จะได้รับประโยชน์ค่อนข้างสูงครับ

ผมเปรียบเทียบให้เห็นแบบนี้นะครับขอคุยนิดนึงเกี่ยวกับ 3G
ผมพอเข้าใจครับ เพราะคุยกับหลายๆคน จะชอบพูดเป็นคำเดียวกันว่า 3G ใช้แล้วจะดี ใช้แล้วจะสะดวก เน็ตเร็วทุกที่ ไม่ต้องพึ่ง DSL ประเทศเพื่อนบ้านเขามีใช้ไปถึงไหนแล้ว ทำไมเราล้าหลังประเทศเพื่อนบ้าน (ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไม เราต้องมีก่อนเขา) ใช้ดูดิจิตอลทีวีได้ อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงจะเข้าถึงท้องไร่ท้องนาตามชนบท ฯลฯ และอีกสารพันล้านเหตุผล สำหรับคนที่"ชอบ" (หรืออย่างน้อยก็"ใช้") เทคโนโลยี
แต่วิเคราะห์ก่อนอย่างเป็นกลางสิครับ ว่าในแง่เครือข่าย อย่าง DTAC หรือ ADVANC แล้ว 3G จะทำกำไรอะไรให้คุณขนาดไหน คุ้มค่าการลงทุนขนาดไหน ลองถามตัวเองดูก่อนสิครับ ว่าถ้าเครือข่ายเขาเก็บค่าบริการเิพิ่มจากตรงนี้ เพิ่มอีกซัก 20% (น้อยแล้วนะครับ) หรือถ้าเครือข่ายที่ตัวเองใช้ไม่มี 3G ถามตัวเองดูก่อนสิครับว่าจะเปลี่ยนเบอร์ไปใช้อีกค่ายนึงหรือเปล่า พอมี 3G แล้วคุณจะใช้บริการเสริมอื่นๆเพิ่มขึ้นขนาดไหน หรือคุณจะยอมจ่ายเพื่อ 3G ขนาดไหน เมื่อไรจะคุ้มค่าอุปกรณ์ที่ลงทุนไป
ถ้าเข้าใจไม่ผิด 3G บริหารช่องสัญญาณบริการ ต่อความถี่ได้ดีกว่าระบบ ปัจจุบัน แต่ อัตราการขยายตัวของโทรศัพท์มือถือของเรามีแค่ไหนครับ ช่องสัญญาณปัจจุบันเต็มอยู่หรือเปล่า ในความเห็นของคนไม่ได้อยู่ในวงการอย่างผม ถ้าไม่ใช่เรื่อง Maintenance ที่ต่อไปในอนาคตอุปกรณ์ 2G อาจจะไม่มีขาย (ซึ่ง Service Provider ก็โดนบังคับกลายๆให้อัพเกรด) ผมยังมองไม่เห็นประโยชน์ชัดๆของ 3G กับบริษัทเครือข่ายเลยครับ
อย่างนั้น ถามคุณบี้กลับว่า ตอนนี้คนกลุ่มนี้(ที่บอกว่าไม่ได้อยู่ตามหัวเมืองใหญ่) มีความต้องการอินเตอร์เน็ตขนาดไหน หรือใช้อินเตอร์เน็ตแบบไหนอยู่หรือครับ จ่ายค่าบริการอยู่เท่าไรต่อเดือน พอมี 3G มาแล้ว เงินส่วนนี้(หรือมากกว่านี้)จะเข้ามาที่ Provider เท่าไร และพูดก็พูดเถอะครับ ว่าถ้า 3G เริ่มติดตั้งจริงๆ ก็คงจะต้องเริ่มที่เมืองใหญ่ๆ(อย่างกทม หรือเชียงใหม่)ก่อนอยู่ดี กลุ่มผู้ใช้ Iphone คงจะ Happy ขึ้น รายได้ส่วนนี้จากที่เคยจ่ายเข้า GPRS/Edge ก็ไปเข้า 3G แทน ไม่รู้ว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นมากขนาดไหน อย่างที่ผมยกตัวอย่างว่า ถ้าขึ้นราคาค่า airtime 3G ให้แพงกว่า GPRS/Edge ปัจจุบันสัก 20% ถามว่ามีคนยอมจ่ายกันแค่ไหน จริงๆน่าจะถามว่า จะมีคนออกมาโวยวายกันเยอะขนาดไหนnewbie_12 เขียน:ผมเปรียบเทียบให้เห็นแบบนี้นะครับ
3G นั้นพัฒนาออกมาเพื่อรองรับการสือสารข้อมูล (DATA) หรือพูดเป็นไทยว่า อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงแบบไร้สาย
ประโยชน์ของ internet มีมากแค่ไหนคงไม่ต้องอธิบาย และ internet ความเร็วสูงนั้น ผู้ที่ใช้ได้ ก็จำกัดอยู่แค่ใน กทม ปริมนฑล และหัวเมืองใหญ่ๆเท่านั้น หากคนต่างจังหวัดไกลๆต้องการใช้ internet ความเร็วสูง ก็ต้องรอลากสายโทรศัพท์ไป (ลองนึกภาพการขยายพื้นที่บริการโทรศัพท์บ้านกับโทรมือถือดู)
ส่วนเรื่องราคาจะขึ้น 20% นั้น ไม่เกี่ยวครับ คือต้องแยกระหว่างบริการ Voice กับ DATA ใครซื้อโทรศัพท์มาโทรอย่างเดียว ก็ใช้ 2G ไปครับ เค้าก็ไม่ได้จะขึ้นราคาอะไร ตอนนี้แข่งกันจนค่าโทรถูกมากๆ
ส่วนใครต้องการใช้ Internet ก็ใช้ 3G ไปไงครับ แยกกัน ไม่เกี่ยว
ส่วนการลงทุนจะคุ้มหรือไม่คุ้ม มันต้องคุ้มแน่ครับ เพราะถ้าไม่คุ้มพวก Operator คงไม่เตรียมเงินลงทุนไว้ และพร้อมที่จะลงทุนทุกเวลาที่ Licenses พร้อม
จำได้ว่า Buffett บอกว่าsupport เขียน:ความก้าวหน้าทาง เทคโนโลยี่เป็นสิ่งที่เข้าใจและคาดการ์ณยากครับ นี้เป็นเหตุผลที่ buffet หลีกเลี่ยงหุ้นประเภทนี้
3G มาน้ำตาใครไหล !!!
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 พฤศจิกายน 2552 10:57 น.
หากการประมูล 3G บนความถี่มาตรฐาน 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ของกทช.ทำให้ประเทศไทยมีระบบโทรศัพท์มือถือ 3G แบบชั่วข้ามคืน อาจเห็นผู้ประกอบการบางรายดีใจจนแทบกลั้นน้ำตาไม่ไหว เพราะสามารถตักตวงผลประโยชน์มหาศาลจากทรัพยากรความถี่ของชาติที่อดีตได้แค่สิทธิในการให้บริการ ในขณะที่รัฐวิสาหกิจบางแห่งอาจต้องกลืนเลือดน้ำตาคลอเบ้า เพราะนับวันยิ่งถูกทิ้งห่างกาชื่อทิ้งจากสารบบผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำของประเทศ
ถ้าวิเคราะห์แบบฟันธง เกม 3G ของผู้เล่นแต่ละรายต่างมีกลยุทธ์และเป้าหมายที่แตกต่างกัน 1.บริษัท ทีโอที เป้าหมายหลักวันนี้คือต้องการยืดเวลาการประมูล 3G ของกทช.ออกไปให้นานที่สุด เพื่อให้บริการ 3G ของตัวเองมีเวลาสร้างฐานลูกค้า โดยเริ่มปฐมบทในวันที่ 3ธ.ค. เปิดให้บริการในกทม.และปริมณฑลก่อน พร้อมแผนวางโครงข่าย 3G ทั่วประเทศ 2 หมื่นล้านบาท
ทีโอทีไม่มีความต้องการประมูลไลเซ่นส์ 3G ของกทช.และทีโอทียังเห็นว่าการประมูล 3G ของกทช.ไม่มีผลกระทบอะไรกับทีโอที เพียงแต่จะทำให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น ในขณะเดียวกันทีโอทีเป็นห่วงบริษัทสัมปทานอย่างเอไอเอส ที่อาจตุกติกใช้ประโยชน์จากโครงข่าย 2G จากสัมปทานเดิม ต่อยอดสร้างโครงข่าย 3G เพราะทุกวันนี้ทีโอทีหมดปัญญาในการตรวจสอบทรัพย์สินต่างๆที่เอกชนโอนมาให้ รวมทั้งปัญหาการถ่ายโอนฐานลูกค้าของเอกชนจะทำให้ส่วนแบ่งรายได้หายไปอย่างมีนัยสำคัญ
เกมของทีโอทีคือยื้อเวลาประมูล 3G พร้อมทั้งโยนโจทย์เรื่องโครงข่าย 2G ให้รัฐหาทางช่วยเหลือ
2.บริษัท กสท โทรคมนาคม วันนี้กสทเป็นหนึ่งใน 4 ที่คาดว่าจะได้รับใบอนุญาต 3G จากการประมูลของกทช.แน่นอน อยู่ที่ว่าจะจับมือกับพันธมิตรในช่วงเวลาไหนถึงจะเหมาะสมที่สุด ปัญหาของกสทเช่นเดียวกับทีโอที คือ กลัวในเรื่องการถ่ายโอนลูกค้าที่จะทำให้ส่วนแบ่งรายได้หายไป แต่กสทกลายเป็นองค์กรที่ดูเซ็กซี่ขึ้นทันตาเห็น เพราะจะมีโครงข่าย CDMA ที่จะถูกพัฒนาให้เป็น 3G ทั่วประเทศหลังจากซื้อกิจการฮัทช์เรียบร้อย ฐานลูกค้าที่ได้พร้อมสถานที่ติดตั้งสถานีฐานจะเป็นแรงดึงดูดพาร์ตเนอร์ต่างชาติให้มาร่วมประมูล 3G
กสทจะเป็นผู้ให้บริการรายเดียวที่มี 2 เทคโนโลยี 3G คือ CDMA / EV-DO กับ WCDMA บนความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ที่จะประมูลไลเซ่นส์กทช. สำหรับธุรกิจสื่อสารไร้สายหรือโทรศัพท์มือถือ 3G ดูเหมือนกสทจะอยู่ในตำแหน่งที่ดูดีกว่าทีโอทีไปแล้ว
3.เอไอเอส วันนี้ 3G เป็นความจำเป็นมากถึงมากที่สุดสำหรับเอไอเอส เพราะปัจจุบันซูเปอร์ 3G ของเอไอเอสในพื้นที่ให้บริการเทียบความเร็วกับ 3G ดีแทคแล้ว เอไอเอสดูเหมือนจะช้ากว่าอย่างเห็นได้ชัด เพราะความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ของเอไอเอสมีข้อจำกัดมากเหมือนถนนมีแค่ 4 เลนแต่มีรถทุกชนิดวิ่งแออัดยัดเยียด ต่างจากดีแทคที่ถนนกว้างกว่าแถมยังมีเลนพิเศษให้ข้อมูลวิ่งต่างหาก
เอไอเอสจึงต้องทำทุกวิธีให้การประมูล 3G เกิดโดยเร็ว เพื่อชิงความถี่จำนวน 15 เมกะเฮิรตซ์ ต่อยอดบริการ รักษาความเป็นผู้นำในตลาดผู้ให้บริการมือถือต่อไป
4.ทรูมูฟ สำหรับการประมูล 3Gทรูมูฟมาในแนวชอบของดีราคาถูก ไม่อยากให้ราคากลางหรือราคาเริ่มต้นประมูลสูงเป็นหมื่นล้านบาท เพราะเกรงสู้พวกมีต่างชาติหนุนหลังไม่ไหว ทรูมูฟเป็นโอเปอเรเตอร์อีกรายที่ต้องการ 3G บนความถี่มาตรฐาน เพราะทุกวันนี้ได้แค่ทดสอบ โดยอาศัยความถี่ 850 เมกะเฮิรตซ์ของกสท ซึ่งคาราคาซังไม่สามารถเปิดบริการเชิงพาณิชย์เก็บเงินได้ เนื่องจากต้องผ่านการพิจารณาคณะกรรมการตามพรบ.ร่วมทุนปี 2535
ทรูมูฟต้องการไลเซ่นส์ 3G เพื่อมาต่อยอดบริการคอนเวอร์เจนซ์ สร้างนิยายรักที่สวยงาม ไว้หาพันธมิตรต่างชาติที่ถึงตอนนั้นจะยอมรับเงื่อนไขขนเงินมาลงทุนแต่อำนาจบริหารเป็นของกลุ่มทรู
5.ดีแทค วันนี้แทบจะไม่ต้องออกอาวุธอะไรมากนัก ใช้กลยุทธ์ mee too คือใครออกแรงให้ประมูล 3G โดยเร็ว ดีแทคก็ได้ด้วย ถ้าใครยื้อประมูล ดีแทคก็ยังมีบริการ HSPA หรือ 3G บนความถี่ 850 เมกะเฮิรตซ์ที่เปิดให้กลุ่มเป้าหมายทดสอบอยู่ ซึ่งการใช้งานอยู่ในระดับน่าพอใจอย่างมาก เหลือแต่เพียงขั้นตอนตามพรบ.ร่วมทุนปี 2535 เท่านั้นที่ยังทำให้ไม่สามารถเก็บค่าบริการได้
ดีแทคจะเป็นโอปอเรเตอร์ที่จะมีความถี่ 3G 2 ย่านคือ 850 เมกะเฮิรตซ์ในปัจจุบันและ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ในอนาคตที่ได้จากการประมูล
6.คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) จากการกระเหี้ยนกระหือรือที่จะประมูล 3G ให้ทันภายในปีนี้ ก็ออกอาการถอดใจ หลังส่งเรื่องให้กฤษฎีกาตีความรัฐธรรมนูญมาตรา 47 วรรค 2 ว่ากทช.ชุดนี้มีอำนาจจัดประมูลหรือไม่ เพราะอาจเกิดปัญหาฟ้องร้องวุ่นวายถ้าประมูลไปแล้วกฤษฎีกาตีความว่ากทช.ไม่มีอำนาจ ซึ่งหลังจากถูกกระแสสังคมต้านหนักไม่ว่าเรื่องนอมินีต่างชาติ ราคากลาง และปัญหาความมั่นคง ดูเหมือนกทช.พยายามหาทางออกเพื่ออธิบายสังคมโดยเฉพาะเรื่องราคากลางเคาะที่ 4,600 กับ 5,200 ล้านบาท ส่วนปัญหานอมินีต่างชาติ กทช.ดูจะมั่นใจมากเพราะบริษัทลูกๆของโอปอเรเตอร์ต่างก็ได้ไลเซ่นส์จากกทช.มาหลายใบแล้ว โดยไม่ถูกตีตกในประเด็นไม่ใช่นิติบุคคลสัญชาติไทย
ส่วนผู้บริโภค การมี 3G ประโยชน์ได้รับสูงสุดคือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงการส่งภาพ เสียงและข้อมูลได้พร้อมกัน การสื่อสารในรูปแบบวิดีโอ สตรีมมิ่ง ที่คาดว่ายังมีกลุ่มคนสัก 10% ที่พร้อมใช้บริการในรูปแบบแปลกใหม่ที่ได้ประโยชน์ทั้งความบันเทิงและการใช้ในธุรกิจ ซึ่งในมุมผู้บริโภค ไม่ว่า 3G จะมาเร็วหรือมาช้า แต่ค่าบริการเป็นหัวใจสำคัญที่สุดที่กทช.จะต้องคำนึงถึง
****ประชาพิจารณ์ 9 เรื่อง
ในการประชุมบอร์ดกทช.เมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมากทช.ได้สรุปหัวข้อประชาพิจารณ์ 3G ในวันที่ 12พ.ย.52ถี่ยิบ 9 เรื่องเพื่อตอบข้อสงสัยในการทำประชาพิจารณ์ครั้งที่ผ่านประกอบด้วย 1.คุณสมบัติผู้เข้าร่วมการประมูล 2.ระยะเวลายื่นความจำนงของผู้สนใจเข้าร่วมประมูล3G จากเดิมกำหนดไว้ 30 วันเปลี่ยนเป็น 45-60 วัน 3.ข้อกำหนดเรื่องการลงทุนโครงข่ายแบ่งเป็น 2 เรื่องใหญ่ คือควรกำหนดให้ผู้ประกอบการลงทุนเองกี่เปอร์เซ็นต์ และควรให้มีการเช่าใช้โครงข่ายผู้อื่นได้กี่เปอร์เซ็นต์
4.การลงทุนโครงข่ายควรกำหนดพื้นที่การลงทุนด้วยหรือไม่ 5.ควรเปิดโอกาสให้ผู้ชนะการประมูลผ่อนจ่ายค่าไลเซ่นส์ในระยะ 6เดือนหรือ 1 ปีหรือไม่ 6.การโอนย้ายลูกค้าจาก 2 G ไป 3 G 7.เรื่องความมั่นคงกทช.ควรกำหนดประเด็นใดเพิ่มเติมอีกหรือไม่ 8.การใช้โครงข่ายพื้นฐานร่วมกันและ9. MVNO ควรบังคับให้ทำด้วยไหม
บทสรุปส่งท้ายของ 3G ในวันนี้ พล.อ.ชูชาติ พรหมพระสิทธิ์ ประธานกทช.กล่าวยืนยันว่ารู้สึกดีใจที่ทุกภาคส่วนของสังคมออกมาให้ความเห็นและเสนอแนะแนวทางต่างๆเพื่อให้การประมูล 3G ออกมาดีที่สุด โดยย้ำว่าทุกเรื่องที่กทช.ทำต้องอธิบายกับสังคมได้ และถ้าหากกฤษฎีกาตีความว่ากทช.ไม่มีอำนาจ ก็จบไม่ต้องดำเนินการประมูล กทช.ชุดนี้ทำได้แต่เพียงเตรียมการล่วงหน้าเท่านั้น
AISดึงทีโอทีร่วมวง3G ชงถือหุ้นบวกกำไร15%
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 พฤศจิกายน 2552 11:18 น.
เอไอเอสเสนอแผนร่วมทุนให้ทีโอที ทันทีที่ได้ใบอนุญาต 3G 'วิเชียร' ชี้ผ่าทางตันปัญหาสัมปทาน 2G เดิม และสร้างพลังให้ 3G ใหม่ เปิดทางให้ทีโอทีถือหุ้นสุงสุด 30% ด้วยแนวคิดแปรสัญญาสัมปทาน แปลงโครงข่ายให้เป็นหุ้น พร้อมผลประโยชน์สุงสุด 15% จากรายได้ ย้ำมีเวลา 2 ปีดำเนินการก่อนสัมปทานหมดอายุปี 2015
นายวิเชียร เมฆตระการ หัวหน้าคณะผู้บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอสกล่าวว่าทันทีที่เอไอเอสได้ใบอนุญาตให้บริการโทรศัพท์มือถือในระบบ 3G จากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เอไอเอสจะทำเรื่องเสนอไปยังบริษัท ทีโอที เพื่อเสนอแผนการร่วมทุนหรือการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ระหว่างเอไอเอสกับทีโอที
'แนวคิดผมคือเปลี่ยนโครงข่ายให้เป็นหุ้น โดยให้ทีโอทีเข้ามาถือหุ้นในเอไอเอส ได้สูงสุดถึง 30% เพียงแต่สิทธิขาดในการบริหารยังต้องเป็นของเอไอเอส'
แผนการเป็นพาร์ตเนอร์ดังกล่าวเกิดภายใต้ยุทธศาสตร์ win-win หรือมีแต่ผู้ชนะ โดยที่เอไอเอสเห็นว่าสัญญาสัมปทาน 2G เดิมจะหมดอายุในปี 2015 หรืออีกประมาณ 5 ปี โครงข่ายที่เอไอเอสลงทุนไปทั้งหมดนับจนถึงปัจจุบันมีค่าหลายหมื่นล้านบาทหรืออาจถึงแสนล้านบาทและเอไอเอสยังมีความต้องการใช้โครงข่าย 2G ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป
การเป็นพาร์ตเนอร์โดยทีโอทีเข้ามาถือหุ้นเอไอเอสจะทำให้ได้ประโยชน์คือ 1.ทีโอทีไม่ต้องกังวลเรื่องการถ่ายโอนลูกค้าจาก 2G เดิมไปยัง 3G ใหม่ เพราะทีโอทียังได้ประโยชน์จากส่วนแบ่งรายได้ของลูกค้าไม่ว่าจะเป็นลูกค้า 2G หรือ 3G 2.เอไอเอสพร้อมเสนอผลประโยชน์ให้ทีโอทีได้มากกว่าค่าธรรมเนียมที่ต้องเสียให้กทช.คือ 6.5% โดยเอไอเอสสามารถบวกเพิ่มให้อีก 5% หรือให้ได้เต็มที่ถึง 15% 3.ทำให้การลงทุนโครงข่าย 3G ของทีโอทีมีทางเลือกและมีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น เพราะทีโอทีกับเอไอเอส สามารถกำหนดยุทธศาสตร์ร่วมกันได้ว่าใครจะลงทุน 3G ในพื้นที่ไหน ทำให้มีความได้เปรียบกว่าผู้ให้บริการหรือผู้ได้รับใบอนุญาตรายอื่น 4.เป็นทางรอดให้ทีโอทีในระยะยาว ว่าไม่ต้องกังวลกับรายได้จากสัมปทานของเอไอเอสที่จะหายไปหลังหมดอายุสัมปทานในปี 2015 แต่ทีโอทีจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นในเอไอเอส 30% ซึ่งทำให้ทีโอทีจะได้ผลตอบแทนในรูปเงินปันผลตามสัดส่วนการถือหุ้น ผลประโยชน์จากส่วนแบ่งรายได้สูงสุดไม่เกิน 15% ซึ่งถึงแม้ไม่สูงเท่าส่วนแบ่งรายได้จากสัมปทาน 2G ในปัจจุบัน แต่ทีโอทีจะมีรายได้ระยะยาวตราบเท่าที่ถือหุ้นในเอไอเอส และ5.การถือหุ้นในเอไอเอสจะทำให้เกิดพลังผนึกหรือ synergy ระหว่างสินค้าและบริการรวมทั้งฐานลูกค้าทั้ง 2 บริษัท
'ผมให้เวลา 2 ปีสำหรับแผนร่วมทุนครั้งนี้ในการดำเนินการ เพราะหากนานกว่านั้นจะทำให้โครงข่าย 2G เดิมก็จะเริ่มไม่มีความหมายแล้วเพราะเอไอเอสจะทุ่มทุกอย่างลงบนโครงข่าย 3G ใหม่ '
เขาย้ำว่าแผนการร่วมทุนดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหม่ มีการพูดกันมาก่อนหน้านี้แล้ว เพียงแต่ช่วงเวลานี้เหมาะสมที่สุดที่จะตัดสินใจ ซึ่งเข้าใจว่าเป็นเรื่องที่ยากพอสมควรเพราะต้องผ่านการพิจารณาจากกระทรวงการคลังและคณะรัฐมนตรี แต่เชื่อว่าแนวทางดังกล่าวจะเป็นทางแก้ปัญหาสิ่งที่คาราคาซังกันอยู่โดยเฉพาะเรื่องสัญญาสัมปทาน และยังเป็นโอกาสที่ดีสำหรับทีโอทีในการแข่งขันในธุรกิจโทรศัพท์มือถือด้วย
'ทั้งหมดเป็นแนวคิด แต่ผมว่าถึงเวลาแล้ว ส่วนเรื่องการตีราคาต่างๆ ก็ให้บริษัทที่ปรึกษาการเงิน ซึ่งเป็นคนกลางเข้ามาตีราคา ในฐานะผู้บริหารเอไอเอสผมต้องสร้างความมั่นใจให้ผู้ถือหุ้นเห็นว่าหลังหมดสัมปทานในปี 2015 แล้วเอไอเอสก็ยังอยู่ในธุรกิจในฐานะผู้นำ ส่วนด้านทีโอที ถ้ายังคิดกอดสัญญาสัมปทานไปโดยไม่มีแผนรองรับไว้ล่วงหน้าก็น่าเป็นห่วงมาก หากนำผลประโยชน์ขึ้นชั่งกันระหว่างสัมปทานอีกประมาณ 5 ปีกับการเปลี่ยนเป็นหุ้นในเอไอเอสแล้วมีผลประโยชน์ระยะยาว ก็น่าจะตัดสินใจได้ไม่ลำบากนัก'
นายวิเชียรกล่าวถึงการประมูล 3G ของกทช.ว่าเอไอเอสพร้อมสู้ราคาไม่ว่าจะเป็นความถี่ 15 เมกะเฮิรตซ์หรือ 10 เมกะเฮิรตซ์ โดยมีตัวเลขอยู่ในใจแล้วว่าสามารถสู้ราคาได้กี่เท่าของราคากลาง โดยที่หากได้รับใบอนุญาตเมื่อไหร่ก็พร้อมสั่งของและติดตั้งโครงข่ายที่จะสามารถให้บริการได้เร็วที่สุดภายในเวลาเพียง 3-4 เดือน
ทั้งนี้ แนวคิดแปลงโครงข่ายเป็นหุ้นของเอไอเอส ดูสมเหตุสมผลหากพิจารณาประกอบกับรายงานที่ทีโอทีเสนอครม.เศรษฐกิจถึงการประมูล 3G ของกทช.ที่จะส่งผลกระทบต่อสัญญาสัมปทาน 2G ปัจจุบันของทีโอทีคือ1.อาจมีการโอนลูกค้า 2G ภายใต้สัญญาสัมปทานเดิม ไปโครงข่ายใหม่ 3Gในกรณีผู้รับสัมปทานเดิมของทีโอทีได้รับการจัดสรรคลื่นความถี่และใบอนุญาต 3G จาก กทช. เนื่องจากประเมินว่าภาระค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับใบอนุญาตใหม่จะน้อยกว่าส่วนแบ่งรายได้ในแต่ละปีที่จะต้องจ่ายให้ทีโอที ตามสัญญาสัมปทานเดิมกล่าวคือคาดว่าการจ่ายค่าใบอนุญาตใหม่ประมาณปีละ 6.5% ของรายได้ (มาจากค่าใบอนุญาต 2.5% และค่า Universal Service Obligation Fund 4%) เปรียบเทียบกับการจ่ายเป็นค่าส่วนแบ่งรายได้ 20% ถึง 30%
2.ตลาดโทรศัพท์มือถือในปัจจุบันมี Penetration Rate เกือบ 100% แล้ว และมีต้นทุนการหาลูกค้าใหม่ (Subscriber Acquisition Cost) ที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นวิธีการการหาลูกค้าที่ดีที่สุด คือการโอนลูกค้า 2G ที่เอกชนดูแลอยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานเดิมไป โครงข่าย 3Gผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการโอนลูกค้าดังกล่าว ทำให้ส่วนแบ่งรายได้ของทีโอทีลดลงและท้ายที่สุดจะทำให้ภาครัฐได้รับประโยชน์จากการดำเนินงานของทีโอทีในรูปของภาษีเงินได้และเงินปันผลลดลงตามไปด้วย (ปี 2551ทีโอที จ่ายภาษีเงินได้ 2,600 ล้านบาท เงินปันผล 5,500 ล้านบาท)
3.การนำทรัพย์สินของรัฐไปใช้ประโยชน์บนโครงข่าย 3G สัญญาสัมปทานในรูปแบบ BTO (Build Transfer Operate) คือ การสร้างและโอนให้รัฐ และให้เอกชนผู้รับสัมปทานมีสิทธิในการใช้ทรัพย์สินและสิทธิในการบริหารจัดการ มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะมีการนำอุปกรณ์ระบบ 3G มาติดตั้งเพิ่มเติมบนทรัพย์สินของโครงข่าย 2G เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ฉะนั้นมาตรการกำกับดูแล การควบคุมและการตรวจสอบจะซับซ้อนยิ่งขึ้น อาจมีข้อพิพาท และในที่สุดเพิ่มต้นทุนด้านการดำเนินงาน แก่ ทีโอที
ของ CAT ที่ทำกับ Hutch เป็น cdma2000 EV-DO ครับ http://en.wikipedia.org/wiki/Cdma2000newbie_12 เขียน: 3. ส่วน CAT มี 3G อยู่แล้ว จริงครับ แต่เป็น 3G ที่วิ่งอยู่บน w-cdma ซึ่ง 3G ที่จะออกมาใหม่เราเรียกว่า 3G แต่จริงๆมันเป็น 3.5G แล้ว (HSDPA) ซึ่งเร็วกว่าของ CAT เยอะมากครับ