รุ้งกินน้ำ

[kornjackrit]

เรื่องการเก็บกดของเด็กหงส์ จริงแท้ซะยิ่งกว่าอะไรอีกคับ

เพื่อนผมเชียร์หงส์พูดแบบที่ บ บู๋ ว่ามายังกะ Copy แล้ว Paste

 :shock:

[por_jai]

อ่าน ขำๆ ครับ
   
   

[por_jai]

แหะ...บ บู่ฉะครับไม่ใช่ผมฉะ
     ผมไม่ใช่แฟนทีมไหนทั้งสิ้น
     ชอบดูคนเก่งๆเทคนิคขั้นเซียนๆร่ายรำในสนามมากกว่า
     ตอร์เรสผมก็ชอบ พี่เจิดผมยิ่งชอบใหญ่
     โรนัลโด้ผมก็ชอบ
     ตอนนี้ดูอาร์ชาวินก็ยิ่งชอบ
     แต่บ บู๋ แกเขียนได้แสบดีครับ ชอบ
     เทคนิค บ บู๋นี่ขั้นปรมาจารย์เหมือนกัน ก็เลยชอบตามอ่าน
     แล้วแกก็ประกาศตัวว่าเป็นสาวกผีเต็มที่
     
     พี่บูจะสั่งอาร์ก้า เอ็ม79 ไปยิงใครก็อ่านโพสนี้ก่อนนาครับ...ฮ่า...
     อ้อ...พี่ฉัตรด้วยนะคร้าบ...ฮ่า...อีกที

[por_jai]

เรื่องเชียร์ทีมบอลเพื่อความสนุกก็พอเข้าใจนะครับ ถ่มถุยกันบ้างก้อพอสะใจไปวันๆ...แต่เคยมีเพื่อนถามว่่า ไม่เข้าใจว่า ที่เราเุถียงๆตอเปน้อ็นแทนทีมในดวงใจกันเนี่ย จนบางครั้งหวิดมีมวย เราได้อะไรหรือได้ตังจากนักเตะกะเค้าสักบาทไหมเนี่ย...สงสสัยว่าผมกะเพื่อนนี่ หน้าเลือดขั้นเทพ เอะอะก้อเงินๆๆ

เดย์เทรดมันจะเจ็บใจมากตรงที่หุ้นในตลาดทุกตัวขึ้น ยกเว้นหุ้นที่เราถือ5555

หลวงพ่อว่าที่คนเราทะเลาะกันมาจาก2เหตุ

ทิฏฐิ กับ ตัณหา

ส่วนเรื่องเดย์เทรด ที่ผมเห็นมา
ถ้าเดย์เทรดจริง
จะรู้ว่าหุ้นตัวไหนควรจะขึ้นเมื่อไรครับ

เวลามาถึงแล้วยังไม่ขึ้น
นี่ต้องหนี เผ่นพันลี้แล้วครับ

[por_jai]

เรื่องการเก็บกดของเด็กหงส์ จริงแท้ซะยิ่งกว่าอะไรอีกคับ

เพื่อนผมเชียร์หงส์พูดแบบที่ บ บู๋ ว่ามายังกะ Copy แล้ว Paste

 :shock:

เมื่อก่อนเวลาตั้งวงคุยกัน
ต้องบอกก่อนว่าเรื่องที่คุยกันต้องไม่มีเรื่อง
1.การเมือง
2.ศาสนา
และตอนนี้อาจต้องเพิ่มเรื่องที่สาม
3.ฟุตบอลอังกฤษ
ฮ่า....
ม่ายงั้นตีกันต๊าย...แน่...

อ้อ...วันนี้มีธุระไปก่อนละครัาบ
เดี๋ยวพี่บูมา...แฮ่...
เย็นๆเจอกันอีกรอบ

[por_jai]

พี่เย่หย่งเทียน เซียนเหล็กประจำสินธร
     ว่าไว้น่าอ่านเชียวครับ

      ## มนุษย์หุ้น ชีวิตต้องหุ้น ## : ใบเลื่อย2ใบ กับมุมมอง2วัย

http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 46767.html

[oatty]

ชอบตรงที่คำว่า "การลงทุนนั้น คือการลงทุนตลอดชีวิต"  :idea:
กลั่นออกมาคล้ายดอกเตอร์เลย

[por_jai]

เอ้า เตรียมตัวเป็นห่าน...โดยเฉพาะคนขับรถ
http://www.thairath.co.th/content/eco/4728
     ถ้าเป็นรัดถะแล้วคิดได้แค่เนี้ย
     ก็.......อ้าวลืมไปเค้าห้ามคุยเรื่องการเมือง
     ผมมาร์คสีฟ้าไว้ให้อ่านตอนทีเด็ด(ของนักการเมือง)

ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์
"ปิยสวัสดิ์" หนุนขึ้นภาษีน้ำมันลิตรละ 2 บาท โปะรายได้รัฐ ไม่ห่วงฐานะกองทุนน้ำมันฯ เพียงพอรับมือได้ ด้านสรรพากรรับรายได้ หลุดเป้า 6 หมื่นล้าน...
ส่วนภาษีสรรพสามิตน้ำมันจะขยายเพดานเพิ่มขึ้นสูงสุด 10 บาทต่อ ลิตร จากปัจจุบันที่จัดเก็บในอัตรา 5 บาทต่อลิตร และได้จัดเก็บเต็มเพดานไปแล้ว โดยจะจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2 บาทต่อลิตร รวมเป็น 7 บาทต่อลิตร และภาษีสรรพสามิตของแก๊สโซฮอล์จาก 4.50 เป็น 6.30 บาท ส่วนภาษีน้ำมันดีเซลยังไม่มีการปรับอัตราภาษีที่เก็บอยู่ที่ 3.30 บาทต่อลิตร ทั้งนี้ รัฐบาลจะเสนอพระราชกำหนดภาษีสรรพสามิตยาสูบ  และ ภาษีสรรพสามิตน้ำมัน รวมทั้งพระราชกำหนดกู้เงิน 4 แสนล้านต่อสภาผู้แทน ในวันที่ 12 พ.ค.นี้ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายต่อไป
สำหรับข้อสงสัยเรื่องของภาษีสรรพสามิตน้ำมันว่าจะมีการจัดเก็บจริง อัตราเท่าไรนั้น นพ.พฤฒิชัยกล่าวว่า การขอขยายเพดานภาษีจาก 5 เป็น 10 บาทนั้น เป็นเพียงการขอขยายเพดานไว้เท่านั้น แต่ขณะนี้รัฐได้พิจารณาแล้วจะจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในอัตรา 2 บาทเท่านั้น ยังไม่มีแนวคิดจะเก็บ เพิ่มในอนาคตอันใกล้
"ปิยสวัสดิ์" เชียร์รัฐทำได้
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ที่ปรึกษามูลนิธิพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อมกล่าวถึงกรณีรัฐบาลมีนโยบายปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันว่า เป็นสิ่งที่ควรดำเนินการเพราะรัฐบาลกำลังต้องการรายได้เข้าคลังในขณะที่กระทรวง พลังงานสามารถใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาดูแลราคาขายปลีกไม่ให้ ปรับเพิ่มขึ้นได้  โดยการลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯตามสัดส่วนที่จะมีการ ปรับขึ้นภาษี ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำมันในเรื่องราคาขายปลีก
ส่วนกรณีที่เป็นห่วงฐานะกองทุนน้ำมันฯจะมีรายได้ลดลงเมื่อต้องลดอัตราการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนนั้น ปัจจุบันกองทุนน้ำมันมีสภาพคล่อง สุทธิในหลักหมื่นล้านบาท ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี จึงไม่น่ามีปัญหา ในทางกลับกันหากกองทุนน้ำมันมีเงินมากเกินไปก็จะมีการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นเกิดขึ้นได้ "ขณะนี้ยังไม่ทราบอัตราภาษีน้ำมันที่จะ เก็บขึ้นเป็นจำนวนเท่าไหร่ แต่รัฐบาลกำลังต้องการเงินจำนวนมาก การขึ้นภาษีน้ำมันช่วงนี้เป็นจังหวะ ที่ทำได้เพราะราคาน้ำมันไม่ได้อยู่ในระดับที่สูงเกินไป และรัฐบาลก็ใช้วิธีลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯแทน โดยไม่ทำให้ราคาขายปลีกเปลี่ยนแปลง"
ใช้กองทุนน้ำมันลดผลกระทบ
นพ.วรรณรัตน์  ชาญนุกูล  รมว.พลังงาน  กล่าว ว่า ในช่วงเวลาใดที่กระทรวงการคลังจะปรับขึ้น ภาษีสรรพสามิตน้ำมัน   กระทรวงพลังงานจะใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเข้ามาเป็นกลไกบริหารจัดการไม่ให้ราคาที่ต้องปรับขึ้นใหม่เป็นภาระของประชาชน ด้วยการลดการจัดเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันที่ต้องส่ง เข้าสะสมในกองทุนน้ำมันลงทันที เช่นหากขึ้น ภาษี 2 บาทต่อลิตร ก็จะลดการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมัน 2 บาทต่อลิตร ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันไม่มีการปรับขึ้น ซึ่งจะต้องใช้เงินจากกองทุนน้ำมัน ชดเชยภาระแทนประชาชนประมาณ 5,300 ล้านบาท
"สำหรับอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันที่ยังไม่มีการจัดเก็บให้ครอบคลุมตามที่กระทรวงการคลัง ต้องการ แต่ก็จะมีการทยอยจัดเก็บเป็นระยะๆ  ใช้เงินกองทุนน้ำมันซึ่งมีเม็ดเงินประมาณ 10,000 ล้านบาท เข้ามาเป็นกลไกบริหารจัดการ คาดว่า จะผ่อนภาระให้ประชาชนได้ประมาณ 10 เดือน และหากช่วงใดราคาน้ำมันตลาดโลกลดลงจนส่งผลให้ราคาขายปลีกปรับลดลง จึงจะมีการใช้กลไกชะลอการลดราคาให้ประชาชน เพื่อเรียกเก็บเงินมาสะสมในกองทุนน้ำมันต่อไป เหมือนกับการถ่ายเงินจากกระเป๋าซ้ายมาใส่กระเป๋าขวา"

[por_jai]

เฮียสอนรุ่้นน้องๆ

อ่านไว้มีคุณค่ากับชีิวิตมากมายครับ

หนุ่มสองเอ็ม
บางทีไม่ใช่ว่่า เราหยิบมาใช้งานไม่เป็นนะ

ปํญหาที่สำคัญที่สุด
มันขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานสะสมของเรามากกว่าอะไรทั้งหมด

ก็ต้องเลือกความรู้ที่คิดว่าเป็นประโยชน์  
แล้วมั่นใจว่าเราจะ


"ทำได้"  

อย่างผม  
หลังจากเคยตามอ่านตามดูตามฟัง  
ข้อมูลข่าวสารจนหุอื้อตาลายไปหมด
ในที่สุดก็ลงความเห็นว่า

ความรุ้ที่มีประโยชน์ และผมจะทำได้แน่ๆ  ก็คือ
หาหุ้นที่คิดว่ามันดีๆ  ตามปัจจัยพื้นฐานสะสมของมัน

แล้วก็ถือรอ
ให้มันขยับจากหุ้นดีๆ  ที่มีราคาหุ้นดีๆ  สำหรับซื้อ
ขึ้นไปเป็นถือ  และจบลงด้วย
ราคาหุ้นๆดี  สำหรับขาย

ฝึกข้อนี้ก่อนเลย   แล้วคอยเสริมอันอื่นเข้าไปเช่น

คลายเครียดเรโช   ชอร์ตอะเกนส์พอร์ต เปลี่ยนหุ้นตามยีลด์
ทำได้บ้าง  ทำไม่ได้บ้าง  

"แต่ก็ถูกมากกว่าผิด"

อย่างเช่นตอนนี้  
พอร์ตคุณหมูทำเรคคอร์ดไฮต่อเนื่อง
เพราะคุณหมู  

"ทำได้   ตามความรู้ที่มีประโยชน์กับตัวเอง"

เส้นแบ่งความสำเร็จของนักลงทุน
มันก็อยู่ที่ว่า

"ความรู้ที่ได้มา   มีประโยชน์และสามารถทำตามนั้นได้หรือไม่"

อ่านตำราหุ้นไม่ว่ากี่เล่ม  
ลงท้ายก็สรุปได้แค่นั้นจริงๆ

[por_jai]

เลิกสูบบุหรี่ได้จังหวะจริงๆ


สิงห์อมควันกระอัก บุหรี่ไทยขึ้นราคา ขายซองละ 50-55

11 พค. 2552 19:05 น.

   หลังมีข่าวว่า รัฐบาลจะขึ้นภาษีสรรพสามิตของบุหรี่ทำให้เกิดผลกระทบกับสิงห์อมควันในพื้นที่กาญจนบุรี ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบร้านขายเครื่องดื่มและบุหรี่ในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองกาญจนบุรี หลังจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองกาญจนบุรีว่า ขณะนี้พ่อค้าแม่ค้าที่ขายบุหรี่ต่างขึ้นราคาขายปลีกบุหรี่เป็นซองละ 50 -53 บาทแล้ว
   ผลการตรวจสอบพบว่า ร้านขายบุหรี่ต่างขึ้นราคาบุหรี่ไทยเป็นซองละ 50 บาท และบางร้านขายของปลีกที่อยู่เขตนอกตัวเมืองขายถึงซองละ 53 บาท
และที่แพงที่สุดเป็นเขตอำเภอรอบนอกขายสูงถึงราคาซองละ 55 บาท
ส่วนในร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลเว่นพบว่าบุหรี่ไทยขาดตลาด
เหลือแต่บุหรี่นอกที่ตั้งโชว์บริการลูกค้าเท่านั้น แต่ขายในราคาปกติ

[AuI_a VI]

เลิกสูบบุหรี่ได้จังหวะจริงๆ


สิงห์อมควันกระอัก บุหรี่ไทยขึ้นราคา ขายซองละ 50-55

เลิกได้แล้วหรอคับพี่ ยินดีด้วยนะครับ ดีใจด้วยจริงๆที่พี่จะได้มีสุขภาพดีๆยิ่งๆขึ้นไปอีก  

[por_jai]

เลิกได้แล้วหรอคับพี่ ยินดีด้วยนะครับ ดีใจด้วยจริงๆที่พี่จะได้มีสุขภาพดีๆยิ่งๆขึ้นไปอีก  

ขอบคุณครับหมออุ้ยที่เป็นห่วง
เลิกแล้วค่ะ หนูเลิกกับเขาแล้วค่ะ...ฮ่า...

[sattaya]

[quote="por_jai"][quote="AuI_a VI"]

เลิกได้แล้วหรอคับพี่ ยินดีด้วยนะครับ ดีใจด้วยจริงๆที่พี่จะได้มีสุขภาพดีๆยิ่งๆขึ้นไปอีก

[por_jai]

ดาวส่วนดาว เซทส่วนเซท...ฮ่า...

[por_jai]

พี่ป้อมเลิกสูบแล้วชวนพระอาจารย์แม็กเลิกด้วยสิครับ

ผมเป็นลูกศิษย์ชั้นหางแถว
ไปยุ่งกับแกมาก
เดี๋ยวโดนแกเฉดหัวออกจากสำนัก
อดตายกันพอดี

[f.escape]

แฟนเคยบอกว่า เลิกบุหรี่ไม่ยาก
เลิกมาได้ตั้งหลายครั้งแระ

[por_jai]

แฟนเคยบอกว่า เลิกบุหรี่ไม่ยาก
เลิกมาได้ตั้งหลายครั้งแระ

จริงครับผมเองก็เลิกมาร้อยกว่าครั้งแล้ว
บอกเพื่อนฝูงครั้งใดว่าเลิก
พวกมันเมินหน้าหนีแล้ว
บอกเดี๋ยวมรึงก็กลับมาสูบอีก
มันบอกประมาณว่าหมาไม่เลิกกินขรี้
มรึงก็ไม่เลิกบุหรี่ไปได้...ดอก...
ก็ลองดูครับ ขำๆ
อยู่กับปัจจุบันไปเรื่อยๆ อย่างน้อยปัจจุบันก็ยังไม่ได้เริ่มสูบนิ...

[por_jai]

อินดิเคเต้อร์ที่น่าดูยิ่งกว่า ดาวขึ้นหรือดาวตก

   

[por_jai]

วันนี้เอาเวรี่ลองไดเวอร์เจ๊งมาให้ดู

[por_jai]

กระทู้แนะนำประจำวัน
     พี่เย่ ณ สินธร รจนาให้อ่านกัน
     ผมชอบมุมมองพี่เย่ จริงๆ

การลงทุนนั้นไม่ยาก การควบคุมอารมณ์นั้นยากกว่า

http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 55739.html

[romee]

เขียนได้โดนจริงๆครับ กับคุณพี่เย่...

อันว่าอารมณ์ แม้เราจับต้องมันได้ ให้รู้เท่าทันมัน ผมว่าเป็นเซียนไปแล้ว ครึ่งตัว

แต่ตอนนี้ นอกจากผมจะจับมันไม่ได้ บางที มันยังกระเจิงไปใหนก็ไม่รู้  :lol:

[Ryuga]

ดู P/E ตลาดนี่สนุกดีนะครับ ตอนนั้นฝอยไว้เมื่อหลายวันก่อน วันที่ IRPC ออกงบ (19 กุมภา) P/E ตลาดได้ขึ้น 8 เท่า ต่อมาวันที่พี่ใหญ่ PTT ออกงบ (20 กุมภา) P/E ตลาดก็ขึ้น 9 เท่า พอมาวันที่ 27 มีเจ้าจำปี ขาดทุนเท่าฟ้าออกงบมา P/E ตลาดก็วิ่งไป 10 เท่า เปิดตลาดเดือนใหม่ยังมีน้อง ESSO, GJS และคณะออกงบมา P/E ตลาดจึงวิ่งไปทะลุ 11 เท่า แต่เพราะวันนั้นหุ้นร่วงลงมา 15 จุด P/E ปิดตลาดเลยลงมาสวยงามอยู่ที่ 10.9 เท่า

เห็นว่าข่าว SET ลงวันที่ 5 มีนา ก็รายงานกำไรรวม 313 พันล้านบาท แต่มูลค่าตลาดรวม 3.3 ล้านล้านบาท แทนที่ P/E ตลาดจะเป็น 10 เท่ากว่าๆ ก็เห็นรายงาน 7 เท่าเหมือนเดิม อัพเดทช้าดีจริงๆ  :lol:

ผลประกอบการงามสุดต้องยกให้กลุ่มวัตถุดิบอุตสาหกรรม เพราะรวม 4 ไตรมาสย้อนหลังมีผลขาดทุนรวมกันถึง 11 พันล้านบาท ถ้านับเฉพาะ Q4 ที่ผ่านมา จาก 23 บริษัทในกลุ่มแล้วละก็ มีอยู่เพียง 4 บริษัทที่ประกาศผลกำไรลดลง (คือยังมีกำไรอยู่) ส่วนอีก 19 แห่งที่เหลือขาดทุนทั้งหมด

สรุปพอออกงบปีเสร็จ ฐานกำไรรวม(ทั้งสิ้น)ของบริษัทจดทะเบียนร่วงลงมา 38.9% เหลือแค่ 301 พันล้านบาท ตอนนี้หลังจากออกงบ Q1 แล้วก็ต้องปรบมือดังๆ ให้พี่ใหญ่ ปตท. ที่สามารถกระชาก P/E ตลาดได้อย่างรุนแรงที่สุด เฉพาะ Q นี้ฐานกำไรยังร่วงลงมาอีก 23.7% เหลือแค่ 229 พันล้านบาท หรือลดลงเบ็ดเสร็จนับจาก Q3 ปีก่อนมาแล้ว 53.4% การร่วงลงของหุ้นก่อนหน้าผลประกอบการออกตั้งแต่ต้นนั้นจึงเป็นเรื่องยืนยันว่าโหร ตลท. ก็ยังแม่นใช้ได้อยู่  :8)

ยังไงก็ตาม ตอนนี้ P/E ตลาดไป 19.3 เท่า แล้ว นับว่าสูงที่สุดในรอบเกือบ 6 ปี สูงเกินกว่าตอนปิดตลาด 29 ตุลา 2007 ที่ 18.8 เท่า เสียอีก (เป็นไฮใหม่) ก็ตื่นเต้นสนุกสนานกันดีนะครับ  :lol:

[por_jai]

ได้ดูสปอตโฆษณาชุดนี้ทางCNBCบ่อยมาก
      นั่งดูๆอยู่เอ...นี่มันมาโฆษณาให้เมืองไทยหรือเปล่าหว่า
      ฮ่า...
      ดูๆแล้วมาเลย์ทำโฆษณาชุดนี้มาเสียตังเปล่าๆปลี้ๆนะครับ
      ยังกะรู้ว่าเมืองไทยไม่ยอมทำโฆษณา
      ผู้ใหญ่ไทยที่ดูงานท่องเที่ยว ท่านชอบโรดโชว์
      ไม่รู้ไง ชอบกันจริ๊ง....ฮ่า...อีกที

http://www.tourismmalaysia.gov.my/

[por_jai]

จากกราฟหุ้นที่เคยลง
     เวรี่ลองไดเวอเจ๊นท์
     ลองมาติดตามสภาพการณ์ของหุ้นกลุ่มพลังงานกัน
     
1.วันนี้ดาวแดง แต่น้ำมันบวก มาติดตามกันดูว่าเซทจะัออกอาการอย่างไรบ้าง
2.สต๊อกน้ำมันดัน PTT จ่อกำไร 200 ล้านดอลล์
   PTT ผลงานไตรมาส 2/2552 แจ่ม
คาดบุ๊กกำไรสต๊อกน้ำมันถึง 200 ล้านดอลลาร์ "
ประเสริฐ บุญสัมพันธ์" พูดชัด
หากราคาน้ำมันยืนเหนือ 50 ดอลลาร์
จะฟันกำไรทันที 10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
จากปริมาณน้ำมันสำรองทั้งกลุ่มที่มีถึง 20 ล้านบาร์เรล
แถมตั้งงบลงทุนปีนี้อีก 7 หมื่นล้านบาท ขยายลงทุนก๊าซ 58%
ที่เหลือให้บริษัทลูกขยายกิจการและควบรวม
ด้าน "ชนินท์ ว่องกุศลกิจ" เจ้าสัว BANPU
ประกาศล็อกราคาขายล่วงหน้าถ่านหินทั้งปีไว้แล้ว
70% เฉลี่ยอยู่ที่ 71-72 ดอลลาร์ต่อตัน
การันตีกำไรไม่ตก
3.ปตท.ปรับขึ้นเบนซิน-ดีเซล เหตุราคาน้ำมันตลาดโลกทะยานขึ้นต่อ
   นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ตลาดขายปลีกหน่วยธุรกิจน้ำมัน
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า
ราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง
จากข่าวโรงกลั่นบริษัท Flint Hills Resources
ที่เมืองCorpusChristi มลรัฐเท็กซัส ของสหรัฐ
ซึ่งมีกำลงการผลิต 288,000 บาร์เรลต่อวัน
เกิดเหตุเพลิงไหม้และต้องปิดฉุกเฉินวานนี้
ี้ประกอบกับหน่วยผลิตน้ำมันและโรงกลั่นของบริษัท Sunoco ที่เมือง Marcus Hook มลรัฐเพนซิลวาเนีย
กำลังผลิต 178,000 บาร์เรลต่อวัน
ยังไม่สามารถกลับมาเดินเครื่องได้จากเหตุเพลิงไหม
้เมื่อวันนี้ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา

4.'PTTAR' ลงล็อกแผนโครงการยูโร 4 เชื่อ Q2 โตกว่าไตรมาสก่อนชัวร์
   PTTAR ลั่นภายใน 1-2 เดือนนี้ได้ข้อสรุปลงทุนโครงการยูโร 4
คาดทุ่มทุนราว 240 ล้านดอลลาร์
 ด้านผู้บริหาร "ชายน้อย เผื่อนโกสุม" เผยหารือบริษัทแม่ PTT
และกระทรวงพลังงานอย่างใกล้ชิด
ส่วนผลงานไตรมาส 2/2552 มั่นใจโตกว่าไตรมาสก่อนชัวร
์ หลังความต้องการใช้ในจีนพีค
หนุนราคาส่วนต่างสเปรค PX-BZ เป็นบวก
โบรกปรับประมาณการกำไรปีนี้เพิ่ม 16% เป็น 6,903 ล้านบาท
และปรับผลกำไรปีหน้าเพิ่ม 15% เป็น 7,427 ล้านบาท
เติบโต 8%

[por_jai]

บทความใหม่ของพี่เย่ ณ สินธรครับ

## มนุษย์หุ้น ชีวิตต้องหุ้น ## : วิถีทางบ่อน วิถีทางหุ้น ฝ่ามือเป็นผู้กำหนด  
เคยมีคำกล่าวที่ว่า “เก่งสู้เฮงไม่ได้” “คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิชิต”  

   หากเป็นสมัยก่อนช่วงวัยละอ่อน วัยที่มีความคิดอ่านกว้างไกล มีความคิดเสมอว่า ความขยัน
ความเก่งและรู้จริงในสิ่งที่ทำจะนำมาซึ่งความสำร็จ พรสวรรค์หรือจะสู้พรแสวงหานั้นตราบจนทุกวันนี้
ความคิดต่างเหล่านี้ได้ถูกปรับเปลี่ยนเอนเอียงไป เอนเอียงไปทางที่คิดเสมอว่า ชะตาฟ้าลิขิตแล้ว
มิอาจจะฝืนชะตาฟ้าได้ ผู้ที่คิดจะฝืนชะตาฟ้า ต้องมีอารมณ์บ้าหลุดโลกถึงจะทำได้ เหตุใดทำให้
ความคิดเอนเอียงได้ถึงเพียงนี้???


  อะไรคือพรสวรรค์ อะไรคือชะตาฟ้า ที่เราต้องเชื่อ ผมขอเว้นคำตอบเอาไว้ก่อน


   ขอเล่าสู่สมัยเด็ก สมัยที่เทคโนโลยีพื้นบ้านยังคงโดดเด่นมากกว่าเทคโนโลยีไร้สาย
คำว่าชุมชนยังโดดเด่นมากกว่าคำว่าสังคม คำว่าเจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลยังคงโดดเด่นมากกว่า
คำว่าเจ้าสัวและผู้บริหารดีเด่น   ครอบครัวคนจีนจะเป็นครอบครัวที่ใหญ่ลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง
และเป็นที่ทราบกันดีว่าคนจีนมักจะคู่กับการเสี่ยงโชค มีงานก็ตั้งวงไพ่ มีสลากกินแบ่งให้เล่น
ก็ทำให้เป็นใต้ดิน เดือนละสองครั้งไม่พอ ต้องให้มีทุกวัน หวยปิงปอง หวย12ตัว มีมากมายหลาย
อย่างให้เลือก และพัฒนาการอีกขั้นก็คือ การเปิดคาสิโน พูดให้ฟังง่ายแบบผิดกฏหมาย ก็คือ
การเปิดบ่อนนั่นเอง

   คำว่าสังคม ผู้คนสมัยนั้นไม่รู้จัก รู้จักแต่คำว่าชุมชน  หากเพียงคุมชุมชนในซอยนั้นได้
คำว่าเจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลก็จะได้รับตามมา และหากมีกิจกรรมที่ผิดกฎหมายที่กว้างขวางขึ้น
ไปอีก พัฒนาการอีกขั้นก็คือการเมืองท้องถิ่น การเมืองระดับชาติ  (หากยังมีชีวิตรอดจาก
กระสุนและอยู่ถึงเวลานั้น)  

ไม่น่าแปลกใจที่ผมจะได้คลุกคลีกับสิ่งต่างๆเหล่านี้ตั้งแต่วัยเด็ก เพราะครอบครัวที่ผมอยู่ก็คุมซอยๆนั้น

บ่อนคือสิ่งที่ผมเริ่มจะเห็นและจำความได้ในช่วงนั้น  คนดูต้นทางมีหลายจุดเพื่อระวังเจ้าหน้าที่
กว่าจะเข้าถึงตัวบ่อนได้ต้องผ่านการคัดกรองอย่างดี  ทุกๆเช้าผมจะลงไปเล่นดีดลูกหินกับเพื่อนๆ
ที่หน้าบ่อนจึงได้เห็นคนที่เข้าออกเสมอ หากบ่อนเปิด8โมงเช้า จะมีคนเล่นมารอตั้งแต่7โมงเช้า
ความสงสัยจึงได้แอบไปดูว่าเขามากันทำไมตอนเช้า จึงทราบว่า มารับของแจกเป็นน้ำมันพืชบ้าง
ผงซักฟอกบ้าง แป้งทาตัวบ้าง ซึ่งคนที่มารับของแจก ผมก็เห็นว่าแต่งตัวดี ขับรถราคาแพง
แทบทั้งสิ้น หลังจากที่รับของแจกแล้วก็ต้องเข้าไปได้เสียเสี่ยงโชคกันข้างใน ได้เสียกันหลัก
หมื่นถึงหลักล้าน ยามใดที่คนเล่นเล่นได้ ออกมา ผมมักจะได้ค่าขนมเสมอ 300บ้าง 500บ้าง
คนเฝ้ารถ คนเปิดประตู ได้ทั้งนั้น แต่หากยามใดเสีย ผมมักจะไม่ค่อยเห็นเจ้าตัว พูดจาอะไร ทักทายใคร


เคยมีเรื่องเล่าที่อาม่า เล่าให้ฟังเสมอเกี่ยวกับนักเล่นการพนัน คือ

**ผีพนันนั้นมีอยู่จริง สามารถทำให้คนที่ถูกเข้าสิง ไม่รู้ว่าเวลานั้นเช้าหรือเย็น เวลานั้นหิวหรือ
ง่วงนอน เวลานั้นลูกที่บ้านไม่มีข้าวกิน สามีหรือภรรยากำลังรอการกลับบ้าน สองสิ่งที่ทำให้ผีพนัน
เข้าสิ่งได้ง่ายนั้นก็ คือ ความฟุ้งเฟ้อที่ยั่วยวนอยู่ข้างหน้า กับ ความอยากที่จะมีมากโดยไม่ต้องใช้
เวลามาก


บรรยากาศที่เป็นตัวเร้าและสร้างอารมณ์ทุนนิยมให้บาดลึกในใจแม้วันละนิด แต่เมื่อสะกิดทุกวัน
ทำให้คำว่า อยากที่จะมีและต้องมีมากในระยะเวลาอันรวดเร็วจึงเกิดขึ้นในก้นบึ้งหัวใจ


เมื่อหนทางมาบรรจบพบเจอกับสิ่งที่ปรารถนาไว้ ทำให้การตัดสินใจมุ่งสู่โต๊ะพนันจึงไม่มีใคร
มาขัดขวาง ถามว่าบ่อนผิดหรือไม่ที่ทำให้คนคนนึงล่มจมสิ้นเนื้อประดาตัว แน่นอนว่าผิด
แต่ทำไมนักพนัน จึงโทษกับตัวเองเสมอว่า โชคไม่เข้าข้าง ชะตาฟ้าลิขิตไว้แล้ว  


   ลองย้อนกลับไปตอนต้นดูว่า ทำไมโชคถึงไม่เข้าข้าง เพราะว่า คุณเลือกที่จะเสพสิ่งที่เห็น
สิ่งที่สัมผัสได้กับความสุขเฉพาะหน้า มากกว่าเลือกเสพสิ่งที่โชคเลือกให้มาตั้งแต่เกิดนั่นคือ
วิถีทางการดำเนินชีวิตที่ไร้อบายมุข


โชค และ ชะตาฟ้าได้เลือกให้คุณได้เดินในทางปกติ ได้รู้จักคำว่าผิดชอบชั่วดีไว้แล้ว
แต่คุณกลับเลือกเสพสิ่งฟุ้งเฟ้อที่มายั่วเย้า จนเกิดการแยกไม่ออกว่าอะไรคือผิด อะไรคือถูก


**ชะตาฟ้า คือ ฝ่ามือ ลองแบมือแล้วมองลงไป ไม่ใช่ให้มองเส้นลายมือ แต่ให้ดูความ
หยาบกร้านบนฝ่ามือคุณเคยจับจอบทำนา เคยป้อนข้าวเลี้ยงลูก เคยทำกับข้าว เคยแบกของ
เคยขับรถทำงาน นี่แหละ ชะตาฟ้าบนฝ่ามือ  


อาม่ายังเล่าต่อไปว่า  


ผีพนันมักเป็นคนไม่ยอมแพ้ แม้จะสูญเสียทุกสิ่ง แต่จะยอมแพ้อยู่สิ่งเดียวนั้นก็คือ ความเหลิง
ลำพองใจ  มีนักเล่นอยู่คนหนึ่ง เล่นพนันจนหมดเนื้อหมดตัว ถูกเจ้าหนี้ตามไปถึงที่บ้านจับ
ลูกสาวมาเป็นตัวประกัน ลูกเล็ก ไม่มีข้าวจะกิน แม้แต่ไข่ต้มก็ยังไม่มีทาน  ยังไม่คิดที่จะ
กลับตัวสงสารลูก กลับตั้งหน้าตาเล่น ไม่สนใจอะไร บอกว่า ไม่ใช่ตัวกู แต่เพียงแค่เด็ก
ยกของหรือเด็กเปิดประตู กล่าวชมว่า เฮียใจกว้าง เฮียเล่นหนัก กระเป๋าหนักให้ความสำคัญ
ระดับVIP ความลำพองใจ ความเหลิง รู้สึกตัวว่าสำคัญ ความเหลิงใจก็ตามมา เงินทองจ่าย
สะพัด เล่นพนันได้เสียหลักบ้าน แต่ที่บ้านไม่มีข้าวจะกิน ไม่กลับไปดูแล หารู้ไม่ว่า คำประจบ
ยกยอ ทั้งหลายนั้นเป็นคาถาสะกดจิต สะกิดผีพนันให้ออกมา


ปัจจุบันนี้บ่อนเหล่านี้ได้ปิดตัวลงไปแล้ว และก็มีบ่อนคนรุ่นใหม่ ยิ่งใหญ่กว่าเปิดตามที่ต่างๆ
อีกหลายแห่ง แม้ว่าบ่อนอาม่าจะปิดไป เพราะกฎแห่งกรรม ทำอะไรไว้ผลกรรมมักจะตามทัน

ผมไม่ลืมวันที่ทราบว่าอาม่าล้ม เส้นเลือดในสมองแตก วันนั้นเป็นวันที่แกยังพูดรู้เรื่อง แกกล่าวว่า
ครั้งหนึ่งเคยคิดจะยิ่งใหญ่ เคยคิดว่าเงินทองจะบันดาลทุกสิ่งได้ แต่ลืมไปว่าร่างกายนั้นเปื่อยยุ่ย
ได้ง่ายกว่ากระดาษธนบัตร10บาทเสียอีก แกคิดมาตลอดว่ากระดาษธนบัตร10บาทนั้นสามารถ
เปื่อยยับยุ่ยได้เพราะฝ่ามือมนุษย์ หากจะกำให้แน่น บีบให้ยับ ก็เป็นเรื่องง่าย หารู้ว่าหากคาย
ฝ่ามือ 10บาทก็ยังคงเป็นธนบัตร10บาทอยู่    แต่ร่างกายมนุษย์นั้น หากย่อยยับป่นปี้ ยากที่
จะเยียวยา แม้แต่เพียงเงิน10บาทก็ยังมีค่ามากกว่าเศษขี้เถ้ากองหนึ่ง


ผมถามกลับว่า อาม่าจะโทษชะตาฟ้าลิขิตหรือไม่


แกจับมือผมแล้วตอบว่า อยู่ในนี้ไง ชะตาฟ้า !!!!


ผมไม่โทษใครทั้งสิ้นว่าใครผิด อาม่าผิด บ่อนผิด คนเล่นผิด เพราะทุกสิ่งฟ้าลิขิตไว้แล้ว

อาม่าเลือกที่จะเดินเส้นทางนี้  ชะตาฟ้า ในฝ่ามือ ….

ฝ่ามือนี้เลือกที่จะจับตะหลิวเป็นแม่ครัวขายอาหารได้ แต่ไม่อาจใช้ฝ่ามือ ไปลากคนมากิน
มาอุดหนุนได้….

ฝ่ามือนี้เลือกที่จะเปิดบ่อนได้ แต่มิอาจห้ามคนเข้ามาเล่นได้ และมิอาจห้ามความเครียดที่
มาทำลายสุขภาพได้….

ฝ่ามือนี้เลือกที่จะเลี้ยงลูกหลานให้ดีให้เลวได้ แต่มิอาจบังคับจิตใจลูกหลานให้เชื่อตามสิ่งที่
ได้รับเลี้ยงมาได้…..


เฉกเช่นเดียวกับการลงทุนที่ผมพยายามย้ำคิดกับตนเองเสมอว่า  เรากำลังใช้พรแสวงหา
หรือใช้พรสวรรค์เข้าช่วยเหลือ

**หากเปรียบการลงทุนในหุ้นกับบ่อนนั้น

   การกรองคนเข้ามาในบ่อนโดยผ่านจุดตรวจต่างๆมากมาย  ก็คือการกรองหาหุ้นที่เรา
ต้องการเลือกลงทุน  บ่อนกรองคนที่เข้ามาเพื่อต้องการได้นักเล่นพนันจริงๆไม่ใช่เจ้าหน้าที่
นักลงทุนกรองหุ้นที่ต้องการสร้างกำไรไม่ใช่สร้างขาดทุน  การกรองนักพนันไม่ใช่เป็นเครื่อง
การันตีว่าจะเจอตัวจริง เจ้าหน้าที่ปลอมตัวก็มี หุ้นก็เช่นเดียวกัน

ดังนั้นจุดมุ่งหมายของบ่อนต้องการอะไร   เราก็ต้องรู้จุดมุ่งหมายของตัวตนให้ชัดเจนว่า
ต้องการหุ้นอะไร  หุ้นที่ดีในระยะยาว หรือ ฉาวฉาบฉวยระสั้น  

สิ่งเร้าเช่นของแลกแจกแถมในบ่อน ทำให้บ่อนคึกคักแต่เช้า หากเปรียบเป็นหุ้น ก็ของแจกต่างๆ
วอแรนท์ หุ้นเพิ่มทุน หรือแม้แต่การแจกข่าวดี ชี้ข่าวรวย ช่วยปั้นเรื่อง จงระมัดระวังให้ดี  

**ไม่มีของฟรีในโลก ของฟรีนั้นมีที่มานั้นคือล้วงมาจากกระเป๋าของคนที่ได้ของฟรีคนก่อนหน้า**

   จุดอ่อนของมนุษย์ คือ หากได้เปรียบเล็กๆ9ใน10ครั้ง จะมีความรู้สึกว่า เป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่
แม้ว่าครั้งที่10จะสูญเสียมหาศาล   จุดอ่อนนี้เกิดจากความพอใจในความถี่ของความสุขที่ได้รับ
มากกว่าความสำคัญของความสุขที่ได้รับ

อย่าให้ของแลกแจกแถมมาทำให้เกิดการเข้าใจผิดคิดว่า ผู้ที่ให้คือผู้ที่ประสงค์ดี หากมีก็
เพียงส่วนน้อย จงตระหนักไว้ว่า การลงทุนในหุ้นคือการเอาเงินไปแลกเงินที่มากกว่า  ของแจก
เสมือนเงินที่ได้รับส่วนแรก เพื่อนำมารวมกับส่วนที่เหลือหลังเสร็จภาระกิจ อย่านำความรู้สึกใน
การได้เปรียบเล็กๆน้อยมาทำให้เกิดความประมาทในการระมัดระวังเงินส่วนมากที่เตรียมจะนำ
ไปแลกเงินส่วนที่มากกว่า เพราะเมื่อความประมาทมาเยือน ของแถมที่ได้รับจะเป็นของแถมที่มี
มูลค่ามากจนรับไม่ได้  


**ผีพนันนั้นไม่ใช่กับการลงทุนในหุ้น แต่ขอใช้คำว่า  “พี่มือคัน”**

ผีพนัน ไม่รู้เช้าเย็น ไม่รู้หิวไม่รู้ง่วง ไม่รู้จักบ้านไม่รู้จักตื่น  

พี่มือคัน ไม่รู้ว่าเวลาทำงาน ไม่รู้เวลาของครอบครัว ไม่รู้ว่าเวลาพักฐาน ไม่รู้ว่าขาลง
ไม่รู้ว่าตลาดเขาทำอะไรกันอยู่ ขอเพียงอย่างเดียว ขอได้ดูหุ้น ซื้อขายหุ้น ไม่มีหุ้น
นอนไม่หลับ  มีหุ้นก็นอนไม่หลับอีกเพราะต้องคอยตามข่าวสาร  รอบตัวและรอบโลก

ทำไม พี่มือคัน?

   สิ่งเย้ายวนฟุ้งเฟ้อที่ถูกปลูกฝังมาจากข่าวสาร แวดวงธุรกิจ  คนนั้นมีบ้านใหญ่โต
คนนั้นขับรถหรูหรา เพื่อนบ้านไปเที่ยวรอบโลก เหล่านี้คือสิ่งเร้า และเมื่อทราบว่า
แค่เพียง key order ไม่มีเหงื่อสักหยด รถก็มา เงินก็มา บ้านก็มา สังคมหรูหราก็มา
ความที่อยากมี อยากได้ อยากเป็นจึงถูกกระตุ้นได้โดยง่าย  


**ผีพนัน กับ พี่มือคัน จุดจบไม่ต่างกัน


หากนักลงทุนไม่รู้จักแบ่งเวลา ว่า เวลาพักผ่อน เวลาครอบครัว เวลาเก็บเกี่ยวความรู้ เวลารอคอย
เวลาตาสว่าง  นักลงทุนก็ไม่ต่างกับผีพนันเข้าสิ่ง  นักธุรกิจมีจุดคุ้มทุนในการประกอบธุรกิจ
อย่างน้อย5ปี ผีพนันแบบพี่มือคัน ต้องการเพียง5นาที มีที่ไหน หากทำไม่ได้ โชคชะตาฟ้า
ลิขิตก็ตกเป็นจำเลย เป็นเหตุผลสุดท้ายที่นักลงทุนนักเล่นหุ้นโยนให้เสมอ
 

เหตุใดนักลงทุนจึงไม่โทษทางที่นักลงทุนเลือกเดิน ความสำเร็จนั้นชะตาฟ้าได้กำหนดไว้
ต่างๆมากมาย ในตำราการลงทุนมีหลายเล่มหลายกลยุทธ์ ปัจจัยพื้นฐาน ปัจจัยทางเทคนิค  
หากแต่นักลงทุนเลือกเสพหรือสัมผัสกับความสุขเฉพาะหน้า5นาที  การทำกำไรใน5นาทีหรือ
ระยะเวลาอันสั้น ทำให้การรอคอยเวลาไม่มีในเส้นทางเดินของนักลงทุนตามเป้าหมายที่ชะตา
ฟ้ากำหนดไว้   ยามใดไม่ได้ตามที่คาดหวังไว้ในระยะสั้น อารมณ์ความรู้สึกไม่รู้เช้า ไม่รู้หลับ
ไม่รู้หิวเสมือนผีพนันก็จะบังเกิดขึ้น การเร่งลงทุนเร่งเก็งกำไรก็จะเกิดถี่ขึ้น ผลเสียจะเกิดขึ้น
ในระยะยาว คือ การไม่มีแบบแผนในการลงทุน 10ปีผ่านไป ทำไมย่ำอยู่กับที่ เพราะการที่เล่น
หุ้นแบบ “พี่มือคัน”


ดังนั้น ชะตาฟ้า บนฝ่ามือ ใช้ให้เกิดประโยชน์ ค้นคว้าหาข้อมูล ใช้ฝ่ามือให้เกิดงาน อย่าให้ว่าง
เพราะจะได้ มือไม่คัน และพรสวรรค์ก็จะตามมา  หากประสบความสำเร็จบ่อยๆ  ความลำพอง
ความเหลิง อย่าได้เกิดขึ้นโดยเด็ดขาด เพราะมันสามารถเรียกผีพนันออกมาได้ มันก็สามารถเรียก
พี่มือคันออกมาได้เช่นกัน


สำหรับคำตอบของคำถามที่ว่า อะไรคือพรสวรรค์ อะไรคือชะตาฟ้า ที่ผมขอเว้นเอาไว้ตอนต้น
หวังว่าคงได้รับคำตอบกันแล้ว


ท้ายที่สุดก็อยากจะสรุปว่า
**เงินทองกับนักลงทุนนั้น เปรียบเสมือน น้ำมันกับไฟ หากนักลงทุนใจร้อนดั่งไฟ เงินก็สามารถ
ลุกไหม้หายไปดั่งน้ำมันติดไฟเช่นกัน   จงทำให้เงินทองเปรียบดั่งน้ำที่พร้อมจะดับไฟในตัวนักลงทุน
ให้เย็นลง ให้คิดว่าเงินทองคือน้ำที่ประทังหิวได้ รดต้นไม้ให้เติบโตได้ พาเราเดินทางไปที่ใดก็ได้
ด้วยเรือ   เมื่อนั้นน้ำกับไฟ ย่อมดีกว่าน้ำมันกับไฟแน่นอน

ขอขอบคุณ คุณ : เย่หยงเทียน

[por_jai]

http://www.imeem.com/hnun/music/iSNcunVs//

[por_jai]

เฮียครับ ผมกราบเฮีย3ครั้งรวดเลยครับ

   
   
     คติพจน์ของเฮียล้ำค่ายิ่งกว่าทองคำอีกครับ
     ไผอยากอ่านเต็มๆเชิญที่นี่ครับ

      http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 07389.html

[por_jai]

เซทออกแนวขำ ขำอีกแล้วครับ

[por_jai]

อันนี้ยิ่งใกล้ที่จะเป็น555.55มากเลย
     ผมนี่คงว่างมาก...ฮ่า...555...

[por_jai]

กระทู้รีวิวท่องเที่ยว
     แบบมีระดับทั้งคำบรรยายและภาพ
     สุดยอดจริงๆครับพี่ป๊อกกี้
     มี2ตอนนะครับ

POGGHI@BP:ปล่อยสมองว่าง ปล่อยหัวใจวาง ที่เกาะลันตา (กระบี่) - ตอนพิเศษ เกาะพีพี ไม่มีเหงา

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/t ... 37603.html

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/t ... 24716.html