Mochida moriji ---เรียนรู้การลงทุนปรมาจารย์ Kendo

[humdrum]

http://www.youtube.com/watch?v=KaPxuwPhkDg

อยากให้เข้าไปดูคลิปของท่านอาจารย์ Mochida moriji ปรมาจารย์เคนโดที่เคยได้ระดับถึง 10 ดั้งคนเดียวจนเดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วนะครับ เหลือแค่ 8 สูงสุด อยากให้ลองดูตอนสุดท้ายๆของคลิป จะเห็นว่าไม่มีการใช้กำลัง หรือ ยัดเยียดฝืนอะไรเลยเป็นธรรมชาติมากๆ คลิปนี้ไม่ได้เตี๊ยมนะครับ และจะัยิ่งแปลกใจว่าคนแก่ขนาดนี้ รับมือกับคู่ฝึกที่เป็นผู้ที่มีฝีมืออย่างสูงมากๆได้อย่างไร โดยท่านก็ได้อธิบายไว้และมีแปลเป็นภาษาอังกฤษเอาใว้ให้แล้ว (ท่านใส่ชุดดำนะครับ คนใส่เสื้อขาวเป็นคู่ฝึกที่ระดับสูงมากๆเช่นกัน และยังหนุ่มแน่นอยู่ ระดับที่ว่าถ้าเป้นเราก็โดนฟาดหัวไม่รู้ตัวเลยครับ  )

credit : http://mangmaoclub.com/

[หมักเตา]

พากย์ตามที่เห็นนะพี่ เคยอ่านแต่การ์ตูนมุซาชิเรื่องเดียว

ปรมาจารย์ยึดชัยภูมิ และรักษาระยะเก่งมากๆ พยายามอยู่กลางวงเพื่อให้สามารถขยับไปได้รอบทิศ พอถูกไล่มากๆ ไปเข้ามุมอับ หมดทางถอย ก็หันมารุกไล่เอาพื้นที่คืน

แล้วไม่บุ่มบ่ามโจมตีก่อนเลย เวลาอยู่กลางวงพื้นที่เหมาะเหม็งแล้ว แต่คู่ต่อสู้ถอยออกก็แค่ยืนรอ พอคู่ต่อสู้เข้าโจมตีก็คอยปิดปัดป้องหรือเบี่ยงหลบ รอจนคู่ต่อสู้เสียหลักหมดหนทางป้องกันตัวค่อยโจมตีกลับ แถมโจมตีได้ทุกรูบแบบ ทั้งตีหัว ฟันลำตัว ชอบสุดๆ คือ ช็อตแทงกระเดือก!!! 555

โยงมาเรื่องลงทุน(อีกแล้ว) นอกเว็บไม่รู้ แต่ในเว็บนี้ มีเซียนแค่ท่านเดียวที่ใช้สไตล์นี้ได้ครับ สุดยอด!!!

[หมักเตา]

เดี๋ยวพี่ว่างๆ แล้ว ช่วยมา invert ให้ผมด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ ผมลองเองแล้วแต่มันติดแหง็ก

วานปีศาจตอบก็ได้ครับ เพราะผมก็วานปีศาจถามเหมือนกัน
ปีศาจไม่มีตัวตน มีแต่ Free Thoughts Flow (แบบปีศาจ  :twisted: )

...และอย่าเอานิยายอะไรกะปีศาจ... ไปก่อนละ เดี๋ยวต้องไปหลอกหลอนที่อื่นต่อ  :twisted:

[humdrum]

   ท่านปรมาจารย์ตัดอคติของท่านเองออกหมด เหลือแต่อคติของคู่ต่อสู้
   ภาพข้างบน ไม่ชัด ใกล้เห็นเป็นรูปหนึ่ง ไกลเป็นรูปหนึ่ง ขึ้นอยู๋อคติของใครคนนั้น  ท่านตัดอคติออกจากตัวเองและหันไปมองอคติของคนอื่น

    อคติของเป็นต้นเหตุของ critical mass
ผู้เขียนได้จดบันทึกขั้นตอนการตรวจสอบขั้นตอนการตรวจสอบ critical mass  

1.   มีโอกาสของแนวโน้มเพราะอคติบางอย่างในหุ้นตัวนั้น
2.   มีการเริ่มต้นของกระบวนการที่ส่งเสริมอคตินั้นในตัวมันเอง
3.   มีระบบตรวจสอบทิศทางของตลาดและหุ้นที่ประสบความสำเร็จ
4.    การพิจรณาและวินิจฉัยที่มากขึ้น
5.   ตรวจสอบ ช่องว่าง ของสิ่งที่เป็น กับ สิ่งที่ควรเป้น หรือ ความแตกต่างของการรับรู้ กับ ความจริงที่เกิดขึ้น
6.   จุดอิ่มตัว
7.   เริ่มต้นของการสะท้อนกลับในทิศทางตรงกันข้าม

      ผมอาจผิดได้ อะไรเป็นไปได้ทั้งนั้น...

[หมักเตา]

เจ๋งมากๆ ครับพี่!!! เล่นเอาผมเดินขยับทำเลซะทั่วห้องเลย

ระยะไกลเห็นแต่สิ่งฉาบฉวย พอค้นให้ลึกเข้าไป จึงได้เห็นองค์ความรู้อยู่ในนั้น
น่าแปลก พยายามเพ่งไอน์สไตน์ให้กลายเป็นมอนโร พอไหว แต่พอเห็นมอนโร เพ่งยังไงก็ไม่เปลี่ยน หรือสายตาผมก็มีอคติจะมองแต่สิ่งสวยงาม?

เลยรีบไปคว้าหน้ากลางของ Playboy ฉบับหลายสิบปีก่อนมาเปิดหรา ก้มหน้าเข้าไปเพ่ง (ใกล้ชิดเพื่อการตรวจสอบหาองค์ความรู้) ยังเหมือนเดิม ไม่เจออะไรที่แปลกไปในนั้น โล่งใจครับ ฮู่ว์ว์ว์...

แต่บางอย่างทำให้ผมเริ่มกลัว......

องค์ความรู้ที่เราจดจ่ออยู่ ถ้าถอยออกไปมององค์รวม จะค้นพบว่ามันเป็นเพียงสิ่งฉาบฉวยหรือเปล่า ???
การเอาตัวเองเข้าไปตรวจสอบ critical mass จะทำให้ผมหลงเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ critical mass หรือสร้าง critical mass ขึ้นโดยไม่ตั้งใจหรือเปล่า ???

[humdrum]

ผมไม่รู้จะตอบท่านอย่างไร คำถามท่านเกินความสามารถของผมไปแล้ว ผมยังเราตัวไม่รอดเลย 55555555

  ตอบอย่างพระก็แล้วกันครับ โลกไม่เที่ยง ถ้าเราแปลเป้นเรื่องการลงทุน ไม่เที่ยงก้คือ มีโอกาสของความเป้นไปได้

   ในตลาดหุ้น ความเป็นไปได้ผ่านหน้าเราทุกวัน ถ้าเราอยากทำให้มันกลายเป็นความจริงขึ้นมา เราก็ตัดสินใจซื้อ/ขาย โอกาสความเป้นไปได้ก็จะกลายเป็นความจริงขึ้นมา ตามปกติ  เมื่อโอกาสผ่านไปแล้ว เรามักขอบคิดว่า ทำไมเราไม่ซื้อนะ เราพิจรณาแต่สิ่งที่หลงเหลืออยู๋ของสภาพความเป้นไปได้กันแล้ว  
   
  เมือ่โอกาสผ่านมา เราเลือกตัดสินใจอย่างไรได้ตลอดเวลา ถ้าเราเลือกที่จะเก็บโอกาสอย่างนั้นให้เป็นความทรงจำของเรา ทำให้โอกาสกลายเป็นความจริง และเก็บไว้ในอดีต ไม่ว่าเป็นความจำที่ดีหรือ ร้าย อย่างน้อย ผมเลือกที่จะตัดินใจบางอย่าง ไม่ปล่อยให้โอกาสผ่านไปโดยปราศจากความหมาย ถ้าผิดก็ตัดสินในทิ้ง ถ้าถุกก็คอืกำไร ทั้งที่เป้นตัวเงิน และกำไรชีวิต คนเราต้องกล้าเลือกว่าควรจะทำให้ความเป้นไปได้นั้นมันกลายเป็นความจริงขึ้นมาและอยู่กับเราตลอดกาล  ถ้าไม่กล้าตัดสินใจ เพราะกลัวการขาดทุน หรือเพราะอคติบางอย่างที่มารั้งเราเอาไว้ ซี่งผมเชื่ออย่างมากว่า เราลงทุนกันทุกคนมีอะไรบางอย่างมาทำให้ขาดทุน ไม่ใช่วิธีของเราในการลงทุน แต่เป็นอคตืที่อยู่เบื้องหลังของทุกคน เรามี personal flaws กันทุกคน มีน้อยที่สุด มีมากที่สุด มันก็มาดึงให้เราเดินไม่ถึงจุดหมายซะที แทนที่ระยะทางแค่ 100 ก้าว แต่เราอาจต้องก้าวถึง 500 ก้าวกว่าจะไปถึง การตัดอคติออกให้หมดมากเท่าไร เราก็ยิ่งใช้ก้าวเดินมากเท่านั้น บางท่านพอไม่มีอคติแล้ว เข้าใจตัวเองทุกอย่างแล้ว อาจกระโดดเลยก็ได้

   ไม่ว่าช่วงใดของชีวิต คนเราต้องตัดสินใจ รอบ ๆ ตัวราคือโอกาสขอวความเป็นไปได้   ไม่ว่าออกมาดีหรือร้าย สิ่งนั้นจะนั้นจะอยู่กัยเราไปตลอดชีวิต อดีตแก้ไขไมได้ ล้วนเป็นสิ่งหนึ่งกับเราแล้ว  
   
   critical mass model ก็แค่ตะหนักความไม่เที่ยงนี้อันเป็นแก่นสารของชีวิตคนและชีวิตทุกอย่างของคน ไม่ใช่มองแง่ร้าย แตมองโลกที่เคลื่อนไหวตลอด เพื่อดูว่าโอกาสความเป้นไปได้จะผ่านมาในสภาพอย่างไร critical mass model  ตรงตามจริตที่ผมเป็น จริตใครก้หาวิธีการลงทุนที่ตรงตามจริตของเราครับ
   
   ปีนี้ปฎิทินผมฉีกทุกวัน ฉีกแล้วก็บมันเข้าแฟ้มทุกวัน ผ่านไปก็จดเอาไว้ด้านหลังว่าโอกาสอะไรเกิดขึ้นบ้างที่ผมคว้ามันเอาไว้ อะไรที่ผมมองไม่เห็นบ้างที่ให้มันผ่านไป แล้วเราสามารถย้อนกลับมาอ่านได้ทุกวัน รวมถึงสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับการลงทุนเลย  คนเราแก่ลงไปทุกวัน เราก็มีแต่ความจริงที่เราเลือกที่จะให้มันเป็นอย่างนั้น ไม่ปล่อยให้ชีวิตขึ้นอยู่กับโอกาสของความเปนไปได้ต่างๆ  เราเป็นอย่างไร เราเลือกตัดสินใจของเราเอง ในชีวิตเราทุกคน แทนที่จะแต่มีเรื่องของความเป้นไปได้ ทำให้เป็นความจริงในอดีตของเราให้หมด ไม่ว่าเป็นความสุข ความทุกข์ เราเป้นคนกำหนดให้เป็นของเราเอง ตัดสินใจอย่างกล้าหาญ ไม่ใช่ให้โอกาสของความเป็นไปได้รอเราอยู่ทุกอย่างก้าวทีเราเดิน

   
ผมอาจผิดครับ อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

[humdrum]

ผมยกตัวอย่างโอกาสของความเป้นไปได้ที่จะกเดิกับหุ้นบางตัวนะครับ ขอตัดออกบางส่วนด้วยความเหมาะสม เรื่องนี้เป็นเรื่องของอคติ หรือ psychology of misjudgement  

   หุ้น ปปป ที่มีโอกาสเกิด critical mass  ปิด 2.20, เป้า 2.70, Upside 23% ----เป้าหมายราคาเป็นแรงจูงใจที่ดี  

   ต้นปี ราคาหุ้น ปปป ทรุดไป 17% แต่ SET ลงแค่ 6%   ไม่มีข่าวร้ายส่วนตัว ---- หลักการเปรียบเทียบ

 กรณี ฟฟฟ ซึ่ง ปปป ถืออยู่ 26% หากขายออกทั้งได้กำไรและไม่ต้องแบกภาระ ---- ขายได้เลยหรือไม่ ขายแล้วมีผลต่อกำไรอย่างไร ทำไมถึงขาย ทำไมถึงเข้าไปลงทุนตั้งแต่แรก ปรับโครงสร้างทำไม

  ลุ้นปี 2009 ประกาศกำไรเพิ่ม 13% พ่วงจ่ายปันผล 0.10 บาท Yield 5%
ปีนี้คาดกำไรโตเด่นสุดในกลุ่มถึง 20% ราคาเหมาะสมปี 2010 @ 2.70 บาท (+23%) ----- กำไรเป็นสิ่งที่กระตุ้นอคติได้ดีทีสุด

เทคนิคเลิศ แนวรับ=ราคาปิด ส่วนแนวต้านระยะสัปดาห์ 2.50 บาท (+14%)  ---- คนซื้อมีกลุ่มไหนบ้าง กลุ่มเทคนิคมีมากที่สุดในตลาดหุ้นไทย มีผลอย่างไรกับราคาหุ้น สัดส่วนของนักลงทุนเทคนิคมีผลต่อราคาหุ้นอย่างไร

   จากท่านปรมาจารย์ Mochida moriji
  ไม่ทราบว่าเข้าถูกหรือผิด  มองที่อคติของคนในตลาด ว่าเราคิดกันอย่างไร  สิ่งที่ควรเป็น กับ สิ่งที่ควรเป้น เข้าไปอยู๋ในจิตใจของนักลงทุนอย่างไรบ้าง  อคติของเป็นต้นเหตุของ critical mass

 ขั้นตอนการตรวจสอบขั้นตอนการตรวจสอบ critical mass  

1.   มีโอกาสของแนวโน้มเพราะอคติบางอย่างในหุ้นตัวนั้น
2.   มีการเริ่มต้นของกระบวนการที่ส่งเสริมอคตินั้นในตัวมันเอง
3.   มีระบบตรวจสอบทิศทางของตลาดและหุ้นที่ประสบความสำเร็จ
4.    การพิจรณาและวินิจฉัยที่มากขึ้น
5.   ตรวจสอบ ช่องว่าง ของสิ่งที่เป็น กับ สิ่งที่ควรเป้น หรือ ความแตกต่างของการรับรู้ กับ ความจริงที่เกิดขึ้น
6.   จุดอิ่มตัว
7.   เริ่มต้นของการสะท้อนกลับในทิศทางตรงกันข้าม

[หมักเตา]

ท่านพี่ตอบคำถามแล้วครับ ตรงเผงเลย หายสงสัยแล้ว ขอบพระคุณครับ
ผมชอบแนวคิด critical mass นะ ผมว่ามันอธิบายความไม่มีเหตุผลในตลาดหุ้นได้อย่างมีเหตุผล จะลองเอาไปเล่นดูครับ
แต่ก่อนอื่น ผมคงต้องมาเปลี่ยนมุมมองต่อ kendo ก่อน ทุกวันนี้ยังมองเห็นเป็น 1:1 ทั้งที่คิดว่ามันน่าจะเป็น X:Y หรือ X:Y:Z หรือ X:Y:Z:A:...
หวังว่าผมสามารถมองเห็น 1:6B หรือเลยไปถึงขั้น 1:0 ได้     ขออีก ขออีก ขออีกนะครับพี่ ชอบบบบบ