LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
- awev
- Verified User
- โพสต์: 66
- ผู้ติดตาม: 0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
โพสต์ที่ 35
ผมอ่านแล้วทึ่ง คุณ .^O-O^ คิดอะไรได้ซับซ้อนจัง
ยกตัวอย่างได้ดี เห็นภาพเลย
มีความคิดแยบคาย ถ้าไปบวช น่าจะบรรลุนะเนี้ย :lol: :lol: :lol:
ผู้ที่ฝึกเชิงความคิดมาดี จะสามารถคิดอะไรได้แปลกพิสดารกว่าคนทั่วไป
อีกคนที่ผมว่าน่าทึ่ง คือ คุณ โน๊ต อุดม ที่เอาเรื่องทั่วๆไปรอบตัวเราที่เราไม่
เคยคิดมาก่อน เอามาเล่า ทำให้ทึ่งว่าคิดได้ยังไง คนธรรมดาคิดไม่ได้นะเนี้ย
ยกตัวอย่างได้ดี เห็นภาพเลย
มีความคิดแยบคาย ถ้าไปบวช น่าจะบรรลุนะเนี้ย :lol: :lol: :lol:
ผู้ที่ฝึกเชิงความคิดมาดี จะสามารถคิดอะไรได้แปลกพิสดารกว่าคนทั่วไป
อีกคนที่ผมว่าน่าทึ่ง คือ คุณ โน๊ต อุดม ที่เอาเรื่องทั่วๆไปรอบตัวเราที่เราไม่
เคยคิดมาก่อน เอามาเล่า ทำให้ทึ่งว่าคิดได้ยังไง คนธรรมดาคิดไม่ได้นะเนี้ย
A Knight's Tale
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
โพสต์ที่ 36
ผมคนนึงครับ ที่เชื่อว่า lh ไม่น่าจะได้ pe สูงกว่า เพื่อนๆ เยอะขนาดนี้...
ตอนนี้ pe ไป 15 เท่าของกำไรปีนี้ได้แล้วครับมั๊งครับ
ในขณะที่เพื่อนคนอื่นๆยังอยู่กันประมาณนี้
ap 7.37
lpn 5.95
ps 6.31
spali 3.26
Market cap ใหญ่ก็จริง ... แต่หา Growth คงยากหน่อย มันอิ่มตัวพอสมควรแล้ว แบรนด์ดี ... ผมว่าก็เฉยๆครับ เพราะการแข่งขันนั้นไม่ใช่ว่าวัดกันที่ ภาพลักษณ์ของ Brand อย่างเดียว... ยังมีเรื่องทำเล ราคา product การบริหารโครงการ ความคุ้มค่า .. ซึ่งผมว่าเพื่อนๆตัวอื่นๆนี่ก็ไม่ใช่ว่าอ่อนกว่า lh เท่าไหร่... อย่างดีก็ให้ pe premium ได้จากคนอื่นๆซัก 20% ก็พอแล้วครับ... นี่ premium ไปซะเกิน 100% เชียว
ตอนนี้ pe ไป 15 เท่าของกำไรปีนี้ได้แล้วครับมั๊งครับ
ในขณะที่เพื่อนคนอื่นๆยังอยู่กันประมาณนี้
ap 7.37
lpn 5.95
ps 6.31
spali 3.26
Market cap ใหญ่ก็จริง ... แต่หา Growth คงยากหน่อย มันอิ่มตัวพอสมควรแล้ว แบรนด์ดี ... ผมว่าก็เฉยๆครับ เพราะการแข่งขันนั้นไม่ใช่ว่าวัดกันที่ ภาพลักษณ์ของ Brand อย่างเดียว... ยังมีเรื่องทำเล ราคา product การบริหารโครงการ ความคุ้มค่า .. ซึ่งผมว่าเพื่อนๆตัวอื่นๆนี่ก็ไม่ใช่ว่าอ่อนกว่า lh เท่าไหร่... อย่างดีก็ให้ pe premium ได้จากคนอื่นๆซัก 20% ก็พอแล้วครับ... นี่ premium ไปซะเกิน 100% เชียว
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4740
- ผู้ติดตาม: 0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
โพสต์ที่ 38
เข้าไปอ่านกระทู้เก่าๆ 5 ปีที่แล้ว เจออันนี้ครับ
Invisible hand เขียน: ในทางกลับกัน หุ้นที่มี PE สูง ก็ไม่ได้หมายความว่าหุ้นมีราคาแพงเสมอไป
สถานการณ์ที่ทำให้ PE สูง แต่ไมได้หมายความว่าหุ้นแพง
1. companies with an excellent growth record and prospects for growth
2. a high-growth sector
3. high confidence in the company's forecasts
ก็เป็นหุ้นที่ขายสินค้าที่ทุกคนต้องใช้และต้องกลับมาซื้อใหม่เรื่อยๆ ทำให้ความผันผวนของกำไรต่ำครับ อย่างหุ้นส่งออกจะไม่เข้าข่ายนี้แน่นอนครับเพราะว่านักลงทุนอย่างเราคาดการณ์อะไรยากเพราะเราไม่มีโอกาสเห็นการผลิตและ order ของเค้าครับ
4. predictable/stable revenues
5. strong market shares
ก็มักจะเป็นหุ้น blue chip หลายตัวที่มี mkt share อันดับ 1,2 แต่หุ้น small cap หลายตัวก็มี mkt share อันดับ 1 ใน segment หรือ industry ของตัวเองได้ครับ
6. high barriers to entry
อย่างหุ้นบันเทิงหลายตัวก็เข้าข่าย เช่น bec major เพราะการเข้ามาทำได้ยาก หุ้นมือถือก็น่าจะใช่ครับเพราะหากจะมีใครเข้ามาใหม่ต้องลงทุนสูงถึง 40,000-50,000 ล้าน หุ้นพลังงานหลายตัวก็ใช่เพราะคงไม่มีใครมาแข่งกับ ptt ในธุรกิจท่อก๊าซได้
7. companies that have strong pricing power
เมืองไทยไม่ค่อยมีหุ้นที่เป็น monopoly โดยธรรมชาติธุรกิจครับ นึกไม่ค่อยออกเหมือนกันครับ ถ้าเอากิจการนอกตลาดที่นึกออกน่าจะเป็นพวกร้านอาหารญี่ปุ่น fuji มั้งครับ บางอย่างต้นทุนก็ไม่น่าแพงแต่ก็ขายแพงจังแต่เราก็ยอมกิน อ้อ cpn หรือ mbk-pd ก็อาจจะมองว่ามี pricing power ค่อนข้างสูงได้ครับเพราะทำเลที่ตั้งดีและห้างดีๆ ก้มีไม่มากครับ หรือ LH ก็อาจจะมี pricing power บ้างเพราะสามารถขายบ้านได้แพงกว่าชาวบ้านทั้งๆ ที่ทำเลเดียวกันและเนื่อที่เท่ากัน
8. companies that have high margins and produce excellent ROCE and add value
มีหลายตัวครับ ก็ได้แก่หุ้นที่ roe สูงทั้งหลาย อันนี้หมายถึงจะต้องมี roe สูงเฉลี่ยติดกันหลายๆ ปีนะครับ เพราะหุ้น cyclical จะมี roe สูงตอนที่ cycle ดีและจะขาดทุนตอน cycle แย่ หากดู roe ปีเดียวจะได้หุ้น cyclical เข้ามา
9. strong cash generation
ก็ตรงข้ามกับเมื่อกี้ หุ้นพวกนี้คือหุ้นที่ขายเป็นเงินสดและซื้อสินค้าเป็น credit term ข้อดีคือยิ่งยอดขายเพิ่ม cash flow ยิ่งเพิ่มคือ ไม่ใช้ working capital เลย หุ้นประเภทนี้ได้แก่หุ้นค้าปลีก อย่าง makro bigc se-ed hmpro 7-11 และหุ้นบางตัวที่มีลูกค้าเป็นคนทั่วๆ ไปอย่างเราๆ และต้องจ่ายเงินสดทันที่ที่ซื้อสินค้าหรือบริการ เช่น major egv ครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- Verified User
- โพสต์: 1254
- ผู้ติดตาม: 0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
โพสต์ที่ 39
ผมว่าLH มีลูกยอดกตัญญูครับ(ท่านอ.นิเวศน์ปลื้ม)
ผมฟังท่านอ.พูดเกี่ยวกับอนาคตของกลุ่มนี้ในรายการมันนี่วีคแล้วรู้สึกเฉยๆไปเลยครับตามหลังผู้ใหญ่ดีกว่า อ.ว่าอนาคตจะเป็นการปรับปรุงตกแต่งบ้านมากกว่าการซื้อบ้านครับ :8)
ผมฟังท่านอ.พูดเกี่ยวกับอนาคตของกลุ่มนี้ในรายการมันนี่วีคแล้วรู้สึกเฉยๆไปเลยครับตามหลังผู้ใหญ่ดีกว่า อ.ว่าอนาคตจะเป็นการปรับปรุงตกแต่งบ้านมากกว่าการซื้อบ้านครับ :8)
-
- Verified User
- โพสต์: 39
- ผู้ติดตาม: 0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
โพสต์ที่ 40
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
โพสต์ที่ 42
ฝากบทความลองอ่านเรื่อง "มวลวิกฤต" ของอาจารย์ ประภาส ดูครับ ยาวหน่อย แต่อ่านสนุกครับ วันนี้ LH มีแนวโน้มจะเกิดการเคลือ่นไหวแบบกระดานหกเช่นกันครับ
มวลวิกฤต
สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ทำให้ผมนึกถึงคำคำหนึ่งขึ้นมา ผมเคยเขียนถึงไว้ครั้งหนึ่งเมื่อต้นปีที่แล้ว มวลวิกฤตนะครับ ไม่ใช่ มวลชนวิกฤต
เรื่องที่เขียนไว้เมื่อปีที่แล้วชื่อตอน "ลิงกับข้าวโพดหวาน" เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทดลองทางพฤติกรรมมวลชนของสัตว์สังคมว่า อะไรทำให้เกิด หรือเมื่อไรจะเกิดกระแสการตัดสินใจไปในทางเดียวกันทั้งสังคม ผมตั้งชื่อเป็นไทยๆ คราวนั้นว่าทฤษฎีไม้กระดก เพราะนึกตามแล้วเห็นภาพเป็นไม้กระดกตามสนามเด็กเล่นทุกทีศัพท์แสงทางวิชาการเรียกว่า มวลวิกฤต โดยแปลมาจากคำว่า Critical Mass คำคำนี้พบได้ทั้งวิชาเศรษฐศาสตร์และฟิสิกส์
ขออนุญาตเล่าย่อๆ อีกครั้งสำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่าน
สี่สิบปีก่อน นักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งได้ไปที่เกาะโคชิมา ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเกาะที่มีลิงอาศัยอยู่จำนวนมากเพื่อหาข้อสนับสนุนทฤษฎีไม้กระดกที่ว่าการทดลองเริ่มขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์นำเม็ดข้าวโพดหวานไปหว่านไว้บนพื้นทราย เจอของโปรดอย่างนี้ ฝูงลิงก็พากันมาเก็บเม็ดข้าวโพดกินกันอย่างเอร็ดอร่อยจุดน่าสนใจอยู่ตรงที่นักวิทยาศาสตร์จะหว่านเม็ดข้าวโพดไว้บริเวณที่มีทรายเท่านั้น เพื่อให้เม็ดข้าวโพดเปรอะเปื้อนทราย เวลาจะกินแต่ละที ลิงก็ต้องคอยเอามือปัดออก หรือไม่ก็ต้องคอยบ้วนทรายออกแล้วก็มีลิงอยู่ตัวหนึ่งอายุประมาณหนึ่งขวบที่ไม่ทำอย่างตัวอื่นเขา
ทุกครั้งที่เจ้าลิงน้อยเก็บเม็ดข้าวโพดที่เปื้อนทรายได้ มันจะนำไปล้างน้ำที่
ลำธารใกล้ๆ ก่อนแล้วจึงนำมากินไม่ต้องบ้วนไม่ต้องปัด
นักวิทยาศาสตร์ยังคงจับตาดูพฤติกรรมของลิงทั้งฝูงต่อไปว่าจะมีลิงตัวไหนเอาอย่างบ้าง แล้วพวกเขาก็เริ่มเห็นพี่น้องและเพื่อนลิงตัวน้อยๆ บางตัวเริ่มทำตาม ที่ลิงทั้งฝูงไม่ยอมเปลี่ยนพฤติกรรมมาทำอย่างเจ้าลิงน้อยนั้นนักวิทยาศาสตร์วิเคราะห์กันว่า อาจเป็นเพราะวิธีนี้มันก็ไม่ถึงกับเห็นได้ชัดว่าดีกว่าวิธีเก่า นั่นคือถึงแม้จะไม่ต้องบ้วนไม่ต้องปัดทรายออกจากข้าวโพด แต่ก็ต้องเสียเวลาเดินไปยังลำธารอยู่ดี
เวลาผ่านไปหลายเดือน...
มีลิงเพิ่มเพียงวันละตัวสองตัวเท่านั้นที่เปลี่ยนพฤติกรรมมาล้างข้าวโพด แล้วก็ไม่ใช่ว่าลิงทั้งฝูงจะไม่เห็นวิธีที่เจ้าลิงน้อยกับเพื่อนๆ ทำนะครับ เห็นครับแต่ไม่ทำตาม การทดลองดำเนินไปอย่างนี้อยู่เป็นปี นักวิทยาศาสตร์ก็ยังคงเอาเม็ดข้าวโพดไปหว่านไว้บริเวณที่มีทรายทุกวันไม่มีขาด ฝูงลิงก็ยังคงมาเก็บข้าวโพดกินอย่างสม่ำเสมอ และถ้ามองด้วยสายตาก็สามารถแบ่งลิงออกเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มที่ล้างเม็ดข้าวโพด กับกลุ่มที่ไม่ล้าง แม้ปริมาณลิงที่ล้างข้าวโพดจะเพิ่มจำนวนขึ้นจนเริ่มใกล้เคียงกับพวกที่ไม่ล้าง แต่ลิงที่เหลือก็ยังสมัครใจที่จะกินข้าวโพดด้วยวิธีเดิมๆ
แล้ววันหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ประหลาดใจก็เกิดขึ้น
มันเกิดขึ้นภายในวันเดียว โดยไม่รู้จะอธิบายด้วยตรรกะง่ายๆ อย่างไรดี เช้าวันนั้นมีลิงวัยรุ่นตัวหนึ่งเปลี่ยนพฤติกรรมไปล้างเม็ดข้าวโพดอย่างเจ้าลิงน้อยเข้า แล้วบ่ายวันนั้นลิงทั้งฝูงก็เปลี่ยนพฤติกรรมมาล้างเม็ดข้าวโพดกันหมด
นักวิทยาศาสตร์สงสัยทันทีว่าเจ้าลิงตัวที่เปลี่ยนพฤติกรรมในเช้านั้น มันมีความสำคัญขนาดไหนกัน หลังจากที่ดูจากบันทึกและตรวจสอบอย่างละเอียดก็พบว่ามันก็เป็นแค่ลิงธรรมดาตัวหนึ่ง ไม่ได้เป็นจ่าฝูงหรือเป็นลิงที่แข็งแรงดุร้ายกว่าตัวอื่นอย่างใดแล้วทำไมฝูงลิงจึงเปลี่ยนพฤติกรรมไปหมด
เจ้าของทฤษฎีนี้มีคำอธิบายครับ ลองฟังเขาดู
เมื่อในสังคมเกิดภาวะมวลวิกฤต (Critical Mass) และเกิดจำนวนวิกฤต (Critical Number) ซึ่งไม่มีใครสามารถตอบได้ว่าเป็นจำนวนเท่าไรของจำนวนสมาชิกทั้งหมดของสังคม สังคมก็จะเริ่มยอมรับในพฤติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง และก็จะเกิดการตัดสินใจปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปในกลุ่มที่เหลือทั้งหมดอย่างที่บอก ถ้าให้ผมนึกตามง่ายๆ ผมก็คงนึกถึงไม้กระดกที่เด็กๆ เขาเล่นกัน เวลาที่ฝั่งหนึ่งมีจำนวนเด็กมากกว่าจนมีน้ำหนักมากกว่าอีกฝั่ง ฝั่งที่น้อยกว่านอกจากจะกระดกลอยสูงแล้ว บางครั้งเราก็อาจจะเห็นเด็กฝั่งที่น้อยไหลมาสู่ฝั่งที่มาก จนกลายเป็นมาอยู่ฝั่งเดียวกันได้
ผมว่าพวกเราก็คงจะเคยเจอสภาพเช่นนี้ เพื่อนฝูงหกเจ็ดคนหาร้านอาหารจะไปกินกันแรกๆ ก็ถกเถียงว่าร้านเจ๊อ้อยบ้าง ร้านอาโกบ้าง เถียงกันอยู่สักพักแล้วก็มีคนหนึ่งที่ไม่ได้คิดว่าจะไปกินร้านไหนเลยพูดขึ้นว่าไปกินเจ๊อ้อยดีกว่า จู่ๆ ทุกคนก็กลายเป็นเปลี่ยนมาเทใจให้กับร้านเจ๊อ้อยกันหมด
แล้วผมก็ตั้งคำถามครับ น้ำหนักสุดท้ายที่ย้ายข้างนี่ ผมชักอยากรู้ว่ามันจำเป็น
ต้องหนักกว่าอีกข้างหนึ่งไหม
ทฤษฎีนี้ตอบว่า ไม่เกี่ยวกับการเอียงข้าง น่าสนใจนะครับประโยคนี้
เขาเน้นไปที่จำนวนหนึ่งที่วิกฤต และไม่มีใครบอกได้ว่าเป็นสัดส่วนเท่าไรของ
สมาชิกทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องมากกว่าครึ่งด้วยจำนวนนี้นั่นแหละที่เขาเรียกกันว่า มวลวิกฤต มีหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ Critical Mass : how one thing leads another ที่เขียน โดย ฟิลิป บอล (ขออนุญาตแปลว่า มวลวิกฤต วิถีที่แห่งการกระดก) ในเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้พี่ฟิลิปแกสามารถอธิบายพฤติกรรมของการเลือกตั้งที่ชนะถล่มทลายได้ ว่ามาจากอะไร พี่แกให้ความเห็นว่าลักษณะของการเลือกและการตัดสินใจลงคะแนนเสียง ให้พรรคใดและใครนั้นไม่ได้มาจากเหตุผลอย่างเดียว เพราะถึงจุดหนึ่งเวลาที่ใกล้วันเลือกตั้ง คนจะหยุดคิด หยุดวิเคราะห์ แต่จะดูกระแสคนหมู่มากว่าจะไปทางไหนแล้วก็กระโจนตามกันไป ซึ่งเขาจะเรียกว่า มวลวิกฤต หรือ Critical Mass ที่น่าสนุกก็คือคุณพี่ฟิลิป แกใช้ทฤษฎีควอนตัมอธิบายได้อย่างชัดเจนและเป็นวิทยาศาสตร์
นักเรียนที่เรียนเรื่องปฏิกิริยานิวเคลียร์ก็คงเห็นคำว่า มวลวิกฤต อยู่บ่อยๆ
อธิบายด้วยภาษาที่ง่ายที่สุดสำหรับคนที่ไม่รู้เรื่องนี้ก็คือ เชื้อเพลิงพวก
ยูเรเนียมจะถูกผ่านกระบวนการทำให้เข้มข้นอย่างมาก และจะถูกเก็บไว้ภายใต้สภาวะมวลใต้วิกฤต นั่นคือยังไม่วิกฤต แต่ใกล้มากและตรงตำแหน่งที่มันพร้อมจะแตกตัวแล้วส่งผ่านพลังงานอันมหาศาลออกมาเป็นระเบิดเป็นไฟฟ้า เป็นความร้อน ตำแหน่งนั้นแหละครับคือตำแหน่งเดียวกับที่ลิงทั้งฝูงเปลี่ยนวิธีกินข้าวโพดตรงนั้นแหละครับ ตำแหน่งของมวลวิกฤต
ขอขอบคุณ www.geniuscreator.com
มวลวิกฤต
สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ทำให้ผมนึกถึงคำคำหนึ่งขึ้นมา ผมเคยเขียนถึงไว้ครั้งหนึ่งเมื่อต้นปีที่แล้ว มวลวิกฤตนะครับ ไม่ใช่ มวลชนวิกฤต
เรื่องที่เขียนไว้เมื่อปีที่แล้วชื่อตอน "ลิงกับข้าวโพดหวาน" เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทดลองทางพฤติกรรมมวลชนของสัตว์สังคมว่า อะไรทำให้เกิด หรือเมื่อไรจะเกิดกระแสการตัดสินใจไปในทางเดียวกันทั้งสังคม ผมตั้งชื่อเป็นไทยๆ คราวนั้นว่าทฤษฎีไม้กระดก เพราะนึกตามแล้วเห็นภาพเป็นไม้กระดกตามสนามเด็กเล่นทุกทีศัพท์แสงทางวิชาการเรียกว่า มวลวิกฤต โดยแปลมาจากคำว่า Critical Mass คำคำนี้พบได้ทั้งวิชาเศรษฐศาสตร์และฟิสิกส์
ขออนุญาตเล่าย่อๆ อีกครั้งสำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่าน
สี่สิบปีก่อน นักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งได้ไปที่เกาะโคชิมา ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเกาะที่มีลิงอาศัยอยู่จำนวนมากเพื่อหาข้อสนับสนุนทฤษฎีไม้กระดกที่ว่าการทดลองเริ่มขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์นำเม็ดข้าวโพดหวานไปหว่านไว้บนพื้นทราย เจอของโปรดอย่างนี้ ฝูงลิงก็พากันมาเก็บเม็ดข้าวโพดกินกันอย่างเอร็ดอร่อยจุดน่าสนใจอยู่ตรงที่นักวิทยาศาสตร์จะหว่านเม็ดข้าวโพดไว้บริเวณที่มีทรายเท่านั้น เพื่อให้เม็ดข้าวโพดเปรอะเปื้อนทราย เวลาจะกินแต่ละที ลิงก็ต้องคอยเอามือปัดออก หรือไม่ก็ต้องคอยบ้วนทรายออกแล้วก็มีลิงอยู่ตัวหนึ่งอายุประมาณหนึ่งขวบที่ไม่ทำอย่างตัวอื่นเขา
ทุกครั้งที่เจ้าลิงน้อยเก็บเม็ดข้าวโพดที่เปื้อนทรายได้ มันจะนำไปล้างน้ำที่
ลำธารใกล้ๆ ก่อนแล้วจึงนำมากินไม่ต้องบ้วนไม่ต้องปัด
นักวิทยาศาสตร์ยังคงจับตาดูพฤติกรรมของลิงทั้งฝูงต่อไปว่าจะมีลิงตัวไหนเอาอย่างบ้าง แล้วพวกเขาก็เริ่มเห็นพี่น้องและเพื่อนลิงตัวน้อยๆ บางตัวเริ่มทำตาม ที่ลิงทั้งฝูงไม่ยอมเปลี่ยนพฤติกรรมมาทำอย่างเจ้าลิงน้อยนั้นนักวิทยาศาสตร์วิเคราะห์กันว่า อาจเป็นเพราะวิธีนี้มันก็ไม่ถึงกับเห็นได้ชัดว่าดีกว่าวิธีเก่า นั่นคือถึงแม้จะไม่ต้องบ้วนไม่ต้องปัดทรายออกจากข้าวโพด แต่ก็ต้องเสียเวลาเดินไปยังลำธารอยู่ดี
เวลาผ่านไปหลายเดือน...
มีลิงเพิ่มเพียงวันละตัวสองตัวเท่านั้นที่เปลี่ยนพฤติกรรมมาล้างข้าวโพด แล้วก็ไม่ใช่ว่าลิงทั้งฝูงจะไม่เห็นวิธีที่เจ้าลิงน้อยกับเพื่อนๆ ทำนะครับ เห็นครับแต่ไม่ทำตาม การทดลองดำเนินไปอย่างนี้อยู่เป็นปี นักวิทยาศาสตร์ก็ยังคงเอาเม็ดข้าวโพดไปหว่านไว้บริเวณที่มีทรายทุกวันไม่มีขาด ฝูงลิงก็ยังคงมาเก็บข้าวโพดกินอย่างสม่ำเสมอ และถ้ามองด้วยสายตาก็สามารถแบ่งลิงออกเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มที่ล้างเม็ดข้าวโพด กับกลุ่มที่ไม่ล้าง แม้ปริมาณลิงที่ล้างข้าวโพดจะเพิ่มจำนวนขึ้นจนเริ่มใกล้เคียงกับพวกที่ไม่ล้าง แต่ลิงที่เหลือก็ยังสมัครใจที่จะกินข้าวโพดด้วยวิธีเดิมๆ
แล้ววันหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ประหลาดใจก็เกิดขึ้น
มันเกิดขึ้นภายในวันเดียว โดยไม่รู้จะอธิบายด้วยตรรกะง่ายๆ อย่างไรดี เช้าวันนั้นมีลิงวัยรุ่นตัวหนึ่งเปลี่ยนพฤติกรรมไปล้างเม็ดข้าวโพดอย่างเจ้าลิงน้อยเข้า แล้วบ่ายวันนั้นลิงทั้งฝูงก็เปลี่ยนพฤติกรรมมาล้างเม็ดข้าวโพดกันหมด
นักวิทยาศาสตร์สงสัยทันทีว่าเจ้าลิงตัวที่เปลี่ยนพฤติกรรมในเช้านั้น มันมีความสำคัญขนาดไหนกัน หลังจากที่ดูจากบันทึกและตรวจสอบอย่างละเอียดก็พบว่ามันก็เป็นแค่ลิงธรรมดาตัวหนึ่ง ไม่ได้เป็นจ่าฝูงหรือเป็นลิงที่แข็งแรงดุร้ายกว่าตัวอื่นอย่างใดแล้วทำไมฝูงลิงจึงเปลี่ยนพฤติกรรมไปหมด
เจ้าของทฤษฎีนี้มีคำอธิบายครับ ลองฟังเขาดู
เมื่อในสังคมเกิดภาวะมวลวิกฤต (Critical Mass) และเกิดจำนวนวิกฤต (Critical Number) ซึ่งไม่มีใครสามารถตอบได้ว่าเป็นจำนวนเท่าไรของจำนวนสมาชิกทั้งหมดของสังคม สังคมก็จะเริ่มยอมรับในพฤติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง และก็จะเกิดการตัดสินใจปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปในกลุ่มที่เหลือทั้งหมดอย่างที่บอก ถ้าให้ผมนึกตามง่ายๆ ผมก็คงนึกถึงไม้กระดกที่เด็กๆ เขาเล่นกัน เวลาที่ฝั่งหนึ่งมีจำนวนเด็กมากกว่าจนมีน้ำหนักมากกว่าอีกฝั่ง ฝั่งที่น้อยกว่านอกจากจะกระดกลอยสูงแล้ว บางครั้งเราก็อาจจะเห็นเด็กฝั่งที่น้อยไหลมาสู่ฝั่งที่มาก จนกลายเป็นมาอยู่ฝั่งเดียวกันได้
ผมว่าพวกเราก็คงจะเคยเจอสภาพเช่นนี้ เพื่อนฝูงหกเจ็ดคนหาร้านอาหารจะไปกินกันแรกๆ ก็ถกเถียงว่าร้านเจ๊อ้อยบ้าง ร้านอาโกบ้าง เถียงกันอยู่สักพักแล้วก็มีคนหนึ่งที่ไม่ได้คิดว่าจะไปกินร้านไหนเลยพูดขึ้นว่าไปกินเจ๊อ้อยดีกว่า จู่ๆ ทุกคนก็กลายเป็นเปลี่ยนมาเทใจให้กับร้านเจ๊อ้อยกันหมด
แล้วผมก็ตั้งคำถามครับ น้ำหนักสุดท้ายที่ย้ายข้างนี่ ผมชักอยากรู้ว่ามันจำเป็น
ต้องหนักกว่าอีกข้างหนึ่งไหม
ทฤษฎีนี้ตอบว่า ไม่เกี่ยวกับการเอียงข้าง น่าสนใจนะครับประโยคนี้
เขาเน้นไปที่จำนวนหนึ่งที่วิกฤต และไม่มีใครบอกได้ว่าเป็นสัดส่วนเท่าไรของ
สมาชิกทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องมากกว่าครึ่งด้วยจำนวนนี้นั่นแหละที่เขาเรียกกันว่า มวลวิกฤต มีหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ Critical Mass : how one thing leads another ที่เขียน โดย ฟิลิป บอล (ขออนุญาตแปลว่า มวลวิกฤต วิถีที่แห่งการกระดก) ในเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้พี่ฟิลิปแกสามารถอธิบายพฤติกรรมของการเลือกตั้งที่ชนะถล่มทลายได้ ว่ามาจากอะไร พี่แกให้ความเห็นว่าลักษณะของการเลือกและการตัดสินใจลงคะแนนเสียง ให้พรรคใดและใครนั้นไม่ได้มาจากเหตุผลอย่างเดียว เพราะถึงจุดหนึ่งเวลาที่ใกล้วันเลือกตั้ง คนจะหยุดคิด หยุดวิเคราะห์ แต่จะดูกระแสคนหมู่มากว่าจะไปทางไหนแล้วก็กระโจนตามกันไป ซึ่งเขาจะเรียกว่า มวลวิกฤต หรือ Critical Mass ที่น่าสนุกก็คือคุณพี่ฟิลิป แกใช้ทฤษฎีควอนตัมอธิบายได้อย่างชัดเจนและเป็นวิทยาศาสตร์
นักเรียนที่เรียนเรื่องปฏิกิริยานิวเคลียร์ก็คงเห็นคำว่า มวลวิกฤต อยู่บ่อยๆ
อธิบายด้วยภาษาที่ง่ายที่สุดสำหรับคนที่ไม่รู้เรื่องนี้ก็คือ เชื้อเพลิงพวก
ยูเรเนียมจะถูกผ่านกระบวนการทำให้เข้มข้นอย่างมาก และจะถูกเก็บไว้ภายใต้สภาวะมวลใต้วิกฤต นั่นคือยังไม่วิกฤต แต่ใกล้มากและตรงตำแหน่งที่มันพร้อมจะแตกตัวแล้วส่งผ่านพลังงานอันมหาศาลออกมาเป็นระเบิดเป็นไฟฟ้า เป็นความร้อน ตำแหน่งนั้นแหละครับคือตำแหน่งเดียวกับที่ลิงทั้งฝูงเปลี่ยนวิธีกินข้าวโพดตรงนั้นแหละครับ ตำแหน่งของมวลวิกฤต
ขอขอบคุณ www.geniuscreator.com
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4740
- ผู้ติดตาม: 0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
โพสต์ที่ 45
=ชอบครับ ชอบๆ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
โพสต์ที่ 46
ถ้าจะมองกันแบบมวลวิกฤติ
จริงๆผมก็ไม่ค่อยเข้าใจความหมายมันหรอก
แต่ LH คือตัวนำกลุ่มอสังหา และตอนนี้ก็ยังเป็น
แม้จะทำยอดขายต่ำกว่าPS 555
แต่imagineแล้วก็ยังเป็นตัวในปัจจุบันอยู่
ถ้าตลาดหุ้นคือมวลวิกฤติ เดี่ยวต่อไป
spali lpn ps ap estar mjd mk gold siri metro prin pf
ก็อาจจะมีกระแสแห่ขึ้นไปตามผู้นำ
มั่วเอา
จริงๆผมก็ไม่ค่อยเข้าใจความหมายมันหรอก
แต่ LH คือตัวนำกลุ่มอสังหา และตอนนี้ก็ยังเป็น
แม้จะทำยอดขายต่ำกว่าPS 555
แต่imagineแล้วก็ยังเป็นตัวในปัจจุบันอยู่
ถ้าตลาดหุ้นคือมวลวิกฤติ เดี่ยวต่อไป
spali lpn ps ap estar mjd mk gold siri metro prin pf
ก็อาจจะมีกระแสแห่ขึ้นไปตามผู้นำ
มั่วเอา
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
- MANEKI
- Verified User
- โพสต์: 1005
- ผู้ติดตาม: 0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
โพสต์ที่ 49
หุ้นตัวนี้จะดีทุกครั้งที่เราขาย
ปีที่แล้วขายไป 7วิ่งไป 12 ช่วยให้พี่ที่ติดดอยออกมาได้แบบไม่ขาดทุน
เพราะพี่แกติด 12ชวนกันมาซื้อที่ 6บาทกว่าๆ
บอกว่าเล่นรอบไปสัก 10รอบ เดี๋ยวต้นทุนก็ลดลงเอง
ผลคือ เราเล่นไปรอบเดียว แล้วมันก็พุ่งกระจายเลย
ปีนี้มาซื้อ 2.54แล้วขายไป 3บาท เพราะกะว่าจะมาตั้งรับ 2.54อีก
แล้วมันก็พุ่งไป 5บาทกว่าๆ
เล่นแค่ครั้งเดียวตามเคย
ปีที่แล้วขายไป 7วิ่งไป 12 ช่วยให้พี่ที่ติดดอยออกมาได้แบบไม่ขาดทุน
เพราะพี่แกติด 12ชวนกันมาซื้อที่ 6บาทกว่าๆ
บอกว่าเล่นรอบไปสัก 10รอบ เดี๋ยวต้นทุนก็ลดลงเอง
ผลคือ เราเล่นไปรอบเดียว แล้วมันก็พุ่งกระจายเลย
ปีนี้มาซื้อ 2.54แล้วขายไป 3บาท เพราะกะว่าจะมาตั้งรับ 2.54อีก
แล้วมันก็พุ่งไป 5บาทกว่าๆ
เล่นแค่ครั้งเดียวตามเคย
DON"T EVER GIVE UP YOUR DREAM.....
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
โพสต์ที่ 51
Critical mass มีสองด้านนะครับ มีตอนลงและตอนขึ้นด้วยครับ มีทุกแห่งละครับ อย่างตอนรถสองคันชนกันนี่ ผมไปจอดดู ถ้าเขาคุยกันได้ดี ไม่เกิดหรอกครับ แต่อีกฝ่ายทีถูกมีสาวมาด้วย แล้วสาวโวยวาย อย่างนี้ไดเวอเจนมันเกิดแล้ว แต่ไดเวอมีอยู่ทุกแห่ง critical mass อย่างนี้ เปนไปในทางลบ ไม่มีทางจบชวนไปทำสังคทานแน่ มีแต่ชวนไปโรงพัก หรือไม่โรงพยาบาล หรือไม่ก็วัด พอสาวคนนี้พูดว่า "ขับรถประสาอะไร แม่ได้สอนหรือ" แค่นั้น inefficient market มันเกิดตรงนั้นเลย แต่มันเกิดในใจสาวมานานแล้ว แต่คนที่ผิด ใจเขามี critical mass แต่เขาจับมันไวได้ วันนั้นขอโทอย่างเดียว ยอมรับผิดอย่างเดียว ใจมัน efficient ยกมือไหว้อย่างเดียว ผมยกนิ้วให้คนผิด นี่ชนะใจตัวเองได้ แล้วไปชนะใจสาวด้วย เพราะอารมร์สาวเบาลง มองไปรอบ ๆ เพราะอายคน คนมามุงดูเยอะ สาวไปขอโทษคนผิดที่พุดแรงไปหน่อย ตรงนั้น critical mass เกิดอีกครั้ง แต่เปนทางบวก จังหวะนี้ต้องปรบมือให้ คนมุงดูคนอื่นปรบมือ มีทุกแห่งละครับ เกิดตอนไหนเท่านั้นเอง ส่วนกระทู้นี่ critical mass มีไปนานแล้ว ยิ่งตอนไปกินข้าวไทวิ ก็มีให้เหนทุกครั้งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1667
- ผู้ติดตาม: 0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
โพสต์ที่ 53
มีคนในแวดวงบุญ บอกว่า
คุณ อนันต์ เป็นคน มีบุญมากครับ
คนในแวดวงบุญ ยืนยัน เป็นมั่นเป็นเหมาะ
อาจจะไม่เกี่ยวกับ ทำบุญที่ไหนครับ
แต่อาจจะมาจาก ความรู้สึกของการอยากให้
ที่ ตอบ สนอง คนให้
ตามกฎแห่งกรรม ตามแรงที่อยากให้
ผมเคยอ่านผลงานคุณดังตฤณ เรื่องทำไม่คนเราบางคน ถึงโคตรรวย
แต่หลายๆ คนกับ ข้นแค้น
ทำไม คนมีบุญมากมีไม่มาก
แต่มองรอบตัว คนอยากได้ มากกว่า คนอยากให้
พอไม่อยากให้ แล้ว ใครจะได้
เรื่องที่สอนๆ กัน หลายเรื่อง ก็สอน เรื่อง อยากได้ มากกว่า อยากให้
เสียดายที่หลายคน ตายไป โดยไม่ได้ ให้ อะไรแก่ใครสักเท่าไรเลย
คุณ อนันต์ เป็นคน มีบุญมากครับ
คนในแวดวงบุญ ยืนยัน เป็นมั่นเป็นเหมาะ
อาจจะไม่เกี่ยวกับ ทำบุญที่ไหนครับ
แต่อาจจะมาจาก ความรู้สึกของการอยากให้
ที่ ตอบ สนอง คนให้
ตามกฎแห่งกรรม ตามแรงที่อยากให้
ผมเคยอ่านผลงานคุณดังตฤณ เรื่องทำไม่คนเราบางคน ถึงโคตรรวย
แต่หลายๆ คนกับ ข้นแค้น
ทำไม คนมีบุญมากมีไม่มาก
แต่มองรอบตัว คนอยากได้ มากกว่า คนอยากให้
พอไม่อยากให้ แล้ว ใครจะได้
เรื่องที่สอนๆ กัน หลายเรื่อง ก็สอน เรื่อง อยากได้ มากกว่า อยากให้
เสียดายที่หลายคน ตายไป โดยไม่ได้ ให้ อะไรแก่ใครสักเท่าไรเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 675
- ผู้ติดตาม: 0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
โพสต์ที่ 57
ผมคิดว่า LH เหมือนพ่อที่มี ลูกดี ขยันทำมาหากิน และก็เติบโตแข็งแรง พ่อสบายใจ
เพราะโตไปเป็น เจ้าของร้านค้าปลีกสินค้าบ้านใหญ่โต --> Hmpro
เป็นหมอด้วย --> KH
เป็นนายธนาคาร --> LHB
และกำลังจะเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้ากลางจุดตัดรถไฟฟ้าและ apartment --> terminal 21
พ่อก็ยังเก่งใช้ได้
นี่คือสิ่งที่ LH มี ณ วันนี้ นอกเหนือจากการผ่าน 2540
เพราะโตไปเป็น เจ้าของร้านค้าปลีกสินค้าบ้านใหญ่โต --> Hmpro
เป็นหมอด้วย --> KH
เป็นนายธนาคาร --> LHB
และกำลังจะเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้ากลางจุดตัดรถไฟฟ้าและ apartment --> terminal 21
พ่อก็ยังเก่งใช้ได้
นี่คือสิ่งที่ LH มี ณ วันนี้ นอกเหนือจากการผ่าน 2540
- koh
- Verified User
- โพสต์: 273
- ผู้ติดตาม: 0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
โพสต์ที่ 59
[quote="schwartz_IR"]ผมคิดว่า LH เหมือนพ่อที่มี ลูกดี ขยันทำมาหากิน และก็เติบโตแข็งแรง พ่อสบายใจ
เพราะโตไปเป็น เจ้าของร้านค้าปลีกสินค้าบ้านใหญ่โต --> Hmpro
เป็นหมอด้วย --> KH
เป็นนายธนาคาร --> LHB
และกำลังจะเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้ากลางจุดตัดรถไฟฟ้าและ apartment
เพราะโตไปเป็น เจ้าของร้านค้าปลีกสินค้าบ้านใหญ่โต --> Hmpro
เป็นหมอด้วย --> KH
เป็นนายธนาคาร --> LHB
และกำลังจะเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้ากลางจุดตัดรถไฟฟ้าและ apartment