LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
โพสต์ที่ 1
เทียบกับพวก AP PS ละกัน พอฟัดพอเหวี่ยง
ทำไม LH ถึงได้ premium ขนาดนี้ ทั้งๆที่ดูเหมือนคุณอนันต์จะพอใจกับขนาดของแลนด์ประมาณนี้แล้ว ดังนั้น growth ก็น่าจะไม่มากแล้วป่าวคับ ?
หรือว่าแค่สภาพคล่องเยอะดีฝรั่งเข้าก็เอาตัวนี้ก่อน ... แต่มันง่ายๆแค่นี้เองเหรอ
ทำไม LH ถึงได้ premium ขนาดนี้ ทั้งๆที่ดูเหมือนคุณอนันต์จะพอใจกับขนาดของแลนด์ประมาณนี้แล้ว ดังนั้น growth ก็น่าจะไม่มากแล้วป่าวคับ ?
หรือว่าแค่สภาพคล่องเยอะดีฝรั่งเข้าก็เอาตัวนี้ก่อน ... แต่มันง่ายๆแค่นี้เองเหรอ
It's earnings that count
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
โพสต์ที่ 4
ถ้าเทรดที่บ้าน ไม่เห็น ไปที่ห้องค้านี่ชัดครับ ผมต้องไปเห้นคนซื้อ คนซื้อเป็นกลุ่มไหน อาม่า อาแปะ เห็นแล้ว นี่หมูแน่นอน ตอนนี้คนซื้อ ตลาดเป็น ineficiency ลงทุนในเงินกันหมด แต่ไม่ลงทุนในความรู้ นี่อย่างนี้พ่อค้าชอบ คือ ได้เวลาขายของ เวลาคนมุงเยอะๆ ไม่ขายของกันแล้ว ต้องขายจิตวิทยา ขายแบบธรรมดาไมได้ ความโลภมันล้นตลาด ต้องขายอีกแบบ ต้องตะโกน ลดแล้วลดอีก เห็นราคาวิ่งแล้วไม่ได้คิดแล้ว แนวโนมของคนนี่ชอบลงทุนในตัวเงิน แต่ไม่ได้ลงทุนในใจของตนเอง คลุมใจตัวเองไมได้ เห้นแล้วทุนที่เป็นวัตถุมันมากกว่าทุนจิตใจ ทุนเงินนั้นมากกว่าทุนสมองไปแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
โพสต์ที่ 6
เรื่อง LH คล้าย ร้านขายบะหมี่ ครับ เรืองนี้พออธิบายได้อย่างนี้
ผมไปเดินงานกะเสดแฟ ในฐานะ merchant investor เพราะปีนี้จับฉลากกับเขาไม่ได้ ไปเดินหา non-equilibrium เดินไปพาพกสายตานักล้วงว่าถ้าเราเป็นพวกเขา เราจะล้วงใคร ที่ไหน ตรงไหนดี นั่นเหยื่อผมมาแล้วครับ
reality--> มีผู้หญิงสัก 50 กว่า เดินนำผูกข้อมือเชือกจูงเด็กสัก 6-7 ขวบ เดินตาม เชือกยาว 1 ฟุต เดินไปไหนสายคล้องเห็นชัดว่าติดกัน เดินไปตามฝูงคน expectation ตามมาติด ๆ เชื่อกนี้ทำให้ผมนึกถึง options ที่ทำหน้าที่เป้น insurance ป้องกันความเสี่ยงในกรณีที่เกิด critical mass เพราะถ้าเป็น market events ในลักษณะเช่นนี้ มันหมายถึงเป็นโอกาสสำหรับ critical point มันสามารถเกิด variations ขึ้นได้ทั้งนั้น
reality--> เดินไปสักพัก หายไปไหนฝูงที่ยังไม่เกิด mass ผมเดินตามไปติด ๆ เห็นหัวอาร์ตตัวแม่หยิกเดินไปอย่างช้า ๆตาม กระแสฝูงชน ตัวลูกไม่เห้นแล้ว แต่ expectation บอกว่า--->แม่ไปด้วย ลูกก็ติดไปด้วย ผมเริ่ม predict ว่าควรจะเป็นอย่างนั้น เพราะเชือกดันไปมี function ที่เรียกว่า correlation ที่ผมใช้ predict เชื่อมโยงเหตุการณ์ทีเกิดขึ้นในอดีตกับอนาคต ผมคิดในใจเห้นแม่กับลุกเดินตรงนั้น ตอนนี้ไม่เห็นลุก เห้นแต่แม่ ถ้าเดินไปที่โล่งๆสักหน่อยก็จะเห็นลูกเดินอยู่เอง ผมคำนวณเสร็จสรรพ
reality--> แม่เดินไปหยุดหน้าร้านบะหมี่ซีอ่าง คนขายเอามือหยิบบะหมี่ใส่จาน expectation---> น่ากินชมัด คนมุงดูเพราะ social validation กับ scarcity กฎสองข้อในตลาดหุ้นมีให้เห้นบ่อย ๆ แต่พ่อค้าอย่างผมเห็นทุกงาน events จนชินตามันคือ outdoor website ดีๆ นี่เอง ถ้าเป้น indoor บางที่มีให้เงินถุงก่อนแล้วค่อยจับเหยื่อ อย่างนี้เรียก reciprocation เอา commitment มาหลอก ผสม social validation เติม liking ในตัวบุคลเข้าไปหน่อย บางคนใช้ authority กล่อมเข้าไปอีก ในที่สุดคนที่เคยต่าง ก็คืดเหมือน indoor website ที่ว่า เกิด efficient market ขนาดย่อม ๆ อย่างนี้ก็เกิด corelaton function กลายเป็นเชือกดีๆ เส้นหนึ่ง เหมือนแม่ดึงเด็กไปทางไหน เด็กก้ไปทางนั้น
แต่ outdoor website อย่างร้านบะหมี่ คนมุงสักพัก ไม่มุงสักพัก สลับกันไป คนขายมีเชือกมาดึงให้ตลาดมันเป็น inefficient ได้ไม่นาน แต่พอนานหน่อยๆ ขายไม่ทัน คนที่คอยนานข้างหลัง มีเวลาคิดขึ้นอีกหน่อย พอคิดได้ว่ามันคือบะหมี่แห้งที้ใช้มือหยิบ กูรมายืนมุงทำไมฟะะ ไม่เห็นแปลกตรงไหน คิดได้แล้วก็เดินเดินจากไป กลายเป็น efficient market พอคนบางตา คนขาย ก็จับบะหมี่พันไปพันมา ท่าทางเหมือนกางฟูวัดเส้าหลิน คนที่ผ่านมาหน้าใหม่ก็มุงดูเช่นเดิม กลายเป้น inefficient อีกครั้ง
เห็น uncertainty อย่างนี้มาจนชินตา พอสรุปไว้เป้นวิชาติดตัวได้ว่า กลุ่ม Indoor (รวมถึงเครือค่าย MLM) จัดไว้เป้นกลุ่มวิชา fundamental เป็นแกนหลัก ตลาดจะต้องเป็น efficient เพื่อใช้อดีต correlate อนาคต เวลาเป้น inefficient อนาคตมองยาก ข้ามไปอีกฝากเป็นกลุ่ม outdoor เป้น nothing fundamental (รวมถึงกลุ่ม Technical ) ตลาดจะต้องเป็น inefficient เพื่อใช้ข้อมูลจากอดีตเพื่อทำนายอนาคต แต่ถ้าเป้น efficient อนาคตเป็นเรื่องของ God ล้วน ๆ
Hey! God doesn't play dice.
แม่เดินขึ้นแท็กซี่ไปแล้ว แต่ correlation ตัวลูก ยังไม่หายไปไหน ยังเดินขึ้นตามไปติดๆ
Imperfection man อย่างผมตัดสินใจเดินกลับบ้านนึกถึง Holy Grail of non-equilibrium ในวันพรุ่งนี้...
ผมไปเดินงานกะเสดแฟ ในฐานะ merchant investor เพราะปีนี้จับฉลากกับเขาไม่ได้ ไปเดินหา non-equilibrium เดินไปพาพกสายตานักล้วงว่าถ้าเราเป็นพวกเขา เราจะล้วงใคร ที่ไหน ตรงไหนดี นั่นเหยื่อผมมาแล้วครับ
reality--> มีผู้หญิงสัก 50 กว่า เดินนำผูกข้อมือเชือกจูงเด็กสัก 6-7 ขวบ เดินตาม เชือกยาว 1 ฟุต เดินไปไหนสายคล้องเห็นชัดว่าติดกัน เดินไปตามฝูงคน expectation ตามมาติด ๆ เชื่อกนี้ทำให้ผมนึกถึง options ที่ทำหน้าที่เป้น insurance ป้องกันความเสี่ยงในกรณีที่เกิด critical mass เพราะถ้าเป็น market events ในลักษณะเช่นนี้ มันหมายถึงเป็นโอกาสสำหรับ critical point มันสามารถเกิด variations ขึ้นได้ทั้งนั้น
reality--> เดินไปสักพัก หายไปไหนฝูงที่ยังไม่เกิด mass ผมเดินตามไปติด ๆ เห็นหัวอาร์ตตัวแม่หยิกเดินไปอย่างช้า ๆตาม กระแสฝูงชน ตัวลูกไม่เห้นแล้ว แต่ expectation บอกว่า--->แม่ไปด้วย ลูกก็ติดไปด้วย ผมเริ่ม predict ว่าควรจะเป็นอย่างนั้น เพราะเชือกดันไปมี function ที่เรียกว่า correlation ที่ผมใช้ predict เชื่อมโยงเหตุการณ์ทีเกิดขึ้นในอดีตกับอนาคต ผมคิดในใจเห้นแม่กับลุกเดินตรงนั้น ตอนนี้ไม่เห็นลุก เห้นแต่แม่ ถ้าเดินไปที่โล่งๆสักหน่อยก็จะเห็นลูกเดินอยู่เอง ผมคำนวณเสร็จสรรพ
reality--> แม่เดินไปหยุดหน้าร้านบะหมี่ซีอ่าง คนขายเอามือหยิบบะหมี่ใส่จาน expectation---> น่ากินชมัด คนมุงดูเพราะ social validation กับ scarcity กฎสองข้อในตลาดหุ้นมีให้เห้นบ่อย ๆ แต่พ่อค้าอย่างผมเห็นทุกงาน events จนชินตามันคือ outdoor website ดีๆ นี่เอง ถ้าเป้น indoor บางที่มีให้เงินถุงก่อนแล้วค่อยจับเหยื่อ อย่างนี้เรียก reciprocation เอา commitment มาหลอก ผสม social validation เติม liking ในตัวบุคลเข้าไปหน่อย บางคนใช้ authority กล่อมเข้าไปอีก ในที่สุดคนที่เคยต่าง ก็คืดเหมือน indoor website ที่ว่า เกิด efficient market ขนาดย่อม ๆ อย่างนี้ก็เกิด corelaton function กลายเป็นเชือกดีๆ เส้นหนึ่ง เหมือนแม่ดึงเด็กไปทางไหน เด็กก้ไปทางนั้น
แต่ outdoor website อย่างร้านบะหมี่ คนมุงสักพัก ไม่มุงสักพัก สลับกันไป คนขายมีเชือกมาดึงให้ตลาดมันเป็น inefficient ได้ไม่นาน แต่พอนานหน่อยๆ ขายไม่ทัน คนที่คอยนานข้างหลัง มีเวลาคิดขึ้นอีกหน่อย พอคิดได้ว่ามันคือบะหมี่แห้งที้ใช้มือหยิบ กูรมายืนมุงทำไมฟะะ ไม่เห็นแปลกตรงไหน คิดได้แล้วก็เดินเดินจากไป กลายเป็น efficient market พอคนบางตา คนขาย ก็จับบะหมี่พันไปพันมา ท่าทางเหมือนกางฟูวัดเส้าหลิน คนที่ผ่านมาหน้าใหม่ก็มุงดูเช่นเดิม กลายเป้น inefficient อีกครั้ง
เห็น uncertainty อย่างนี้มาจนชินตา พอสรุปไว้เป้นวิชาติดตัวได้ว่า กลุ่ม Indoor (รวมถึงเครือค่าย MLM) จัดไว้เป้นกลุ่มวิชา fundamental เป็นแกนหลัก ตลาดจะต้องเป็น efficient เพื่อใช้อดีต correlate อนาคต เวลาเป้น inefficient อนาคตมองยาก ข้ามไปอีกฝากเป็นกลุ่ม outdoor เป้น nothing fundamental (รวมถึงกลุ่ม Technical ) ตลาดจะต้องเป็น inefficient เพื่อใช้ข้อมูลจากอดีตเพื่อทำนายอนาคต แต่ถ้าเป้น efficient อนาคตเป็นเรื่องของ God ล้วน ๆ
Hey! God doesn't play dice.
แม่เดินขึ้นแท็กซี่ไปแล้ว แต่ correlation ตัวลูก ยังไม่หายไปไหน ยังเดินขึ้นตามไปติดๆ
Imperfection man อย่างผมตัดสินใจเดินกลับบ้านนึกถึง Holy Grail of non-equilibrium ในวันพรุ่งนี้...
-
- Verified User
- โพสต์: 413
- ผู้ติดตาม: 0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
โพสต์ที่ 12
ผมว่าเป็นที่การสร้างความแตกต่าง สร้างblue oceanรึป่าวครับ
เมื่อก่อนก็เป็นเจ้าแรกเริ่มที่สร้างบ้านเสร็จก่อนขาย สมัยนั้นใครๆก็กลัวจ่ายตังแล้วไม่ได้ของ คนรวยไม่มีปัญหาเรื่องเงิน ยอมซื้อแพงหน่อย สบายมาก
มาสมัยนี้ คอนโดก็เน้นสร้างกลางเมืองติดรถไฟฟ้าแต่เน้นสวนสาธารณะเยอะมาก เข้าใจว่าเกือบครึ่งต่อครึ่งของพื้นที่โครงการกันเลยทีเดียว เหนว่าทุกห้องไม่นับห้องมุมราคาเท่ากันหมด เพราะชั้นบนได้วิวเมือง ชั้นล่างๆได้วิวสวนเรียกว่าโดนใจคนที่อยากอยู่กลางเมืองติดรถไฟฟ้าแต่ไม่ชอบความอึดอัดคอนโดได้เลย
อีกอย่างคือ จัดอันดับเศรษฐีหุ้นเมืองไทยแต่ละปีทีไร คุณอนันต์ไม่เคยหลุดโผtop5 เลย ไม่รู้ว่ามีผลต่อแบรนด์ราคาหุ้นไปด้วยรึป่าว คนมักcorrelateอย่างพี่โหน่งว่ารึป่าวไม่รู้
เมื่อก่อนก็เป็นเจ้าแรกเริ่มที่สร้างบ้านเสร็จก่อนขาย สมัยนั้นใครๆก็กลัวจ่ายตังแล้วไม่ได้ของ คนรวยไม่มีปัญหาเรื่องเงิน ยอมซื้อแพงหน่อย สบายมาก
มาสมัยนี้ คอนโดก็เน้นสร้างกลางเมืองติดรถไฟฟ้าแต่เน้นสวนสาธารณะเยอะมาก เข้าใจว่าเกือบครึ่งต่อครึ่งของพื้นที่โครงการกันเลยทีเดียว เหนว่าทุกห้องไม่นับห้องมุมราคาเท่ากันหมด เพราะชั้นบนได้วิวเมือง ชั้นล่างๆได้วิวสวนเรียกว่าโดนใจคนที่อยากอยู่กลางเมืองติดรถไฟฟ้าแต่ไม่ชอบความอึดอัดคอนโดได้เลย
อีกอย่างคือ จัดอันดับเศรษฐีหุ้นเมืองไทยแต่ละปีทีไร คุณอนันต์ไม่เคยหลุดโผtop5 เลย ไม่รู้ว่ามีผลต่อแบรนด์ราคาหุ้นไปด้วยรึป่าว คนมักcorrelateอย่างพี่โหน่งว่ารึป่าวไม่รู้
Even Sir Isaac Newton loss in stock market
"You can't predict the future, because the future depends on how you react to it."
ซื้อหุ้นเมื่อคนส่วนใหญ่หมดศรัทธาในหุ้นและเทขายอยู่ นั่นคือเวลาตี5ในการจ่ายตลาด....จาก สอง ว. ผู้ยิ่งใหญ่
"You can't predict the future, because the future depends on how you react to it."
ซื้อหุ้นเมื่อคนส่วนใหญ่หมดศรัทธาในหุ้นและเทขายอยู่ นั่นคือเวลาตี5ในการจ่ายตลาด....จาก สอง ว. ผู้ยิ่งใหญ่
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
โพสต์ที่ 13
พุดให้ใกล้ตัว ขอยกตัวอย่างท่านนายกครับ
อย่างวันเด็ก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบรางวัลเยาวชนดีเด่น เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2552 นายอภิสิทธิ์ได้มอบสำเนากลอนที่ครูเคยเขียนให้สมัยเรียนอยู่ชั้น ป.6 ที่โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2519 มาร่วมในนิทรรศการวันเด็ก ความว่า...
อภิสิทธิ์ มาร์ค อภิสิทธิ์ ครูเคยคิดใฝ่ฝัน อย่างมั่นเหมาะ
อยากได้ศิษย์เช่นเธอ เพ้อเฉพาะ เกินจักเสาะสืบหา กลับมาพบ
เธอมีแววแพรวเพริศ บรรเจิดจ้า คมความคิดแกล้วกล้า มาบรรจบ
กับปัญญาเข้มข้น ครันครบ ครูคงพบคนดี ศรีอยุธย์
ชาติต้องการผู้นำ มีอำนาจ ผู้เก่งกาจเกรียงไกร ใสพิสุทธิ์
ผู้ชนะกิเลสร้าย ลายมนุษย์ เพื่อช่วยฉุดชาติพ้น คนคิดร้าย
ครูจะหวังมากไป หรือไม่หนอ เพราะเธอก็ยังเยาว์ เกินเข้าข่าย
ขอเพียงจิตคิดระบุ วางอุบาย เริ่มมั่นหมายมุ่งตรง คงเป็นจริง..
ด.ช มาร์ค คือ fundamental --------------> กลอนครู price
......บางที.
reflex
กลอนครู ราคา ---------------> fundamental ท่านนายก
สิ่งที่เห็น.... ด.ช มาร์ค เป้นคนเดียวกันกับ ท่านนายก
สิ่งที่ผมเห้น....ไม่ใช่คนคนเดียวกัน!
พื้นฐาน กำหนด ราคา แต่บางที ราคาก็กำหนด พื้นฐาน โดยเฉพาะสภาพตลาดตอนนี้กำลังทำอย่างนั้น ซึ่งสองสิ่งนี้ไม่เหมือนกัน และไม่เคยเหมือนกันเลย และมันบิดเบือนแล้ว เหมือนกลอนที่ครูชม ดช.มาร์ค เด็กชาย มาร์ค ถือคำชมครู เป็นกำลังใจในการดำเนินชีวิต และกลายเป็นสิ่งที่ครูชมในที่สุด กลอนคือราคาที่ครูหามูลค่าให้ ดช.มาร์ค เพราะเห้น fundamental ของเด้กคนนี้คั้งแต่แรก แต่บางที....คำกลอนอาจเป็นตัวกำหนดพื้นฐาน fundamental ของ ดช.มาร์ค ในอนาคต
สองสิ่งนี้....มีอยู่ทุกแห่งรอบตัวเรา และมันอยู่ในตลาดหุ้นด้วย
อธิบายเป้น Chart ได้ว่า...
value investing (Theory of price)
reflex
fundamental -----------------> price
แต่ตลาดตอนนี้....
reflex
price -----------------> fundamental
fundamental<----->bias <--------->judgement <--------->price
/\
/ \
reality <-----> expectation
divergence
|
|
F L A W
/ | \
/ | \
WHAT HOW WHEN
\ | /
\ | /
\ | /
\ | /
\ | /
\ | /
\|/
DECODING
/\
/ \
BOOM BUST
อธิบายเปนกลอนได้ว่า...
ถ้าเลี้ยงลูกแล้วพร่ำคำตำหนิ
มองดูสิผลเลิศประเสริฐไหม
ตรงกันข้ามกับบั่นทอนกำลังใจ
เด็กจะเลวเหลวไหลดั่งวาจา
xelfer
พร่ำตำหนิ <---------- > เหลวไหลดั่งวาจา
ถ้าเลี้ยงลูกปลูกนิสัยให้ก้าวร้าว
จะเป็นคนแข็งกร้าวมีปัญหา
ไร้เหตุผลดื้อรั้นขาดจรรยา
เด็กไม่มีสัมมาอ่อนน้อมคน
xelfer
ปลูกนิสัยให้ก้าวร้าว < -----------> ไม่มีสัมมาอ่อนน้อมคน
ถ้าเลี้ยงลูกแล้วดูถูกคอยเย้ยหยัน
เด็กจะขาดความเชื่อมั่นและสับสน
ทั้งยังขลาดไม่กล้ามาผจญ
อิทธิพลความเย้ยหยันหน้าพรั่นพรึง
ถ้าเลี้ยงลูกเกิดทุกข์ด้วยความอาย
เด็กจะกลายเป็นคนกังวลถึง
หวาดระแวงหมดสุขทุกข์ตราตรึง
เฝ้าคะนึงอยากอยู่เพียงผู้เดียว
xelfer
ทุกข์ด้วยความอาย <------------> อยากอยู่เพียงผู้เดียว
ถ้าเลี้ยงลูกทุกเวลาด้วยมานะ
จะอดทนเสียสละฉลาดเฉลียว
งานลำบากทำได้ทั่วตัวเป็นเกลียว
ด้วยชำนาญชาญเชี่ยวทุกขั้นตอน
xelfer
ด้วยมานะ < -----------> ชำนาญชาญเชี่ยว
ถ้าเลี้ยงลูกแบบให้กำลังใจ
เด็กจะสุขสดใสสโมสร
เมื่อเติบใหญ่สุดประเสริฐเลิศบวร
เกริกกำจรเป็นนักปราชญ์ชาติระบิล
xelfer
ให้กำลังใจ <-----------> นักปราชญ์ชาติระบิล
ถ้าเลี้ยงลูกตัวน้อยคอยชื่นชม
เด็กจะเริ่มสั่งสมคิดถวิล
ภาคภูมิใจในคุณค่าเป็นอาจิณ
ความสำเร็จในชีวินของตนเอง
xelfer
คอยชื่นชม <----------------> ความสำเร็จ
ถ้าเลี้ยงลูกด้วยรักที่อบอุ่น
เด็กจะนุ่มนวลละมุนไม่ข่มเหง
ศรัทธามีดุจดนตรีที่บรรเลง
เหมือนเสียงเพลงกล่อมโลกไม่โศกตรม
xelfer
อบอุ่น <-----------------> ไม่โศกตรม
ถ้าเลี้ยงลูกแบบให้การยอมรับ
เด็กจะงามพร้อมสรรพดูเหมาะสม
เป็นคนดีมีคุณค่าน่าชื่นชม
น่านิยมเชื่อถือระบือไกล
xelfer
ให้การยอมรับ <--------------> คนดีมีคุณค่าน่าชื่นชม
ถ้าเลี้ยงลูกแบบให้ความเป็นมิตร
เด็กจะมีดวงจิตผุดผ่องใส
คอยกอบเกื้อเอื้ออารีมีน้ำใจ
ทั้งรู้จักให้อภัยมีเมตตา
xelfer
ให้ความเป็นมิตร <---------------> รู้จักให้อภัยมีเมตตา
จะเลี้ยงลูกแบบไหนให้ตระหนัก
จะเลี้ยงแบบให้ความรักเสน่หา
หรือเลี้ยงแบบพร่ำบ่นจนระอา
ให้ก้าวร้าวหมดจรรยาหวาดระแวง
จะเลี้ยงลูกแบบใดได้อย่างนั้น
อยู่ที่พ่อแม่ปั้นดังแถลง
ยังไม่สายหากคิดจะเปลี่ยนแปลง
ลูกจะแกร่งอดทนเลิศ...ประเสริฐคุณ...
:welcome:
อย่างวันเด็ก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบรางวัลเยาวชนดีเด่น เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2552 นายอภิสิทธิ์ได้มอบสำเนากลอนที่ครูเคยเขียนให้สมัยเรียนอยู่ชั้น ป.6 ที่โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2519 มาร่วมในนิทรรศการวันเด็ก ความว่า...
อภิสิทธิ์ มาร์ค อภิสิทธิ์ ครูเคยคิดใฝ่ฝัน อย่างมั่นเหมาะ
อยากได้ศิษย์เช่นเธอ เพ้อเฉพาะ เกินจักเสาะสืบหา กลับมาพบ
เธอมีแววแพรวเพริศ บรรเจิดจ้า คมความคิดแกล้วกล้า มาบรรจบ
กับปัญญาเข้มข้น ครันครบ ครูคงพบคนดี ศรีอยุธย์
ชาติต้องการผู้นำ มีอำนาจ ผู้เก่งกาจเกรียงไกร ใสพิสุทธิ์
ผู้ชนะกิเลสร้าย ลายมนุษย์ เพื่อช่วยฉุดชาติพ้น คนคิดร้าย
ครูจะหวังมากไป หรือไม่หนอ เพราะเธอก็ยังเยาว์ เกินเข้าข่าย
ขอเพียงจิตคิดระบุ วางอุบาย เริ่มมั่นหมายมุ่งตรง คงเป็นจริง..
ด.ช มาร์ค คือ fundamental --------------> กลอนครู price
......บางที.
reflex
กลอนครู ราคา ---------------> fundamental ท่านนายก
สิ่งที่เห็น.... ด.ช มาร์ค เป้นคนเดียวกันกับ ท่านนายก
สิ่งที่ผมเห้น....ไม่ใช่คนคนเดียวกัน!
พื้นฐาน กำหนด ราคา แต่บางที ราคาก็กำหนด พื้นฐาน โดยเฉพาะสภาพตลาดตอนนี้กำลังทำอย่างนั้น ซึ่งสองสิ่งนี้ไม่เหมือนกัน และไม่เคยเหมือนกันเลย และมันบิดเบือนแล้ว เหมือนกลอนที่ครูชม ดช.มาร์ค เด็กชาย มาร์ค ถือคำชมครู เป็นกำลังใจในการดำเนินชีวิต และกลายเป็นสิ่งที่ครูชมในที่สุด กลอนคือราคาที่ครูหามูลค่าให้ ดช.มาร์ค เพราะเห้น fundamental ของเด้กคนนี้คั้งแต่แรก แต่บางที....คำกลอนอาจเป็นตัวกำหนดพื้นฐาน fundamental ของ ดช.มาร์ค ในอนาคต
สองสิ่งนี้....มีอยู่ทุกแห่งรอบตัวเรา และมันอยู่ในตลาดหุ้นด้วย
อธิบายเป้น Chart ได้ว่า...
value investing (Theory of price)
reflex
fundamental -----------------> price
แต่ตลาดตอนนี้....
reflex
price -----------------> fundamental
fundamental<----->bias <--------->judgement <--------->price
/\
/ \
reality <-----> expectation
divergence
|
|
F L A W
/ | \
/ | \
WHAT HOW WHEN
\ | /
\ | /
\ | /
\ | /
\ | /
\ | /
\|/
DECODING
/\
/ \
BOOM BUST
อธิบายเปนกลอนได้ว่า...
ถ้าเลี้ยงลูกแล้วพร่ำคำตำหนิ
มองดูสิผลเลิศประเสริฐไหม
ตรงกันข้ามกับบั่นทอนกำลังใจ
เด็กจะเลวเหลวไหลดั่งวาจา
xelfer
พร่ำตำหนิ <---------- > เหลวไหลดั่งวาจา
ถ้าเลี้ยงลูกปลูกนิสัยให้ก้าวร้าว
จะเป็นคนแข็งกร้าวมีปัญหา
ไร้เหตุผลดื้อรั้นขาดจรรยา
เด็กไม่มีสัมมาอ่อนน้อมคน
xelfer
ปลูกนิสัยให้ก้าวร้าว < -----------> ไม่มีสัมมาอ่อนน้อมคน
ถ้าเลี้ยงลูกแล้วดูถูกคอยเย้ยหยัน
เด็กจะขาดความเชื่อมั่นและสับสน
ทั้งยังขลาดไม่กล้ามาผจญ
อิทธิพลความเย้ยหยันหน้าพรั่นพรึง
ถ้าเลี้ยงลูกเกิดทุกข์ด้วยความอาย
เด็กจะกลายเป็นคนกังวลถึง
หวาดระแวงหมดสุขทุกข์ตราตรึง
เฝ้าคะนึงอยากอยู่เพียงผู้เดียว
xelfer
ทุกข์ด้วยความอาย <------------> อยากอยู่เพียงผู้เดียว
ถ้าเลี้ยงลูกทุกเวลาด้วยมานะ
จะอดทนเสียสละฉลาดเฉลียว
งานลำบากทำได้ทั่วตัวเป็นเกลียว
ด้วยชำนาญชาญเชี่ยวทุกขั้นตอน
xelfer
ด้วยมานะ < -----------> ชำนาญชาญเชี่ยว
ถ้าเลี้ยงลูกแบบให้กำลังใจ
เด็กจะสุขสดใสสโมสร
เมื่อเติบใหญ่สุดประเสริฐเลิศบวร
เกริกกำจรเป็นนักปราชญ์ชาติระบิล
xelfer
ให้กำลังใจ <-----------> นักปราชญ์ชาติระบิล
ถ้าเลี้ยงลูกตัวน้อยคอยชื่นชม
เด็กจะเริ่มสั่งสมคิดถวิล
ภาคภูมิใจในคุณค่าเป็นอาจิณ
ความสำเร็จในชีวินของตนเอง
xelfer
คอยชื่นชม <----------------> ความสำเร็จ
ถ้าเลี้ยงลูกด้วยรักที่อบอุ่น
เด็กจะนุ่มนวลละมุนไม่ข่มเหง
ศรัทธามีดุจดนตรีที่บรรเลง
เหมือนเสียงเพลงกล่อมโลกไม่โศกตรม
xelfer
อบอุ่น <-----------------> ไม่โศกตรม
ถ้าเลี้ยงลูกแบบให้การยอมรับ
เด็กจะงามพร้อมสรรพดูเหมาะสม
เป็นคนดีมีคุณค่าน่าชื่นชม
น่านิยมเชื่อถือระบือไกล
xelfer
ให้การยอมรับ <--------------> คนดีมีคุณค่าน่าชื่นชม
ถ้าเลี้ยงลูกแบบให้ความเป็นมิตร
เด็กจะมีดวงจิตผุดผ่องใส
คอยกอบเกื้อเอื้ออารีมีน้ำใจ
ทั้งรู้จักให้อภัยมีเมตตา
xelfer
ให้ความเป็นมิตร <---------------> รู้จักให้อภัยมีเมตตา
จะเลี้ยงลูกแบบไหนให้ตระหนัก
จะเลี้ยงแบบให้ความรักเสน่หา
หรือเลี้ยงแบบพร่ำบ่นจนระอา
ให้ก้าวร้าวหมดจรรยาหวาดระแวง
จะเลี้ยงลูกแบบใดได้อย่างนั้น
อยู่ที่พ่อแม่ปั้นดังแถลง
ยังไม่สายหากคิดจะเปลี่ยนแปลง
ลูกจะแกร่งอดทนเลิศ...ประเสริฐคุณ...
:welcome:
- oatty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2444
- ผู้ติดตาม: 0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
โพสต์ที่ 14
พื้นฐาน LH ไม่สนใจแล้วพี่โหน่ง
แต่ชอบพื้นฐานเลี้ยงลูกที่พี่เอามาบอกนี่แหละ ขอบคุณครับ
แต่ชอบพื้นฐานเลี้ยงลูกที่พี่เอามาบอกนี่แหละ ขอบคุณครับ
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
โพสต์ที่ 15
ของดีๆ น่าอ่านทั้้งนั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 898
- ผู้ติดตาม: 0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
โพสต์ที่ 20
one of the hardest thing to understand as I read recently. Soros rules. :8)
bid please!!
-
- Verified User
- โพสต์: 189
- ผู้ติดตาม: 0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
โพสต์ที่ 22
ยิ่งอ่านยิ่งงง 555
สำหรับผม
1.ลองนึกดูหากวิกฤษเศรษฐกิจรุนแรง คุณคิดว่าบริษัทอสังหาฯรายใดจะอยู่รอด
จงเรียงลำดับ LH SPALI AP QH SIRI PS N-PARK GOLD LALIN PRIN NOBLE
ผมว่าคำตอบมันชัดเจนอยู่
2.หากคุณกำลังจะแต่งงานและเริ่มคิดจะมีบ้าน สิ่งแรกที่คุณจะค้นหาใน google
โครงการแรกที่คุณนึกถึง ไปเยี่ยมดู คือ...
3.หากคุณซื้อบ้านแลนด์ แล้วเพื่อนถามว่าบ้านอยู่ไหน คุณตอบว่าบ้านแลนด์
คุณคิดว่าเพื่อนคุณจะคิดว่า
ก.รวยจัง ข.แลนด์คืออะไรไม่รู้จัก ค.อิจฉา ง.อืม ก็ดี
4.คุณลองเข้าไป pantip ห้องชายคาจะเห็นกระทู้หลายๆกระทู้ด่าว่าโครงการต่างๆ
ซึ่งไร้ความรับผิดชอบหลังการขาย (รวมทั้งบ้านแลนด์)
แต่ท้ายที่สุดท้ายก็จะมีเสียงว่าทุกโครงการมันก็เหมือนๆกันหมด(ห่วย)
แต่แลนด์ยังไงๆก็ยังน่าไว้ใจกว่า รับผิดชอบมากกว่า อุ่นใจกว่า
หากตอบคำถามเหล่านี้หมดแล้วคงจะเข้าใจว่าเหตุใด pe ของ LH จึง 10+
ตลอด ในขณะที่เจ้าอื่นๆบางทีโตปีละ50-100% ข่าวดีออกทุกวัน
ยอดขายทะลุ target ตลอด แต่ pe ยังไงๆก็ น้อยกว่าอยู่ดี
สำหรับผม
1.ลองนึกดูหากวิกฤษเศรษฐกิจรุนแรง คุณคิดว่าบริษัทอสังหาฯรายใดจะอยู่รอด
จงเรียงลำดับ LH SPALI AP QH SIRI PS N-PARK GOLD LALIN PRIN NOBLE
ผมว่าคำตอบมันชัดเจนอยู่
2.หากคุณกำลังจะแต่งงานและเริ่มคิดจะมีบ้าน สิ่งแรกที่คุณจะค้นหาใน google
โครงการแรกที่คุณนึกถึง ไปเยี่ยมดู คือ...
3.หากคุณซื้อบ้านแลนด์ แล้วเพื่อนถามว่าบ้านอยู่ไหน คุณตอบว่าบ้านแลนด์
คุณคิดว่าเพื่อนคุณจะคิดว่า
ก.รวยจัง ข.แลนด์คืออะไรไม่รู้จัก ค.อิจฉา ง.อืม ก็ดี
4.คุณลองเข้าไป pantip ห้องชายคาจะเห็นกระทู้หลายๆกระทู้ด่าว่าโครงการต่างๆ
ซึ่งไร้ความรับผิดชอบหลังการขาย (รวมทั้งบ้านแลนด์)
แต่ท้ายที่สุดท้ายก็จะมีเสียงว่าทุกโครงการมันก็เหมือนๆกันหมด(ห่วย)
แต่แลนด์ยังไงๆก็ยังน่าไว้ใจกว่า รับผิดชอบมากกว่า อุ่นใจกว่า
หากตอบคำถามเหล่านี้หมดแล้วคงจะเข้าใจว่าเหตุใด pe ของ LH จึง 10+
ตลอด ในขณะที่เจ้าอื่นๆบางทีโตปีละ50-100% ข่าวดีออกทุกวัน
ยอดขายทะลุ target ตลอด แต่ pe ยังไงๆก็ น้อยกว่าอยู่ดี
-
- Verified User
- โพสต์: 1808
- ผู้ติดตาม: 0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
โพสต์ที่ 23
ขอเก็บกลอนสอนลูกไว้นะครับ ชอบมาก
ส่วน LH คิดว่าเป็นเพราะ market cap. กับ สภาพคล่องครับ :P
ส่วน LH คิดว่าเป็นเพราะ market cap. กับ สภาพคล่องครับ :P
"Risk comes from not knowing what you're doing" - Warren Buffet
สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
http://www.sarut-homesite.net/
สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
http://www.sarut-homesite.net/
- Isamu
- Verified User
- โพสต์: 167
- ผู้ติดตาม: 0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
โพสต์ที่ 24
ผมขี้เกียจพิมพ์ยาว เพราะต้องจิ้มเอาทุกตัวอักษร สรุปสั้นๆเลยครับ
1.เวลาหุ้นตัวไหน ราคาดี กำไรดีในช่วงนั้น ไม่ได้หมายความว่า กิจการในระยะยาวจากนี้จะดี เมื่อวันหนึ่งสิ่งต่างๆ ได้ปรากฏชัด ราคาและฝูงชนก็จะเคลื่อนไปตามนั้น และ นักลงทุนผู้ชาญฉลาด มองเห็นสิ่งต่างๆได้ แม้ยังไม่ปรากฏชัด ก็ได้กำไรชัดๆไปตามระเบียบ
หุ้นแลนด์ ไม่ได้ได้เปรียบหุ้นอสังหาตัวอื่นอีกต่อไป นโยบายสร้างเสร็จก่อนขาย ไม่ได้เป็นจุดตัดสินใจสุดท้ายอีกต่อไป ตอนนี้ ต้องใกล้รถไฟฟ้าเท่านั้น บ้านเดี่ยวที่ไหน จะมีปัญญาอยู่ใกล้รถไฟฟ้า คอนโดสร้างเสร็จก่อนขายก็เสี่ยงมาก เงินจมมาก และไม่สามารถทำทีละเฟสเหมือนบ้านเดี่ยว
2.เส้นจากอดีตไม่ได้ลากตรงไปที่อนาคต หุ้นเคยดี นั้นมีอยู่ทั่วไป หาหุ้นกำลังจะดี ดีกว่า แต่ตอนนี้ช่วงฝุ่นตลบ มันก็ต้องเดาเอาจากเส้นที่ลากมาจากอดีตก่อนละวะ ราคาแลนด์ก็มากหน่อย
3.ก็เหมือนที่คุณสุมาอี้เคยเขียนไว้ เรื่อง consumer syndrome
http://api.settrade.com/blog/1001ii/100 ... /04/01/456 ระวังว่าการโฆษณาสินค้าดูดี กิจการ image ดี ไม่ได้แปลว่ากิจการทำกำไรดี
1.เวลาหุ้นตัวไหน ราคาดี กำไรดีในช่วงนั้น ไม่ได้หมายความว่า กิจการในระยะยาวจากนี้จะดี เมื่อวันหนึ่งสิ่งต่างๆ ได้ปรากฏชัด ราคาและฝูงชนก็จะเคลื่อนไปตามนั้น และ นักลงทุนผู้ชาญฉลาด มองเห็นสิ่งต่างๆได้ แม้ยังไม่ปรากฏชัด ก็ได้กำไรชัดๆไปตามระเบียบ
หุ้นแลนด์ ไม่ได้ได้เปรียบหุ้นอสังหาตัวอื่นอีกต่อไป นโยบายสร้างเสร็จก่อนขาย ไม่ได้เป็นจุดตัดสินใจสุดท้ายอีกต่อไป ตอนนี้ ต้องใกล้รถไฟฟ้าเท่านั้น บ้านเดี่ยวที่ไหน จะมีปัญญาอยู่ใกล้รถไฟฟ้า คอนโดสร้างเสร็จก่อนขายก็เสี่ยงมาก เงินจมมาก และไม่สามารถทำทีละเฟสเหมือนบ้านเดี่ยว
2.เส้นจากอดีตไม่ได้ลากตรงไปที่อนาคต หุ้นเคยดี นั้นมีอยู่ทั่วไป หาหุ้นกำลังจะดี ดีกว่า แต่ตอนนี้ช่วงฝุ่นตลบ มันก็ต้องเดาเอาจากเส้นที่ลากมาจากอดีตก่อนละวะ ราคาแลนด์ก็มากหน่อย
3.ก็เหมือนที่คุณสุมาอี้เคยเขียนไว้ เรื่อง consumer syndrome
http://api.settrade.com/blog/1001ii/100 ... /04/01/456 ระวังว่าการโฆษณาสินค้าดูดี กิจการ image ดี ไม่ได้แปลว่ากิจการทำกำไรดี
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
โพสต์ที่ 26
แสดงว่าราคาหุ้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับกำไร หรือความสามารถในการทำกำไรอย่างเดียวใช่ไหมครับ ดูอย่าง spali ซิ มีอะไรที่สู้ land ps ap qh ไม่ได้บ้าง แต่ตลาดก็ให้พีอี 3-4 เท่าเหมือนเดิม
ปล.ชอบกลอนคุณโหน่งครับ คนอะไรเก่งทุกเรื่อง :lol:
ปล.ชอบกลอนคุณโหน่งครับ คนอะไรเก่งทุกเรื่อง :lol:
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
โพสต์ที่ 27
นั่นสิครับ นี่ล่ะคือประเด็นเลย แต่ผมจะรอดูระยะยาวอีกทีลูกอิสาน เขียน:แสดงว่าราคาหุ้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับกำไร หรือความสามารถในการทำกำไรอย่างเดียวใช่ไหมครับ ดูอย่าง spali ซิ มีอะไรที่สู้ land ps ap qh ไม่ได้บ้าง แต่ตลาดก็ให้พีอี 3-4 เท่าเหมือนเดิม
LH ตอนนี้เหมือนกับรวมความหวังทุกอย่างของนักลงทุนไว้หมด
ส่วนตัวรองๆลงมาถ้าพิสูจน์ไปอีกสัก 3-5 ปีว่าของจริง ตลาดก็น่าจะยกระดับ p/e ให้มากกว่าเดิม
It's earnings that count
-
- Verified User
- โพสต์: 2266
- ผู้ติดตาม: 0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
โพสต์ที่ 28
แต่spali ก็ไม่เคย trade pe สูงๆเลยนะ :?:Blueblood เขียน: นั่นสิครับ นี่ล่ะคือประเด็นเลย แต่ผมจะรอดูระยะยาวอีกที
LH ตอนนี้เหมือนกับรวมความหวังทุกอย่างของนักลงทุนไว้หมด
ส่วนตัวรองๆลงมาถ้าพิสูจน์ไปอีกสัก 3-5 ปีว่าของจริง ตลาดก็น่าจะยกระดับ p/e ให้มากกว่าเดิม
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
-
- Verified User
- โพสต์: 191
- ผู้ติดตาม: 0
LH ณ เวลานี้มีอะไรดีกว่าอสังหาตัวอื่นๆครับ
โพสต์ที่ 30
ผมว่าเหตุผลหนึ่งในการที่ LH มีPe นำในกลุ่มอสังหา ผมว่าเนื่องจาก LH เคยพิสูจน์ตัวเองว่าสามารถผ่านพ้นวิกฤตที่เราเชื่อกันว่าหนักที่สุดมาแล้วหนึ่งครั้งถ้าจะเปรียบก็เหมือนเรือที่รอดพ้นมรสุมลูกใหญ่มาได้ ทุกคนก็จะเชื่อมั่นว่ามรสุมลูกหน้ามันก็จะผ่านไปได้อืก บางตัวในตลาดตอนปี 40 นี่ย่ำแย่แบบเจียนตาย หรือ ไม่ก็ตายแล้วฟื้นมา แต่ผมมองว่าถ้าบริษัทอสังหาในปัจจุบันสามารถผ่านมรสุมลูกนี้ไปได้ Pe ในรอบหน้าก็จะสูงขึ้นตามครับ เพราะไงกลุ่มอสังหา ก็เป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนได้สูงในภาวะเศรษฐกิจดีอยู่แล้ว