คาบข่าวมาฝากสาวก Fund Flow ครับ

[picatos]

ไม่รู้จะไปตั้งกระทู้ห้องไหน หาห้อง Fund Flow ไม่เจอ... ขออนุญาตโพสในห้องนี้ละกัน... ถ้าไม่ถูกห้อง mod ช่วยย้ายให้ด้วยนะครับ...

พอดีวันนี้ไปกินข้าวกับเพื่อนที่ทำงาน Treasury ของแบงค์ต่างๆ... แล้วก็ทราบมาว่า Flow เงินต่างชาติที่ไหลเข้ามานี่ผ่าน JP Morgan และ Strait Street เป็นส่วนใหญ่

เพื่อนบอกว่าน่าจะเป็นฝรั่งหัวดำที่เอาเงินเข้ามาลุยหุ้น เพื่อเตรียมเลือกตั้ง โดยน่าจะลากขึ้นไปให้ตลาดระเบิด ไม่ใช่กองทุนที่เข้ามาลงทุนยาวๆ ครับ...

ฟังหูไว้หูนะครับ...

[ler109]

เลือกตั้งที่ไหนครับผม บ้านเราหรือเปล่าครับ??
ถ้าเป็นบ้านเราคงยังไม่น่าจะใช่ช่วงนี้นะครับ เพราะฐานเสียงของรัฐบาลยังอ่อนปวกเปียก เลือกตั้งไปคงยากจะชนะนะครับ

[densin]

จะมีเลือกตั้งใหม่ทั่วเอเชียเลยหรอครับ
เออญี่ปุ่นเพิ่งเลือกตั้งจบไป หุ้นก็ต้องไม่ขึ้นสินะ

[SEHJU]

เลือกตั้งที่ไหนเหรอครับ ทำไมเค้ามาลุยถึงบ้านเราเลยครับ...

รอให้เซียนฟันด์โฟลว์มาอธิบายต่อครับ

[picatos]

... ฟังหูไว้หูนะครับ...

ผมแค่เป็นสุนัขคาบข่าวมาฝากเฉยๆ ครับ เป็นข้อมูลว่าเงินที่เข้ามาลุยหุ้น Order มาจากผ่าน Securities ไหนที่ต่างประเทศ และเป็นความคิดเห็นของ Trader คนหนึ่ง ที่ผมพยายาม quote คำพูดของเค้าแบบ word by word ที่สุดแล้วมาฝาก...

จะเชื่อหรือไม่อย่างไร มีประโยชน์ต่อคุณหรือไม่อย่างไร แล้วแต่ตัดสินใจละกัน... แต่สำหรับผมข้อมูลดังกล่าวผมก็ฟังสนุกๆ ไม่ค่อยมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนของผมสักเท่าไหร่ครับ...


ไหนๆ ก็หลวมตัวมาขนาดนี้แล้ว... ผมขอแชร์สิ่งที่ผมเคยรู้มาสักเล็กน้อยนะครับ... ซึ่งจริงเท็จขนาดไหน เชื่อหรือไม่ กรุณาตรวจสอบกันเองละกันนะ... ผมคงจะ post ในกระทู้นี้เป็น post สุดท้าย... ถ้า mod เห็นว่าไม่สมควร ผมฝากลบด้วยนะครับ...

สมัยที่ผมทำแบงค์ ผมได้คุยกับพี่ที่เคารพคนนึง... เค้าเล่าให้ฟังว่า... เวลานักการเมืิองใต้โต๊ะ นอกจากจะมีการจ่ายเงินกันในไทยแล้ว จะมีการให้คนถือเงินไปรับ/จ่ายเงินกันในต่างประเทศ (ส่วนใหญ่ที่สิงคโปร์) ซึ่งเค้าเล่าให้ฟังแล้วผมหนาวครับ ว่ามีนักการเมืองที่มีเงินอยู่ offshore หลักแสนล้านบาทอยู่หลายคนครับ

พี่ผมคนนี้ก็เคยหิ้วกระเป๋าเงิน ผ่านชายแดนลงไปส่งมอบเงินที่สิงคโปร์ สมัยทำงานอยู่บริษัทหนึ่งที่จำเป็นต้องมีการจ่ายเงินใต้โต๊ะ...

อันนี้ข้อมูลที่ผมจำได้เล่าๆ... ต่อไปนี้คือความคิดเห็นของผม....

เมื่อนักการเมืิองเอาเงินไว้ในต่างประเทศ เวลาจะหาเงินเลือกตั้ง... สิ่งหนึ่งที่ทำคือการใช้พอร์ตในประเทศ ซึ่งอยู่ในชื่อนอมินีเข้าเก็บหุ้นให้มากในระดับหนึ่ง พอถึงจุดหนึ่งก็ใช้พอร์ตต่างประเทศเข้ามาลุยหุ้น โดยเคาะซื้อเคาะขายออเดอร์ตัวเองระหว่าง ใน และ ต่างประเทศ เป็นการปั่นหุ้นซึ่งตลาดตรวจสอบได้ยากมาก

แล้วก็พยายามให้โชว์ตัวเลขต่างชาติเป็นฝ่ายซื้อสุทธิ ใช้ sentiment ของตลาดโลก และพยายามสร้าง sentiment ของตลาดให้คนเชื่อว่ากองทุนเข้ามาลุยหุ้น สุดท้ายก็ปั่นๆ ขึ้นไปออกของ... ซึ่งจริงๆ แล้ว ต่างชาติที่เข้ามาซื้อไม่จำเป็นต้องกำไรหุ้นก็ได้... แต่ขอให้พอร์ตในไทยกำไรเป็นพอ... เพื่อที่จะได้ Transfer เงินจาก offshore เข้ามาอยู่ onshore แล้วจะได้นำเงินไปใช้ประโยชน์ต่อไป

ดังนั้น ในความเห็นผม... แนวคิดที่ว่า... ต่างชาติเข้ามาลงทุน แล้วพยายามขายให้ได้กำไรที่ปกติคนส่วนใหญ่เชื่ออย่างงั้น แต่ภายใต้ conspiracy theory นี้ คงจะไม่จริงแท้เสมอไป... ต่างชาติที่เราเห็นอาจจะเป็นฝรั่งหัวดำที่พยายาม transfer เงิน offshore เข้ามาอยู่ onshore เท่านั้นก็ได้... ถึงพอร์ต่างชาติจะโชว์ขาดทุน แต่โดยรวมกำไรหรือ Transfer เงินได้สำเร็จเป็นพอ...

นี่เป็นแค่ความเชื่อนะครับ... ฟังหูไว้หูนะครับ... ... มีอะไรก็ถามคุณ hongvalue ละกัน คนนั้นเค้าเซียน Fund Flow กว่าผมเยอะ...  :lol:

ปล. ขออนุญาตไม่ตอบ pm ที่เกี่ยวกับ fund flow นะครับ

[sai]

ขอบคุณคุณ picatos ครับ  :lol:

[terati20]

ผมเข้าใจว่า คุณ picato หวังดีครับ

เเต่อยากทราบความเห็นคุณ picato
ว่าหลังจากฟังเรื่องนี้จากเพื่อน

คุณคิดว่าข่าวนี้เป็นจริงไหม?

เเล้วเพื่อนคุณเขา วิเคราะห์อย่างไร ถึงรู้ว่าเป็นฝรั่งหัวดำ?

เพราะผมไม่ค่อยมีความรู้ด้านนี้ เลยอยากทราบความเห็น

[densin]

ขอแยกเป็นประเด็นๆหน่อยละกัน

- เรื่องเงินฝากต่างประเทศ ปริมาณเงินแสนล้าน
คงไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าเป็นนักการเมืองที่อยู๋มานาน
ซึ่งอันนี้คงต้องเศร้าใจที่ประเทศชาติโดนโกงสะสมมาขนาดนั้น
ขนาดนักธุรกิจไทยหลายๆคนทก็มีเงินอยู่ต่างชาติ เราก็รู้ๆกันอยู่

-เงินก้อนนี้ จะลงที่หุ้น เพื่อโอนเงินกลับมาหรือไม่
ถ้าดูปริมาณสะสมต่างชาติตั้งแต่ปี40ถึงเมื่อวานจะมีราวๆ 286,000ล้านบาท
ถ้ามองแค่ว่ามีเงินอีกระดับแสนล้านบาท ของนักการเมืองกองเดียว
คงสามารถดันดัชนีไปอีกไกลทีเดียว
ถ้านักการเมืองต้องการทำให้บรรยากาศการลงทุนดีขึ้นหรือแย่ลง
ทำได้ง่ายนิดเดียว  ปริมาณvolumeคงเพิ่มมากมาย
สามารถสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาลอยู่ต่อ
หรือสามารถทำให้รัฐบาลห่อเหี่ยวได้(ถ้าเงินเป็นของฝ่ายค้าน)
ไม่จำเป็นต้องใช้กับการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียวก็ได้

แต่อย่าลืมว่ายังมีเงินของต่างชาติตัวจริงๆอีกหลายกอง
และขนาดใหญ่กว่ามาก
ถ้าเอาเงินก้อนนี้มาเล่นหุ้น BigCap ก็จะเสี่ยงอย่างมากที่จะโดนฝรั่งตัวจริง เข้ามาร่วมเล่นเพิ่มด้วย  เงินกองนี้คงไม่พอที่จะต่อกร

ดังนั้นถ้าจะมีการปั่นจริง คงไม่เข้าหุ้นตัวใหญ่ เพราะปั่นลำบากกว่า
ถ้าปั่นตัวเล็กๆ ก็คงไม่ต้องใช้เงินมากมาย
ถ้ามองว่าเงินสะพัดใต้ดินเวลาเลือกตั้งราวๆ2-3หมื่นล้านบาท
เป็นเงินหลายพรรค และมีเงินจากหลายทาง
เงินที่ผ่านตลาดหุ้นสักหลักพันล้านก็น่าจะพอเลือกตั้งแล้ว
ดังนั้นเงินไหลมาสำหรับเลือกตั้ง(ถ้ามี) ไม่น่าจะเข้ามากจนน่ากังวล

- เงินที่โอนมาได้เอาไปใช้ทำอะไรในการเลือกตั้ง
การเลือกตั้งต้องใช้เงินทั้งบนดิน และใต้ดิน
เงินที่ใช้บนดินโดนบังคับจากกฏหมายอยู่แล้วว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่
ได้จากเอาเงินจากการบริจาค และเงินอุดหนุนพรรคการเมือง
ซึ่งก็ไม่มากอีกนั่นแหละ

ส่วนเงินใต้ดิน ก็ไม่ต้องมีหลักฐานที่มาหรือใช้ไป
การเอาเงินฟอกผ่านตลาดหลักทรัพย์ กลับทำให้มีร่องรอยของเงิน
ในเมื่อหิ้วเงินไปเมืองนอกอย่างไร้ร่องรอยได้
ทำไมไม่หิ้วเงินกลับมาไม่ดีกว่าหรือ?

ถึงเรื่องfund flowเพราะการเมือง ไม่ควรจะมากจนเป็นปัจจัยหลัก
ของfund flowรวม
ไม่อย่างนั้น ทุกครั้งที่ยุบสภาดัชนีต้องขึ้น แล้วตกหลังเลือกตั้ง
แต่ในความเป็นจริงจะกลับกัน

ผมว่าเรื่องนี้ไม่มีน้ำหนักนะ......นั่งดูDOLLAR INDEX SPOT แม่นกว่า

ปล. ปริมาณเงินไหลเข้าประเทศไทย ต่างจากกับปริมาณเงินชาติเอเชียอื่นๆหรือไม่   เดี๋ยวรอตัวเลขจากอาจารย์Hong มาดูอีกที

[SEHJU]

รายใหญ่ๆต่างคนต่างจ้องจะล่อกัน แล้วรายยิบย่อยจะอยู่ยังไงล่ะเนี่ย...

ชักจะมันแล้วกระทู้นี้....  รอตามต่อครับ

[newbie_12]

ไม่ใช่นัก fund flow แต่เห็นด้วยกับคุณเด่นครับ

บริโภคข้อมูลข่าวสารสมัยนี้ต้องทำหูหนักๆเข้าไว้ครับ เรื่องที่เล่าต่อๆกันมามีเยอะมากมาย ถูกใส่สีตีไข่ระหว่างทางจนบางทีเรื่องราวกลับจากหน้ามือเป็นหลังเท้า

พวก FWD Mail ต่างๆก็ต้องระวังให้ดีครับ

[picatos]

...
ผมว่าเรื่องนี้ไม่มีน้ำหนักนะ......นั่งดูDOLLAR INDEX SPOT แม่นกว่า
...

อ้อ... มีอีกข่าวครับ... สุดท้ายแล้วมั้ง

ตอนนี้ธปท. ตรึงค่าเงินบาทแล้วนะครับ... ไม่มีการประกาศ แต่ทำด้วยการกระทำโดยรับ USD/THB ที่ 34 บาท เห็นเพื่อนบอกว่าตอนนี้แทบไม่มีงานทำแล้ว USD/THB เคลื่อนไหว Range 1 สตางค์ (มั้งถ้าฟังไม่ผิด) ไม่รู้จะไป Trade อะไรดี... ตลาดดอกเบี้ยก็ไม่มี Liquidity เลยต้องไป Trade G7 แทน

[picatos]

USD/THB ที่พูดถึงนี่ Interbank นะครับ... ไม่ใช่ Retail นะครับ

[newbie_12]

อ้อ... มีอีกข่าวครับ... สุดท้ายแล้วมั้ง

ตอนนี้ธปท. ตรึงค่าเงินบาทแล้วนะครับ... ไม่มีการประกาศ แต่ทำด้วยการกระทำโดยรับ USD/THB ที่ 34 บาท เห็นเพื่อนบอกว่าตอนนี้แทบไม่มีงานทำแล้ว USD/THB เคลื่อนไหว Range 1 สตางค์ (มั้งถ้าฟังไม่ผิด) ไม่รู้จะไป Trade อะไรดี... ตลาดดอกเบี้ยก็ไม่มี Liquidity เลยต้องไป Trade G7 แทน

แบบนี้ถ้าดอลอ่อนลงเรื่อยๆ แบงค์ชาติเราไม่เจ๊งเหรอครับเนี่ยะ

[investment biker]

ต่างชาติที่เป็นฝรั่งหัวดำ มีอยู่แล้วครับ แต่ปริมาณเงินมิอาจทราบได้

เหตุผลก็คือนักการเมืองเป็นหนึ่งในขาใหญ่ตลาดหุ้นไทย แต่ตัวเองห้ามถือหุ้นโดยตรง ก็เลยใช้ port nominee มาถือแทน ซึ่งถ้าเป็น port ต่างประเทศ ทาง กลต ก็ไม่มีสิทธิไปตรวจสอบอะไรได้ว่า Ulitmate Shareholders นั้นเป็นใคร

นอกจากนี้ นักการเมืองได้เปรียบรายย่อยมาก เนื่องจากตัวเองรู้ inside information ก่อน เช่น ธนาคารในตลาดหลักทรัพย์กำลังจะขาย ก็ไปซื้อดักไว้ก่อนในชื่อของกองทุนต่างประเทศ ได้กำไรทีน่าจะหลาย ๆ เด้ง

เห็นบางท่านก็เคยออกข่าวว่าช่วงหุ้นตก port หุ้นต่างประเทศของท่านหายไปหลายร้อยล้าน สร้างภาพว่าตัวเองขาดทุน แต่แท้จริงแล้วน่าจะพุงปลิ้น

แสดงว่าหลาย ๆ ท่านคงรวยทั้ง capital gain และเป็นวิธีการฟอกเงินที่เนียนทีเดียว  :lol:

[i_sarut]

ขอบคุณครับพี่ picatos

[chode]

ผมล่ะกลัวข่าวนี้มากเลยครับ เออถ้ากลัวบาทแข็งกันมาก ก็ประกาศให้ต่างชาติทราบไปเลยซิครับว่าไม่ไห้มาลงทุนตอนนี้ จะให้มาเมื่อไหร่ไว้จะบอก

http://www.posttoday.com/news.php?id=66090
ธปท.จ่อคุมเงินร้อน  
วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2552

โพสต์ทูเดย์ ธปท.ส่งสัญญาณ คุมเงินทุนไหลเข้า ดูแลค่าเงินบาท

นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เชื่อว่าในปีหน้าภาวะเงินทุนไหลเข้าประเทศจะมากกว่าปีนี้ เนื่องจากวิกฤตการเงินโลกคลี่คลาย ซึ่งธปท.ไม่ได้ปิดกั้น และเตรียมเครื่องมือรองรับ หากมีความจำเป็นจะต้องออกมาตรการดูแลเฉพาะจุด เช่น ดูแลการปล่อยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ในการซื้อบ้านที่มีราคาแพง เป็นต้น  
อัจนา

นางอัจนา กล่าวว่า ในช่วงเวลาที่เงินทุนไหลเข้ามากๆ จะเกิดภาวะฟองสบู่ ตลาดหุ้นปรับตัวสูง ราคาที่ดินปรับตัวแพงขึ้น สามารถป้องกันได้โดยขึ้นดอกเบี้ย แต่ต้องพิจารณาว่าขณะนั้นเศรษฐกิจขยายตัวได้ดี หากเศรษฐกิจไม่ดีจะสร้างปัญหาการลงทุนและการออมที่ผู้ฝากเงินได้อัตราดอกเบี้ยน้อยลง

ทั้งนี้ การไหลเข้าของเงินทุนส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็ง ทางแก้ไขมีหลายทาง เช่น ปล่อยให้ค่าเงินบาทแข็งซึ่งปล่อยไปถึงจุดหนึ่งเงินทุนไหลเข้าก็จะลดลงไปเอง การใช้วิธีนี้จะส่งผลกระทบกับผู้ส่งออก ส่วนจะใช้มาตรการแทรกแซงปล่อยไม่ให้ค่าเงินบาทแข็งก็จะมีปัญหาว่าธปท.สะสมสินทรัพย์มากจนเกินไป ทำให้ราคาสินทรัพย์ของประเทศไม่ปรับตัวสูงขึ้นเพราะถูกกดไว้

การออกมาตรการทั้งหมดต้องตัดสินใจ ต้องดูภาวะตอนนั้นเป็นหลัก ต้องยอมรับว่าการออกมาตรการเฉพาะจุดจะสร้างความกังวลให้กับนักลงทุน เช่น การออกมาตรการ 30% ควบคุมเงินทุนระยะสั้นไหลเข้า นางอัจนา กล่าว น.ส.วารุณี สิทธิถาวร ผู้ชำนาญการงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น แต่ค่าเงินบาทแกว่งตัวแคบมากๆ เพราะธปท.เข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด ถ้าธปท.ไม่เข้ามาดูแล ค่าเงินคงแข็งค่าขึ้นไปกว่านี้

ทั้งนี้ เงินบาทแข็งค่ามาที่ระดับ 34 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จาก ปลายปีที่ 35 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ตั้งแต่เดือนมี.ค. ตามดัชนีตลาดหุ้น ที่ปรับขึ้นสำหรับลงทุนโดยตรง จากต่างประเทศไหลเข้าไทยประมาณ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อไตรมาส