ตอน 27-28 บาท
ตอนนั้นถ้าดูกำไรของงวด 9 เดือนจะเห็นว่าสามารถทำ all time high และถ้าดูให้ลึกกว่านั้นคือ สามารถทำได้แม้ว่าบริษัทมีค่าใช้จ่ายในการปิดโรงงานที่เป็นค่าใช้จ่ายพิเศษ

ถ้าดูย้อนหลังนานพอสมควร tuf มักจะเล่นกันที่ pe 10-11 ตอนนั้นถ้าดูกำไร 9 เดือนแล้ว forecast งวด q4 ก็จะได้กำไรต่อหุ้นซักแถวๆ 3.5-3.7 ซึ่งผมได้ไปคุยกับเทพวีไอเขาให้ความเห็นว่า

ตลาดคงจะไม่เชื่อว่า tuf สามารถ maintain กำไรตรงนี้ได้
ซึ่งในปีนี้ต่อให้แย่สุดๆ tuf ก็ไม่น่าจะทำกำไรได้ต่ำกว่าปีก่อน
เพราะว่านอกจากไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษ(หรือยังมีตอน q1 จำไม่ได้แล้ว) แถมยังได้ประหยัดจากการย้ายโรงงาน แต่ต่อหุ้นสมมุติเลยว่ากำไรดันตกมาซัก 10% ทั้งๆที่ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ tuf ปีนี้ก็กำไรเหลือซัก 3.2-3.3 ซึ่งที่ราคา 27-28 พีอีก็ยังไม่แพง
ผมมองว่านี้ก็น่าจะเป็นดันโดได้แบบนึงเพียงแต่ว่าไม่ได้ถึงขนาดว่าตีแตกได้เป็นเด้งอะไรและเมื่อปลายปีก่อนปีใหม่นักวิเคราะห์ไป visit กันนั้นก็เริ่มทำให้ out look ของ tuf ที่ดีถูกนายตลาดยอมรับมากขึ้น ผมจำได้ผมซื้อก่อนปิดปีใหม่ 1-2 วัน
(ย้ำอีกทีนะว่าไม่ได้มาเชียร์ tuf นีเป็นเรื่องเมื่อหลายเดือนก่อนแล้วตอนนี้ผมก็ไม่ได้มี tuf กลัวคนไปซื้อตามตอนนี้)


เดี่ยวจะงงว่าทำไมไม่คุยให้ตรงกับเรื่องที่ quote มา
เฮียฉัตรบอกว่า

ถ้าเรามองภาพรวมในระยะยาว  ความผันผวนในจิตใจของเราก็จะน้อยลง

มันทำให้ผมนึกถึงเรื่องตอนการเมืองไม่ดีช่วงก่อนหน้านี้แล้วก็มีคนบอกผมว่าเชื่อดิมันต้องยิงกัน คิดว่าอาทิตย์หน้ามันเอากันแน่เลย แล้วก็บอกว่าน่าจะขายหุ้นไปก่อนทั้งๆที่มันก็ลงมาตั้งเยอะแล้ว

ผมก็บอกว่าไม่รู้เหมือนกันเพราะมันก็ลงมาเยอะแล้วอะ แล้วเล่นหุ้นจะดูแค่อาทิตย์หน้าเหรอ ผมว่ายิ่งดูสั้นเท่าไหร่มันก็ยิ่งยากเท่านั้นนะ

แต่ผมก็คงไม่มองยาวเท่าพี่ฉัตรเหมือนกันนะเวลามองผมมองแค่ 9เดือนถึง 1 ปีอะ เพราะประเภทหุ้นที่ผมเล่นมันจะเอากำไรกระโดดชั่วคราวมองยาวก็มองไม่ออก อย่างของพี่ฉัตรเข้าใจว่ามองทีเดียว 5 ปี สำหรับผมถือว่ายาวมากๆ ผมทนรอไม่ไหว 5555
แต่คนทั่วไปบอกว่ามอง 9 เดือนนี้นานมากๆแล้วนะ หลายคนว่าผมมองยาว ถ้ามาเจอพี่ฉัตรนี้ไม่รู้เขาจะว่าไง อิอิ
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 32

โพสต์

mprandy เขียน:เห็นชื่อเจ้าของกระทู้แล้วต้องอ่านเลย เวลานี้ ตามมาโพสต์ก่อน แต่เด๋วจะกลับมาอ่าน :8)

รบกวนพระอาจารย์ช่วย update มุมมองเรื่องยุโรปหน่อยได้ไหมครับ ขอบพระคุณมาก  :lol:
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

Re: ชวนคุย

โพสต์ที่ 33

โพสต์

[quote="por_jai"]
:8) ทางเทคนิคอลการถือยาวนั้นเปรียบได้กับการดูกราฟระดับเดือนระดับควอร์เต้อร์หรือเยียร์
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 34

โพสต์

:8) ฮ่า...ถามอย่างนี้ไม่ต้องโพสใหม่
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
vi_tal signs
Verified User
โพสต์: 631
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 35

โพสต์

ผมชอบประสบการณ์จริงๆ  ที่หาอ่านไม่ได้ในหนังสือเล่มอื่นๆครับ

ขอให้คุณฮงมาคุยบ่อยๆนะครับ
มันจะมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 36

โพสต์

[quote="por_jai"]
:8) ผมเองหลังจากเหาฉลามมาหลายสำนัก
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 37

โพสต์

Highway_Star เขียน:สรุปคือ ผมต้องรู้เรื่องเศรษฐกิจเยอะๆ ด้วยใช่มั้ยครับ รู้เรื่องของต่างประเทศด้วยอะไรงี้ ว่าเค้าเกิดเหตุการณ์อะไรซึ่งจะส่งผลต่อตลาดหุ้นในประเทศเรา ?


(คืออย่าว่าโง้นงี้เลยครับ ผมรู้สึกว่าเรื่องเศรษฐกิจนี่เป็นเรื่องใหญ่จริงๆ ต้องมีความรู้เยอะมากๆ ท่าทางผมคงอีกหลายปีกว่าจะเข้าใจได้ขนาดนั้น)

ขอแชร์ความเห็นนะครับ

ผมก็โง่เศรษฐศาสตร์เหมือนกันครับเคยตั้งใจอยากจะเอาดีทางนี้แต่อ่านไปซักพักก็เลิกครับ ใจมันไม่รักพอ พี่วิบูลย์ พึงประเสิรฐ(จะเรียกเต็มยศทำไมว่ะ 555) เคยบอกว่าถ้าไม่รู้ว่าอีก 5 ปี
จำเกินดุลบัญชีเดินสะพัดหรือเปล่า ก็ไม่รู้จะให้ความสำคัญไปทำไม ผมเข้าใจว่าพี่เขาคงตั้งใจจะสื่อว่าถ้าเขารู้ว่าอีก 5 ปี pttep จะมีกำไรประมาณไหน แต่ไม่รู้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจจะเป็นไงเขาก็ต้องเลือกให้ความสำคัญกับสิ่งที่เขาประมาณการได้สิ


จริงๆแล้วทุกวันนี้ผมก็อาศัยใบบุญพี่สุมาอี้ หมอ mprandy แหละครับว่าเวลามีอะไรน่ากลัวก็โทรไปถามว่ามองไง อะไรแบบนี้เพราะความรู้เศรษฐศาสตร์ผมน้อยกว่าพวกพี่ๆเขาเยอะ ผมอาศัย fundflow แบบมวยวัดเอาตัวรอดไปวันๆมากกว่า

แต่ผมว่าถ้าวิกฤติใหญ่จริงๆความรู้เศรษฐศาสตร์เบื้องต้นเราก็น่าจะเอาตัวรอดได้แล้วนะครับ เศรษฐศาสตร์ขั้นลึกตัวเลขต่างดาวอะไรต่างๆ ปล่อยให้นักเศรษฐศาสตร์เขาทำไปเถอะครับ ไม่ใช่หน้าที่ของเราอยู่แล้ว
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
Verified User
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 38

โพสต์

เข้ามาอ่านความคิด ประสบกาม เห้ยประสบการณ์น้องฮงครับ ได้เห็นแต่ละท่านก็เข้ามาดิสคัสกัน ผมว่าทุกคนมีวิธีการและเทคนิคในการลงทุนต่างๆกันออกไปครับ แต่เป้าหมายคือความมั่งคั่งเหมือนกัน ไปเชียงใหม่ยังไม่ตั้งหลายวีธี จะขึ้นเครื่อง รถไฟ ขับรถ รถทัวร์ มีตั้งเยอะ ขึ้นอยู่กับเวลา สถานะการณ์ ความชอบ ข้อจำกัดของแต่ละบุคคล แต่การได้เรียนรู้จากคนแต่ละคนทำให้เราพัฒนาไปได้ไกลเลย เรียนรู้ทางเลือกต่างๆและสร้างทางเลือกที่เหมาะสมในการลงทุนของตนเอง
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 39

โพสต์

[quote="vi_tal  signs"]ผมชอบประสบการณ์จริงๆ
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
ภาพประจำตัวสมาชิก
BeSmile
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1178
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 40

โพสต์

hongvalue เขียน:...

ผมว่าการผสมผสานเนี้ยดีอย่างเสียอย่างนะ
ที่ดีก็คือว่าเราจะพูดว่าเลือกหุ้นอย่างวีไอซื้อแบบเทคนิค
แต่เวลาไม่ดีก็คือสมมุติว่าพี่มั่นใจหุ้นตัวนึงมากว่าพื้นฐาน
มันต้องไปเท่านั้นเท่านี้แล้วพี่เอาเส้นนึงเป็นจุด cutloss
เช่น เส้น 20 วันพอมันหลุด


พี่ก็อาจจะลังเลใจว่าแล้ว gu จะคัทดีไหมว่ะ
เพราะวีไอบอกว่าถ้าคุณซื้อหุ้นที่ 10 บาทแล้วเหลือ
9 บาทแสดงว่ามี mos มากขึ้นถ้ามีเงินเหลือควรจะซื้อเพิ่ม
แต่เทคนิคมันบอกว่าอย่าถัวขาลง

ผมว่าคนที่เล่นแนวประสานต้องเจอปัญหาแบบนี้กันทั้งนั้น
และผมว่านี้เป็นหนึ่งในเรื่องน่าปวดหัวได้เลยล่ะ

แต่หลังๆผมทำใจได้แล้วนะ cut loss แล้วซื้อแพงกว่าก็ทำบ่อยๆ
สุดท้ายกำไรก็พอแล้ว
ถ้าเป็นการขายแบบเทคนิคอล ถ้า graph หลุด แล้วมี 2 แบบ

1. Cut loss เผ่นพันลี้ + หนีคือสุดยอดกลยุทธ์ :)

2. Short againt port เด็ดบุปผาต่อหยก ยอดวิชาในตำนาน


ถ้าเป็นแบบ VI ถ้าพื้นฐานไม่เปลี่ยน หุ้นลงก็

1. ถือ ระฆังทองคุ้มกาย

2. ซื้อเพิ่ม (ตูจะไปเอาเงินจากไหนมาซื้อฟ่ะ ตอนนี้ก็เต็ม port แล้ว)  :lol:


ข้อ 1 ทั้งสองจะแย้งกันครับ วิชาตัวเบา กับ วิชาหนักแน่น มันต่างกันครับ

ข้อ 2 จะคล้ายกันมากกว่าครับ

ผมว่าคนใช้ต้องรู้วิธีใช้ของตัวเองล่ะครับ


พาออกนอกเรื่อง กลายเป็นหนังจีนไปแล้ว   :lol:


รออ่านคุณฮงต่อครับ
มีสติ - อย่าประมาทในการใช้ชีวิต
ภาพประจำตัวสมาชิก
Highway_Star
Verified User
โพสต์: 440
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 41

โพสต์

hongvalue เขียน:
ขอแชร์ความเห็นนะครับ

ผมก็โง่เศรษฐศาสตร์เหมือนกันครับเคยตั้งใจอยากจะเอาดีทางนี้แต่อ่านไปซักพักก็เลิกครับ ใจมันไม่รักพอ พี่วิบูลย์ พึงประเสิรฐ(จะเรียกเต็มยศทำไมว่ะ 555) เคยบอกว่าถ้าไม่รู้ว่าอีก 5 ปี
จำเกินดุลบัญชีเดินสะพัดหรือเปล่า ก็ไม่รู้จะให้ความสำคัญไปทำไม ผมเข้าใจว่าพี่เขาคงตั้งใจจะสื่อว่าถ้าเขารู้ว่าอีก 5 ปี pttep จะมีกำไรประมาณไหน แต่ไม่รู้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจจะเป็นไงเขาก็ต้องเลือกให้ความสำคัญกับสิ่งที่เขาประมาณการได้สิ


จริงๆแล้วทุกวันนี้ผมก็อาศัยใบบุญพี่สุมาอี้ หมอ mprandy แหละครับว่าเวลามีอะไรน่ากลัวก็โทรไปถามว่ามองไง อะไรแบบนี้เพราะความรู้เศรษฐศาสตร์ผมน้อยกว่าพวกพี่ๆเขาเยอะ ผมอาศัย fundflow แบบมวยวัดเอาตัวรอดไปวันๆมากกว่า

แต่ผมว่าถ้าวิกฤติใหญ่จริงๆความรู้เศรษฐศาสตร์เบื้องต้นเราก็น่าจะเอาตัวรอดได้แล้วนะครับ เศรษฐศาสตร์ขั้นลึกตัวเลขต่างดาวอะไรต่างๆ ปล่อยให้นักเศรษฐศาสตร์เขาทำไปเถอะครับ ไม่ใช่หน้าที่ของเราอยู่แล้ว
เห็นด้วยในแง่ที่บอกว่า ให้ความสำคัญกับตัวที่ประมาณการได้ครับ

แต่ว่าจริงๆ แล้วผมเชื่อว่าคนเล่นหุ้นต้องทำการ refresh ข้อมูลที่ตัวเองมีกับบริษัทที่ตัวเองเป็นเจ้าของบ่อยๆ คราวนี้ พอวิกฤติมันมา ...

คนที่เก่งๆ เค้าทำอะไรกันครับ เค้าไม่ได้ปรับ port จริงๆ หรือ ? หรือว่าเค้าทนถือต่อไปจนกระทั่งมันกลับมาราคาเท่าเดิม
อย่าง ดร.นิเวศน์ นี่แกปรับ port บ้างมั้ยครับตอนวิกฤติ หรือว่าแกเฉยๆ
(คือผมไม่รู้จะเรียนจากใครดี เค้าก็บอกว่าให้เรียนรู้จาก the best .. ถ้า ดร.ทำยังไง ผมก็คิดว่าแนวคิดนั้นน่าจะถูกเป็นส่วนใหญ่ ก็น่าจะทำตามครับ)

:oops:  :oops:  :oops:
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 42

โพสต์

ฮงเบบี้ัเฟซ เขียน:พี่ก็อาจจะลังเลใจว่าแล้ว gu จะคัทดีไหมว่ะ
เพราะวีไอบอกว่าถ้าคุณซื้อหุ้นที่ 10 บาทแล้วเหลือ
9 บาทแสดงว่ามี mos มากขึ้นถ้ามีเงินเหลือควรจะซื้อเพิ่ม
แต่เทคนิคมันบอกว่าอย่าถัวขาลง
:8) Losers Average Losers
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
mprandy
Verified User
โพสต์: 1992
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 43

โพสต์

hongvalue เขียน:
รบกวนพระอาจารย์ช่วย update มุมมองเรื่องยุโรปหน่อยได้ไหมครับ ขอบพระคุณมาก
ไม่สน return rate เยอะ, ขอแค่ financial freedom ภายใน 14 ปีก็พอ..
------------------------
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 44

โพสต์

ถ้าเป็นการขายแบบเทคนิคอล ถ้า graph หลุด แล้วมี 2 แบบ

1. Cut loss เผ่นพันลี้ + หนีคือสุดยอดกลยุทธ์ :)


:8) คัทแต่อย่าเผ่นสิครับ
     กว่าจะเลือกเอ๊ยลอกหุ้นได้แต่ละตัว ไม่ใช่ง่ายๆ


2. Short againt port เด็ดบุปผาต่อหยก ยอดวิชาในตำนาน

:8) เทคนิคอลสายผมคนที่สอนผม
     เขาไม่เอาแนวนี้เลย
     ผมก็เลยมีวิชาไม่พอที่จะเดินทางนี้



ถ้าเป็นแบบ VI ถ้าพื้นฐานไม่เปลี่ยน หุ้นลงก็

1. ถือ ระฆังทองคุ้มกาย


:8) ถ้าหุ้นมีเทรนด์
     เลื่อนสต๊อปลอสขึ้นไปเรื่อยๆแล้ว
     หล่นมาจิ้มไม่โดนหัวซักกะที
     ผมก็ถือยาวได้นะ

     

2. ซื้อเพิ่ม (ตูจะไปเอาเงินจากไหนมาซื้อฟ่ะ ตอนนี้ก็เต็ม port แล้ว)
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
TPH
Verified User
โพสต์: 347
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 45

โพสต์

เข้ามาดูและแอบอ่านต่อไปครับ  :)
ภาพประจำตัวสมาชิก
BABY TERMITE
Verified User
โพสต์: 368
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 46

โพสต์

ถ้าเป็นแบบ VI ถ้าพื้นฐานไม่เปลี่ยน หุ้นลงก็

1. ถือ ระฆังทองคุ้มกาย

2. ซื้อเพิ่ม (ตูจะไปเอาเงินจากไหนมาซื้อฟ่ะ ตอนนี้ก็เต็ม port แล้ว)
ปลวกน้อยคอยวันเติบใหญ่
ภาพประจำตัวสมาชิก
<< New >>
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1145
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 47

โพสต์

hongvalue เขียน:ตัวอย่างของอีกท่านนึงเล่าว่าเคยไป company visit stanley ตอนนั้นแล้วพอใจกับบริษัทเคยรู้สึกว่าบริษัทผลิตเก่ง ตอนนั้นหุ้นอยู่ 150 ก็ซื้อไป ถ้าผมจำไม่ผิดเขาเล่าว่าตอนนั้นกำไรต่อหุ้นก็ซัก 15 บาท pe 10 ก็เหมาะสมดีแต่ซื้อเพราะไปเยี่ยมชมแล้วชอบ แต่พอเจอ subprime เขาก็อึ้งเพราะราคามันลงไป 30-40 บาท นี้ก็เป็นอีกตัวอย่างนึงที่มีคนแชร์ให้ฟัง
โดนหนักนะเนี่ย อีตาคนนี้เนี่ย   :vm:

por_jai เขียน: :8) ผมเองหลังจากเหาฉลามมาหลายสำนัก
อยากสูงต้องเขย่ง อยากเก่งต้องขยัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 48

โพสต์

mprandy เขียน:


เข้าเรื่องดีกว่า (เด๋วนี้ติด Twitter ไม่อยากพิมพ์ยาว :lovl:) :D

ผมก็ติด twitter ครับเล่นมาเป็นเดือนไม่กล้าบอกให้ใคร follow เพราะโพสแต่เรื่องไร้สาระเช่น

ร้อนโว้ย
พิมพ์แค่เนี้ย  :lol:  อะไรแบบนี้

mprandy เขียน: รายละเอียดกว่านี้ คงต้อง discuss กันภายหลัง ไม่อยากเอามาปนเปเพราะไม่ใช่กระทู้ผม :D

ยังไงก็ขอเชิญไปร่วมงาน discuss growth stock ด้วยแล้วกันครับ ของจารย์ไม่ต้องเตรียมหุ้นก็ได้ขอมุมมองเรื่องยุโรปเนี้ยแหละ วันหลังเวลามีข่าวอะไรจะได้พอประเมินได้ว่าหนักแค่ไหน
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 49

โพสต์

por_jai เขียน:ถ้าเป็นการขายแบบเทคนิคอล ถ้า graph หลุด แล้วมี 2 แบบ

1. Cut loss เผ่นพันลี้ + หนีคือสุดยอดกลยุทธ์ :)


:8) คัทแต่อย่าเผ่นสิครับ
     กว่าจะเลือกเอ๊ยลอกหุ้นได้แต่ละตัว ไม่ใช่ง่ายๆ

นั้นสิหุ้นดีปีนึงมีแค่ไม่กี่ตัวเอง ขายไปแล้วไม่เอากลับกว่าจะหาของดีได้ใหม่ไม่ใช่ง่ายๆ

por_jai เขียน: 2. ซื้อเพิ่ม (ตูจะไปเอาเงินจากไหนมาซื้อฟ่ะ ตอนนี้ก็เต็ม port แล้ว)  :lol:

:8) ผมบอกความเชื่อของผมไปข้างบนแล้ว
     Losers Average Losersครับ
    ข้อนี้ผมทำง่าย
    เพราะอาจารย์ผมทุกคนไม่มีใครซื้อถัวลงเลยซักกะคน


อันนี้ผมเห็นด้วยครับ ข้อนี้แหละที่ผมกับพี่อาจจะแตกต่างจากวีไอคนอื่นๆ ผมอยู่ในตลาดหุ้นมานานและมีความเชื่อบางอย่างเช่น

คุณคิดว่าคุณรู้จักบริษัทดีแต่จริงๆแล้วคุณก็ไม่ได้รู้ดีอย่างที่คุณคิดว่าคุณรู้

ของแบบนี้เจอมาหลายคนแล้วครับคิดว่าบริษัทดีอย่างนุ่นอย่างนี้คิดว่าบริษัทมีความเสี่ยงแค่เท่าที่เห็นแต่จริงๆยังมีมากกว่านั้นครับ เพียงแต่คุณไม่ได้เอามาเป็น factor เองการไม่ซื้อถัวเฉลี่ยขาลงคือการที่ไม่ปล่อยให้การพลาดครั้งใดครั้งนึงมาทำให้เสียหายหนักมากเกินไป


รายละเอียดเรื่องนี้ผมอ่านเจอในการหนังสือ trader แล้วชอบมากแต่คงไม่พูดที่นี้เพราะชื่อเว็บนี้คือวีไอ แต่วันไหนว่างๆเราก็นัดเจอกันได้ครับพี่ป้อมเดี่ยวผมจะแชร์ให้ฟังว่าผมอ่านหนังสือ trader มาเกือบ 10 เล่มผมคิดว่ามันให้อะไรกับผมมากแค่ไหน
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
noooon010
Verified User
โพสต์: 2712
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 50

โพสต์

มีหลักการที่เหมาะกับตัวเราเองนะครับ
มีสติและมีความสุขกับการลงทุนครับ  :wink:
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ

มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม


นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 51

โพสต์

มาเล่าต่อ ว่างานมีทติ้งผมแชร์หุ้นอะไรที่ผมเจ็บหนักหุ้นที่ผมโดนเป็น % หนักที่สุดตั้งแต่เล่นหุ้นมาเลยคือ โพลีน
โดนไป 50% เหตุผลตอนซื้อก็คือได้ยินมาว่าบริษัทแห่งนึงจะมา take โพลีน โดย take ที่ราคา 40 บาท ซึ่งตอนนั้นโพลีน 25 บาท ผมก็เข้าไปดูว่าทำไมถึงน่า take ด้วยปรากฏว่าตอนนั้นคำนวน ev เทียบกับ asset ปรากฏว่า asset มากกว่า ev สองเท่าก็เลยคิดว่าคนเทคไปก็น่าจะโอเคนะเพราะได้ครองสินทรัพย์มูลค่าเป็นสองเท่าของมูลค่ากิจการ  :lol:

หลังจากซื้อไปไม่นานหุ้นก็ลงไป 22 ก็ที่บอกว่าน่าจะเทคก็ขายไปแล้ว แต่ผมคิดแบบโง่ๆว่าขายทำไมถ้า 25 น่าเทค 22 ก็โคตรน่าเทคดิ ผมนั่งคิดดูตอนนี้ผมว่ามันเป็นความคิดที่ไร้เดียงสาเหลือเกินปรากฏว่ามันลงไปเหลือ 12 ก็เลยคิดว่าอืม ไม่เอาแล้วก็เลยขายขาดทุนไป ตอนปลายปี 2008 มันก็ลงไปเหลือ 2 บาทถ้าผมไม่ขายนี้ลงไปตั้ง 90% ของทุนเลย

เลยมานั่งคิดว่าคิดเองเออเองนี้ตายแน่นอน หลังจากนั้นผมก็ไม่เคยขาดทุนกับอะไรมากถึง 50% อีกเลยเพราะไม่อยากจะเจออีก
มันเจ็บปวด  :cry:

เดี่ยวพรุ่งนี้ผมจะมาเล่าต่อขอไปดูงบบริษัทหลายๆที่ก่อนเดี่ยวตกรถเซียนแจ็คอุตส่าห์บอกตัวที่งบสวยๆกราฟสวยๆมาแล้วด้วย อิอิ
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
kanok891
Verified User
โพสต์: 145
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 52

โพสต์

thank you for good knowledge
ko
sphere
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 392
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 53

โพสต์

ผมว่าเรื่องที่คุณฮงได้จากการอ่านหนังสือtraderจะเขียนลงที่นี่ก็ไม่น่าผิดนะครับ ผมว่ามีหลายคนอยากจะฟัง ต่อให้มันไม่ใช่แนวทางของVIแต่ก็น่าจะได้แนวคิดอะไรบางอย่าง รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งครับ บางทีเราก็ต้องรู้ว่าคนอีกฟากของตลาดคิดอะไรอยู่
:D
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 54

โพสต์

pwz เขียน:ผมว่าเรื่องที่คุณฮงได้จากการอ่านหนังสือtraderจะเขียนลงที่นี่ก็ไม่น่าผิดนะครับ ผมว่ามีหลายคนอยากจะฟัง ต่อให้มันไม่ใช่แนวทางของVIแต่ก็น่าจะได้แนวคิดอะไรบางอย่าง รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งครับ บางทีเราก็ต้องรู้ว่าคนอีกฟากของตลาดคิดอะไรอยู่
:D

เรื่องนี้เอาไว้คุยนอกรอบดีกว่าครับ อิอิ
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 55

โพสต์

มีอีกเรื่องนึงที่อยากแชร์ให้ฟังและเป็นเรื่องสุดท้ายแล้วที่เตรียมมา

พอผมอยู่ในตลาดหุ้นนานขึ้นสิ่งนึงที่รู้สึกคือ เรารู้น้อยเพราะว่าเมื่อเราได้คุยกับคนเยอะๆแล้วเราได้รู้ว่าคนที่รู้อะไรลึกๆ มากๆ เขาวิเคราะห์ยังไงแล้วเราวิเคราะห์แค่ไหน เราก็จะรู้ตัวได้เองว่าจริงๆ เรารู้น้อย ทีนี้ผมทำยังไงเมื่อผมคิดยังงั้น ผมคิดว่าผมอยากจัดมีทติ้งโดยจัดเป็นกลุ่มเล็กเพราะจะสามารถคุยกันแบบเข้าถึงได้มากกว่ากลุ่มใหญ่ๆ


เวลาจัดกลุ่มคุยกันแล้วพูดว่าใครสนใจหุ้นตัวไหน ถ้าคนที่มาร่วมเป็นคนที่สามารถนำเสนอถึงประเด็นหลักๆของหุ้นได้อย่างถูกต้อง
ผมจำได้ว่าพี่ jung_oh เคยเสนอหุ้น vng ที่งานมีทติ้งของผมแล้วก็นำตัวเลขยอดส่งออกมาอธิบายว่าทำไมหุ้นถึง bottom ไปแล้ว
ผมฟังแล้วรู้สึกว่าน่าสนใจแฮะ vng แต่ตอนนั้นผมก็ยังไม่ได้ตามละเอียดหรอกเพราะว่าดูกำไรงวด 9 เดือนแล้วก็ยังไม่เห็นว่ามันจะฟื้นตัวจริงหรือเปล่า แต่พอกำไรไตรมาส 4 ประกาศออกมาทีเดียวโอ้โห ไม่อยากจะ said ฟื้นตัวชัดเจน และพอดีรุ่นพี่ที่ผมนับถือบอกว่ากราฟก็บอกให้ซื้อ ผมก็มาทบทวนเอกสารที่จดจากตอนไปมีทติ้งหุ้นว่ามีประเด็นไรบ้างที่เขาว่ามันเป็น highlight ก็ดูแล้วว่าอืม ผมสนใจ vng แฮะในตอนนั้นหลังจากซื้อไปซักพักผมก็ได้โทรไปปรึกษาพี่จัง ว่ายังมอง vng ยังไงบ้างอะไรทำนองนี้(เรื่อง vng เป็นเรื่องเมื่อหลายเดือนก่อนนะครับ เป็นการยกตัวอย่างในอดีตเท่านั้น)

ผมก็มานั่งคิดว่าบางทีถ้าเราได้แลกเปลี่ยน idea กับคนอื่นแล้วเราได้ฟังหุ้นที่เข้าท่าผ่านหูมาก่อน เราก็จะง่ายที่ไปเจาะประเด็นเพิ่มเติม ง่ายกว่าการที่เราไปอ่านเฉยๆในร้อยคนร้อยหุ้นแล้วไม่ได้ focus ที่ประเด็นไหนก่อน ที่เล่าเนี้ยคือจะสื่อว่าผมอยู่ในตลาดมา 5 ปีผมยังต้องจัดกิจกรรมเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นบ่อยๆเลย เพราะผมไม่หูตาสัปรดพอ ผมอยากรู้ว่าคนอื่นที่เก่งกว่าผมเขาคิดอะไรกันอยู่ สำหรับมือใหม่ผมคิดว่างานจิบเบียร์ tvi เป็นสิ่งที่มือใหม่ควรจะไปเป็นอย่างยิ่ง เวลาไปก็พยายามเดินให้รอบๆอย่ากระจุกตัวอยู่แค่โต๊ะใดโต๊ะนึงนานๆ เห็นเขาเข้าตาก็แนะนำตัวเอง

สมมุติว่าเดินไปโต๊ะนึงเห็นคนนี้พูดแล้วดูดีมากก็เข้าไปยิ้มให้เขาแล้วแนะนำตัวเองว่าดีครับ ผมชื่อ xxx yyy zzz ก็ว่าไปแล้วเวลา pm ถามเขาก็ได้แต่อย่าถามแบบนี้นะ พี่มองเป้าตัวนี้เท่าไหร่ (ผมเพิ่งถามคนนึงแบบนี้เจอดุกลับมาด้วย อุอุ)

อีกเรื่องนึงคือหลังจากมานั่งคิดว่าอยู่ในตลาดนานได้ข้อสังเกตุอะไรเพิ่มอีกก็คือว่าการที่รู้ว่าผู้บริหารคนไหนเชื่อได้ คนไหนเชื่อไม่ได้นี้สำคัญมาก บ้างคนบอกว่าอ่านในร้อยคนร้อยหุ้นย้อนหลัง กับดู clip oppday ย้อนหลังผมว่าช่วยได้เยอะ แต่มีประเด็นก็คือว่าอย่างในร้อยคนร้อยหุ้นผู้โพสก็จะกลัวว่าถ้าโพสว่าผู้บริหารไม่ค่อยโอเคเพราะเคยสัมผัสกับเหตุการณ์อะไรก็จะถูกฟ้องได้ หรือจะถูกเพื่อนสมาชิกที่ถือหุ้นอยู่ออกมารุมด่า เข้าทำนองเนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้นั่งเอากระดูกมแควนคอเพราะว่า ถ้าตัวเองรู้ว่าต้องระวังตรงไหนก็คงไม่ซื้อหรือถึงซื้อก็ไม่มองโลกในแง่ดีเกินไป แต่คนที่ถือหุ้นตัวนั้นอยู่จะโกรธมากถ้าโดนวิจารณ์โดยเฉพาะถ้าคนวิจารณ์เป็นเซียน เพราะกลัวว่าเซียนจะมาทำให้หุ้นตัวเองลง
ส่วน oppday ก็มีบริษัทอีกมากที่ไมได้ไป

ผมเองโชคดีได้รู้จักกับพี่คนนึงชื่อ j พี่เจเนี้ยอยู่ในตลาดมา 20 กว่าปีและเคยผ่าน ซัดดัม กับต้มยำกุ้งและเป็นเซียนกราฟด้วย
เวลาผมถามพี่ j ว่าหุ้นตัวนี้เป็นไง พี่ j จะบอกได้ทันทีว่าต้องระวังนะ เพราะตัวนี้สมัยก่อนมันเคยเอาเปรียบผู้ถือหุ้นยังไง ต้องต้มยำกุ้งมันเบี้ยวคนนุ่นคนนี้ ไม่ซื่อสัตย์ ผมก็นั่งคิดว่าถ้าพี่ j ไม่เล่าแล้วผมจะไปรู้ได้ไงฟะ เรื่องพวกนี้ แต่บางบริษัทพี่ j บอกเลยว่าบริษัทนี้เล่นได้นะ ราคานี้กราฟสวยด้วย ผู้บริหารโอเคนะ เพื่อนผมรู้จักตั้งแต่ก่อนเข้าตลาดอีกซื่อสัตย์ อะไรทำนองนี้ผมว่านี้เป็นสิ่งที่เราต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ที่อยู่มานาน

มือใหม่ถ้าได้รู้จักกับคนที่อยู่ในตลาดมานานก็จะดีมาก และคนที่อยู่มานานจะไม่ได้จำได้แค่ว่าใครเชื่อได้ เชื่อไม่ได้ แต่ยังรู้อีกว่าเวลาเกิดวิกฤติลำดับของการฟื้นตัวของภาวะอุตสาหกรรมจะเป็นยังไง และจะไม่ค่อยขายหมูเหมือนมือใหม่เพราะเคยเห็น cycle มาก่อน


จบแล้วครับเนื้อหาทั้งหมดที่อยากมาชวนคุยคิดว่าสิ่งที่โพสไปอาจจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
Birdigol
Verified User
โพสต์: 26
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 56

โพสต์

ได้ความรู้เพิ่มอีกแล้วครับ  :D

อยากสอบถามอ่ะครับ ถ้าอยากไปงานจิบเบียร์หรือว่างานมีทติ้งต่างๆที่พี่ๆจัดกัน แต่ผมไม่รู้จักใครเลย ผมควรจะทำยังไงดีอ่ะครับ เพราะว่าถ้าไปนั่งแล้วไม่รู้จักใครเลย ผมกลัวว่าเค้าจะไม่พูดด้วย มันก็ดูเคว้งๆยังไงก็ไม่รู้อ่ะครับ
noooon010
Verified User
โพสต์: 2712
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 57

โพสต์

^
^
มาช่วยตอบนะครับ น้องฮงคงไม่ว่ามั้ง

ผมว่า ถ้าเราไม่รู้จักใคร เราก็แค่เข้าไปคุยกับเค้าครับ
3 ปีก่อนผมก็ไม่รู้จักหุ้นเท่าไหร่เลย
เป็นตอนที่ ผมนึกว่า top คือ supermarket แห่งหนึ่ง
snc นี่ทำอะไรน่ะ เห็นคุณคนนู้นคนนี้พูดกันจัง

ผมว่า การเปิดใจที่จะพูดคุย ในที่สุดก็จะมีคนเปิดใจคุยกับเราเองครับ

ผมว่า มิตรภาพหาไม่ยาก ถ้าเรายินดีที่จะแบ่งสิ่งที่ สามารถแบ่งเท่าไหร่ก็ได้ อย่าง "มิตรภาพ" ให้กับผู้อื่นๆครับ

ส่วนถ้าไปคุยแล้ว เค้าไม่คุย

ก็แล้วแต่เค้านะครับ
มีนักลงทุนนิสัยน่ารักๆตั้งหลายคนในงานจิบเบียร์ครับ
(ได้ยินมา ผมไม่เคยไปนะครับ 555)
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ

มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม


นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
Todo
Verified User
โพสต์: 279
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 58

โพสต์

ขอบคุณมากครับที่นำความรู้มาแบ่งปัน
คุณฮงนี่ น่าคบเนอะ เท่าที่อ่านจากบทความนี่ แนวเดียวกันเลย อิอิ ไม่ทราบว่าจบวิดวะมาป่าวครับ
Notelio
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1018
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 59

โพสต์

ขอบคุณสำหรับ IDEA การลงทุนครับ   ส่วนตัวผมคิดว่าวิกฤตทุกครั้งสร้างโอกาสดีๆ ช่วงที่เกิดวิกฤตปี 51  ตอนนั้นมูลค่า port ที่ผมมีลดลงถึงเกือบ 60% ทั้งที่หุ้นที่ผมถือกำไรไม่ได้โดนกระทบอะไรเลย  สิ่งที่เปลี่ยนคือมุมมองของคนในตลาด ตอนนั้นหุ้นที่ผมถือคือ SVI กำไรต่อหุ้น .40 บาท แต่ตอนที่ตลาด panic สุดๆ  มันกลับลงมา floor ที่ราคาต่ำกว่า .80 บาท ที่แสบที่สุดคือมีบทวิเคราะห์ออกมาบอกให้ขาย ทั้งๆ ที่หุ้นตอนนั้น pe เหลือไม่ถึง 2 เท่า สุดท้ายพอเหตุการณ์ผ่านไปหุ้นที่ทำให้ผมขาดทุน 60% ตัวนั้นกลับทำให้ผมได้กำไร200 % ในปีถัดมา  ข้อคิดที่ผมได้มาก็คือ มุมมองการรับรู้ของคนมันเป็นเพียงสิ่งที่ mr market สร้างขึ้นในสถานการณ์ต่างๆ สิ่งที่เป็นของจริงคือ ผลประกอบการครับ ถ้ามันดีจริงเมื่อการรับรู้ของคนเข้าสู่ระดับปกติราคามันก็จะสะท้อนความเป็นจริงเองครับ
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0

ชวนคุย

โพสต์ที่ 60

โพสต์

noooon010 เขียน: เป็นตอนที่ ผมนึกว่า top คือ supermarket แห่งหนึ่ง
เหมือนคนเคยรู้จัก  ชอบกินสุกี้  เลยไปซื้อหุ้นที่มีชื่อเหมือนกัน

แทนที่จะเป็นเจ้าของร้านสุกี้  กลับเป็นเจ้าของบริษัทสร้างบ้านขายแทน   :lol:    :lol:
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี