ช่วยตอบคำถาม Money Management เหล่านี้หน่อยครับ คิดไม่ออก...
-
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วยตอบคำถาม Money Management เหล่านี้หน่อยครับ คิดไม่ออก...
โพสต์ที่ 1
คือได้ข้อสอบเก่ามาน่ะครับ มีบางข้อที่เถียงกันกับเพื่อนหาข้อยุติไม่ได้ซักที พี่ๆช่วยดูให้หน่อยนะครับ
1. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง
a. ผู้ลงทุนประเภทบุคคลธรรมดาจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ของกำไรจากการขายหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
b. โดยทั่วไปสำหรับบุคคลธรรมดา ดอกเบี้ยเงินฝากประจำที่ได้รับจากการเปิดบัญชีเงินฝากประจำกับธนาคารพานิชย์ในประเทศไทยจะต้องเสียภาษี 15% ไม่ว่าจะได้รับดอกเบี้ยเท่าใดก็ตาม
c. โดยทั่วไปสำหรับบุคคลธรรมดา ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ที่ได้รับจากการเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์กับธนาคารพานิชย์ในประเทศไทยไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่ว่าจะได้รับดอกเบี้ยเป็นเงินเท่าใดก็ตาม
d. เงินได้จากการขายหน่วยลงทุนในกองทุนรวมของบุคคลธรรมดาเป็นเงินได้ที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
1. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง
a. ผู้ลงทุนประเภทบุคคลธรรมดาจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ของกำไรจากการขายหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
b. โดยทั่วไปสำหรับบุคคลธรรมดา ดอกเบี้ยเงินฝากประจำที่ได้รับจากการเปิดบัญชีเงินฝากประจำกับธนาคารพานิชย์ในประเทศไทยจะต้องเสียภาษี 15% ไม่ว่าจะได้รับดอกเบี้ยเท่าใดก็ตาม
c. โดยทั่วไปสำหรับบุคคลธรรมดา ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ที่ได้รับจากการเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์กับธนาคารพานิชย์ในประเทศไทยไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่ว่าจะได้รับดอกเบี้ยเป็นเงินเท่าใดก็ตาม
d. เงินได้จากการขายหน่วยลงทุนในกองทุนรวมของบุคคลธรรมดาเป็นเงินได้ที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
-
- ผู้ติดตาม: 0
ข้อ 2. ข้อใดเป็นการลงทุนระยะสั้น
โพสต์ที่ 2
ข้อ 2. ข้อใดเป็นการลงทุนระยะสั้น
a.การซื้อตั๋วเงินคลัง
b. การซื้อหุ้นกู้
c. การซื้อหุ้นสามัญเพื่อรับเงินปันผลตอบแทน
d. การซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์
ไม่แน่ใจระหว่างข้อ a กับ c อ่ะครับ
a.การซื้อตั๋วเงินคลัง
b. การซื้อหุ้นกู้
c. การซื้อหุ้นสามัญเพื่อรับเงินปันผลตอบแทน
d. การซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์
ไม่แน่ใจระหว่างข้อ a กับ c อ่ะครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
ข้อ 3. ในสภาวะเศรษฐกิจโดยทั่วไปถ้าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลดลง ข
โพสต์ที่ 3
ข้อ 3. ในสภาวะเศรษฐกิจโดยทั่วไปถ้าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลดลง ข้อใดต่อไปนี้เป็นสิ่งที่จะเกิดตามมาในระยะสั้นถึงปานกลาง
a. อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น
b. ค่าเงินบาทลดลง
c. ปริมาณเงินฝากลดลง
d. อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มขึ้น
ข้อนี้ไม่มีไอเดียเลยครับ ผมเดาเอาอย่างเดียว...
ขอบคุณพี่ๆล่วงหน้าสำหรับคำตอบด้วยนะครับ
a. อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น
b. ค่าเงินบาทลดลง
c. ปริมาณเงินฝากลดลง
d. อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มขึ้น
ข้อนี้ไม่มีไอเดียเลยครับ ผมเดาเอาอย่างเดียว...
ขอบคุณพี่ๆล่วงหน้าสำหรับคำตอบด้วยนะครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วยตอบคำถาม Money Management เหล่านี้หน่อยครับ คิดไม่ออก...
โพสต์ที่ 4
ลองตอบดูครับ
ข้อ 1. ขอตามข้อ c ครับ เพราะผมเข้าใจว่าดอกเบี้ยที่ได้รับจากเงินฝากนั้นเราสามารถที่จะเลือกได้ว่า เราจะนำไปคำนวณเป็นรายได้ตอนสิ้นปี เพื่อคำนวณการเสียภาษีเงินได้หรือไม่ครับ
ข้อ 2. ผมว่าขึ้นอยู่กับอายุของหุ้นกู้และหุ้นกู้ด้อยสิทธิด้วยครับ
ข้อ 3. ดอกเบี้ยลด ถ้าไม่คิดมาก แน่นอนครับ ปริมาณเงินฝากก็น่าจะลดลงครับ
ข้อ 1. ขอตามข้อ c ครับ เพราะผมเข้าใจว่าดอกเบี้ยที่ได้รับจากเงินฝากนั้นเราสามารถที่จะเลือกได้ว่า เราจะนำไปคำนวณเป็นรายได้ตอนสิ้นปี เพื่อคำนวณการเสียภาษีเงินได้หรือไม่ครับ
ข้อ 2. ผมว่าขึ้นอยู่กับอายุของหุ้นกู้และหุ้นกู้ด้อยสิทธิด้วยครับ
ข้อ 3. ดอกเบี้ยลด ถ้าไม่คิดมาก แน่นอนครับ ปริมาณเงินฝากก็น่าจะลดลงครับ
- Meeja
- Verified User
- โพสต์: 333
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วยตอบคำถาม Money Management เหล่านี้หน่อยครับ คิดไม่ออก...
โพสต์ที่ 5
1. c (แก้จากเดิม พอดีอ่านโจทย์ผิด )
2. a
3. c
ไม่ต้องซีเรียส เขาดูข้อเขียนมากกว่า ผมว่านะ
Yoyo ตอนแรกพี่ว่าจะสมัครแต่ขี้เกียจแล้วว่ะ
สอบที่เกษตร ไกลไป
งวดนี้เอาพูดภาษาอังกฤษ 2 รอบเลยนะ
พี่ Chatchai
MM มันใช้ความเข้าใจง่ายๆ น่ะครับ
เป็นเหมือนโครงการที่ส่งเสริมให้เด็กรุ่นใหม่ รู้จักใช้ รู้จักออม มากกว่าครับ
2. a
3. c
ไม่ต้องซีเรียส เขาดูข้อเขียนมากกว่า ผมว่านะ
Yoyo ตอนแรกพี่ว่าจะสมัครแต่ขี้เกียจแล้วว่ะ
สอบที่เกษตร ไกลไป
งวดนี้เอาพูดภาษาอังกฤษ 2 รอบเลยนะ
พี่ Chatchai
MM มันใช้ความเข้าใจง่ายๆ น่ะครับ
เป็นเหมือนโครงการที่ส่งเสริมให้เด็กรุ่นใหม่ รู้จักใช้ รู้จักออม มากกว่าครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Meeja เมื่อ เสาร์ ก.ย. 04, 2004 10:47 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วยตอบคำถาม Money Management เหล่านี้หน่อยครับ คิดไม่ออก...
โพสต์ที่ 6
ข้อ 1 b
ข้อ 2 สามารถตอบได้ทั้ง a,c แต่ถ้าดูจากการวัดผลน่าจะตอบ a มากกว่า
ข้อ 3 b
ผมคิดว่าน่าจะเป็นแบบนี้นะครับ
ต้องดูความเห็นหลายคนด้วย
ข้อ 2 สามารถตอบได้ทั้ง a,c แต่ถ้าดูจากการวัดผลน่าจะตอบ a มากกว่า
ข้อ 3 b
ผมคิดว่าน่าจะเป็นแบบนี้นะครับ
ต้องดูความเห็นหลายคนด้วย
-
- Verified User
- โพสต์: 285
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วยตอบคำถาม Money Management เหล่านี้หน่อยครับ คิดไม่ออก...
โพสต์ที่ 7
ข้อ 1 ตอบ C ครับ
เพราะดอกเบี้ยออมทรัพย์ยกเว้นเฉพาะ
20,000 บาทแรกเท่านั้นของทุกบัญชีรวมกัน
และต้องเป็นบัญชีออมทรัพย์ที่ไม่ทำตัดบัญชีกับ
บัญชีกระแสรายวันด้วยนะครับ ประเภทตัดเช็ค auto นะครับ
แต่ถ้าเกิน 20,000บาท ต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15%
จากดอกเบี้ยออมทรัพย์ที่ได้รับทั้งหมดครับ
เพราะดอกเบี้ยออมทรัพย์ยกเว้นเฉพาะ
20,000 บาทแรกเท่านั้นของทุกบัญชีรวมกัน
และต้องเป็นบัญชีออมทรัพย์ที่ไม่ทำตัดบัญชีกับ
บัญชีกระแสรายวันด้วยนะครับ ประเภทตัดเช็ค auto นะครับ
แต่ถ้าเกิน 20,000บาท ต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15%
จากดอกเบี้ยออมทรัพย์ที่ได้รับทั้งหมดครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 285
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วยตอบคำถาม Money Management เหล่านี้หน่อยครับ คิดไม่ออก...
โพสต์ที่ 8
ข้อ 3 ตอบ C ก็แล้วกัน เดานะ
เพราะดอกเบี้ยลดเงิฝากต้องลดเนื่องจากคนจะ
ถอนเงินไปลงทุนประเภทอื่น ที่มีผลตอบแทนมากกว่า
ส่วนข้อ B ผมว่าการที่ดอกเบี้ยลด
น่าจะลดกันทั้งโลกมั้ง เลยอาจจจะไม่มีผลต่อค่าเงินบาท
แต่ถ้าของไทยเราลดอย่างเดียว
แต่ประเทศอื่นไม่ลดละก็
ค่าเงินบาทก็น่าจะลดลง
ผมให้น้ำหนัก C มากกว่าตามเหตุผลด้านบนครับ
เพราะดอกเบี้ยลดเงิฝากต้องลดเนื่องจากคนจะ
ถอนเงินไปลงทุนประเภทอื่น ที่มีผลตอบแทนมากกว่า
ส่วนข้อ B ผมว่าการที่ดอกเบี้ยลด
น่าจะลดกันทั้งโลกมั้ง เลยอาจจจะไม่มีผลต่อค่าเงินบาท
แต่ถ้าของไทยเราลดอย่างเดียว
แต่ประเทศอื่นไม่ลดละก็
ค่าเงินบาทก็น่าจะลดลง
ผมให้น้ำหนัก C มากกว่าตามเหตุผลด้านบนครับ
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วยตอบคำถาม Money Management เหล่านี้หน่อยครับ คิดไม่ออก...
โพสต์ที่ 9
อ่านจาก Link ครับ http://www.rd.go.th/publish/554.0.htm
ข้อ 1
1a ตรงกับ ข้อ 43 ได้รับการยกเว้น
1b จ่ายครับ จ่าย
1c ตรงกับ ข้อ 8 ได้รับการยกเว้น อ่านดีๆนะครับ มี"ออมทรัพย์เฉพาะ"ด้วย
1d ตรงกับ ข้อ 21 ได้รับการยกเว้น
สรุปว่าตอบ C
ข้อ 2 อ่านจาก Link http://www.scb.co.th/th/th_main_retail_ ... bill.shtml
2a จะเห็นว่าอายุไม่เกิน 1 ปี เป็นการลงทุนระยะสั้นแน่นอน
2d ห้นกู้ด้อยสิทธิ อ่านที่นี่ http://www.vcharkarn.com/magazine/issue ... 03_nan.php
สรุปว่าตอบ A
ข้อ 3 ตอบในยามปกติ
คือคนจะเอาไปลงทุนอย่างอื่นอะครับ
สรุปว่าตอบ C
ข้อ 1
1a ตรงกับ ข้อ 43 ได้รับการยกเว้น
1b จ่ายครับ จ่าย
1c ตรงกับ ข้อ 8 ได้รับการยกเว้น อ่านดีๆนะครับ มี"ออมทรัพย์เฉพาะ"ด้วย
1d ตรงกับ ข้อ 21 ได้รับการยกเว้น
สรุปว่าตอบ C
ข้อ 2 อ่านจาก Link http://www.scb.co.th/th/th_main_retail_ ... bill.shtml
2a จะเห็นว่าอายุไม่เกิน 1 ปี เป็นการลงทุนระยะสั้นแน่นอน
2d ห้นกู้ด้อยสิทธิ อ่านที่นี่ http://www.vcharkarn.com/magazine/issue ... 03_nan.php
สรุปว่าตอบ A
ข้อ 3 ตอบในยามปกติ
คือคนจะเอาไปลงทุนอย่างอื่นอะครับ
สรุปว่าตอบ C
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วยตอบคำถาม Money Management เหล่านี้หน่อยครับ คิดไม่ออก...
โพสต์ที่ 12
ข้อ 1 : ไม่ชัวร์ระหว่าง b กับ c (แต่คิดว่าน่าจะเป็น c)
ข้อ 2 : a แน่นอน
ข้อ 3 : b (โจทย์ถาม ในระยะสั้นถึงปานกลาง)
ข้อ 2 : a แน่นอน
ข้อ 3 : b (โจทย์ถาม ในระยะสั้นถึงปานกลาง)
-
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วยตอบคำถาม Money Management เหล่านี้หน่อยครับ คิดไม่ออก...
โพสต์ที่ 13
1 ซี ด/บออมทรัพย์เกิน10000ต่อปีเสีย15% กรณีผู้ให้เลขภาษีเมื่อเปิดบัญชีด/บเกิน20000ต่อปีจึงเสีย 15%
2 เอ ตั๋วเงินเป็นตราสารอายุสั้นที่สุดเทีบยกับข้ออื่น
3. บี ค่าเงินอ่อนตามทฤษฎี ฟิชเชอร์
2 เอ ตั๋วเงินเป็นตราสารอายุสั้นที่สุดเทีบยกับข้ออื่น
3. บี ค่าเงินอ่อนตามทฤษฎี ฟิชเชอร์
-
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วยตอบคำถาม Money Management เหล่านี้หน่อยครับ คิดไม่ออก...
โพสต์ที่ 14
1 ซี ด/บออมทรัพย์เกิน10000ต่อปีเสีย15% กรณีผู้ให้เลขภาษีเมื่อเปิดบัญชีด/บเกิน20000ต่อปีจึงเสีย 15%
2 เอ ตั๋วเงินเป็นตราสารอายุสั้นที่สุดเทีบยกับข้ออื่น
3. บี ค่าเงินอ่อนตามทฤษฎี Fisher Effect
2 เอ ตั๋วเงินเป็นตราสารอายุสั้นที่สุดเทีบยกับข้ออื่น
3. บี ค่าเงินอ่อนตามทฤษฎี Fisher Effect
-
- Verified User
- โพสต์: 27
- ผู้ติดตาม: 0
แหม Fisher
โพสต์ที่ 20
อ่านไปก็ข้อ1,2 ไม่มีปัญหา พอถึงข้อ3 เลยอดแย้งไม่ได้
Fisher Effect
A theory describing the long-run relationship between inflation and interest rate
This equation tells us that, all things being equal,
a rise in a country's expected inflation rate will eventually cause
an equal rise in the interest rate (and vice versa).
see Fisher equation
nominal rate of interest = real rate of interest + inflation
แปลตรงตัว คือ เงินเฟ้อขึ้น จะทำให้ ดบ.ขึ้น
ไม่ได้รับรองการตีความกลับ หรือผลกระทบชิ่งนะจ๊ะ แต่ถ้าจะ
อนุมานง่ายๆตามโจทย์คือ ดบ.ลด มักคู่กับ เงินเฟ้อลด (ข้อ a ผิดเพราะตรงกันข้าม) (แต่ระยะยาว)
อีกข้อที่ผลตรงข้ามคือข้อ d เพราะดบ.ลด ดบ.กู้ก็จะลดด้วย ม่ายช่ายขึ้น (ข้อ d ตัดทิ้ง)
เหลือ b กับ c ที่เป็นปัญหา อะไรจะเกิดเมื่อดบ.ฝากลด?
b ค่าเงินบาทลด
เมื่อดบ.ฝาก ลด กองทุนinterถอนเงินไปฝากประเทศอื่น มากๆเข้า -เงินไหลออก -ค่าเงินลด
ดูน่าจะเป็นคำตอบที่ถูกได้
แต่ค่าเงินขึ้นกับหลายปัจจัย และเงินเฟ้อ+ดบ.ก็มีผลด้วย
ดูความจริงทั่วไป ประเทศที่ค่าเงินอ่อน จะมีเฟ้อสูง ดบ.สูง
ประเทศที่ค่าเงินแข็ง จะมีเฟ้อต่ำ+ดบ.ต่ำ (ค่าเงินแข็ง-แย้งกับคำตอบ b )
จึงเกิดผลแย้งได้ (เพราะมี interrelation effect ระหว่างดบ.-เฟ้อ-ค่าเงิน-ส่งออก-ลงทุน)
คำตอบนี้จึงยังไม่ชัดเจน ยิ่งถ้า ปริมาณ อัตราดบ.ที่ลดลงไม่มาก และไม่เกิดเดี่ยว(ประเทศอื่นก็ลด)
ก็ยิ่งไม่ส่งผลต่อค่าเงิน
c ปริมาณเงินฝากลด
ตรงๆง่ายๆ คนก้อถอนไปทำอย่างอื่น (เวลาสภาพคล่องล้น เค้าก็ลดดบ.นี่แหละ..ช่วยได้เลย)
ปริมาณเงินฝากไม่ขึ้นแน่ๆ เมื่อดบ.ลด (ไม่เกิดผลตรงกันบ้ามกับคำตอบ)
ควรฟันธงได้นะ ว่าตอบข้อ c ดีกว่า : )
Fisher Effect
A theory describing the long-run relationship between inflation and interest rate
This equation tells us that, all things being equal,
a rise in a country's expected inflation rate will eventually cause
an equal rise in the interest rate (and vice versa).
see Fisher equation
nominal rate of interest = real rate of interest + inflation
แปลตรงตัว คือ เงินเฟ้อขึ้น จะทำให้ ดบ.ขึ้น
ไม่ได้รับรองการตีความกลับ หรือผลกระทบชิ่งนะจ๊ะ แต่ถ้าจะ
อนุมานง่ายๆตามโจทย์คือ ดบ.ลด มักคู่กับ เงินเฟ้อลด (ข้อ a ผิดเพราะตรงกันข้าม) (แต่ระยะยาว)
อีกข้อที่ผลตรงข้ามคือข้อ d เพราะดบ.ลด ดบ.กู้ก็จะลดด้วย ม่ายช่ายขึ้น (ข้อ d ตัดทิ้ง)
เหลือ b กับ c ที่เป็นปัญหา อะไรจะเกิดเมื่อดบ.ฝากลด?
b ค่าเงินบาทลด
เมื่อดบ.ฝาก ลด กองทุนinterถอนเงินไปฝากประเทศอื่น มากๆเข้า -เงินไหลออก -ค่าเงินลด
ดูน่าจะเป็นคำตอบที่ถูกได้
แต่ค่าเงินขึ้นกับหลายปัจจัย และเงินเฟ้อ+ดบ.ก็มีผลด้วย
ดูความจริงทั่วไป ประเทศที่ค่าเงินอ่อน จะมีเฟ้อสูง ดบ.สูง
ประเทศที่ค่าเงินแข็ง จะมีเฟ้อต่ำ+ดบ.ต่ำ (ค่าเงินแข็ง-แย้งกับคำตอบ b )
จึงเกิดผลแย้งได้ (เพราะมี interrelation effect ระหว่างดบ.-เฟ้อ-ค่าเงิน-ส่งออก-ลงทุน)
คำตอบนี้จึงยังไม่ชัดเจน ยิ่งถ้า ปริมาณ อัตราดบ.ที่ลดลงไม่มาก และไม่เกิดเดี่ยว(ประเทศอื่นก็ลด)
ก็ยิ่งไม่ส่งผลต่อค่าเงิน
c ปริมาณเงินฝากลด
ตรงๆง่ายๆ คนก้อถอนไปทำอย่างอื่น (เวลาสภาพคล่องล้น เค้าก็ลดดบ.นี่แหละ..ช่วยได้เลย)
ปริมาณเงินฝากไม่ขึ้นแน่ๆ เมื่อดบ.ลด (ไม่เกิดผลตรงกันบ้ามกับคำตอบ)
ควรฟันธงได้นะ ว่าตอบข้อ c ดีกว่า : )
- Amorna
- Verified User
- โพสต์: 454
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วยตอบคำถาม Money Management เหล่านี้หน่อยครับ คิดไม่ออก...
โพสต์ที่ 21
เสริมข้อ 3 ที่ตอบ C ...
เหมือนกับภาวะเศรษฐกิจของไทยช่วงหลังนี้ไง....
คนเลยถอนตังค์มาซื้อหุ้น หรือซื้อพันธบัตร หรือทำหอพัก...กันหมด..
เหมือนกับภาวะเศรษฐกิจของไทยช่วงหลังนี้ไง....
คนเลยถอนตังค์มาซื้อหุ้น หรือซื้อพันธบัตร หรือทำหอพัก...กันหมด..
Price is what you pay, value is what you get.