คนเล่นหุ้นเป็นคนที่น่ารังเกียจของสังคม?
- Highway_Star
- Verified User
- โพสต์: 440
- ผู้ติดตาม: 0
คนเล่นหุ้นเป็นคนที่น่ารังเกียจของสังคม?
โพสต์ที่ 34
ผมโคตรโชคดีเลยครับ ที่เกิดมาในครอบครัวที่ใช้เหตุผลเป็นหลัก
ตอนแรกที่ผมบอกพ่อว่าจะเล่นหุ้น ... พ่อเค้าก็บอกว่า
"อย่าเลย มันเป็นการพนัน" ผมก็เถียงไปว่า "ไม่นะ ถ้าเราคิดว่าเราเป็นเจ้าของธุรกิจ ลงเงินในสิ่งที่เราคิดแล้วว่ามันน่าจะเติบโต มันจะเป็นการพนันไปได้ยังไง"
เถียงไปคำแรกๆ พ่อก็ยังไม่ค่อยเชื่อหรอกครับ เพราะพ่อเองเค้าก็เคยซื้อหุ้นธนาคารตัวนึง แล้วราคามันต่ำลงแบบไม่ลืมหูลืมตา เค้าก็เลยเข็ด
แต่พอผมถามว่า "อ้าว แล้วตอนซื้อตอนนั้นพ่อซื้อเพราะอะไร"
พ่อเค้าบอกว่า "ซื้อตามเพื่อน เพื่อนบอกว่าดี"
ผมเลยบอกว่า "นั่นแหละ พ่อ อันนั้นแหละ พนันของแท้เลย"
พ่อเค้าก็เลยเงียบไป
ผมเลยพูดต่อว่า "แต่หุ้นที่ซื้ออันนี้ผม วิเคราะห์แล้วนะ"
...
...
ปัจจุบันนี้เงินที่ผมลงในหุ้นเกือบทั้งหมด เป็นของพ่อ
สิ่งเหล่านี้ ผมว่าบางที เราจำเป็นต้องค่อยๆ อธิบายครับ ผมก็อธิบายอยู่นาน
กว่าที่ครอบครัวจะเข้าใจ อธิบายไปเรื่อยๆ ครับ อย่าไปใจร้อน
แล้วเวลาอธิบายยกตัวอย่างประกอบไปด้วยว่า จริงๆ แล้วทำธุรกิจทุกอย่างมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะทำเอง หรือใครทำ เล่นหุ้นก็เช่นกัน
แต่ความเสี่ยงที่เกิดจากการที่เราวิเคราะห์แล้วนั้น เราจะสามารถทำใจยอมรับกับความเสียหายที่เกิดขึ้นได้มากกว่าแน่นอนครับ
ปล.
ถ้าอธิบายได้ เงินที่เราสามารถนำมาลงทุนในหุ้นได้ มันก็เพิ่มขึ้นนะครับ :D
ตอนแรกที่ผมบอกพ่อว่าจะเล่นหุ้น ... พ่อเค้าก็บอกว่า
"อย่าเลย มันเป็นการพนัน" ผมก็เถียงไปว่า "ไม่นะ ถ้าเราคิดว่าเราเป็นเจ้าของธุรกิจ ลงเงินในสิ่งที่เราคิดแล้วว่ามันน่าจะเติบโต มันจะเป็นการพนันไปได้ยังไง"
เถียงไปคำแรกๆ พ่อก็ยังไม่ค่อยเชื่อหรอกครับ เพราะพ่อเองเค้าก็เคยซื้อหุ้นธนาคารตัวนึง แล้วราคามันต่ำลงแบบไม่ลืมหูลืมตา เค้าก็เลยเข็ด
แต่พอผมถามว่า "อ้าว แล้วตอนซื้อตอนนั้นพ่อซื้อเพราะอะไร"
พ่อเค้าบอกว่า "ซื้อตามเพื่อน เพื่อนบอกว่าดี"
ผมเลยบอกว่า "นั่นแหละ พ่อ อันนั้นแหละ พนันของแท้เลย"
พ่อเค้าก็เลยเงียบไป
ผมเลยพูดต่อว่า "แต่หุ้นที่ซื้ออันนี้ผม วิเคราะห์แล้วนะ"
...
...
ปัจจุบันนี้เงินที่ผมลงในหุ้นเกือบทั้งหมด เป็นของพ่อ
สิ่งเหล่านี้ ผมว่าบางที เราจำเป็นต้องค่อยๆ อธิบายครับ ผมก็อธิบายอยู่นาน
กว่าที่ครอบครัวจะเข้าใจ อธิบายไปเรื่อยๆ ครับ อย่าไปใจร้อน
แล้วเวลาอธิบายยกตัวอย่างประกอบไปด้วยว่า จริงๆ แล้วทำธุรกิจทุกอย่างมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะทำเอง หรือใครทำ เล่นหุ้นก็เช่นกัน
แต่ความเสี่ยงที่เกิดจากการที่เราวิเคราะห์แล้วนั้น เราจะสามารถทำใจยอมรับกับความเสียหายที่เกิดขึ้นได้มากกว่าแน่นอนครับ
ปล.
ถ้าอธิบายได้ เงินที่เราสามารถนำมาลงทุนในหุ้นได้ มันก็เพิ่มขึ้นนะครับ :D
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
คนเล่นหุ้นเป็นคนที่น่ารังเกียจของสังคม?
โพสต์ที่ 36
เหมือนจะเคยอ่านว่า... เราจะเป็นนักลงทุนที่ดีได้ต้องสามารถปฎิเสธการลงทุน 99 อย่างจาก 100 อย่าง
นี่อาจจะเป็นบททดสอบการเป็นนักลงทุนที่ดีในขั้นต้นมั้งครับ... ฟัง คิด แล้วตัดเสียงรบกวนออกให้หมด รับมาแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ ความหวังดี และความเป็นห่วงจากคนรอบๆ ตัวก็พอมั้งครับ...
นี่อาจจะเป็นบททดสอบการเป็นนักลงทุนที่ดีในขั้นต้นมั้งครับ... ฟัง คิด แล้วตัดเสียงรบกวนออกให้หมด รับมาแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ ความหวังดี และความเป็นห่วงจากคนรอบๆ ตัวก็พอมั้งครับ...
-
- Verified User
- โพสต์: 1150
- ผู้ติดตาม: 0
คนเล่นหุ้นเป็นคนที่น่ารังเกียจของสังคม?
โพสต์ที่ 37
มันขึนอยู่กับช่วงเวลาครับ ถ้าเป็นตอนนี้หุ้นขึ้น เราก็บอกว่าพวกเขาไม่เข้าใจเรา แต่เวลาหุ้นลง เช่น ปีที่แล้ว ถ้าลงนานๆ (บังเอิญปีที่แล้ว ลงแป๊ปเดียว)
เราก็อาจจะบอกว่ารู้งี้เชื่อเขาก็ดีแล้ว คนที่เคยผ่านสถานการณ์หุ้นเป็น 0 มาแล้ว จะรู้ว่าอยู่ในตลาดหุ้นต้องระวังตลอดเวลา ถ้าอยู่ในตลาดสัก 10 ปี ตลาดหุ้นไม่ง่ายอย่างที่เราคิดหรอก ที่เขาว่านะมันมีส่วนที่จะทำให้เขาว่าเพราะ 100 คน รวยจากหุ้นจริงกี่คน ?? ดังนั้นถ้าเรารวยจากหุ้นก็ควรเงียบๆไว้ก็บอกว่าทำธุรกิจอะไรไป เพราะบอกไปถ้าวันใดเจ๊งหุ้นเมื่อไร รับรองมีคนมารุมประนามเพียบ โทษฐานที่บอกแล้วไม่เชื่อ
เราก็อาจจะบอกว่ารู้งี้เชื่อเขาก็ดีแล้ว คนที่เคยผ่านสถานการณ์หุ้นเป็น 0 มาแล้ว จะรู้ว่าอยู่ในตลาดหุ้นต้องระวังตลอดเวลา ถ้าอยู่ในตลาดสัก 10 ปี ตลาดหุ้นไม่ง่ายอย่างที่เราคิดหรอก ที่เขาว่านะมันมีส่วนที่จะทำให้เขาว่าเพราะ 100 คน รวยจากหุ้นจริงกี่คน ?? ดังนั้นถ้าเรารวยจากหุ้นก็ควรเงียบๆไว้ก็บอกว่าทำธุรกิจอะไรไป เพราะบอกไปถ้าวันใดเจ๊งหุ้นเมื่อไร รับรองมีคนมารุมประนามเพียบ โทษฐานที่บอกแล้วไม่เชื่อ
- killyz
- Verified User
- โพสต์: 409
- ผู้ติดตาม: 0
คนเล่นหุ้นเป็นคนที่น่ารังเกียจของสังคม?
โพสต์ที่ 38
นานาจิตตังครับ การลงทุนก็เป็นงานสุจริตอย่างหนึ่งน่ะครับ
ในแบบ ภงด. 90 ยังมีให้กรอกรายได้จากปันผลเลย
แต่ทำไมเล่นหวยใต้ดิน แทงบอล เล่นไพ่ ถึงไม่ถูกรังเกียจมั่งหนอ
ทั้งที่เป็นการพนันและผิดกฏหมาย แล้วไม่จ่ายภาษีอีก คนก็เล่นเยอะขึ้น
ถ้ามัวแต่ฟังความเห็นของคนรอบข้างจะเหมือนนิทาน เรื่อง พ่อลูกกับลา น่ะ
ผลความสำเร็จของปราชญ์รุ่นก่อน ก็ทำให้เป็นที่ประจักษ์แล้วมิใช่หรือ
จงเชื่อมันในหลักการและปรัชญาการลงทุน
ในแบบ ภงด. 90 ยังมีให้กรอกรายได้จากปันผลเลย
แต่ทำไมเล่นหวยใต้ดิน แทงบอล เล่นไพ่ ถึงไม่ถูกรังเกียจมั่งหนอ
ทั้งที่เป็นการพนันและผิดกฏหมาย แล้วไม่จ่ายภาษีอีก คนก็เล่นเยอะขึ้น
ถ้ามัวแต่ฟังความเห็นของคนรอบข้างจะเหมือนนิทาน เรื่อง พ่อลูกกับลา น่ะ
ผลความสำเร็จของปราชญ์รุ่นก่อน ก็ทำให้เป็นที่ประจักษ์แล้วมิใช่หรือ
จงเชื่อมันในหลักการและปรัชญาการลงทุน
การลงทุนมีความเสียว โปรดใช้วิจารณญาณในการลอก
-
- Verified User
- โพสต์: 305
- ผู้ติดตาม: 0
คนเล่นหุ้นเป็นคนที่น่ารังเกียจของสังคม?
โพสต์ที่ 39
ทำไมผมไม่เห็นเจอบ้างเลย เห็นมีแค่คนคุยว่าเล่นหุ้นดีอย่างโน้นอย่างนี้ บางคนไปชวนอาจารย์เก่าเอาเงินเก็บมาให้ตัวเองเล่น
ผมเองกลับเป็นคนที่ต้องบอกว่าคน 80% ขาดทุน ที่กำไรก็คือเจ้ามือไม่กี่คน (ไม่ได้บอกว่าอีกกลุ่มคือ VI) ยังไงก็ต้องระวังไว้ มีสติ อย่าโลภ
ผมเองกลับเป็นคนที่ต้องบอกว่าคน 80% ขาดทุน ที่กำไรก็คือเจ้ามือไม่กี่คน (ไม่ได้บอกว่าอีกกลุ่มคือ VI) ยังไงก็ต้องระวังไว้ มีสติ อย่าโลภ
没有
-
- Verified User
- โพสต์: 1746
- ผู้ติดตาม: 0
คนเล่นหุ้นเป็นคนที่น่ารังเกียจของสังคม?
โพสต์ที่ 40
คนบางคนพูดมาอย่างนั้นก็ดีครับ เพราะมันคือเสียงจากภายนอก
อย่างน้อย ก็มีไว้เพื่อพิสูจน์แนวทางการลงทุนของนักลงทุนอย่างเรา
หนึ่งในกฏเหล็กของ VI บอกว่า ฟังข่าวรอบด้าน และวิเคราะห์ด้วยเหตุผล
ถือกิจการในมือไว้ ตราบเท่าที่มันยังเป็นบริษัทที่ดี
ในที่นี้ ผมแทนที่ "กิจการ" ด้วย "อาชีพ" นั่นคือการลงทุน
ถ้าเราคิดว่าการลงทุนของเรา หรือ "การเล่นหุ้น" ที่ใคร ๆ ว่านั้น เป็นสิ่งที่ดี มันก็คืออาชีพที่เราวิเคราะห์แล้วว่ามันดี
คำพูดคนอื่น ถ้าเราฟังแล้วเอามาคิดมาก ไม่วิเคราะห์ด้วยเหตุผล ก็แสดงว่า คุณสมบัติที่สำคัญของ VI นั้น เรายังมีไม่พอ
อย่างน้อย ก็มีไว้เพื่อพิสูจน์แนวทางการลงทุนของนักลงทุนอย่างเรา
หนึ่งในกฏเหล็กของ VI บอกว่า ฟังข่าวรอบด้าน และวิเคราะห์ด้วยเหตุผล
ถือกิจการในมือไว้ ตราบเท่าที่มันยังเป็นบริษัทที่ดี
ในที่นี้ ผมแทนที่ "กิจการ" ด้วย "อาชีพ" นั่นคือการลงทุน
ถ้าเราคิดว่าการลงทุนของเรา หรือ "การเล่นหุ้น" ที่ใคร ๆ ว่านั้น เป็นสิ่งที่ดี มันก็คืออาชีพที่เราวิเคราะห์แล้วว่ามันดี
คำพูดคนอื่น ถ้าเราฟังแล้วเอามาคิดมาก ไม่วิเคราะห์ด้วยเหตุผล ก็แสดงว่า คุณสมบัติที่สำคัญของ VI นั้น เรายังมีไม่พอ
- [v]
- Verified User
- โพสต์: 1402
- ผู้ติดตาม: 0
คนเล่นหุ้นเป็นคนที่น่ารังเกียจของสังคม?
โพสต์ที่ 42
แฟนเก่าโทรมาคุยด้วย เคยถามพอบอกว่าผมเอาเงินส่วนนึงไปซื้อหุ้น เธอถามผมว่าเวลาหุ้นตกจะทำยังไง
ผมเอาหลักการเรื่องปันผลทบต้นไปอธิบาย และวิธีการดูมูลค่าทางบัญชี เวลาหุ้นตกแต่กิจการไม่ได้เสียหาย ปันผลจะเพิ่มขึ้นเหมือนเมื่อปีที่แล้ว
ส่วนแม่ผมตอนแรกได้ยินก็ด่ามาชุดใหญ่ ผมก็อธิบายแบบนี้นี่หล่ะแล้วก็เอาเช็คบันผลไปขึ้นเงินให้เขาดู แล้วก็ให้ข้อสังเกตบางอย่างว่า ถ้า มันไม่ดีแล้วช่องสาม ปตท. จะมาจดทะเบียนทำไม แสดงว่ามันก็ต้องมีอะไรบ้างแล้วหล่ะ และคนสมัยก่อน ยุคปี 40 ไม่มีคนเปรียบเทียบเชิงมูลค่าพื้นฐาน ถึงได้เจ๊ง หรือมุขนี้ตอนหุ้นตก แบงค์กรุงไทยเป็นของรัฐใช่ป่าว แม่ว่ามันจะเจ๊งไหมล่ะ ข้าราชการ เอาเงินเดือนเข้าทางแบงค์ กรุงไทย และถ้ามันเกิดไปไม่รอด เนื่องจากมันเป็นเสาหลักของประเทศ ด้านการเงิน ยังไงประเทศนี้ก็ต้องกู้เงินจากต่างประเทศ มาช่วยอยู่ดี เหมือนเมื่อปี 40 (ช่วงที่หุ้นตกแม่ก็เฉยๆล่ะช่วงนั้น)
อะไรประมาณนี้ เดี๋ยวนี้ ผมบอกเพิ่มไปสำหรับ คนที่กลัวหุ้นตกไปว่า เดี๋ยวนี้มันมีฟิวเจอร์เข้ามาช่วย ทำกำไรเวลาขาลงแล้ว :twisted:
หลักการเรื่องปันผลทบต้น เป็นอะไรที่คนที่ไม่เข้าใจด้านตลาดหลักทรัพย์ จะเข้าใจง่ายสุด และพวกเขาก็ถูกบีบด้วยดอกเบี้ยเงินฝากที่น้อยติดดิน เขาจะเข้าใจมากขึ้นว่าเขาควรทำอะไรบางอย่าง ผมก็แนะนำว่าถ้าไม่มีความรู้จริงๆก็ให้กองทุนเอาไปบริหารให้ก็ได้ แล้วใช้ DCA ช่วยเอา
ผมเอาหลักการเรื่องปันผลทบต้นไปอธิบาย และวิธีการดูมูลค่าทางบัญชี เวลาหุ้นตกแต่กิจการไม่ได้เสียหาย ปันผลจะเพิ่มขึ้นเหมือนเมื่อปีที่แล้ว
ส่วนแม่ผมตอนแรกได้ยินก็ด่ามาชุดใหญ่ ผมก็อธิบายแบบนี้นี่หล่ะแล้วก็เอาเช็คบันผลไปขึ้นเงินให้เขาดู แล้วก็ให้ข้อสังเกตบางอย่างว่า ถ้า มันไม่ดีแล้วช่องสาม ปตท. จะมาจดทะเบียนทำไม แสดงว่ามันก็ต้องมีอะไรบ้างแล้วหล่ะ และคนสมัยก่อน ยุคปี 40 ไม่มีคนเปรียบเทียบเชิงมูลค่าพื้นฐาน ถึงได้เจ๊ง หรือมุขนี้ตอนหุ้นตก แบงค์กรุงไทยเป็นของรัฐใช่ป่าว แม่ว่ามันจะเจ๊งไหมล่ะ ข้าราชการ เอาเงินเดือนเข้าทางแบงค์ กรุงไทย และถ้ามันเกิดไปไม่รอด เนื่องจากมันเป็นเสาหลักของประเทศ ด้านการเงิน ยังไงประเทศนี้ก็ต้องกู้เงินจากต่างประเทศ มาช่วยอยู่ดี เหมือนเมื่อปี 40 (ช่วงที่หุ้นตกแม่ก็เฉยๆล่ะช่วงนั้น)
อะไรประมาณนี้ เดี๋ยวนี้ ผมบอกเพิ่มไปสำหรับ คนที่กลัวหุ้นตกไปว่า เดี๋ยวนี้มันมีฟิวเจอร์เข้ามาช่วย ทำกำไรเวลาขาลงแล้ว :twisted:
หลักการเรื่องปันผลทบต้น เป็นอะไรที่คนที่ไม่เข้าใจด้านตลาดหลักทรัพย์ จะเข้าใจง่ายสุด และพวกเขาก็ถูกบีบด้วยดอกเบี้ยเงินฝากที่น้อยติดดิน เขาจะเข้าใจมากขึ้นว่าเขาควรทำอะไรบางอย่าง ผมก็แนะนำว่าถ้าไม่มีความรู้จริงๆก็ให้กองทุนเอาไปบริหารให้ก็ได้ แล้วใช้ DCA ช่วยเอา
-
- Verified User
- โพสต์: 1598
- ผู้ติดตาม: 0
คนเล่นหุ้นเป็นคนที่น่ารังเกียจของสังคม?
โพสต์ที่ 46
[quote="cuboty"][quote="สามัญชน"]นักลงทุน(ในหุ้น)นี่แหละ
ในอนาคต
จะเป็นอาชีพในฝันของคนรุ่นใหม่เลย
สาวๆชอบ
ในอนาคต
จะเป็นอาชีพในฝันของคนรุ่นใหม่เลย
สาวๆชอบ
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
- Outliers
- Verified User
- โพสต์: 527
- ผู้ติดตาม: 0
คนเล่นหุ้นเป็นคนที่น่ารังเกียจของสังคม?
โพสต์ที่ 47
ต่างกับผมมากเลย
เพื่อนๆที่บริษัทเล่นหุ้นกันเกือนทุกคน
80% ซื้อตามแรงเชียร์ของโบรกเกอร์และซื้อหุ้นของบริษัทตัวเองที่ทำอยู่
ใครไม่เล่นนี้แทบจะถูกตราหน้าว่าไม่รู้จักการลงทุน
อาจเป็นเพราะช่วงนี้ดอกเบี้ยต่ำก็ได้
เพราะผมว่าคนที่จบปริญญาขึ้นไปส่วนใหญ่จะรู้ความน่ากลัวของเงินเฟ้อเมื่อเทียบกับดอกเบี้ย
แต่ถ้าดอกเบี้ยเริ่มกลับมาสูงขึ้น คนที่ลงทุนหุ้นอาจจะโดนมองว่าแย่ก็ได้นะ
เพื่อนๆที่บริษัทเล่นหุ้นกันเกือนทุกคน
80% ซื้อตามแรงเชียร์ของโบรกเกอร์และซื้อหุ้นของบริษัทตัวเองที่ทำอยู่
ใครไม่เล่นนี้แทบจะถูกตราหน้าว่าไม่รู้จักการลงทุน
อาจเป็นเพราะช่วงนี้ดอกเบี้ยต่ำก็ได้
เพราะผมว่าคนที่จบปริญญาขึ้นไปส่วนใหญ่จะรู้ความน่ากลัวของเงินเฟ้อเมื่อเทียบกับดอกเบี้ย
แต่ถ้าดอกเบี้ยเริ่มกลับมาสูงขึ้น คนที่ลงทุนหุ้นอาจจะโดนมองว่าแย่ก็ได้นะ
The Miracle of 10,000 hrs
-
- Verified User
- โพสต์: 221
- ผู้ติดตาม: 0
คนเล่นหุ้นเป็นคนที่น่ารังเกียจของสังคม?
โพสต์ที่ 52
สามัญชน เขียน:
-
- Verified User
- โพสต์: 160
- ผู้ติดตาม: 0
คนเล่นหุ้นเป็นคนที่น่ารังเกียจของสังคม?
โพสต์ที่ 53
ทีหลัง อย่าบอกเขาว่าเล่นหุ้น
ให้บอกว่าเป็นนักลงทุน ดูเก๋กว่ากันแยะเลย
ให้บอกว่าเป็นนักลงทุน ดูเก๋กว่ากันแยะเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 1598
- ผู้ติดตาม: 0
คนเล่นหุ้นเป็นคนที่น่ารังเกียจของสังคม?
โพสต์ที่ 54
ลูกอิสาน เขียน:
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
- SEHJU
- Verified User
- โพสต์: 1238
- ผู้ติดตาม: 0
คนเล่นหุ้นเป็นคนที่น่ารังเกียจของสังคม?
โพสต์ที่ 55
กุหลาบงามหลังฝน เขียน:
-
- Verified User
- โพสต์: 19
- ผู้ติดตาม: 0
ร่วมด้วยช่วยเปลี่ยน ....ความคิด
โพสต์ที่ 57
ได้เห็นหลาย ๆ คนแสดงความคิดเห็นมาแล้วรู้สึกมีความสุขครับ ผมมีเรื่องส่วนตัวจะเล่าให้ฟัง ผมมีความสนใจในเรื่องการลงทุนมาพอสมควรครับ เน้นน่ะครับ ว่าลงทุน ไม่ใช่ เก็งกำไร ผมเคยปรึกษากับใครหลาย ๆ คนรอบข้าง คำตอบที่ได้มาทำให้ผมมองว่า ผมเลือกที่จะเชื่อในความคิดตัวเองมากกว่า เพราะคนส่วนใหญ่เหมือนแทงหวยแทงบอล จนวันหนึ่งเมื่อผมได้มีโอกาสได้คุยเรื่องนี้กับคุณพ่อของผม ท่านแทบจะเป็นคนสุดท้ายที่ผมได้ปรึกษาเรื่องนี้ด้วย ท่านถามว่าผมแน่ใจเหรอ ผมสนใจมันจริง ๆ เหรอ คำถามอันแรกที่พ่อถามผมคือ ลูกจะลงทุนจริง ๆ หรือลูกจะเก็งกำไร ถ้าตอบคำถามนี้ได้แล้วพ่อจะคุยด้วยต่อ ( ท่านเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก ) ผมตอบว่า ลงทุนครับ ท่านพูดต่อว่า ถ้าหากลูกคิดว่าสิ่งที่ลูกทำเป็นการลงทุน มันก็เป็นความคิดเดียวกับสิ่งที่พ่อคิดเอาไว้ เมื่อหลายปีก่อน ก่อนที่ท่านจะเกษียนอายุจากงานราชการ พ่ออยากทำในสิ่งที่ผมกำลังคิดในขณะนั้น ติดแต่ตรงที่ว่า คำตอบจากคนรอบข้างโดยเฉพาะคนข้างกายอย่างคุณแม่ของผม ทุกคนไม่เห็นด้วย เพราะมองว่ามันคือความเสี่ยง และจับต้องไม่ได้เป็นรูปธรรมจนกว่าจะแปรเปลี่ยนเป็นธนบัตรอยู่ในกระเป๋า หรือ ธนาคาร อิทธิพลจากคนรอบข้างเหล่านี้เป็นเหตุให้คุณพ่อของผมต้องเบนเข็มมาทำสวนยาง สิ่งเหล่านี้ได้รับการตอบรับจากคนรอบข้างมากมาย ด้วยต้นยางเหล่านั้นที่ลงทุนพวกเขามองเห็นการเติบโตของมันจับได้ ....ต้องได้ แต่สิ่งที่พ่อบอกก็คือในใจพ่อ พ่อยังเสียดายที่ในชีวิตยังไม่เคยได้สัมผัสการลงทุนในตลาดหุ้นเลยแม้สักครั้ง แต่ในทางกลับกัน ท่านกลับได้อ่านหนังสือ ของ บัฟเฟต์ ก่อนผมหลายปี และบอกว่า หากท่านเอาเงินที่ลงทุนไปในสวนยางทั้งหมดมาลงทุนในตลาดหุ้นเมื่อหลายปีก่อนก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่ท่านเชื่อลึก ๆ ว่า มันคงจะให้ผลตอบแทนที่ดีกับท่านได้บ้าง หรืออย่างน้อย ก็ยังได้มุมมองใหม่มาคุยกับลูก แต่ ณ วันนี้ ท่านบอกว่า สวนของเรามันมาไกลแล้ว รายได้หลักของท่าน ณ เวลานี้ มาจากส่วนที่ท่านได้ลงแรงลงทุนเอาไว้ เมื่อกว่าสิบปีที่แล้ว ท่านบอกว่าท่านเคยคิดเปรียบเทียบเสมอว่า ต้นยางเหล่านั้นก็เหมือนหุ้นที่ท่านลงทุนไปนั่นแหละ ( ผมไม่อยากจะเชื่อว่าท่านรู้จัก เรื่องราวของ Vi ด้วย แต่อย่างว่าก็ท่าน ชอบอ่านหนังสือนี่น่า ) หากท่านซื้อไปพร้อม ๆ กัน กับต้นยางในสวน มันก็คงจะโตพอ ๆ กัน นี่แหละ กว่าจะได้เก็บเกี่ยว หรือ เปิดหน้ายาง ก็ปาเข้าไป เจ็ด ถึง แปด ปี พ่อบอกว่า ไม่ว่าจะลงทุนในหุ้นหรือทำสวน ก็ไม่ได้ต่างกันมากพ่อต้องทุ่มเทเวลาให้กับมันมากมายเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าจะปลูกหรือจะซื้อทิ้งไว้ได้เลย แต่สิ่งที่ต่างกันก็คือท่านยังคงเชื่อว่า หากท่านลงทุนในหุ้นได้ และสามารถจะทำให้มันออกดอกออกผลได้อย่างที่ท่านคิด มันจะสามารถทำให้ท่านเปลี่ยนความคิดคนรอบข้างของท่านได้ แต่ท่านบอกว่า สุดท้ายเวลาของท่านคงไม่พอที่จะทำอย่างนั้นหรอก แต่หากผมสามารถทำหรือสานต่อในสิ่งที่ท่านคิดไว้ได้ท่านคงจะมีความสุขมาก......ครอบครัวของเราหรือแม้แต่ในตระกูลของเราไม่มีใครเคยลงทุนในหลักทรัพย์เลยครับ ผมเองถือได้ว่าเป็นคนแรกที่หันมาสนใจในเรื่องนี้ แต่ก็โชคดีที่สุดที่คนที่เข้าใจคือ คุณพ่อของเราเอง ผมเชื่อว่าหากว่าเราทำได้แม้จะ ไม่ดีมาก แต่หากมันเห็นเป็นรูปธรรมได้ ในอีก ห้าปี สิบปี ข้างหน้า ผมเชื่อว่า ผมจะสามารถเปลี่ยนมุมมองคนรอบข้าง ของผมได้มากทีเดียว แล้วถ้าหากพวกเรา หลาย ๆ คนทำได้อย่างเดียวกัน อาชีพนักลงทุน ก็คงจะกลายเป็นสาขาวิชาที่มีการเปิดการเรียนการสอนใน มหาลัยต่าง ๆ ในอนาคตเองครับ แล้ววันนั้นผมก็เชื่อว่า เด็ก ๆ รุ่นใหม่คงจะหันมาศึกษา องค์ความรู้แขนงนี้อีกมากครับ โดย เฉพาะ สาขา วิชา Value Investment !!!!!!!
-
- Verified User
- โพสต์: 1296
- ผู้ติดตาม: 1
คนเล่นหุ้นเป็นคนที่น่ารังเกียจของสังคม?
โพสต์ที่ 58
อย่าว่าแต่คนวงนอกตลาดหุ้นที่ มองดูคนเล่นหุ้นด้วย
สายตาดูแคลนเลย แม้แต่คนเล่นหุ้นด้วยกันยังมองพวก
เล่นหุ้นแนว VI ด้วยความไม่เข้าใจ ว่าไอ้พวกนี้บ้าหรือ
เปล่าที่ขอกำไร+ปันผลแค่ปีละ 15-20%
ที่ผมไม่เข้าใจมากๆคือหลายๆคนเล่นหุ้นมา 10-20 ปี
มีแต่เสมอตัวหรือขาดทุน พอเราบอกให้เล่นในแนว VI
กลับไม่สนใจ ไม่เปลี่ยนวิธีคิดทั้งๆที่เล่นวิธีเดิมๆมาเป็น
10+ ปีแล้วไม่ได้ผล
ส่วนตัวผมหลังจากเปลี่ยนมาเล่นในแนว VI มา
ประมาณ 5 ปี (เล่นหุ้นมาตั้งแต่ปี 34 ) ถึงแม้จะประสบ
ความสำเร็จไม่มาก แต่ก็ได้ผลพอสมควร Port โตขึ้น
ชนิดคาดไม่ถึง เมื่อเปรียบกับการเล่นหุ้นระยะแรกๆ
ที่เสมอตัวหรืออาจขาดทุนเสียด้วยซ้ำ
สายตาดูแคลนเลย แม้แต่คนเล่นหุ้นด้วยกันยังมองพวก
เล่นหุ้นแนว VI ด้วยความไม่เข้าใจ ว่าไอ้พวกนี้บ้าหรือ
เปล่าที่ขอกำไร+ปันผลแค่ปีละ 15-20%
ที่ผมไม่เข้าใจมากๆคือหลายๆคนเล่นหุ้นมา 10-20 ปี
มีแต่เสมอตัวหรือขาดทุน พอเราบอกให้เล่นในแนว VI
กลับไม่สนใจ ไม่เปลี่ยนวิธีคิดทั้งๆที่เล่นวิธีเดิมๆมาเป็น
10+ ปีแล้วไม่ได้ผล
ส่วนตัวผมหลังจากเปลี่ยนมาเล่นในแนว VI มา
ประมาณ 5 ปี (เล่นหุ้นมาตั้งแต่ปี 34 ) ถึงแม้จะประสบ
ความสำเร็จไม่มาก แต่ก็ได้ผลพอสมควร Port โตขึ้น
ชนิดคาดไม่ถึง เมื่อเปรียบกับการเล่นหุ้นระยะแรกๆ
ที่เสมอตัวหรืออาจขาดทุนเสียด้วยซ้ำ
- SunShine@Night
- Verified User
- โพสต์: 2196
- ผู้ติดตาม: 0
คนเล่นหุ้นเป็นคนที่น่ารังเกียจของสังคม?
โพสต์ที่ 59
sai เขียน:ต่อต่ออีกหน่อย ตอนปี 2542 ผมเปิดร้านอินเตอร์เน็ตครั้งแรก มี 8 เครื่อง แม่แฟนผมบอกว่าอายมาก ทำไมไม่ไปหาอย่างอื่นทำที่มัน ยั่งยืน เหมือนหลอกเด็กไปวันวัน ผมตอนนั้นอารมณ์แบบฟังไม่เข้าใจเนื่องจากเราเชื่อในความคิดเราไง (เหมือนแม่ยายพูดภาษาอังกฤษ แต่ผมฟังไม่ออก ) ผมก็ทำไปเรื่อยเรื่อยและขยายกิจการไปเรื่อยเรื่อย ตอนช่วงที่ดีที่สุด ผมมีเครื่องคอมพิวเตอร์ และ play 2 รวมทุกสาขาประมาณ 400 เครื่องมีรายได้พอสมควร ซื้อบ้านให้แม่ยายและน้องน้องของภรรยาหนึ่งหลังร่วมกันกับครอบครัวผม ให้เงินจุนเจือเค้า เค้ากลับบอกกับใครต่อใครว่า ชั้นบอกแล้วว่าลูกเขยฉันเก่ง เนี่ยเปิดร้านเกมส์มันดี หาเงินง่าย เป็นอาชีพที่ดี
สรุปผมว่ามันอยู่ที่ผลที่เราทำได้นะ ถ้าแชมป์ทำได้สำเร็จคนรอบข้างก็จะเปลี่ยนคำพูดและท่าทีที่มีต่อเราเอง (บางทีเหมือนเราเชื่อว่าผีมีจริง แต่บอกยังไงคนรอบข้างก็ไม่เชื่อซักที พอวันหนึ่งเห็นผีเท่านั้นแหละ ก็เชื่อทันทีโดยไม่ตอ้งอธิบายเพิ่มเติมอะไรเยอะ ) หรือถ้ายังมีใครบางคนจะดูถูกเราอีก ก็คงต้องปล่อยเค้าว่าไป เพราะเราเท่านั้นที่เป็นคนกำหนดความสุขในชีวิตของตัวเราเอง (เอาเวลาไปหาแฟนดีกว่าม้าง มานั่งกลุ่มใจคนรอบข้างอ่ะ อิอิ )
VI ฝึกหัด สำนักปีเตอร์ ลินช์
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
- Tibular
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 522
- ผู้ติดตาม: 0
คนเล่นหุ้นเป็นคนที่น่ารังเกียจของสังคม?
โพสต์ที่ 60
ผมว่ายาก กว่าที่จะได้รับการยอมรับ สำหรับอาชีพนักลงทุนส่วนบุคคล
เพราะต้องมีความรอบรู้ใหนศาสตร์หลายแขนงมากในเรื่องธุรกิจ
ไม่ว่า การผลิด การตลาด การจัดการ การบัญชี การเงิน การภาษี รวมไปถึง
ความรู้ด้าน เศรษฐศาสตร์ สังคมวิทยา รัฐศาสตร์ กฏหมาย จิตวิทยา
วิทยาศาตร์ คณิตศาตร์ สถิติ ความน่าจะเป็น ปรัชญา ศาสนา ฯลฯ
เรียกว่าเป็นการช้องค์ความรู้ต่างๆ มาประกอบการตัดสินใจในการลงทุน
และต้องต่อสู้กับความผันผวนในตลาด ซึ่งคนส่วนใหญ่มองว่ามันอันตราย
มีโอกาสได้เสียสูงมาก เพราะข่าวสารต่างๆมันเป็นอย่างนั้น รายงานกัน
แทบทุกนาที ทุกชั่วโมง ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง การลงทุนขอบเขตมันกว้างกว่า
การทำงานด้านอื่นมาก จึงต้องอาศัยทั้งเวลา กำลังเงิน ในระยะยาว
นานพอที่จะเห็นความคุ้มคา ความสำเร็จ ใช้กำลังใจ ความอดทนและรอคอย
อย่างยิ่งยวดในการพิสูจน์ตัวเอง น้อยคนนักที่จะประสบความสำเร็จ
แต่ถ้าเป็นนักลงทุนอาชีพ อย่างผู้จัดการกองทุน เหมือนอย่างในอเมริกา
นี้คงได้รับการยอมรับแน่นอน เพราะเป็นอาชีพในระบบด้านการเงิน ก็คง
อยู่ที่ทางเลือก และการเิดินทางของแ่ต่ละคน ขอให้ประสบความสำเร็จครับ
เพราะต้องมีความรอบรู้ใหนศาสตร์หลายแขนงมากในเรื่องธุรกิจ
ไม่ว่า การผลิด การตลาด การจัดการ การบัญชี การเงิน การภาษี รวมไปถึง
ความรู้ด้าน เศรษฐศาสตร์ สังคมวิทยา รัฐศาสตร์ กฏหมาย จิตวิทยา
วิทยาศาตร์ คณิตศาตร์ สถิติ ความน่าจะเป็น ปรัชญา ศาสนา ฯลฯ
เรียกว่าเป็นการช้องค์ความรู้ต่างๆ มาประกอบการตัดสินใจในการลงทุน
และต้องต่อสู้กับความผันผวนในตลาด ซึ่งคนส่วนใหญ่มองว่ามันอันตราย
มีโอกาสได้เสียสูงมาก เพราะข่าวสารต่างๆมันเป็นอย่างนั้น รายงานกัน
แทบทุกนาที ทุกชั่วโมง ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง การลงทุนขอบเขตมันกว้างกว่า
การทำงานด้านอื่นมาก จึงต้องอาศัยทั้งเวลา กำลังเงิน ในระยะยาว
นานพอที่จะเห็นความคุ้มคา ความสำเร็จ ใช้กำลังใจ ความอดทนและรอคอย
อย่างยิ่งยวดในการพิสูจน์ตัวเอง น้อยคนนักที่จะประสบความสำเร็จ
แต่ถ้าเป็นนักลงทุนอาชีพ อย่างผู้จัดการกองทุน เหมือนอย่างในอเมริกา
นี้คงได้รับการยอมรับแน่นอน เพราะเป็นอาชีพในระบบด้านการเงิน ก็คง
อยู่ที่ทางเลือก และการเิดินทางของแ่ต่ละคน ขอให้ประสบความสำเร็จครับ