ดูงบการเงินแล้วทราบว่ากิจการเติบโตได้อย่างไรครับ
- Magneto
- Verified User
- โพสต์: 276
- ผู้ติดตาม: 0
ดูงบการเงินแล้วทราบว่ากิจการเติบโตได้อย่างไรครับ
โพสต์ที่ 2
คร่าวๆ เอาแบบทั่วๆ ไปละกันนะครับ
ถ้ากิจการลงทุนขยายงานเองก็อาจจะมีเงินสดออกซึ่งแสดงไว้ตรงกระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุนในงบกระแสเงินสด เช่น ค่าซื้อที่ดิน ค่าซื้อเครื่องจักร ฯลฯ ซึ่งพวกนี้จะทำให้สินทรัพย์ในงบดุลสูงขึ้น และสินทรัพย์โดยทั่วไปที่มีการเสื่อมค่าก็จะทยอยถูกตัดออกมาเป็นค่าเสื่อมราคาในงบกำไรขาดทุนเมื่อเริ่มใช้งานสินทรัพย์นั้น (แต่ก็ให้ระวังว่าถ้าไม่ใช้ประโยชน์สักทีนี่เงินมันก็ออกไปแล้วนะ จริงๆ แล้วเค้าให้แสดงสินทรัพย์ด้วย NRV คือ Net Realizable Value อย่างสมมุติว่าลงทุนไปซื้อห้องแถวจะเปิดมินิมาร์ท ตกแต่งไปแล้วต่อมาทรุด เปิดไม่ได้ อย่างนี้จะบอกว่าสินทรัพย์มีมูลค่าเท่ากับที่ซื้อและลงทุนตกแต่งไปมันก็ไม่ถูก อะไรทำนองนี้ อย่าเพิ่งว่าเรื่องนี้ดีกว่า เดี๋ยวมันจะยาว)
แต่การขยายงานก็อาจจะไม่ใช่ว่าจะต้องซื้อหรือลงทุนสร้างสินทรัพย์เท่านั้น บางทีมันก็ขยายโดยวิธีอื่น เช่น การเช่า ซึ่งก็ทำให้เกิดค่าเช่า เป็นค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุน ถ้ามีการจ้างคนงานเพิ่ม ก็จะมีพวกเงินเดือน ค่าจ้าง พวกนี้เพิ่มเช่นกัน อาจจะรวมไปถึงดอกเบี้ยจากการกู้เงินมาหมุนเวียนเพิ่มเติมด้วย พวกนี้โดยทั่วไปก็สะท้อนให้เห็นในงบกระแสเงินสดตรงหัวข้อกระแสเงินสดจากกิจกรรมการดำเนินงานนั่นแหละ
เหตุการณ์หนึ่งๆ มันไม่ใช่ว่าแสดงอยู่ในงบใดงบหนึ่งเพียงงบเดียวนะครับ มันอาจจะสะท้อนอยู่ในหลายงบก็ได้ แต่ผมพูดไปเฉพาะจุดสำคัญๆ ไม่งั้นคงจะยาวมาก
ทีนี้การเติบโต ก็อาจจะเป็นผลจากการขยายงานของกิจการเอง หรือเป็นเพราะอย่างอื่น เช่น ตลาดโต คู่แข่งจากไป ฯลฯ เราก็มักจะเห็นกันที่ยอดขายหรือรายได้เพิ่มขึ้น บางทีขยายถูกทาง เช่น แบรนด์เป็นที่ยอมรับมากขึ้น ก็อาจจะเห็นอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น ทีนี้ต้องดูด้วยว่ากำไรสุทธิเป็นยังไงบ้าง บางกิจการใช้วิธีทุ่มงบส่งเสริมการขาย ทำให้ยอดขายโต กำไรขั้นต้นโต แต่พอหักด้วยค่าใช้จ่ายพวกส่งเสริมการขายแล้วกำไรสุทธิอาจจะหดก็ได้ (แต่อย่าไปเหมาเอาว่ากำไรงวดนี้ดีมันจะดีอย่างนั้นต่อไป หรือถ้าแย่แล้วมันจะเป็นอย่างนั้นอีกในคราวหน้า สิ่งสำคัญคือเราต้องประเมินให้ออกว่ามันเป็นเรื่องชั่วคราวหรือมีผลต่อเนื่องไป)
เรื่องพวกนี้อ่านๆ งบไป ส่วนมากถ้ามีอะไรสำคัญเค้าก็จะอธิบายเสริมเอาไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินอยู่แล้ว อย่าลืมว่า หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินด้วย บางคนพอกิจการประกาศผลการดำเนินงานรายไตรมาสก็ดูแค่ กำไรสุทธิ หรือกำไรต่อหุ้น แล้วก็ซื้อๆ ขายๆ ซื้อๆ ขายๆ (อืมม์ แต่มันก็เปิดโอกาสให้คนตาดีได้หุ้นราคาถูกอยู่เหมือนกันนะ ขณะเดียวกันก็ทำให้บางคนหลงไปซื้อหุ้นให้มันแพงกันเข้าไปอีก)
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับจริยธรรมของผู้บริหารกับผู้สอบบัญชีเหมือนกัน ว่าจะทำให้เราได้เห็นตัวเลขที่สะท้อนความจริงหรือเปล่า บ้านเราไม่ค่อยมีใครฟ้องกันเรื่องพรรค์นี้ แต่เมืองนอกมีเยอะ อย่าให้พลาดเชียว
บางทีสาส์นจากกรรมการ หรือข้อมูลจากสื่ออื่นๆ (ที่พอจะเป็นกลาง) ก็อาจจะให้ข้อมูลเรื่องพวกนี้ได้ เช่น อาจจะได้ทราบพวกส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้น เป็นต้น หรือบางทีอาจจะทราบข่าวการขยายกิจการตั้งแต่ยังไม่เกิดจริงด้วยซ้ำ
จบแบบรวบรัดมากๆ ก่อนนะครับ
ถ้ากิจการลงทุนขยายงานเองก็อาจจะมีเงินสดออกซึ่งแสดงไว้ตรงกระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุนในงบกระแสเงินสด เช่น ค่าซื้อที่ดิน ค่าซื้อเครื่องจักร ฯลฯ ซึ่งพวกนี้จะทำให้สินทรัพย์ในงบดุลสูงขึ้น และสินทรัพย์โดยทั่วไปที่มีการเสื่อมค่าก็จะทยอยถูกตัดออกมาเป็นค่าเสื่อมราคาในงบกำไรขาดทุนเมื่อเริ่มใช้งานสินทรัพย์นั้น (แต่ก็ให้ระวังว่าถ้าไม่ใช้ประโยชน์สักทีนี่เงินมันก็ออกไปแล้วนะ จริงๆ แล้วเค้าให้แสดงสินทรัพย์ด้วย NRV คือ Net Realizable Value อย่างสมมุติว่าลงทุนไปซื้อห้องแถวจะเปิดมินิมาร์ท ตกแต่งไปแล้วต่อมาทรุด เปิดไม่ได้ อย่างนี้จะบอกว่าสินทรัพย์มีมูลค่าเท่ากับที่ซื้อและลงทุนตกแต่งไปมันก็ไม่ถูก อะไรทำนองนี้ อย่าเพิ่งว่าเรื่องนี้ดีกว่า เดี๋ยวมันจะยาว)
แต่การขยายงานก็อาจจะไม่ใช่ว่าจะต้องซื้อหรือลงทุนสร้างสินทรัพย์เท่านั้น บางทีมันก็ขยายโดยวิธีอื่น เช่น การเช่า ซึ่งก็ทำให้เกิดค่าเช่า เป็นค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุน ถ้ามีการจ้างคนงานเพิ่ม ก็จะมีพวกเงินเดือน ค่าจ้าง พวกนี้เพิ่มเช่นกัน อาจจะรวมไปถึงดอกเบี้ยจากการกู้เงินมาหมุนเวียนเพิ่มเติมด้วย พวกนี้โดยทั่วไปก็สะท้อนให้เห็นในงบกระแสเงินสดตรงหัวข้อกระแสเงินสดจากกิจกรรมการดำเนินงานนั่นแหละ
เหตุการณ์หนึ่งๆ มันไม่ใช่ว่าแสดงอยู่ในงบใดงบหนึ่งเพียงงบเดียวนะครับ มันอาจจะสะท้อนอยู่ในหลายงบก็ได้ แต่ผมพูดไปเฉพาะจุดสำคัญๆ ไม่งั้นคงจะยาวมาก
ทีนี้การเติบโต ก็อาจจะเป็นผลจากการขยายงานของกิจการเอง หรือเป็นเพราะอย่างอื่น เช่น ตลาดโต คู่แข่งจากไป ฯลฯ เราก็มักจะเห็นกันที่ยอดขายหรือรายได้เพิ่มขึ้น บางทีขยายถูกทาง เช่น แบรนด์เป็นที่ยอมรับมากขึ้น ก็อาจจะเห็นอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น ทีนี้ต้องดูด้วยว่ากำไรสุทธิเป็นยังไงบ้าง บางกิจการใช้วิธีทุ่มงบส่งเสริมการขาย ทำให้ยอดขายโต กำไรขั้นต้นโต แต่พอหักด้วยค่าใช้จ่ายพวกส่งเสริมการขายแล้วกำไรสุทธิอาจจะหดก็ได้ (แต่อย่าไปเหมาเอาว่ากำไรงวดนี้ดีมันจะดีอย่างนั้นต่อไป หรือถ้าแย่แล้วมันจะเป็นอย่างนั้นอีกในคราวหน้า สิ่งสำคัญคือเราต้องประเมินให้ออกว่ามันเป็นเรื่องชั่วคราวหรือมีผลต่อเนื่องไป)
เรื่องพวกนี้อ่านๆ งบไป ส่วนมากถ้ามีอะไรสำคัญเค้าก็จะอธิบายเสริมเอาไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินอยู่แล้ว อย่าลืมว่า หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินด้วย บางคนพอกิจการประกาศผลการดำเนินงานรายไตรมาสก็ดูแค่ กำไรสุทธิ หรือกำไรต่อหุ้น แล้วก็ซื้อๆ ขายๆ ซื้อๆ ขายๆ (อืมม์ แต่มันก็เปิดโอกาสให้คนตาดีได้หุ้นราคาถูกอยู่เหมือนกันนะ ขณะเดียวกันก็ทำให้บางคนหลงไปซื้อหุ้นให้มันแพงกันเข้าไปอีก)
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับจริยธรรมของผู้บริหารกับผู้สอบบัญชีเหมือนกัน ว่าจะทำให้เราได้เห็นตัวเลขที่สะท้อนความจริงหรือเปล่า บ้านเราไม่ค่อยมีใครฟ้องกันเรื่องพรรค์นี้ แต่เมืองนอกมีเยอะ อย่าให้พลาดเชียว
บางทีสาส์นจากกรรมการ หรือข้อมูลจากสื่ออื่นๆ (ที่พอจะเป็นกลาง) ก็อาจจะให้ข้อมูลเรื่องพวกนี้ได้ เช่น อาจจะได้ทราบพวกส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้น เป็นต้น หรือบางทีอาจจะทราบข่าวการขยายกิจการตั้งแต่ยังไม่เกิดจริงด้วยซ้ำ
จบแบบรวบรัดมากๆ ก่อนนะครับ
Charls is a friend. My greatest regret is that he had to die for our dream to live. ถึงแม้จะเดินคนละทาง แต่ผมกับชาร์ลก็มีเป้าหมายเดียวกัน..คือ มีที่ให้พวกเรายืนบนโลกใบนี้ยังไงล่ะ
- krisy
- Verified User
- โพสต์: 736
- ผู้ติดตาม: 0
ดูงบการเงินแล้วทราบว่ากิจการเติบโตได้อย่างไรครับ
โพสต์ที่ 3
ดูยอดขายกับสินทรัพย์รวม เราว่าง่ายดี
เพราะขายดีก็ต้องขยับขยาย กำไรดี สินทรัพย์มันก็โต
แต่ประเด็นอยู่ที่คุณภาพของยอดขาย กำไร และสินทรัพย์ก็ต้องดีด้วย มันถึงจะโตจริงๆ
เพราะขายดีก็ต้องขยับขยาย กำไรดี สินทรัพย์มันก็โต
แต่ประเด็นอยู่ที่คุณภาพของยอดขาย กำไร และสินทรัพย์ก็ต้องดีด้วย มันถึงจะโตจริงๆ
.....Give Everything but not Give Up.....
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
ดูงบการเงินแล้วทราบว่ากิจการเติบโตได้อย่างไรครับ
โพสต์ที่ 5
หลักการบริการการจัดการบอกไว้ว่า
เพิ่มรายได้
ลดค่าใช้จ่าย
นั้นคือ ลองเอา รายได้ปกติหารด้วยค่าใช้จ่ายปกติ
เทียบกับ งบก่อนหน้า ดูแล้วว่า ได้ตัวเลขเท่านั้น
นั้งคือ ค่าใช้จ่าย หนึ่งบาทก่อให้เกิดรายได้เท่าไร
ยิ่งตัวเลขมากยิ่งดี
อันนี้ขจัดอะไรบ้างอย่างได้ ในสิ่งที่มองไม่เห็น
มันสะท้อนได้ว่า บริษัทจัดการค่าใช้จ่ายดีแล้วหรือไม่
เพิ่มรายได้
ลดค่าใช้จ่าย
นั้นคือ ลองเอา รายได้ปกติหารด้วยค่าใช้จ่ายปกติ
เทียบกับ งบก่อนหน้า ดูแล้วว่า ได้ตัวเลขเท่านั้น
นั้งคือ ค่าใช้จ่าย หนึ่งบาทก่อให้เกิดรายได้เท่าไร
ยิ่งตัวเลขมากยิ่งดี
อันนี้ขจัดอะไรบ้างอย่างได้ ในสิ่งที่มองไม่เห็น
มันสะท้อนได้ว่า บริษัทจัดการค่าใช้จ่ายดีแล้วหรือไม่
- sai
- Verified User
- โพสต์: 4090
- ผู้ติดตาม: 2
ดูงบการเงินแล้วทราบว่ากิจการเติบโตได้อย่างไรครับ
โพสต์ที่ 6
ขอแชร์ด้วยคนนะครับ คำว่าคุณภาพในภาพรวมก็คือ ความแน่นอนของกำไร เช่นธรุกิจรับเหมาก่อสร้างเมื่อได้รับงานก็จะได้กำไร เพราะฉะนั้นหากช่วงไหนมีงานมากรับรู้รายได้มาก กำไรก็จะมาก แต่หากช่วงไหนมีงานน้อยหรือไม่มีงานกำไรก็จะลดมาก อย่างนี้กำไรถือว่าคาดการณ์ยากและไม่แน่นอน(ยกเว้นรับเหมาบางตัวที่มีสัญญาจ้างงานล่วงหน้าไว้แล้วอีกเรื่องหนึ่งนะครับ ) ส่วนธรุกิจบางประเภทเช่น ร้านสะดวกซื้อ หรือ โรงไฟฟ้า รายได้ที่ได้มาจะมาอย่างเป็นประจำสม่ำเสมอ ไม่ค่อยลด หรือลดก็ลดน้อย อย่างนี้คงต้องถือว่ากำไรที่ได้มาจากธรุกิจอย่างหลังมีคุณภาพกว่าครับgapperer เขียน:ขอบคุณคุณMagneto และคุณKristy ครับ
คำว่า"คุณภาพ" ช่วยอธิบายหน่อยครับว่าคืออย่างไร
พอมาถึงการขยายงานก็คงต้องมองกว่าสิ่งที่ธุรกิจขยายหรือเติบโตขึ้นนั้น เป็นโครงการที่สามารถสร้างรายได้ได้อย่างมั่นคงหรือไม่ รายได้สม่ำเสมอหรือขึ้นขึ้นลงลง อย่างนี้เป็นต้นครับ ทีเหลือรอพี่ krisy มาต่อ
Small Details Make a Big Difference
- krisy
- Verified User
- โพสต์: 736
- ผู้ติดตาม: 0
ดูงบการเงินแล้วทราบว่ากิจการเติบโตได้อย่างไรครับ
โพสต์ที่ 7
กะแล้วว่าต้องโดนถามต่อ :lol:
คือมันเยอะอ่ะ แล้วมันก็กว้างมากด้วย ว่าคุณภาพคืออะไร เพราะแต่ละกิจการทำมาค้าขายไม่เหมือนกัน เลยไม่ได้อธิบายไว้ตั้งแต่แรก อิอิ เพราะมันอธิบายไม่ครบแน่นอนจ้า
ถ้าง่ายๆก็น่าจะมาจาก
ยอดขายและกำไรมาจากธุรกิจที่ทำจริงๆ ก็อย่างที่คุณ sai ตอบไว้ ทำอะไรก็ได้ตังจากอันนั้น เพราะแสดงความสามารถในการแข่งขัน
กำไรได้มาเอาไปทำอะไร กำไรที่เห็นนั้นเป็นเงินสดเท่าไหร่ เพราะทุกอย่างเดินไม่เดินด้วยเงินสด
ถ้าอยากโต ต้องเอาเงินมาซื้อสินทรัพย์ เพราะสินทรัพย์เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดรายได้ เราต้องดูรายละเอียดแล้วคิดว่ามันทำให้เกิดรายได้จริงหรือเปล่า นั่นดูความฉลาดในการใช้เงิน
ทุกอย่างมันสอดคล้องกันนะคะ
Asset --> Revenue --> Profit --> Cash --> Asset
ถ้าเดินไปตามนี้ มันก็โตจริงๆค่ะ ดังนั้นพวกที่จ่ายปันผลมากๆ มันก็จะไม่โตเพราะเงินที่ควรไปซื้อ asset น้อยลงไป
ดังนั้น คุณภาพให้อ่านเป็นเรื่องเป็นราวแบบนี้นะคะ ทำให้เวลาดู financial ratio เราไม่ดูตัวใดตัวนึง เราดูทั้งหมด
ปล. มันไม่ได้อ่านง่ายแบบนี้เลยสักกิจการเท่าที่เราไปแอบดูมา โลกมันยากกว่านี้ ต้องไปฝึกเอาจ้ะ
คือมันเยอะอ่ะ แล้วมันก็กว้างมากด้วย ว่าคุณภาพคืออะไร เพราะแต่ละกิจการทำมาค้าขายไม่เหมือนกัน เลยไม่ได้อธิบายไว้ตั้งแต่แรก อิอิ เพราะมันอธิบายไม่ครบแน่นอนจ้า
ถ้าง่ายๆก็น่าจะมาจาก
ยอดขายและกำไรมาจากธุรกิจที่ทำจริงๆ ก็อย่างที่คุณ sai ตอบไว้ ทำอะไรก็ได้ตังจากอันนั้น เพราะแสดงความสามารถในการแข่งขัน
กำไรได้มาเอาไปทำอะไร กำไรที่เห็นนั้นเป็นเงินสดเท่าไหร่ เพราะทุกอย่างเดินไม่เดินด้วยเงินสด
ถ้าอยากโต ต้องเอาเงินมาซื้อสินทรัพย์ เพราะสินทรัพย์เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดรายได้ เราต้องดูรายละเอียดแล้วคิดว่ามันทำให้เกิดรายได้จริงหรือเปล่า นั่นดูความฉลาดในการใช้เงิน
ทุกอย่างมันสอดคล้องกันนะคะ
Asset --> Revenue --> Profit --> Cash --> Asset
ถ้าเดินไปตามนี้ มันก็โตจริงๆค่ะ ดังนั้นพวกที่จ่ายปันผลมากๆ มันก็จะไม่โตเพราะเงินที่ควรไปซื้อ asset น้อยลงไป
ดังนั้น คุณภาพให้อ่านเป็นเรื่องเป็นราวแบบนี้นะคะ ทำให้เวลาดู financial ratio เราไม่ดูตัวใดตัวนึง เราดูทั้งหมด
ปล. มันไม่ได้อ่านง่ายแบบนี้เลยสักกิจการเท่าที่เราไปแอบดูมา โลกมันยากกว่านี้ ต้องไปฝึกเอาจ้ะ
.....Give Everything but not Give Up.....
-
- Verified User
- โพสต์: 191
- ผู้ติดตาม: 0
ดูงบการเงินแล้วทราบว่ากิจการเติบโตได้อย่างไรครับ
โพสต์ที่ 8
ขอแชร์ความเห็นเกี่ยวกับคุณภาพของกำไรด้วยคนนะครับ
ตามความเห็นของผม คุณภาพของกำไรต้องมอง 2 ด้านคือ
1. ยอดขาย ณ ปัจจุบัน กับ จุดคุ้มทุนของกิจการ ถ้ายอดขาย ณ ปัจจุบันมีสูงกว่าจุดคุ้มทุนของกิจการมากๆยิ่งดีครับ ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่าถ้าสูงกว่า 20% ก็จะถือว่าดี เพราะเวลาที่กิจการประสบปัญหายอดขายตกต่ำในบางช่วงของเศรษฐกิจก็จะสามารถที่มีกำไรได้หากยอดขายลดลงไม่มากกว่า 20% อย่างนี้ถือว่ากำไรที่ได้ค่อนข้างมีคุณภาพพอสมควร
2. ปัจจัยเสี่ยงในอนาคตของกิจการมีโอกาสเกิดขึ้นน้อย ซึ่งก็แน่นอนครับว่าถ้าความเสี่ยงต่อยอดขายลดลงในอนาคตมีน้อยเท่าไหร่ และเรามั่นใจค่อนข้างแน่ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างที่เราวิเคราะห์การลงทุน กำไรของกิจการก็ย่อมมีคุณภาพมากเช่นกันครับ ผมขอยกตัวอย่างอุตสาหกรรมค้าปลีกนะครับ เราลองมองดูกิจการอย่าง Big C ว่ามีความเสี่ยงใดบ้างที่คนจะไม่ไปซื้อของเค้า ซึ่งผมคิดว่าความเสี่ยงหลักๆเลยคือการเปลี่ยนพฤติกรรมการจับจ่ายซื้อของอุปโภคบริโภคจากไปเดินเลือกซื้อเป็นการซื้อผ่านอินเตอร์เน็ตหรือช่องทางอื่น ซึ่งผมคิดว่าจะไม่เกิดในประเทศไทยในอีกประมาณอย่างน้อย 5 - 10 ปีข้างหน้า
อาจจะมีปัจจัยด้านอื่นๆอีก รอท่านอื่นๆมาแสดงความคิดเห็นต่อนะครับ ขอให้โชคดีในการลงทุนครับ
ตามความเห็นของผม คุณภาพของกำไรต้องมอง 2 ด้านคือ
1. ยอดขาย ณ ปัจจุบัน กับ จุดคุ้มทุนของกิจการ ถ้ายอดขาย ณ ปัจจุบันมีสูงกว่าจุดคุ้มทุนของกิจการมากๆยิ่งดีครับ ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่าถ้าสูงกว่า 20% ก็จะถือว่าดี เพราะเวลาที่กิจการประสบปัญหายอดขายตกต่ำในบางช่วงของเศรษฐกิจก็จะสามารถที่มีกำไรได้หากยอดขายลดลงไม่มากกว่า 20% อย่างนี้ถือว่ากำไรที่ได้ค่อนข้างมีคุณภาพพอสมควร
2. ปัจจัยเสี่ยงในอนาคตของกิจการมีโอกาสเกิดขึ้นน้อย ซึ่งก็แน่นอนครับว่าถ้าความเสี่ยงต่อยอดขายลดลงในอนาคตมีน้อยเท่าไหร่ และเรามั่นใจค่อนข้างแน่ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างที่เราวิเคราะห์การลงทุน กำไรของกิจการก็ย่อมมีคุณภาพมากเช่นกันครับ ผมขอยกตัวอย่างอุตสาหกรรมค้าปลีกนะครับ เราลองมองดูกิจการอย่าง Big C ว่ามีความเสี่ยงใดบ้างที่คนจะไม่ไปซื้อของเค้า ซึ่งผมคิดว่าความเสี่ยงหลักๆเลยคือการเปลี่ยนพฤติกรรมการจับจ่ายซื้อของอุปโภคบริโภคจากไปเดินเลือกซื้อเป็นการซื้อผ่านอินเตอร์เน็ตหรือช่องทางอื่น ซึ่งผมคิดว่าจะไม่เกิดในประเทศไทยในอีกประมาณอย่างน้อย 5 - 10 ปีข้างหน้า
อาจจะมีปัจจัยด้านอื่นๆอีก รอท่านอื่นๆมาแสดงความคิดเห็นต่อนะครับ ขอให้โชคดีในการลงทุนครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
ดูงบการเงินแล้วทราบว่ากิจการเติบโตได้อย่างไรครับ
โพสต์ที่ 10
อธิบายได้แจ๋มมากครับคุณ krisykrisy เขียน:...ดังนั้น คุณภาพให้อ่านเป็นเรื่องเป็นราวแบบนี้นะคะ ทำให้เวลาดู financial ratio เราไม่ดูตัวใดตัวนึง เราดูทั้งหมด
ปล. มันไม่ได้อ่านง่ายแบบนี้เลยสักกิจการเท่าที่เราไปแอบดูมา โลกมันยากกว่านี้ ต้องไปฝึกเอาจ้ะ
ส่วนตัวเรื่องการอ่านงบการเงินของผมค่อนข้างปูปลามากครับ
ส่วนนึงก็เพราะปกติเป็นคนใจง่าย :lol:
ชอบอะไรที่มันง่ายๆ
พูดง่ายๆ ก็คือ ขี้เกียจ นั่นเอง :lol:
ความจริงผมชอบศึกษาตัวธุรกิจมากกว่า ค่อนข้างนามธรรมหน่อย
แต่ก็เอามาเปรียบเทียบกับงบบ่อยๆ ว่ามันสมเหตุสมผลหรือไม่
สำหรับการดู Growth ง่ายๆ ของผม คือการสังเกตการเติมโตในส่วนของผู้ถือหุ้นครับ
เพราะมันก็สะท้อนการจัดการในตัวธุรกิจได้พอสมควร อย่างที่คุณ krisy ว่า...
Asset --> Revenue --> Profit --> Cash --> Asset
และกิจการที่ผมชอบ ส่วนของผู้ถือหุ้นควรจะ Growth ไปเรื่อยๆ ได้ด้วยตัวเอง
โดยไม่ต้องกู้เงิน หรือว่าเพิ่มทุนครับ
ปล. ว่าแต่.. คุณครูทั้งหลายท่านมีความเห็นเป็นอย่างไรกั๊บ
-
- Verified User
- โพสต์: 33
- ผู้ติดตาม: 0
ดูงบการเงินแล้วทราบว่ากิจการเติบโตได้อย่างไรครับ
โพสต์ที่ 11
ขอบคุณทุกความเห็นเลยครับ ได้ความรู้และแนวคิดเพิ่มขึ้นมากมาย
ขอบคุณคุณ Krisy ครับ จะลองไปค้นดูครับkrisy เขียน:ค้นคำว่า คุณภาพของกำไีร ดูเอาสิค่ะในไทยวินี่แหละ เราเคยอ่านที่ีพี่พี่เค้าเขียนเอาไว้ ดีมากๆขอบอก