ขอโทษครับที่ตอบช้าช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้าคอม เพราะยุ่งงานเรื่องอื่นๆbbendum เขียน: พี่นริศมองโอกาสของธุรกิจนี้ขาดเลยครับ คือ มีมาร์จิ้นสูงกว่ากลุ่มอุตสาหกรรม และยังมีโอกาสโตได้อีกมากๆ เรื่องผู้บริหารข้อนี้ผมไม่ได้ไปฟังเขาพูดเลยไม่ขอออกความเห็นครับ จุดที่ผมเห็นต่างจากพี่คือเรื่องเป็นธุรกิจที่คนอื่นเข้าได้ยาก เนื่องจากในปัจจุบันมีผู้รับจ้างขนส่งน้ำมันอยู่ค่อนข้างมาก (ที่ได้สัญญาตรงจากทาง ปตท.มีประมาณสิบกว่าราย) ซึ่งผมคิดว่าเป็นกลุ่มที่มีโอกาสจะเข้ามาแข่งขันในธุรกิจขนก๊าซได้ง่าย เนื่องจากเป็นผู้รับเหมาที่ทาง ปตท. รู้จักอยู่แล้ว แต่ตราบใดที่ยังมีการขยายปั๊ม NGV นอกแนวท่อก๊าซก็คงต้องเพิ่มปริมาณการขนส่งอีก ปัญหาถูกแย่งงานคงไม่เกิดในระยะ 2-3 ปีนี้แน่ นอกเสียจากว่ารถของ KIAT เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ซึ่งจะทำให้ทาง ปตท.ต้องยกเลิกสัญญากับ KIAT และหาผู้รับเหมารายใหม่
สงสัยอีกข้อครับว่ารายได้ต่อคันที่พี่ประมาณไว้ที่ 5 ล้านบาท/ปี มีที่มายังไงครับ เอารายได้ทั้งปีมาหารด้วยจำนวนรถ หรือเปล่า เนื่องจาก KIAT น่าจะมีรายได้จากการขายรถเก่าออกไปด้วย และ อีกส่วนจากการส่งคนขับไปรับจ้างขับให้ ปตท. ส่วนค่าหัวคิวรถร่วมอาจมีในธุรกิจขนสารเคมีแต่คงไม่มีในธุรกิจขนก๊าซ
ที่สงสัยเรื่องรายได้ เพราะว่ารายได้เฉลี่ยของรถหัวลาก 1 คัน ในธุรกิจขนส่งน้ำมันตกประมาณ 1-2 แสนบาท/คัน/เดือน ธุรกิจขนก๊าซไม่น่าจะต่างกันเป็นเท่าตัวนะครับ
จุดอ่อนสำคัญที่ทำให้ผม ลังเลในธุรกิจนี้คือ เป็นธุรกิจที่สร้างหนี้ตลอด เพราะรถมีอายุการใช้งานจำกัดอยู่ที่ไม่เกิน 7+1 ปี หลังจากนั้นต้องขายแล้วซื้อใหม่ เป็นวงจรอย่างนี้ตลอด ราคารถใหม่ก็แพงขึ้นเรื่อยๆด้วย ทำให้รถ 1 คัน มีเวลาทำกำไรอย่างเต็มที่แค่ในช่วงหลังผ่อนหมดประมาณ 2-3 ปีเท่านั้น
พี่นริศมองจุดอ่อนนี้ว่าเป็นอย่างไรครับ
ก่อนอื่นต้องขอบคุณคุณbbendumที่เป็นผู้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรนี้มาแชร์ข้อมูลนะครับ เรื่อง5ล้านนั่นเป็นการคำนวณคร่าวๆจากงบรวม q3/51กับ q3/52 ว่าถ้ารายได้บริการขนส่งจากส่วนอื่นๆคงเดิม รายได้เพิ่มมาจากงานของNGVเพิ่มขึ้นส่วนเดียว ซึ่งหารออกมาจากจำนวนรถที่เคยโทรรไปสอบถามเรื่องรถNGVว่ามี30คันจะได้ตกคันละ4.64ล้านบาท ซึ่งถ้าคุณbbendumยืนยันว่าไม่น่าจะถึง แสดงว่ารายได้ที่เพิ่มน่าจะมาจากการขนสินค้าเข้าลาวมากกว่าที่คิด และน่าจะเป็นส่วนสำคัญระดับหนึ่งทีเดียว เพราะถ้าตีว่ารายได้เพิ่มจากส่วนขนแก๊สเพียง2.5ล้านต่อปี รายได้อีกครึ่งที่เพิ่มขึ้นมาก็น่าจะมาจากการขนสารเคมีไปต่างประเทศ
ส่วนเรื่องการทำธุรกิจประเภทนี้ พี่อาศัยความรู้สึกเอานะครับว่าพี่มีคนที่รู้จักอยู่ในแวดวงขนส่งนี้หลายคนและขนส่งหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นขนส่งทั่วไปให้ร้านแบบพี่รายใหญ่ของประเทศ ขนส่งสินค้าพิเศษ(นมสด)รายใหญ่ของประเทศ ขนส่งรถทัวร์รายใหญ่ในอิสาน พี่เห็นคนทำธุรกิจนี้รวยถึงรวยมากและมีรายได้อย่างมั่นคง(แต่ก็เห็นในส่วนที่ไม่มืออาชีพ เจ๊งมาก็มาก) โดยจุดสำคัญของธุรกิจนี้คือหลักการบริหารคนและรถ โดยยึดหลักความปลอดภัย สูญเสียและรั่วไหลให้น้อยที่สุด โดยการคัดคน ถ้าวัฒนธรรมองค์กรอยู่ตัวแล้ว และผู้บริหารไม่ปล่อยวาง ก็ไม่น่าห่วงอะไร ไม่ทราบว่าคุณbbundumเห็นด้วยไหมครับ
ส่วนจุดอ่อนที่ว่า จะกำไร2-3ปีหลังผ่อนหมด เมื่อเทียบกับ7ปีที่ทำฟรีนั่นไม่ทราบว่า กำไรที่ขายรถหลัง10ปีได้รวมด้วยไหมครับ ถ้ายังพี่ก็ว่าเป็นกำไรที่สูงพอควร เพราะราคารถได้ตัดค่าเสื่อมหมดแล้ว ถ้ามีการขายรถก็กำไรล้วนๆ และราคารถเมื่อสิบปีก่อนกับขายตอนนี้ หลายๆครั้งราคารถหัวลากลดลงน้อยมาก ส่วนสัญญาทำใหม่นั้น ถ้าการแข่งขันไม่สูง โดยเฉพาะเป็นสินค้าพิเศษ พี่ว่าราคารถเขาก็เอาราคารถใหม่ที่ซื้อมาคำนวณเป็นต้นทุนเช่นเดิมครับ คุณbbundumมีความเห็นในเรื่องนี้เป็นอย่างไรครับ
ปล.อยากให้มาแจมบ่อยๆนะครับ ช่วยแชร์ความรู้ในกลุ่มนี้ให้พี่ด้วยนะครับ