อ่านข่าว IBM ขายธุรกิจเดสก์ทอป และแล๊ปท๊อป ให้แก่
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
อ่านข่าว IBM ขายธุรกิจเดสก์ทอป และแล๊ปท๊อป ให้แก่
โพสต์ที่ 3
อย่างนี้หมายความว่า จีนจะบุกตลาดอเมริกาด้านเทคโนโลยีแบบเต็มตัวแล้วหรือเปล่าครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
อ่านข่าว IBM ขายธุรกิจเดสก์ทอป และแล๊ปท๊อป ให้แก่
โพสต์ที่ 4
ไม่รู้เหมือนกันนะ แต่อ่านข่าวนี้ รู้สึกไปหลายแบบเลย
1. จีนนี่ทำไมเก่งจัง ขายทีวี ก็อันหนึ่งแซงญี่ปุ่นไปแล้ว ตอนนี้มาเรื่อง คอมพิวเตอร์อีก
2. ญี่ปุ่นเอง โดยส่วนตัวคิดว่าโดนอเมริกาโกงเห็นๆ คืออเมริกา เดาว่าน่าจะโดนแบ๊คอัพด้วยพวกยิวนะ( คิดเองเออเอง ) รู้สึกว่าอเมริกาเก่งเรื่องการเงินมาก ญี่ปุ่นส่งออกเยอะ มีเงินเยอะขนาดนี้ แต่แล้วในที่สุด บริษัทรถยนต์ใหญ่ๆ ในญี่ปุ่นกลายเป็นของอเมริกา ทำให้รู้สึกว่า สุดท้าย คนที่เก่งเรื่องเงินๆทองๆ + มีอาวุธอยู่ในมือจะครองโลก
3. กลับมามองที่จีน จีนเอง ก็เก่งเรื่องเงิน เก่งเรื่องเทคโนโลยี่ แถมมีอาวุธ
4. ชลอยหนังสือเกี่ยวกับนอสตราดามุส ที่บอกว่า จีนกับอเมริกา จะรบกัน หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มแรก ที่อ่านเกี่ยวกับนอสตราดามุส นานแล้ว ก่อนรัสเซียจะแตก ในหนังสือก็ทำนายว่า รัสเซียจะแตก เอแต่รู้สึกว่าไม่ใช่เล่ม ดร.เจริญนะ
1. จีนนี่ทำไมเก่งจัง ขายทีวี ก็อันหนึ่งแซงญี่ปุ่นไปแล้ว ตอนนี้มาเรื่อง คอมพิวเตอร์อีก
2. ญี่ปุ่นเอง โดยส่วนตัวคิดว่าโดนอเมริกาโกงเห็นๆ คืออเมริกา เดาว่าน่าจะโดนแบ๊คอัพด้วยพวกยิวนะ( คิดเองเออเอง ) รู้สึกว่าอเมริกาเก่งเรื่องการเงินมาก ญี่ปุ่นส่งออกเยอะ มีเงินเยอะขนาดนี้ แต่แล้วในที่สุด บริษัทรถยนต์ใหญ่ๆ ในญี่ปุ่นกลายเป็นของอเมริกา ทำให้รู้สึกว่า สุดท้าย คนที่เก่งเรื่องเงินๆทองๆ + มีอาวุธอยู่ในมือจะครองโลก
3. กลับมามองที่จีน จีนเอง ก็เก่งเรื่องเงิน เก่งเรื่องเทคโนโลยี่ แถมมีอาวุธ
4. ชลอยหนังสือเกี่ยวกับนอสตราดามุส ที่บอกว่า จีนกับอเมริกา จะรบกัน หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มแรก ที่อ่านเกี่ยวกับนอสตราดามุส นานแล้ว ก่อนรัสเซียจะแตก ในหนังสือก็ทำนายว่า รัสเซียจะแตก เอแต่รู้สึกว่าไม่ใช่เล่ม ดร.เจริญนะ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
อ่านข่าว IBM ขายธุรกิจเดสก์ทอป และแล๊ปท๊อป ให้แก่
โพสต์ที่ 6
เคยอ่านมานานแล้ว เป็นบทสรุป ค่ายรถยนต์ ญี่ปุ่นเกือบทุกค่าย 2 หน้าเต็ม มีรูปรถจากทุกค่ายเลย ที่มีต่างชาติเข้าไปถือหุ้น ไม่มากก็น้อย แต่ไม่ได้จดตัวเลขไว้ครับ
และหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจฉบับนั้นก็ไม่ได้เก็บไว้ ได้แต่จำไว้ว่า เราเก่งอย่างเดียวไม่ได้ เพราะโดนปล้นเอาง่ายๆ คือปล้นเอาหุ้นไปเลย
คงใช้วิธีเดียวกับวอเรน บัพเฟตมั๊ง
น่าจะเป็นช่วงที่ผ่านมา ที่แถวเอเชียมีปัญหาทางการเงิน ก็เลยเป็นโอกาสให้เม็ดเงินต่างชาติเข้าไปถือครองทรัพย์สินดีๆ
และหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจฉบับนั้นก็ไม่ได้เก็บไว้ ได้แต่จำไว้ว่า เราเก่งอย่างเดียวไม่ได้ เพราะโดนปล้นเอาง่ายๆ คือปล้นเอาหุ้นไปเลย
คงใช้วิธีเดียวกับวอเรน บัพเฟตมั๊ง
น่าจะเป็นช่วงที่ผ่านมา ที่แถวเอเชียมีปัญหาทางการเงิน ก็เลยเป็นโอกาสให้เม็ดเงินต่างชาติเข้าไปถือครองทรัพย์สินดีๆ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
อ่านข่าว IBM ขายธุรกิจเดสก์ทอป และแล๊ปท๊อป ให้แก่
โพสต์ที่ 7
แต่บริษัทยี่ปุ่นเข้าไปเทคโอเว่อร์บริษัทในสหรัฐฯเยอะทีเดียวนะครับ
เช่น Fuji merge กับ Xerox
Konica ก็ merge กับ Minolta
IBM ขาย HDD unit ให้ Toshiba ไปเมื่อปีที่แล้ว
(จริงๆ แล้วเป็นร่วมทุน แต่ Toshiba กุมเสียงใหญ่)
บริษัทซุปเปอร์บิ๊กอย่าง Canon ก็สามารถชิงอันดับหนึ่งของโลก
ในด้านเครื่องใช้สำนักงานจาก Xerox แชมป์เก่าอย่างสบายๆ
จนทำให้ Xerox ต้องยอมไปรวมกับ Fuji
หรือ Toyota ก็สามารถก้าวขึ้นเป็นอันดับสองของโลกในด้าน
ยอดขายรถยนต์ แซงหน้า Ford ขึ้นไปแล้ว และกำลังไล่จี้
GM อยู่ในขณะนี้
ถ้าเทียบทรัพยากรแล้ว ดูเหมือนญี่ปุ่นจะสามารถสร้าง empire
ทางเศรษฐกิจได้อย่างเหลือเชื่อเลยครับ
ส่วนจีนมีประชากรพันสองร้อยล้านคน ครอบครัวหนึ่งมีลูกได้
แค่ 1 หรืออย่างมาก 2 คน คิดเป็นราวๆ 350 ครัวเรือน
ด้วยระบอบการปกครองแบบสาธารณรัฐ ประชาชนส่วนใหญ่มี
รายได้ใกล้เคียงกัน ถ้า 80% มีทีวี 1 เครื่อง ก็ตก 280 ล้าน
เครื่องไปแล้ว ถ้าโดยเฉลี่ยเปลี่ยนโทรทัศน์ทุกๆ 5 ปี ก็ได้
ยอดขาวทีวีในประเทศ 56 ล้านเครื่องต่อปี
นี่คิดแบบ conservative สุดๆ นะครับ อเมริกาถึงอยากเจาะ
ตลาดผู้บริโภคจีนให้ได้ เพราะตลาด "ใหญ่มากๆ"
เช่น Fuji merge กับ Xerox
Konica ก็ merge กับ Minolta
IBM ขาย HDD unit ให้ Toshiba ไปเมื่อปีที่แล้ว
(จริงๆ แล้วเป็นร่วมทุน แต่ Toshiba กุมเสียงใหญ่)
บริษัทซุปเปอร์บิ๊กอย่าง Canon ก็สามารถชิงอันดับหนึ่งของโลก
ในด้านเครื่องใช้สำนักงานจาก Xerox แชมป์เก่าอย่างสบายๆ
จนทำให้ Xerox ต้องยอมไปรวมกับ Fuji
หรือ Toyota ก็สามารถก้าวขึ้นเป็นอันดับสองของโลกในด้าน
ยอดขายรถยนต์ แซงหน้า Ford ขึ้นไปแล้ว และกำลังไล่จี้
GM อยู่ในขณะนี้
ถ้าเทียบทรัพยากรแล้ว ดูเหมือนญี่ปุ่นจะสามารถสร้าง empire
ทางเศรษฐกิจได้อย่างเหลือเชื่อเลยครับ
ส่วนจีนมีประชากรพันสองร้อยล้านคน ครอบครัวหนึ่งมีลูกได้
แค่ 1 หรืออย่างมาก 2 คน คิดเป็นราวๆ 350 ครัวเรือน
ด้วยระบอบการปกครองแบบสาธารณรัฐ ประชาชนส่วนใหญ่มี
รายได้ใกล้เคียงกัน ถ้า 80% มีทีวี 1 เครื่อง ก็ตก 280 ล้าน
เครื่องไปแล้ว ถ้าโดยเฉลี่ยเปลี่ยนโทรทัศน์ทุกๆ 5 ปี ก็ได้
ยอดขาวทีวีในประเทศ 56 ล้านเครื่องต่อปี
นี่คิดแบบ conservative สุดๆ นะครับ อเมริกาถึงอยากเจาะ
ตลาดผู้บริโภคจีนให้ได้ เพราะตลาด "ใหญ่มากๆ"