ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
- theerasak24
- Verified User
- โพสต์: 614
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 1831
ขอบคุณครับที่ให้บทวิเคราะห์ครับ เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้นครับ
- Baby Genius
- Verified User
- โพสต์: 220
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 1833
สวัสดีปีใหม่ครับพี่ลูกอีสาน
ติดตามอ่านกระทู้พี่มานานแล้วครับ
ชอบที่พี่อธิบายให้อ่านได้เข้าใจง่ายๆครับ
ติดตามอ่านกระทู้พี่มานานแล้วครับ
ชอบที่พี่อธิบายให้อ่านได้เข้าใจง่ายๆครับ
- ler109
- Verified User
- โพสต์: 241
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 1835
[quote="Outliers"]พี่โจคิดยังไงกับหุ้น CNS ครับ
คือไปดูงบของ CNS มาน่ะครับ
พบว่านี้มี (เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด + เงินลงทุนในตราสารหนี้และตราสารทุน (สุทธิ)+ ลูกหนี้ธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (สุทธิ) - รวมหนี้สิน) / จำนวนหุ้นทั้งหมด = (1,376,843,400 + 1,035,946,469 + 2,145,404,936 - 1,275,110,755) / 71,682,300
= 3,283,084,050 / 71,682,300
คือไปดูงบของ CNS มาน่ะครับ
พบว่านี้มี (เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด + เงินลงทุนในตราสารหนี้และตราสารทุน (สุทธิ)+ ลูกหนี้ธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (สุทธิ) - รวมหนี้สิน) / จำนวนหุ้นทั้งหมด = (1,376,843,400 + 1,035,946,469 + 2,145,404,936 - 1,275,110,755) / 71,682,300
= 3,283,084,050 / 71,682,300
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 1836
ผมยังมองไม่ค่อยออกครับว่าธุรกิจขายเพชรเป็นอย่างไร ในชีวิตผมคงเหมือนหลายๆคนที่ซื้อเพชรครั้งเดียวตอนแต่งงาน ผมแต่งปี 2000 จำได้ว่าซื้อแหวนหมั้น 4 หมื่นบาทจากคนที่รู้จักและเค้าขายเพชร ถึงวันนี้ผมก็ยังไม่รู้เลยครับเป็นเพชรจริงหรือเพชรปลอม ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่ก็คงไม่รู้เช่นกัน ดังนั้นธุรกิจนี้เป็นตลาดเฉพาะกลุ่มครับ อัญมณีประเภทแรกที่คนจะซื้อผมคิดว่าต้องเป็นทอง เพราะสวยงามใช้สวมใส่ได้ มีสภาพคล่องสูงขายที่ไหนก็ได้ มีราคาตลาดอ้างอิงชัดเจน แตกต่างจากเพชร ถ้าไม่ใช่คนในวงการ ใครจะดูออกว่าเพชรเก๊เพชรจริง เวลาเอาไปขาย ผมไม่แน่ใจว่าขายคืนได้หรือเปล่าและเป็นราคาเท่าไหร่ของราคาซื้อ ดังนั้นเพชรน่าจะเหมาะกับคนที่เงินเหลือระดับนึง เป็นตลาดบี+ ขี้นไป ถ้าสังเกตครึ่งปีแรกของปี 52 ยอดขายกำไรลดลงมาก เพราะเมื่อเศรษกิจตกต่ำผู้บริโภคย่อมลดสินค้าฟุ่มเฟือยเป็นอันดับแรก อย่างเพชรเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยแน่นอน แต่ยอดขายกำไรไตรมาส 3 ดีขึ้นมากไม่รู้ปี 51 แย่มากหรือเปล่า ดังนั้นถ้าเศรษกิจดี หนุ่มสาวแต่งงานกันมากขึ้น จะเป็นผลดีต่อบริษัทครับmiracle เขียน:รบกวนพี่ลูกอีสานเรื่องของสวยของงามอีกตัวได้ไหมครับ
เป็นหุ้นน้องใหม่คือ Jubile
ขอบคุณครับ
:lol:
jubile งบดุลปี 2549 มีส่วนทุนแค่ 34 ล้านเท่านั้น หลังจากนั้นมีการเพิ่มทุนของผู้บริหารเดิม เพิ่มทุนให้กองทุน และเพิ่มทุนขาย IPO มีคนตั้งข้อสังเกตว่าขายไอพีโอได้เงิน 1 ร้อยล้าน แต่ปันผล 50 ล้านไปแล้ว เหมือนเอาเงินผู้ถือใหม่จ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นเก่า และแสดงว่าจุดประสงค์ที่เข้าตลาดคงไม่ใช่เพราะต้องการเงินทุน บริษัทแจ้งว่ามีแผนนำเงินไปขยายสาขาเป็นเงินทุนหมุนเวียนและลงทุนระบบไอที แต่ทราบว่าในอดีตบริษัทมีสาขามากกว่าปัจจุบันซะอีก เลยไม่แน่ใจว่าทำไมสาขาลดลง แล้วถ้าขยายสาขาจะเป็นเหมือนเดิมหรือเปล่า
แต่จุดเด่นของบริษัทนอกจากผู้บริหารน่ารักแล้ว ผมคิดว่าบริษัทวางโพสิชั่นค่อนข้างดี บริษัทเป็นรายแรกที่เอาร้านเพชรขึ้นห้าง แทนที่จะต้องรอให้ลูกค้ามาหาแบบร้าน stand alone บริษัทกลับไปหาลูกค้าซะเอง ซึ่งนี่เป็นจุดเด่นที่สุดของบริษัทเพราะวิถีชีวิตยุคใหม่ผู้คนต้องใช้บริหารห้างสรรพสินค้าและ discount store ลูกค้าที่ต้องการซื้อเพชรอยู่แล้วก็จะซื้อร้านที่น่าเชื่อถือ ลูกค้าที่ไม่ตั้งใจจะซื้อ แต่จับพลัดจับพลูเดินเข้าไปในร้าน กลายเป็นลูกค้าแบบไม่ตั้งใจ เนื่องจากส่วนใหญ่ผู้คนไม่มีความรู้เรื่องเพชร ดังนั้นการเลือกซื้อจากร้านที่น่าเชื่อถือ ร้านที่มีชื่อเสียง มีหลายสาขาแบบ jubile จะเป็นข้อได้เปรียบ ปัจจุบันบริษัทมีสาขาเยอะที่สุดในประเทศ และทิ้งห่างคู่แข่งค่อนข้างมาก ผมคิดว่านี่เป็นความสามารถในการแข่งขันอย่างนึงของบริษัทครับ ผู้บริหารให้ข่าวว่าเป้ายอดขายปีหน้าประมาณพันล้าน เพิ่มขึ้นมากจากปี 52 ที่ยอดขาย 6-700 ร้อยล้าน ถ้าอัตรากำไรเท่าเดิมและได้ลดภาษี กำไรน่าจะโตพอสมควร ปัจจุบันบริษัทมี P/E ย้อนหลังประมาณ 9.5 เท่า ถูกหรือแพงก็ตัดสินใจเองนะครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 1837
[quote="ler109"][quote="Outliers"]พี่โจคิดยังไงกับหุ้น CNS ครับ
คือไปดูงบของ CNS มาน่ะครับ
พบว่านี้มี (เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด + เงินลงทุนในตราสารหนี้และตราสารทุน (สุทธิ)+ ลูกหนี้ธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (สุทธิ) - รวมหนี้สิน) / จำนวนหุ้นทั้งหมด = (1,376,843,400 + 1,035,946,469 + 2,145,404,936 - 1,275,110,755) / 71,682,300
= 3,283,084,050 / 71,682,300
คือไปดูงบของ CNS มาน่ะครับ
พบว่านี้มี (เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด + เงินลงทุนในตราสารหนี้และตราสารทุน (สุทธิ)+ ลูกหนี้ธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (สุทธิ) - รวมหนี้สิน) / จำนวนหุ้นทั้งหมด = (1,376,843,400 + 1,035,946,469 + 2,145,404,936 - 1,275,110,755) / 71,682,300
= 3,283,084,050 / 71,682,300
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- nasesus
- Verified User
- โพสต์: 1276
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 1840
พี่โจครับ ดูท่าทางค่าเงินบาทปีนี้คงจะแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดหลักทรัพย์ไทยมีหุ้นตัวไหนที่เด่นเรื่องนำเข้าบ้างครับ ที่ผมนึกออกว่าน่าจะได้ประโยชน์ ก็มี pato bjc jct tccc รบกวนพี่โจด้วยครับ
ทางที่ไม่มีไฟ ใช่ว่าไม่มีทาง เพียงแค่การก้าวไปข้างหน้าต้องใช้มากกว่าการหวังพึ่งแค่ดวงตา
- green-orange
- Verified User
- โพสต์: 896
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 1841
WG ครับ นำเข้าวัตุดิบแล้วขายในประเทศล้วนๆ เลย ได้ทั้งค่าเงินและเงินเฟ้อจากทั้งราคาพลังงานที่มีแนวโน้มเพิ่มขี้นและสต๊อกเกณท์ครับnasesus เขียน:พี่โจครับ ดูท่าทางค่าเงินบาทปีนี้คงจะแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดหลักทรัพย์ไทยมีหุ้นตัวไหนที่เด่นเรื่องนำเข้าบ้างครับ ที่ผมนึกออกว่าน่าจะได้ประโยชน์ ก็มี pato bjc jct tccc รบกวนพี่โจด้วยครับ
- loki
- Verified User
- โพสต์: 52
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 1842
จากข้างบนครับขอถามความเห็นพี่โจเกี่ยวกับPATOหน่อยครับเท่าที่ผมดูก็ผลประกอบการงบการเงินปันผลดีติดต่อกันหลายปีอยู่(3-4ปีที่ผ่านมา)แล้วผมก็คิดว่าเกษตรกรส่วนใหญ่ก็จะคงยังพึ่งสารเคมีกำจัดศัตรูพืชอยู่ดียิ่งมีนโยบายสนับสนุนด้านการเกษตรด้วยผมคิดว่าน่าจะขยายได้อีกในอุตสาหนกรรมนี้ซัก5-10ปีแต่ต่อไปไม่แน่ใจถ้ามีการตัดแต่งพันธุกรรมให้พืชทนแมลงมากขึ้นอาจจะทำให้อุสาหกรรมนี่ดับก็ได้แต่ก็ยังมีพวกต่อต้านการทำเรื่องนี้อยู่พี่โจคิดเห็นว่าอย่างไรครับnasesus เขียน:พี่โจครับ ดูท่าทางค่าเงินบาทปีนี้คงจะแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดหลักทรัพย์ไทยมีหุ้นตัวไหนที่เด่นเรื่องนำเข้าบ้างครับ ที่ผมนึกออกว่าน่าจะได้ประโยชน์ ก็มี pato bjc jct tccc รบกวนพี่โจด้วยครับ
- loki
- Verified User
- โพสต์: 52
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 1843
เมื่อกี้ลืพูดถึงเรืองข้อเสียอีกเรื่องกฎหมายควบคุมสารเคมีในการขอจดทะเบียนยาเห็นคุณอินทรีย์ทองแดงพูดเรื่องการให้ทุกบริษัทขอใหม่อะไรประมาณนี้บริษัทไทยเล็กๆคงแย่แน่ๆ(ขออภัยคุณอินทรีย์ทองแดงนะครับที่พาดพิงถึง)
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 1844
path of the brave เขียน:พี่ลูกอีสานครับ รบกวนช่วยวิเคราะห์หุ้นโรงไฟฟ้าให้หน่อยครับ ในมุมมองของพี่ ถ้จะถือระยะยาว ตัวไหนน่าสนใจครับ
หุ้นไฟฟ้าที่ฮิตๆก็มีไม่กี่ตัว เช่น egco ratch glow
พิจารณาปัจจัยหลักๆดังนี้ครับ
1.กำลังการผลิต กำลังการผลิตเพิ่ม รายได้เพิ่ม กำไรก็ควรจะมีแนวโน้มเพิ่ม ง่ายๆอย่างนี้ ดูว่าบริษัทใดจะมีกำลังการผลิตเพิ่มสูงสุด แต่แค่นี้ยังไม่พอนะครับ
2.พิจารณาเนื้อหาสัญญาซื้อไฟฟ้า สัญญาบางสัญญาให้กำไรสูงตอนแรกๆแล้วค่อยๆลดลง อย่างโรงไฟฟ้า blcp ของ egco บางโครงการกำหนดให้กำไรก็เป็นแบบระฆังคว่ำเช่นโรงไฟฟ้าระยอง ขนอมของ egco เช่นกัน เรื่องนี้สำคัญมากเพราะซื้อไม่ศึกษามักไปซื้อตอนกำไรพีคๆ แล้วมาขายขาดทุนหุ้นตอนกำไรตกต่ำ การประมาณการกำไรของ egco ratch มีให้อ่านในหนังสือชี้ชวนครับ
3.โครงสร้างผู้ถือหุ้น หากมีผู้ผูกขาดการซื้อขายไฟอย่าง กฟผ.มาเป็นผู้ถือหุ้นด้วยได้เปรียบครับ หรือผู้ถือหุ้นที่เอื้อประโยชน์ได้เช่น banpu มีถ่านหิน และ banpu ถือหุ้นใน ratch เมื่อจะทำโรงไฟฟ้าก็ชวน ratch มาทำ
สำหรับ egco ผมเคยให้ความเห็นอย่างนี้ครับ
โดยรวมๆ egco ปัจจุบันงบการเงินดีมาก มีเงินเยอะแต่ไม่มีโครงการใหม่ๆที่มีนัยสำคัญ และที่น่ากังวลคือรายได้หลักกำลังลดลงตามสัญญาซื้อขายไฟ ในอนาคตใกล้แค่พยุงไม่ให้กำไรลดลงก็เก่งแล้ว ราคาหุ้นเลยไม่ไปไหนครับ มีลุ้นคือได้ต่ออายุโรงไฟฟ้าใหม่ๆ โดยเฉพาะที่ขนอม เพราะภาคใต้ขาดแคลนกำลังการผลิตไฟฟ้า แม้จะมีโรงไฟฟ้าจะนะ เฟส2 ก็ยังไม่เพียงพอครับหลายคนสงสัยว่าทำไมราคา egco หุ้นเทรดที่พีอีต่ำมาก ทั้งที่พื้นฐานของกิจการก็มั่นคงดี ผลิตไฟฟ้าที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นทุกๆปี แต่ที่หลายคนไม่ทราบคือสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่ทำกับ กฟฝ.มีการกำหนดกำไรในแต่ละปีไม่เท่ากัน กรณีโรงไฟฟ้าระยองและขนอมจะเป็นแบบระฆังคว่ำคือจะมีช่วงที่กำไรสูงสุดอยู่ในช่วงกลางของอายุโรงไฟฟ้า ในขณะที่โรงไฟฟ้า BLCP จะกำหนดให้กำไรมากที่สุดในปีแรกๆและจะค่อยๆลดลง นั้นหมายความว่ากำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ไม่ได้หมายความว่ากำไรจะเพิ่มขึ้นด้วย ขึ้นอยู่กับสัญญาซื้อขายไฟเป็นสำคัญ และจากเอกสารที่โพสต์ในกระทู้จะเห็นได้ชัดเจนว่ากำไรจากโรงไฟฟ้าระยอง-ขนอมจะลดลงมากในอนาคตอันใกล้นี้ รวมถึงกำไร blcp ก็ลดลง แต่ก็มีโรงไฟฟ้าใหม่ๆเช่นแก่งคอย 2 น้ำเทิน เคซอน เข้ามาชดเชย พยุงกำไรไว้ได้แต่จะหวังให้กำไรโตมากๆ ยังมองไม่เห็นหนทาง นี่อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้หุ้นเทรดที่พีอีต่ำครับ และบริษัทไฟฟ้าจะมีฤดูกาลเหมือนกันครับ ครึ่งปีหลังมักจะซ่อมบำรุง กำไรจะน้อยกว่าครึ่งปีแรกเป็นปกติครับ
ผมคิดว่าผู้บริหารของ egco ก็รู้ดีว่ากระแสเงินสดของกิจการดีขึ้นมาก มีเงินสดเหลือที่จะลงทุนได้ ปัญหาคือหาโครงการลงทุนไม่ได้ โครงการ IPP รอบที่ผ่านมาก็เจอคู่แข่งดั๊มราคาทำให้พลาดไป โรงไฟฟ้าในต่างประเทศก็หายากที่ให้ผลตอบแทนดีๆ และมีความเสี่ยงทางการเมืองต่ำ การหันไปผลิตไฟฟ้าจากพลังทดแทน ก็เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น โอกาสของ egco ที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นไปได้ที่สุดคือการได้รับการต่ออายุโรงไฟฟ้า โดยเฉพาะที่ขนอมน่าจะได้เปรียบที่สุด เพราะมีสาธารณูปโภคทุกอย่าง สามารถประมูลต้นทุนต่ำกว่าคู่แข่งได้ ที่จริงตอนนี้โรงไฟฟ้าใหม่ๆเกิดได้ยากเย็น แม้เป็นโรงไฟฟ้าจากแก็สธรรมชาติ ดังนั้นไม่แน่ครับใครที่มีโรงไฟฟ้าเก่าๆอาจจะนำมายกเครื่องผลิตใหม่ ไม่มี ngo ชาวบ้านมาต่อต้านด้วย
RATCH สัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่กำหนดกำไรของบริษัทค่อนข้างสม่ำเสมอ ดังนั้นไม่ค่อยมีความเสี่ยงแบบ egco นอกจากนั้นยังมีกำลังการผลิตใหม่ๆที่มีนัยสำคัญ เช่นโครงการหงสา เขื่อนในลาวบางโครงการ และยังมีโครงการกังหันลม มีผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง กฟผ.ที่ถือหุ้น 45% มากกว่าที่ถือหุ้น egco 25% ค่อนข้างมาก ดังนั้นหากมีอะไรที่เอื้อประโยชน์ให้ ratch ได้ผมคิดว่า กฟผ.ก็น่าจะทำ นอกจากนั้นยังมี banpu ถือหุ้น 15% ก็เอื้อประโยชน์เช่นได้ทำโครงการหงสาครับ ราคาหุ้นปัจจุบันเทรดที่พีอี 7-8 เท่า ก็ถือว่าไม่แพง
GLOW เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าแบบ cogeneration ทำให้มีประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนพลังงานสูงถึง 7-80% เทียบกับโรงไฟฟ้าทั่วไป 4-50% ทำให้มีต้นทุนต่ำ บริษัทขายทั้งไฟฟ้าและไอน้ำที่เหลือจากการผลิตไฟฟ้าให้กับโรงงานอุตสาหกรรม ดังนั้นจะมีลูกค้า 2 กลุ่มคือกฟผ.และโรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่เป็นปิโตรเคมี ซึ่งกลุ่มหลังนี้เป็นรายได้ที่ค่อนข้างสม่ำเสมอครับ โครงการในอนาคตที่สำคัญที่สุดคือโรงไฟฟ้าเกคโค 1 ที่ร่วมทุนกับเหมราช แต่ตอนนี้ติดปัญหามาบตาพุด คิดว่าน่าจะเดินหน้าได้แต่จะช้าจากแผนงานบ้าง ปัจจุบันราคาหุ้นเทรดที่P/E ประมาณ 10-12 เท่าก็ถือว่าราคารับรู้อนาคตไประดับนึงแล้ว
ถ้าให้ผมเลือกผมชอบ ratch>glow>egco ตามลำดับครับ..
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 124
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 1845
หุ้น NBC ครับพี่โจ
อยากทราบเรื่องการเติบโตในอนาคตและปัจจัยเสี่ยงทางด้านการเมืองครับ
ขอบคุณครับ :D
อยากทราบเรื่องการเติบโตในอนาคตและปัจจัยเสี่ยงทางด้านการเมืองครับ
ขอบคุณครับ :D
-
- Verified User
- โพสต์: 1109
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 1846
[quote="ลูกอิสาน"][quote="young_5432"]พี่ลูกอีสานครับ
มีกระแสน้ำสายหนึ่งในกิจกรรมของคน ซึ่งเมื่อมันไหลบ่าท่วมท้น จะนำไปสู่ความมั่งคั่งมหาศาล :Philip A. Fisher
- Outliers
- Verified User
- โพสต์: 527
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 1848
คุณลูกอีสานคิดยังไงกับ ACL และ SCIB บ้างครับ
ผมคิดว่า 2 ตัวนี้มีบางส่วนที่คล้ายกัน คือจะมีการเข้ามาของ bank ใหญ่จากต่างประเทศ ซึ่งน่าจะส่งเสริมให้ bank มีประสิทธิภาพมากขึ้นหลังจาก deal เสร็จ
ผมคิดว่า 2 ตัวนี้มีบางส่วนที่คล้ายกัน คือจะมีการเข้ามาของ bank ใหญ่จากต่างประเทศ ซึ่งน่าจะส่งเสริมให้ bank มีประสิทธิภาพมากขึ้นหลังจาก deal เสร็จ
The Miracle of 10,000 hrs
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 1849
claforan เขียน:อยากถามพี่โจ เรื่อง MCS ครับ สงสยว่าทำไมงบการเงินก็ดี รายได้สมำ่เสมอROA ROE ดีตลอดแต่ข้อเสียที่ผมมอง คือ growth ค่อนข้างน้อย และเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ พี่โจว่าตลาดให้ PE ตำ่ไปหรือเหมาะสมครับ
MCS เป็นหุ้นที่เกือบๆสมบูรณ์แบบในความหมายของหุ้น vi บริษัทมีอัตราการทำกำไรที่สม่ำเสมอ ROE ROA สูง งบดุลที่แข็งแกร่ง ปันผลสูง backlog เยอะ มีการขยายกำลังการผลิต แต่ราคาหุ้นกลับเทรดที่ P/E ต่ำ ดูเหมือนราคากับพื้นฐานไม่ค่อยสอดคล้องกัน ผมขอมองอีกด้านเพื่อประโยชน์กับคนที่ถือหุ้น ความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดของบริษัทในความเห็นผมคือการเพิ่งพิงผู้ถือหุ้นใหญ่ ดร.ไนยวนชิ การทำการค้ากับญี่ปุ่น conection สำคัญที่สุดผมเคยฟัง opp day ดร.ชิเล่าว่าการซื้อขายหลายครั้งไม่มีสัญญาแค่จับมือกันก็พอแล้ว นี่แสดงว่าคุณค่าของบริษัทอาจจะขึ้นอยู่กับผู้บริหาร และดูเหมือนดร.ก็ไม่มีตัวตายตัวแทน หากดร.บริหารไม่ได้ด้วยเหตผลใดๆ บริษัทอาจจะแย่ ไม่รู้สาเหตุนี้หรือเปล่าที่ท่านขายหุ้นออกมามาก ให้เหตุผลว่าเพื่อให้เป็นบริษัทมหาชนอย่างแท้จริง แต่มองอีกด้านท่านอาจจะทราบว่าท่านคือคุณค่าของบริษัท ในเมื่อไม่สามารถส่งต่อธุรกิจให้ทายาทได้(ท่านมีลูกสาว) ท่านก็ขายเอาเงินมาใช้ก่อนไม่ดีกว่าหรือแทนที่จะปล่อยให้หมดค่าหากท่านบริหารไม่ได้แล้ว ประเด็นนี้อาจจะบอกว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัว มีโอกาสเกิดขึ้นน้อย แต่ถ้าเกิดผลเสียหายจะเยอะ ราคาหุ้นลงได้มาก เหมือนเลียน้ำผึ้งที่ปลายมีด รับปันผลสูงๆมาหลายปี เจอวันเดียวคืนทุนหมด หรือแย่อาจจะขาดทุนไปเลย..maiaowna เขียน:MCS เป็นไงมั่งครับพี่ เห็น ROE สูงมากตลอด และรถก็วิ่งมารับ(แต่ไม่รู้จะถอยมายาวเปล่านะ :lol: )
ข้างต้นเป็นมุมมองอีกด้านของผม แต่จริงๆจะเป็นอย่างที่ผมพูดหรือเปล่า ไม่ทราบครับ ดร.ชิอาจจะมีตัวตายตัวแทนที่เราไม่รู้ หรือธุรกิจนี้ไม่ต้องมี conection มากมาย ผมก็ไม่ทราบ เป็นนักลงทุนต้องมองทั้งแง่ดีและ worst case ไว้เสมอ แต่ยอมรับว่าพื้นฐานด้านอื่นๆยั่วใจ ผมก็เคยเข้าไปซื้อขายหลายครั้งเช่นกัน แต่ไม่กล้าถือเยอะๆถือนานๆเพราะคิดว่ามีความเสี่ยงอย่างที่ว่ามา
ปัจจัยรองๆที่ต้องติดตามของหุ้นตัวนี้คือ
*ปริมาณการส่งมอบสินค้า ถ้าไตรมาสไหนส่งของให้ลูกค้าเยอะ ไตรมาสนั้นจะกำไรดีครับ ถ้าส่งมอบน้อยก็กำไรลดลง ต้องตามข่าวจากงานวิจัยของโบรค
*อัตราแลกเปลี่ยนมีผลต่อผลประกอบการค่อนข้างมาก และเดายากด้วยว่าบริษัทจะกำไรหรือขาดทุน แต่ก็ต้องดูครับ..
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 1850
ผมไม่ได้มองพื้นฐานหลังจากการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่เลยครับ มองยากเหมือนกันว่าจะดีหรือแย่ลง ดูไทยธนาคาร bt เป็นกรณีศึกษาก็ได้ แต่ที่แน่ๆยังมีโอกาสการทำ arbitrage กับทั้ง 2 ดีลนี้ได้ ซึ่งผมคิดว่าความเสี่ยงต่ำ กรณี ACL น่าจะให้ผลตอบแทนประมาณ 5% ภายใน 2-3 เดือน ส่วน SCIB ผมคิดว่าผลตอบแทนขั้นต่ำก็คงเท่าๆกัน และมีโอกาสที่จะได้มากกว่านั้นหากมีการแข่งขันราคากันสูง ซึ่งอีกไม่กี่วันก็คงได้รู้ราคาครับ แต่ไม่มีอะไรที่ปลอดความเสี่ยงร้อยเปอร์เซนต์รวมถึงระยะเวลาอาจจะยืดออกไปเพราะเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ กรณี SCAN ที่ผ่านมาเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับความเสี่ยงการทำ arbitrage ครับ..Outliers เขียน:คุณลูกอีสานคิดยังไงกับ ACL และ SCIB บ้างครับ
ผมคิดว่า 2 ตัวนี้มีบางส่วนที่คล้ายกัน คือจะมีการเข้ามาของ bank ใหญ่จากต่างประเทศ ซึ่งน่าจะส่งเสริมให้ bank มีประสิทธิภาพมากขึ้นหลังจาก deal เสร็จ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- vi_tal signs
- Verified User
- โพสต์: 631
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 1851
อยากทราบความเห็นพี่โจ สำหรับตัว HTECH ครับ :oops:
มันจะมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 1852
สำหรับหุ้นวัฎจักรแบบสินค้าเกษตร เครื่องมือที่ผมคิดว่าเหมาะสมที่จะใช้คือการดูค่า P/B ครับ เพราะหุ้นประเภทนี้กำไรจะผันผวน แต่ BV จะผันผวนน้อยกว่ามาก ใช้เป็นสัญญานซื้อหรือขายได้เป็นอย่างดี มาดูกันว่าของ CM เป็นอย่างไรหมีขาว เขียน:รบกวนคุณลูกอิสานช่วยให้วิเคราะห์เกี่ยวกับ CM ในปัจจุบันหน่อยครับ
เริ่มน่าสนใจหรือยังครับ
*P/B จากที่3-4 ปีที่ผ่านมาซื้อขายกันไม่เกิน 1 เท่า ปัจจุบันประมาณ 1.4 เท่า
*อัตรากำไรสุทธิปกติ3-4 ปีที่ผ่านทำได้ไม่เกิน 10% ของยอดขายแต่ปีที่ผ่านมาทำได้ถึง 20% ของยอดขาย ซึ่งน่าจะสูงผิดปกติสำหรับสินค้าเกษตรแบบนี้
*ปกติตัวนี้กำไรครึ่งปีหลังจะน้อยกว่าครึ่งปีแรกอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นไม่ควรเอากำไรไตรมาสใดไตรมาสหนึ่งคูณ 4 ครับ
*ผู้บริหารขายหุ้นออกมามากที่ราคาสูงๆ เหตุผลคงไม่ใช่เพราะต้องการใช้เงิน เพราะหุ้นตัวนี้ปันผลมากๆทุกปี ใช้เงินปันผลยังไม่หมดหรอกครับ แต่จะเป็นเหตุผลอะไรผมก็ไม่ทราบ :lol:
* 3 ไตรมาสของปี 52 กำไรและยอดขายเพิ่มเพราะอัตราแลกเปลี่ยน และราคาขายสูงขึ้น แต่ปริมาณขายลดลง ดังนั้นตัวนี้อัตราแลกเปลี่ยนมีผลเยอะครับ
ผมคิดว่าหลายคนอาจสนใจตัวนี้เพราะปันผล ถ้าเหตุผลเป็นอย่างนี้ก็ควรซื้อแบบถัวเฉลี่ยไปเรื่อยๆแบบ DCA อย่าซื้อตอนที่กำไรเพิ่มขึ้นมากและราคาหุ้นขึ้นไปสูงๆ เพราะเมื่อกำไรลดลงตามวัฎจักรธุรกิจ จะขาดทุนราคาหุ้นจนไม่คุ้มกับปันผลที่ได้รับครับ..
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- Prelude
- Verified User
- โพสต์: 50
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 1856
สวัสดีพี่ลูกอีสานครับ
ขอบพระคุณพี่มากครับ ที่ได้แบ่งปันความรู้ให้กับน้องๆตลอดมาครับ
ผมอ่านมาหลายปีละ ขออนุญาตถามมั่งครับ
ผมเห็น Promotion ที่น่าสนใจมากของ 3bb รวมถึงการตลาดเชิงรุกด้วย
ตอนนี้เจ้าตลาดคือ TOT ส่วนอันดับ 2 คือ TRUE และ 3bb กำลังตามมาติดๆ
พี่คิดว่ามีโอกาสไหมครับ ที่ 3bb จะผงาดขึ้นมาเป็นอันดับ 2 หรือ 1 ในอนาคตครับ
ส่วนของคำถามหมดไปแล้วครับ ต่อไปเป็นส่วนของการบ้านที่ผมทำมาบ้าง
จะขอให้ตรวจการบ้าน ว่าถูกไหมครับ (ไม่ถูกรบกวนช่วยแก้ด้วยครับ )
ผมเองเคยสนใจข่าว JAS เมื่อ 6 - 7 ปีที่แล้ว ตอนที่มันอยู่ Rehabco
แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้ยุ่งเลย เพราะว่าไม่เข้าใจว่าเค้าทำอะไรกันอยู่
รู้แต่ว่า JAS มีปัญหาขาดทุกมหาศาล รวมทั้งมีปัญหาฟ้องร้องกับ TT&T ด้วย
JAS กับ TT&T เคยร่วมกันทำ infrastructure ของระบบ telecom
รวมถึงเคเบิ้ลใต้น้ำ
ส่วนตลาด internet มี 2 ยุค คือ
1. ยุคโบราณ dial-up สำหรับชาวบ้าน และ Lease-Line สำหรับองค์กร
2. ยุคปัจจุบัน Broadband หรือ ADSL
ตลาด ADSL เจ้าตลาดเมื่อ 4 ปีที่แล้ว คือ TRUE
แต่ปัจจุบันเป็น TOT
และปัจจุบัน 3bb (Max Net เดิม) มาแรงมาก
สาเหตุที่ 3bb สามารถเกิดได้ เพราะว่าใช้การยิงสายสัญญาณตรง
ไม่ต้องพึ่งสายโทรศัพท์ทั้งของ TOT และ TRUE
รวมทั้งเป็นเจ้าของ infrastructure ด้วย
อันนี้ ผมเข้าใจถูกไหมครับ
ขอบพระคุณพี่มากครับ ที่ได้แบ่งปันความรู้ให้กับน้องๆตลอดมาครับ
ผมอ่านมาหลายปีละ ขออนุญาตถามมั่งครับ
ผมเห็น Promotion ที่น่าสนใจมากของ 3bb รวมถึงการตลาดเชิงรุกด้วย
ตอนนี้เจ้าตลาดคือ TOT ส่วนอันดับ 2 คือ TRUE และ 3bb กำลังตามมาติดๆ
พี่คิดว่ามีโอกาสไหมครับ ที่ 3bb จะผงาดขึ้นมาเป็นอันดับ 2 หรือ 1 ในอนาคตครับ
ส่วนของคำถามหมดไปแล้วครับ ต่อไปเป็นส่วนของการบ้านที่ผมทำมาบ้าง
จะขอให้ตรวจการบ้าน ว่าถูกไหมครับ (ไม่ถูกรบกวนช่วยแก้ด้วยครับ )
ผมเองเคยสนใจข่าว JAS เมื่อ 6 - 7 ปีที่แล้ว ตอนที่มันอยู่ Rehabco
แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้ยุ่งเลย เพราะว่าไม่เข้าใจว่าเค้าทำอะไรกันอยู่
รู้แต่ว่า JAS มีปัญหาขาดทุกมหาศาล รวมทั้งมีปัญหาฟ้องร้องกับ TT&T ด้วย
JAS กับ TT&T เคยร่วมกันทำ infrastructure ของระบบ telecom
รวมถึงเคเบิ้ลใต้น้ำ
ส่วนตลาด internet มี 2 ยุค คือ
1. ยุคโบราณ dial-up สำหรับชาวบ้าน และ Lease-Line สำหรับองค์กร
2. ยุคปัจจุบัน Broadband หรือ ADSL
ตลาด ADSL เจ้าตลาดเมื่อ 4 ปีที่แล้ว คือ TRUE
แต่ปัจจุบันเป็น TOT
และปัจจุบัน 3bb (Max Net เดิม) มาแรงมาก
สาเหตุที่ 3bb สามารถเกิดได้ เพราะว่าใช้การยิงสายสัญญาณตรง
ไม่ต้องพึ่งสายโทรศัพท์ทั้งของ TOT และ TRUE
รวมทั้งเป็นเจ้าของ infrastructure ด้วย
อันนี้ ผมเข้าใจถูกไหมครับ
- sai
- Verified User
- โพสต์: 4090
- ผู้ติดตาม: 2
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 1858
เวลาว่างผมมักจะมาอ่านกระทู้นี้เป็นประจำครับ เพราะจะได้วิธีคิดวิธีการประเมิณมูลค่าหุ้นแนวทางของพี่โจ อยู่เสมอ กระทู้นี้มีอายุ 1 ปีกว่ากว่า นั่งคิดเล่นเล่นว่า ถ้า ครบ 3 ปี พี่โจคงวิเคราะห์ ครบทุกตัวในตลาดแน่เลย สุดยอดเลยครับ ขอคารวะจริงจริงครับ
Small Details Make a Big Difference
-
- Verified User
- โพสต์: 112
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 1859
7-80%ลูกอิสาน เขียน: GLOW เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าแบบ cogeneration ทำให้มีประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนพลังงานสูงถึง 7-80% เทียบกับโรงไฟฟ้าทั่วไป 4-50% ทำให้มีต้นทุนต่ำ บริษัทขายทั้งไฟฟ้าและไอน้ำที่เหลือจากการผลิตไฟฟ้าให้กับโรงงานอุตสาหกรรม ดังนั้นจะมีลูกค้า 2 กลุ่มคือกฟผ.และโรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่เป็นปิโตรเคมี ซึ่งกลุ่มหลังนี้เป็นรายได้ที่ค่อนข้างสม่ำเสมอครับ โครงการในอนาคตที่สำคัญที่สุดคือโรงไฟฟ้าเกคโค 1 ที่ร่วมทุนกับเหมราช แต่ตอนนี้ติดปัญหามาบตาพุด คิดว่าน่าจะเดินหน้าได้แต่จะช้าจากแผนงานบ้าง ปัจจุบันราคาหุ้นเทรดที่P/E ประมาณ 10-12 เท่าก็ถือว่าราคารับรู้อนาคตไประดับนึงแล้ว
หมายถึง 7 ถึง 80% หรือว่า 70 ถึง 80 % ครับ
ด้วยความเคารพ
suriya
suriya
-
- Verified User
- โพสต์: 354
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 1860
ผมได้ดูงบ q309 ของ JAS มาพอดีครับ อยากตั้งข้อสังเกตเบื้องต้นดังนี้ครับPrelude เขียน:ไม่ทราบว่า ทางพี่ลูกอีสาน พอจะช่วยวิเคราะห์ JAS ได้ไหมครับ
ว่ามีมุมมองตรงไหนที่ผมมองข้ามไป หรือต้องระวัง
รวมถึงการวิเคราะห์เชิงปริมาณ (ซึ่งผมทำไม่เป็นเลยครับ)
ขอบคุณครับพี่
- รายได้ q309 vs. q308 = 2000 vs. 1200 ล้าน แต่กำไรสุทธิ q309 กลับน้อยกว่า q308! โดย
gpm, ebit, npm ใน q309 น้อยกว่า q308 โดย
npm ลดลงครึ่งนึง จาก 15.x% เหลือ 7.x% อย่างนี้ต่อให้ 3bb ขายดีเป็นสองเท่ายังไง ก็กำไรเท่าเิดิม (ไม่รู้ว่าเป็นเหตุการณ์ชั่วคราวหรือเปล่า)
และค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการเพิ่มจาก 140 กว่าล้าน เป็น 360 กว่าล้าน ค่าใช้จ่ายส่วนนี้มีอัตราเพิ่มสูงกว่าอัตราการเพิ่มของยอดขาย
- ในงบ 9 เดือนปี 08 จริงๆ เหมือนจะดีมาก แต่มีคิดรายการพิเศษไปราว 1800 ล้านบาท ทำให้ขาดทุนยับ
(ตั้งด้อยค่าเผื่อหุ้น tt&t ที่ถืออยู่จะหมดสภาพถ้า tt&t ล้มละลาย) ไม่ทราบว่ารายการแบบนี้จะโผล่มาได้อีกหรือเปล่า
- ใน q109 ไปซื้อหุ้น tt&t เพิ่มอีก (เดิมก็มีเยอะอยู่แล้ว), คุ้มกับความเสี่ยงหรือไม่?
พอดีผมก็เพิ่งเคยดูหุ้นตัวนี้เลยไม่ทราบเบื้องลึกครับ แต่
คิดว่าคงไม่ธรรมดาทีเดียว :? :?