คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2675
ขออนุญาติตอบน้องฮงนะครับ
อย่างที่ในหนังสือของ Warren Buffett มาเขียนไว้น่ะ...
เหมือนเค้าบอกให้เราศึกษาให้รู้จักกว้างๆ
แล้วเลือกสิ่งที่เหมาะกับเรา
ทำแล้วมีความสุข
บางครั้งมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า เราเหมือนใคร หรือเราต่างกับใคร
แต่อาจขึ้นอยู่กับว่า เราเข้าใจในตัวเรามากแค่ไหนครับ
บางครั้งการลงทุนก็เป็นประตูสู่การเข้าใจตนเองนะครับ
...มีอีกอย่างที่ผมนึกขึ้นมาได้ครับ
จะศึกษามากอย่างไรก็แล้วแต่
...แต่ต้องไม่ทำให้หลักการเป็นหลักเกินด้วยนะครับ
มีความสุขกับการลงทุน และหลับฝันดีนะครับ :D
อย่างที่ในหนังสือของ Warren Buffett มาเขียนไว้น่ะ...
เหมือนเค้าบอกให้เราศึกษาให้รู้จักกว้างๆ
แล้วเลือกสิ่งที่เหมาะกับเรา
ทำแล้วมีความสุข
บางครั้งมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า เราเหมือนใคร หรือเราต่างกับใคร
แต่อาจขึ้นอยู่กับว่า เราเข้าใจในตัวเรามากแค่ไหนครับ
บางครั้งการลงทุนก็เป็นประตูสู่การเข้าใจตนเองนะครับ
...มีอีกอย่างที่ผมนึกขึ้นมาได้ครับ
จะศึกษามากอย่างไรก็แล้วแต่
...แต่ต้องไม่ทำให้หลักการเป็นหลักเกินด้วยนะครับ
มีความสุขกับการลงทุน และหลับฝันดีนะครับ :D
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2677
[quote="hongvalue"]
สรุปแง่คิดดีกว่าครับ
จริงๆแล้วหลังจากผมได้เห็นอะไรหลายอย่าง
มันทำให้ผมเลือกที่จะไม่พูดครับ
ถ้าคนถามไม่ออกตัวว่าเป็นคนเปิดกว้าง
ผมจะไม่ยอมพูดเด็ดขาดครับ
ผมว่านี้แหละคือเหตุผลทำให้เว็บเงียบ
ไม่แค่ต่างศาสนา ศาสนาเดียวกับคิดไม่เหมือนก็ทะเลาะกัน
สังเกตุสิครับในห้องร้อยคนร้อยหุ้นในทะเลาะกันบ่อย
คนจำนวณมากไม่อยากเข้าไปแล้วครับ
ข้อดีพูดได้ ข้อเสียพูดแล้วโดนด่า
ผมเองไม่ได้ประจำอยู่ที่เว็บไหนตลอด
ผมก็เลยกล้าพูด เพราะถ้ามีคนออกมาด่าผม
ผมก็ไปเล่นที่อื่นก็ได้ ก็เท่านั้น
ผมว่าผมพูดดุเดือดเกินไปแหละ
สงสัยจะเริ่มมีคนไม่พอใจล่ะ
โทษด้วยครับ
จะเลิกนอกเรื่องแล้ว
สรุปแง่คิดดีกว่าครับ
จริงๆแล้วหลังจากผมได้เห็นอะไรหลายอย่าง
มันทำให้ผมเลือกที่จะไม่พูดครับ
ถ้าคนถามไม่ออกตัวว่าเป็นคนเปิดกว้าง
ผมจะไม่ยอมพูดเด็ดขาดครับ
ผมว่านี้แหละคือเหตุผลทำให้เว็บเงียบ
ไม่แค่ต่างศาสนา ศาสนาเดียวกับคิดไม่เหมือนก็ทะเลาะกัน
สังเกตุสิครับในห้องร้อยคนร้อยหุ้นในทะเลาะกันบ่อย
คนจำนวณมากไม่อยากเข้าไปแล้วครับ
ข้อดีพูดได้ ข้อเสียพูดแล้วโดนด่า
ผมเองไม่ได้ประจำอยู่ที่เว็บไหนตลอด
ผมก็เลยกล้าพูด เพราะถ้ามีคนออกมาด่าผม
ผมก็ไปเล่นที่อื่นก็ได้ ก็เท่านั้น
ผมว่าผมพูดดุเดือดเกินไปแหละ
สงสัยจะเริ่มมีคนไม่พอใจล่ะ
โทษด้วยครับ
จะเลิกนอกเรื่องแล้ว
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2678
VIB007 เขียน:
แต่คนส่วนใหญ่คิดแค่ว่า"อยากรวย"เลยมาเล่นหุ้น
พอได้เงินขึ้นมาก็เลยถูก"ความโลภ"บังตา
สุดท้ายก็สูญเสียเงินที่หามาได้ไป
โดยไม่ได้ให้ความสำคัญกับ"หลักการ"ที่ถูกต้อง
โซรอสบอกว่า
ที่เขาลงทุนเพราะเขาต้องการทดสอบทฤษฏีของเขาเท่านั้นเอง
ฮงลองหา Alchemy of Finance ของโซรอสมาอ่าน
คงไม่มีใครบ้าแปลเป็นภาษาไทย
ถ้าอ่านรอบเดียวรู้เรื่อง
มารับตังค์จากพี่ไปเลยร้อยนึง
เห่อเห่อ ถ้าพี่ออกตัวแบบนี้ผมจะอ่านรู้เรื่องไหมครับเนี้ย
ให้ตั้งร้อยนึง น่าจะยากมาก
ผมเคยอ่าน security analysis นะ อ่านแป๊ปเดียวก็เลิกเลย
มันยากเกินไปอะ
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2679
ผมว่าประเด็นของ mos ไม่ใช่แค่ราคาต่ำกว่ามูลค่าVIB007 เขียน:
เอา เรามาคุยกันต่อดีกว่า
อย่าเพิ่งทิ้งกันไป
เอาเรื่อง MOS ก็ได้
(เอาใจหน่อย)
ฮงคิดอย่างไรกับเรื่อง Margin of Safety
สมมุติว่า บริษัท a ขยายงานแบบ bla bla bla
ถ้างานสำเร็จราคาที่เหมาะสมอยู่ที่ 170
เพราะว่าจะมีรายได้เติบโตเท่าไหร่ก็ว่าไป
ที่นี้ถ้าไม่สำเร็จราคาอาจจะอยู่ที่ 130 ถ้าเราทำ forward pe
ออกมาเพราะรายได้ส่วนนั้นน้อยลง
ประเด็นก็คือ เราควรซื้อให้ได้ราคา 100(ยกตัวอย่าง)
เพราะว่า บริษัทอาจจะมีปัญหาอะไรอีกนอกจากจะขยายงาน
a ไม่สำเร็จ อาจจะมีปัญหาอื่นๆซ่อนอยู่อีก
เช่น margin ลด เพราะตัดราคา , เสียลูกค้าบางราย ,เกิดการเปลี่ยนแปลง
กฏเกณฑ์บางอย่างของรัฐ
ผมคิดว่าคนที่จะเล่นหุ้น(โดยเฉพาะตัวเดียว)
mos เป็นเรื่องสำคัญ
สรุปคือ สำหรับผม mos คือเราต้องเผื่อว่าบริษัททำไม่ได้ตามเป้าไม่พอ
ยังต้องเผื่อว่าจะมีเรื่องร้ายๆที่เราคาดไม่ถึงออกมาอีก
ราคาที่เราซื้อควรเผื่อเรื่องร้ายๆอย่างอื่นเข้าไปพอสมควร
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2680
เอาไว้ว่างๆจะตั้งขึ้นมานะtum_H เขียน:ปล...
ผมว่าน่าจะตั้งกระทู้ใหม่เป็น
"แหลกกับ Hongvalue"
คงมันส์พิลึก
1 เสีบงครับ
ไปคุยในห้องนั่งเล่นก็ได้
แต่ตอนนี้มีกระทู้นี้กับห้องเทคนิคอยู่
ขอคุยที่นี้ให้จบก่อน
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2682
แม่นแล้ว เด้อhongvalue เขียน:
ผมว่าประเด็นของ mos ไม่ใช่แค่ราคาต่ำกว่ามูลค่า
บริษัทอาจจะมีปัญหาอะไรอีกนอกจากจะขยายงาน
a ไม่สำเร็จ อาจจะมีปัญหาอื่นๆซ่อนอยู่อีก
เช่น margin ลด เพราะตัดราคา , เสียลูกค้าบางราย ,เกิดการเปลี่ยนแปลง
กฏเกณฑ์บางอย่างของรัฐ
ผมคิดว่าคนที่จะเล่นหุ้น(โดยเฉพาะตัวเดียว)
mos เป็นเรื่องสำคัญ
สรุปคือ สำหรับผม mos คือเราต้องเผื่อว่าบริษัททำไม่ได้ตามเป้าไม่พอ
ยังต้องเผื่อว่าจะมีเรื่องร้ายๆที่เราคาดไม่ถึงออกมาอีก
ราคาที่เราซื้อควรเผื่อเรื่องร้ายๆอย่างอื่นเข้าไปพอสมควร
พี่บอกอยู่เสมอว่าราคาที่แท้จริงมันไม่ได้ละเอียดถึงทศนิยมตำแหน่งที่สอง
และเราอาจคาดการณ์หรือประเมินบริษัทผิดก็เป็นไปได้
ความสนุกของการลงทุนในหุ้นคือ"ความไม่แน่นอน"
มันไม่แน่เหมือนแช่แป้งอย่างฝากแบงค์
มันไม่ออกลูกเท่าๆกันทุกปีเหมือนพันธบัตร
บริษัทที่ลงทุนอาจดีกว่าที่คิด
หรือเลวร้ายกว่าที่คิดก็ได้
มันขึ้นกับว่าเรามองระยะเวลาการลงทุนของเรานานแค่ไหน
ถ้ามองไว้หลายๆปี
เวลาอาจเป็นสิ่งที่ช่วยได้
แต่ถ้ามอง
สักไม่เกินหนึ่งปี
สถานการณ์เศรษฐกิจอย่างนี้ บางบริษัทคงรอดยาก
อย่างบัฟเฟตเขาพูดเสมอว่า
เขาชอบซื้อของราคาหนึ่งเหรียญในราคาห้าสิบเซนต์
นั่นหมายความว่า MOS = 50%
ถ้าเราตั้งแสตนดาร์ด MOS = 50%
และคิดว่าบริษัทนี้มีมูลค่าอยู่ที่ 130-170
ดังนั้นราคาที่เราควรซื้อควรอยู่ที่ 65-85 บาทต่อหุ้นเป็นต้น
แต่ราคาหุ้นอาจไม่มาที่ราคานี้เลยก็ได้ ใครจะไปรู้
บัฟเฟตถึงบอกว่า
เขาจะสวิงหรือตีลูกก็ต่อเมื่อมันเข้าเป้าเท่านั้น
จึงไม่แปลกใจที่เขาเก็บเงินสดท่วมบริษัทในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
และควักออกมาใช้อย่างสนุกสนานในช่วงนี้
บัฟเฟตบอกว่า
เมื่อถึงเวลานั้น เขารู้สึกเหมือนราชาอยู่ในฮาเร็ม
ผมเคยคุยกัยท่าน Web เรื่องนี้
แต่ ท่าน Web บอกว่ากว่าจะถึงฮาเร็มก็กระสุนหมดแล้ว ฮา
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2684
ขอแชร์หน่อยแล้วกันครับmprandy เขียน: อันนี้ต้องขออภัยที่ต้องแย้ง
MSFT ได้เข้ามาทำ DOS ก็เพราะ IBM เปิดโอกาสให้ทำ ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นมี OS อื่นอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ได้รับการสนับสนุนหลักจาก IBM และการใช้กลยุทธ์ "เหล้าพ่วงเบียร์" ของ MSFT ก็ทำกับ IE เท่านั้น ส่วน software อื่นที่ทำเงิน (IE ทำให้ใช้ฟรี) อันได้แก่ชุด office นั้น MSFT ไม่ได้อาศัยความเป็นเจ้า OS ในการ bundle โปรแกรมเ้ข้าไปใน OS ฟรี ๆ นะครับ (ขืนทำก็ขายไม่ออกสิ)
ผมว่า key success ของ MSFT โดยเฉพาะในยุคหลัง ๆ คือ great imitator ไม่ใช่ innovator (มีที่ยังล้มลุกคลุกคลานอยู่ แต่ไม่ยอมแพ้ ได้แก่ MSN, MS live และที่พอตั้งตัวได้แล้วคือ XBoX และที่รุ่งโรจน์มากก็คือ Windows family ที่เลียนแบบ concept GUI OS จาก Mac OS และความเป็น network capability จาก Novell)
ด้วยความรู้ทางไอทีเท่าหางอึ่ง
โดยปกติผมไม่ค่อยชอบบริษัทไมโครซอฟท์และบิล เกตมากนัก
เพราะบิล เกตเป็นคนไม่ยอมแพ้ใคร
กูต้องชนะ
ไม่ว่าจะด้วยเล่ห์หรือด้วยกล
ทำให้หลายครั้งมันเป็นการหมิ่นเหม่จริยธรรมทางธุรกิจเหมือนกัน
เช่น พ่วง IE จน Netscape ขายไม่ออก
หรือ
ประกาศจะมี Windows ตัวใหม่จน OS2 ขายไม่ออก
แต่พอออกมาเป็น Windows NT ก็ใช้กับ PC สมัยนั้นไม่ได้เป็นต้น
ผมชื่นชมกูเกิ้ลมากกว่า
เพราะเขามองว่าโลกทุกวันนี้มันโหดร้ายกันมากพออยู่แล้ว
มาช่วยกันสร้างสรรค์สิ่งดีๆให้กับโลกดีกว่า
สโลแกนเขาถึงกับบอกว่า "Don't be Evil"
คงตั้งใจแทงข้างหลังทะลุหัวใจบิล เกต
ส่วนที่บอกว่าบิล เกตใจบุญทำการกุศลนั้น
ขอบอก Inside หน่อยนะว่า
คนที่อยู่เบื้องหลังมูลนิธิและเป็นตัวตั้งตัวตีนั้น
คือเมียเกตนั่นเอง หาใช่ตัวเกตเองไม่
มีนักข่าวถ่ามบัฟเฟตว่า
ถ้ามาลินดา เกตไม่ดำเนินการมูลนิธินี้ต่อแล้ว
บัฟเฟตจะยังให้เงินมูลนิธินี้ต่อไปหรือเปล่า
บัฟเฟตอ้ำๆอึ้งๆก่อนตอบว่า"ขอดูก่อน" อิ อิ
เห็นหรือยังว่าใครใจบุญตัวจริงกันแน่
ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับคุณหมอนะครับ
เพราะเท่าที่ดูพัฒนาการของไมโครซอฟท์
ดูเหมือนว่าเขาจะใช้กลยุทธแมวซุ่ม
ใครทำอะไรใหม่ๆดีๆเวิร์คๆก็ขอซื้อเลย
ไม่ยอมขายก็สร้างผลิตภัณท์มาแข่ง
เช่น Hotmail, IE
ว่าไป IE เป็น Search Engine ที่ห่วยที่สุดในตลาดตอนนี้
ส่วน MS Excel นั้น
ไมโครซอฟท์ทำออกมาครั้งแรกๆใช้กับ Apple Mcintosh ครับ
ไม่มีใน DOS
พอไมโครซอฟท์ ออก Windows
MS Excel, Word, Powerpoint เลยติดลมบน
ผมจำได้ว่าตอนนั้นใช้ Lotus 1-2-3 กับ Word Perfect ในDOS
ก็ถือว่าหรูมากแล้ว
แต่พอ OS เปลี่ยนมาเป็น Windows
MS เลยกั๊ก Source Code
ทำให้บริษัทเหล่านี้พัฒนาผลิตภัณท์สู้ MS ไม่ได้
แถมเจอพ่วงเป็นแพคอย่าง MS Office อีก
เลยตายไป
ถามคุณหมอmprandy หน่อยแล้วกันครับว่า
คุณหมอว่า อะไรทำให้ MS ยืนมาได้ทุกวันนี้
ทั้งๆที่ไม่ได้คิดอะไรเอง
และคิดว่าอนาคต MS จะเจ็งหรือตายไปหรือไม่
หรือใครจะมาโค่นเจ้ายักษ์นี้ได้
-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2686
เห็นด้วยครับว่า M$FT นี่ทำอะไรต่อมิอะไรเหมือนนักเลง โดยเฉพาะตอนที่ผลิต IE ออกมา สู้เขาไม่ได้ก็เล่น "เหล้าพ่วงเบียร์" จน NN กระอักเลือดตายเพราะดันเพิ่งเปลี่ยนกลยุทธ์จากแจกฟรี มาเป็นขายชุดละ $29เฮียวิบูลย์ เขียน: ขอแชร์หน่อยแล้วกันครับ
ด้วยความรู้ทางไอทีเท่าหางอึ่ง
โดยปกติผมไม่ค่อยชอบบริษัทไมโครซอฟท์และบิล เกตมากนัก
เพราะบิล เกตเป็นคนไม่ยอมแพ้ใคร
กูต้องชนะ
ไม่ว่าจะด้วยเล่ห์หรือด้วยกล
ทำให้หลายครั้งมันเป็นการหมิ่นเหม่จริยธรรมทางธุรกิจเหมือนกัน
ส่วนที่บอกว่าบิล เกตใจบุญทำการกุศลนั้น
ขอบอก Inside หน่อยนะว่า
คนที่อยู่เบื้องหลังมูลนิธิและเป็นตัวตั้งตัวตีนั้น
คือเมียเกตนั่นเอง หาใช่ตัวเกตเองไม่
มีนักข่าวถ่ามบัฟเฟตว่า
ถ้ามาลินดา เกตไม่ดำเนินการมูลนิธินี้ต่อแล้ว
บัฟเฟตจะยังให้เงินมูลนิธินี้ต่อไปหรือเปล่า
บัฟเฟตอ้ำๆอึ้งๆก่อนตอบว่า"ขอดูก่อน" อิ อิ
เห็นหรือยังว่าใครใจบุญตัวจริงกันแน่
แถมเรื่อง Windows Media Player ที่ลงท้ายแพ้คดี Anti-trust จนต้องจ่ายค่าปรับหลายพันล้านเหรียญ และต้องถอดโปรแกรมออกเพื่อขายใน Euro zone (ในนาม Windows XP Home N หรือ Professional N)
แต่ของอย่างนี้มันเหมือนหยิน หยาง ไม่มีใครดี 100% และชั่ว 100% ความดีของ M$FT และ Gate$ ก็มีไม่น้อย
บริษัท M$FT ไม่เคยมี scandal เรื่องกลบัญชี โกงเงินผู้ถือหุ้น เล่นแร่แปรธาตุเพื่อสร้างกำไรเกินจริง
เรื่อง Bill and Melinda Gates สำหรับตัวตั้งตัวตีอาจจะจริง แต่ถึงยังไงผมว่าอย่างน้อยก็ต้องยกเครดิตให้เขาอยู่ดี เพราะถ้าเปรียบเทียบกับมหาเศรษฐีคนอื่น ๆ แล้ว แกอาจจะไม่ได้อยู่ติดดินแบบ Soros หรือ Buffett (บ้านบิล เกตส์ เว่อมาก ๆ) แต่การตั้งใจบริจาคทรัพย์สินส่วนใหญ่ของตัวเองให้การกุศล ถือเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับแกเหมือนกัน เพราะถ้ามันทำกันได้ง่าย ๆ คงเห็นมหาเศรษฐีทำกันเกร่อแล้ว นึก ๆ แล้วก็สะท้อนใจกับมหาเศรษฐีเมืองไทย ที่ไม่เห็นมีใครออกมาทำอย่างนี้บ้าง มัวแต่หากำไรไม่รู้จักพอ แล้วพอตายก็ยกให้ลูกหลาน
Andrew Carnegie เคยกล่าวไว้ว่า "to die rich is to die disgraced" ผมว่าจริง
มีคนเคยศึกษาแ้ล้วพบว่าส่วนใหญ่ของกิจการที่ส่งต่อกันให้ลูกหลาน ไม่เกิน 3 รุ่นจะล่มสลาย เพราะคนรุ่นลูกหลาน ไม่เคยผ่านร้อนผ่านหนาว ต่อสู้และสั่งสมประสบการณ์จนประสบความสำเร็จเหมือนรุ่นพ่อแม่ พวกนี้เกิดมาบนกองเงินกองทอง ยิ่งทิ้งทรัพย์สินไว้ มักจะทำให้แย่มากกว่าดี
ผมชอบ Larry กับ Sergey เหมือนกันครับ แต่พอองค์กรมันใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ แล้วจะเปลี่ยนไปหรือเปล่า ต้องติดตามกันต่อไป อายุของ Google ตอนนี้ก็เหมือน M$FT สมัยออก DOS ใหม่ ๆ เป็นดาวรุ่ง ที่บริหารโดยสามหนุ่มไฟแรง (Gates, Allen และ Balmer) ... ดูตอนนี้สิเฮียวิบูลย์ เขียน:ผมชื่นชมกูเกิ้ลมากกว่า
เพราะเขามองว่าโลกทุกวันนี้มันโหดร้ายกันมากพออยู่แล้ว
มาช่วยกันสร้างสรรค์สิ่งดีๆให้กับโลกดีกว่า
สโลแกนเขาถึงกับบอกว่า "Don't be Evil"
คงตั้งใจแทงข้างหลังทะลุหัวใจบิล เกต
ผมว่า key success ของกิจการแต่ละอย่างนั้นแตกต่างกัน กิจการทุกอย่างไม่จำเป็นต้องมี innovation เพื่อทำให้กิจการของตนเจริญเติบโตก็ได้ บางกิจการเลือกจะสร้างสรรนวัตกรรม บางกิจการเลือกจะศึกษาผู้นำนวัตกรรมแล้วต่อยอดกลับมาด้วยของที่ดีกว่า บางกิจการเลือกจะ go with the flow แต่เน้นที่ efficiency ก็ได้เฮียวิบูลย์ เขียน: ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับคุณหมอนะครับ
เพราะเท่าที่ดูพัฒนาการของไมโครซอฟท์
ดูเหมือนว่าเขาจะใช้กลยุทธแมวซุ่ม
ใครทำอะไรใหม่ๆดีๆเวิร์คๆก็ขอซื้อเลย
ไม่ยอมขายก็สร้างผลิตภัณท์มาแข่ง
เช่น Hotmail, IE
ว่าไป IE เป็น Search Engine ที่ห่วยที่สุดในตลาดตอนนี้
ส่วน MS Excel นั้น
ไมโครซอฟท์ทำออกมาครั้งแรกๆใช้กับ Apple Mcintosh ครับ
ไม่มีใน DOS
พอไมโครซอฟท์ ออก Windows
MS Excel, Word, Powerpoint เลยติดลมบน
ผมจำได้ว่าตอนนั้นใช้ Lotus 1-2-3 กับ Word Perfect ในDOS
ก็ถือว่าหรูมากแล้ว
แต่พอ OS เปลี่ยนมาเป็น Windows
MS เลยกั๊ก Source Code
ทำให้บริษัทเหล่านี้พัฒนาผลิตภัณท์สู้ MS ไม่ได้
แถมเจอพ่วงเป็นแพคอย่าง MS Office อีก
เลยตายไป
ถามคุณหมอmprandy หน่อยแล้วกันครับว่า
คุณหมอว่า อะไรทำให้ MS ยืนมาได้ทุกวันนี้
ทั้งๆที่ไม่ได้คิดอะไรเอง
และคิดว่าอนาคต MS จะเจ็งหรือตายไปหรือไม่
หรือใครจะมาโค่นเจ้ายักษ์นี้ได้
Michael Porter เน้นเรื่อง Strategy ก็จริง แต่กิจการหลายประเภทมันแทบจะเป็น perfect competition ถ้ามัวมานั่งหากลยุทธ์ กว่าจะเจอแต่สุดท้ายถูกทิ้งไว้อยู่ข้างหลังก็ไม่รอดเหมือนกัน บ่อยครั้งที่เราเห็นว่า best strategy ของกิจการก็คือ operational efficiency นี่แหละ
ผมเห็นด้วยกับ comment เฮียนริศครับ สิ่้งหนึ่งที่ผมเห็นร่วมกันอย่างหนึ่งในกิจการที่ประสบความสำเร็จ คือ กิจการเหล่านี้มีการนำเทคนิคที่ถนัดของตัวเอง มาใช้ตอบสนองลูกค้าได้ดีกว่าคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็น lifestyle play ของ Starbucks หรือ logistics ของ Wal-Mart ... แม้กระทั่งกลยุทธ์ "me too ... but better" ของ M$FT
ไม่สน return rate เยอะ, ขอแค่ financial freedom ภายใน 14 ปีก็พอ..
------------------------
------------------------
-
- Verified User
- โพสต์: 1254
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2687
ได้อ่านสิ่งที่คุณหมอเงินเชื่อเกี่ยวกับเรื่องเงินนั้นน่าสนใจมากครับ ผมขออนุญาติกล่าวเกี่ยวกับเรื่องเงินที่ผมเชื่อซักเล็กน้อยครับ
"เงินคือทาสที่ซื่อ และโง่" Budda
"เงินคือพระเจ้า" Lucifer
แน่นอนผมเชื่อพุทธองค์ครับ
วิถีชีวิตของ จอร์ส โซรอส น่าสนใจมากครับ ผมต้องลองหาบทความของโซรอสมาอ่านบ้างแล้ว
"เงินคือทาสที่ซื่อ และโง่" Budda
"เงินคือพระเจ้า" Lucifer
แน่นอนผมเชื่อพุทธองค์ครับ
วิถีชีวิตของ จอร์ส โซรอส น่าสนใจมากครับ ผมต้องลองหาบทความของโซรอสมาอ่านบ้างแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2689
ตอบอันนี้ก่อน
เพราะสบายๆ
ไม่วิชาการเหมือนเรื่องหุ้น
เจ้าฮงคงแอบค้อนในใจ อิ อิ
แล้วเรายังเฉยๆ
ก็ไม่มีปัญหาอะไร
ไม่ดูตลาดก็ได้
ไม่ต้องสนใจ
เอาเวลาไปทำอย่างอื่น
จะไปกังวลเรื่องอะไร
แต่ถ้าเราเก็งกำไรไปด้วยทำงานไปด้วย
เราคงไม่มีสมาธิในการทำงาน
ตอบว่าขึ้นกับหลักการของเราเองมากกว่า
ส่วนผม ตลาดปิดไปสักห้าปีก็ได้
ไม่เป็นไร
เวลาทำงานก็ทำงานให้เต็มที่ ไม่ต้องห่วงหุ้น
บริษัทที่ลงทุนไว้มันคงไม่เจ๊งง่ายๆในไม่กี่ชั่วโมง
ส่วนนอกเวลาทำงานก็เป็นเรื่องของเรา
เวลาทำงานเราก็ทำงาน
เวลาอยู่บ้านก็ให้เวลากับครอบครัวเต็มที่
เวลาที่เหลือก็เป็นส่วนตัว
ส่วนมากผมจะมีเวลาส่วนตัวก็ตอนเด็กๆหลับหมดแล้ว
ก็เอาเวลานั้นมาอ่านหนังสือ ศึกษาการลงทุน
ถ้าเราเจอการลงทุนแบบวีไอ
และคิดว่าวีไอมัน"โดน"กับเราจังจัง
เราก็จะเริ่มอยากเรียนรู้กับมัน
แต่ถ้าไม่"โดน"แล้ว ก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่
ผมขาดทุนจากการเก็งกำไรแบบไม่มีความรู้มาก่อน
พอมาเจอหนังสือของบัฟเฟตก็"โดน"เลยครับ
จากนั้นก็หาอ่านมาตลอด
แล้วทดลองปฏิบัติในตลาดหุ้นจริงๆ
การลงทุนในตลาดหุ้นคือการทดสอบทฤษฏีของผมนั่นเอง
เพราะสบายๆ
ไม่วิชาการเหมือนเรื่องหุ้น
เจ้าฮงคงแอบค้อนในใจ อิ อิ
ถ้าเราคิดว่าซื้อหุ้นแล้วตลาดปิดไปสักสามปีnoooon010 เขียน: อยากสอบถามพี่วิบูลย์ว่า พี่คิดอย่างไรเวลาที่เราทำงานไปด้วย
ลงทุนไปด้วย
พี่แบ่งเวลาอย่างไรครับ
และพี่มีวิธีทำให้เรามีสามาธิในการลงทุน และการทำงานอย่างไร
แล้วเรายังเฉยๆ
ก็ไม่มีปัญหาอะไร
ไม่ดูตลาดก็ได้
ไม่ต้องสนใจ
เอาเวลาไปทำอย่างอื่น
จะไปกังวลเรื่องอะไร
แต่ถ้าเราเก็งกำไรไปด้วยทำงานไปด้วย
เราคงไม่มีสมาธิในการทำงาน
ตอบว่าขึ้นกับหลักการของเราเองมากกว่า
ส่วนผม ตลาดปิดไปสักห้าปีก็ได้
ไม่เป็นไร
เวลาทำงานก็ทำงานให้เต็มที่ ไม่ต้องห่วงหุ้น
บริษัทที่ลงทุนไว้มันคงไม่เจ๊งง่ายๆในไม่กี่ชั่วโมง
ส่วนนอกเวลาทำงานก็เป็นเรื่องของเรา
อย่างที่บอกnoooon010 เขียน: ยิ่งพี่มีครอบครัวด้วย
เวลาส่วนหนึ่ง และยังมีความห่วงครอบครัว อีกส่วนหนึ่ง
พี่วิบูลย์พอจะมีข้อแนะนำอย่างไรไหมครับ
ตัวผมเอง พยายามแบ่งเวลา และค่อยๆศึกษา ค่อยๆลงทุนครับ
ตอนนี้เหมือนรู้จัก การลงทุนของ Buffett มากขึ้น เหมือนเข้าใจแนวคิดเค้ามากขึ้นครับ
เวลาทำงานเราก็ทำงาน
เวลาอยู่บ้านก็ให้เวลากับครอบครัวเต็มที่
เวลาที่เหลือก็เป็นส่วนตัว
ส่วนมากผมจะมีเวลาส่วนตัวก็ตอนเด็กๆหลับหมดแล้ว
ก็เอาเวลานั้นมาอ่านหนังสือ ศึกษาการลงทุน
อย่างที่บัฟเฟตบอกไว้หละครับnoooon010 เขียน: ...ปล. อยากทราบว่าตอนที่พี่หันมาลงทุนแบบ VI
ตอนนั้นพี่วิบูลย์ มีสิ่งใดมากระตุ้นให้พี่สนใจการลงทุนแนวนี้ครับ
ถ้าเราเจอการลงทุนแบบวีไอ
และคิดว่าวีไอมัน"โดน"กับเราจังจัง
เราก็จะเริ่มอยากเรียนรู้กับมัน
แต่ถ้าไม่"โดน"แล้ว ก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่
ผมขาดทุนจากการเก็งกำไรแบบไม่มีความรู้มาก่อน
พอมาเจอหนังสือของบัฟเฟตก็"โดน"เลยครับ
จากนั้นก็หาอ่านมาตลอด
แล้วทดลองปฏิบัติในตลาดหุ้นจริงๆ
การลงทุนในตลาดหุ้นคือการทดสอบทฤษฏีของผมนั่นเอง
ขอบคุณครับnoooon010 เขียน: ขอบคุณอีกครั้งนะครับผม
มีความสุขกับการลงทุน และมีความสุขกับชีวิตครอบครัวครับ :D
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2690
ก็ไม่ได้เกลียดบิล เกตหรอกครับmprandy เขียน:
เรื่อง Bill and Melinda Gates สำหรับตัวตั้งตัวตีอาจจะจริง แต่ถึงยังไงผมว่าอย่างน้อยก็ต้องยกเครดิตให้เขาอยู่ดี เพราะถ้าเปรียบเทียบกับมหาเศรษฐีคนอื่น ๆ แล้ว แกอาจจะไม่ได้อยู่ติดดินแบบ Soros หรือ Buffett (บ้านบิล เกตส์ เว่อมาก ๆ) แต่การตั้งใจบริจาคทรัพย์สินส่วนใหญ่ของตัวเองให้การกุศล ถือเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับแกเหมือนกัน เพราะถ้ามันทำกันได้ง่าย ๆ คงเห็นมหาเศรษฐีทำกันเกร่อแล้ว นึก ๆ แล้วก็สะท้อนใจกับมหาเศรษฐีเมืองไทย ที่ไม่เห็นมีใครออกมาทำอย่างนี้บ้าง มัวแต่หากำไรไม่รู้จักพอ แล้วพอตายก็ยกให้ลูกหลาน
ท่านมหาตมะ คานธีเคยกล่าวไว้ว่า
"จงเกลียดบาป แต่อย่าเกลียดคนทำบาป"
ผมยังจำมาได้จนทุกวันนี้
เรื่องเศรษฐีเมืองนอกชอบบริจาคนั้น
บางทีมันเป็นเรื่อง flight บังคับ
เพราะภาษีมรดกโหดเหลือหลาย
จ่ายภาษีกันทีกว่าครึ่ง
เศรษฐีเลยหันมาบริจาคเข้ามูลนิธิแทน
ไม่เสียภาษี
ส่วนเมืองไทย
ไม่มีกฏหมายภาษีมรดก
เศรษฐีไทยเลยไม่จำเป็นต้องคิดเรื่องบริจาคให้สังคมให้เมื่อยตุ้ม
ผมว่าถ้ามีภาษีมรดกเหมือนเมืองนอก
เศรษฐีไทยจะตั้งมูลนิธิขึ้นอีกมาก
(เพื่อเลี่ยงภาษี ฮา)
ขอบคุณคุณหมอครับmprandy เขียน: ผมว่า key success ของกิจการแต่ละอย่างนั้นแตกต่างกัน กิจการทุกอย่างไม่จำเป็นต้องมี innovation เพื่อทำให้กิจการของตนเจริญเติบโตก็ได้ บางกิจการเลือกจะสร้างสรรนวัตกรรม บางกิจการเลือกจะศึกษาผู้นำนวัตกรรมแล้วต่อยอดกลับมาด้วยของที่ดีกว่า บางกิจการเลือกจะ go with the flow แต่เน้นที่ efficiency ก็ได้
Michael Porter เน้นเรื่อง Strategy ก็จริง แต่กิจการหลายประเภทมันแทบจะเป็น perfect competition ถ้ามัวมานั่งหากลยุทธ์ กว่าจะเจอแต่สุดท้ายถูกทิ้งไว้อยู่ข้างหลังก็ไม่รอดเหมือนกัน บ่อยครั้งที่เราเห็นว่า best strategy ของกิจการก็คือ operational efficiency นี่แหละ
ผมเห็นด้วยกับ comment เฮียนริศครับ สิ่้งหนึ่งที่ผมเห็นร่วมกันอย่างหนึ่งในกิจการที่ประสบความสำเร็จ คือ กิจการเหล่านี้มีการนำเทคนิคที่ถนัดของตัวเอง มาใช้ตอบสนองลูกค้าได้ดีกว่าคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็น lifestyle play ของ Starbucks หรือ logistics ของ Wal-Mart ... แม้กระทั่งกลยุทธ์ "me too ... but better" ของ M$FT
ฮงว่าไง มีความเห็นยังไงบ้าง
เอาเวลาไปดูหุ้นละซิช่วงนี้
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2691
[quote="naris"]
รบกวนเรียน ชง ดีกว่าพี่. เรียกท่าน ขี้กรากจะกินหัวชงเอา :lol:
ชงมองว่า ชื่อที่ตั้งเป็นสิ่งสมมุติ เป้าหมายที่ได้เป็นสิ่งที่จับต้องได้มากกว่า ล่าสุดที่เห็นเขาเรียก blue ocean red ocean แล้วไปว่าตำราเก่าหมดยุค ชงมองมันก็อันเก่านั่นแหละไม่ใช่สิ่งใหม่เลย แค่เปลี่ยนชื่อและรายละเอียดปลีกย่อย
รบกวนเรียน ชง ดีกว่าพี่. เรียกท่าน ขี้กรากจะกินหัวชงเอา :lol:
ชงมองว่า ชื่อที่ตั้งเป็นสิ่งสมมุติ เป้าหมายที่ได้เป็นสิ่งที่จับต้องได้มากกว่า ล่าสุดที่เห็นเขาเรียก blue ocean red ocean แล้วไปว่าตำราเก่าหมดยุค ชงมองมันก็อันเก่านั่นแหละไม่ใช่สิ่งใหม่เลย แค่เปลี่ยนชื่อและรายละเอียดปลีกย่อย
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2692
[quote="naris"]
เข้าเรื่องดีกว่าที่พี่ถามมา ถ้าจะให้เอาขี้กะเท่อตัวเองมาป่าวประกาศในนี้ เขียนสามหน้าก็ไม่จบครับ 555 เอาเรื่องที่hot hot แล้วกันนะพี่ และขอสรุปแบบคร่าวๆ เพราะถ้าจะเอาตัวเลขแป๊ะๆต้องไปค้นข้อมูลเก่า(แต่ขี้เกียจ) :lol: สรุปว่าขอพูดถึงเจ้า......สามทหารเสือในอดีตนะครับ
สามทหารเสือ UEC UMS SNC
สามตัวนี้เคยถูกเป็นผู้ต้องหาโดยเจ้าตัวไม่มีสิทธิ์ปฎิเสธ ผมขออธิบายเหตุและผลของความเชื่อในตอนที่ซื้อให้ฟังนะครับ
ส่วนอีกสองตัวนี้ติดไว้ก่อนนะพี่วิบูลย์ ไว้พรุ่งนี้คงจะว่างพิมพ์อีกรอบครับ
เข้าเรื่องดีกว่าที่พี่ถามมา ถ้าจะให้เอาขี้กะเท่อตัวเองมาป่าวประกาศในนี้ เขียนสามหน้าก็ไม่จบครับ 555 เอาเรื่องที่hot hot แล้วกันนะพี่ และขอสรุปแบบคร่าวๆ เพราะถ้าจะเอาตัวเลขแป๊ะๆต้องไปค้นข้อมูลเก่า(แต่ขี้เกียจ) :lol: สรุปว่าขอพูดถึงเจ้า......สามทหารเสือในอดีตนะครับ
สามทหารเสือ UEC UMS SNC
สามตัวนี้เคยถูกเป็นผู้ต้องหาโดยเจ้าตัวไม่มีสิทธิ์ปฎิเสธ ผมขออธิบายเหตุและผลของความเชื่อในตอนที่ซื้อให้ฟังนะครับ
ส่วนอีกสองตัวนี้ติดไว้ก่อนนะพี่วิบูลย์ ไว้พรุ่งนี้คงจะว่างพิมพ์อีกรอบครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2693
คำถามไม่เห่ยหรอกครับTPH เขียน:
สำหรับกระทู้นี้เหมือนเป็นจุดเริ่มต้นการลงทุนในหุ้นให้ผมเลย ผมเจอ web thaivi และก็ใช้เวลาเกือบ 3 เดือนที่จะไล่อ่านกระทู้ตะแกรงร่อนจนจบ อ่านไปงงไปก็กัดฟันอ่านจนจบ ไล่หาหนังสือที่พี่ VIB007 แนะนำตั้งแต่ขั้น basic จนถึง advance เลือกที่ดีที่เจ๋งอย่างละ 1 เล่ม โดยขั้นเบสิคผมเลือก one up on wall street ของ Peter Lynch ขั้นกลางผมเลือกของอ. Fisher Common Stock & Uncommon profit และขั้นสูงผมเลือกอ. Graham The Intellegent Investor มาอ่าน โดยรวมแล้วผมชอบของอ. Fisher มากตอนนี้กลับมาอ่านรอบที่ 3
พี่ VIB007 ผมมีคำถามมาถามบ้าง อาจจะเห่ยหรือไม่ก็ไม่รู้ ก็ลองตอบกลับมาดูได้ก็ขอบพระคุณอย่างสูง
1. บ.ที่อยู่ในตลาดหุ้นตัวใดที่มี High switching cost สูงครับ
2. ระหว่างบริษัทที่มี High switching cost สูงกับ barrier to entryสูง อย่างไหนดีกว่ากัน
3. เราสามารถนำหลักการลงทุนของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จจากฝั่งตะวันตกมาใช้กับตลาดบ้านเราได้หรือไม่
4. Margin of safety ในนิยามของพี่คืออะไร ผมเห็นแต่ละคนมีนิยามที่ไม่เหมือนกัน
5. เราจำเป็นต้องรู้วิธีการหามูลค่าโดย DCF หรือไม่ เพราะอะไร
รบกวนพี่ VIB007 แค่ 5 ก่อนเท่าที่คิดออกตอนนี้
ดีออก
เพราะผมจะถามกลับ
1. บ.ที่อยู่ในตลาดหุ้นตัวใดที่มี High switching cost สูงครับ
ถาม คิดว่าบริษัทไหนละครับ ลองหาดูก่อนแล้วมาคุยกัน
2. ระหว่างบริษัทที่มี High switching cost สูงกับ barrier to entryสูง อย่างไหนดีกว่ากัน
ถาม แล้วน้อง(ขอเรียกน้องนะ)คิดว่าอะไรดีกว่ากันหละ
3. เราสามารถนำหลักการลงทุนของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จจากฝั่งตะวันตกมาใช้กับตลาดบ้านเราได้หรือไม่
ถาม แล้วหลักการที่ว่าคืออะไร
4. Margin of safety ในนิยามของพี่คืออะไร ผมเห็นแต่ละคนมีนิยามที่ไม่เหมือนกัน
ตอนนี้กำลัง Discuss กับเจ้าฮงอยู่เรื่องนี้
มาแจมได้
5. เราจำเป็นต้องรู้วิธีการหามูลค่าโดย DCF หรือไม่ เพราะอะไร
ถาม แล้วรู้ไหมครับว่าดีซีเอฟมันคืออะไร
อย่าคิดว่าผมกวนนะ
นี่คือวิธีการเรียนรู้ของผมเอง
เรามาเรียนรู้ไปด้วยกัน
ไม่มีถูกไม่มีผิด
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2694
คุณยุทธนาดูตลาดช่วงนี้หรือเปล่าyuttana3152 เขียน:เรียนถามคุณ วิบูลย์
ช่วงนี้ค่อยๆทยอยเก็บหุ้นดี
หรือรอให้ตลาดวายก่อนดี
จริงๆเคยถามไปแล้ว
รอเท่าไหร่ไม่เห็นตลาดจะวายเลยครับ
และถ้ารอตลาดวายนี่
คุณวิบูลย์คิดว่า มูลค่าซื้อขายต่อวัน
ควรประมาณเท่าไหร่ นานแค่ไหน ถึงจะเรียกว่า ตลาดวายครับ
ดูแล้วเห็นอะไรไหม????
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2696
แนวอื่นก็ไม่ค่อยดูกันนะครับVIB007 เขียน: อันนี้ถามเจ้าฮง
แต่ต้องบอกว่าอย่างแนว technic ก็มีหลายๆแบบ
ใช้ technic ประกอบ หรือบางคนเป็น pure technic
คือไม่รู้พื้นฐานหุ้นเลยเช่น roa roe asset turnover
pe pbv ไม่รู้เลยก็มี
พวก pure technic เท่าที่ผมคุยมาก็คือไม่ดูพื้นฐานเลย
เขาดูงบไม่เป็นด้วยซ้ำ แต่เขาจะซื้อเมื่อเกิดสัญญาณ
เช่น ยืนเหนือเส้นค้าเฉลี่ยที่เขาใช้ประจำ(แล้วแต่คนตั้งไม่ตายตัว)
แล้วเขาก็ซื้อ ลงต่ำกว่าเส้นนี้ก็ขายเป็นต้น
ส่วนแนว mm เท่าที่ผมศึกษา ดูเหมือนกับเขาจะไม่มองพื้นฐานหุ้นมาก
คือไม่ถึงขนาดมาคิดว่าราคาเหมาะสมเป้นเท่าไหร่ๆ
และซื้อมี mos ไหม พวกเขา set ระบบการ trade เอาไว้
ว่าตกกี่% ขายออก และไปซื้อคืนที่กี่ %
การทำแบบนี้จะได้กระแสเงินสดแฝง
หุ้นที่เน้นก็คือ อยู่ใน set 50 เพราะซื้อง่ายขายคล่อง
และเน้นหุ้นที่มีการแกว่งตัว
ประมาณนี้นะครับ
ก็คงมี vi เนี้ยแหละครับ ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก
ส่วนแนว fundflow เขาเน้นดูเม็ดเงินมากกว่า
ว่าจะมีเงินไหลเข้าไหม ถ้ามีปัจจัยให้เงินไหลเข้า
mos น้อยเขาก็เอา ถ้าดูแล้วเงินยังไหลออกไม่หยุด
mos เขาจะให้น้ำหนักน้อยลง
ประมาณนี้ครับ
แต่ต้องบอกก่อนว่าข้างบนเป็นการคุยกับบางคน
ซึ่งคนที่เล่นแนวอื่นๆ ก็คงมีรายละเอียดปีกย่อยไม่เหมือนกันทุกคนครับ
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2697
VIB007 เขียน: ฮงว่าไง มีความเห็นยังไงบ้าง
เอาเวลาไปดูหุ้นละซิช่วงนี้
ไม่ค่อยได้ดูหรอกครับ
ผมอ่านเรื่อง moneymanagement อยู่ครับ
ผมว่าน่าสนใจมากทีเดียว เรื่อง probability
เรื่องการตั้งระบบ expectancy
การเทรดแบบ fixed fractional
อะไรต่างๆ ผมเคยอ่านแนวคิดของบางท่าน
เขาบอกว่า เขาไม่คาดการณ์อะไรเลย
เขาให้ระบบจัดการแทน เพราะการคาดการณ์
ก็มีผิดถูกเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งบางที หุ้นขึ้นอาจจะไม่ใช่เพราเหตุผล
ที่เราคิดก็ได้ ถ้าเราคาดการณ์ตลอดซักวันเราอาจจะพลาด
ฉะนั้นจึงใช้ระบบแทน
เล่าประมาณนี้ดีกว่า ส่วนเรื่องคุย it porter เดี่ยวมาแจม
เป็นเรื่องที่ผมไม่ค่อยถนัดน่ะคัรบ
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2698
ผมรู้แล้วว่าถ้าคุยกับพี่วิบูลย์จะเร็วผมต้องเปิดประเด็นเอง
ผมเปิดเรื่องเงินสดต่อเลยนะ
ผมถามพี่ว่าพี่ถือเงินสดกี่ %
แนว vi ส่วนใหญ่ที่ผมคุยจะถือหุ้น 100% ตลอดเวลา
หรือหลายคนเล่น margin ถ้าเป็นแนว vi ผมจะเจอแบบนี้ประมาณ
70-80% ของคนรู้จักที่คุย แต่แนวอื่นตอนนี้เหลือเงินสด
กันเยอะ ไม่ได้ซื้อ
ทีนี้ประเด็นเรื่องถือเงินสดก็คุยต่อมาจากเรื่องถือหุ้นตัวเดียว
แล้วพี่บอกว่าพี่ถือเงินสดเอาไว้ส่วนนึง
ผมเลยอยากถามว่าพี่ถือเงินสดประมาณกี่ % ติดตัว
และทำไมถึงถือประมาณนั้น และเงินสดตรงนั้นจะเอามาใช้ต่อเมื่อ
เกิดอะไร เช่น นโยบาย 30% , ปฏิวัติ หรือว่าอะไร
ที่เกิดแล้วทำให้พี่เอาเงินสดมาซื้อเพิ่ม
ขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้าคับ
ผมเปิดเรื่องเงินสดต่อเลยนะ
ผมถามพี่ว่าพี่ถือเงินสดกี่ %
แนว vi ส่วนใหญ่ที่ผมคุยจะถือหุ้น 100% ตลอดเวลา
หรือหลายคนเล่น margin ถ้าเป็นแนว vi ผมจะเจอแบบนี้ประมาณ
70-80% ของคนรู้จักที่คุย แต่แนวอื่นตอนนี้เหลือเงินสด
กันเยอะ ไม่ได้ซื้อ
ทีนี้ประเด็นเรื่องถือเงินสดก็คุยต่อมาจากเรื่องถือหุ้นตัวเดียว
แล้วพี่บอกว่าพี่ถือเงินสดเอาไว้ส่วนนึง
ผมเลยอยากถามว่าพี่ถือเงินสดประมาณกี่ % ติดตัว
และทำไมถึงถือประมาณนั้น และเงินสดตรงนั้นจะเอามาใช้ต่อเมื่อ
เกิดอะไร เช่น นโยบาย 30% , ปฏิวัติ หรือว่าอะไร
ที่เกิดแล้วทำให้พี่เอาเงินสดมาซื้อเพิ่ม
ขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้าคับ
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2699
แล้วก็มีคำถามใหม่ที่จะถาม
เพราะผมเตรียมไว้อีกเยอะ
พี่เคยบอกว่าพี่ไม่สนใจเศรษฐกิจภาพรวม
เพราะว่าเราไม่มีทางรู้ว่าอีก 5 ปี ดุลบัญชีเดินสะพัดจะเป็นยังไง
(พี่พูดที่ห้องสมุดมารวยผมจำได้)
ถ้าแบบนี้พี่ก็เป็น vi ที่ไม่ดู macro economic เลยใช่หรือไม่
พี่จะสนแต่สิ่งที่คิดว่าอีก 5-10 ปีข้างหน้าเราคาดการณ์ได้ระดับนึง
เท่านั้นใช่หรือไม่
ขอบคุณสำหรับคำตอบ :lol:
เพราะผมเตรียมไว้อีกเยอะ
พี่เคยบอกว่าพี่ไม่สนใจเศรษฐกิจภาพรวม
เพราะว่าเราไม่มีทางรู้ว่าอีก 5 ปี ดุลบัญชีเดินสะพัดจะเป็นยังไง
(พี่พูดที่ห้องสมุดมารวยผมจำได้)
ถ้าแบบนี้พี่ก็เป็น vi ที่ไม่ดู macro economic เลยใช่หรือไม่
พี่จะสนแต่สิ่งที่คิดว่าอีก 5-10 ปีข้างหน้าเราคาดการณ์ได้ระดับนึง
เท่านั้นใช่หรือไม่
ขอบคุณสำหรับคำตอบ :lol:
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2700
ฮา ฮา ฮาhongvalue เขียน: ผมรู้แล้วว่าถ้าคุยกับพี่วิบูลย์จะเร็วผมต้องเปิดประเด็นเอง
ชักรู้แกวแล้วละซิ
ไม่งั้นไม่กลับมาตอบสักทีใช่ไหม
จริงๆจำได้นะ
แต่อยากให้จบทีละประเด็นเท่านั้นเอง
เท่าที่จำได้ยังค้างอยู่มี
หนึ่ง ถือเงินสด
สอง ถือหุ้นตัวเดียว
สาม พี่เทพ
ใช่ป่าว อิ อิ
hongvalue เขียน: ผมเปิดเรื่องเงินสดต่อเลยนะ
ผมถามพี่ว่าพี่ถือเงินสดกี่ %
แนว vi ส่วนใหญ่ที่ผมคุยจะถือหุ้น 100% ตลอดเวลา
หรือหลายคนเล่น margin ถ้าเป็นแนว vi ผมจะเจอแบบนี้ประมาณ
70-80% ของคนรู้จักที่คุย แต่แนวอื่นตอนนี้เหลือเงินสด
กันเยอะ ไม่ได้ซื้อ
ทีนี้ประเด็นเรื่องถือเงินสดก็คุยต่อมาจากเรื่องถือหุ้นตัวเดียว
แล้วพี่บอกว่าพี่ถือเงินสดเอาไว้ส่วนนึง
ผมเลยอยากถามว่าพี่ถือเงินสดประมาณกี่ % ติดตัว
และทำไมถึงถือประมาณนั้น และเงินสดตรงนั้นจะเอามาใช้ต่อเมื่อ
เกิดอะไร เช่น นโยบาย 30% , ปฏิวัติ