"เศรษฐศาสตร์แห่งความจริง" ใครอ่านแล้วบ้าง และคิดยั
-
- Verified User
- โพสต์: 108
- ผู้ติดตาม: 0
"เศรษฐศาสตร์แห่งความจริง" ใครอ่านแล้วบ้าง และคิดยั
โพสต์ที่ 1
ผมได้อ่าน "เศรษฐศาสตร์แห่งความจริง" ของคุณพิชัย แล้ว (พิมพ์ครั้งที่ 3) มีบางบทในหนังสือที่คุณพิชัยทำนายอนาคตผิด เรื่องว่า คนอเมริกันรู้ล่วงหน้าแล้วว่า ตลาดหุ้นจะร่วงมากและจะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ เมื่อเรียนรู้จากประเทศในเอเชียแล้วจึงหาทางป้องกัน โดยทำนายว่าจะไม่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจขึ้นในสหรัฐอเมริกา (แต่คุณพิชัยคาดผิด เพราะได้มองคนอเมริกันในแง่ดีเกินไป โดยไม่คาดคิดว่า คนอเมริกัน สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ในอเมริกา ก็จัดอยู่ในประเภท mass ด้วย และจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม การกระทำและการแก้ปัญหาของสถาบันการเงิน ของรัฐบาลสหรัฐ และประชาชนทั่วไปซึ่งสุดท้ายนำไปสู่วิกฤต ได้เป็นไปตามเหตุปัจจัยที่ทำไว้ก่อนหน้านั้น โดยไม่มีทางหลีกเลี่ยง) แต่เนื้อหาส่วนอื่น ๆ นอกนั้นให้แง่คิดที่ดีมาก และผมเห็นด้วยที่ว่า mass คือผู้ที่ขาดทุนตลอด เป็นหนังสือที่มีประโยชน์มากครับ ในปัจจุบันผมเองได้เริ่มประยุกต์ใช้แนวคิดนี้ในการลงทุนจริงของผมแล้ว ซึ่งท่านผู้อ่านสามารถติดตามได้ที่
http://thailandstockinvestment.blogspot.com
และศึกษาการหาจังหวะลงทุนจากวีดีโอสอนฟรี ที่
http://sites.google.com/site/freetechni ... istutorial
http://thailandstockinvestment.blogspot.com
และศึกษาการหาจังหวะลงทุนจากวีดีโอสอนฟรี ที่
http://sites.google.com/site/freetechni ... istutorial
-
- Verified User
- โพสต์: 9
- ผู้ติดตาม: 0
"เศรษฐศาสตร์แห่งความจริง" ใครอ่านแล้วบ้าง และคิดยั
โพสต์ที่ 2
หนังสือเล่มนี้ผมเิพิ่งอ่านจบแบบยังไม่ค่อยได้เนื้อเท่าไร ผมชอบทฤษฎีนี้แต่ยังไม่เข้าใจซักเท่าไรในการดูว่าเมื่อไรที่เรียกว่าจิตวิทยาครั้งที่3 และยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่เข้าใจอยู่
ผมมาแถมให้อีกเว็บนะครับเป็นเทปรายการที่คุณพิชัยไปออกมาครับ
http://www.chiangmairoom.com/economic/?p=video
ผมมาแถมให้อีกเว็บนะครับเป็นเทปรายการที่คุณพิชัยไปออกมาครับ
http://www.chiangmairoom.com/economic/?p=video
Experience is the best teacher.
Impossible is nothing.
Impossible is nothing.
-
- Verified User
- โพสต์: 331
- ผู้ติดตาม: 0
"เศรษฐศาสตร์แห่งความจริง" ใครอ่านแล้วบ้าง และคิดยั
โพสต์ที่ 3
ยังไม่ได้อ่านครับ
แต่เห็นด้วยครับ
80% ขาดทุน อีกเพียง 20% เท่านั้นที่กำไร ( และเท่าทุน)
คนส่วนใหญ่มักจะผิด ( นักวิเคราะห์ถือเป็นส่วนหนึ่งของคนส่วนใหญ่)
ในระยะสั้นตลาดเป็นเครื่องลงประชามติ แต่ในระยะยาว ตลาดเป็นเครื่องชั่งน้ำหนัก ... จากวอเรน บัฟเฟต์
3 ข้อนี้มีความสัมพันธ์กันหมด
แต่เห็นด้วยครับ
80% ขาดทุน อีกเพียง 20% เท่านั้นที่กำไร ( และเท่าทุน)
คนส่วนใหญ่มักจะผิด ( นักวิเคราะห์ถือเป็นส่วนหนึ่งของคนส่วนใหญ่)
ในระยะสั้นตลาดเป็นเครื่องลงประชามติ แต่ในระยะยาว ตลาดเป็นเครื่องชั่งน้ำหนัก ... จากวอเรน บัฟเฟต์
3 ข้อนี้มีความสัมพันธ์กันหมด
-
- Verified User
- โพสต์: 237
- ผู้ติดตาม: 0
"เศรษฐศาสตร์แห่งความจริง" ใครอ่านแล้วบ้าง และคิดยั
โพสต์ที่ 4
ดูวิดีโอแล้วครับ สนุกดีมาก ขอบคุณครับ
แนวคิดของคุณพิชัย เป็นแบบนักเก็งกำไร ทฤษฎีที่เล่ามาก็คล้ายๆกับทฤษฎีสวนกระแส ที่ต้องคิดให้ต่างจากฝูงชน
ในโลกของการเก็งกำไร ตลาดเป็น zero sum game คนส่วนใหญ่(80%)จะขาดทุนให้กับคนส่วนน้อยที่มีทุนสูง และเชี่ยวชาญการเล่นเกมนี้มากกว่า แต่ในโลกของการลงทุน(แบบวีไอ) ราคาหุ้นแตกต่างกันได้ด้วยการทำกำไร และเงินปันผล
แนวคิดของคุณพิชัย เป็นแบบนักเก็งกำไร ทฤษฎีที่เล่ามาก็คล้ายๆกับทฤษฎีสวนกระแส ที่ต้องคิดให้ต่างจากฝูงชน
ในโลกของการเก็งกำไร ตลาดเป็น zero sum game คนส่วนใหญ่(80%)จะขาดทุนให้กับคนส่วนน้อยที่มีทุนสูง และเชี่ยวชาญการเล่นเกมนี้มากกว่า แต่ในโลกของการลงทุน(แบบวีไอ) ราคาหุ้นแตกต่างกันได้ด้วยการทำกำไร และเงินปันผล
-
- Verified User
- โพสต์: 237
- ผู้ติดตาม: 0
"เศรษฐศาสตร์แห่งความจริง" ใครอ่านแล้วบ้าง และคิดยั
โพสต์ที่ 6
คุณพิชัยสอนให้คิดต่างจากคนส่วนใหญ่ วีไอที่แท้ ก้อคิดไม่เหมือนนักเก็งกำไรอยู่แล้ว เราไม่สนใจมิสเตอร์มาร์เก็ต
นักเก็งกำไร ต้องซื้อหุ้นยอดนิยมที่มีการเคลื่อนไหวมาก แต่วีไอมักต้องพบหุ้นดีราคาถูก ได้จากหุ้นที่คนส่วนใหญ่ไม่สนใจ
นักเก็งกำไร ต้องซื้อหุ้นยอดนิยมที่มีการเคลื่อนไหวมาก แต่วีไอมักต้องพบหุ้นดีราคาถูก ได้จากหุ้นที่คนส่วนใหญ่ไม่สนใจ
- กล้วยไม้ขาว
- Verified User
- โพสต์: 1074
- ผู้ติดตาม: 0
"เศรษฐศาสตร์แห่งความจริง" ใครอ่านแล้วบ้าง และคิดยั
โพสต์ที่ 7
น่าจะประยุกต์ใช้ได้นะครับ
แนวคิดเค้าคอนเซ็ปเข้าใจง่ายดี และจริง ๆ ก็ ตรงกับหลักการ VI ที่ว่า
โลภตอนที่คนกลัว และกลัวตอนที่คนโลภ
แนวคิดเค้าคอนเซ็ปเข้าใจง่ายดี และจริง ๆ ก็ ตรงกับหลักการ VI ที่ว่า
โลภตอนที่คนกลัว และกลัวตอนที่คนโลภ