ตอนนี้ผมกำลังจะสะสมหุ้น MINT อยู่ครับ พี่ๆ ช่วย Comment หุ้น

[goldman639]

ผมคิดว่าตอนนี้หุ้น MINT ได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว ประกอบกับกำไรน่าจะ
ฟื้นตัวได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 เป็นต้นไป เนื่องจาก การควบรวมกับ MINOR
จะทำให้ MINT มีธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น ได้กำไรมากขึ้น และได้รับ
ประโยชน์จากการ SYNERGY ด้วย รวมกับการเติบโตการเพิ่มสาขาของธุรกิจอาหารอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงตรง สถารการณ์ไข้หวัด 2009 กับ
ภาวะการเมืองในประเทศ ยังรบกวนพี่ ๆ Guru ช่วย Comment ให้ด้วยครับ
สำหรับหุ้นตัวนี้

ขอบคุณมากครับ

[newbie_12]

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... start=1050

ไปดูที่นี่ได้เลยครับ

ฝากแปะความเห็นของ dr นิเวศน์ในงานจิบเบียร์ครั้งล่าสุดไปด้วยครับ
- ธุรกิจอาหาร ยังไปได้ดีมาก แต่ไม่ใช่ส่วนที่เป็นกำไรส่วนใหญ่ของบริษัท
- ธุรกิจโรงแรมไม่ใช่ธุรกิจที่ great
- การท่องเที่ยวกลับมาแน่ แต่จะส่งผลดีกับ MINT จนกำไรเท่าเดิมมั้ย ท่านบอกก็ไม่แน่
- โรงแรมเปิดใหม่เยอะแยะมากมาย ไม่รู้ว่า Supply จะล้นหรือไม่


ปล ผมมีหุ้นอยู่

[Linzhi]

ผมคิดว่าตอนนี้หุ้น MINT ได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว ประกอบกับกำไรน่าจะ
ฟื้นตัวได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 เป็นต้นไป เนื่องจาก การควบรวมกับ MINOR
จะทำให้ MINT มีธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น ได้กำไรมากขึ้น และได้รับ
ประโยชน์จากการ SYNERGY ด้วย รวมกับการเติบโตการเพิ่มสาขาของธุรกิจอาหารอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงตรง สถารการณ์ไข้หวัด 2009 กับ
ภาวะการเมืองในประเทศ ยังรบกวนพี่ ๆ Guru ช่วย Comment ให้ด้วยครับ
สำหรับหุ้นตัวนี้

ขอบคุณมากครับ

แล้วเรื่องราคาหุ้นล่ะครับ พี่ goldman639 มองยังไง

[goldman639]

ผมมองว่าราคา MINT ยังถูกอยู่นะครับ ถ้าเทียบปัจจัยพื้นฐานในอนาคต

1. การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
2. สถานการณ์ไข้หวัด 2009 น่าจะค่อย ๆ ทุเลาลง
3. ธุรกิจอาหารยังคงเติบโตต่อเนื่อง
4. อัตราหนี้สินต่อทุนยังไม่สูง
5. การควบรวมกับ MINOR จะทำให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
6. รายได้เพิ่มขึ้นจาก MINOR
7. ธุรกิจโรงแรมจะเริ่มฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น
8. ผู้บริหารมีประสบการณ์ในธุรกิจมาก

ผมว่าน่าจะเริ่มเก็บตั้งแต่ตอนนี้เลย หรืออาจจะรอช่วงปรับฐานแล้วค่อย
เก็บก็ได้ครับ

[อะไรดีละ]

ตอนนี้หุ้นยืนที่ p/e ราว 25 เท่า
หมายถึง  นักลงทุนส่วนใหญ่แล้ว  มองอนาคตหุ้นตัวนี้สดใสมากๆ  

ถ้าเป็นไปตามคาด.....หุ้นก็ยืนที่เดิม
ถ้าไม่เป็นไปตามคาด.... หุ้นก็ดิ่งพสุธา

หุ้นแบบนี้น่าลงทุนตรงไหนครับ ??

[noooon010]

ราคาไปกับความคาดหวัง

ถ้าลองถามตนเองว่า ตอน 5.8 เราซื้อหุ้นไปไหม เพราะอะไร
(ราคาตอนพันธมิตรยึดสนามบิน) แล้วราคาที่ ผันผวนในช่วง
5.8 >> 12 บาท เราทำอะไรหรือเปล่า เราติดตามอะไรบ้าง
หรือเราตามราคาอย่างเดียวก็ใจหายแล้ว  :lol:

....ผมว่า เราควรมี plan management ไว้ล่วงหน้านะครับ

....ต่อไปถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ทั้งทางการเมือง หรือ โรคระบาด
เราจะ manage อย่างไร

มีความสุขกับการลงทุนนะครับผม

[o-bo-ja-ma]

นักลงทุนคาดการณ์ว่า P/E สำหรับหุ้นเติบโต ควรสูงมาก ๆ แต่เราควรดูว่าเมื่อความคาดหวังของนักลงทุน ถ้าเราคิดง่าย ๆ ว่า ถ้า P/E 25 เท่า เราจะคุ้มทุนเมื่อเวลาผ่านไป 25 ปี เพราะ Mint เป็นหุ้นไม่ค่อยจะจ่ายปันผลที่สูงสักเท่าไรนัก และยังออก ESOP อยู่บ่อย ๆ แต่ถ้าเราคิดว่าอนาคตเมื่อธุรกิจท่องเที่ยวกลับมา การบริโภคเพิ่มขึ้น คิดซะว่า 1 ปีกลับมา เมื่อเราคิดว่าเมื่อคิด P/E สมมติว่า 7 เท่า EPS ควรจะได้ประมาณ 1.5 เพราะฉะนั้นนักลงทุนควรคิดว่าถ้าเราถือหุ้นราคาสัก 1 ปี หุ้นควรได้กำไร และกำไรสะท้อนราคาหุ้นที่เติบโตเป็นเท่าไร ...อาจไม่เป็นที่ชอบใจของผู้ถือหุ้น...แต่เราเป็นนักลงทุนควรคิดว่าความเสี่ยงกับผลที่ได้รับคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหน...

[tingku]

ผมเคยเป็นผู้ถือหุ้น MFG (Minor Food Group) ซื้อตั้งแต่มีปัญหากับ Pizza Hut ใหม่ๆ ตอนนั้นยังลูกผีลูกคน ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อกับคดีความที่เกิดขึ้น แต่ผมคิดว่า ถึงแม้จะไม่ได้ขาย Pizza อีกเลย MFG ก็ยังมี ซเวนเซ่น และ ซิสเลอล์ ที่ยังไปได้อีกไกล ผมจึงวิเคราะห์และประเมินราคา ประเมินสถานการณ์ และเริ่มเก็บตั้งแต่ 23 บาท เรื่อยมา....

จนสถานการณ์คลี่คลาย ตั้ง ThePizzaCompany ขึ้นมา สะสางคดีกับ PizaHut เลิกทำ Chicken Treat ยกสาขาของ Burger King บางสาขาให้ Pizza Hut ไป และอื่นๆ..... จนสุดท้าย PizzaCompany มี market share ดีกว่า Pizza Hut มาก สถานการณ์บริษัทดีขึ้น ราคาหุ้นก็เพิ่มขึ้นอย่างที่ผมคาด

วันดีคืนดี พอปีกกล้าขาแข็ง ก็ทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ออกจากตลาด (ผมแค้นมากจนถึงทุกวันนี้) แล้วก็เอาไปผสมกับธุรกิจโรงแรม แล้วเอากลับมาขายในตลาดเหมือนเดิม.... นี่มันเรื่องอะไรกัน

สำหรับผม ผู้บริหารแบบนี้ผมขออยู่ห่างๆครับ

[Polar Bear]

ให้ พีอี กันสูงจัง ภาวะแบบนี้ให้พีอีถึง 25  ก่อนหน้าวิกฤตเคยให้กันถึง 30
อืม...

[teetotal]

เก็บไปแล้วเรียบร้อย      ตอนแปด   บาทกว่า
ที่จ่ายคงไม่ sad            คาดไว้

[o-bo-ja-ma]

รถพ่วงปิดด่านชั่งน้ำหนักบางไผ่  
วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2552 15:38

ผู้ประกอบรถบรรทุกปิดทางเข้าออกโวยจนท.ด่านชั่งน้ำหนัก

วันนี้(6กันยายน) รถบรรทุกพ่วง 24 ล้อ จำนวนกว่า 10 คัน จอดปิดทางเข้าด่านชั่งน้ำหนักบางไผ่ ริมถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี อ.เมืองฯ จ.ฉะเชิงเทรา เนื่องจากไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่จับกุมตัวสมาชิกของกลุ่มคนหนึ่งไปดำเนินคดี พร้อมปรับเงินจำนวน 10,000 บาท

ตัวแทนผู้ประกอบการรถบรรทุกภาคตะวัน เปิดเผยว่า ได้บรรทุกพืชผลทางการเกษตรน้ำหนัก 57 ตัน เมื่อมาถึงด่าน เจ้าหน้าที่กลับส่งตัวเข้าห้องขัง สภ.เมืองฉะเชิงเทราทันที ทั้งนี้ ตามกฎหมายสามารถบรรทุกสินค้าได้ไม่เกิน 53 ตัน แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการผ่อนผันให้บรรทุกสินค้าได้ไม่เกิน 58 ตัน

อย่างไรก็ตาม ได้พยายามเจรจากับเจ้าหน้าที่ แต่ไม่เป็นผล ผู้ประกอบการจึงรวมตัวมาประท้วง เพื่อเรียกร้องให้ทุกด่านปฏิบัติเหมือนกันทั่วประเทศ มิเช่นนั้นจะปิดถนนที่จะมุ่งหน้าไปภาคตะวันออกทันที.


อีกหนึ่งอุปสรรคของการท่องเที่ยว มีเรื่องที่ไหน ปิด...อย่างเดียว ไม่สนใจใครจะเดือดร้อน จะส่งผลกระทบกับอะไร น่าเห็นใจประเทศกับการท่องเที่ยวเมื่อกฏหมู่อยู่เหนือกฏหมาย

[IMAGINATION]

INVESTOR SHOULD CONCERN ABOUT OVER SUPPLY OF HOTEL IN BANGKOK REGION AND HIGH EXPECTATION ON STOCK

[WorriedInvestor]

เคยมีตัวนี้ตั้งแต่เป็น MINOR ครับ ซื้อไว้ไม่มากเท่าไหร่(เบี้ยน้อยหอยน้อยและใจไม่กล้า) และขายไปบ้างบางส่วน จนตอนนี้แปลงเป็นMINTที่มีอยู่ใน Port มันเป็นส่วนของกำไรทั้งหมดแล้ว ถือเป็นหุ้นก้นPort  ซึ่งเป็นหุ้นที่ Capital Gain สูงสุดใน Portครับ ส่วนของปันผล เค้าชอบให้เป็นหุ้น เป็นเงินสดน้อยมากเลย อย่างที่ท่าน ๆ ข้างบนบอกครับ ผมมองว่าตอนนี้ PE มันสูงมาก ๆ อัตราปันผลต่ำมาก ๆ ยิ่ง P/BV ก็สูงเอาการทีเดียว ถ้าเป็นราคาแถว ๆ นี้ผมว่าผลตอบแทนมันจะไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ ตัวนี้ต้องหวังปาฎิหารย์จาก Capital Gain เป็นหลักเลยครับ ซึ่งตอนนี้ความเห็นส่วนตัวผม ขอมีไว้เท่าที่มี ไม่คิดจะเก็บเพิ่มแล้วครับ เสียววววว.

[striker]

ผมว่าการมอง pe ของธุรกิจที่มี Heavy Asset Investment อย่างโรงแรมและโรงพยาบาลเราไม่สามารถจะมองกันที่ PE ได้อย่างเดียว อาจจะต้องดูในส่วนที่เป็น  EBITDA ด้วยครับ เพราะถ้าดูที่งบจะพบว่า ค่า Depreciation ของ โรงแรมและโรงพยาบาลจะค่อนข้างสูง นั้นหมายความว่า นอกจากกำไรที่ได้มาในรูปของ Net Profit แล้ว เมื่อ โรงแรมและโรงพยาบาลตัดค่าเสือมหมด ก็จะได้ Asset กลับเข้ามา ซึ่ง Mint และ BH น่าจะเข้าต้องให้ PE ที่มากกว่า 10 พอสมควร

เรื่อง Supply ในตลาดผมว่าก็มีเรื่องน่าห่วงและไม่น่าห่วงครับ เนื่องจากที่ผมลองตระเวนดูโรงแรมหลายๆโรง และดูงบของกลุ่มโรงแรมที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ พบว่า โรงแรมที่มี chain แข็งแรง ก็จะดีกว่าโรงแรมทั่วๆไป และก็จะได้รับผลกระทบน้อยกว่าโรงแรมที่ไม่ได้มี chain และ brand ที่แข็งแกร่ง แต่ Supply ก็ยังกดดันราคา ARR ของกลุ่มโรงแรมอยู่ดี แต่ถ้าเทียบราคาโรงแรมไทยกับ Regional แล้ว บ้านเราก็ยังมีราคาที่แข็งขันได้อยู่ครับ นอกจากนั้นเครือ Minor ก็พยายามจะปั้น Brand Anatara ให้เป็น Best Small & Luxurious Hotel ของโลก ซึ่งก็ไปได้ดีระดับนึงแล้ว ในส่วนนี้ก็จะมี Intangible Asset เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

ส่วนเรื่องการควบรวม 2 ธุรกิจ ผมกลับมามองว่าเป็นข้อดีนะครับ เพราะ ธุรกิจอาหารจะทำให้ Earning และ CashFlow ของบริษัทดูดีในยามที่เป็น Low Season ของโรงแรม ดังนั้นการควบรวมของ MFG กับ RGR น่าจะ 1+1>2 ครับ

กลับมาดูที่ Roadmap ของกลุ่ม Mint ที่กำลังจะทำต่อไปผมว่าน่าจะเป็นผลดีระยะยาวกลับราคาหุ้นนะครับ ถ้าคุณ Bill ยังแข็งแรงและ กระฉับกระเฉงอยู่

[IMAGINATION]

WARREN BELIEVES THAT DEPRECIATION IS A VERY REAL EXPENSE.INCOME BEFORE TAX IS THE NUMBER THAT WARREN USES.

[striker]

แต่จาก Quote ข้างบนที่กล่าวอ้าง เกี่ยวกับ Warren Buffet เรื่อง Depreciation ผมว่าก็ต้องแยก Asset ที่ถือครองด้วยว่า ในระยะยาว มันจะ Appreciation หรือ Depreciation ถ้าเป็น รถ เครื่องจักร เครื่องบิน อันนี้ผมเห็นด้วยว่ามันเป็น Cost แต่ถ้าเป็นที่ดิน อาคาร โรงแรม โรงพยาบาล ที่ตั้งอยู่ในบริเวณ Prime Location ที่ Supply มีแต่จะน้อยลงเรื่อยๆ ราคาในระยะยาว ถ้าเกิดการซื้อขายก็น่าจะได้กำไรค่อนข้างมาก ยกตัวอย่าง BH ที่ตั้งอยู่ที่บริเวณ ซอยนานา ถือว่า Place ที่ตั้งอยู่น่าจะมี Entry Barrier พอสมควร หรือแม้แต่ โรงแรมFour Season ของ Mint ที่ตั้งอยู่ริมถนน ราชดำริ โรงแรมดังกล่าวเข้าใจว่า ค่าเสื่อมราคาของอาคารตัดหมดไปแล้ว ถ้าเกิดการซื้อขาย ราคาก็น่าจะสูงกว่าตอนลงทุนเริ่มต้นไปค่อนข้างมากเช่นกันครับ
ในทางกลับกัน ทาง Asset ดังกล่าวเป็นเครื่องจักร การตีราคาตาม Book Value ก็อาจจะไม่สมเหตุสมผลมากนัก เพราะสุดท้ายถ้าเครื่องจักรเก่า หรือล้าสมัย ไม่ก็จะเป็นแค่เศษเหล็กไปโดยปริยาย

[o-bo-ja-ma]

เห็นด้วยกับคุณ Striker ครับ เพราะโรงแรมยิ่งเก่าและคงความสามารถในการแข่งขัน ในด้านการบริการได้จะเป็นหุ้นที่มีความแข็งแกร่งมาก ๆ  :lol: