durable competitive advantage
-
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
durable competitive advantage
โพสต์ที่ 1
เท่าที่เคยอ่านมาบนหลักการของBuffetมักเน้นเรื่องของdurable competitive advantage แต่ผมยังข้องใจอยู่โดยเฉพาะในตลาดเมืองไทยซึ่งส่วนใหญ่เป็นในลักษณะOEM ส่วนบริษัทที่มีแบรนด์ที่แข็งและเป็นที่ยอมรับจริงๆก็มีอยู่ไม่กี่ตัวและที่มีอยู่ก็ราคาสูงมาก ไม่ทราบว่าเราจะหาเพชรในตมอย่างไรครับ
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
durable competitive advantage
โพสต์ที่ 2
มันเป็นการเปรียบเทียบให้เห็นถึงคุณสมบัติของธุรกิจที่มีความยั่งยืน สามารถปรับเปลี่ยนสถานการณ์ต่างๆให้เกิดเป็นความได้เปรียบเสมอ หากเราขยันที่จะตรวจสอบประวัติบริษัท มองหาสินค้าที่อยู่ยืนนานจากอดีตจนปัจจุบันที่ยังคงแข็งแกร่งก็มีให้เราเลือกมากมาย เช่น SSC อาจจะมองว่าราคาสูง แต่ไม่ได้แพงนี่นา
เฮียเห็นว่าแก มักจะมองที่RATIOก่อนที่จะมองdurable competitive advantage ซะอีก ปรับเปลี่ยนวิธีเลือกหุ้นซะใหม่ เริ่มให้ถูกที่ถูกทาง RATIOเป็นของง่ายที่จะหาและทุกคนก็เข้าใจมันจึงไม่สามารถที่จะนำมาวิเคราะห์และสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าชาวบ้านได้เพราะหลายๆคนก็รู้เหมื่อนที่แกรู้ แต่การมองdurable competitive advantage มองกันออกไม่กี่คนหรอก อยากมีผลตอบแทนดีๆก็ฝึกฝนให้มองเป็นเข้าไว้
เฮียเห็นว่าแก มักจะมองที่RATIOก่อนที่จะมองdurable competitive advantage ซะอีก ปรับเปลี่ยนวิธีเลือกหุ้นซะใหม่ เริ่มให้ถูกที่ถูกทาง RATIOเป็นของง่ายที่จะหาและทุกคนก็เข้าใจมันจึงไม่สามารถที่จะนำมาวิเคราะห์และสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าชาวบ้านได้เพราะหลายๆคนก็รู้เหมื่อนที่แกรู้ แต่การมองdurable competitive advantage มองกันออกไม่กี่คนหรอก อยากมีผลตอบแทนดีๆก็ฝึกฝนให้มองเป็นเข้าไว้
-
- Verified User
- โพสต์: 15
- ผู้ติดตาม: 0
durable competitive advantage
โพสต์ที่ 3
ถ้าลองคิดว่าแบรนด์เขาจะแข็งจริงขายได้หรือเปล่า ก็สมมติว่าถ้าเกิดบริษัทนั้นจะเอาแบรนด์ไปออกผลิตภัณท์ใหม่ จะยังเป็นที่สนใจของผู้บริโภคอีกหรือเปล่า แต่มันก็ขึ้นกับปัจจัยอื้นด้วยเหมือนกัน อย่างแกรมมี่ทำบะหมี่ออกมาไม่สำเร็จ เพราะมันไปแนวเดียวกับพวกเพลง แฟชั่นอะไรต่างๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
durable competitive advantage
โพสต์ที่ 4
ก็อย่างที่เฮียว่านะแหละครับว่ามันมองกันไม่ออกทุกคน และผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นซะด้วยเลยเครียดๆอยู่เนี่ยครับเฮีย มันเหมือนเริ่มเจอทางตันๆยังไงก็ไม่รู้ จริงๆถ้าจะให้ผมfollowเฮียมันก็ไม่ยากอะไรแต่นั่นก็หมายความว่าผมเองก็ตกปลาเองไม่เป็นซักที จริงๆผมว่าตรงจุดนี้แหละครับที่จะแยกระหว่างมือโปรกับมือสมัครเล่น
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
durable competitive advantage
โพสต์ที่ 5
อย่าไปกังวลกับมันมากนัก มันคือทักษะไม่ใช่พรสวรรค์สามารถฝึกฝนกันได้ ต้องขยันศึกษา อ่านให้มากไว้ เปิดใจให้กว้าง ทุกวันนี้ผมยังอ่านหนังสือมากมายเพื่อประโยชน์ในการทำธุรกิจและลงทุน เวลามองอะไรมองนานๆมองให้เห็นชัดเจนทะลุปุโปร่ง
ส่วนการตามกันน่ะอย่าหวังเลย เมื่อก่อนมีคนถามทุกวัน บอกทุกวันได้เหมื่อนกัน แต่ตอนขายน่ะไม่ได้ถามเลยไม่บอก เจ๊งไปกันแยะแล้ว อยากเป็นต้องฝึกเอง สงสัยถามอย่างที่ทำนั้นแหละถูกแล้ว
ส่วนการตามกันน่ะอย่าหวังเลย เมื่อก่อนมีคนถามทุกวัน บอกทุกวันได้เหมื่อนกัน แต่ตอนขายน่ะไม่ได้ถามเลยไม่บอก เจ๊งไปกันแยะแล้ว อยากเป็นต้องฝึกเอง สงสัยถามอย่างที่ทำนั้นแหละถูกแล้ว
-
- ผู้ติดตาม: 0
durable competitive advantage
โพสต์ที่ 6
ผมว่าคำว่าdurable compettitive advantage ตามแบบที่mary buffett เขียนในthe new buffettology ยังตกไปอีกวรรคครับคือต้อง+ตามแบบที่ถนัด(จำประโยคภาษาอังกฤษในหนังสือไม่ได้)คือไม่ใช่โค้กไปลงทุนขุดน้ำมัน หรือยิลเลตต์ไปลงทุนทำสวน อย่างนี้ก็เจ๊งลูกเดียวครับ
ตามที่ผมคิดนะครับ นักลงทุนจะรู้ว่าบ.มีdurable compettitive ควรจะปกด.
1.อยู่ในธุรกิจที่ถูกต้อง
2.เป็นผู้นำในธุรกิจนั้น งบการเงินสวยไม่มีหนี้ระยะยาว ผู้บริหารconservativeในการดำเนินธุรกิจ
3.มีประวัติการดำเนินงานกำไรอย่างมั่นคงติดต่อกันยาวนานหลายๆๆๆๆปี ผ่านมรสุมมาให้เห็นพอสมควร (แสดงว่าปรับตัวเก่ง)
ธุรกิจที่ถูกต้องควรมีลักษณะคือ
1. ใช้สิ้นเปลืองทั้งตัวสินค้าและบริการ(ต้องใช้ซ้ำๆ)
2.ไม่มีการป.ป.ในตัวสินค้าหรือบริการหรือเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย พวกไฮเทคป.ป.เร็วทำให้มองอนาคตระยะยาวไม่ได้แม่น
3.มีกำไรดีสม่ำเสมอดังนั้นไม่ควรเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งแข่งขันด้วยราคา
4.มีcapital expenditureแต่ละปีน้อย ทำให้มีเงินเหลือเยอะ
ตามที่ผมคิดนะครับ นักลงทุนจะรู้ว่าบ.มีdurable compettitive ควรจะปกด.
1.อยู่ในธุรกิจที่ถูกต้อง
2.เป็นผู้นำในธุรกิจนั้น งบการเงินสวยไม่มีหนี้ระยะยาว ผู้บริหารconservativeในการดำเนินธุรกิจ
3.มีประวัติการดำเนินงานกำไรอย่างมั่นคงติดต่อกันยาวนานหลายๆๆๆๆปี ผ่านมรสุมมาให้เห็นพอสมควร (แสดงว่าปรับตัวเก่ง)
ธุรกิจที่ถูกต้องควรมีลักษณะคือ
1. ใช้สิ้นเปลืองทั้งตัวสินค้าและบริการ(ต้องใช้ซ้ำๆ)
2.ไม่มีการป.ป.ในตัวสินค้าหรือบริการหรือเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย พวกไฮเทคป.ป.เร็วทำให้มองอนาคตระยะยาวไม่ได้แม่น
3.มีกำไรดีสม่ำเสมอดังนั้นไม่ควรเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งแข่งขันด้วยราคา
4.มีcapital expenditureแต่ละปีน้อย ทำให้มีเงินเหลือเยอะ
-
- Verified User
- โพสต์: 79
- ผู้ติดตาม: 2
durable competitive advantage
โพสต์ที่ 7
คุณ ระพินท์ ว่าไว้ได้ประเด็นสำคัญอย่าครบถ้วนผมว่าน่าจะลองหากันดูนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 172
- ผู้ติดตาม: 0
durable competitive advantage
โพสต์ที่ 10
หัวใจของ VI มีไม่กี่ข้อ จริงๆ .... เหมือนที่ ดร. บอกไว้เป๊ะๆ
แต่กว่าจะรู้ซักข้อ ก็ต้องผ่านกับดักมากมาย ...
ไอ้ที่รู้ตอนนี้ก็ไม่แน่ว่าจะถูกหรือผิดอีกต่างหาก ...
ดังนั้นก็บวก margin of safety ไว้ ในสิ่งที่เราคิดออกมาได้ ก่อนละกัน ....
ปล. โปรดระวัง DCA ปลอม :P
แต่กว่าจะรู้ซักข้อ ก็ต้องผ่านกับดักมากมาย ...
ไอ้ที่รู้ตอนนี้ก็ไม่แน่ว่าจะถูกหรือผิดอีกต่างหาก ...
ดังนั้นก็บวก margin of safety ไว้ ในสิ่งที่เราคิดออกมาได้ ก่อนละกัน ....
ปล. โปรดระวัง DCA ปลอม :P
ไม่ประมาท
-
- Verified User
- โพสต์: 2545
- ผู้ติดตาม: 0
durable competitive advantage
โพสต์ที่ 11
คุณสมบัติหนึ่งที่สำคัญที่ผมประยุกต์จากความเห็นของบัฟเฟทซึ่งให้คำตอบอย่างง่าย ๆ ในเรื่องนี้ก็คือ
ธุรกิจที่เราควรลงทุนมี durable competitive advantage คือ เป็นบริษัทที่แม้กระทั่งคนธรรมดาทั่วไปก็ยังสามารถบริหารได้ ซึ่งเป็นภูมิต้านทานที่สำคัญของบริษัทดังกล่าวให้กับผู้บริหารบริษัทในอนาคตที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
เพราะถ้าการลงทุนของบริษัทใดก็ตามที่ขึ้นกับความสามารถของผู้บริหารขององค์กรนั้นมากกว่าศักยภาพของบริษัทที่แท้จริงที่เป็น durable competitive advantage แล้ว
หากมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารเกิดขึ้นคุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่าบริษัทจะสามารถทำเงินผลตอบแทนได้เหมือนเดิมต่อไปในระยะยาว เพราะเมื่อใดที่คุณต้องกังวลใจกับการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารที่เกิดขึ้นเมื่อใดก็ตามซึ่งคุณไม่อาจคาดเดาว่าใครก็ตามที่ต้องเข้ามาบริหารในอนาคต คุณก็อาจจะไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจดังกล่าวดีกว่า
จริง ๆ แล้วคำกล่าวในหนังสือที่พูดว่าคนโง่เข้ามาบริหารงานบริษัท ผมรู้สึกว่ารุนแรงไป เลยขอแก้ไขเป็นคนธรรมดาแทนดีกว่านะครับ :lol:
ธุรกิจที่เราควรลงทุนมี durable competitive advantage คือ เป็นบริษัทที่แม้กระทั่งคนธรรมดาทั่วไปก็ยังสามารถบริหารได้ ซึ่งเป็นภูมิต้านทานที่สำคัญของบริษัทดังกล่าวให้กับผู้บริหารบริษัทในอนาคตที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
เพราะถ้าการลงทุนของบริษัทใดก็ตามที่ขึ้นกับความสามารถของผู้บริหารขององค์กรนั้นมากกว่าศักยภาพของบริษัทที่แท้จริงที่เป็น durable competitive advantage แล้ว
หากมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารเกิดขึ้นคุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่าบริษัทจะสามารถทำเงินผลตอบแทนได้เหมือนเดิมต่อไปในระยะยาว เพราะเมื่อใดที่คุณต้องกังวลใจกับการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารที่เกิดขึ้นเมื่อใดก็ตามซึ่งคุณไม่อาจคาดเดาว่าใครก็ตามที่ต้องเข้ามาบริหารในอนาคต คุณก็อาจจะไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจดังกล่าวดีกว่า
จริง ๆ แล้วคำกล่าวในหนังสือที่พูดว่าคนโง่เข้ามาบริหารงานบริษัท ผมรู้สึกว่ารุนแรงไป เลยขอแก้ไขเป็นคนธรรมดาแทนดีกว่านะครับ :lol:
Circle of competence
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger