ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 987
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 871
ขอแสดงความยินดีด้วยนะน้องโจ
เด็กผู้หญิงน่ะน่ารักดี ขี้อ้อน ขี้ประจบ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 872
[quote="Laziale"]รบกวนถามพี่โจครับ ว่าพี่โจสนใจใน TTW บ้างมั๊ยครับ ผมค่อนข้างสงสัยว่าทำไมราคาของ TTW ถึงไม่ไปไหนทั้งที่ผลประกอบการกับอนาคตกำไรค่อนข้างแน่และดูมั่นคง ปัญหาตอนนี้คือทุกคนกลัวหรือครับว่าพอพ้น silent period (ที่เพิ่งผ่านไปอาทิตย์นึง) แล้วรายใหญ่อย่าง CK จะทิ้งออกมาเพิ่อทำกำไร หรือเพราะว่าคดีความที่กำลังฟ้องร้องกันอยู่ (แต่ผู้บริหารยืนยันมาตลอดว่าทำตามกฎหมายทุกอย่างแถมหากมีปัญหาจริงก็คงอีกนานหลายปี ดูโหงวเฮ้งแล้วผู้บริหารคนนี้ไม่น่าเป็นคนเลวนะครับ ปล.ดูแค่โหงวเฮ้งนะครับ )
และพี่โจมองว่า PE ที่ 11 เท่าของ TTW นี้ถือว่าแพงไปมั๊ยกับธุรกิจนี้ครับ ขอบคุณมากครับ
และพี่โจมองว่า PE ที่ 11 เท่าของ TTW นี้ถือว่าแพงไปมั๊ยกับธุรกิจนี้ครับ ขอบคุณมากครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 873
ทั้ง 4 ตัวข้างต้นเป็นหุ้น defensive แทบทั้งนั้นเลยครับ และส่วนใหญ่ก็มีการเจริญเติบโตด้วย ผมคิดว่าเป็นหุ้นที่ดีทั้งนั้น ถ้าจะถือยาวก็ซื้อได้ตลอด อาจจะซื้อทุกเดือนแบบ DCA ก็ได้ หุ้นแบบนี้หวังผลตอบแทน 10-15% ไม่น่าจะมีปัญหา แต่ถ้าต้องการผลตอบแทนมากกว่านี้ คงต้องไปหาตัวอื่น หุ้นพวกนี้ตลาดรับรู้คุณภาพไปแล้ว ดังนั้นโอกาสที่จะได้ซื้อราคาถูกๆมีน้อยครับ ถ้าให้มองแต่ละตัวแบบคร่าวๆnensan เขียน:ผมมือใหม่ ติดตามกระทู้พี่มาตลอด อยากถาม ttw(มีปัญหาเรื่องสัญญา),bigc(มีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ),kh ในpeที่พอกัน ว่าตัวไหนน่าลงทุนกว่ากัน.เเละtfund จะมีปัญหาเรื่องค่าเช่าที่รุนเเรงในระยะยาวไหม(ช่วยวิเคราะห์ให้ด้วย) ด้วยความนับถือ ขอบคุณครับ
KH งบดีมาก มีการเติบโต มีจุดเด่นเฉพาะตัวที่เลียนแบบได้ยาก มีการกระจายรายได้ดี ทั้งในแง่พื้นที่และกลุ่มลูกค้า มาตรการควบคุมต้นทุนถือว่าดีมากๆๆ (คนทำงานจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่) ถ้าไม่สนใจราคา เป็นหุ้นที่ผมมักแนะนำให้ถือได้นานๆ โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยมีเวลาศึกษาหุ้นครับ
BIGC ก็เติบโตได้เรื่อยๆ เป็น oligopoly ความสามารถในการทำกำไรเติบโตทุกปี แต่ด้วยฐานกำไรที่สูง และการขยายสาขาที่ค่อยๆลดลง กำไรคงไม่โตแบบก้าวกระโดดแล้วครับ
TFUND ผมไม่ค่อยได้ตาม ตัวนี้คงหวังปันผลอย่างเดียว เพราะราคาหุ้นคงไม่โตมาก เพราะกำไรขึ้นอยู่กับอัตราค่าเช่าเพียงอย่างเดียว ถ้าจะเติบโตก็ต้องเพิ่มทุน กำไรเพิ่มก็จริงแต่ eps คงเท่าๆเดิม ราคาก็ไม่ไปไหน ยกเว้นทางการจะอนุญาติให้กองทุนอสังหาก่อหนี้ได้ ถ้ากู้ได้ eps ก็มีสิทธิ์โตครับ ส่วนการแข่งขันก็คงมี แต่tfund เป็นรายใหญ่ที่สุด มีการบริหารมืออาชีพ ถ้าแข่งกันมากๆ คนอื่นก็ตายก่อน..
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- Alastor
- Verified User
- โพสต์: 2590
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 874
เพื่อนที่อยู่ประปาเคยเล่าเรื่องนี้ให้ฟังเหมือนกัน ผมว่ามันไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ เลยไม่ได้อ่านรายละเอียดต่อเอง พวกน้ำๆนี่ไม่รู้ว่าเสือนอนกินหรือเสือมากินกันแน่นะครับ :lol:ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ สหภาพแรงงานของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ได้มีการยืนเรื่องต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) พิจารณาสัญญาที่ทาง TTW ทำกับ กปภ.ว่าสัญญาที่ซื้อขายต้องเข้าข่ายที่ต้องทำสัญญาที่ต้องเสนอต่อคณะรัฐมนตรี และต้องใช้พรบ.ว่าด้วยเอกชนร่วมในกิจการของรัฐหรือไม่ หาก ป.ป.ช.เห็นว่าข้อกล่าวหา TTW มีมูล ป.ป.ช.จะต้องยื่นเรื่องไปยังศาลปกครองกลางเพื่อตัดสิน ซึ่งประเด็นข่าวนี้จะเป็นลบต่อ TTW มาก เนื่องจากปัจจุบัน TTW ขายน้ำให้กับการประปาในราคา 23.55 บาทต่อลูกบาศก์เมตร แต่การประปาขายให้กับผู้ใช้ที่เฉลี่ยประมาณ 10-15บาทต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งหากสัญญามีปัญหาจริง และต้องมีการตกลงราคากันใหม่ กำไรของ TTW จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยหากราคาขายลดลงเหลือเพียง 11.49 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ประปาปทุมฯ ขายให้กับการประปา กำไรของ TTW จะลดลงเหลือเพียงประมาณ 400 ล้านบาทจากเดิม 1700 ล้านบาท และเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่ได้ข้อสรุปในระยะสั้นแน่นอน
Wir sind das Rar, der Stolz und der Wert
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 875
ขอบคุณพี่ๆ ป้าๆ ครับกูรูขอบสนาม เขียน:
ขอแสดงความยินดีด้วยนะน้องโจ
เด็กผู้หญิงน่ะน่ารักดี ขี้อ้อน ขี้ประจบ
ยุให้มี 4 คนนี่คงไม่ไหวครับ
ที่จริงก่อนแต่งอยากมี 4 คน มีเยอะๆ จะได้อบอุ่น
แต่พอมีคนแรก โอโห.. เหนื่อยสุดๆ เหนื่อยกายไม่เท่าไหร่ เจอเหนื่อยใจ เป็นห่วงเค้า เลยเข้าใจคำว่า "บ่วงคล้องคอ" แล้วครับ แต่อีกด้านก็เข้าใจชีวิต เข้าใจโลก เข้าใจความรักที่แท้จริงของพ่อของแม่ เข้าใจแล้วว่าทำไมคนสมัยนี้มีลูกน้อยๆ สำหรับคนที่ยังไม่แต่ง หรือยังไม่มีลูก สนับสนุนให้มีครับ แล้วจะรู้ว่า.....มีจริง :lovl:
(โพสต์ใหม่ ของเดิมโดนป๋านริศเข้ามาป่วน หายหมดเลย :lovl: )
แก้ไขล่าสุดโดย ลูกอิสาน เมื่อ พฤหัสฯ. มิ.ย. 18, 2009 10:46 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 1220
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 877
ไม่ค่อยได้แวะมากระทู้นี้เลย เพิ่มตามอ่านว่าพี่ลูกอิสานกำลังจะมีสมาชิกใหม่
ยินดีด้วยนะครับ ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ดลบันดาลพี่ลูกอิสาน ร่ำรวยเงินทอง และความสุข มีแต่กัลยาณมิตร
อีกเรื่องต้องขอบคุณที่Comment เรื่อง AIM ให้ฟังในคราวก่อน PE ตอนนี้ไปไกลแล้ว
คราวนี้อยากรบกวนอีกซักครั้งได้ไหมครับ พี่ลูกอิสานคิดว่า TMT เข้าข่ายหุ้นปันผลหรือเปล่า เพราะซื้อไปบ้างแล้วบวกกับกำลังจะซื้อเพิ่ม
ยินดีด้วยนะครับ ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ดลบันดาลพี่ลูกอิสาน ร่ำรวยเงินทอง และความสุข มีแต่กัลยาณมิตร
อีกเรื่องต้องขอบคุณที่Comment เรื่อง AIM ให้ฟังในคราวก่อน PE ตอนนี้ไปไกลแล้ว
คราวนี้อยากรบกวนอีกซักครั้งได้ไหมครับ พี่ลูกอิสานคิดว่า TMT เข้าข่ายหุ้นปันผลหรือเปล่า เพราะซื้อไปบ้างแล้วบวกกับกำลังจะซื้อเพิ่ม
- ATimeHost.com
- Verified User
- โพสต์: 4
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 878
ได้ความรู้เยอะขึ้นมาก จากกระทู้นี้ ขอบคุณคุณลูกอิสาน และคำถามหลายๆ คำถามครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รบกวนถามพี่โจเรื่อง stpi
โพสต์ที่ 879
[quote="watsport11"]ไม่ทราบว่าพี่โจ ติดตามหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้างบ้างไหมครับ โดยเฉพาะ stpi เห็นว่า p/e ต่ำ p/b ต่ำ และมี backlog เยอะมากฯ ราคาณปัจจุบัน พี่โจมองว่าสูงไปหรือยังครับ และปัจจัยอะไรที่คิดว่าจะช่วยให้ stpi ไปต่อได้ครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 83
- ผู้ติดตาม: 0
ขอบคุณมากครับ
โพสต์ที่ 880
ขอบคุณมากครับพี่โจ ที่ให้รายละเอียดจะไปศึกษาเพิ่มเติม
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 882
นักลงทุนที่ดีไม่จำเป็นต้องศึกษา MBAหรือจบบัญชีครับ แต่จะเป็นนักลงทุนที่ดีต้องมีความรู้ความเข้าใจภาษาของธุรกิจซึ่งก็คือการบัญชี วิธีที่ง่ายที่สุดถ้าไม่รู้ก็ต้องเรียนครับ ถ้าจบบัญชีมาก็สบาย ถ้าไม่จบก็ต้องเรียน จะเรียนนอกห้องเรียนหรือลงคลาสเรียนจริงๆจังๆก็ได้ เท่าที่ทราบพี่ๆที่เก่งๆในเวป แทบไม่มีคนจบบัญชีโดยตรงเลย ส่วนใหญ่จบแพทย์ วิศวะ เภสัช เกษตรก็มี แต่ฝีมือวิเคราะห์หุ้น วิธีดูบัญชีเก่งๆหลายท่าน ส่วนผมจบวิทยาศาสตร์อาหาร อุตสาหกรรมเกษตร แต่ผมจริงจังกับหุ้น มองว่าถ้าพื้นฐานความรู้แน่น คงไปได้ไกลกว่า พอจบผมก็เข้ามากรุงเทพ ทำงานที่ไม่ตรงสาขา เงินเดือนน้อยมาก เพื่ออย่างเดียวคือต้องการเรียนวิชาการเงิน (ปริญาตรีรามคำแหง) การเรียนที่นี่ทำให้ผมเข้าใจความแตกต่างระหว่างเรียนเพื่อใบปริญญา กับเรียนเพื่อจะเอาความรู้ ข้อดีที่เรียนรามคือ ใช้เงินน้อยมากๆ ไม่ต้องเข้าห้องเรียน(ซื้อชีทมาอ่านก่อนสอบ)เสียอย่างเดียวคือเวลา ที่ต้องอ่านหนังสือ อ่านชีท และทำข้อสอบเก่าๆครับ เมื่ออาทิตย์ก่อนเพื่อนรุ่นน้องในเวปท่านนึงโทรมาปรึกษาเรื่องวิธีการเรียนที่นี่(การเงินราม) เค้าไปลงเรียนเพราะสนใจการลงทุนเหมือนกัน และได้อ่านที่ผมเคยโพสต์เรื่องการเรียนที่ราม ก็เป็นอะไรที่ดีใจครับ ถ้าเรื่องราวของผมจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆบ้าง แม้ผมเป็นเพียงคนชี้ทาง แต่จะสำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับคนๆนั้นเองครับ ถ้าสนใจเรียนและมีงบประมาณเพียงพอ มีเวลา ผมก็แนะนำให้เรียนเต็มเวลา สถาบันไหนก็ได้ น่าจะได้ความรู้เต็มเม็ดเต็มที่กว่าเพราะได้เรียนในคลาส ได้เพื่อนด้วยครับ ส่วนถ้าหาหนังสือบัญชีมาอ่าน ลองสอบถามเพื่อนๆในเวป หรือเสริจจากกระทู้เก่าๆมีหลายกระทู้ครับ..baby-investor เขียน:ขอสอบถามมุมมองของคุณโจหน่อยนะครับ ว่าการเป็นนักลงทุนที่ดีควรจะต้องศึกษา MBA หรือจบบัญชีหรือไม่ (ผมจบวิศวะครับ) เพราะผมอ่านหนังสือหลายๆเล่มแล้วรู้ตัวว่ายังวิเคราะห์งบไม่ค่อยเก่ง โดยเฉพาะงบกระแสเงินสด บางทีดูค่าเสื่อม แล้วลองไปดูหมายเหตุประกอบงบการเงิน ปรากฏว่าไม่สามารถหาตัวเลขค่าเสื่อมในหมายเหตุประกอบงบการเงินให้ตรงกับที่อยู่ในงบกระแสเงินสดได้ หรือค่าอื่นๆที่หลายครั้งก็คำนวณได้ไม่ตรง นอกจากนี้การนำข้อมูลในหมายเหตุประกอบงบการเงินมาเชื่อมเพื่อดูความสัมพันธ์ ผมยังดูไม่ค่อยออกครับ เราจะมีวิธีดูได้อย่างไรว่าตัวเลขต่างๆเป็นจริง ไม่ได้ถูกแต่งเติมขึ้นมา ทั้งนี้ถ้าคุณโจคิดว่าควรจะต้องเรียน MBA หรือบัญชี น่าจะเรียนที่สถาบันไหนครับ หรือผมควรอ่านหนังสือเล่มไหนที่จะทำให้เข้าใจได้มากขึ้นครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ความเห็นเพิ่มเติมเล็กๆน้อยๆครับ..
-จะเป็นนักลงทุน vi ที่ดีต้องเข้าใจบัญชีครับ ไม่งั้นประเมินไม่ถูก ไม่รู้ว่าหุ้นถูกหรือแพง
-อย่าหยุดเรียนรู้เพียงแค่จบปริญาตรี 1 ใบ เรายังรู้น้อยมาก ยังมีศาสตร์ความรู้ด้านอื่นๆที่รอเราอยู่
-ลงทุนกับการศึกษา คุ้มค่าที่สุดเพราะเรียนครั้งเดียว นำไปใช้ได้ตลอดชีวิต
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 883
ปกติถ้าเราสนใจหุ้นตัวไหน จะต้องมีเหตุผล ดังนั้นหลักง่ายๆคือ ถ้ามีโอกาสเราก็ควรสอบถามผู้บริหารในเหตุผลที่เราเชื่อ ว่าเป็นจริงหรือเปล่า เช่นเราสนใจหุ้นตัวนึงที่คิดว่ารูปแบบธุรกิจเปลี่ยนไป กำไรน่าจะเพิ่มขึ้น หากได้เจอผู้บริหารก็ต้องสอบถามว่าสิ่งที่เราเชื่อจะเป็นจริงหรือเปล่า รวมถึงควรสอบถามความเสี่ยงด้านต่างๆของบริษัท ผู้บริหารที่ดีเค้าจะเต็มใจตอบครับ ถ้าตอบแบบคลุมเคลือหรือแบบเลี่ยงๆ นั่นต้องระวัง ส่วนคำถามพื้นๆที่ควรถามคือ จุดเด่นของบริษัทคืออะไร จุดด้อยเป็นอย่างไร อะไรที่เป็นความสามารถในการแข่งขัน ผู้บริหารส่วนใหญ่จะตอบแบบผ่านๆไป เช่นบริษัทมีการจัดการที่ดี มีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า เหตุผลเหล่านี้ไม่น่าสนใจ ถ้าไปเจอบริษัทที่ผู้บริหารให้เหตุผลต่างออกไป แบบมีเหตุมีผล อย่างนี้จะน่าสนใจกว่าครับromee เขียน:พี่โจครับครับ ถ้าพี่ไปงาน company visit หรือไปฟังงาน Opp day ได้นะครับ
พี่ว่า เราควรเตรียมคำถาม หรือฟังประเด็นเน้นเรื่องใหนเป็นพิเศษมั้ยครับ เพื่อให้ได้ผลประโยชน์กับเรา ได้ดีสุด
ข้อพึงระวังในการถามคำถามนะครับ คือถามให้พอดีๆ ไม่มากจนคนอื่นรำคาญ และไม่น้อยเกินไปจนไม่คุ้มกับที่เสียสละเวลาไปฟัง และที่สำคัญเช่นกันคืออย่าไปถาม คำถามสามล้อ (คำถามที่ไม่น่าถาม) อายเค้าครับ ดังนั้นก่อนไปก็ทำการบ้านเสียก่อน ศึกษาข้อมูลบริษัท จะได้ไม่ถามข้อมูลที่หาอ่านได้อยู่แล้ว..
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- SunShine@Night
- Verified User
- โพสต์: 2196
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 884
รบกวนถามความเห็นของพี่ลูกอีสานเกี่ยวกับบริษัทรถเช่าระหว่าง KCAR กับ PL ด้วยครับว่า พี่ว่าบริษํทไหนดูดีกว่า ถ้าจะถือในระยะยาว แล้ววิกฤตการเงินรอบนี้น่าจะมีผลกับทั้งคุ๋หรือไม่ครับ ขอบคุณครับ
VI ฝึกหัด สำนักปีเตอร์ ลินช์
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
- krisy
- Verified User
- โพสต์: 736
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 886
ไม่เห็นเคยรู้มาก่อนค่ะเลยพี่โจว่า เรียนบัญชีที่รามมาด้วย พี่เอาจริงเอาจังกับมันถึงขนาดนี้ เห็นแล้วก็นึกอายตัวเองจังแฮะ
บัญชีมันไม่ง่ายเลยนะคะ ไอ้ตรงเดบิตเครดิตอะไรเนี่ย ลงบัญชี จุกจิกมาก กบไม่เคยได้ A เลยด้วยซ้ำ ไม่เคยรู้เรื่องเลยตอนเรียน ทำงบไม่เคยลงตัวค่ะ จนกระทั่งได้มาทำงาน เอาจริงกับงานมาก แล้วบัญชีก็ดีมาเรื่อยๆ (ไม่งั้นเค้าก็ไล่ออก :lol:) เรียนรู้เอากระดาษแปะฝาบ้าน ต่างกับเรียนรู้เพื่ออยู่รอดจริงๆค่ะ
ประทับใจนะคะพี่ ไม่บ่อยที่คนจะมาเรียนปริญญาอีกใบ โดยเฉพาะอีกใบเป็นบัญชี (เพราะกบเองก็ยังไม่เรียนอีกบัญชีอีกใบเลย)
บัญชีมันไม่ง่ายเลยนะคะ ไอ้ตรงเดบิตเครดิตอะไรเนี่ย ลงบัญชี จุกจิกมาก กบไม่เคยได้ A เลยด้วยซ้ำ ไม่เคยรู้เรื่องเลยตอนเรียน ทำงบไม่เคยลงตัวค่ะ จนกระทั่งได้มาทำงาน เอาจริงกับงานมาก แล้วบัญชีก็ดีมาเรื่อยๆ (ไม่งั้นเค้าก็ไล่ออก :lol:) เรียนรู้เอากระดาษแปะฝาบ้าน ต่างกับเรียนรู้เพื่ออยู่รอดจริงๆค่ะ
ประทับใจนะคะพี่ ไม่บ่อยที่คนจะมาเรียนปริญญาอีกใบ โดยเฉพาะอีกใบเป็นบัญชี (เพราะกบเองก็ยังไม่เรียนอีกบัญชีอีกใบเลย)
.....Give Everything but not Give Up.....
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 888
คอมมูนิสต์พ่ายทุนนิยมสวนหย่อม เขียน: มารอฟังพี่วิเคราะห์กรณีนี้ครับ เห็นความเห็นหลายๆ ท่านแล้วอยากเห็นความเห็นพี่บ้าง
ราชการและรัฐวิสาหกิจแพ้เอกชน
เหตุผลหลักคือทั้งราชการ รัฐวิสาหกิจและคอมมูนิสต์ไม่มีเจ้าของ ก็เลยไม่มีความเป็นเจ้าของ งงไหมครับ :lol: เมื่อไม่มีเจ้าของจะทำเพื่อใคร ก็ทำไปวันๆ ทำไปแกนๆ อย่าให้ร้ายแรงจนโดนไล่ออกแค่นั้น แต่ถ้าเป็นผลประโยชน์ของตัว(พนักงาน)เอง แตะเมื่อไหร่เป็นเรื่องครับ อย่างที่วันนี้พนักงานรถไฟก็สไตรค์กัน ลูกจ้างกับเถ้าแก่ก็เหมือนกัน กรณี svi จากลูกจ้างมืออาชีพกลายเป็นเถ้าแก่ ความรู้สึกเป็นเจ้าของจะสูงขึ้น แรงจูงใจที่จะสร้างกำไรสูงกว่าแน่นอน และเมื่อถือหุ้นมากขึ้น ผลประโยชน์ใดๆก็น่าจะอยู่ฝ่ายเดียวกับผู้ถือหุ้น ก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว แต่ปัญหาอีกด้านก็โผล่มา คือการพี่งพิงความสามารถของเถ้าแก่คนเดียว ก็เป็นความเสี่ยงครับ..
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 890
[quote="krisy"]ไม่เห็นเคยรู้มาก่อนค่ะเลยพี่โจว่า เรียนบัญชีที่รามมาด้วย พี่เอาจริงเอาจังกับมันถึงขนาดนี้ เห็นแล้วก็นึกอายตัวเองจังแฮะ
บัญชีมันไม่ง่ายเลยนะคะ ไอ้ตรงเดบิตเครดิตอะไรเนี่ย ลงบัญชี จุกจิกมาก กบไม่เคยได้ A เลยด้วยซ้ำ ไม่เคยรู้เรื่องเลยตอนเรียน ทำงบไม่เคยลงตัวค่ะ จนกระทั่งได้มาทำงาน เอาจริงกับงานมาก แล้วบัญชีก็ดีมาเรื่อยๆ (ไม่งั้นเค้าก็ไล่ออก
บัญชีมันไม่ง่ายเลยนะคะ ไอ้ตรงเดบิตเครดิตอะไรเนี่ย ลงบัญชี จุกจิกมาก กบไม่เคยได้ A เลยด้วยซ้ำ ไม่เคยรู้เรื่องเลยตอนเรียน ทำงบไม่เคยลงตัวค่ะ จนกระทั่งได้มาทำงาน เอาจริงกับงานมาก แล้วบัญชีก็ดีมาเรื่อยๆ (ไม่งั้นเค้าก็ไล่ออก
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 891
พูดถึงเรื่องเรียนบัญชีรามฯ ...
ตอนสนใจเรื่องลงทุน ผมก็มาลงเรียนบัญชีที่รามเหมือนกัน เรียนไปเรียนมาไม่ไหว ใช้เวลามากเกิน ประกอบกับเรียนบัญชีต้องไปฝึกงานด้วย ซึ่งผมมีงานประจำต้องทำอยู่แล้ว เลยเปลี่ยนไปเรียนการเงินแทน
สุดท้ายเรียนจนจบ ได้อะไรมาใช้กับการลงทุนเยอะมาก ยกเว้นปริญญา เพราะยังไม่ได้ไปเอา :lol:
ตอนสนใจเรื่องลงทุน ผมก็มาลงเรียนบัญชีที่รามเหมือนกัน เรียนไปเรียนมาไม่ไหว ใช้เวลามากเกิน ประกอบกับเรียนบัญชีต้องไปฝึกงานด้วย ซึ่งผมมีงานประจำต้องทำอยู่แล้ว เลยเปลี่ยนไปเรียนการเงินแทน
สุดท้ายเรียนจนจบ ได้อะไรมาใช้กับการลงทุนเยอะมาก ยกเว้นปริญญา เพราะยังไม่ได้ไปเอา :lol:
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1284
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 892
พูดถึงเรียนรามฯ ลูกพี่ีลูกน้องผมจบนิติศาสตร์ รามฯ อายุเท่า ๆ ผมตอนนี้เป็นรองอัยการจังหวัดแล้วครับ เห็นคนจบรามหลาย ๆ คนทำงานดีนะครับ เก่ง ๆ ก็มาก
ต่างจากเด็กจบมหาลัยดัง ๆ หลาย ๆ คนเรียนเก่งแต่ทำงานไม่ค่อยเป็นครับ
ต่างจากเด็กจบมหาลัยดัง ๆ หลาย ๆ คนเรียนเก่งแต่ทำงานไม่ค่อยเป็นครับ
In search of super stocks
- ler109
- Verified User
- โพสต์: 241
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 896
หวัดดีครับ พี่ลูกอีสาน
อยากรบกวนพี่ช่วย Comment ทีมฟุตบอล(หุ้น) ของผมหน่อยครับ (สมมติว่าเป็นฟุตบอล 7 คน) คือผมบ้าบอลพอๆ กับหุ้นครับ แต่ว่าเพิ่งศึกษาเรื่องหุ้นมาได้ประมาณสัก 1 ปี ครับ คือพอเริ่มมีตังค์ก็เลยซื้อสโมสรมาเป็นของตัวเองครับและก็เริ่มทยอยซื้อนักเตะเข้ามาในทีม ทีมปัจจุบันของผมปัจจุบันเล่นระบบ 1-4-2-1 อ่ะครับ โดยมีนักเตะในแต่ละตำแหน่งดังนี้
ผู้รักษาประตู : SC ค่าตัว 7.5 ---> อยากให้เป็นเหมือน Pepe rena ของ Liverpool
กองหลัง :
แบ็กซ้าย AIT ค่าตัว 16.0 ---> อยากให้เป็นเหมือน A. Cole ของเชลชี ซึ่งสามารถเติมเกมส์รุกได้ด้วย
แบ็กขวา PSL ค่าตัว 15.3 ---> อยากให้เป็นเหมือน เดเนียล อัลเวส ของ Barcelona ครับ ซึ่งเติมเกมรุกได้ดี เกมรับก็พอไปได้ บางทีก็หลุด
เซ็นเตอร์ 2 ตัว :
- Epco ค่าตัว 1.59 --> อยากให้เป็นเหมือน John Terry ของเชลซี ครับ ซึ่งนิ่งมาก
_ Hmpro ค่าตัว 5.2 --> อยากให้เป็นเหมือน Rio Ferdinan ของ Man U ครับ ซึ่งบางครั้งก็ขึ้นไปโขกทำประตูจากลูกตั้งเตะได้
กองกลาง :
กลางตัวรับ : Spali ค่าตัว 3.04 --> อยากให้เป็นเหมือน Xavi Hernandez ของ Barcelona ครับ ซึ่งสามารถตัดเกมได้ เทคนิคดี จ่ายบอลแม่น และก็สามารถเปิดเกมรุกได้ด้วย
กลางตัวรุก : STPI ค่าตัว 8.7 --->อยากให้เป็นเหมือน Steven Gerard ซึ่งครบเครื่องทั้งเกมรุกเกมรับ แต่มีข้อเสียคือ มักมีอาการบาดเจ็บมารบกวนบ่อย
กองหน้า : SCNYL ค่าตัว 207 ---> อยากให้เป็นเหมือน Fernando Torres ครับ ซึ่งเป็นกองหน้าที่คมมาก ยิงได้ทุกจังหวะ ลูกโหม่งก็ดี ทักษะก็ดี แข็งแก่งและเร็วอีกต่างหาก
สำรอง : Lanna, Uvan, Stanly, WG, TRT, Mint
พี่ว่าทีมของผมเป็นไงไงบ้างครับ สมมติว่าถ้าส่งแข่งรายการ UEFA Champion league มีโอกาสจะทะลุเข้าถึงรอบรองได้หรือเปล่าครับ (หวังผลตอบแทนปานกลางถึงดีครับ 13-20% ภายในกลางปีหน้า) รบกวนพี่ลูกอีสานช่วย Comment ให้ด้วยครับ เอาแบบสั้น ๆ ก็ได้ครับ
1. มีโอกาสเป็นไปได้สูง
2. พอมีโอกาส
3. หาตัวใหม่เถอะหรือดันตัวสำรองขึ้นมาแทน
โดยที่ผมให้น้ำหนักผู้รักษาประตู ที่ 32%, กองหน้า 30 %, กองกลางและกองหลัง 38%
ขอบคุณมากครับพี่
อยากรบกวนพี่ช่วย Comment ทีมฟุตบอล(หุ้น) ของผมหน่อยครับ (สมมติว่าเป็นฟุตบอล 7 คน) คือผมบ้าบอลพอๆ กับหุ้นครับ แต่ว่าเพิ่งศึกษาเรื่องหุ้นมาได้ประมาณสัก 1 ปี ครับ คือพอเริ่มมีตังค์ก็เลยซื้อสโมสรมาเป็นของตัวเองครับและก็เริ่มทยอยซื้อนักเตะเข้ามาในทีม ทีมปัจจุบันของผมปัจจุบันเล่นระบบ 1-4-2-1 อ่ะครับ โดยมีนักเตะในแต่ละตำแหน่งดังนี้
ผู้รักษาประตู : SC ค่าตัว 7.5 ---> อยากให้เป็นเหมือน Pepe rena ของ Liverpool
กองหลัง :
แบ็กซ้าย AIT ค่าตัว 16.0 ---> อยากให้เป็นเหมือน A. Cole ของเชลชี ซึ่งสามารถเติมเกมส์รุกได้ด้วย
แบ็กขวา PSL ค่าตัว 15.3 ---> อยากให้เป็นเหมือน เดเนียล อัลเวส ของ Barcelona ครับ ซึ่งเติมเกมรุกได้ดี เกมรับก็พอไปได้ บางทีก็หลุด
เซ็นเตอร์ 2 ตัว :
- Epco ค่าตัว 1.59 --> อยากให้เป็นเหมือน John Terry ของเชลซี ครับ ซึ่งนิ่งมาก
_ Hmpro ค่าตัว 5.2 --> อยากให้เป็นเหมือน Rio Ferdinan ของ Man U ครับ ซึ่งบางครั้งก็ขึ้นไปโขกทำประตูจากลูกตั้งเตะได้
กองกลาง :
กลางตัวรับ : Spali ค่าตัว 3.04 --> อยากให้เป็นเหมือน Xavi Hernandez ของ Barcelona ครับ ซึ่งสามารถตัดเกมได้ เทคนิคดี จ่ายบอลแม่น และก็สามารถเปิดเกมรุกได้ด้วย
กลางตัวรุก : STPI ค่าตัว 8.7 --->อยากให้เป็นเหมือน Steven Gerard ซึ่งครบเครื่องทั้งเกมรุกเกมรับ แต่มีข้อเสียคือ มักมีอาการบาดเจ็บมารบกวนบ่อย
กองหน้า : SCNYL ค่าตัว 207 ---> อยากให้เป็นเหมือน Fernando Torres ครับ ซึ่งเป็นกองหน้าที่คมมาก ยิงได้ทุกจังหวะ ลูกโหม่งก็ดี ทักษะก็ดี แข็งแก่งและเร็วอีกต่างหาก
สำรอง : Lanna, Uvan, Stanly, WG, TRT, Mint
พี่ว่าทีมของผมเป็นไงไงบ้างครับ สมมติว่าถ้าส่งแข่งรายการ UEFA Champion league มีโอกาสจะทะลุเข้าถึงรอบรองได้หรือเปล่าครับ (หวังผลตอบแทนปานกลางถึงดีครับ 13-20% ภายในกลางปีหน้า) รบกวนพี่ลูกอีสานช่วย Comment ให้ด้วยครับ เอาแบบสั้น ๆ ก็ได้ครับ
1. มีโอกาสเป็นไปได้สูง
2. พอมีโอกาส
3. หาตัวใหม่เถอะหรือดันตัวสำรองขึ้นมาแทน
โดยที่ผมให้น้ำหนักผู้รักษาประตู ที่ 32%, กองหน้า 30 %, กองกลางและกองหลัง 38%
ขอบคุณมากครับพี่
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 897
สถานการณ์บังคับให้ major ต้องแข่งขันกับกลุ่มเซนทรัลครับ เพราะคงทนเป็นเบี้ยล่างให้กับแลนลอร์ดไม่ไหว และแลนลอร์ดยังมาทำธุรกิจแข่งกับลูกค้าด้วย(sf cinema) ถ้าสังเกตหากผู้เช่ารายใดทำธุรกิจได้ดี มีศักยภาพที่จะเติบโต กลุ่มเซนทรัลจะเข้ามาแข่งขันและค่อยๆกดดันผู้เช่ารายนั้นโดยอาศัยอำนาจต่อรองที่เป็นเจ้าของพื้นที่ เมื่อเป็นอย่างนี้ถ้าผู้เช่ารายใดที่มีเงินทุน ก็คงไม่พอใจ และบังคับให้ต้องสู้โดยทำธุรกิจแข่งกับเซนทรัลซะเลย อย่าง major ถ้าสังเกตช่วงหลังจะสร้างโรงหนังเป็นแบบ stand alone มีพื้นที่ให้เช่าค่อนข้างเยอะ เป็นแลนลอร์ดซะเอง นอกจากนั้นยังถือหุ้นใน sf ซึ่งเป็นผู้พัฒนาพื้นที่ คู่แข่งทางอ้อมของ cpnอีกรายครับmoomoo เขียน:เห็นพี่ลูกอิสานกำลังพูดคุยตัวที่เกี่ยวกับท่องเที่ยวพอดี งั้นรบกวนพี่ลูกอิสานวิเคราะห์ตัว major ให้ด้วยนะครับ พอดีผมเห็นว่ารอบนี้เป็นตัวที่ราคาเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างช้ามาก ไม่รู้ว่ามีอะไรที่ไม่ดีซ่อนอยู่มั๊ยครับ อนาคตเป็นไปได้มั๊ยครับที่เค้าจะมาทำในลักษณะ cpn ขอบคุณครับ
แม้ major มีรายได้หลายทางเช่น ค่าตั๋ว ขายอาหาร โฆษณา ค่าโบว์ลิ่งคาราโอเกะ แต่ส่วนใหญ่รายได้เหล่านี้ก็แปรผันตามรายได้จากภาพยนต์ ไตรมาส 1 ที่ผ่านมาเศรษกิจไม่ดี รายได้โฆษณาลดลงมาก ซึ่งรายได้ส่วนนี้แม้ไม่เยอะแต่มีกำไรขั้นต้นสูงถึง 90% ประกอบกับไม่ค่อยมีหนังดีๆเข้าฉาย กำไรก็เลยลดลงมากครับ ราคาตลาดปัจจุบันก็ถือว่าซื้อขายที่ราคา/มูลค่าทางบัญชี ค่อนข้างต่ำกว่าในอดีตมาก ถ้ามองว่าตอนนี้เป็นสถาณการณ์ชั่วคราว ก็น่าสนใจ นอกจากนั้น major ยังมีบริษัทลูก บริษัทร่วมๆที่ดีเช่น sf ที่ไม่ดีก็เช่น cawow ส่วนที่ทรงๆคือ mpic ก็ต้องติดตามดูว่าจะสามารถแก้ใขปัญหาของ cawow ได้หรือเปล่า
ราคาหุ้นที่ผ่านมาลดลงมาก อาจเป็นเพราะการขายของกองทุนอย่างรัฐบาลสิงคโปร์ แต่ที่มีกระตุกบ้างในช่วงนี้ คงเป็นผลของการซื้อหุ้นคืนซึ่งซื้อค่อนข้างเยอะ เพราะเหลือเวลาอีกไม่กี่วันจะครบกำหนดที่ต้องซื้อแล้วครับ..
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 1088
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ
โพสต์ที่ 898
สวัสดีครับขอแก้นิดนะครับพี่ลูกอิสานเพราะเป็นอดีตพนักงานบริษัทนี้
พอดี sf cinema นี่ไม่ใช่ของกลุ่มเซ็นทรัลครับแต่เป็น ผู้ทำธุรกิจโรงหนังซึ่งมาจากชลบุรี
แล้วที่ major ออกไปนี่น่าจะเป็นเพราะไม่อยากจ่ายค่าเช่ามั้งครับบวกกับว่ามีการเปลี่ยนกลุ่มพันธมิตร อย่างเมื่อก่อน Major เปิดกับเซ็นทรัลทุกสาขาแต่มาภาคพารากอน vs เซ็นทรัลเวิลด์ Major ไปเปิดกับกลุ่มพาราก้อนทำให้เซ็นทรัลต้องหาคนมาทำโรงหนังแทน ที่ต้องทำอย่างนี้เพราะศูนย์การค้านี่มันต้องมีครบทุกอย่างครับ ถ้าไม่มีโรงหนังนี่ก็ขาด Anchor (ตัวดึงคน) ตัวใหญ่ไปทำให้ศูนย์คนเดินน้อยลง ศูนย์ใหม่ๆก็จะกลายเป็น sf cinema ซะหมด
ส่วนธุรกิจนี่กลุ่มเซ็นทรัลเค้าไม่ค่อยไปทำในสิ่งที่เขาไม่ถนัดครับ เขาจะเจาะแต่เฉพาะธุรกิจที่เขาทำเก่งคือธุรกิจ Retail แค่เฉพาะ retail นี่ก็ยังขยายได้อีกเยอะ
ผมไม่อยากให้เข้าใจผิดว่าเค้าไปเอาเปรียบคู่ค้าเพราะคู่ค้าหลายรายก็ยังคงเปิดร้านดำเนินกิจการกันดีอยู่มีความสุขดีครับ
ขอบคุณที่รับฟังครับ แล้ว PM มาใบ้หุ้นกันมั่งนะครับ :lol:
พอดี sf cinema นี่ไม่ใช่ของกลุ่มเซ็นทรัลครับแต่เป็น ผู้ทำธุรกิจโรงหนังซึ่งมาจากชลบุรี
แล้วที่ major ออกไปนี่น่าจะเป็นเพราะไม่อยากจ่ายค่าเช่ามั้งครับบวกกับว่ามีการเปลี่ยนกลุ่มพันธมิตร อย่างเมื่อก่อน Major เปิดกับเซ็นทรัลทุกสาขาแต่มาภาคพารากอน vs เซ็นทรัลเวิลด์ Major ไปเปิดกับกลุ่มพาราก้อนทำให้เซ็นทรัลต้องหาคนมาทำโรงหนังแทน ที่ต้องทำอย่างนี้เพราะศูนย์การค้านี่มันต้องมีครบทุกอย่างครับ ถ้าไม่มีโรงหนังนี่ก็ขาด Anchor (ตัวดึงคน) ตัวใหญ่ไปทำให้ศูนย์คนเดินน้อยลง ศูนย์ใหม่ๆก็จะกลายเป็น sf cinema ซะหมด
ส่วนธุรกิจนี่กลุ่มเซ็นทรัลเค้าไม่ค่อยไปทำในสิ่งที่เขาไม่ถนัดครับ เขาจะเจาะแต่เฉพาะธุรกิจที่เขาทำเก่งคือธุรกิจ Retail แค่เฉพาะ retail นี่ก็ยังขยายได้อีกเยอะ
ผมไม่อยากให้เข้าใจผิดว่าเค้าไปเอาเปรียบคู่ค้าเพราะคู่ค้าหลายรายก็ยังคงเปิดร้านดำเนินกิจการกันดีอยู่มีความสุขดีครับ
ขอบคุณที่รับฟังครับ แล้ว PM มาใบ้หุ้นกันมั่งนะครับ :lol:
เล่นหุ้นคนแก่ แต่แอบเปรี้ยวเป็นบางเวลา