การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6447
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ พ.ย. 15, 2004 5:14 pm | 0 คอมเมนต์
กำไรไตรมาสล่าสุด 20.5 ล้าน
ปีที่แล้วทำได้ 16 ล้าน
เป็นหุ้นที่ capital expense น้อยจริงๆ ครับ
เก้าเดือนจ่ายแค่ 4 ล้าน...
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ พ.ย. 15, 2004 5:31 pm | 0 คอมเมนต์
คุณลูกอีสานไวจริงๆครับ
ไตรมาสนี้ WG ก็ไม่ทำให้ผิดหวังครับ
บริษัทมียอดขาย และกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้นสูงสุดตั้งแต่ผมติดตามมาเลยครับ
ยอดขายเพิ่มขึ้นจาก 144.80 ล้านบาทเป็น 202.84 ล้านบาท
แต่รายได้ค่าเช่าลดลงครับ จาก 14.09 ล้านบาทเหลือ 12.35 ล้านบาท
บริษัทร่วมก็ยังคงขาดทุนอีก 4.60 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจาก 0.35 ล้านบาท
แต่กำไรสุทธิก็ยังคงเพิ่มขึ้นเป็น 20.53 ล้านบาท จาก 16.33 ล้านบาท
บริษัทมีเงินสดสุทธิเพิ่มขึ้นไม่มากนัก จาก 223.04 ล้านบาท เป็น 230.69 ล้านบาท (12.92 บาทต่อหุ้น) เนื่องจากบริษัทมีลูกหนี้การค้าเพิ่มขึ้นถึง 22.31 ล้านบาท
เป็นเวลา 2 ไตรมาสแล้วที่บริษัทต้องลงทุนในลูกหนี้การค้าเพิ่ม 20.33 ล้านบาท และ 22.31 ล้านบาท รวมกันตั้ง 2.39 บาทต่อหุ้น
คืนนี้จะวิเคราะห์และลงในห้องร้อยคนร้อยหุ้นครับ
Dr.T
Verified User
โพสต์: 1608
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ พ.ย. 15, 2004 6:47 pm | 0 คอมเมนต์
ไชโย
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ พ.ย. 15, 2004 8:51 pm | 0 คอมเมนต์
Dr.T เขียน: ไชโย
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
สมจิตสมใจเลยคุณหมอ ยู้ฮู
Minesweeper
Verified User
โพสต์: 472
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ พ.ย. 15, 2004 8:56 pm | 0 คอมเมนต์
บริษัทลูก แอมคอร์ ที่ทำ แพคเกจพลาสติก ไม่รู้จะขาดทุนอีกนานหรือเปล่า แต่ก็น่าจะดีขึ้นนะ หลังราคาพลาสติกเริ่มทรงตัว
จะว่าไปแล้ว ถ้าบริษัทนี้ขาดทุนไตรมาสละ 4 - 5 ล้าน อีกซัก 2 - 3 ไตรมาส ก็จะมีเงินลงทุนที่บันทึกส่วนได้เสียเป็น 0 (WG มีราคาต้นทุนเดิม 62 ล้าน)
ถ้านำไปขายเลหลังต่อถูกๆ ก็น่าจะเอามาลดภาษีได้หลายตังค์ เหมือนกันครับ
อันนี้ผมคาดการณ์เอาแบบคนไม่จบบัญชีนะ รอให้ท่านที่มีความรู้จริงๆ มา confirm จะดีกว่า ...
แก้ไขล่าสุดโดย
Minesweeper เมื่อ จันทร์ พ.ย. 15, 2004 9:04 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ พ.ย. 15, 2004 8:59 pm | 0 คอมเมนต์
เรื่องบริษัทแอมคอร์ก็เป็นห่วงอยู่เหมือนกันครับ แต่ผู้บริหารของ WG ก็ยังเชื่อในอนาคตของบริษัทนี้นะครับ
จริงๆแล้วบริษัทนี้เป็นบริษัทที่มี Market Share อันดับต้นๆเลยนะครับ รวมทั้งบริษัทร่วมทุนจากออสเตรเลียก็เป็นบริษัทอันดับต้นๆของโลกทีเดียวครับ
ช่วงนี้ผู้บริหารบอกว่าได้รับผลกระทบจากต้นทุนเม็ดพลาสติกเพิ่ม แต่ยังไม่สามารถที่จะปรับราคาสินค้าได้ครับ
แต่ผมอยากให้ขายทิ้งไปเลยครับ น่าจะดีกว่า จริงไหมครับ
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ พ.ย. 15, 2004 9:07 pm | 0 คอมเมนต์
ขายทิ้งเป็นการตัดปัญหา
แต่ถือไว้รอเวลา เม็ดพลาสติกลงราคา คงได้กำไรคืนมา(มองในแง่ดีครับ)
คงต้องให้คณะผู้บริหารจัดการกันเอง
เพราะสร้างมากับมือ มีขาดทุนก็มีกำไรได้
นักดูดาว
Verified User
โพสต์: 2513
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ พ.ย. 15, 2004 9:11 pm | 0 คอมเมนต์
น่าจะแต่งตัวขายหุ้น IPO คับ
เสรีภาพก็เหมือนอากาศที่เราไม่อาจมองเห็นด้วยตา แต่จะรู้สึกได้ในทันทีหากมีมันอยู่เบาบางหรือขาดหายไป
-จีรนุช เปรมชัยพร
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ พ.ย. 15, 2004 9:16 pm | 0 คอมเมนต์
นักดูดาว เขียน: น่าจะแต่งตัวขายหุ้น IPO คับ
ความคิดสร้างสรร
เหมือน ในกลุ่มบรรจุภัณฑ์
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ พ.ย. 15, 2004 9:20 pm | 0 คอมเมนต์
อย่างงี้เรารอเวลาที่ราคาเม็ดพลาสติกลดราคาลง แล้วผลการดำเนินงานของบริษัทดีขึ้น แล้วแนะนำให้แต่งตัวเข้าตลาดเลยดีไหมครับ
เพื่อน not login
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ พ.ย. 15, 2004 9:59 pm | 0 คอมเมนต์
อยากจะเล่าประสบการณ์ให้ฟังครับ
ผมเคยร่วมหุ้นลงทุนกับบริษัทต่างประเทศทำกิจการผลิตหลังคาMetal sheet
บริษัทฯแทบจะไม่มีเงินเหลือให้ปันผลแก่ผู้ถือหุ้นเลยครับ ทั้งๆที่ผมก็รู้ว่ากิจการไปได้ดีขายดี เพราะผมหาเซลขายมือ1 ส่งให้เค้าไป....พอไปตรวจดูรายงานก็ปรากฎว่ามีรายจ่ายเยอะมาก จากค่าตัวผู้จัดการ(เค้าตั้งเงินเดือนให้ตัวเองได้)มีค่าใช้จ่ายเดินทางต่างประเทศเยอะมาก(ส่วนใหญ่ผู้จัดการใช้เอง)มีการให้งบคอนซัลต์จากต่างประเทศจำนวนมาก ทั้งๆที่ไม่จำเป็น รวมทั้งงบส่งตัวเองไปอบรมดูงานต่างประเทศบ่อยๆ
พอไปดูบริษัทฯอื่นที่เค้าทำก็ผลปรากฎว่าขาดทุนมาตลอดทุกปีเหมือนกัน
ผมเลยถอนหุ้นออกหมดเลยครับ ทั้งๆที่เป็นคนจัดแจงให้เกือบทุกเรื่อง ตั้งแต่หารูปแบบโปรไฟล์ของลอนหลังคาที่ได้เปรียบคู่แข่ง การทำแคตตาล็อก จัดหาทีมขายให้ สามารถแทรกตลาดเข้าไปได้ทั้งในวงราชการและเอกชน แต่มาเจอความผิดหวัง ทำให้เค้ารวย แต่เราแย่
ผมก็ไม่รู้ว่าเค้าจะรู้กันกับเจ้าของบริษัทฯต่างประเทศรึปล่าวนะครับ....เค้าถือหุ้นใหญ่ เค้ามีอำนาจวางระเบียบและสั่งการ ที่แน่ๆคือเจ้าผู้จัดการคนที่ว่านี้มีความเป็นอยู่ในระดับเศรษฐีรวยขึ้นทุกวัน ทั้งๆที่ผลกำไรบริษัทออกมาแย่
เล่าเป็นประสบการณ์ครับ....อะไรที่เราไม่สามารถตรวจสอบได้มักจะแย่กว่าที่เราคิดครับ.....ความเห็นผมก็คือ ลักษณะของแอมคอร์นี้สงสัยจะหวังให้ได้กำไรคงยากครับ นอกจากจะเข้าไปตรวจสอบดูได้ (รู้สึกว่าเค้ายังไม่เคยได้กำไรเลยใช่มั้ยครับ หรือว่าได้ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น)
ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ อาจไม่เหมือนกันก็ได้ ...แต่ผมดูแล้วไม่คาดหวังอะไรครับ
เพื่อน not login
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ พ.ย. 15, 2004 9:59 pm | 0 คอมเมนต์
อยากจะเล่าประสบการณ์ให้ฟังครับ
ผมเคยร่วมหุ้นลงทุนกับบริษัทต่างประเทศทำกิจการผลิตหลังคาMetal sheet
บริษัทฯแทบจะไม่มีเงินเหลือให้ปันผลแก่ผู้ถือหุ้นเลยครับ ทั้งๆที่ผมก็รู้ว่ากิจการไปได้ดีขายดี เพราะผมหาเซลขายมือ1 ส่งให้เค้าไป....พอไปตรวจดูรายงานก็ปรากฎว่ามีรายจ่ายเยอะมาก จากค่าตัวผู้จัดการ(เค้าตั้งเงินเดือนให้ตัวเองได้)มีค่าใช้จ่ายเดินทางต่างประเทศเยอะมาก(ส่วนใหญ่ผู้จัดการใช้เอง)มีการให้งบคอนซัลต์จากต่างประเทศจำนวนมาก ทั้งๆที่ไม่จำเป็น รวมทั้งงบส่งตัวเองไปอบรมดูงานต่างประเทศบ่อยๆ
พอไปดูบริษัทฯอื่นที่เค้าทำก็ผลปรากฎว่าขาดทุนมาตลอดทุกปีเหมือนกัน
ผมเลยถอนหุ้นออกหมดเลยครับ ทั้งๆที่เป็นคนจัดแจงให้เกือบทุกเรื่อง ตั้งแต่หารูปแบบโปรไฟล์ของลอนหลังคาที่ได้เปรียบคู่แข่ง การทำแคตตาล็อก จัดหาทีมขายให้ สามารถแทรกตลาดเข้าไปได้ทั้งในวงราชการและเอกชน แต่มาเจอความผิดหวัง ทำให้เค้ารวย แต่เราแย่
ผมก็ไม่รู้ว่าเค้าจะรู้กันกับเจ้าของบริษัทฯต่างประเทศรึปล่าวนะครับ....เค้าถือหุ้นใหญ่ เค้ามีอำนาจวางระเบียบและสั่งการ ที่แน่ๆคือเจ้าผู้จัดการคนที่ว่านี้มีความเป็นอยู่ในระดับเศรษฐีรวยขึ้นทุกวัน ทั้งๆที่ผลกำไรบริษัทออกมาแย่
เล่าเป็นประสบการณ์ครับ....อะไรที่เราไม่สามารถตรวจสอบได้มักจะแย่กว่าที่เราคิดครับ.....ความเห็นผมก็คือ ลักษณะของแอมคอร์นี้สงสัยจะหวังให้ได้กำไรคงยากครับ นอกจากจะเข้าไปตรวจสอบดูได้ (รู้สึกว่าเค้ายังไม่เคยได้กำไรเลยใช่มั้ยครับ หรือว่าได้ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น)
ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ อาจไม่เหมือนกันก็ได้ ...แต่ผมดูแล้วไม่คาดหวังอะไรครับ
เพื่อน not login
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ พ.ย. 15, 2004 10:48 pm | 0 คอมเมนต์
อ้าว ข้างบนโพสซ้ำนิครับ ขอโทษด้วยครับ ไม่ทราบว่าจะลบได้ยังไงครับ
สรุป พรุ่งนี้หาทางซื้อ WG เพิ่ม....อิอิอิ แอมคอร์จะยังไงก็ช่างมันไปก่อน อย่าให้มากเกินก็แล้วกัน
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ พ.ย. 15, 2004 11:47 pm | 0 คอมเมนต์
ผู้บริหาร WG บอกไว้ว่าสมัยก่อน ทางบริษัทแอมคอร์ที่ WG ร่วมทุนนั้น มีผุ้บริหารเป็นชาวต่างชาติเกือบทั้งหมด และมีพนักงานเยอะมากครับ
แต่ปัจจุบัน ได้เปลี่ยนผู้บริหารเป็นคนไทยเกือบหมดแล้วครับ เข้าใจว่าเหลือคนต่างชาติเพียงคนหรือสองคนครับ และได้ลดจำนวนพนักงานลงได้เหลือเพียงไม่ถึงครึ่งแล้วครับ
ถ้าราคาเม้ดพลาสติกปรับตัวลดลงได้ หวังว่าคงจะมีกำไรบ้างนะครับ
Minesweeper
Verified User
โพสต์: 472
ผู้ติดตาม: 0
อังคาร พ.ย. 16, 2004 8:19 pm | 0 คอมเมนต์
แอบไปเห็นกำไรของผู้ผลิต พลาสติกปลายน้ำ อย่าง SITHAI กับ AJ ไตรมาสนี้ก็เริ่มฟื้นบ้างแล้วนะครับ สำหรับแอมคอร์ คงต้องติดตามกันต่อไป
ผมว่า กระทู้นี้เราวิเคราะห์กันลึกมากเลยนะ สงสัยถ้ามีงบของแอมคอร์ด้วย คงสนุกกว่านี้ :lol:
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0
อังคาร พ.ย. 16, 2004 8:26 pm | 0 คอมเมนต์
พรุ่งนี้ผมจะลองโทรไปของบแอมคอร์ครับ ซึ่งถ้าได้คงเป็นงบสิ้นปี 2546 คงไม่ Update เท่าไร
เท่าที่เคยสอบถาม ทาง WG ไม่มีการค้ำประกันเงินกู้ให้บริษัทร่วมแห่งนี้ครับ อย่างน้อยถ้าเจ๊งก็แค่เงินที่ลงทุนไปแล้ว จะไม่กระทบต่อกระแสเงินสดของบริษัทครับ
Minesweeper
Verified User
โพสต์: 472
ผู้ติดตาม: 0
อังคาร พ.ย. 16, 2004 8:43 pm | 0 คอมเมนต์
พรุ่งนี้ผมจะลองโทรไปของบแอมคอร์ครับ ซึ่งถ้าได้คงเป็นงบสิ้นปี 2546 คงไม่ Update เท่าไร
โห .. พี่ฉัตรชัยเอาจริงแฮะ ผมเองแค่คิดเล่นๆ แต่ก็สนับสนุนนะครับ
ปีก่อนถ้าจำไม่ผิด รู้สืกว่าแอมคอร์จะกำไร ขาดทุนแต่เอฟบีอย่างเดียว
มาดูอีกทีปีนี้ขาดทุนทั้ง แอมคอร์ ทั้ง เอฟบี เลยแฮะ
แต่เอาเถอะครับ ยังไงก็เกือบกลายเป็น 0 อยู่แล้ว ดูแล้วไม่น่าซีเรียสเท่าไหร่
งบการเงินเฉพาะบริษัท
30 กันยายน พ.ศ. 2547 (ยังไม่ได้ตรวจสอบ)
เงินลงทุน
ประเภท % ของ วิธีราคาทุน วิธีส่วนได้เสีย เงินปันผล
ธุรกิจหลัก ทุนชำระแล้ว หุ้นที่ถือ บาท บาท บาท
บริษัทย่อย:
บริษัท เอฟ บี (ประเทศไทย)
จำกัด ขายสินค้า 4,000,000 75.50 3,020,000 485,987 -
บริษัทร่วม:
บริษัท แอมคอร์
คอนเทนเนอร์ส แพคเกจจิ้ง ผลิตบรรจุภัณฑ์
(ประเทศไทย) จำกัด พลาสติก 101,431,970 49.00 62,985,400 11,530,293 -
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0
พุธ พ.ย. 17, 2004 8:21 pm | 0 คอมเมนต์
วันนี้โทรศัพท์ไปถามแล้วครับ
แต่ว่าคุณสมชัย และคุณอารยา ไปประชุมนอกบริษัทนะครับ
เดี๋ยวพรุ่งนี้จะโทรไปใหม่ครับ ถ้าได้ยังไงจะวิเคราะห์ให้อ่านครับ
BG
ผู้ติดตาม: 0
พุธ พ.ย. 17, 2004 11:53 pm | 0 คอมเมนต์
I don't really understand why WG invested in Amcor which has a lot of debt and its business is not profitable. Amcor's mother company in Australia sold their plastic bottle business in most countries many years ago.
I don't believe the loss came from high plastic resin cost. Normally the bottle suppliers can demand the price increase from their customers. I believe it came from their low efficiency and high waste. Moreover, the plastic bottle industry has a very low margin and it is very competitive especially in Thailand as there are many strong players.
I strongly believe WG have made a wrong decision by investing in AMCOR.
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. พ.ย. 18, 2004 12:15 am | 0 คอมเมนต์
เท่าที่อ่านความเห็นของคุณ BG ผมรุ้สึกว่าคุณมีความรู้ในอุตสาหกรรมขวดพลาสติกเป็นอย่างดี
เท่าที่ผู้บริหารบอกมา เนื่องจากลูกค้ารายใหญ่ของแอมคอร์คือ บริษัท ซีพี เมจิ ที่ขายนมนะครับ แล้วราคาขายนมจะขึ้นราคายังไม่ได้ ดังนั้นขวดของแอมคอร์ก็เลยไม่สามารถขึ้นราคาได้
เรื่องประสิทธิภาพในการผลิตก็คงมีส่วน แต่ผมก็ไม่ได้รู้อะไรมากนัก ขอเพียงแต่ว่าไม่มีเงินสดของ WG ไหลออกไป และไม่มีการค้ำประกันเงินกุ้ของแอมคอร์ก็น่าจะพอใจครับ
ถ้าคุณ BG ถือหุ้น WG อยู่บ้าง ก็ขอให้เข้าประชุมเพื่อช่วยซักถามผู้บริหารด้วยครับ
moo
Verified User
โพสต์: 1150
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. พ.ย. 18, 2004 1:53 am | 0 คอมเมนต์
พี่ฉัตรชัยครับ เท่าที่ทราบการผลิตสินค้าอะไรก็ตามที่ล็อตใหญ่ๆ
อย่างเช่นผลิตขวดบรรจุให้ซีพี เมจิ
น่าจะต้องมีสัญญาผลิตเป็นล็อตๆไป
เมื่อส่งมอบครบจำนวนแล้ว
ครั้งต่อไปก็ต้องทำสัญญาซื้อขายกันใหม่
ตกลงราคากันใหม่ครับ
การที่นมไม่สามารถปรับขึ้นราคาได้ ไม่น่าจะใช่ภาระของบริษัท
เว้นแต่บริษัทจะขาดทุนเพราะว่าสต็อควัตถุดิบผิดพลาด
และการส่งมอบยังไม่แล้วเสร็จ
เนื่องจากที่ผ่านมาเมล็คพลาสติกปรับขึ้นราคาอย่างมาก
ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น
ถ้าหากเป็นเช่นนี้จริง
เมื่อมีการส่งมอบสินค้าสิ้นสุดลงตามสัญญาปัจจุบัน
บริษัทน่าจะปรับราคาได้ ถ้าหากมีการทำสัญญาซื้อขายงวดใหม่
กำไรก็น่าจะตามมานะครับ
ไม่เป็นไรมากครับ ผมยังเชื่อใจอยู่
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. พ.ย. 18, 2004 9:32 am | 0 คอมเมนต์
ราคาเม็ดพลาสติกปรับตัวรุนแรงจากต้นปีครับ
ผมขายเคมีเกี่ยวกับสายนี้
จากราคา กิโลกรัมละ43บาทตอนต้นปี
ขณะนี้ราคาเมื่อวานอยู่ที่82บาท
เป็นราคาขายส่ง
ช่วงหลังนี่เพื่อนผมทำโรงงานที่สมุทรปราการ
ทำพวกฟิลม์ยืด และเป่าขวด
บอกว่า เดี๋ยวนี้ไปซื้อสายพลาสติกไสไส
ที่มากับคอมพิวเตอร์เป็นสายหุ้มสายไฟ
และขวดไสไส พวกขวดน้ำแร่ ขวดโค๊ก
มาหลอมแล้วขึ้นรูปใหม่ เป็นวิธีสร้างกำไรมหาศาล
ปัจจุบันเพื่อนผลิตขวดส่งบริษัทน้ำมันพืชอยู่
และขวดน้ำยาสระผม แนวโน้มการขึ้นราคา
ของเม็ดพลาสติกเริ่มชะลอแล้วครับ
การดูราคาพลาสติกว่าอยู่ระดับไหน ชาวบ้านทั่วๆไปสามารถดูได้
กับราคาถุงพลาสติกใส่อาหารที่วางขายตามแม็คโคร
เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่ ท่อพีวีซี ถังบำบัด ถังเก็บน้ำที่ทำจากพลาสติกจึงขึ้นราคา
แต่ที่แปลกคือ ไม้MDF ที่ผมขายอยู่ทุกวันยอดตกลงมากๆ
เขาไม่ได้ซื้อไปกั้นห้องหรือก่อสร้าง ไม่มีการขึ้นราคามา6เดือนแล้ว
เหมือนสินค้าล้นตลาดถ้าไม่ส่งออก
ถ้าไม้ปาร์ติเกิ้ล เขาจะนำไปใช้ทำตู้ โต๊ะ พวกน๊อกดาว
จึงจะขายดีกว่า
hot
Verified User
โพสต์: 6853
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. พ.ย. 18, 2004 9:35 am | 0 คอมเมนต์
ไม้mdf ในจีนดูเหมือนความต้องการยังมีอยู่เพราะ
ออเดอร์เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ฝั่งยุโรปยังแน่อยู่ แต่เห็นว่า
บางรายถูกจากหลอกจากลูกค้าบางประเทศเลยชะลอตัวและ
ปรับเครดิตใหม่หมด ทำให้การสั่งซื้อไม้mdf จากจีนค่อนข้าง
ชะลอตัวพอควรคับ
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. พ.ย. 18, 2004 9:40 am | 0 คอมเมนต์
hot เขียน: ไม้mdf ในจีนดูเหมือนความต้องการยังมีอยู่เพราะ
ออเดอร์เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ฝั่งยุโรปยังแน่อยู่ แต่เห็นว่า
บางรายถูกจากหลอกจากลูกค้าบางประเทศเลยชะลอตัวและ
ปรับเครดิตใหม่หมด ทำให้การสั่งซื้อไม้mdf จากจีนค่อนข้าง
ชะลอตัวพอควรคับ
บางคนกำลังเข้าใจผิดว่าไปMDFนำไปทำเฟอร์นิเจอร์
วิธีพสูจน์ง่ายๆ
คือไปซื้อโต๊ะคอมพิวเตอร์มา1ตัว แกะพีวีซีที่ติดผิวออกก็จะเห็นเนื้อไม้
มันเป็นไม้ปาร์ติเกิ้ลครับ
ไม้MDF ส่วนใหญ่ทำเป็นไม้โครงสร้างขึ้นรูปนะ
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. พ.ย. 18, 2004 7:38 pm | 0 คอมเมนต์
วันนี้ผมได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับคุณอารยามาครับ
เรื่องงบการเงินของแอมคอร์นั้น คุณอารยาบอกว่า ตามมารยาทแล้วคงให้ไม่ได้เพราะ WG ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในแอมคอร์ ซึ่งก็ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมให้เพื่อนหาใน BOL แล้วกันครับ
Amcor's mother company in Australia sold their plastic bottle business in most countries many years ago
เรื่องนี้ คุณอารยาไม่ทราบครับ
พี่ฉัตรชัยครับ เท่าที่ทราบการผลิตสินค้าอะไรก็ตามที่ล็อตใหญ่ๆ
อย่างเช่นผลิตขวดบรรจุให้ซีพี เมจิ
น่าจะต้องมีสัญญาผลิตเป็นล็อตๆไป
เมื่อส่งมอบครบจำนวนแล้ว
ครั้งต่อไปก็ต้องทำสัญญาซื้อขายกันใหม่
ตกลงราคากันใหม่ครับ
การตกลงซื้อขายกับทาง ซีพีเมจิ เป็นการตกลงรายเดือนครับ ส่วนการปรับราคาขายนั้น ก็มีการปรับขึ้นไปบ้าง แต่ก็ไม่มากนัก แต่ทางบริษัทแอมคอร์ทุกวันนี้ยังคงมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นบวกอยู่ครับ ถึงแม้จะขาดทุน
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. พ.ย. 18, 2004 8:48 pm | 0 คอมเมนต์
ผู้ถือหุ้น ก็ได้พึ่งคุณฉัตรชัย
นี่ล่ะช่วยชี้แจงรายละเอียดมาตลอด
ขอบคุณครับ
Amorna
Verified User
โพสต์: 454
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. พ.ย. 18, 2004 11:29 pm | 0 คอมเมนต์
พี่ฉัตรชัยเป็นตัวอย่างที่ดีของการเป็นนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าและอยู่ใกล้ตัวจริงๆ ค่ะ
Price is what you pay, value is what you get.
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ พ.ย. 19, 2004 11:05 am | 0 คอมเมนต์
akekarat
Verified User
โพสต์: 1746
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ พ.ย. 19, 2004 7:55 pm | 0 คอมเมนต์
พี่ Chatchai ครับ งั้นช่วยฝากถามหน่อยสิครับว่า อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้บริหารมั่นใจในตัวบริษัทย่อยที่ขาดขนาดนั้น แล้วถ้ายังขาดทุนอยู่เรื่อยๆ อีกถึงสิ้นปีหน้า ผู้บริหารจะมีนโยบายจัดการอย่างไรครับ เพราะนี่เป็นเหมือนก้างชิ้นใหญ่ในการเลือกลงทุน WG เลยนะเนี่ย ผมว่า