บทความทางการแพทย์
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
บทความทางการแพทย์
โพสต์ที่ 1
มีคนถามมา ผมก็ตอบไป
แต่คิดว่าตอบไปอย่างเดียว น่าจะไม่เพียงพอ
เลยตอบในกระทู้ และชวนเพื่อนๆ พี่ๆ หมอๆ มาช่วยกันให้ความรู้ผ่าน web ดีกว่า ใครมีสาระดีๆทางการแพทย์ ช่วยกันฝากความรู้ละกันครับ
หมอๆ ที่ผมรู้จัก เรียนเชิญนะครับ
อ. หมอ สามัญชน
อ. หมอ mprandy
อ. หมอ poppo
อ. dr.chatri
อ. แมค
หมอกัน ,หมออุ้ย, หมอชัช
อ. ฯลฯ ขอโทษที่ภาวะสมองตอนเช้าแบบนี้ อาจจะนึกได้ไม่หมด
ใครจะมาโพสต์ก็เชิญครับ แต่ขออย่างเดียวว่า .. อย่าโพสต์ในทางขายของ หรือเสนอแนวความคิดที่ไม่มี หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ นะครับ
แต่คิดว่าตอบไปอย่างเดียว น่าจะไม่เพียงพอ
เลยตอบในกระทู้ และชวนเพื่อนๆ พี่ๆ หมอๆ มาช่วยกันให้ความรู้ผ่าน web ดีกว่า ใครมีสาระดีๆทางการแพทย์ ช่วยกันฝากความรู้ละกันครับ
หมอๆ ที่ผมรู้จัก เรียนเชิญนะครับ
อ. หมอ สามัญชน
อ. หมอ mprandy
อ. หมอ poppo
อ. dr.chatri
อ. แมค
หมอกัน ,หมออุ้ย, หมอชัช
อ. ฯลฯ ขอโทษที่ภาวะสมองตอนเช้าแบบนี้ อาจจะนึกได้ไม่หมด
ใครจะมาโพสต์ก็เชิญครับ แต่ขออย่างเดียวว่า .. อย่าโพสต์ในทางขายของ หรือเสนอแนวความคิดที่ไม่มี หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ นะครับ
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
บทความทางการแพทย์
โพสต์ที่ 2
เรื่องแรกครับ สำหรับ คนเป็นโรคเกาท์
ผมได้ความรู้จาก หัวหน้าภาค ศัลยกรรมออร์โธ ที่ พิษณุโลก ปัจจุบันนี้
สรุปสั้นๆคือ
อาการ
1 อาการปวดบวมแดงร้อน (ต้องครบทุกอันนี้)
2 มักเป็นเพียงข้อใดข้อนึึง
3.อาการมักจะเป็นขึ้นฉับพลัน หลังจากมีการกระตุ้นด้วยอาหารหรือการใช้งานมาก
จะรู้ไ้ด้ไงว่าเป็นโรคเกาท์
1 ตรวจกับแพทย์ ออร์โธ หรือ แพทย์โรคข้อ (อายุรแพทย์)
2 ตรวจ uric a มากกว่า 7 (โรคเกาท์คือภาวะที่ uric มากกว่า 7 และมีอาการปวด อาจมีบางคนต่ำกว่า 7 แต่ก็มีอาการปวดได้ แต่พบได้น้อย)
3. หากปวดบวมมากๆ ควรไปเจาะน้ำในข้อนั้นๆ เพื่อตรวจหาผลึกของ gout
การดูแลและรักษา
1 หลีกเลี่ยง (อาหาร ที่มี uric a สูง)
2 รักษาอาการ (ทานยาแก้อัักเสบกลุ่ม NSAIDs หรือ steroid)
3 ป้องกันกำเริบ ( ทานยาเพื่อขับ uric ออกทางไตคุมให้ uric ต่ำกว่า 6 และงดการใช้งานข้อนั้นๆหนักเกินไป เน้นการออกกำลังกายในน้ำ)
ถ้าไม่รักษาจะเกิดไรขึ้น
gout จะไปตกตะกอนที่ไต มีผลให้เกิดไตวายตามมา
นี่คือ ปัญหาโรคเกาท์แบบคร่าวๆครับ
ส่วนรายละเอียด เต็มๆ มี quote มาจากของ มหิดลอีกที
่ข้อมูลเชิงลึก ก็คงมีอยู่ว่า
1 ไม่เจาะข้อ และทานยาไปก่่อนได้ไหม
2 ทานยาตัวไหน หรือต้อง เจาะเลือดอะไรติดตามการรักษาบ้าง
คำถามอื่นๆ ผมว่าไปตามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมดีกว่านะครับ
ผมได้ความรู้จาก หัวหน้าภาค ศัลยกรรมออร์โธ ที่ พิษณุโลก ปัจจุบันนี้
สรุปสั้นๆคือ
อาการ
1 อาการปวดบวมแดงร้อน (ต้องครบทุกอันนี้)
2 มักเป็นเพียงข้อใดข้อนึึง
3.อาการมักจะเป็นขึ้นฉับพลัน หลังจากมีการกระตุ้นด้วยอาหารหรือการใช้งานมาก
จะรู้ไ้ด้ไงว่าเป็นโรคเกาท์
1 ตรวจกับแพทย์ ออร์โธ หรือ แพทย์โรคข้อ (อายุรแพทย์)
2 ตรวจ uric a มากกว่า 7 (โรคเกาท์คือภาวะที่ uric มากกว่า 7 และมีอาการปวด อาจมีบางคนต่ำกว่า 7 แต่ก็มีอาการปวดได้ แต่พบได้น้อย)
3. หากปวดบวมมากๆ ควรไปเจาะน้ำในข้อนั้นๆ เพื่อตรวจหาผลึกของ gout
การดูแลและรักษา
1 หลีกเลี่ยง (อาหาร ที่มี uric a สูง)
2 รักษาอาการ (ทานยาแก้อัักเสบกลุ่ม NSAIDs หรือ steroid)
3 ป้องกันกำเริบ ( ทานยาเพื่อขับ uric ออกทางไตคุมให้ uric ต่ำกว่า 6 และงดการใช้งานข้อนั้นๆหนักเกินไป เน้นการออกกำลังกายในน้ำ)
ถ้าไม่รักษาจะเกิดไรขึ้น
gout จะไปตกตะกอนที่ไต มีผลให้เกิดไตวายตามมา
นี่คือ ปัญหาโรคเกาท์แบบคร่าวๆครับ
ส่วนรายละเอียด เต็มๆ มี quote มาจากของ มหิดลอีกที
่ข้อมูลเชิงลึก ก็คงมีอยู่ว่า
1 ไม่เจาะข้อ และทานยาไปก่่อนได้ไหม
2 ทานยาตัวไหน หรือต้อง เจาะเลือดอะไรติดตามการรักษาบ้าง
คำถามอื่นๆ ผมว่าไปตามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมดีกว่านะครับ
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
บทความทางการแพทย์
โพสต์ที่ 3
โรคเกาต์ (Gout)
โรคเกาต์ เป็นโรคที่เกิดจากระดับกรดยูริก uric acid ในเลือดสูงขึ้นทำให้เกิดการอักเสบของข้อเนื่องจากมีการเกาะของ image001เกลือ uric บริเวณข้อและเอ็นหากเป็นเรื้อรังจะทำให้ข้อผิดรูปและเสียหน้าที่ในการทำงาน ในรายที่เรื้อรังการเกาะของเกลือ monosodium urate จะทำให้เกิดก้อนที่เรียกว่า Tophi นอก จากนั้นยังทำให้หน้าที่ของไตเสื่อมและเกิดโรคนิ่วที่ไตด้วย โรคเกาต์จะหมายถึงภาวะที่มีการเกาะของยูริกที่ข้อทำให้เกิดการอักเสบ มีอาการปวด บวมแดงร้อน ผู้ป่วยที่เป็นโรคเกาต์อาจจะมีกรดยูริกในเลือดสูงหรือปกติก็ได้ และผู้ที่มีกรดยูริกในเลือดสูงก็ไม่จำเป็นต้องเป็นโรคเกาต์เสมอไป โรคเกาต์เป็นในผู้ชายมากว่าผู้หญิง 9 เท่าและมักเป็นวัยกลางคนขึ้นไป ส่วนผู้หญิงมักเป็นหลังจากหมดประจำเดือน
ภาวะที่เกี่ยวข้องกับระดับกรดยูริก แบ่งได้เป็น
1. Asymptomatic Hyperuricemia หมายถึงภาวะที่มีกรดยูริก
ในเลือดสูงโดยที่ไม่มีอาการ image002
2. Acute Gouty Arthritis
3. Intercritical Gout
4. Chronic Tophaceous Gout เมื่อโรคเกาต์ไม่ได้รักษาผู้ป่วย
จะ ปวดข้อบ่อยขึ้น และปวดนานขึ้น ข้อที่ปวดจะเป็นหลายข้อ บางครั้งอาจจะเกิดอักเสบข้อไหล่ สะโพกและหลัง หากไม่รักษาก็จะเกิดการอักเสบเรื้อรังของข้อมีอาการปวดตลอด ข้อจะเสียหน้าที่และเกิดการตกตะกอนของเกลือmonosodium urate ที่ข้อ หู มือ แขน เข่าตั้งแต่เริ่มเป็นจนเกิด tophi ใช้เวลาประมาณ 10 ปี
อาการ
ตำแหน่งที่ปวด เริ่มเป็นข้อยังไม่ถูกทำลายหากเป็นนานข้อถูกทำลาย
1. ปวด บวม แดง ร้อน โดยเฉพาะบริเวณนิ้วหัวแม่เท้าเป็นข้อที่พบบ่อยที่สุดจะมีอาการปวดข้อโดยมากปวดข้อเดียวแต่ก็ปวดหลายข้อได้
2. อาการปวดมักเป็นๆหายๆ หรือเรื้อรัง
3. ข้อที่ปวดพบได้ทุกข้อ แต่พบมากข้อนิ้วหัวแม่เท้า ข้อเท้า ข้อเข่า ข้อมือ ข้อนิ้วและข้อศอก
4. พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
5. ในรายที่เป็นมานานอาจพบนิ่วทางเดินปัสสาวะ
6. มักปวดตอนกลางคืน อาการปวดจะเป็นมากขึ้นเรื่อยๆมักจะมีปัจจัยกระตุ้นได้แก่ การรับประทานอาหารที่มี uricสูง ดื่ม alcohol ผ่าตัด ความเครียด
ข้อ ที่พบว่าอักเสบได้บ่อยได้แกข้อนิ้วหัวแม่เท้า ข้อเท้า ข้อเข่า ข้อมือ และข้อศอกเรียงตามลำดับ พบว่าข้อที่เป็นจะบวม แดง กดเจ็บจากรูปจะเห็นข้อนิ้วหัวแม่เท้าบวมและแดง
ในรายที่เป็นเรื้อรังจะมีการรวมตัวของกรดยูริกเกิดเป็นก้อนที่ข้อเรียก Tophi
image006
image004 image005
การวินิจฉัย
>> จากประวัตมีการปวดข้อและการตรวจร่างกายดังกล่าวข้างต้นโรคเกาต์มักจะปวดที่ละข้อแต่ต่างจากโรค SLE หรือ
Rheumatoid ที่มักปวดที่ละหลายข้อ image007
>> เจาะเลือดพบกรด uric>7mg% ตรวจหากรดยูริกในปัสสาวะที่เก็บ 24 ชั่วโมง ถ้าค่าสูงมีโอกาสเป็นนิ่วในไต
>> เจาะข้อนำน้ำในข้อตรวจพบเกลือ uric ดังรูป
>> X-RAY ข้อที่ปวดพบผลึก uric สะสมตามข้อ
การรักษาช่วงที่มีข้ออักเสบ
>> ในช่วงที่มีอาการปวดอาจจะรับประทานยาแก้ปวด paracetamol หรือยาแก้ปวดอื่น
>> ช่วงที่มีการอักเสบของข้อให้ใช้ยา colchicine 0.5 mg ทุก 2 ชั่วโมงจนอาการปวดดีขึ้นหรือเกิดอาเจียน และถ่ายเหลว และอาจให้ยาแก้ปวดเช่น aspirin,indomethacin,ibuprofen,naproxyn,piroxicam ยากลุ่มนี้มีข้อเสียคือปวดท้องและเลือดออกทางเดินอาหารได้
>> ช่วงที่ปวดให้พักและดื่มน้ำมากๆเพื่อป้องกันการตกตะกอนของกรดยูริก
>> ให้นอนพัก ยกเท้าสูง
>> หลีกเลี่ยงการยืนหรือการเดิน
การป้องกันข้ออักเสบ
>> ให้ colchicine 0.6 mg วันละ 1-4 เม็ด ถ้าเริ่มมีอาการของข้ออักเสบให้เพิ่มได้อีก วันละ 1-2 เม็ด
>> ให้ยาลดกรด uric ในกรณีที่กรด uric >9 mg%และยังมีการอักเสบของข้อหรือไตเริ่มมีอาการเสื่อม เช่น probenecid 500 mg ให้ครึ่งเม็ดวันละ2 ครั้ง ค่อยๆเพิ่มเนื่องจากยานี้จะเพิ่มการขับกรดยูริกทางปัสสาวะดังนั้นไม่ควรให้ ในผู้ป่วยที่มีนิ่วในไตและควรแนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ และหรือ allopurinol 200-600 mg/วัน ยา นี้ควรระวังในผู้ป่วยที่ไตเสื่อมเนื่องจากอาจจะเกิดอาการผื่นและแพ้ยาได้ ยากลุ่มนี้ไม่ควรให้ขณะที่มีการอักเสบของข้อเพราะจะทำให้ข้ออักเสบเพิ่มขึ้น
>> ให้ดื่มน้ำมากกว่า 3 ลิตร/วัน
การควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคเกาต์
>> กรรมพันธุ์ ผู้ชายจะเริ่มอายุ 35-40 ปี ส่วนผู้หญิงเริ่ม 45 ปีไปแล้ว
>> อ้วน ถ้าน้ำหนักเกิน จะส่งผลให้กรดยูริกในเลือดสูงขึ้นด้วย
>> อาหารที่มี purine สูง
>> อาหารที่มีไขมันสูง
>> โรคความดันโลหิตสูง
>> ยาที่ใช้รักษาความดันโลหิตสูงจะลดการขับกรดยูริก ยา aspirin ยารักษาวัณโรค เช่น pyrazinamide , ethambutol,niacin
>> เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ จะกระตุ้นให้มีการสร้างกรดยูริกเพิ่ม
>> ไตเสื่อม
>> โรคที่ทำให้กรดยูริกสูงเช่นโรคมะเร็ง โรคเม็ดเลือดแดงแตก
>> ภาวะขาดน้ำ
>> การได้รับอุบัติเหตุที่ข้อ
quote จาก ม.มหิดล
ไปตาม link ได้เลยครับ
http://www.ptms.mahidol.ac.th/ptrpm/ind ... &Itemid=45
โรคเกาต์ เป็นโรคที่เกิดจากระดับกรดยูริก uric acid ในเลือดสูงขึ้นทำให้เกิดการอักเสบของข้อเนื่องจากมีการเกาะของ image001เกลือ uric บริเวณข้อและเอ็นหากเป็นเรื้อรังจะทำให้ข้อผิดรูปและเสียหน้าที่ในการทำงาน ในรายที่เรื้อรังการเกาะของเกลือ monosodium urate จะทำให้เกิดก้อนที่เรียกว่า Tophi นอก จากนั้นยังทำให้หน้าที่ของไตเสื่อมและเกิดโรคนิ่วที่ไตด้วย โรคเกาต์จะหมายถึงภาวะที่มีการเกาะของยูริกที่ข้อทำให้เกิดการอักเสบ มีอาการปวด บวมแดงร้อน ผู้ป่วยที่เป็นโรคเกาต์อาจจะมีกรดยูริกในเลือดสูงหรือปกติก็ได้ และผู้ที่มีกรดยูริกในเลือดสูงก็ไม่จำเป็นต้องเป็นโรคเกาต์เสมอไป โรคเกาต์เป็นในผู้ชายมากว่าผู้หญิง 9 เท่าและมักเป็นวัยกลางคนขึ้นไป ส่วนผู้หญิงมักเป็นหลังจากหมดประจำเดือน
ภาวะที่เกี่ยวข้องกับระดับกรดยูริก แบ่งได้เป็น
1. Asymptomatic Hyperuricemia หมายถึงภาวะที่มีกรดยูริก
ในเลือดสูงโดยที่ไม่มีอาการ image002
2. Acute Gouty Arthritis
3. Intercritical Gout
4. Chronic Tophaceous Gout เมื่อโรคเกาต์ไม่ได้รักษาผู้ป่วย
จะ ปวดข้อบ่อยขึ้น และปวดนานขึ้น ข้อที่ปวดจะเป็นหลายข้อ บางครั้งอาจจะเกิดอักเสบข้อไหล่ สะโพกและหลัง หากไม่รักษาก็จะเกิดการอักเสบเรื้อรังของข้อมีอาการปวดตลอด ข้อจะเสียหน้าที่และเกิดการตกตะกอนของเกลือmonosodium urate ที่ข้อ หู มือ แขน เข่าตั้งแต่เริ่มเป็นจนเกิด tophi ใช้เวลาประมาณ 10 ปี
อาการ
ตำแหน่งที่ปวด เริ่มเป็นข้อยังไม่ถูกทำลายหากเป็นนานข้อถูกทำลาย
1. ปวด บวม แดง ร้อน โดยเฉพาะบริเวณนิ้วหัวแม่เท้าเป็นข้อที่พบบ่อยที่สุดจะมีอาการปวดข้อโดยมากปวดข้อเดียวแต่ก็ปวดหลายข้อได้
2. อาการปวดมักเป็นๆหายๆ หรือเรื้อรัง
3. ข้อที่ปวดพบได้ทุกข้อ แต่พบมากข้อนิ้วหัวแม่เท้า ข้อเท้า ข้อเข่า ข้อมือ ข้อนิ้วและข้อศอก
4. พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
5. ในรายที่เป็นมานานอาจพบนิ่วทางเดินปัสสาวะ
6. มักปวดตอนกลางคืน อาการปวดจะเป็นมากขึ้นเรื่อยๆมักจะมีปัจจัยกระตุ้นได้แก่ การรับประทานอาหารที่มี uricสูง ดื่ม alcohol ผ่าตัด ความเครียด
ข้อ ที่พบว่าอักเสบได้บ่อยได้แกข้อนิ้วหัวแม่เท้า ข้อเท้า ข้อเข่า ข้อมือ และข้อศอกเรียงตามลำดับ พบว่าข้อที่เป็นจะบวม แดง กดเจ็บจากรูปจะเห็นข้อนิ้วหัวแม่เท้าบวมและแดง
ในรายที่เป็นเรื้อรังจะมีการรวมตัวของกรดยูริกเกิดเป็นก้อนที่ข้อเรียก Tophi
image006
image004 image005
การวินิจฉัย
>> จากประวัตมีการปวดข้อและการตรวจร่างกายดังกล่าวข้างต้นโรคเกาต์มักจะปวดที่ละข้อแต่ต่างจากโรค SLE หรือ
Rheumatoid ที่มักปวดที่ละหลายข้อ image007
>> เจาะเลือดพบกรด uric>7mg% ตรวจหากรดยูริกในปัสสาวะที่เก็บ 24 ชั่วโมง ถ้าค่าสูงมีโอกาสเป็นนิ่วในไต
>> เจาะข้อนำน้ำในข้อตรวจพบเกลือ uric ดังรูป
>> X-RAY ข้อที่ปวดพบผลึก uric สะสมตามข้อ
การรักษาช่วงที่มีข้ออักเสบ
>> ในช่วงที่มีอาการปวดอาจจะรับประทานยาแก้ปวด paracetamol หรือยาแก้ปวดอื่น
>> ช่วงที่มีการอักเสบของข้อให้ใช้ยา colchicine 0.5 mg ทุก 2 ชั่วโมงจนอาการปวดดีขึ้นหรือเกิดอาเจียน และถ่ายเหลว และอาจให้ยาแก้ปวดเช่น aspirin,indomethacin,ibuprofen,naproxyn,piroxicam ยากลุ่มนี้มีข้อเสียคือปวดท้องและเลือดออกทางเดินอาหารได้
>> ช่วงที่ปวดให้พักและดื่มน้ำมากๆเพื่อป้องกันการตกตะกอนของกรดยูริก
>> ให้นอนพัก ยกเท้าสูง
>> หลีกเลี่ยงการยืนหรือการเดิน
การป้องกันข้ออักเสบ
>> ให้ colchicine 0.6 mg วันละ 1-4 เม็ด ถ้าเริ่มมีอาการของข้ออักเสบให้เพิ่มได้อีก วันละ 1-2 เม็ด
>> ให้ยาลดกรด uric ในกรณีที่กรด uric >9 mg%และยังมีการอักเสบของข้อหรือไตเริ่มมีอาการเสื่อม เช่น probenecid 500 mg ให้ครึ่งเม็ดวันละ2 ครั้ง ค่อยๆเพิ่มเนื่องจากยานี้จะเพิ่มการขับกรดยูริกทางปัสสาวะดังนั้นไม่ควรให้ ในผู้ป่วยที่มีนิ่วในไตและควรแนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ และหรือ allopurinol 200-600 mg/วัน ยา นี้ควรระวังในผู้ป่วยที่ไตเสื่อมเนื่องจากอาจจะเกิดอาการผื่นและแพ้ยาได้ ยากลุ่มนี้ไม่ควรให้ขณะที่มีการอักเสบของข้อเพราะจะทำให้ข้ออักเสบเพิ่มขึ้น
>> ให้ดื่มน้ำมากกว่า 3 ลิตร/วัน
การควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคเกาต์
>> กรรมพันธุ์ ผู้ชายจะเริ่มอายุ 35-40 ปี ส่วนผู้หญิงเริ่ม 45 ปีไปแล้ว
>> อ้วน ถ้าน้ำหนักเกิน จะส่งผลให้กรดยูริกในเลือดสูงขึ้นด้วย
>> อาหารที่มี purine สูง
>> อาหารที่มีไขมันสูง
>> โรคความดันโลหิตสูง
>> ยาที่ใช้รักษาความดันโลหิตสูงจะลดการขับกรดยูริก ยา aspirin ยารักษาวัณโรค เช่น pyrazinamide , ethambutol,niacin
>> เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ จะกระตุ้นให้มีการสร้างกรดยูริกเพิ่ม
>> ไตเสื่อม
>> โรคที่ทำให้กรดยูริกสูงเช่นโรคมะเร็ง โรคเม็ดเลือดแดงแตก
>> ภาวะขาดน้ำ
>> การได้รับอุบัติเหตุที่ข้อ
quote จาก ม.มหิดล
ไปตาม link ได้เลยครับ
http://www.ptms.mahidol.ac.th/ptrpm/ind ... &Itemid=45
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
บทความทางการแพทย์
โพสต์ที่ 5
ช่วงนี้ไม่รู้เป็นไรคับ มักจะมีอาการแปล๊บๆ ตามข้อหลายๆจุด
ข้อเท้า ข้อมือ .. ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตีแบตรึเปล่า แต่ช่วงหลังๆนี้ผมก็ตีแบตลดลงแล้วนะเนี่ย (แต่ก่อนตีอาทิตย์ละ 2 วัน ตอนนี้เหลือวันเดียว)
แล้วก็อาการปวดหลัง ปวดไหล่ จะปวดขึ้นชัดมากเวลาเพิ่งตื่นนอน เลยแอบคิดเป็นเพราะท่านอนรึเปล่า ผมลองเปลี่ยนหมอนก็แล้ว ท่านอนก็คิดว่าถูกต้องดีแล้ว (เคยไปหาหมอที่จุฬาเค้าแนะนำท่านอนมา) อืม...
ไปหาหมอเค้าบอกว่ากล้ามเนื้อที่ไหล่ขวาผมตึงเป็นก้อน ให้พยายามยืดกล้ามเนื้อบ่อยๆ (ซึ่งก็ลืมทำทุกที)
อ้อ อยากรู้ด้วยว่าเวลาที่ไปนวดแล้วเค้าบอกว่า กล้ามเนื้อเกร็ง แข็งเป็นก้อน แล้วเค้านวดโดยใช้ท่อนแขนหรือศอกรีดแรงๆ (อย่างเจ็บเลย) มันจะช่วยได้จริงหรือเปล่าครับ มันมีเหตุผลทางการแพทย์ป่ะคับ พี่หมอ
ข้อเท้า ข้อมือ .. ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตีแบตรึเปล่า แต่ช่วงหลังๆนี้ผมก็ตีแบตลดลงแล้วนะเนี่ย (แต่ก่อนตีอาทิตย์ละ 2 วัน ตอนนี้เหลือวันเดียว)
แล้วก็อาการปวดหลัง ปวดไหล่ จะปวดขึ้นชัดมากเวลาเพิ่งตื่นนอน เลยแอบคิดเป็นเพราะท่านอนรึเปล่า ผมลองเปลี่ยนหมอนก็แล้ว ท่านอนก็คิดว่าถูกต้องดีแล้ว (เคยไปหาหมอที่จุฬาเค้าแนะนำท่านอนมา) อืม...
ไปหาหมอเค้าบอกว่ากล้ามเนื้อที่ไหล่ขวาผมตึงเป็นก้อน ให้พยายามยืดกล้ามเนื้อบ่อยๆ (ซึ่งก็ลืมทำทุกที)
อ้อ อยากรู้ด้วยว่าเวลาที่ไปนวดแล้วเค้าบอกว่า กล้ามเนื้อเกร็ง แข็งเป็นก้อน แล้วเค้านวดโดยใช้ท่อนแขนหรือศอกรีดแรงๆ (อย่างเจ็บเลย) มันจะช่วยได้จริงหรือเปล่าครับ มันมีเหตุผลทางการแพทย์ป่ะคับ พี่หมอ
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
บทความทางการแพทย์
โพสต์ที่ 6
ขอตอบในฐานะเคยทำงานเฉพาะทางด้าน ออร์โธนะครับyoyo เขียน:ช่วงนี้ไม่รู้เป็นไรคับ มักจะมีอาการแปล๊บๆ ตามข้อหลายๆจุด
ข้อเท้า ข้อมือ .. ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตีแบตรึเปล่า แต่ช่วงหลังๆนี้ผมก็ตีแบตลดลงแล้วนะเนี่ย (แต่ก่อนตีอาทิตย์ละ 2 วัน ตอนนี้เหลือวันเดียว)
แล้วก็อาการปวดหลัง ปวดไหล่ จะปวดขึ้นชัดมากเวลาเพิ่งตื่นนอน เลยแอบคิดเป็นเพราะท่านอนรึเปล่า ผมลองเปลี่ยนหมอนก็แล้ว ท่านอนก็คิดว่าถูกต้องดีแล้ว (เคยไปหาหมอที่จุฬาเค้าแนะนำท่านอนมา) อืม...
ไปหาหมอเค้าบอกว่ากล้ามเนื้อที่ไหล่ขวาผมตึงเป็นก้อน ให้พยายามยืดกล้ามเนื้อบ่อยๆ (ซึ่งก็ลืมทำทุกที)
อ้อ อยากรู้ด้วยว่าเวลาที่ไปนวดแล้วเค้าบอกว่า กล้ามเนื้อเกร็ง แข็งเป็นก้อน แล้วเค้านวดโดยใช้ท่อนแขนหรือศอกรีดแรงๆ (อย่างเจ็บเลย) มันจะช่วยได้จริงหรือเปล่าครับ มันมีเหตุผลทางการแพทย์ป่ะคับ พี่หมอ
หากเราออกกำลังกาย แรงๆ เกร็งในท่าใดนานๆหรือถูกกระแทกแรงๆให้เกิดการบาดเจ็บที่ส่วนใดส่วนหนึ่ง เช่น กล้ามเนื้อหลัง ,คอ ฯลฯ
จะมีการเกร็งของกล้ามเนื้อส่วนนั้นๆเป็นปมกล้ามเนื้อขึ้นมา
เรียกว่า taut band เป็นกลุ่มกล้ามเนื้อที่อักเสบครับ
สังเกตว่าถ้ากดๆ กล้ามเนื้อบริเวณนั้นจะแข็งและเจ็บกว่าปกติ
มักจะหายยาก คนส่วนใหญ่ ก็จะปวดเรื้อรังไม่หายซะที
ป้องกัน - ก่อนออกกำลังกายทุกครั้งต้องทำการ warm up เพื่อ ยืดกล้ามเนื้อ และ cool down เพื่อ ลดการเกร็งกล้ามเนื้อนั้นๆทุกครั้ง
วิธีการรักษา
- นวด ด้วยยา ลดการอักเสบ ,ทานยาคลายกล้ามเนื้อ
- กายภาพด้วยตนเอง ให้เหยียดกล้ามเนื้อนั้นๆ ไปด้านใดด้านหนึ่งให้สุด
-
ถ้าไม่หาย อาจะไป รพ. เพื่อ
1 กายภาพบำบัด รักษาด้วยคลื่นความร้อน
2 ฉีดยา สเตียรอยด์เข้าบริเวณ กล้ามเนื้อนั้นๆเพื่อให้เกิดการคลายของปมอักเสบออกมา
ข้อห้าม
ส่วนใหญ่ ที่ปวด มักชอบใช้ แรงเข้าข่ม
ปวดหลังก็ให้คนขึ้นไปเหยียบหลัง ซึ่งความรู้สึกที่หายไป
ผมเชื่อว่า น่าจะเกิดจาก สิ่งเร้าที่มันมากกว่า ทำให้ ลดความสนใจกับอาการปวดหลังเดิม ทั้งๆที่การอักเสบอาจจะมากขึ้นจากการกระทำดังกล่าวด้วยซ้ำอธิบายได้กับกรณีที่ยุงกัด แต่พอเกาแล้วหายคัน
ทั้งๆที่ความจริง ไม่ได้เกี่ยวกัน
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
- bremner
- Verified User
- โพสต์: 437
- ผู้ติดตาม: 0
บทความทางการแพทย์
โพสต์ที่ 7
มาให้กำลังใจหมอเคครับ
ทำความดีและเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นแบบนี้
ขอให้ผลบุญช่วยส่งให้หุ้นที่ซื้อไว้วิ่งเป็นจรวดด้วยเทอญ
ทำความดีและเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นแบบนี้
ขอให้ผลบุญช่วยส่งให้หุ้นที่ซื้อไว้วิ่งเป็นจรวดด้วยเทอญ
"What seems too high and risky to the majority generally goes higher and what seems low and cheap generally goes lower."
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
บทความทางการแพทย์
โพสต์ที่ 10
bremner เขียน:มาให้กำลังใจหมอเคครับ
ทำความดีและเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นแบบนี้
ขอให้ผลบุญช่วยส่งให้หุ้นที่ซื้อไว้วิ่งเป็นจรวดด้วยเทอญ
สาธุ........... :cheers: :cheers:
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
- romee
- Verified User
- โพสต์: 1850
- ผู้ติดตาม: 0
บทความทางการแพทย์
โพสต์ที่ 11
หมอเคครับ อาการที่เป็นเหน็บชา หรือว่าเจ็บบริเวณสันฝ่ามือ...เนื่องจากเป็นจุดกดทับ เวลาเราวางมือ กับเม้าท์คอมอ่ะครับ
ที่มันจะทำให้มีพังพืดยึดมือนะครับ
โอกาสเกิดขึ้นกับคนที่ใช้คอมบ่อยๆ นานๆ มีเยอะมั้ยครับ
แล้วถ้าผมออกกำลังกายข้อมือบ่อยๆ
เช่นตีแบด หรือออกกำลังกายทั่วไป มันจะช่วยป้องกันให้เกิดโรคนี้ได้มั้ยครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ที่มันจะทำให้มีพังพืดยึดมือนะครับ
โอกาสเกิดขึ้นกับคนที่ใช้คอมบ่อยๆ นานๆ มีเยอะมั้ยครับ
แล้วถ้าผมออกกำลังกายข้อมือบ่อยๆ
เช่นตีแบด หรือออกกำลังกายทั่วไป มันจะช่วยป้องกันให้เกิดโรคนี้ได้มั้ยครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
- Raphin Phraiwal
- Verified User
- โพสต์: 1342
- ผู้ติดตาม: 0
บทความทางการแพทย์
โพสต์ที่ 14
ขออนุโมธนาสาธุกับพี่หมอเคด้วยคนครับ :welcome:
รักในหลวงครับ
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
บทความทางการแพทย์
โพสต์ที่ 16
ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่า ผมไม่ได้จบบอร์ดออร์โธ แต่เคยทำงานด้านออร์โธ ถ้าหากว่า พี่หมอคนไหน อยากเข้ามา ร่วมแสดงความคิดเห็น ก็เชิญนะครับ
โรคนี้คือ ภาวะที่เรียกว่า เอ็นพังพืดข้อมืดกดรัด หรือเรียกว่า carpal tunnel syndrome
มักพบในคนที่ทำงาน ให้ ข้อมืออยู่ในลักษณะ กระดกข้อมือขึ้น
(ท่าคนบิดมอไซด์) ท่านั้นจะทำให้ มีความดันที่เนื้อเยื่อบริเวณนั้นมากกว่าปกติ ย่อมทำให้ กดทับเส้นประสาทได้
การรักษา มี หลีกเลี่ยง คือ เปลี่ยนท่า หรือใช้แผ่นรองเม้า
หรือ พักการใช้งานทุกๆ 10 นาที
หรือทานยาลดการอักเสบ ,ใส่ที่รัดข้อมือ
เป็นมากๆ อาจต้องฉีดยาเสตียรอย หรือผ่าตัดครับ
romee เขียน:หมอเคครับ อาการที่เป็นเหน็บชา หรือว่าเจ็บบริเวณสันฝ่ามือ...เนื่องจากเป็นจุดกดทับ เวลาเราวางมือ กับเม้าท์คอมอ่ะครับ
ที่มันจะทำให้มีพังพืดยึดมือนะครับ
โอกาสเกิดขึ้นกับคนที่ใช้คอมบ่อยๆ นานๆ มีเยอะมั้ยครับ
แล้วถ้าผมออกกำลังกายข้อมือบ่อยๆ
เช่นตีแบด หรือออกกำลังกายทั่วไป มันจะช่วยป้องกันให้เกิดโรคนี้ได้มั้ยครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
โรคนี้คือ ภาวะที่เรียกว่า เอ็นพังพืดข้อมืดกดรัด หรือเรียกว่า carpal tunnel syndrome
มักพบในคนที่ทำงาน ให้ ข้อมืออยู่ในลักษณะ กระดกข้อมือขึ้น
(ท่าคนบิดมอไซด์) ท่านั้นจะทำให้ มีความดันที่เนื้อเยื่อบริเวณนั้นมากกว่าปกติ ย่อมทำให้ กดทับเส้นประสาทได้
การรักษา มี หลีกเลี่ยง คือ เปลี่ยนท่า หรือใช้แผ่นรองเม้า
หรือ พักการใช้งานทุกๆ 10 นาที
หรือทานยาลดการอักเสบ ,ใส่ที่รัดข้อมือ
เป็นมากๆ อาจต้องฉีดยาเสตียรอย หรือผ่าตัดครับ
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
บทความทางการแพทย์
โพสต์ที่ 17
ตะคริว กิน นี่ ในความเข้าใจผมคือHughes เขียน:ตะคริวกินบ่อยๆนี่เกิดจากอะไรครับ? เมื่อก่อนไม่เคยเป็นเดี่ยวนี้บ่อยมากที่ส่วนขา
ขาด พวก calcium กับ vitamin B
นะครับ
หากเป็นบ่อยๆ ลองทานยาพวกนี้ดูครับ
(ผมสั่งให้คนไข้บ่อยๆ แล้วก็หายทุกครั้ง)
สาเหตุของเราในความเข้าใจ คือ การที่กล้ามเนื้อหดตัวอย่างรุนแรงและไม่สามารถยืดกล้ามเนื้อได้
ซึ่งอาจจะเกิดจากการใช้ over use หรือเกิดจากการใช้งานมาก โดยที่ไม่เคยมีการ warm up หรือว่า cool down มาก่อน
หรือ เกิดจากการขาด กลุ่ม สารประกอบที่ใช้ในการเหยียบของกล้ามเนื้อ คือ calcium
ส่วน vit b นั้นผมจำไม่ได้ว่าเกี่ยวกันยังไง ครับ
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
-
- Verified User
- โพสต์: 413
- ผู้ติดตาม: 0
บทความทางการแพทย์
โพสต์ที่ 18
พี่เคสุดยอดน้ำใจจริงๆครับ ถ้าอันไหนผมช่วยเสริมได้ยินดีช่วยเต็มที่เลยครับ(แต่ตอนนี้อยู่ในหมวดถนัดของพี่เค ก็ต้องยกไว้ให้เค้าล่ะครับ) :8)
Even Sir Isaac Newton loss in stock market
"You can't predict the future, because the future depends on how you react to it."
ซื้อหุ้นเมื่อคนส่วนใหญ่หมดศรัทธาในหุ้นและเทขายอยู่ นั่นคือเวลาตี5ในการจ่ายตลาด....จาก สอง ว. ผู้ยิ่งใหญ่
"You can't predict the future, because the future depends on how you react to it."
ซื้อหุ้นเมื่อคนส่วนใหญ่หมดศรัทธาในหุ้นและเทขายอยู่ นั่นคือเวลาตี5ในการจ่ายตลาด....จาก สอง ว. ผู้ยิ่งใหญ่
-
- Verified User
- โพสต์: 1254
- ผู้ติดตาม: 0
บทความทางการแพทย์
โพสต์ที่ 19
ขอรบกวนสอบถามคุณหมอเคหน่อยครับว่า ไม่ทราบว่าเครื่องทำน้ำดื่มแอคทริเวท(ราคาแพงกว่าเเอร์เครื่องหนึ่งอีกครับ)นั้นดื่มแล้วดีกับสุขภาพจริงไหมครับ ผมเคยฟังมีบางคนดื่มแล้วแพ้อ่ะครับ
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
บทความทางการแพทย์
โพสต์ที่ 20
้haha เรื่องนี้ ผมเพิ่งได้ดูโฆษณาทางทีวีตอนเช้าครับศิษย์เซียน007 เขียน:ขอรบกวนสอบถามคุณหมอเคหน่อยครับว่า ไม่ทราบว่าเครื่องทำน้ำดื่มแอคทริเวท(ราคาแพงกว่าเเอร์เครื่องหนึ่งอีกครับ)นั้นดื่มแล้วดีกับสุขภาพจริงไหมครับ ผมเคยฟังมีบางคนดื่มแล้วแพ้อ่ะครับ
ชื่อ น้ำ M_ET (ไม่พิมพ์เต็มๆนะครับ)
ผมฟังดูแล้วดีหมดทุกอย่างเลย
1. คนเป็น เอดส์ กินแล้ว หายจากโรค (ร.เรือครับ)
2 คนความจำสั้น กินแล้ว ความจำยาว (แต่รักฉันอาจจะไม่ยาว)
3 คนเป็นมะเร็ง กินแล้ว หายจากมะเร็ง (แต่...)
ตามหลักในโลกนี้แล้ว ผมว่าทุกอย่างคือดาบสองคม
ไม่มีอะไรดีล้วน อย่างเดียว
ผมเล่าเรื่องเคสคนไข้ผมคนนึงให้ฟังเพลินๆละกันนะครับ
ขออนุญาตคนไข้แล้วครับ เพราะถือเป็นวิทยาทานคนอื่น
คนไข้ทำงานใน โรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่ง
ไปซื้อ เครื่องกรองน้ำ(เขาบอกว่าเป็นน้ำพิเศษ) มาทาน
ตอนแรก ก็ไม่มีอาการอะไรหรอกครับ
แต่พออยู่ๆมา ก็มีก้อนขนาดก้อนส้มที่ ท้องน้อย
เวลาผ่านไป 2 เดือน
เธอก็ทานไปเรื่อยๆ จนก้อนโตมาประมาณ สะดือ
เริ่มเอะใจก็เลย ไปถามคนขาย
คนขายก็บอกว่า เนี่ยแหละคุณสมบัติพิเศษของน้ำ ตัวนี้
คือถ้าเป็นโรคแฝงอยู่ก็ทำให้ปรากฎตัวเร็วขึ้น จะได้รักษาหาย
มีคนนึง นะ ตอนแรกไม่เป็น เบาหวาน ต่อมากินน้ำแล้ว ตรวจเจอเบาหวานเลย ทำให้รีบรักษาแล้วก็หาย
ฟังดู ก็แปลกๆแล้วนะครับ
เขาบอกว่า กินน้ำนี้ไปเรื่อยๆแล้ว ก้อนจะโตขึ้นๆ จนในที่สุดมันก็หายไปเอง (ผมฟังดูเหมือน เวลาเราสูบลมเข้าลูกโป่งไปเรื่อยๆๆ มันคงจะแตกไปเอง)
แปลกมากครับ แต่ผู้ป่วยท่านนี้ก็เชื่อ
แล้วก็ทานมาอีก 6 เดือน จนส้ม กลายเป็นแตงโม ขนาดคนท้อง 9 เดือน (ใกล้คลอดเต็มที) ผู้ป่วย อายุ 45 ต้องมารับสภาพเป็นคนอุ้มท้องโดยไม่ได้ตั้งใจ ใส่ชุดคลุมท้องไปไหนมาไหน ให้คนรอบข้าง หัวเราะเอา หลังๆเริ่มที่จะนอนลำบากขึ้น อึดอัด
จนยอมมาพบแพทย์แผนปัจจุบัน
ผ่าตัดเป็นเนื้องอกมดลูกขนาด ประมาณ 30*40 cm
แต่ผมก็ไม่ได้ทราบผลอีกว่าเป็นเนื้อร้ายหรือไม่
ผมเคยได้ยินคนมาถามเกี่ยวกับพวก น้ำวิเศษ หรือยาวิเศษมาเยอะครับ แม้กระทั่งมีคนมาชวนซื้อเหมือนกันครับ
สำหรับผมหลักคิดง่ายๆครับ ว่าหลักการธรรมชาติน่าจะดีที่สุด
คือความสมดุล ทานอาหารและออกกำลังกายตามความเหมาะสม
ส่วนเรื่องน้ำ พิเศษ ที่ว่านี้จะดีไหม แล้วแต่ความเชื่อครับ
บางครั้งเราก็ได้ผลจาก placebo effect ด้วยเหมือนกัน
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
-
- Verified User
- โพสต์: 1254
- ผู้ติดตาม: 0
บทความทางการแพทย์
โพสต์ที่ 21
ขอบคุณครับคุณหมอเค หลังจากได้อ่านที่หมอเคให้ความคิดเห็นแล้ว ผมจะรอให้ผู้ที่ดื่มน้ำแอคทริเวทหลายๆท่านได้ดื่มน้ำนี้เป็นเวลาซักหลายๆปีก่อนแล้วไม่มีผลข้างเคียงผมค่อยซื้อมาทำน้ำดื่มน่าจะดีกว่าสิครับ ผมเห็นท่านนพ.ชื่อดัง(ผมจำชื่อท่านไม่ค่อยได้ครับ)ที่ท่านบอกว่าจะอยู่ให้ได้120ปีเชียร์ผมก็เลยสนใจครับ
เครื่องทำน้ำแอคทริเวคน่าจะดีนะผมว่า ต้องให้เวลาเป็นผู้เฉลยคำตอบให้ครับ
เครื่องทำน้ำแอคทริเวคน่าจะดีนะผมว่า ต้องให้เวลาเป็นผู้เฉลยคำตอบให้ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1598
- ผู้ติดตาม: 0
บทความทางการแพทย์
โพสต์ที่ 22
พี่ๆคับ ตัวยา diclofenac เป็นยาในกลุ่มอะไร มีผลข้างเคียงอะไรกับร่างกายบ้าง และมียาใดที่ใช้ทดแทนได้ดี
ปล. ผมมีอาการปวดเข่าข้างขวาด้านนอก มีพี่คนหนึ่งแนะนำให้กินยาตัวนี้วันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 100mg ขอบคุณมากคับ
ปล. ผมมีอาการปวดเข่าข้างขวาด้านนอก มีพี่คนหนึ่งแนะนำให้กินยาตัวนี้วันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 100mg ขอบคุณมากคับ
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
- gradius173
- Verified User
- โพสต์: 198
- ผู้ติดตาม: 0
บทความทางการแพทย์
โพสต์ที่ 23
Diclofenac เป็นยากลุ่มNSAIDsครับ
ผลข้างเคียง
ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร เวียนศีรษะหรือปวดศีรษะเล็กน้อย
มีอาการบวมที่แขนขา ซึมเศร้า มึนงง นอนไม่หลับและตามัว
การทำงานของตับและไตแย่ลง เม็ดเลือดขาวบางตัวลดลง เกร็ดเลือดต่ำ
แต่ที่เจอบ่อยๆเลยคือ แผลในกระเพาะอาหาร อาการบวม และการทำงาน
ของไตแย่ลงครับ
ผมใช่Arcoxiaมากกว่าในคนไข้ที่ปวดเรื้อรัง ผลข้างเคียงน้อยกว่าครับ
แต่ข้อเสียราคาแพงและห้ามใช้ในคนไข้หอบหืด ลมพิษ แพ้NSAIDs
หัวใจล้มเหลว กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด โรคของพวกหลอดเลือดแดงส่วนปลาย
ผลข้างเคียง
ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร เวียนศีรษะหรือปวดศีรษะเล็กน้อย
มีอาการบวมที่แขนขา ซึมเศร้า มึนงง นอนไม่หลับและตามัว
การทำงานของตับและไตแย่ลง เม็ดเลือดขาวบางตัวลดลง เกร็ดเลือดต่ำ
แต่ที่เจอบ่อยๆเลยคือ แผลในกระเพาะอาหาร อาการบวม และการทำงาน
ของไตแย่ลงครับ
ผมใช่Arcoxiaมากกว่าในคนไข้ที่ปวดเรื้อรัง ผลข้างเคียงน้อยกว่าครับ
แต่ข้อเสียราคาแพงและห้ามใช้ในคนไข้หอบหืด ลมพิษ แพ้NSAIDs
หัวใจล้มเหลว กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด โรคของพวกหลอดเลือดแดงส่วนปลาย
-
- Verified User
- โพสต์: 1598
- ผู้ติดตาม: 0
บทความทางการแพทย์
โพสต์ที่ 24
ขอบคุณมากคับพี่ gradius173 เรื่องปริมาณในการบริโภคของผมมากเกินไปไหมคับ 100mg ต่อครั้งต่อวัน แล้วผลข้างเคียงที่เกิดเกิดกับผุ้ป่วยประมาณกี่เปอเซนต์คับพี่gradius173 เขียน:Diclofenac เป็นยากลุ่มNSAIDsครับ
ผลข้างเคียง
ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร เวียนศีรษะหรือปวดศีรษะเล็กน้อย
มีอาการบวมที่แขนขา ซึมเศร้า มึนงง นอนไม่หลับและตามัว
การทำงานของตับและไตแย่ลง เม็ดเลือดขาวบางตัวลดลง เกร็ดเลือดต่ำ
แต่ที่เจอบ่อยๆเลยคือ แผลในกระเพาะอาหาร อาการบวม และการทำงาน
ของไตแย่ลงครับ
ผมใช่Arcoxiaมากกว่าในคนไข้ที่ปวดเรื้อรัง ผลข้างเคียงน้อยกว่าครับ
แต่ข้อเสียราคาแพงและห้ามใช้ในคนไข้หอบหืด ลมพิษ แพ้NSAIDs
หัวใจล้มเหลว กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด โรคของพวกหลอดเลือดแดงส่วนปลาย
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
บทความทางการแพทย์
โพสต์ที่ 25
gradius173 เขียน:Diclofenac เป็นยากลุ่มNSAIDsครับ
ผลข้างเคียง
ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร เวียนศีรษะหรือปวดศีรษะเล็กน้อย
มีอาการบวมที่แขนขา ซึมเศร้า มึนงง นอนไม่หลับและตามัว
การทำงานของตับและไตแย่ลง เม็ดเลือดขาวบางตัวลดลง เกร็ดเลือดต่ำ
แต่ที่เจอบ่อยๆเลยคือ แผลในกระเพาะอาหาร อาการบวม และการทำงาน
ของไตแย่ลงครับ
ผมใช่Arcoxiaมากกว่าในคนไข้ที่ปวดเรื้อรัง ผลข้างเคียงน้อยกว่าครับ
แต่ข้อเสียราคาแพงและห้ามใช้ในคนไข้หอบหืด ลมพิษ แพ้NSAIDs
หัวใจล้มเหลว กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด โรคของพวกหลอดเลือดแดงส่วนปลาย
ขอบคุณ คุณหมอ gradius ครับ
ดีจังครับ ที่มีคนเข้ามาร่วม share ข้อมูล
สำหรับ ผมเห็นด้วยทุกประการครับ
แต่สำหรับ ยาลดอาการอักเสบ โดยเฉพาะกลุ่ม NSAIDS
บางคนใช้ celebrex เพราะคิดว่า มันปลอดภัยกับ กระเพาะมากกว่าตัวอื่น
แต่ในความรู้ของผมคือ
ไม่ว่ายาอะไรก็แล้วแต่ ไม่กินดีที่สุด
ใช้วิธีธรรมชาติบำบัดครับ ปวดเข่า ก็ออกกำลังกล้ามเนื้อต้นขาแทน
แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ทานเป็นครั้งคราว และก็ปรับลักษณะการใช้งานของมันดูครับ
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
-
- Verified User
- โพสต์: 1372
- ผู้ติดตาม: 0
บทความทางการแพทย์
โพสต์ที่ 26
ขอสอบถามด้วยครับ พอเตะบอลเสร็จวันรุ่งขึ้นจะเจ็บบริเวณเอ็นร้อยหวาย จะเจ็บมากตอนลงน้ำหนัก ซึ่งจะเจ็บช่วงเช้า พอบ่ายๆก็จะหายเจ็บ แต่พอเช้าอีกวันก็จะเจ็บอีก
1. ตอนนี้ผมจะใช้วิธี แช่น้ำเย็น + รัดด้วยแองเกิ้ล
2. ขอคำแนะนำในการรักษาด้วยครับ
3. มียาตัวไหนรักษาหรือช่วยลดอาการ
4. ต้องหยุดเตะบอลไหมครับ (ไม่อยากหยุด)
1. ตอนนี้ผมจะใช้วิธี แช่น้ำเย็น + รัดด้วยแองเกิ้ล
2. ขอคำแนะนำในการรักษาด้วยครับ
3. มียาตัวไหนรักษาหรือช่วยลดอาการ
4. ต้องหยุดเตะบอลไหมครับ (ไม่อยากหยุด)
สติมา ปัญญาเกิด
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1841
- ผู้ติดตาม: 0
บทความทางการแพทย์
โพสต์ที่ 27
ขอเจ๋อตอบเสี่ย "ตี๋" หน่อยนะsattaya เขียน:ขอสอบถามด้วยครับ พอเตะบอลเสร็จวันรุ่งขึ้นจะเจ็บบริเวณเอ็นร้อยหวาย จะเจ็บมากตอนลงน้ำหนัก ซึ่งจะเจ็บช่วงเช้า พอบ่ายๆก็จะหายเจ็บ แต่พอเช้าอีกวันก็จะเจ็บอีก
1. ตอนนี้ผมจะใช้วิธี แช่น้ำเย็น + รัดด้วยแองเกิ้ล
2. ขอคำแนะนำในการรักษาด้วยครับ
3. มียาตัวไหนรักษาหรือช่วยลดอาการ
4. ต้องหยุดเตะบอลไหมครับ (ไม่อยากหยุด)
๑ ทำไมไม่แช่น้ำร้อนฟะ ไม่ข้าวจาย
๓ ไปหาหมอที่ "วิชัยยุทธ" กันมั๊ย ร้านกาแฟน่านั่งดี
๔ อย่าหยุดเตะเลย เดี๋ยวแฟนบอล(ไม่ใช่แฟนของพี่บอลเค้านะ :8) ) อดชมเป็บบุญตา
มีฟามรู้แค่นี้แหละ :D
Rabbit VS. Turtle
- gradius173
- Verified User
- โพสต์: 198
- ผู้ติดตาม: 0
บทความทางการแพทย์
โพสต์ที่ 28
ทานไม่มากเกินไปครับ ขนาดที่ใช้ 75-150mg.ต่อวันกุหลาบงามหลังฝน เขียน: ขอบคุณมากคับพี่ gradius173 เรื่องปริมาณในการบริโภคของผมมากเกินไปไหมคับ 100mg ต่อครั้งต่อวัน แล้วผลข้างเคียงที่เกิดเกิดกับผุ้ป่วยประมาณกี่เปอเซนต์คับพี่
แต่คนไทยsizeเล็ก ผมจะใช้ไม่ค่อยเกิน 100mg./day
ผลข้างเคียงเกิดกี่%ผมไม่แน่ใจเหมือนกันครับ แต่โรคกระเพาะอักเสบเจอบ่อยพอสมควรครับหากใช้ไปนานๆ
จริงๆไม่ทานดีที่สุดครับ ฝึกกายภาพบำบัดด้วยตัวเองได้ แต่แรกๆจะเจ็บหน่อย ใช้ยาช่วยบ้าง จะทำให้บริหารได้ดีขึ้น การบริหารต้องทำทุกวันจะได้ผลดีครับ
การบริหารข้อเข่า
มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้กล้ามเนื้อที่ใช้ควบคุมข้อเข่าแข็งแรง และมีการไหลเวียนของน้ำหล่อเลี้ยงข้อ
ท่านอนหงาย ให้นอนหงายวางเข่าบนหมอนแล้วเกร็งกล้ามเนื้อหน้าขาให้เข่าเหยียดตรง เท้าลอยขึ้นจากเตียงนับ 1 ถึง 10 ช้าๆ แล้ว ปล่อยขาลงทำ 30 ครั้ง วันละ 2 รอบ
ท่านั่ง นั่งบนเก้าอี้พิงพนัก เกร็งกล้ามเนื้อหน้าขาให้เข่าเหยียดตรง นับ 1 ถึง 10 แล้วคลายกล้ามเนื้อปล่อยเข่าลง ทำ 30 ครั้ง วันละ 2 รอบ
- gradius173
- Verified User
- โพสต์: 198
- ผู้ติดตาม: 0
บทความทางการแพทย์
โพสต์ที่ 30
1.หลังอุบัติเหตุใหม่ๆ ใช้น้ำเย็นก่อนครับ ประมาณ24-48hrs. ค่อยใช้น้ำอุ่นครับsattaya เขียน:ขอสอบถามด้วยครับ พอเตะบอลเสร็จวันรุ่งขึ้นจะเจ็บบริเวณเอ็นร้อยหวาย จะเจ็บมากตอนลงน้ำหนัก ซึ่งจะเจ็บช่วงเช้า พอบ่ายๆก็จะหายเจ็บ แต่พอเช้าอีกวันก็จะเจ็บอีก
1. ตอนนี้ผมจะใช้วิธี แช่น้ำเย็น + รัดด้วยแองเกิ้ล
2. ขอคำแนะนำในการรักษาด้วยครับ
3. มียาตัวไหนรักษาหรือช่วยลดอาการ
4. ต้องหยุดเตะบอลไหมครับ (ไม่อยากหยุด)
2.ลดการใช้ครับ การเดิน วิ่ง หรือยืนนานๆ ทานยาแก้ปวดกลุ่มNSAIDs และประคบเย็น แล้วประคบร้อนตามลำดับ
3.ยาNSAIDsได้ทุกตัวครับ ยกเว้นแพ้ยา หรือมีโรคต้องห้าม
4.ควรหยุดเล่นครับ ประมาณ2-3สัปดาห์ หรือจนกว่าจะหายสนิท หากเล่นกีฬาทุกครั้งควรมีการ warm-up และ cool-down ช่วยลดอาการบาดเจ็บได้