มือใหม่ขอปรึกษาค่ะ จะ stop loss หรือรอคอยดีคะ
-
- Verified User
- โพสต์: 3
- ผู้ติดตาม: 0
มือใหม่ขอปรึกษาค่ะ จะ stop loss หรือรอคอยดีคะ
โพสต์ที่ 1
ตอนนี้ติดหุ้น BBL ที่ราคา 117.00
และ kbank ที่ราคา 82.00
เงินที่ลงทุนเป็นเงินเย็นค่ะ
ตอนนี้พอร์ตแดงอยู่ ควรจะ stop loss
หรือรอคอยดีคะ
และถ้ารอคอย ระยะเวลาในการรอคอยมันจะเนิ่นนานประมาณไหนคะ
ขอคำแนะนำจากความเห็นของพี่ ๆ ค่ะ ว่าถ้าเป็นพี่จะตัดสินใจกันยังไง
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
และ kbank ที่ราคา 82.00
เงินที่ลงทุนเป็นเงินเย็นค่ะ
ตอนนี้พอร์ตแดงอยู่ ควรจะ stop loss
หรือรอคอยดีคะ
และถ้ารอคอย ระยะเวลาในการรอคอยมันจะเนิ่นนานประมาณไหนคะ
ขอคำแนะนำจากความเห็นของพี่ ๆ ค่ะ ว่าถ้าเป็นพี่จะตัดสินใจกันยังไง
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
-
- Verified User
- โพสต์: 1230
- ผู้ติดตาม: 0
มือใหม่ขอปรึกษาค่ะ จะ stop loss หรือรอคอยดีคะ
โพสต์ที่ 2
การให้คนอื่นมาบอกว่าเป็นอย่างไร เชื่อว่ายากที่จะถูกต้อง ร้อยคนก็ร้อยความเห็น ยิ่งหุ้นกลุ่มธนาคารที่ยากจะคะเนอนาคต (เชื่อว่าVI ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ด้วยซ้ำ)
อยากให้คุณ Mspoom รีบศึกษาหลักการลงทุนให้มากและเร็วที่สุดแล้วคุณจะรู้ว่าต้องทำอย่างไรด้วยตัวคุณเอง และต่อไปก็น่าจะมีแต่กำไรครับ
อยากให้คุณ Mspoom รีบศึกษาหลักการลงทุนให้มากและเร็วที่สุดแล้วคุณจะรู้ว่าต้องทำอย่างไรด้วยตัวคุณเอง และต่อไปก็น่าจะมีแต่กำไรครับ
- กระทิงแดง
- Verified User
- โพสต์: 952
- ผู้ติดตาม: 0
มือใหม่ขอปรึกษาค่ะ จะ stop loss หรือรอคอยดีคะ
โพสต์ที่ 3
การ Cut loss คิดได้ 2 วิธีครับ แต่จุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ รักษาเงินต้นที่มีคุณค่าที่สุด
ก่อนจะพูดถึงความคิด ผมขออธิบายกรอบความคิดคร่าวๆก่อนนะครับ
หากคุณมีเงิน 100 บาท คุณขาดทุน 2 บาท คุณจะต้องหาอีก 2.04% เพื่อให้มาเท่ากับ 100 เหมือนเดิม
หากคุณมีเงิน 100 บาท คุณขาดทุน 3 บาท คุณจะต้องหาอีก 3.09% เพื่อให้มาเท่ากับ 100 เหมือนเดิม
หากคุณมีเงิน 100 บาท คุณขาดทุน 10 บาท คุณจะต้องหาอีก 11.11% เพื่อให้มาเท่ากับ 100 เหมือนเดิม
หากคุณมีเงิน 100 บาท คุณขาดทุน 20 บาท คุณจะต้องหาอีก 25.00% เพื่อให้มาเท่ากับ 100 เหมือนเดิม
หากคุณมีเงิน 100 บาท คุณขาดทุน 50 บาท คุณจะต้องหาอีก 100.0% เพื่อให้มาเท่ากับ 100 เหมือนเดิม
หากคุณมีเงิน 100 บาท คุณขาดทุน 75 บาท คุณจะต้องหาอีก 300.0% เพื่อให้มาเท่ากับ 100 เหมือนเดิม
ฉนั้นการ Cutloss ที่ Optimal ที่สุดอยู่ประมาณ 2 % ของเงินต้นครับ ไม่ว่าจะ VI หรือ Technical ตรงนี้สำคัญมาก เพราะถ้าเงินต้นหายไปเยอะ คุณจะเอาอะไรมาลงทุนต่อล่ะครับ
ส่วนเรื่องการมองการ Cutloss นี้มีื 2 อย่างคือ
1. มองว่าเราผิดพลาดแล้ว ให้ยอมรับว่าเราผิด อย่าไปโทษตลาด หรือคนอื่นครับ เพราะเราตัดสินใจเอง และตลาดไม่เป็นอย่างที่เราคิด ก็ Cut ครับ
2. เราขายออกตอนนี้ และถ้ามันลงไปอีก เราสามารถซื้อคืนในราคาที่ถูกกว่า และจะกำไรซะอีก ถ้ามันกลับขึ้นมา
ส่วนเรื่องการไม่ Cutloss ก็มองได้ครับ เงินเราเย็น พื้นฐานดี ถือไปเถอะ เดี๋ยวก็กลับขึ้นมาเอง (Opportunity cost เยอะนะครับ)
ลองคิดดูครับ
ก่อนจะพูดถึงความคิด ผมขออธิบายกรอบความคิดคร่าวๆก่อนนะครับ
หากคุณมีเงิน 100 บาท คุณขาดทุน 2 บาท คุณจะต้องหาอีก 2.04% เพื่อให้มาเท่ากับ 100 เหมือนเดิม
หากคุณมีเงิน 100 บาท คุณขาดทุน 3 บาท คุณจะต้องหาอีก 3.09% เพื่อให้มาเท่ากับ 100 เหมือนเดิม
หากคุณมีเงิน 100 บาท คุณขาดทุน 10 บาท คุณจะต้องหาอีก 11.11% เพื่อให้มาเท่ากับ 100 เหมือนเดิม
หากคุณมีเงิน 100 บาท คุณขาดทุน 20 บาท คุณจะต้องหาอีก 25.00% เพื่อให้มาเท่ากับ 100 เหมือนเดิม
หากคุณมีเงิน 100 บาท คุณขาดทุน 50 บาท คุณจะต้องหาอีก 100.0% เพื่อให้มาเท่ากับ 100 เหมือนเดิม
หากคุณมีเงิน 100 บาท คุณขาดทุน 75 บาท คุณจะต้องหาอีก 300.0% เพื่อให้มาเท่ากับ 100 เหมือนเดิม
ฉนั้นการ Cutloss ที่ Optimal ที่สุดอยู่ประมาณ 2 % ของเงินต้นครับ ไม่ว่าจะ VI หรือ Technical ตรงนี้สำคัญมาก เพราะถ้าเงินต้นหายไปเยอะ คุณจะเอาอะไรมาลงทุนต่อล่ะครับ
ส่วนเรื่องการมองการ Cutloss นี้มีื 2 อย่างคือ
1. มองว่าเราผิดพลาดแล้ว ให้ยอมรับว่าเราผิด อย่าไปโทษตลาด หรือคนอื่นครับ เพราะเราตัดสินใจเอง และตลาดไม่เป็นอย่างที่เราคิด ก็ Cut ครับ
2. เราขายออกตอนนี้ และถ้ามันลงไปอีก เราสามารถซื้อคืนในราคาที่ถูกกว่า และจะกำไรซะอีก ถ้ามันกลับขึ้นมา
ส่วนเรื่องการไม่ Cutloss ก็มองได้ครับ เงินเราเย็น พื้นฐานดี ถือไปเถอะ เดี๋ยวก็กลับขึ้นมาเอง (Opportunity cost เยอะนะครับ)
ลองคิดดูครับ
"The enemy is a very good teacher" Dalai Lama
"Confidence doesn't come from being right all the time; it comes
from surviving the many occasions of being wrong." B.N. Steenbarger
"Luck is where preparation meets opportunity"
"Confidence doesn't come from being right all the time; it comes
from surviving the many occasions of being wrong." B.N. Steenbarger
"Luck is where preparation meets opportunity"
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
มือใหม่ขอปรึกษาค่ะ จะ stop loss หรือรอคอยดีคะ
โพสต์ที่ 4
ถ้าถามผมนะครับ
ผมไม่ทราบว่า เวลาหุ้นขึ้น หรือลง จะไปถึงเท่าไหร่
ครั้งก่อนผมเคยล้าง port ที่จุดต่ำสุดมาแล้ว (380) นับว่าเก่งมากๆ 555
ดังนั้น ที่จุด 380 อีกครั้ง ผมถึงซื้อเต็ม port โดยไม่ลังเล(เอากับมันที ^^)
หลังจากนั้น ผมก็ได้บทเรียนว่า
จริงๆแล้วเราใช้หลักการลงทุนอย่างไร
ถ้าเราดูที่ value +biz model เกณฑ์อันนั้น เมื่อนำพิจารณาดูบริษัทดังกล่าวแล้วเห็นเป็นอย่างไรเช่น overvalue ไหม หรือเค้ายังทำกำไรในอนาคตได้ดีไหม
และเราพอมีเงินสดไว้รอซื้อเมื่อรคาคาหุ้นลงไำปต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง และมี margin of safety ไหม
ผมว่า หลายท่านในตลาด เวลาเห็น DOW JONES ลงมามากๆ ก็คิดว่าจะทำการขายหุ้นให้เร็วกว่าคนอื่น
ขาย ATC เลย
1-2 เดือนก็ ก็มีหลายครั้งที่ dow - แล้ว set index เปิดลบ แล้วปิดบวก
ซึ่งก็แล้วแต่ว่าใครมองอย่างไร
ผมทราบแต่ว่า เวลาคนทั่วไปมองว่าขาย หุ้นก็จะลง
เวลามองว่า ซื้อหุ้นก็จะขึ้น
และหุ้นบางตัวก็ไม่ได้เกี่ยวกับภาวะตลาดเลย
เมื่อเช้าผมเขียน blog ขึ้นมา
เผื่อว่าจะทำให้ดีขึ้นบ้างนะครับ
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id ... 29&gblog=5
มีความสุขกับการลงทุนนะครับผม เป็นกำลังใจให้นะครับ เป็นมือใหม่เหมือนกันครับ
ผมไม่ทราบว่า เวลาหุ้นขึ้น หรือลง จะไปถึงเท่าไหร่
ครั้งก่อนผมเคยล้าง port ที่จุดต่ำสุดมาแล้ว (380) นับว่าเก่งมากๆ 555
ดังนั้น ที่จุด 380 อีกครั้ง ผมถึงซื้อเต็ม port โดยไม่ลังเล(เอากับมันที ^^)
หลังจากนั้น ผมก็ได้บทเรียนว่า
จริงๆแล้วเราใช้หลักการลงทุนอย่างไร
ถ้าเราดูที่ value +biz model เกณฑ์อันนั้น เมื่อนำพิจารณาดูบริษัทดังกล่าวแล้วเห็นเป็นอย่างไรเช่น overvalue ไหม หรือเค้ายังทำกำไรในอนาคตได้ดีไหม
และเราพอมีเงินสดไว้รอซื้อเมื่อรคาคาหุ้นลงไำปต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง และมี margin of safety ไหม
ผมว่า หลายท่านในตลาด เวลาเห็น DOW JONES ลงมามากๆ ก็คิดว่าจะทำการขายหุ้นให้เร็วกว่าคนอื่น
ขาย ATC เลย
1-2 เดือนก็ ก็มีหลายครั้งที่ dow - แล้ว set index เปิดลบ แล้วปิดบวก
ซึ่งก็แล้วแต่ว่าใครมองอย่างไร
ผมทราบแต่ว่า เวลาคนทั่วไปมองว่าขาย หุ้นก็จะลง
เวลามองว่า ซื้อหุ้นก็จะขึ้น
และหุ้นบางตัวก็ไม่ได้เกี่ยวกับภาวะตลาดเลย
เมื่อเช้าผมเขียน blog ขึ้นมา
เผื่อว่าจะทำให้ดีขึ้นบ้างนะครับ
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id ... 29&gblog=5
มีความสุขกับการลงทุนนะครับผม เป็นกำลังใจให้นะครับ เป็นมือใหม่เหมือนกันครับ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ขอปรึกษาค่ะ จะ stop loss หรือรอคอยดีคะ
โพสต์ที่ 5
ผมว่าควรจะมองที่ตัวธุรกิจดีกว่านะครับ ว่าธุรกิจธนาคารต่อไปผลประกอบการจะดีขึ้นหรือไม่ และหุ้นที่คุณติดอยู่ราคาเกินพื้นฐานไปหรือยัง ถ้า 2 ปัจจัย นี้ยังสามารถรับได้ ก็สามารถถือได้ครับ แต่ถ้าพื้นฐานเปลี่ยนผมไม่เรียก Stop loss นะครับ ผมเรียก ขายทิ้งโดยไม่ดูต้นทุนเลย เพราะจะไม่มี Loss หลงเหลืออยู่ ... ถูกหรือเปล่าก็ไม่รู้ms.poom เขียน:ตอนนี้ติดหุ้น BBL ที่ราคา 117.00
และ kbank ที่ราคา 82.00
เงินที่ลงทุนเป็นเงินเย็นค่ะ
ตอนนี้พอร์ตแดงอยู่ ควรจะ stop loss
หรือรอคอยดีคะ
และถ้ารอคอย ระยะเวลาในการรอคอยมันจะเนิ่นนานประมาณไหนคะ
ขอคำแนะนำจากความเห็นของพี่ ๆ ค่ะ ว่าถ้าเป็นพี่จะตัดสินใจกันยังไง
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ