อ่านแบบอาร์ตๆ : the decisive moment และ my stroke of insight
-
- Verified User
- โพสต์: 463
- ผู้ติดตาม: 0
อ่านแบบอาร์ตๆ : the decisive moment และ my stroke of insight
โพสต์ที่ 1
ผมคิดมานานแล้วว่า "สมอง" นี่น่าสนใจมาก
หากใครที่มีโอกาสได้ แบกบาล น่าจะเป็นประโยชน์ต่อชีวิตในทุกด้าน
แต่จะให้ผมไปนั่งอ่านตำรา ประสาทวิทยา ก็คงม่ายไหว
เลยลืมๆมันไป
แต่ช่วงนี้ไม่รู้เป็นไง ผุดบังเกิดสนใจขึ้นมาโดยมิมีเหตุผล
เจอเลยครับ ๒ เล่มเด็ดๆ
เมื่อศิษย์พร้อม อาจารย์จะมา......ฮ่า
the decisive moment, how the brain makes up its mind
new york times best seller
โดย jonah lehrer เป็น neuroscientist ทำงานในแล็บของนักประสาทวิทยา โนเบลไพรซ์ eric kandel
my stroke of insight, a brain scientist personal journy
โดย jill bolte taylor, ph.d.
เล่มแรก แบกบาลมนุษย์ด้วยผลการทดลองนับร้อย อ่านแล้ว อึ้ง
มะนุดหุ้นอย่างเรา ต้องอ่าน....ฮ่า
จะได้เข้าใจว่า ทำไมต้องจ่ายค่าเทอมเมื่อเริ่มเล่นหุ้น
ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงไม่คัทลอส
ทำไมถึงต้องใช้อารมณ์เล่นหุ้น เหตุผลอย่างเดียวไม่พอ :o
และอีกมากมาย
เล่มหลัง จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อนักวิทยาศาสตร์ทางสมองระดับด็อกเตอร์
เกิดโลหิตในสมองแตกซะเอง พูด เดิน ไม่ได้
แต่ขณะเดียวกัน เธอได้ประสบกับ nirvana ครับ
นิพพาน ขณะเส้นโลหิตในสมองแตก
น่าสนมั้ยล่ะ
หากใครที่มีโอกาสได้ แบกบาล น่าจะเป็นประโยชน์ต่อชีวิตในทุกด้าน
แต่จะให้ผมไปนั่งอ่านตำรา ประสาทวิทยา ก็คงม่ายไหว
เลยลืมๆมันไป
แต่ช่วงนี้ไม่รู้เป็นไง ผุดบังเกิดสนใจขึ้นมาโดยมิมีเหตุผล
เจอเลยครับ ๒ เล่มเด็ดๆ
เมื่อศิษย์พร้อม อาจารย์จะมา......ฮ่า
the decisive moment, how the brain makes up its mind
new york times best seller
โดย jonah lehrer เป็น neuroscientist ทำงานในแล็บของนักประสาทวิทยา โนเบลไพรซ์ eric kandel
my stroke of insight, a brain scientist personal journy
โดย jill bolte taylor, ph.d.
เล่มแรก แบกบาลมนุษย์ด้วยผลการทดลองนับร้อย อ่านแล้ว อึ้ง
มะนุดหุ้นอย่างเรา ต้องอ่าน....ฮ่า
จะได้เข้าใจว่า ทำไมต้องจ่ายค่าเทอมเมื่อเริ่มเล่นหุ้น
ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงไม่คัทลอส
ทำไมถึงต้องใช้อารมณ์เล่นหุ้น เหตุผลอย่างเดียวไม่พอ :o
และอีกมากมาย
เล่มหลัง จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อนักวิทยาศาสตร์ทางสมองระดับด็อกเตอร์
เกิดโลหิตในสมองแตกซะเอง พูด เดิน ไม่ได้
แต่ขณะเดียวกัน เธอได้ประสบกับ nirvana ครับ
นิพพาน ขณะเส้นโลหิตในสมองแตก
น่าสนมั้ยล่ะ
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 463
- ผู้ติดตาม: 0
อ่านแบบอาร์ตๆ : the decisive moment และ my stroke of insight
โพสต์ที่ 2
the decisive moment
หนังสือเล่มนี้เขาพยายาม หาคำตอบของ ๒ คำถาม
๑ how do we make decisions ?
๒ how can we make better ones ?
ผมยกเป็นแซมเปิ้ลซักหน่อย
ผลการทดลองพบว่า มะนุดไม่ได้เป็นสัตว์ประเสริฐอะไรหรอก !!!!!!
มะนุดนี่ เจ้าอารมณ์ตัวแม่เลย โดยที่เขาไปศึกษา ofc ของสมอง(ม่ายต้อง
ไปรู้มันหรอกว่าอยู่ตรงไหน ฮ่า) แล้วผลก็ออกมาว่า
while plato and freud would have sugged that the job of the ocd was to protect us from our emotion, to fortify reason against feeling,
its actual function is precisely the opposite.
from the perspective of the human brain, homosapiens is the most
emotional animal of all
เมื่อคนไข้ถูกมะเร็งทำลายสมองส่วน cortex คนไข้ felt nothing , no emption เช่น
ดูรูปโป๊ไม่เกิดอารมณ์ แล้วผลที่ตามมานี่ มหาศาลครับ
คนไข้ตัดสินใจไม่ได้ !!!
emotion are crucial part part of our feeling, the most banal decisions
became impossible . a brain that can't feeling can't make up its mind
แค่บทแรกก็ ค้านความรู้เดิมๆแล้วครับ
หนังสือเล่มนี้เขาพยายาม หาคำตอบของ ๒ คำถาม
๑ how do we make decisions ?
๒ how can we make better ones ?
ผมยกเป็นแซมเปิ้ลซักหน่อย
ผลการทดลองพบว่า มะนุดไม่ได้เป็นสัตว์ประเสริฐอะไรหรอก !!!!!!
มะนุดนี่ เจ้าอารมณ์ตัวแม่เลย โดยที่เขาไปศึกษา ofc ของสมอง(ม่ายต้อง
ไปรู้มันหรอกว่าอยู่ตรงไหน ฮ่า) แล้วผลก็ออกมาว่า
while plato and freud would have sugged that the job of the ocd was to protect us from our emotion, to fortify reason against feeling,
its actual function is precisely the opposite.
from the perspective of the human brain, homosapiens is the most
emotional animal of all
เมื่อคนไข้ถูกมะเร็งทำลายสมองส่วน cortex คนไข้ felt nothing , no emption เช่น
ดูรูปโป๊ไม่เกิดอารมณ์ แล้วผลที่ตามมานี่ มหาศาลครับ
คนไข้ตัดสินใจไม่ได้ !!!
emotion are crucial part part of our feeling, the most banal decisions
became impossible . a brain that can't feeling can't make up its mind
แค่บทแรกก็ ค้านความรู้เดิมๆแล้วครับ
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 463
- ผู้ติดตาม: 0
อ่านแบบอาร์ตๆ : the decisive moment และ my stroke of insight
โพสต์ที่ 3
สมอง กับการ เดาธง (ขอยืมคำเฮียนันหน่อย :lol: )
มันชื่อเซลสมอง dopamine
เขาทดลองกับลิง เสียงออดดัง รอสองสามวิ แล้วน้ำผลไม้จะหยดใส่ปากลิง
ตอนแรก dopamine ในสมองลิง จะมีปฏิกิริยา ต่อเมื่อน้ำผลไม้หยด
แต่หลังจากลิงเรียนรู้ว่า น้ำผลไม้จะหยด ต่อเมื่อหลังเสียงออด
เจ้าเซล dopamine มันก็เปลี่ยนปฏิกิริยา ครับ!!!
มันไปมีปฏิกิริยาต่อ เสียงออด แทน
นักวิทยาศาสตร์เรียกมันว่า "prediction neurons"
they were more concerned with predicting rewards than actually receiving them
เฮียนัน เดาธง แกมีบุญ คงมี dopamine อันโต :lol:
แต่ผมมีข่าวดี
ความสามารถอันนี้ ฝึกได้ !!!
มันชื่อเซลสมอง dopamine
เขาทดลองกับลิง เสียงออดดัง รอสองสามวิ แล้วน้ำผลไม้จะหยดใส่ปากลิง
ตอนแรก dopamine ในสมองลิง จะมีปฏิกิริยา ต่อเมื่อน้ำผลไม้หยด
แต่หลังจากลิงเรียนรู้ว่า น้ำผลไม้จะหยด ต่อเมื่อหลังเสียงออด
เจ้าเซล dopamine มันก็เปลี่ยนปฏิกิริยา ครับ!!!
มันไปมีปฏิกิริยาต่อ เสียงออด แทน
นักวิทยาศาสตร์เรียกมันว่า "prediction neurons"
they were more concerned with predicting rewards than actually receiving them
เฮียนัน เดาธง แกมีบุญ คงมี dopamine อันโต :lol:
แต่ผมมีข่าวดี
ความสามารถอันนี้ ฝึกได้ !!!
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 463
- ผู้ติดตาม: 0
อ่านแบบอาร์ตๆ : the decisive moment และ my stroke of insight
โพสต์ที่ 4
จ่ายค่าเทอม
สมองมะนุด ทำงานแบบ "ผิดเป็นครู" ครับ
เซลสมองจะทำการคาดการว่า...อะไรจะเกิดขึ้น
และแล้วก็จะ...วัด...ความแตกต่างระหว่าง ."ความคาดหวัง" กับ "ผลที่เกิดขึ้น" เมื่อการคาดการ ผิด เจ้าประสาท dopamine จะหยุดปฏิกิริยา
ถ้าคาดการณ์ถูก ประสาทต่างๆที่ติดต่อกันจะถูกเสริมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
สมองจะทำงานดังนี้ตลอดเวลา โดยการ learning by mistakes
even when we think we know nothing, our brain know something.
that 's what our feelings are trying to tell us
they translate these predictions into emotion
let's say that you are given lots of information about how 20 different stocks have performed over a period of time . you'll soon
discover that you have difficulty remembering all the financial data.
if somrbody asks you which stocks performed best, you'll probably
be unable to give a good answer.
you can't process all the information . however, if you're asked which stocks trigger the best feelings- your emotional brain is now
being quizzed, you'll suddenly be able to identify the best stocks.
ผิดเป็นครู นี่สำคัญมากนะครับ โดยเฉพาะถ้าใครจะสอนลูก หรือเด็ก
จากการทดลอง ชมเด็กว่าเก่งมาก เก่งที่สุด จะทำให้เด็กมีการพัฒนาน้อย
แต่ถ้าเป็นการชมว่า ดีกว่าเดิม ดีขึ้น เด็กจะดีขึ้น พัฒนาขึ้นมาก
แต่เขาก็บอกว่า ต้องรู้ว่าเมื่อไหร่จะใช้ feeling เมื่อไหร่จะใช้ เหตุผล
เขามีแนะอยุ่ด้วย
สมองมะนุด ทำงานแบบ "ผิดเป็นครู" ครับ
เซลสมองจะทำการคาดการว่า...อะไรจะเกิดขึ้น
และแล้วก็จะ...วัด...ความแตกต่างระหว่าง ."ความคาดหวัง" กับ "ผลที่เกิดขึ้น" เมื่อการคาดการ ผิด เจ้าประสาท dopamine จะหยุดปฏิกิริยา
ถ้าคาดการณ์ถูก ประสาทต่างๆที่ติดต่อกันจะถูกเสริมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
สมองจะทำงานดังนี้ตลอดเวลา โดยการ learning by mistakes
even when we think we know nothing, our brain know something.
that 's what our feelings are trying to tell us
they translate these predictions into emotion
let's say that you are given lots of information about how 20 different stocks have performed over a period of time . you'll soon
discover that you have difficulty remembering all the financial data.
if somrbody asks you which stocks performed best, you'll probably
be unable to give a good answer.
you can't process all the information . however, if you're asked which stocks trigger the best feelings- your emotional brain is now
being quizzed, you'll suddenly be able to identify the best stocks.
ผิดเป็นครู นี่สำคัญมากนะครับ โดยเฉพาะถ้าใครจะสอนลูก หรือเด็ก
จากการทดลอง ชมเด็กว่าเก่งมาก เก่งที่สุด จะทำให้เด็กมีการพัฒนาน้อย
แต่ถ้าเป็นการชมว่า ดีกว่าเดิม ดีขึ้น เด็กจะดีขึ้น พัฒนาขึ้นมาก
แต่เขาก็บอกว่า ต้องรู้ว่าเมื่อไหร่จะใช้ feeling เมื่อไหร่จะใช้ เหตุผล
เขามีแนะอยุ่ด้วย
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 463
- ผู้ติดตาม: 0
อ่านแบบอาร์ตๆ : the decisive moment และ my stroke of insight
โพสต์ที่ 7
losses & gains
จากการทดลอง เทื่อมะนุดต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน แต่ละคนมักจะไม่ระมัดระวังในการประเมินค่า ตีราคา ข้อมูล หรือพิจารณาความเป็นไปได้ หรือ คิดให้มากขึ้น
ผู้คนมักจะ ตัดสินใจโดยสิ่งย่อๆของ
-emotion
-instincts
- mental shortcuts
และไอ้ ช็อตคัท นี่ ไม่ใช่การคำนวณแบคร่าวๆ นะครับ
.......มันคือ การข้ามการคำนวณไปเลย.........ฮ่า ฮ่า ฮ่า
in human decision making, losses loom larger than gains
stock market กับ premium equity puzzle
จากข้อมูลในอดีต หุ้นจะให้ผลตอบแทนดีกว่า บอนด์ ประมาณ ๗ เท่า
ใครๆก็รู้ แต่ทำไมคนส่วนมากถึงลงทุนในบอนด์ มากกว่าหุ้น นี่คือ puzzle
ทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์แบบคลาสสิคไม่สามารถอธิบายได้
ขนาด harry markowitz นักเศรษฐศาสตร์ระดับ โนเบลไพรซ์ ผู้ซึ่งคิดค้น
the field of investment portfolio theory แต่เวลาแฮรี่ลงทุน แทนที่แฮรี่จะลงทุนจากทฤษฎีของตัวเอง จากพื้นฐานทางคณิตศาสตร์
เขากลับลงทุนในหุ้น และ บอนด์ อย่างละครึ่ง
ฮ่าๆ
investors buy bonds because they hate losing money, and bonds are a safe bet
หรือ นักลงทุนชอบ to sell stocks that have increased in value ซึ่งในover the long term, this strategy is exceedingly foolish !!!!!
and tend to hold losing stocks twice as long as winning stock
ทำไม
because he is afraid to take a loss - it feels bad
we try to postpone the pain for as long as possible
the result is more losses
มีการทดลอง เล่นเกมส์ลงทุน โดยคนไข้ทางสมองที่ไม่สามkรถมีประสพการณ์ทางอารมณ์ได้ กับ คนธรรมดา
ผลออกมาว่า คนไข้ที่ไร้อารมณ์กลับมีการลงทุนที่ดี เวลาพวกเขาเสีย จะไม่มีผลต่อการตัดสินใจเหมือนคนปกติ พวกเขากลับลงทุนเพิ่ม เพราะ they realized that investing was the best way recoup their losses
in this investing situation, having no emotions was a crucial adventage
for the human mind, bad is stronger than good
จากการทดลอง เทื่อมะนุดต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน แต่ละคนมักจะไม่ระมัดระวังในการประเมินค่า ตีราคา ข้อมูล หรือพิจารณาความเป็นไปได้ หรือ คิดให้มากขึ้น
ผู้คนมักจะ ตัดสินใจโดยสิ่งย่อๆของ
-emotion
-instincts
- mental shortcuts
และไอ้ ช็อตคัท นี่ ไม่ใช่การคำนวณแบคร่าวๆ นะครับ
.......มันคือ การข้ามการคำนวณไปเลย.........ฮ่า ฮ่า ฮ่า
in human decision making, losses loom larger than gains
stock market กับ premium equity puzzle
จากข้อมูลในอดีต หุ้นจะให้ผลตอบแทนดีกว่า บอนด์ ประมาณ ๗ เท่า
ใครๆก็รู้ แต่ทำไมคนส่วนมากถึงลงทุนในบอนด์ มากกว่าหุ้น นี่คือ puzzle
ทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์แบบคลาสสิคไม่สามารถอธิบายได้
ขนาด harry markowitz นักเศรษฐศาสตร์ระดับ โนเบลไพรซ์ ผู้ซึ่งคิดค้น
the field of investment portfolio theory แต่เวลาแฮรี่ลงทุน แทนที่แฮรี่จะลงทุนจากทฤษฎีของตัวเอง จากพื้นฐานทางคณิตศาสตร์
เขากลับลงทุนในหุ้น และ บอนด์ อย่างละครึ่ง
ฮ่าๆ
investors buy bonds because they hate losing money, and bonds are a safe bet
หรือ นักลงทุนชอบ to sell stocks that have increased in value ซึ่งในover the long term, this strategy is exceedingly foolish !!!!!
and tend to hold losing stocks twice as long as winning stock
ทำไม
because he is afraid to take a loss - it feels bad
we try to postpone the pain for as long as possible
the result is more losses
มีการทดลอง เล่นเกมส์ลงทุน โดยคนไข้ทางสมองที่ไม่สามkรถมีประสพการณ์ทางอารมณ์ได้ กับ คนธรรมดา
ผลออกมาว่า คนไข้ที่ไร้อารมณ์กลับมีการลงทุนที่ดี เวลาพวกเขาเสีย จะไม่มีผลต่อการตัดสินใจเหมือนคนปกติ พวกเขากลับลงทุนเพิ่ม เพราะ they realized that investing was the best way recoup their losses
in this investing situation, having no emotions was a crucial adventage
for the human mind, bad is stronger than good
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ