เที่ยวแบบ อาร์ตๆ.....ตอน sevilla เมืองส้ม
-
- Verified User
- โพสต์: 463
- ผู้ติดตาม: 0
เที่ยวแบบ อาร์ตๆ.....ตอน sevilla เมืองส้ม
โพสต์ที่ 1
เคยไปเที่ยวประเภทปุบปับก็คว้ากระเป๋า ก้าวลงบันได ไปทันทีไหม ?
สนุกดีนะครับ
พอน้องจ๋า คนรู้จักกัน เธอบอกว่าเมือง
เซวิลญ่า ประเทศสเปน น่าเที่ยว
ยังไม่ทันรู้เรื่องรู้ราวอะไรทั้งนั้น รู้สึกตัวอีกทีผมก็นั่งอยู่บนรถแท็กซี่จากสนาม
บินเข้าเมืองเซวิลญ่าซะแล้ว !!!
ลุงโชเฟอร์แกเห็นไอ้หมอนี่ทำหน้างงๆ แกเลยเปิดซีดีเป็นเพลงสเปนในจังหวะ
แทงโก้ พร้อมกับอธิบายยาวเหยียดว่า นี่ๆ เพลงนี้เอาไว้สำหรับเต้นระบำฟลาเมงโก้นะ
โน่นๆเห็นไหมซากโบราณสถานตั้งแต่สมัยโรมันเชียวนะ นั่นๆ เห็นไหม ต้นส้มต้นไม้
ประจำเมืองเซวิลญ่า
ที่ว่ามาน่ะแกล่อเป็นภาษาสเปนล้วนๆครับ แล้วผมก็ไม่รู้ภาษาสเปนกะเขาเลย
ซักคำ ที่เขียนๆข้างบนนั้น ก็เดาๆเอา.......ฮ่า
แต่ที่เข้าใจชัดเจนแจ่มแจ้งแดงแจ๋ก็คือ ส้มครับ ส้มแบบส้มเขียวหวานนี่แหละ
แต่ที่นี่ลูกสีส้มแปร๋นเห็นแต่ไกล ลูกใหญ่กว่าบ้านเรา และที่น่าตื่นตาตื่นใจก็คือ เป็นส้ม
พันธุ์ยักษ์ต้นสูงท่วมหัว และลูกดก เลยกลายเป็นต้นไม้ให้ร่มเงาไปด้วยในตัว
และคุณพี่สเปนเขาเล่นปลูกกันเป็นแนวตามฟุตบาท เหมือนบ้านเราปลูกชมภู
พันธุ์ทิพย์หรือมะขามตามท้องสนามหลวง แต่เขาเด็ดกว่าก็คือ ไม่ว่าจะฟุตบาท สวน
สาธารณะ วัด โบสถ์ โรงเรียน สถานที่ราชการ บ้านเรือน พร้อมหน้า พร้อมตา ปลูกกัน
พรึ่บทั่วเมือง
เป็นไง เห็นประโยชน์ของการปุบปับเที่ยวไหมครับ แค่เจอต้นส้มก็ตื่นเต้น
แล้ว !!!!
ผมก็จินตนาการเพลินๆไปว่า เออ ! ถ้านครปฐมปลูกส้มโอกันทั้งเมือง
จะเป็นยังไงนะ หรือจะเป็นเมืองจันทบุรีที่เดินไปไหนก็มีแต่ต้นทุเรียนขึ้นทุกตรอก
ซอกซอย ยิ่งนึกถึงตอนทุเรียนงอมได้ที่กันทั้งเมืองแล้ว แหมได้หมด รูป รส กลิ่น
เสียง ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ฝันยังไม่ทันสะเด็ด ถึงที่พักซะแล้ว
ตอนคิดเงินค่าแท็กซี่ ลุงบอก ๓๕ ยูโร ผมคำนวณในใจมันน่าจะแค่ ๒๕
ยูโรเอง แต่ก็ควักให้ไปตามที่ลุงเรียก เพราะนึกขึ้นได้ว่า อีก ๑๐ ยูโร เป็นค่าไกด์ภาษา
ท้องถิ่น
นี่ก็เป็นความตื่นเต้นของการเที่ยวแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวเหมือนกัน
ที่พักที่ผมหาได้เป็น hostel ราคาประหยัด แต่เขาทำให้ออกมาดูดีมีสเปน
ความจริงตัวอาคารดูภายนอกก็เหมือนตึกแถวทั่วๆไป แต่เขามีลูกเล่นใน
การออกแบบ ก็ง่ายๆครับ เอาสถาปัตยกรรมท้องถิ่นมาใช้ โดยการเจาะช่องทำเป็นคอร์ต
ทำเป็นสวนหรือลานเล็กๆกลางอาคาร
ให้แสงสว่าง ให้อากาศถ่ายเท ให้มีมุมสวยๆ อยู่ในใจกลางอาคาร
เติมด้วยการปะผนังด้วยกระเบื้องเซรามิคลวดลายแบบมุสลิมแขกมัวร์ ที่
มีลักษณะแบบลวดลายเรขาคณิตนั่นแหละครับ แปะเข้าไปตรงโน้นนิด ตรงนี้หน่อย
แค่นี้ตึกแถวก็กลายป็น วังสเปนน้อยๆ
แนวความคิดแบบนี้เอามาใช้ที่เมืองไทยได้นะครับ
เซวิลญ่า ส่วนที่เป็นเมืองเก่านั้น น่าเที่ยว น่าชม มาก
ตรอกเล็กๆ ต้นส้มยักษ์ๆ สถาปัตยกรรมแบบแขกมัวร์(มุสลิมจากอัฟริกา
ตอนเหนือที่เข้ามายึดสเปนอยู่สมัยหนึ่ง) คอร์ตหรือลานหรือสวนกลางอาคาร โบสถ์ใหญ่ๆ
โบราณสถานมากมาย และลวดลายรูปแบบเรขาคณิตในการตกแต่งประดับประดาอาคาร
เดินเที่ยวกันได้ไม่รู้เบื่อ
เดินไปเดินมา ผมก็ได้ความตื่นเต้นอีกเรื่องหนึ่งว่า คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส
(พ.ศ.๑๙๙๔-๒๐๔๙) ที่ค้นพบทวีปอเมริกานั้น เดินทางไปๆมาๆมากมาย
สุดท้ายกระดูกของเฮียแกก็มาอยู่ที่เซวิลญ่านี่เอง ทองที่แกขนมาจากทวีป
อเมริกาก็ยังอร่ามอยู่ที่โบสถ์ใหญ่ประจำเมือง
ว่ากันว่า โคลัมบัสเกิดที่อิตาลี แต่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ที่โปรตุเกสและสเปน
ในสมัยโคลัมบัสนั้นคนทั่วไปบนโลกนี้ยังคิดว่าโลกเรายังแบนอยู่นะครับ
แต่โคลัมบัสเชื่อว่าโลกกลม
สมัยนั้นถ้าเทียบกับของไทยก็ราวๆสมัยอยุธยาในรัชกาลสมเด็จพระบรม
ไตรโลกนาถถึงสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๓ ช่วงนั้นคนไทยอยุธยากับคนไทยล้านนากำลัง
ชุลมุนชุลเกกันอยู่ ถึงขนาดต้องตั้งราชธานีอีกแห่งที่พิษณุโลกขึ้น เพื่อเอาไว้รบกันเอง
โดยเฉพาะ ผมเข้าใจเอาเองว่าคนไทยคงไม่มีเวลามาคิดว่าโลกจะแบนหรือโลกจะกลม
คนดังของไทยในรุ่นราวเดียวกับโคลัมบัสก็คือบุรุษที่เรารู้จักกันดี
เขาผู้นั้นคือ ขุนแผน
(สันนิษฐานกันว่า สมเด็จพระพันวษาในวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผน
นั้นคือสมเด็จพระรามาธิบดีที่๓ )
ขณะที่ขุนแผนถูกส่งไปสู้รบปรบมือกับนางลาวทองทางภาคเหนือนั้น
โคลัมบัสแกอ่านบันทึกของมาร์โคโปโลที่เดินทางไปสำรวจจีน อินเดีย ทางบก และเฮียแก
เชื่อว่าโลกกลม ประกอบกับความเป็นนักเดินเรือ
เฮียบัสจึงอยากเดินเรือจากยุโรปไปเอเชียในทางทิศตะวันตกโดยข้าม
มหาสมุทรแอตแลนติคทั้งมหาสมุทรว่างั้นเถอะ
สมัยนั้นแค่คิดก็ยากแล้วนะครับ เพราะคนกลัวกันว่าแล่นๆไป เรือใบ
จะไปหล่นปุ๊ตกโลกเอาตรงไหนก็ไม่รู้ แต่แกก็พยายามเป็นสิบๆปีเพราะต้องหาข้อมูล
และทุนรอน ไปขอความช่วยเหลือใครเขาก็ไม่ให้จนปี พ.ศ. ๒๐๓๕ พระเจ้า
เฟอร์ดินันท์ และพระนางอิซาเบลแห่งสเปนก็พระราชทานทุนทรัพย์ให้ออกเดินทาง
วันที่ ๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๐๓๕ โคลัมบัสก็ได้เหยียบทวีปอเมริกาเป็น
ครั้งแรก
ต้องบอกกันซักนิดนะครับ ว่าทวีปอเมริกานะ ไม่ใช่ประเทศอเมริกา
เพราะดินแดนที่แกไปพบนั้น คือประเทศในหมู่เกาะแคริเบียนในปัจจุบัน
ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอเมริกา อาทิเช่น บาร์บาโดส โดมินิกัน กัวดาลูป
เปอร์โตริโก คิวบา และไฮติ ที่เพิ่งโดน แผ่นดินไหวไปเมื่อต้นปีนี้
แต่อนิจจา เฮียบัสแกไม่รู้เลยว่านี่คือทวีปอเมริกา แกคิดอยู่เสมอว่า
ดินแดนที่แกเจอคือหมู่เกาะของอินเดีย หรือทวีปเอเชียตามเป้าหมายการเดินทาง
ตั้งแต่ต้น
แม้กระทั่งแกเดินทางไปอีก ๒ ครั้ง แกก็ยังเข้าใจผิดเช่นเดิมจนแกตาย
ผมนับถือเฮียแก ไม่ใช่เพราะเป็นคนแรกที่ค้นพบทวีปอเมริกาหรอก
แต่เป็นเพราะว่านับถือในความมุ่งมั่นของแกที่เชื่อในการวิเคราะห์ของตัวเอง
และกล้าที่จะคิดแย้งกับคนทั่วไป รวมทั้งลงมือทำให้ประจักษ์แก่สายตา
ไม่นึกเลยว่าเที่ยวแบบไปลุยเอาดาบหน้า ก็ได้อะไรดีๆเหมือนกัน
ก่อนลาจากเซวิลญ่า ผมก็ตะหงิดๆอยู่ในใจ สงสัยมาหลายวันแล้วว่า เจ้าส้มยักษ์
ลูกดกเต็มต้นสะพรั่งไปทั่วเมืองนั้น ทำไมไม่เห็นมีคนเก็บเอาไปกิน คนสเปนนี่
นิสัยดีไม่ลักขโมยของสาธารณะกันหรือยังไง ?
ผมเลยสวมวิญญาณโคลัมบัส ทำการพิสูจน์ส้มเซวิลญ่าด้วยการแอบ
เด็ดเอามาปอกกินหนึ่งลูกกลมโต
อื้อฮือ !!! อภิมหาโคตะระเปรี้ยวเลย ขอบอก
สนุกดีนะครับ
พอน้องจ๋า คนรู้จักกัน เธอบอกว่าเมือง
เซวิลญ่า ประเทศสเปน น่าเที่ยว
ยังไม่ทันรู้เรื่องรู้ราวอะไรทั้งนั้น รู้สึกตัวอีกทีผมก็นั่งอยู่บนรถแท็กซี่จากสนาม
บินเข้าเมืองเซวิลญ่าซะแล้ว !!!
ลุงโชเฟอร์แกเห็นไอ้หมอนี่ทำหน้างงๆ แกเลยเปิดซีดีเป็นเพลงสเปนในจังหวะ
แทงโก้ พร้อมกับอธิบายยาวเหยียดว่า นี่ๆ เพลงนี้เอาไว้สำหรับเต้นระบำฟลาเมงโก้นะ
โน่นๆเห็นไหมซากโบราณสถานตั้งแต่สมัยโรมันเชียวนะ นั่นๆ เห็นไหม ต้นส้มต้นไม้
ประจำเมืองเซวิลญ่า
ที่ว่ามาน่ะแกล่อเป็นภาษาสเปนล้วนๆครับ แล้วผมก็ไม่รู้ภาษาสเปนกะเขาเลย
ซักคำ ที่เขียนๆข้างบนนั้น ก็เดาๆเอา.......ฮ่า
แต่ที่เข้าใจชัดเจนแจ่มแจ้งแดงแจ๋ก็คือ ส้มครับ ส้มแบบส้มเขียวหวานนี่แหละ
แต่ที่นี่ลูกสีส้มแปร๋นเห็นแต่ไกล ลูกใหญ่กว่าบ้านเรา และที่น่าตื่นตาตื่นใจก็คือ เป็นส้ม
พันธุ์ยักษ์ต้นสูงท่วมหัว และลูกดก เลยกลายเป็นต้นไม้ให้ร่มเงาไปด้วยในตัว
และคุณพี่สเปนเขาเล่นปลูกกันเป็นแนวตามฟุตบาท เหมือนบ้านเราปลูกชมภู
พันธุ์ทิพย์หรือมะขามตามท้องสนามหลวง แต่เขาเด็ดกว่าก็คือ ไม่ว่าจะฟุตบาท สวน
สาธารณะ วัด โบสถ์ โรงเรียน สถานที่ราชการ บ้านเรือน พร้อมหน้า พร้อมตา ปลูกกัน
พรึ่บทั่วเมือง
เป็นไง เห็นประโยชน์ของการปุบปับเที่ยวไหมครับ แค่เจอต้นส้มก็ตื่นเต้น
แล้ว !!!!
ผมก็จินตนาการเพลินๆไปว่า เออ ! ถ้านครปฐมปลูกส้มโอกันทั้งเมือง
จะเป็นยังไงนะ หรือจะเป็นเมืองจันทบุรีที่เดินไปไหนก็มีแต่ต้นทุเรียนขึ้นทุกตรอก
ซอกซอย ยิ่งนึกถึงตอนทุเรียนงอมได้ที่กันทั้งเมืองแล้ว แหมได้หมด รูป รส กลิ่น
เสียง ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ฝันยังไม่ทันสะเด็ด ถึงที่พักซะแล้ว
ตอนคิดเงินค่าแท็กซี่ ลุงบอก ๓๕ ยูโร ผมคำนวณในใจมันน่าจะแค่ ๒๕
ยูโรเอง แต่ก็ควักให้ไปตามที่ลุงเรียก เพราะนึกขึ้นได้ว่า อีก ๑๐ ยูโร เป็นค่าไกด์ภาษา
ท้องถิ่น
นี่ก็เป็นความตื่นเต้นของการเที่ยวแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวเหมือนกัน
ที่พักที่ผมหาได้เป็น hostel ราคาประหยัด แต่เขาทำให้ออกมาดูดีมีสเปน
ความจริงตัวอาคารดูภายนอกก็เหมือนตึกแถวทั่วๆไป แต่เขามีลูกเล่นใน
การออกแบบ ก็ง่ายๆครับ เอาสถาปัตยกรรมท้องถิ่นมาใช้ โดยการเจาะช่องทำเป็นคอร์ต
ทำเป็นสวนหรือลานเล็กๆกลางอาคาร
ให้แสงสว่าง ให้อากาศถ่ายเท ให้มีมุมสวยๆ อยู่ในใจกลางอาคาร
เติมด้วยการปะผนังด้วยกระเบื้องเซรามิคลวดลายแบบมุสลิมแขกมัวร์ ที่
มีลักษณะแบบลวดลายเรขาคณิตนั่นแหละครับ แปะเข้าไปตรงโน้นนิด ตรงนี้หน่อย
แค่นี้ตึกแถวก็กลายป็น วังสเปนน้อยๆ
แนวความคิดแบบนี้เอามาใช้ที่เมืองไทยได้นะครับ
เซวิลญ่า ส่วนที่เป็นเมืองเก่านั้น น่าเที่ยว น่าชม มาก
ตรอกเล็กๆ ต้นส้มยักษ์ๆ สถาปัตยกรรมแบบแขกมัวร์(มุสลิมจากอัฟริกา
ตอนเหนือที่เข้ามายึดสเปนอยู่สมัยหนึ่ง) คอร์ตหรือลานหรือสวนกลางอาคาร โบสถ์ใหญ่ๆ
โบราณสถานมากมาย และลวดลายรูปแบบเรขาคณิตในการตกแต่งประดับประดาอาคาร
เดินเที่ยวกันได้ไม่รู้เบื่อ
เดินไปเดินมา ผมก็ได้ความตื่นเต้นอีกเรื่องหนึ่งว่า คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส
(พ.ศ.๑๙๙๔-๒๐๔๙) ที่ค้นพบทวีปอเมริกานั้น เดินทางไปๆมาๆมากมาย
สุดท้ายกระดูกของเฮียแกก็มาอยู่ที่เซวิลญ่านี่เอง ทองที่แกขนมาจากทวีป
อเมริกาก็ยังอร่ามอยู่ที่โบสถ์ใหญ่ประจำเมือง
ว่ากันว่า โคลัมบัสเกิดที่อิตาลี แต่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ที่โปรตุเกสและสเปน
ในสมัยโคลัมบัสนั้นคนทั่วไปบนโลกนี้ยังคิดว่าโลกเรายังแบนอยู่นะครับ
แต่โคลัมบัสเชื่อว่าโลกกลม
สมัยนั้นถ้าเทียบกับของไทยก็ราวๆสมัยอยุธยาในรัชกาลสมเด็จพระบรม
ไตรโลกนาถถึงสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๓ ช่วงนั้นคนไทยอยุธยากับคนไทยล้านนากำลัง
ชุลมุนชุลเกกันอยู่ ถึงขนาดต้องตั้งราชธานีอีกแห่งที่พิษณุโลกขึ้น เพื่อเอาไว้รบกันเอง
โดยเฉพาะ ผมเข้าใจเอาเองว่าคนไทยคงไม่มีเวลามาคิดว่าโลกจะแบนหรือโลกจะกลม
คนดังของไทยในรุ่นราวเดียวกับโคลัมบัสก็คือบุรุษที่เรารู้จักกันดี
เขาผู้นั้นคือ ขุนแผน
(สันนิษฐานกันว่า สมเด็จพระพันวษาในวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผน
นั้นคือสมเด็จพระรามาธิบดีที่๓ )
ขณะที่ขุนแผนถูกส่งไปสู้รบปรบมือกับนางลาวทองทางภาคเหนือนั้น
โคลัมบัสแกอ่านบันทึกของมาร์โคโปโลที่เดินทางไปสำรวจจีน อินเดีย ทางบก และเฮียแก
เชื่อว่าโลกกลม ประกอบกับความเป็นนักเดินเรือ
เฮียบัสจึงอยากเดินเรือจากยุโรปไปเอเชียในทางทิศตะวันตกโดยข้าม
มหาสมุทรแอตแลนติคทั้งมหาสมุทรว่างั้นเถอะ
สมัยนั้นแค่คิดก็ยากแล้วนะครับ เพราะคนกลัวกันว่าแล่นๆไป เรือใบ
จะไปหล่นปุ๊ตกโลกเอาตรงไหนก็ไม่รู้ แต่แกก็พยายามเป็นสิบๆปีเพราะต้องหาข้อมูล
และทุนรอน ไปขอความช่วยเหลือใครเขาก็ไม่ให้จนปี พ.ศ. ๒๐๓๕ พระเจ้า
เฟอร์ดินันท์ และพระนางอิซาเบลแห่งสเปนก็พระราชทานทุนทรัพย์ให้ออกเดินทาง
วันที่ ๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๐๓๕ โคลัมบัสก็ได้เหยียบทวีปอเมริกาเป็น
ครั้งแรก
ต้องบอกกันซักนิดนะครับ ว่าทวีปอเมริกานะ ไม่ใช่ประเทศอเมริกา
เพราะดินแดนที่แกไปพบนั้น คือประเทศในหมู่เกาะแคริเบียนในปัจจุบัน
ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอเมริกา อาทิเช่น บาร์บาโดส โดมินิกัน กัวดาลูป
เปอร์โตริโก คิวบา และไฮติ ที่เพิ่งโดน แผ่นดินไหวไปเมื่อต้นปีนี้
แต่อนิจจา เฮียบัสแกไม่รู้เลยว่านี่คือทวีปอเมริกา แกคิดอยู่เสมอว่า
ดินแดนที่แกเจอคือหมู่เกาะของอินเดีย หรือทวีปเอเชียตามเป้าหมายการเดินทาง
ตั้งแต่ต้น
แม้กระทั่งแกเดินทางไปอีก ๒ ครั้ง แกก็ยังเข้าใจผิดเช่นเดิมจนแกตาย
ผมนับถือเฮียแก ไม่ใช่เพราะเป็นคนแรกที่ค้นพบทวีปอเมริกาหรอก
แต่เป็นเพราะว่านับถือในความมุ่งมั่นของแกที่เชื่อในการวิเคราะห์ของตัวเอง
และกล้าที่จะคิดแย้งกับคนทั่วไป รวมทั้งลงมือทำให้ประจักษ์แก่สายตา
ไม่นึกเลยว่าเที่ยวแบบไปลุยเอาดาบหน้า ก็ได้อะไรดีๆเหมือนกัน
ก่อนลาจากเซวิลญ่า ผมก็ตะหงิดๆอยู่ในใจ สงสัยมาหลายวันแล้วว่า เจ้าส้มยักษ์
ลูกดกเต็มต้นสะพรั่งไปทั่วเมืองนั้น ทำไมไม่เห็นมีคนเก็บเอาไปกิน คนสเปนนี่
นิสัยดีไม่ลักขโมยของสาธารณะกันหรือยังไง ?
ผมเลยสวมวิญญาณโคลัมบัส ทำการพิสูจน์ส้มเซวิลญ่าด้วยการแอบ
เด็ดเอามาปอกกินหนึ่งลูกกลมโต
อื้อฮือ !!! อภิมหาโคตะระเปรี้ยวเลย ขอบอก
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 463
- ผู้ติดตาม: 0
เที่ยวแบบ อาร์ตๆ.....ตอน sevilla เมืองส้ม
โพสต์ที่ 3
ชื่อเมือง sevilla นั้น ผมก็มีปัญหาแบบพี่พอใจ
ถ้าเขียนแบบปะกิต เขียนว่า sevilla
ถ้าเขียนแบบ สเปน เขียนว่า seville
ส่วนออกเสียง
ผมก็ถามเจ้าหน้าที่โรงแรมว่า ออกเสียงยังไง
เขาพูดเร็วๆ ฟังแรกๆก็ได้ยินว่า เซบิย่า
แต่พอให้ออกเสียงชัดๆ เขาก็พูดว่า
เซ วิ(ล) ย่ะ
มีรูปต้นส้มมาโชว์ นี่แบบขนาดทั่วไปไซส์เอ็ม
( แฮ่ๆ ยังไม่ได้ศึกษาการย่อรูปเลยครับ)
[/img]
ถ้าเขียนแบบปะกิต เขียนว่า sevilla
ถ้าเขียนแบบ สเปน เขียนว่า seville
ส่วนออกเสียง
ผมก็ถามเจ้าหน้าที่โรงแรมว่า ออกเสียงยังไง
เขาพูดเร็วๆ ฟังแรกๆก็ได้ยินว่า เซบิย่า
แต่พอให้ออกเสียงชัดๆ เขาก็พูดว่า
เซ วิ(ล) ย่ะ
มีรูปต้นส้มมาโชว์ นี่แบบขนาดทั่วไปไซส์เอ็ม
( แฮ่ๆ ยังไม่ได้ศึกษาการย่อรูปเลยครับ)
[/img]
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
- SunShine@Night
- Verified User
- โพสต์: 2196
- ผู้ติดตาม: 0
เที่ยวแบบ อาร์ตๆ.....ตอน sevilla เมืองส้ม
โพสต์ที่ 4
สวยมากครับ
VI ฝึกหัด สำนักปีเตอร์ ลินช์
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
-
- Verified User
- โพสต์: 463
- ผู้ติดตาม: 0
เที่ยวแบบ อาร์ตๆ.....ตอน sevilla เมืองส้ม
โพสต์ที่ 5
เที่ยวแบบอาร์ตๆ ต้องสเก็ตซ์ภาพเป็นที่ระลึก บันทึกเป็นไดอารี่
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 463
- ผู้ติดตาม: 0
เที่ยวแบบ อาร์ตๆ.....ตอน sevilla เมืองส้ม
โพสต์ที่ 6
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
- tok
- Verified User
- โพสต์: 833
- ผู้ติดตาม: 0
เที่ยวแบบ อาร์ตๆ.....ตอน sevilla เมืองส้ม
โพสต์ที่ 7
สวยดีครับ เซวิลญ่า เมืองส้ม
เคยดูสารคดีท่องเที่ยว ในยุโรป หลายเมืองมีบ้านเรื่อนสีแดงส้ม กับสถาปัตยกรรมเก่าๆ ท้องฟ้าสีฟ้าสด แถมทะเลสีคราม น่าไปเที่ยวมาก
หลายเมืองในอเมริกามีความสวยงามทางธรรมชาติ แต่ขาดสถาปัตยกรรมเก่าๆ และความหลากหลายทางวัฒนธรรม
เคยดูสารคดีท่องเที่ยว ในยุโรป หลายเมืองมีบ้านเรื่อนสีแดงส้ม กับสถาปัตยกรรมเก่าๆ ท้องฟ้าสีฟ้าสด แถมทะเลสีคราม น่าไปเที่ยวมาก
หลายเมืองในอเมริกามีความสวยงามทางธรรมชาติ แต่ขาดสถาปัตยกรรมเก่าๆ และความหลากหลายทางวัฒนธรรม
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
เที่ยวแบบ อาร์ตๆ.....ตอน sevilla เมืองส้ม
โพสต์ที่ 10
ดูรูปแล้วถ้าเป็นพันธ์สายน้ำผึ้ง
รับรองไม่เหลือให้สวยอย่างนี้ดอก
เทศบาลเขาก็ฉลาด
เอาแบบที่ไม่อร่อยมาปลูก
งามแปลกตาดี
ขอบคุณครับนำมาฝากทั้งรูปถ่าย
ทั้งงานวาดอันมีลายเส้นงดงามเฉพาะตัว
คล้ายๆกับว่าผมเองก็มีลายเส้นนี้อยู่รูปนึง...ฮ่า...
ผมไม่เคยไปสเปนแต่เคยไปอิตาลี
สงสัยว่าไหงศิลปกรรมทั้งงานเล็กงานใหญ่มันคล้ายๆกัน
เล่าให้ฟังมั่งฮี่....
รับรองไม่เหลือให้สวยอย่างนี้ดอก
เทศบาลเขาก็ฉลาด
เอาแบบที่ไม่อร่อยมาปลูก
งามแปลกตาดี
ขอบคุณครับนำมาฝากทั้งรูปถ่าย
ทั้งงานวาดอันมีลายเส้นงดงามเฉพาะตัว
คล้ายๆกับว่าผมเองก็มีลายเส้นนี้อยู่รูปนึง...ฮ่า...
ผมไม่เคยไปสเปนแต่เคยไปอิตาลี
สงสัยว่าไหงศิลปกรรมทั้งงานเล็กงานใหญ่มันคล้ายๆกัน
เล่าให้ฟังมั่งฮี่....
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 987
- ผู้ติดตาม: 0
เที่ยวแบบ อาร์ตๆ.....ตอน sevilla เมืองส้ม
โพสต์ที่ 11
ไปถึงเซวิลล์ ได้เจอ"ช่างตัดผม"หรือเปล่าเอ่ย
The Barber of Seville เป็นอุปรากรที่ขึ้นชื่อมาก
อาศัยฉากและบรรยากาศของเมืองเซวิลล์ที่พี่สถาปนิกไปเยือนปุ๊ปปั๊บนี่แหละ
กูรูไม่เคยไปเมืองนี้
แต่เคยใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองแฝดอีกเมืองหนึ่ง
ซึ่งจำลองความเป็นเซวิลล์ออกมาในศูนย์การค้า หน้าตาแบบนี้
ยกเว้นแต่ไม่มีต้นส้มสีแสดริมถนน
The Country Club Plaza, Kansas City, Missourie
อ้อ ภาพสเก็ตซ์พี่เนี้ยบดีจัง ลายเส้นแจ่มเลย
ไว้รอพี่กลับเมืองไทย คงได้เห็นลายเส้นสเก็ตซ์บ้านๆกระต๊อบๆ
สวรรค์บ้านนาของเราบ้าง
The Barber of Seville เป็นอุปรากรที่ขึ้นชื่อมาก
อาศัยฉากและบรรยากาศของเมืองเซวิลล์ที่พี่สถาปนิกไปเยือนปุ๊ปปั๊บนี่แหละ
กูรูไม่เคยไปเมืองนี้
แต่เคยใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองแฝดอีกเมืองหนึ่ง
ซึ่งจำลองความเป็นเซวิลล์ออกมาในศูนย์การค้า หน้าตาแบบนี้
ยกเว้นแต่ไม่มีต้นส้มสีแสดริมถนน
The Country Club Plaza, Kansas City, Missourie
อ้อ ภาพสเก็ตซ์พี่เนี้ยบดีจัง ลายเส้นแจ่มเลย
ไว้รอพี่กลับเมืองไทย คงได้เห็นลายเส้นสเก็ตซ์บ้านๆกระต๊อบๆ
สวรรค์บ้านนาของเราบ้าง
ชีวิตเกิดและตายเพียงอย่างละหน ส่วนที่เหลือตรงกลางต้องค้นพบเอง
- py106
- Verified User
- โพสต์: 296
- ผู้ติดตาม: 0
เที่ยวแบบ อาร์ตๆ.....ตอน sevilla เมืองส้ม
โพสต์ที่ 13
ชอบภาพสเก็ตมากมายครับ
อยากไปเที่ยวแบบพี่มั่งจัง... คงหนุกดีนะครับ... ว่าแต่สเก็ตแบบนั้นไม่ดำปิ๊ดเลยเหรอครับ แถวนั้นแดดแรงไหมน่ะ
อยากไปเที่ยวแบบพี่มั่งจัง... คงหนุกดีนะครับ... ว่าแต่สเก็ตแบบนั้นไม่ดำปิ๊ดเลยเหรอครับ แถวนั้นแดดแรงไหมน่ะ
แวะไปเยี่ยมเยียนกันได้ครับ ^^
http://py106travel.blogspot.com
http://py106travel.blogspot.com
- BeSmile
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1178
- ผู้ติดตาม: 0
เที่ยวแบบ อาร์ตๆ.....ตอน sevilla เมืองส้ม
โพสต์ที่ 14
Sight Seeing แบบมั่ว ๆ ก็สนุกดีครับ
เล่าเรื่องได้สนุกดี + สเก็ตซ์รูปสวยครับ
ไปมากี่วันหรือครับ
แล้วสาว ๆ สวยหรือเปล่าครับ
(เค้าบอกว่าสาวสเปนสวย)
:lol:
เล่าเรื่องได้สนุกดี + สเก็ตซ์รูปสวยครับ
ไปมากี่วันหรือครับ
แล้วสาว ๆ สวยหรือเปล่าครับ
(เค้าบอกว่าสาวสเปนสวย)
:lol:
มีสติ - อย่าประมาทในการใช้ชีวิต
-
- Verified User
- โพสต์: 463
- ผู้ติดตาม: 0
เที่ยวแบบ อาร์ตๆ.....ตอน sevilla เมืองส้ม
โพสต์ที่ 15
พี่กูรูนี่ชีวิตสุนทรี เรื่องดีดีรู้หมด
ว่างๆผมขอเลี้ยงข้าว จะได้ขอตักตวงความรู้มาบ้าง
และอีกอย่าง อยากไปเห็นห้องหนังสือพี่จัง
น่าจะมีเพียบ
ยอมรับตามตรงนะครับว่า
หลังๆมานี่ ผมเที่ยวแบบเอ้อระเหยลอยชาย
ไปตามแรงดึงดูด
ปล่อยให้เจ้าควาร์กในตัวผมมันไปตกลงกับควาร์ก รอบๆ
แล้วพวกเอ็งก็ค่อยมาบอกตรูว่าจะไปไหน ยังไง
ชีวิตตรู วางแผนเอย คิดเอย ให้พวกเอ็ง มาเยอะแล้ว
ตอนนี้ตาพวกเอ็งบ้างละ
ตอนไปเซบิย่านี่เลย พยายามไม่วางแผน ไม่รู้อะไร
บรรดาควาร์ก เลยพาผมไป เดินเล่นๆ
นั่งสเก็ตซ์ตรงมุมสวยๆ
จิบกาแฟหอมๆ
ทำตัวละลายไปกับสิ่งรอบตัว
และที่เจ้าควาร์กมันโปรดปราน
"ทาปาซ" ครับ
ถ้าเป็นคำไทยๆ น่าจะใช้คำว่า "ของกินเล่น" หรือ "กับแกล้ม"
ร้านอาหารเกือบทุกร้านในสเปน จะมีขาย
ใส่มาในจานเล็กๆ มีหลายๆแบบ
ได้แก่ หอยแมงภู่อบ ปลาทอดหลากขนิด ปลาหมึกอ็อคโทปุซ กุ้งอบ
มะเขือเทศในน้ำมันมะกอก พริกดอง ชีสหลากหลาย และอีกมากมาย
โห เลือกกินได้ทุกวัน ไม่รู้เบื่อ
หอยแมงภู่เซบิย่านี่ สุดยอดหอยเลยก็ว่าได้
:lol:
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 463
- ผู้ติดตาม: 0
เที่ยวแบบ อาร์ตๆ.....ตอน sevilla เมืองส้ม
โพสต์ที่ 16
[quote="BeSmile"]
แล้วสาว ๆ สวยหรือเปล่าครับ
(เค้าบอกว่าสาวสเปนสวย)
แล้วสาว ๆ สวยหรือเปล่าครับ
(เค้าบอกว่าสาวสเปนสวย)
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 355
- ผู้ติดตาม: 0
เที่ยวแบบ อาร์ตๆ.....ตอน sevilla เมืองส้ม
โพสต์ที่ 17
สไตล์พี่ อาร์ต มากครับ
อยากเห็นรูปอีกเยอะ ๆ :D
อยากเห็นรูปอีกเยอะ ๆ :D
It's not how good you are, it's how good you want to be.
-
- Verified User
- โพสต์: 393
- ผู้ติดตาม: 0
เที่ยวแบบ อาร์ตๆ.....ตอน sevilla เมืองส้ม
โพสต์ที่ 19
สวยมากครับ ทั้งภาพวาดและภาพถ่าย
Tapas ที่ขึ้นชื่ออีกตัวก็คือ Jamon อ่านว่า ฮามอง (ตัว J ออกเสียง ฮ, ตามหลักภาษาสแปนิช) หรือ แฮมของเค้าครับ ว่ากันว่าอร่อยและดีกว่าของเมือง Parma ใน Italy ซะอีก, ที่แพงสุด ดีที่สุดก็ที่ทำจากหมูดำ เลี้ยงโดยใช้ถั่วคล้ายๆเกาลัดเลี้ยง แพงมากครับ แต่ healthy น่ะครับ เพราะไขมันของมันทานเข้าก็ไปเพิ่มตัว HDL แทน เข้าท่าครับ (เขาเล่ามา)
สเปนนี่มีอาหารที่อร่อยมากแล้วก็ไม่แพงด้วย เคยอ่านดู จำได้ว่าตั้งแต่สมัยสงครามครับ นายพลฟรังโก้แกอยากจะให้คนได้ทานอาหารที่มันสมราคา แกบังคับเลย โดยเฉพาะอาหารกลางวันพวก set menu ที่มีหลายๆคอร์สเนี่ย จะถูกกว่าประเทศอื่นในยุโรปมาก เข้าใจว่ามันเลยกลายเป็น practice ไปแล้วว่า set lunch ของที่โน่น ราคา competitive ครับ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในยุโรป เรื่องรสชาตินี่ เยี่ยมครับ
เสียดายผมไม่เคยไปเมืองนี้ ไม่มีวาสนา ตอนเด็กกว่านี้ก็ไปชอบเมืองอีกแบบ นึกถึงเดี่ยวนี้ ไม่มีโอกาสได้ไปแล้ว อยากเที่ยวเมืองนี้ที่สุดในสเปนเลยครับ
อ้อ Toledo ด้วย เห็นบอกว่าสวยงามมาก.................
Tapas ที่ขึ้นชื่ออีกตัวก็คือ Jamon อ่านว่า ฮามอง (ตัว J ออกเสียง ฮ, ตามหลักภาษาสแปนิช) หรือ แฮมของเค้าครับ ว่ากันว่าอร่อยและดีกว่าของเมือง Parma ใน Italy ซะอีก, ที่แพงสุด ดีที่สุดก็ที่ทำจากหมูดำ เลี้ยงโดยใช้ถั่วคล้ายๆเกาลัดเลี้ยง แพงมากครับ แต่ healthy น่ะครับ เพราะไขมันของมันทานเข้าก็ไปเพิ่มตัว HDL แทน เข้าท่าครับ (เขาเล่ามา)
สเปนนี่มีอาหารที่อร่อยมากแล้วก็ไม่แพงด้วย เคยอ่านดู จำได้ว่าตั้งแต่สมัยสงครามครับ นายพลฟรังโก้แกอยากจะให้คนได้ทานอาหารที่มันสมราคา แกบังคับเลย โดยเฉพาะอาหารกลางวันพวก set menu ที่มีหลายๆคอร์สเนี่ย จะถูกกว่าประเทศอื่นในยุโรปมาก เข้าใจว่ามันเลยกลายเป็น practice ไปแล้วว่า set lunch ของที่โน่น ราคา competitive ครับ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในยุโรป เรื่องรสชาตินี่ เยี่ยมครับ
เสียดายผมไม่เคยไปเมืองนี้ ไม่มีวาสนา ตอนเด็กกว่านี้ก็ไปชอบเมืองอีกแบบ นึกถึงเดี่ยวนี้ ไม่มีโอกาสได้ไปแล้ว อยากเที่ยวเมืองนี้ที่สุดในสเปนเลยครับ
อ้อ Toledo ด้วย เห็นบอกว่าสวยงามมาก.................