นริศสอนน้อง
-
- Verified User
- โพสต์: 1109
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 421
ขอโทษครับ ถามพี่นริศครับ พอดีผมซื้อ SVI กับ SMT ผมพึ่งจะเริ่มเล่น ผมกลัวคิดผิดครับ ผมได้ดูงบดุลกับกำไร ขาดทุน ก็ ok ดีครับ และมีเหตุผลที่ไม่ซื้อ delta กับ hana ดังนี้ และผมมีคำถามครับ
1. ในส่วน SVI(pe=4.8) มี PE กับ pbv ต่ำ กว่า delta (pe=9.6) ,hana (pe=9.8)
2. ส่วน ROE SIVก็มากกว่า delta ในปีล่าสุด แต่ เฉลี่ย แทบจะเท่ากัน(roe=17) แต่ SVI มีแนวโน้มพิ่มมากกว่า(roe svi เพิ่มจาก 16-->23 แต่ delta ลดจาก 20 ลงเป็น 16 ) แต่น้อยกว่า HANA (roe มากกว่า 24%) แต่ว่าอัตราการเติบโตของ DELTA เพิ่ม q0q 140 % ส่วน svi เพิม่แค่ 14%
3. เหตุผล ที่ผมไม่วื้อ hana กับ delta อีกหนึ่งเหตุผล มันเป็นบริษัทที่ ใหญ่แล้ว upside การโตน่าจะน้อยกว่า บริษัท เล็ก ผมคิดถูกรึป่าวครับผมเคยเห็น SVI เคยขึ้นไปถึง 2.8 แต่ตอนนี้แค่ 2.08 เอง
3. ส่วน CCET ผมตัด ไปเลยเพราะ D/E มากกว่า 2 ส่วน ส่วน SVI 0.19 เอง
4. ส่วน SMT ผมเห็นว่ามีประสบการมานาน และได้ลดภาษีเป็นบริษัทแรกจากการส่งเสริมของ boi ไม่จำกัดวงเงิน และเป็นลูกค่าบริษัทระดับโลกที่ผลิตของแบรนแนมเช่น แบลคเบอรี่เป็นต้น พROE เกือบ 20 แต่หนี้สูง 2.84 แต่ก็ลดลงมาเรื่อยๆ จาก 4 เท่ากว่า ซึ่งผมว่าน่าจะดีครับ แต่ PE 9.8 และดอกเยจ่ายค่อนข้างสูง 29% ของกำไรจากการดำเนินงาน ซึ่ง ปกติผมจะซื้อที่ดอกเบี้ยจ่ายตำน้อยกว่า 5 ด้วยซ้ำ
ไม่รู้ผมคิดจุดไหนผิดไหมครับ เพราะพอผมมาดู upside ที่โบรกให้มาน้อยกว่า DELTA HANA CCET ครับ
คาดการณ์ผลการดำเนินงาน 3Q52 ของกลุ่มชิ้นส่วนฯ
กำไรสุทธิ
(ล้านบาท) 3Q52F 2Q52 %qoq 3Q51 %yoy
CCET 6 95 4 60 51.1% 642 8.2%
DELTA 725 3 01 140.9% 883 -17.9%
HANA 6 56 5 04 30.0% 580 13.0%
KCE 79 5 1506.0% 10 661.9%
SPPT 4 3 1 9 127.0% 28 53.8%
SVI 158 1 39 14.1% 205 -22.7%
SMT 9 9 94 4.6% 62 58.5%
Recommendation BUY HOLD BUY BUY BUY HOLD BUY
Price (B) 19.00 2.80 4.14 3.64 17.60 2.12 6.30
Fair Value (B) 30.97 2.77 4.45 5.11 20.10 1.90 7.01
Upside 63.0% -1.2% 7.6% 40.3% 14.2% -10.3% 11.2%
# of shares (M) 825 250 500 3,919 1,247 1,461 368
Market cap 15,679 700 2,070 14,266 21,954 3,097 2,318
Net profit 2551 1,910 62 -399 2,128 2,898 647 201
2552F 1,887 77 49 2,148 2,377 425 302
2553F 2,465 102 216 2,478 2,465 483 389
EPS 2551 2.30 0.22 -0.86 0.52 2.32 0.43 0.73
2552F 2.27 0.24 0.11 0.53 1.91 0.28 0.82
2553F 2.97 0.32 0.47 0.61 1.98 0.32 1.06
EPS growth 2551 -18.3% -36.9% n.m. -29.5% -8.2% 69.5% 1.7%
2552F -1.2% 9.8% n.m. 1.0% -18.0% -33.7% 12.7%
2553F 30.6% 33.2% n.m. 15.3% 3.7% 13.6% 28.8%
BVS (B) 2551 14.93 2.10 5.00 3.79 13.51 2.05 3.78
2552F 15.66 2.05 5.14 4.13 14.31 2.27 4.76
2553F 17.44 2.27 5.64 4.60 15.43 2.53 5.55
DPS (B) 2551 0.69 0.09 0.00 0.20 1.10 0.13 0.00
2552F 1.19 0.10 0.00 0.16 0.86 0.09 0.41
2553F 1.55 0.13 0.07 0.18 0.89 0.10 0.63
PER (x) 2551 8.3 12.9 -4.8 7.0 7.6 5.0 8.7
2552F 8.4 11.7 39.4 6.9 9.2 7.5 7.7
2553F 6.4 8.8 8.8 6.0 8.9 6.6 6.0
PBV (x) 2551 1.3 1.3 0.8 1.0 1.3 1.0 1.7
2552F 1.2 1.4 0.8 0.9 1.2 0.9 1.3
2553F 1.1 1.2 0.7 0.8 1.1 0.8 1.1
Dividend yields 2551 3.6% 3.1% 0.0% 5.5% 6.3% 6.0% 0.0%
2552F 6.2% 3.4% 0.0% 4.3% 4.9% 4.0% 6.5%
2553F 8.2% 4.6% 1.7% 5.0% 5.1% 4.6% 10.1%
ROE 2551 14.8% 10.7% -15.2% 13.7% 22.1% 24.2% 24.4%
2552F 14.5% 12.2% n.m. 12.9% 12.6% 13.2% 19.5%
2553F 17.9% 14.8% n.m. 13.4% 12.9% 12.1% 20.5%
ROA 2551 12.8% 7.2% -4.0% 4.2% 16.7% 16.5% 6.2%
2552F 12.6% 8.4% n.m. 4.2% 8.5% 9.0% 6.6%
2553F 15.8% 10.6% n.m. 4.6% 8.7% 8.8% 9.3%
1. ในส่วน SVI(pe=4.8) มี PE กับ pbv ต่ำ กว่า delta (pe=9.6) ,hana (pe=9.8)
2. ส่วน ROE SIVก็มากกว่า delta ในปีล่าสุด แต่ เฉลี่ย แทบจะเท่ากัน(roe=17) แต่ SVI มีแนวโน้มพิ่มมากกว่า(roe svi เพิ่มจาก 16-->23 แต่ delta ลดจาก 20 ลงเป็น 16 ) แต่น้อยกว่า HANA (roe มากกว่า 24%) แต่ว่าอัตราการเติบโตของ DELTA เพิ่ม q0q 140 % ส่วน svi เพิม่แค่ 14%
3. เหตุผล ที่ผมไม่วื้อ hana กับ delta อีกหนึ่งเหตุผล มันเป็นบริษัทที่ ใหญ่แล้ว upside การโตน่าจะน้อยกว่า บริษัท เล็ก ผมคิดถูกรึป่าวครับผมเคยเห็น SVI เคยขึ้นไปถึง 2.8 แต่ตอนนี้แค่ 2.08 เอง
3. ส่วน CCET ผมตัด ไปเลยเพราะ D/E มากกว่า 2 ส่วน ส่วน SVI 0.19 เอง
4. ส่วน SMT ผมเห็นว่ามีประสบการมานาน และได้ลดภาษีเป็นบริษัทแรกจากการส่งเสริมของ boi ไม่จำกัดวงเงิน และเป็นลูกค่าบริษัทระดับโลกที่ผลิตของแบรนแนมเช่น แบลคเบอรี่เป็นต้น พROE เกือบ 20 แต่หนี้สูง 2.84 แต่ก็ลดลงมาเรื่อยๆ จาก 4 เท่ากว่า ซึ่งผมว่าน่าจะดีครับ แต่ PE 9.8 และดอกเยจ่ายค่อนข้างสูง 29% ของกำไรจากการดำเนินงาน ซึ่ง ปกติผมจะซื้อที่ดอกเบี้ยจ่ายตำน้อยกว่า 5 ด้วยซ้ำ
ไม่รู้ผมคิดจุดไหนผิดไหมครับ เพราะพอผมมาดู upside ที่โบรกให้มาน้อยกว่า DELTA HANA CCET ครับ
คาดการณ์ผลการดำเนินงาน 3Q52 ของกลุ่มชิ้นส่วนฯ
กำไรสุทธิ
(ล้านบาท) 3Q52F 2Q52 %qoq 3Q51 %yoy
CCET 6 95 4 60 51.1% 642 8.2%
DELTA 725 3 01 140.9% 883 -17.9%
HANA 6 56 5 04 30.0% 580 13.0%
KCE 79 5 1506.0% 10 661.9%
SPPT 4 3 1 9 127.0% 28 53.8%
SVI 158 1 39 14.1% 205 -22.7%
SMT 9 9 94 4.6% 62 58.5%
Recommendation BUY HOLD BUY BUY BUY HOLD BUY
Price (B) 19.00 2.80 4.14 3.64 17.60 2.12 6.30
Fair Value (B) 30.97 2.77 4.45 5.11 20.10 1.90 7.01
Upside 63.0% -1.2% 7.6% 40.3% 14.2% -10.3% 11.2%
# of shares (M) 825 250 500 3,919 1,247 1,461 368
Market cap 15,679 700 2,070 14,266 21,954 3,097 2,318
Net profit 2551 1,910 62 -399 2,128 2,898 647 201
2552F 1,887 77 49 2,148 2,377 425 302
2553F 2,465 102 216 2,478 2,465 483 389
EPS 2551 2.30 0.22 -0.86 0.52 2.32 0.43 0.73
2552F 2.27 0.24 0.11 0.53 1.91 0.28 0.82
2553F 2.97 0.32 0.47 0.61 1.98 0.32 1.06
EPS growth 2551 -18.3% -36.9% n.m. -29.5% -8.2% 69.5% 1.7%
2552F -1.2% 9.8% n.m. 1.0% -18.0% -33.7% 12.7%
2553F 30.6% 33.2% n.m. 15.3% 3.7% 13.6% 28.8%
BVS (B) 2551 14.93 2.10 5.00 3.79 13.51 2.05 3.78
2552F 15.66 2.05 5.14 4.13 14.31 2.27 4.76
2553F 17.44 2.27 5.64 4.60 15.43 2.53 5.55
DPS (B) 2551 0.69 0.09 0.00 0.20 1.10 0.13 0.00
2552F 1.19 0.10 0.00 0.16 0.86 0.09 0.41
2553F 1.55 0.13 0.07 0.18 0.89 0.10 0.63
PER (x) 2551 8.3 12.9 -4.8 7.0 7.6 5.0 8.7
2552F 8.4 11.7 39.4 6.9 9.2 7.5 7.7
2553F 6.4 8.8 8.8 6.0 8.9 6.6 6.0
PBV (x) 2551 1.3 1.3 0.8 1.0 1.3 1.0 1.7
2552F 1.2 1.4 0.8 0.9 1.2 0.9 1.3
2553F 1.1 1.2 0.7 0.8 1.1 0.8 1.1
Dividend yields 2551 3.6% 3.1% 0.0% 5.5% 6.3% 6.0% 0.0%
2552F 6.2% 3.4% 0.0% 4.3% 4.9% 4.0% 6.5%
2553F 8.2% 4.6% 1.7% 5.0% 5.1% 4.6% 10.1%
ROE 2551 14.8% 10.7% -15.2% 13.7% 22.1% 24.2% 24.4%
2552F 14.5% 12.2% n.m. 12.9% 12.6% 13.2% 19.5%
2553F 17.9% 14.8% n.m. 13.4% 12.9% 12.1% 20.5%
ROA 2551 12.8% 7.2% -4.0% 4.2% 16.7% 16.5% 6.2%
2552F 12.6% 8.4% n.m. 4.2% 8.5% 9.0% 6.6%
2553F 15.8% 10.6% n.m. 4.6% 8.7% 8.8% 9.3%
มีกระแสน้ำสายหนึ่งในกิจกรรมของคน ซึ่งเมื่อมันไหลบ่าท่วมท้น จะนำไปสู่ความมั่งคั่งมหาศาล :Philip A. Fisher
-
- Verified User
- โพสต์: 1109
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 422
พี่นริศใช้วิธีไหน บ้างในการหามูลค่าที่แท้จริงครับ และ มีเกณฑ์อะไรในการเลือกใช้วิธีนั้นๆ ในหุ้นตัวหนึ่ง
มีกระแสน้ำสายหนึ่งในกิจกรรมของคน ซึ่งเมื่อมันไหลบ่าท่วมท้น จะนำไปสู่ความมั่งคั่งมหาศาล :Philip A. Fisher
-
- Verified User
- โพสต์: 2147
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 423
รบกวนถามความเห็นจากพี่นริศหน่อยครับ จากสถานการณ์ตอนนี้พี่นริศพอจะสนใจ major มากขึ้นหรือป่าวครับ (หรือเลิกสนไปแล้วครับ) ผมถืออยู่ตั้งแต่ 6 บาท แต่ไม่มาก สนใจลงทุนเพิ่มค่อนข้างมาก และพอดีเห็นพี่บอกซื้อเพิ่ม 2 ตัววันที่ลงหนักๆเลยคิดถึงตัวนี้ขึ้นมา (ผมเดาเองนะครับ ไม่เกี่ยวกับการตัดสินใจซื้อเท่าไหร่ :8) ) มีคำถามดังนี้ครับ
1. ผมลองมองดูหุ้นที่ราคายังไม่แพงแล้วผมก็ไม่เห็นตัวไหนเลยนอกจาก Major (หากดู PE ตอนนี้ดูไม่ได้แน่นอนครับ แพงมหาศาล) คงต้องรอการทำกำไรของค่าโฆษณาซึ่งไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ว่าแต่พี่นริศคาดว่ากำไรของค่าโฆษณาน่าจะกลับมาได้แค่ไหนครับ
2. ลูกจอมฉุดกำไรอย่าง cawow นี่พี่นริศคาดหวังอะไรกะมันบ้างครับ และคิดว่ามันจะกระทบต่อไปอีกนานแค่ไหนครับ
3. ความแข็งแกร่งของบริษัทฯมีหนี้ค่อนข้างมากทีเดียว กลัวว่าจะเกิดปัญหาสภาพคล่องในอนาคต พี่นริศมองว่าปัญหานี้น่าห่วงไหมครับ
4. การที่คาดการณ์กำไรว่าจะสามารถกลับมาอย่างน้อยก่อนวิกฤติก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องลุ้นพอดู แล้วอย่างนี้การคาดหวังการเติบโตในอนาคตต่อไปนีจะมีมากน้อยแค่ไหนครับ (ผมขอแค่กลับมาใกล้เคียงก่อนวิกฤติพอแล้ว แต่ประเมิณไม่ออกจริงๆว่าจะเติบโตได้ยังไงในเมื่อทำโปรโมชั่นเยอะเหลือเกิน ค่าตั๋วนี่ลดราคากันตตลอด)
5. พี่นริศจัดประเภท Major เป็นหุ้นประเภทไหนครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ :D
1. ผมลองมองดูหุ้นที่ราคายังไม่แพงแล้วผมก็ไม่เห็นตัวไหนเลยนอกจาก Major (หากดู PE ตอนนี้ดูไม่ได้แน่นอนครับ แพงมหาศาล) คงต้องรอการทำกำไรของค่าโฆษณาซึ่งไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ว่าแต่พี่นริศคาดว่ากำไรของค่าโฆษณาน่าจะกลับมาได้แค่ไหนครับ
2. ลูกจอมฉุดกำไรอย่าง cawow นี่พี่นริศคาดหวังอะไรกะมันบ้างครับ และคิดว่ามันจะกระทบต่อไปอีกนานแค่ไหนครับ
3. ความแข็งแกร่งของบริษัทฯมีหนี้ค่อนข้างมากทีเดียว กลัวว่าจะเกิดปัญหาสภาพคล่องในอนาคต พี่นริศมองว่าปัญหานี้น่าห่วงไหมครับ
4. การที่คาดการณ์กำไรว่าจะสามารถกลับมาอย่างน้อยก่อนวิกฤติก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องลุ้นพอดู แล้วอย่างนี้การคาดหวังการเติบโตในอนาคตต่อไปนีจะมีมากน้อยแค่ไหนครับ (ผมขอแค่กลับมาใกล้เคียงก่อนวิกฤติพอแล้ว แต่ประเมิณไม่ออกจริงๆว่าจะเติบโตได้ยังไงในเมื่อทำโปรโมชั่นเยอะเหลือเกิน ค่าตั๋วนี่ลดราคากันตตลอด)
5. พี่นริศจัดประเภท Major เป็นหุ้นประเภทไหนครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ :D
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 424
ตอบยากนะครับ มีหลายวิธีแล้วแต่ประเภทของธุรกิจครับ แต่ส่วนมากจะใช้เมกะเทรน(หาบ.ที่เข็นครกลงเขา)บวกความสามารถของทีมบริหารและประสิทธิภาพของกิจการ(โมเดลธุรกิจ)บวกค่าPE ROE GROWTH หรือ การเปลี่ยนแปลงขององค์กรที่เกิดขึ้นฉับพลัน และทุกๆอย่างรวมกันในจุดที่ราคาขายไม่แพงครับyoung_5432 เขียน:พี่นริศใช้วิธีไหน บ้างในการหามูลค่าที่แท้จริงครับ และ มีเกณฑ์อะไรในการเลือกใช้วิธีนั้นๆ ในหุ้นตัวหนึ่ง
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 425
[quote="Laziale"]รบกวนถามความเห็นจากพี่นริศหน่อยครับ จากสถานการณ์ตอนนี้พี่นริศพอจะสนใจ major มากขึ้นหรือป่าวครับ (หรือเลิกสนไปแล้วครับ) ผมถืออยู่ตั้งแต่ 6 บาท แต่ไม่มาก สนใจลงทุนเพิ่มค่อนข้างมาก และพอดีเห็นพี่บอกซื้อเพิ่ม 2 ตัววันที่ลงหนักๆเลยคิดถึงตัวนี้ขึ้นมา (ผมเดาเองนะครับ ไม่เกี่ยวกับการตัดสินใจซื้อเท่าไหร่
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
-
- Verified User
- โพสต์: 2147
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 426
[quote="naris"][quote="Laziale"]รบกวนถามความเห็นจากพี่นริศหน่อยครับ จากสถานการณ์ตอนนี้พี่นริศพอจะสนใจ major มากขึ้นหรือป่าวครับ (หรือเลิกสนไปแล้วครับ) ผมถืออยู่ตั้งแต่ 6 บาท แต่ไม่มาก สนใจลงทุนเพิ่มค่อนข้างมาก และพอดีเห็นพี่บอกซื้อเพิ่ม 2 ตัววันที่ลงหนักๆเลยคิดถึงตัวนี้ขึ้นมา (ผมเดาเองนะครับ ไม่เกี่ยวกับการตัดสินใจซื้อเท่าไหร่
-
- Verified User
- โพสต์: 1109
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 427
ถามพี่นริศว่า หุ้น TRC PDI UEC TTA RCL PSL จัดเป็นหุ้น turn arround หรือหุ้นวัฏจักร 2 คำนี้ต่างกันยังไงครับ และถ้ายึดตามหลัก อาจารย์ ฟิชเซอร์ หุ้นวัฏจักร ควรจะซื้อช่วง PE สูง ๆ แต่ผมดูแต่ละตัว PE ก็ไม่สูงนะครับ แต่ปีหน้าหลายๆ ตัวจะกลับมาดีแล้ว เช่น TRC หรือว่าจะเป็นหุ้น trun arround แต่หลายคนก็บอกว่า TTA RCK PSL เป็นหุ้นวัฐจักร แต่ตอนนี้ PE ก็ต่ำ และดูท่า ค่าระวางเรื่อก็น่าจะถึงจุดต่ำสุดแล้ว และกำลังจะกลับหัวขึ้น ตกลง PE ไม่สูงเสมอไป ช่วง ตกต่ำหรอครับ
มีกระแสน้ำสายหนึ่งในกิจกรรมของคน ซึ่งเมื่อมันไหลบ่าท่วมท้น จะนำไปสู่ความมั่งคั่งมหาศาล :Philip A. Fisher
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 432
พี่ต้องขอบอกว่ากลุ่มนี้พี่ยังโง่อยู่ครับ ไม่รู้จริง คงขอเวลาศึกษาให้ถ่องแท้กว่านี้ก่อนครับ ลองไปถามน้องโจลูกอิสานสิครับ รายนี้รู้ไปหมดซะทุกเรื่อง คนอะไรเก่งจริงๆ :lol: หรือถ้าจะถามคนรู้จริงในเรื่องการเงินที่พี่เคยปรึกษาในเวปเราก็จะมีพี่มนตรี และพี่ฉัตรชัย แต่พี่ทั้งสองท่านต้องยิงถามตรงหน้าห้องหรือPMเอานะครับkewin เขียน:คุณ นริศ อยากถามว่าถ้าจะวิเคราะห์ tcap ต้องดูประเด็นไหนบ้างเหรอครับ
เห็นวันนี้ขึ้นโดดเด่นทีเดียว ขอบคุณครับ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 434
การซื้อหุ้นคืนของบริษัทเท่าที่พี่สังเกตุจะเกิดจากสองลักษณะครับโว้กว้าก เขียน:ขอถามพี่นริศหน่อยครับ เรื่องการซื้อหุ้นคืนของบริษัทนี่ ส่วนใหญ่ซื้อคืนเพื่อจุดประสงค์อะไรครับ แล้วบริษัท, นักลงทุน ได้รับประโยชน์จากการซื้อหุ้นคืนของบริษัทหรือไม่ครับ? พอดีว่ายังมือใหม่อยู่รบกวนด้วยนะครับ
1.คือต้องการบริหารเงินสดในมือให้ได้รับประโยชน์มากที่สุด เช่นอาจจะมีเงินสดเหลือในมือเยอะๆ และไม่มีโปรเจคไปลงทุนในกิจการอื่นๆ ก็นำเงินส่วนนี้มาซื้อหุ้นคืน
2.เห็นราคาหุ้นของตนเองต่ำเกินไป และต้องการให้ราคาหุ้นอยู่ในระดับที่เหมาะสมมากกว่านี้
และประโยชน์ที่นักลงทุนและบริษัทจะได้คือ กำไรมีตัวหาร(จำนวนหุ้น)น้อยลง(EPS)ก็เยอะขึ้น และการจ่ายปันผลบริษัทก็จ่ายเงินให้นักลงทุนน้อยลง เพราะมีจำนวนหุ้นน้อยลงครับ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
-
- Verified User
- โพสต์: 1109
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 436
[quote="naris"][quote="young_5432"]ถามพี่นริศว่า หุ้น TRC PDI UEC
มีกระแสน้ำสายหนึ่งในกิจกรรมของคน ซึ่งเมื่อมันไหลบ่าท่วมท้น จะนำไปสู่ความมั่งคั่งมหาศาล :Philip A. Fisher
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 437
สาเหตุที่PEสูงๆ เพราะธุรกิจเขาปริ่มขาดทุน(หรืออาจจะขาดทุนจนไม่สามารถดูPEได้) ทำให้ในอุตสาหกรรมนั้นมีการล้มหายตายจากไปหลายๆราย จนเมื่อถึงจุด ดีมานด์มากกว่าซัพพลาย จุดที่มีความต้องการแย่งกัน GPMเลยกระโดด จากที่เคยขาดทุนกลายเป็นกำไรมากๆภายในพลิกฝ่ามือ
นั่นคือเหตุผลที่ว่าการซื้อหุ้นกลุ่มนี้บางทีต้องมองผ่านPE แต่ก็ต้องมองจุดกลับตัวออกเช่นกันนะครับ
นั่นคือเหตุผลที่ว่าการซื้อหุ้นกลุ่มนี้บางทีต้องมองผ่านPE แต่ก็ต้องมองจุดกลับตัวออกเช่นกันนะครับ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
- ekudom
- Verified User
- โพสต์: 168
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 438
พี่นริศครับ
ตอนนี้ผมสนใจหุ้น qlt อยู่อ่ะครับ
มี 2 ข้อใหญ่ๆที่ผมยังสงสัยอยู๋ อยากให้พี่ให้ความกระจ่าง คือ
1 ตัวนี้ กำไรจะเหมือนพวกรับเหมาไหมครับ
คือ กำไรจะสม่ำเสมอไหม
2 เห็นตัวนี้กำไรสะสม ค่อนข้างน้อย เลยไม่แน่ใจว่าธุรกิจนี้ ดีตั้งแต่ก่อนเข้าตลาดแล้ว หรือว่า เพิ่งจะมาดี ตอนเข้าตลาด
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับ คำตอบนะครับ
ผม pm bol ไปให้แล้วนะครับ
ตอนนี้ผมสนใจหุ้น qlt อยู่อ่ะครับ
มี 2 ข้อใหญ่ๆที่ผมยังสงสัยอยู๋ อยากให้พี่ให้ความกระจ่าง คือ
1 ตัวนี้ กำไรจะเหมือนพวกรับเหมาไหมครับ
คือ กำไรจะสม่ำเสมอไหม
2 เห็นตัวนี้กำไรสะสม ค่อนข้างน้อย เลยไม่แน่ใจว่าธุรกิจนี้ ดีตั้งแต่ก่อนเข้าตลาดแล้ว หรือว่า เพิ่งจะมาดี ตอนเข้าตลาด
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับ คำตอบนะครับ
ผม pm bol ไปให้แล้วนะครับ
..Ekudom..
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 440
ekudom เขียน:พี่นริศครับ
ตอนนี้ผมสนใจหุ้น qlt อยู่อ่ะครับ
มี 2 ข้อใหญ่ๆที่ผมยังสงสัยอยู๋ อยากให้พี่ให้ความกระจ่าง คือ
1 ตัวนี้ กำไรจะเหมือนพวกรับเหมาไหมครับ
คือ กำไรจะสม่ำเสมอไหม
-ธุรกิจNDTก็เป็นธุรกิจที่พี่ศึกษาใหม่เช่นกัน แต่เท่าที่ดูเทรนของเขาน่าจะมีโอกาสโตต่อเนื่องอีกหลายปี เนื่องจากภาพรวมของอุตสาหกรรมที่จะต้องมีการเข้มงวดเข้าระบบต่างๆมากขึ้นจากในอดีต และคู่แข่งในไทยก็ยังไม่มาก ส่วนคู่แข่งในต่างประเทศก็น่าจะสู้ต้นทุนคนไทยทำไม่ได้ พี่จึงคิดว่ารายได้และกำไรในช่วงสี่ห้าปีนี้น่าจะสม่ำเสมอพอสมควรในทิศทางขาขึ้นครับ
2 เห็นตัวนี้กำไรสะสม ค่อนข้างน้อย เลยไม่แน่ใจว่าธุรกิจนี้ ดีตั้งแต่ก่อนเข้าตลาดแล้ว หรือว่า เพิ่งจะมาดี ตอนเข้าตลาด
-กำไรสะสมน้อยอาจจะมีหลายสาเหตุครับ และมีสาเหตุหนึ่งที่บริษัทเข้าตลาดมักจะทำคือ การจ่ายปันผลคืนผู้ถือหุ้นเดิม ทำให้กำไรสะสมในอดีตลดลงครับ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับ คำตอบนะครับ
ผม pm bol ไปให้แล้วนะครับ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1284
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 442
[quote="naris"][quote="AleAle"]พี่นริศครับ
In search of super stocks
- pacabee
- Verified User
- โพสต์: 380
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 444
สวัสดีครับพี่นริศ
ผมมีเรื่องรบกวนถามพี่นริศครับ
ในฐานะที่พี่นริศถือได้ว่าประสบความสำเร็จในธุรกิจและการลงทุน
ก็เลยอยากขอคำแนะนำจากพี่นริศด้วยนะครับ เรื่องมีอย่างนี้ครับ
ีคือผมจบเภสัชศาสตร์มาครับ และก็มีประสบการณ์ในวงการยามาประมาณ 2 ปีครึ่ง
ตอนนี้ผมอยากเปิดร้านขายยาครับ ตั้งปณิธานว่าจะพัฒนาเป็นร้านยาคุณภาพที่ประกอบธุรกิจแบบมีธรรมาภิบาลครับ
ผมติดอยู่ตรงเรื่องทุนการเปิดร้านครับ
คือผมกำลังจะซื้อทำเลดีมาที่หนึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ในตัวจังหวัดครับ
ีผมอยากได้ไว้สักสองห้อง แต่ผมมีเงินสดบวกกับหลักทรัพย์รวมแล้ว
น่าจะอยู่ที่ประมาณครึ่งหนึ่งของงบในการซื้ออาคารพาณิชย์กับงบใน
การดำเนินการครับ
ผมเลยอยากสอบถามว่าผมมีโอกาสทีีจะขอสินเชื่อที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งจากธนาคารไหมครับ พี่คิดว่าธนาคารเขาจะคำนึงถึงอะไรมากที่สุดในการปล่อยสินเชื่อ
ตอนนี้ผมกำลังศึกษาการตลาดร้านยาอยู่ และก็พยายามศึกษางบการเงินเพิ่มเติมครับ
ส่วนตัวคิดว่าจะทำ presentation แผนธุรกิจเพื่อไปขอสินเชื่อ ไม่รู้มันจะเว่อร์
ไปหรือเปล่าครับ คือผมคิดว่ามันทำให้เขาเห็นถึงความตั้งใจจริงของเราน่ะครับ
ขอถามเพิ่มเติมอีกนิดหนึ่งครับ ถ้าผมใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการบริหารร้าน
จะมีผลอย่างไรกับการเสียภาษีครับ (มีคนบอกว่าเสียภาษีเยอะครับ)
คือผมอยากทำให้มันถูกต้องมากขึ้น ในระยะยาวผมอยากพัฒนาเพื่อว่าจะได้
ไม่ต้องเฝ้าร้านทุกวันน่ะครับ
ผมรบกวนขอคำชี้แนะจากพี่นริศด้วยครับ
ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ
ี
ผมมีเรื่องรบกวนถามพี่นริศครับ
ในฐานะที่พี่นริศถือได้ว่าประสบความสำเร็จในธุรกิจและการลงทุน
ก็เลยอยากขอคำแนะนำจากพี่นริศด้วยนะครับ เรื่องมีอย่างนี้ครับ
ีคือผมจบเภสัชศาสตร์มาครับ และก็มีประสบการณ์ในวงการยามาประมาณ 2 ปีครึ่ง
ตอนนี้ผมอยากเปิดร้านขายยาครับ ตั้งปณิธานว่าจะพัฒนาเป็นร้านยาคุณภาพที่ประกอบธุรกิจแบบมีธรรมาภิบาลครับ
ผมติดอยู่ตรงเรื่องทุนการเปิดร้านครับ
คือผมกำลังจะซื้อทำเลดีมาที่หนึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ในตัวจังหวัดครับ
ีผมอยากได้ไว้สักสองห้อง แต่ผมมีเงินสดบวกกับหลักทรัพย์รวมแล้ว
น่าจะอยู่ที่ประมาณครึ่งหนึ่งของงบในการซื้ออาคารพาณิชย์กับงบใน
การดำเนินการครับ
ผมเลยอยากสอบถามว่าผมมีโอกาสทีีจะขอสินเชื่อที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งจากธนาคารไหมครับ พี่คิดว่าธนาคารเขาจะคำนึงถึงอะไรมากที่สุดในการปล่อยสินเชื่อ
ตอนนี้ผมกำลังศึกษาการตลาดร้านยาอยู่ และก็พยายามศึกษางบการเงินเพิ่มเติมครับ
ส่วนตัวคิดว่าจะทำ presentation แผนธุรกิจเพื่อไปขอสินเชื่อ ไม่รู้มันจะเว่อร์
ไปหรือเปล่าครับ คือผมคิดว่ามันทำให้เขาเห็นถึงความตั้งใจจริงของเราน่ะครับ
ขอถามเพิ่มเติมอีกนิดหนึ่งครับ ถ้าผมใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการบริหารร้าน
จะมีผลอย่างไรกับการเสียภาษีครับ (มีคนบอกว่าเสียภาษีเยอะครับ)
คือผมอยากทำให้มันถูกต้องมากขึ้น ในระยะยาวผมอยากพัฒนาเพื่อว่าจะได้
ไม่ต้องเฝ้าร้านทุกวันน่ะครับ
ผมรบกวนขอคำชี้แนะจากพี่นริศด้วยครับ
ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ
ี
- pacabee
- Verified User
- โพสต์: 380
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 446
ขอบคุณสำหรับคำตอบของพี่นริศมาก ๆ เลยครับการกู้เงินครึ่งหนึ่งเป็นทุนเราครึ่งหนึ่งก็เหมาะสมในการทำธุรกิจซื้อมาขายไปที่ขายเงินสดซื้อเครดิตครับ เพราะกระแสเงินสดจะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ
และการขอกู้ทางแบงค์ดูจะมีอยู่สามส่วนครับ ไล่ตามลำดับความสำคัญนะครับ
ส่วนแรกคือหลักทรัพย์ค้ำประกัน ถ้าสมมุติว่าตึกสองคูหานั่นมูลค่า7ล้านบาท แต่เรามีการขอกู้เพียง5ล้านบาทโอกาสผ่านก็มีสูงครับ
ส่วนที่สองคือเครดิตผู้ขอกู้ ถ้าผู้ขอกู้ไม่ติดเครดิตบูโร และไม่มีการขอกู้ที่อื่นแล้วหลายบัญชี ทางผูปล่อยก็ปล่อยได้ง่าย
ส่วนสุดท้ายคือโปรเจคที่นำเสนอ พี่ว่าถ้าเราจะทำโปรเจคจริงๆ ขอให้ทำเพื่อรู้เรารู้เขาในการทำธุรกิจ ไม่ต้องไปทำเพื่อเอาใจพวกแบงค์ครับ เพราะจริงๆพวกนี้เขาดูว่าปล่อยแล้วถ้าไม่มีจ่ายเขาก็จะยึดทรัพย์มาขายทอดตลาดได้ เขาไม่ค่อยสนใจธุรกิจเราสักเท่าไหร่นัก(พี่อาจจะกล่าวแรงไปหน่อย แต่ในทางความเป็นจริงเป็นอย่างนั้นเกือบทั้งหมด)
และพี่ขอให้ขอกู้แบบODทั้งหมด เพราะถึงดอกเบี้ยจะแพงกว่าสักหน่อย แต่ธุรกิจขายปลีกนี่กระแสเงินสดจะดีขึ้นเรื่อยๆ เราสามารถเอาเงินเจ้าหนี้มาโปะเงินกู้ได้
ส่วนเรื่องที่สำคัญที่สุดในการทำธุรกิจค้าปลีกคือ หากลุ่มลูกค้าให้เจอและจับลูกค้าให้อยู่ครับ และแน่นอนว่าธุรกิจขายยา กลุ่มลูกค้าของร้านเดิมคงจะติดร้านเดิมระดับหนึ่ง การเจาะลูกค้าเขามาเป็นลูกค้าเราคงจะไม่หวือหวา อย่าลืมคิดเรื่องกระแสเงินสดในช่วงแรกๆเผื่อไว้ด้วยนะครับ
ส่วนธุรกิจยาเป็นธุรกิจที่กำไรขั้นต้นสูงมาก และจัดการดูแลเรื่องภาษียากมาก สำหรับยาแบ่งจากขวดที่จ่ายโดยเภสัช(และส่วนนี้ก็กำไรดีมากๆด้วย) ถ้าเราจะใช้คอมเพื่อบันทึกการรับเงินและจ่ายเงิน ไม่ใช่เพื่อเสียภาษี พี่เห็นด้วยครับ ถ้าจะทำเพื่อการเสียภาษีพี่ว่าจะวุ่นวายเสียปล่าวๆ นอกจากจะคิดการใหญ่ที่จะทำหลายๆสาขา และใช้สาขานี้เพื่อการทดลองระบบก็อีกเรื่องนะครับ แต่ถ้าจะทำเพื่อเป็นธุรกิจครอบครัว ขายยาวันละไม่เกิน2-3หมื่นบาท พี่ว่าใช้ระบบคอมประกอบบางส่วนและจ้างคนมาดูและบางส่วน น่าจะคุ้มกว่าใช้ระบบคอมนะครับ และถ้าเราเริ่มจากภาษีเหมาจ่ายและคิดว่าทุกอย่างอยู่ตัวจะเปลี่ยนระบบค่อยมาปิดกิจการบุคคลธรรมดามาเป็นหจก.ก็ยังทันครับ(ไม่ครจะโดดไปจด หจก.แต่แรก)
หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์บ้างนะครับ และมีอะไรให้ช่วยได้ก็ปรึกษามาได้นะครับ เพราะพี่เป็นห่วงเงินต้นของเราในการลงทุนทำธุรกิจ การทำธุรกิจให้ติดลมบนนั้นยาก แต่ถ้าติดลมบนแล้วROEจะสูงมาก คุ้มกับเงินที่ลงทุนไปทีเดียวเลยครับ
เ้ข้าใจง่าย มาจากผู็ิ้้ประกอบการจริง แถมมีข้อคิดให้เราต้องคิดรอบคอบมากขึ้นอีก อยากให้ประเทศไทยมีคนดีแบบนี้เยอะ ๆ
ปล. ถ้าผมมีคำถามเพิ่มเติมขออนุญาต pm ไปหาแทนได้ไหมครับ
ผมกลัวกระูทู้คุณค่าพี่นริศจะเปรอะเพราะไม่เกี่ยวกับการลงทุนในหุ้น
ขอบคุณครับ
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 449
ในกลุ่มแบงค์ ไฟแนนซ์ พลังงาน และหุ้นวัฎจักร พี่ยังไม่เคลียร์ในเรื่องการคำนวณมูลค่าที่แท้จริงว่าเหมาะสมอยู่ที่เท่าไหร่ครับkaiyai99 เขียน:ถามพี่นริสครับ ช่วยแนะนำ KCAR ให้หน่อยครับ เป็นยังไงบ้าง น่าลงทุนยาวได้มั้ยครับ ผมดูรายได้และกำไรย้อนหลังเห็นเพิ่มขึ้นตลอด ปันผลทั้งปีก็น่าจะถึง 10%
พี่ขอแสดงความเห็นพื้นๆแล้วกันนะครับ เท่าที่มีคนเคยชวนให้ดูเมื่อปีก่อนๆ พี่ก็ว่าเขามีโมเดลธุรกิจที่ดีใช้ได้เลยครับ มีชื่อเสียงที่ดีในการซื้อและปล่อยเช่ารวมไปถึงการขายรถต่อ สามารถขายได้ราคามากกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม แต่พี่ก็ยังไม่เคยไปหาคำตอบที่ชัดเจนว่าbarrierเขาคืออะไร และจะยั่งยืนมากน้อยเพียงใด แต่ถ้ามองจากกระจกมองหลังและราคา ณ.ปัจจุบันอย่างคร่าวๆ ก็ต้องยอมรับว่าเป็นหุ้นที่น่าสนใจทีเดียวครับ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร