กระทู้หุ้นต่างประเทศ
-
- Verified User
- โพสต์: 1088
- ผู้ติดตาม: 0
กระทู้หุ้นต่างประเทศ
โพสต์ที่ 1
ไหนๆก็เห็นคนเริ่มคุยกันเรื่องลงทุนหุ้นต่างปรเทศกันเยอะแล้ว
ผมขอเปิดกระทู้ คุยเรื่องหุ้นต่างประเทศซะเลยนะครับ
มีใครเห็นหุ้นอะไรน่าสนใจมั่งครับ
ส่วนตัวผมมองๆอยู่หลายตัวแต่ยังไม่ได้ทำ research ดี
Visa (V) - ช่วงแฮมเบอเกอร์ ตัวนี้กำไรเพิ่มเท่าตัว
Mastercard (MA) ธุรกิจเหมือน V แต่ทำไมขาดทุนไม่ทราบ
Dolby labs (Dlb) <-- เพิ่งเข้าตลาดไม่นานแต่ยังไม่ค่อยเข้าใจ technology ดีว่าทำไมคนอื่นทำไม่ได้ patent expire เมื่อไหร่. marketshare ชนะคู่แข่งขาดลอย
Baidu (BIDU) google เมืองจีน กำไรเบิ้ลทุกปี D/E ratio ต่ำ
WYNN (wynn) เคยไปใช้บริการ Casino ที่ Vegas กับ NJ, รู้สึกว่า Casino ของบริษัทนี้จะหรูสุดคนเยอะสุดและค่าอะไรๆก็แพงกว่าชาวบ้านเขาหมด
ผมไม่ค่อยเล่นพนันแต่ชอบบรรยากาศ การตกแต่งอาคารร้านค้า ฯลฯ
Whole foods market (WFMI) supermarket ที่ขายแต่อาหารสุขภาพ ขายสินค้า organic ราคาแพงกว่า supermarket ธรรมดาเป็นเท่าตัวแต่คนซื้อเยอะมักๆ
ผมขอเปิดกระทู้ คุยเรื่องหุ้นต่างประเทศซะเลยนะครับ
มีใครเห็นหุ้นอะไรน่าสนใจมั่งครับ
ส่วนตัวผมมองๆอยู่หลายตัวแต่ยังไม่ได้ทำ research ดี
Visa (V) - ช่วงแฮมเบอเกอร์ ตัวนี้กำไรเพิ่มเท่าตัว
Mastercard (MA) ธุรกิจเหมือน V แต่ทำไมขาดทุนไม่ทราบ
Dolby labs (Dlb) <-- เพิ่งเข้าตลาดไม่นานแต่ยังไม่ค่อยเข้าใจ technology ดีว่าทำไมคนอื่นทำไม่ได้ patent expire เมื่อไหร่. marketshare ชนะคู่แข่งขาดลอย
Baidu (BIDU) google เมืองจีน กำไรเบิ้ลทุกปี D/E ratio ต่ำ
WYNN (wynn) เคยไปใช้บริการ Casino ที่ Vegas กับ NJ, รู้สึกว่า Casino ของบริษัทนี้จะหรูสุดคนเยอะสุดและค่าอะไรๆก็แพงกว่าชาวบ้านเขาหมด
ผมไม่ค่อยเล่นพนันแต่ชอบบรรยากาศ การตกแต่งอาคารร้านค้า ฯลฯ
Whole foods market (WFMI) supermarket ที่ขายแต่อาหารสุขภาพ ขายสินค้า organic ราคาแพงกว่า supermarket ธรรมดาเป็นเท่าตัวแต่คนซื้อเยอะมักๆ
เล่นหุ้นคนแก่ แต่แอบเปรี้ยวเป็นบางเวลา
- sathaporne
- Verified User
- โพสต์: 1657
- ผู้ติดตาม: 0
กระทู้หุ้นต่างประเทศ
โพสต์ที่ 2
ไม่มี idea ครับ เข้ามาดูเฉยๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 108
- ผู้ติดตาม: 0
กระทู้หุ้นต่างประเทศ
โพสต์ที่ 3
ผมลงทุนในหุ้นของสหรัฐอยู่ครับ เปิดบัญชีมาตั้งแต่ 1997 ซื้อขายด้วยตัวเองทางอินเตอร์เน็ต www.tradingdirect.com ค่าคอมครั้งละ 9.95 USD ตอนนี้ถือหุ้นอยู่ตัวเดียวคือ Google (GOOG) ไม่ดูตัวอื่นเลย เพราะดูหลายตัวไม่ไหว คนไทย หรือคนทั่วโลกต่างรู้จัก Google ทั้งนั้น ดังนั้นจึงสามารถถือไว้ได้ระยะยาวมาก ๆ ได้ ไม่ทราบว่าเข้าตามหลักการ VI หรือเปล่า แต่ตอนนี้ผมปักหลักอยู่กับ GOOG แล้วสบายใจ สองสามวันดูราคาทีนึงก็ไม่เดือดร้อนครับ ผมอยู่กับโบรกเกอร์เจ้านี้มาหลายปี ตอนนี้แปลงบัญชีเป็นแบบ Margin แล้วที่ถือ GOOG อยู่ตอนนี้ เป็นเงินตัวเอง และเงินกู้ margin loan ประมาณครึ่งต่อครึ่งครับ ดอก 3.75 % คุ้มกว่าใช้เงินตัวเองทั้งหมด เนื่องจากมีบางส่วนเป็นเงินกู้ ผมเลยใช้ technical analysis เข้ามาช่วยหาจังหวะการเข้าซื้อ และขายหุ้นตัวนี้เป็นบางส่วนเพื่อจ่ายเป็นค่าดอกเบี้ยตามรายทางที่หุ้นไต่ขึ้นไปเรื่อย ๆ ใจเย็น ๆ ครับ
จริงๆ แล้วจิตวิทยาลงทุนไม่ว่าในตลาดไทย หรือในตลาดสหรัฐ ก็มีลักษณะคล้ายกัน ผมแนะนำให้ศึกษาจากหุ้นในตลาดสหรัฐ เพราะมีจำนวนหุ้นให้เรียนรู้เยอะมาก คุณสามารถเปิดดูวีดีโอสอนการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคพร้อมตัวอย่างจริง ได้ที่
Free technical analysis tutorial
http://sites.google.com/site/freetechni ... istutorial
สำหรับหุ้นสหรัฐ ผมใช้ดูกราฟหุ้นใน finance.yahoo.com โดยตั้งค่าโปรแกรมดังนี้
2 yr 3-day chart, Candle stick, Overlay volume, Slow stochastic, Relative strength (RSI), Bollinger band และ MACD
วินัยการลงทุน:
- ซื้อเฉพาะเมื่อ RSI มีค่าต่ำ (ประมาณ 30) และกำลังเริ่มเพิ่มขึ้น อย่าฝืนซื้อตอน RSI มีค่าสูงมากแล้ว (ประมาณ 70)
- ซื้อเมื่อมีการสร้างฐาน (consolidate) มาแล้วระยะหนึ่ง โดยดูจาก Bollinger band คอดและพร้อมจะบานออก
นักลงทุนจะมีความเชื่อมั่นในวินัยการลงทุนดังกล่าว เมื่อได้เห็นตัวอย่างความเป็นไปของกราฟหุ้นจำนวนมากจนเคยชินทำให้เข้าใจพฤติกรรมของนักลงทุนในหุ้นตัวนั้น ๆ ได้อย่างไม่ยากนัก เอาไว้ผมสะสมกราฟที่ได้บันทึกไว้ได้มากกว่านี้หน่อย จะเอามาแชร์ให้ดูว่า จังหวะการเข้าซื้อและขายของ GOOG เป็นอย่างไร
จริงๆ แล้วจิตวิทยาลงทุนไม่ว่าในตลาดไทย หรือในตลาดสหรัฐ ก็มีลักษณะคล้ายกัน ผมแนะนำให้ศึกษาจากหุ้นในตลาดสหรัฐ เพราะมีจำนวนหุ้นให้เรียนรู้เยอะมาก คุณสามารถเปิดดูวีดีโอสอนการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคพร้อมตัวอย่างจริง ได้ที่
Free technical analysis tutorial
http://sites.google.com/site/freetechni ... istutorial
สำหรับหุ้นสหรัฐ ผมใช้ดูกราฟหุ้นใน finance.yahoo.com โดยตั้งค่าโปรแกรมดังนี้
2 yr 3-day chart, Candle stick, Overlay volume, Slow stochastic, Relative strength (RSI), Bollinger band และ MACD
วินัยการลงทุน:
- ซื้อเฉพาะเมื่อ RSI มีค่าต่ำ (ประมาณ 30) และกำลังเริ่มเพิ่มขึ้น อย่าฝืนซื้อตอน RSI มีค่าสูงมากแล้ว (ประมาณ 70)
- ซื้อเมื่อมีการสร้างฐาน (consolidate) มาแล้วระยะหนึ่ง โดยดูจาก Bollinger band คอดและพร้อมจะบานออก
นักลงทุนจะมีความเชื่อมั่นในวินัยการลงทุนดังกล่าว เมื่อได้เห็นตัวอย่างความเป็นไปของกราฟหุ้นจำนวนมากจนเคยชินทำให้เข้าใจพฤติกรรมของนักลงทุนในหุ้นตัวนั้น ๆ ได้อย่างไม่ยากนัก เอาไว้ผมสะสมกราฟที่ได้บันทึกไว้ได้มากกว่านี้หน่อย จะเอามาแชร์ให้ดูว่า จังหวะการเข้าซื้อและขายของ GOOG เป็นอย่างไร
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 0
กระทู้หุ้นต่างประเทศ
โพสต์ที่ 4
ดีครับ ช่วยๆกันดู เยอะแยะมากมายไปหมด ตอนนี้ผม scope อยู่ที่พวกหุ้นจีนตัวเล็กๆที่ list ในอเมริกาครับ พวกที่ list ใน hongkong ส่วนใหญ่จะเป็นพวกใหญ่ๆหมดแล้ว ไม่ค่อยตื่นเต้น
พวกนี้จะทำตลาดในจีนเป็นหลักทั้งหมดอาจจะมี apwr ที่เริ่มขยายออกมาครับ
chbt ทำจุลินทรีย์ที่ใช้ในยาคูลท์และอาหารอื่นๆครับ
cga ปุ๋ยชีวภาพ
fuqi พวกเครื่องประดับ
hogs เนื้อหมูครับ
cisg โบรกเกอร์ขายประกัน
พวกพลังงานทางเลือกก็ดูๆอยู่สองสามตัวครับ chng (natural gas), apwr(ชิ้นส่วนพวกพลังงานลม), heat(อันนี้เป็นอุปกรณ์ช่วยประหยัดพลังงาน)
เท่าที่ดูพวกนี้จะมีการเติบโตต่อเนื่องน่าประทับใจ รัฐสนับสนุนและตลาดก็ใหญ่มากๆ แต่ก็มีการเพิ่มทุนประปรายตลอดทางเหมือนกัน ก็ต้องชั่งน้ำหนักดูครับว่า net แล้ววคุ้มมั๊ย พวกหุ้นจีนนี่ผมมองว่าสัก 3 ปี compounded return ต่ำๆสัก 50% ต่อปี น่าจะทำได้ไม่ยาก แต่ระยะสั้นผันผวนมากมายครับ
ข้อควรระวัง ผมได้ยินมาว่าพวกบริษัทจีนที่ list ใน us เนี่ยส่วนใหญ่มาตรฐานจะไม่ดีเท่าพวกที่ list ในฮ่องกง เพราะที่นี่เข้าง่ายกว่า และบางบริษัทก็อาจเป็นพวกฉาบฉวยครับ คงต้องเลือกกันดีๆนิดนึง
มีอะไรลองแชร์กันดูครับ หุ้นมันเยอะมากทำการบ้านไม่ไหวจริงๆถ้าไม่ scope ...
พวกนี้จะทำตลาดในจีนเป็นหลักทั้งหมดอาจจะมี apwr ที่เริ่มขยายออกมาครับ
chbt ทำจุลินทรีย์ที่ใช้ในยาคูลท์และอาหารอื่นๆครับ
cga ปุ๋ยชีวภาพ
fuqi พวกเครื่องประดับ
hogs เนื้อหมูครับ
cisg โบรกเกอร์ขายประกัน
พวกพลังงานทางเลือกก็ดูๆอยู่สองสามตัวครับ chng (natural gas), apwr(ชิ้นส่วนพวกพลังงานลม), heat(อันนี้เป็นอุปกรณ์ช่วยประหยัดพลังงาน)
เท่าที่ดูพวกนี้จะมีการเติบโตต่อเนื่องน่าประทับใจ รัฐสนับสนุนและตลาดก็ใหญ่มากๆ แต่ก็มีการเพิ่มทุนประปรายตลอดทางเหมือนกัน ก็ต้องชั่งน้ำหนักดูครับว่า net แล้ววคุ้มมั๊ย พวกหุ้นจีนนี่ผมมองว่าสัก 3 ปี compounded return ต่ำๆสัก 50% ต่อปี น่าจะทำได้ไม่ยาก แต่ระยะสั้นผันผวนมากมายครับ
ข้อควรระวัง ผมได้ยินมาว่าพวกบริษัทจีนที่ list ใน us เนี่ยส่วนใหญ่มาตรฐานจะไม่ดีเท่าพวกที่ list ในฮ่องกง เพราะที่นี่เข้าง่ายกว่า และบางบริษัทก็อาจเป็นพวกฉาบฉวยครับ คงต้องเลือกกันดีๆนิดนึง
มีอะไรลองแชร์กันดูครับ หุ้นมันเยอะมากทำการบ้านไม่ไหวจริงๆถ้าไม่ scope ...
It's earnings that count
-
- Verified User
- โพสต์: 513
- ผู้ติดตาม: 0
กระทู้หุ้นต่างประเทศ
โพสต์ที่ 5
ที่ไม่ไปเตะบอล เพราะมัวแต่ทำการบ้านอยู่นี่เองนะ เจ้าหนูบลูบลัด
**อย่าหักโหม ไม่บันยะบันยังล่ะ ยังหนุ่มยังแน่น เด๋วข้อจะเสื่อมก่อนวัย หุหุหุ
**อย่าหักโหม ไม่บันยะบันยังล่ะ ยังหนุ่มยังแน่น เด๋วข้อจะเสื่อมก่อนวัย หุหุหุ
ได้เวลาเหล่าอินทรีย์ ผงาดบนฟากฟ้า