การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
-
Supra
- Verified User
- โพสต์: 479
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
1. อยากจะถามพี่ๆๆ ครับว่า การลงทุนแบบ value ซึ่งให้ผลตอบแทนในระยะยาว ได้จิงหรือในเมื่อวัฎจักรธุรกิจอาจมีเจริญและตกต่ำได้ มันจะได้
ผลตอบแทนมาจากไหน
2. การเล่นหุ้นระยะสั้นในตลาดมีคนเล่นกันมากมาย และก้อมีคนเก่งด้านการลงทุนมาก ทำไมไม่ค่อยเห็นการเล่นในแนว vi สักเท่าไรเลย ตลาดเล่นกันระยะสั้นทำกำไรกันแป๊บๆๆ
3. เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราได้เข้าสู่การลงทุนแนว vi แล้วจิง ไม่ใช่การถือแล้วรอ ซึ่งอาจไม่เปงตามเราวิเคราะห์ก้อได้

*****
-
chatchai
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
1. คงเป็นการเข้าใจผิดมั๊งครับ การลงทุนแนว VI ไม่ใช่ซื้อแล้วไม่ขายนี่ครับ ถ้าเห็นว่าอนาคตแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ หรือราคาสูงเกินราคาพื้นฐาน หรือ มีการลงทุนอ่นที่ดีกว่า เราก็ขายครับ
2. คนที่เล่นหุ้นส่วนใหญ่มักเป็นผู้ที่หวังรวยเร็วๆ รวยง่ายๆ หรือไม่ก็เล่นเพื่อสนุก แบบหวังแค่ค่ากับข้าวนะครับ น้อยคนที่จะศึกษาหาความรู้อย่างจริงจัง
3. ซื้อแล้วก็ต้องติดตามข้อมูล ข่าว งบการเงินของบริษัทอย่างใกล้ชิดครับ ถ้าเราชัดเจนว่าเราลงทุนในบริษัทนี้เพราะอะไร หวังอะไร เราก็สามารถบอกได้ครับว่า บริษัทมาถูกทางที่เราคาดหวังไว้หรือไม่
-
harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
chatchai เขียน:
3. ซื้อแล้วก็ต้องติดตามข้อมูล ข่าว งบการเงินของบริษัทอย่างใกล้ชิดครับ ถ้าเราชัดเจนว่าเราลงทุนในบริษัทนี้เพราะอะไร หวังอะไร เราก็สามารถบอกได้ครับว่า บริษัทมาถูกทางที่เราคาดหวังไว้หรือไม่
ผมชอบนะ ว่าเราลงทุนเพราะอะไร หวังอะไร จะรู้ว่าเราจะทำอย่างไรต่อไป
ผมเจอหลายคนนะ ที่เวลาซื้อไปแล้ว มาถามว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี
โดยเฉพาะกระทิงเขียวอ่ะ
Expecto Patronum!!!!!!
-
ลูกอิสาน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
1.การลงทุนแบบเน้นคุณค่า คือการลงทุนซื้อหุ้นที่ราคาต่ำกว่าพื้นฐาน อาจจะเป็นหุ้นที่เป็นวัฎจักรก็ได้หรือไม่ใช่ก็ไม่แปลกครับ กรณีหุ้นวัฏจักรเราก็ควรจะซื้อตอนที่เริ่มจะเป็นวัฎจักรขาขึ้น และขายตอนที่เริ่มจะเป็นวัฎจักรขาลง เราก็ทำกำไรได้นี่ครับ อยู่ที่ว่าเราจะมีความรู้ ความสามารถวิเคราะห์ได้ขนาดนั้นหรือเปล่า ปกติหุ้นแบบเน้นคุณค่ามักจะมีปันผลเป็นกันชนเพื่อความปลอดภัย แม้หุ้นราคาไม่เพิ่ม แต่เราก็ได้ปันผลทุกปีนี่ครับ ปีละ 10% เราก็อยู่ได้สบายแล้วครับ
2. การเล่นหุ้นระยะสั้นในตลาดมีคนเล่นกันมากมาย และก้อมีคนเก่งด้านการลงทุนมาก ทำไมไม่ค่อยเห็นการเล่นในแนว vi สักเท่าไรเลย ตลาดเล่นกันระยะสั้นทำกำไรกันแป๊บๆๆ
2.กำไรกันแป็บๆ น่าตื่นตาตื่นใจใช่ไหมครับ แต่อีกด้านนึง คิดถึงตอนหุ้นตกทุกวันซิครับ ทรมานขนาดไหน คิดถึงคนที่ซื้อ n-park ตอน 12 บาทเพราะคิดว่าบริษัทนี้จะเป็นเบอร์กไชท์เมืองไทยซิครับ หรือหุ้นอสังหาริมทรัพย์ ที่โบรคเชียร์กันทุกวันในปีที่ผ่านมา .....และหากนักลงทุนระยะสั้นกำไรกันทุกครั้ง ได้กำไรก็นำไปลงทุนต่อ กำไรอีก ก็ไปลงทุนต่อ ทบต้นแค่ปีเดียวก็รวยไม่รู้เรื่องแล้วครับ แต่ในความเป็นจริงมีนักลงทุนอย่างนั้นจริงหรือเปล่าครับ ผมไม่เคยได้ข่าวเลย มีแต่นักปั่นหุ้นรวยเท่านั้นครับที่เคยได้ข่าวบ้าง แต่ระยะยาวนักปั่นหุ้นก็ไม่รวยครับ....มองในระดับโลกซิครับ มีใครรวยมากๆเพราะเก็งกำไรหุ้น หรือใช้กราฟในการตัดสินใจลงทุน หรือเปล่า
3. เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราได้เข้าสู่การลงทุนแนว vi แล้วจิง ไม่ใช่การถือแล้วรอ ซึ่งอาจไม่เปงตามเราวิเคราะห์ก้อได้
3.ก็ต่อเมื่อเรามองว่าการซื้อหุ้นเป็นการร่วมเงินลงทำธุรกิจ ไม่ใช่แค่ตราสาร ที่ซื้อแล้วต้องขายภายในไม่กี่วัน ...การวิเคราะห์ผิดพลาดเป็นเรื่องปกติของการเรียนรู้ครับ แต่การผิดพลาดจะเป็นบทเรียนในครั้งต่อไป
มุมมองส่วนตัวนะครับ อาจจะไม่ตรงใจนักเก็งกำไร นัก TA ต้องขออภัยด้วย

การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
Amorna
- Verified User
- โพสต์: 454
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
1. การลงทุนแบบเน้นคุณค่า หมายถึง เราได้ตัดสินใจมีส่วนร่วมเป็นหุ้นส่วนของกิจการนั้นแล้ว ( แนวคิดพื้นฐานของ Warren เลย) เป็นกิจการที่เราเลือกดีแล้วว่ามีการดำเนินธุรกิจแบบต่อเนื่อง ( going concern) ดังนั้น ผลตอบแทนที่เราได้คือเงินปันผล ที่แบ่งจากผลกำไรในแต่ละปี ตราบนานเท่าที่กิจการนั้นๆ จะคงอยู่ เราจะเลิกเป็นหุ้นส่วนกับกิจการนั้นก็ต่อเมื่อ เราเห็นว่า กิจการให้ผลตอบแทนเราอย่างไม่สมเหตุสมผล
บางปี บางช่วง อาจเกิดภาวะวิกฤต ที่กระทบต่อกิจการนั้นๆ เป็นธรรมดาที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่เมื่อเราพิจารณาดูแล้วว่า กิจการนั้น มีศักยภาพดีพอที่จะฟื้นได้ เมื่อพ้นภาวะเลวร้ายนั้น เราก็จะได้ผลตอบแทนเหมือนเดิม ( ถัวเฉลี่ยในระยะยาวแล้ว ดีกว่า ซื้อๆ ขายๆ เยอะ เครียดจะตาย ลงทุนแบบเน้นคุณค่า สบายใจกว่าค่ะ ดูอย่าง ปูนซิเมนต์ไทยไงคะ คนที่ถือตั้งแต่เมื่อ 30 ปีที่แล้ว จนถึงปีนี้ สบายใจเลย )
2. เป็นนิสัยพื้นฐานของมนุษย์เลยค่ะ อะไรที่ได้มามากๆ เร็วๆ จะน่าสนใจมากกว่า ( แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น ตายเพราะโลภ)
3. ดิฉันว่า การรอ สำหรับ VI น่าจะหมายถึง รอให้หุ้นส่วนเราเค้าทำงานให้สำเร็จตามเป้าหมายค่ะ ไม่ใช่รอเฉยๆ ให้ราคาวิ่ง ซึ่งราคาอาจจะวิ่งไม่สมเหตุสมผลก็ได้ การรอสำหรับเราก็คือ คอยติดตามการดำเนินงานอย่างใกล้ชิดค่ะ
Price is what you pay, value is what you get.
-
นักดูดาว
- Verified User
- โพสต์: 2513
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
2. การเล่นหุ้นระยะสั้นในตลาดมีคนเล่นกันมากมาย และก้อมีคนเก่งด้านการลงทุนมาก ทำไมไม่ค่อยเห็นการเล่นในแนว vi สักเท่าไรเลย ตลาดเล่นกันระยะสั้นทำกำไรกันแป๊บๆๆ
...ทำให้คิดถึงเรื่องการปั่นแปะระดับโลกที่บัฟเฟตเล่าไว้...ท่านใดเก็บไว้กรุณาส่งมาให้ท่านเจ้าของกระทู้อ่านจะขอบคุณมากครับ
เสรีภาพก็เหมือนอากาศที่เราไม่อาจมองเห็นด้วยตา แต่จะรู้สึกได้ในทันทีหากมีมันอยู่เบาบางหรือขาดหายไป
-จีรนุช เปรมชัยพร
-
ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
โดยส่วนตัวและความคิดเห็น
ผมก็ถือหุ้นลงทุนระยะยาวไว้เก็บดอกเก็บผลส่วนหนึ่ง
แต่เมื่อสถานการณ์เงินนอกไหลเข้าและนักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อ
เมื่อเรามีประสพการณ์มีความเข้าใจ(ถ้าไม่เข้าใจก็อย่าไปดูมัน)
เราก็สามารถฉกฉวยโอกาสหาเงินเพิ่ม
จากแรงเก็งกำไร เมื่อเราได้เงินร้อนมา
และหุ้นทำท่าหมดรอบ ก็ควรโยกเงินเข้าไปหาหุ้นที่สามารถถือยาวได้
เป็นเพียงความเห็นของผมคนเดียว อาจถูก อาจผิด
แต่ถ้าเราสามารถ รับผิดชอบของตัวเองได้ ความถูกความผิดได้
ก็คงไม่เป็นไร ก็ไหลไปตามกระแส
แต่บางคนก็เล่นได้ตามสไตล์ส่วนตัวครับ
-
Supra
- Verified User
- โพสต์: 479
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
*****
-
Supra
- Verified User
- โพสต์: 479
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ขอบคุณพี่ mo101 มากครับบบ

*****
-
Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
เพื่อนผมคนหนึ่งชอบวัดดวงครับ เช้าเข้าตลาดแบบสุขุม(ตามแบบของเขา)ตั้งรอรับหุ้นแล้วรอขายตอนมันขึ้น ถามว่าจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจะขึ้นหรือลง เขาอาศัยสังเกตุปริมาณการซื้อขาย วิธีการคือเอาขาแย่ๆเข้าไปก่อน ประหนึ่งว่ามีอะไรจะได้ดึงออกได้ทัน ถ้าไล่ราคาไปอีกสักหน่อยก็สุดตัวเลย ถ้าไม่ใช่ให้รีบขายออก ตอนนี้ขาแกหายไปเกียบทั้งสองข้างแล้วครับ หมดขาที่จะเอาไว้แย่แล้ว ก็อีตอนแกแหย่ขาเข้าไปนี่ซิ พวกลากราคาไปไหนๆแล้ว แกได้อย่างมากก้ช่องสองช่อง แต่เวลาพวกโยนของกันซิ กว่าแกจะเห็นสัญญาณขาย กว่าจะสั่งขาย กว่ามาร์จะคีร์เสร็จ จากสถิติแล้วมาร์จะต้องคีร์อย่างน้อยสองครั้งเพราะขายไม่ทันทิ้งของ ตอนซื้อแล้วจะขายก็น้อยครั้งจะขายทัน เพราะขึ้นไปส่งดอยแล้วพี่แกกลับหัวเลยทุกที
เอาเถิดครับตามถนัด ผมเปิดบ้านรอรับทุกคนแหละ
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
-
Golden Stock
- Verified User
- โพสต์: 615
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
1.การลงทุนระยะกลางและยาวสามารถสร้างผลตอบแทนได้จริงครับ การลงทุนต้องมีการกำหนดเป้าหมายครับ ว่าต้องการอะไรจากการลงทุน จากนั้นก็กำหนดว่าจะต้องทำอย่างไรจึงจะทำให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้
การลงทุนที่ไม่มีเป้าหมายจะทำให้การลงทุนของเราสะแปะสะปะไร้ทิศทาง เราจะไม่รู้เลยว่าเราสำเร็จหรือว่าลมเหลว สุดท้ายก็ทำให้เสียเงินเสียเวลา
การลงทุนไม่ได้หมายความว่าต้องถือหุ้นตลอดกาล ไม่ว่าปัจจัยแวดล้อมต่างๆ จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ควรถือเมื่อปัจจัยแวดล้อมต่างมีส่วนเกื้อหนุน เป็นช่วงที่อุตสาหกรรมเป็นช่วงเติบโต เลิกถือเมื่อเป็นช่วงถดถอย หรือบางที่อาจเห็นว่าราคาหุ้นแพงว่าความเป็นจริงมากๆ
2.การเล่นหุ้นรวย (ไม่ใช่ลงทุน) ใช้ระยะเวลาสั้นเห็นผลเร็ว คนส่วนใหญ่ใจร้อน ก็เลยชอบ แต่ว่ามีน้อยคนที่จะรวยจากการเล่นหุ้น ซึ่งต่างจากการลงทุนที่ต้องอาศัยความอดทน และระยะเวลาจึงจะเป็นเห็นผล แบบเนื้อๆ
3.การวิเคราะห์ผิดถือว่าธรรมดา เพราะว่าตัวแปรมีมากบางที อาจละเลย หรือตีความผิด ก็ทำให้ผลลัพธ์อออมาผิดพลาดได้ และอีกอย่างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจทั้งภายนอกและภายใน มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา