เปิดพอร์ตขาใหญ่ปีฉลู

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
vichit
Verified User
โพสต์: 15833
ผู้ติดตาม: 0

เปิดพอร์ตขาใหญ่ปีฉลู

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เปิดพอร์ตขาใหญ่ปีฉลู

          หุ้นเก็งกำไร ยังครองใจนักลงทุนรายใหญ่ในตตลาดฯ IEC-LIVE-GEN-EMC-EWC
ฯลฯ นำทีม ' เสี่ยปู่' ครองแชมป์ถือหุ้นมากสุดถึง 35 ตัว กระจายทั้งหุ้นพื้นฐาน -เก็งกำไร เก็บ
PRIN มากสุดกว่า 7% เผย ล่าสุดพอร์ตลงทุนมีมูลค่าพันลบ. เชื่อหุ้นไทยปีนี้แตะ 500 จุดได้
พร้อมเล็งลงทุน MFEC -MINT- LANNA เพิ่ม เหตุจ่ายปันผลงาม ขณะที่ 'ชนะชัย' ถือ 17 หุ้น
มากที่สุดคือ EMC 10.27%
           ขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2552 หรือปีฉลูทองไปเรียบร้อยแล้ว และก็ปฏิเสธไม่ได้ด้วยว่าปีนี้หนัก
หนาสาหัส สากรรจ์ เหลือเกินสำหรับทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลแต่ที่ต้องเจอกับโจทย์ยากใน
การแก้ปัญหาเศรษฐกิจและนำพาประเทศให้รอดปลอดภัยจากวิกฤตทั่วโลกที่กำลังคืบคลานมา
ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาแล้วด้วยซ้ำ ขณะที่ภาคเอกชน ผู้ประกอบการก็ต้องเร่งปรับตัว และฝ่าฟันปัญหา
จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น เพื่อเอาตัวรอดในการประกอบกิจการไปให้ได้ ไม่ว่าจะ
เป็นการลดต้นทุนทั้งในส่วนของกำลังการผลิต จนถึงการปลดคนงาน และแน่นอนว่าตลอดปีนี้เราก็
คงจะได้เห็นปัญหาที่เกิดขึ้น จากความตกต่ำของเศษฐกิจทั่วโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
           การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ก็เช่นเดียวกัน ตลาดหุ้นทั่วโลกต้องเผชิญกับแรงขายทำ
กำไรของนักลงทุนอย่างหนัก ตลอดครึ่งหลังของปี 2551 ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ทำให้ดัชนีฯ หลาย
ประเทศปรับตัวลดลงทำสถิติต่ำสุดหลายต่อหลายครั้ง ไม่เว้นแม้แต่ดัชนีดาวโจนส์ที่หลุดระดับ 1
หมื่นจุดเป็นครั้งแรก อีกทั้งแรงขายของบรรดากองทุนและนักลงทุนต่างประเทศก็กดดันภาวะการ
ซื้อขายอย่างหนัก จนหลายๆประเทศต้องใช้มาตรการเซอร์กิต เบคเกอร์ สั่งหยุดการซื้อขายใน
ระหว่างวัน หลายประเทศสั่งหยุดการซื้อขายนานข้ามวัน เพื่อรอให้ภาวะปกติ ขณะที่หลายๆตลาด
หุ้นต้องออกมาตรการเพื่อบรรเทาแรงขาย และพยุงดัชนีฯ ของประเทศตนเองให้อยู่รอดปลอดภัย
ไม่เว้นแม้แต่ตลาดหุ้นไทย ที่ต้องใช้เซอร์กิตฯ ถึง 2 ครั้ง 2 คราในปีที่ผ่านมา
           ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของไทยปรับตัวลดลง ตั้งแต่เกิดวิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐฯ โดย
ปรับลดลงต่อเนื่องจากระดับ 678.64 จุด เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2551 ลงสู่ระดับต่ำสุดที่ 380.05
จุด เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2551 หรือคิดเป็นปรับลงลงถึง 43.99%
           ดังนั้นเมื่อเห็นดัชนีฯ ที่ปรับตัวลดลงค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา จึงแทบไม่ต้องสงสัยว่า
พอร์ตการลงทุนของบรรดานักลงทุนรายใหญ่ รายเล็กในประเทศ จะได้รับผลกระทบมากแค่ไหน
โดยเฉพาะนักลงทุนรายใหญ่หรือขาใหญ่ ที่มีพอร์ตการลงทุนในหลักร้อยล้าน พันล้านบาท เพราะ
ฉะนั้นเมื่อดัชนีฯ ลดลง ผลกำไรที่จะได้จากการลงทุนก็จะลดลงแม้จะเป็นเพียงการขาดทุนจากตัว
เลขบัญชีก็ตาม eFinanceThai.com จึงถือโอกาสนี้รวบรวมพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนราย
ใหญ่ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงตลาดทุนไทย อาทิเช่น  นายยรรยง พันธุ์วงศ์กล่อม หรือหมอ
ยรรยง นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล หรือเสี่ยปู่ และนายชนะชัย ลีนะบรรจง

* 'เสี่ยปู่' รวบหุ้นมากสุด 35 ตัว PRIN อันดับ1 ถึง 7.40%
            ส่วนนาย สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล หรือเสี่ยปู่ มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้น บจ. ถึง 35 บริษัท โดยถือ
หุ้นกระจายในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งที่เป็นหุ้นพื้นฐานและหุ้นเก็งกำไร ซึ่งถือหุ้นไว้ตั้งแต่ปี
2544 เช่น บมจ.รองเท้าบาจาแห่งประเทศไทย (BATA) 1.32% บมจ. ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์
(CMO) 5.68% บมจ.อุตสาหกรรมอาหาร ส.ขอนแก่น (SORKON) 5.01% บมจ. แอล.พี.เอ็น.
ดีเวลลอปเมนท์ (LPN)2.37% บมจ.ไมด้า แอสเซ็ท (MIDA) 1.38% บมจ.เค-เทค คอนสตรัค
ชั่น (KTECH) บมจ. ราชธานีลิสซิ่ง (THANI) 1.00% บมจ.เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง (PLE)
1.54%
            จนถึงข้อมูลล่าสุดคือปี 2551 นายสมพงษ์ ทยอยลงทุนในหลายหลักทรัพย์ ซึ่งปรากฎใน
รายชื่อผู้ถือหุ้นตามข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์จำนวน 12 หลักทรัพย์ โดยถือหุ้นใน บมจ. ปริญสิริ
(PRIN) มากที่สุด 9.86% รองลงมาคือ บมจ. เอ็ม เอฟ อี ซี (MFEC) 7.40% บมจ. ซีเอ็ม ออร์
กาไนเซอร์ (CMO) 5.68% บมจ.อุตสาหกรรมอาหาร ส.ขอนแก่น (SORKON) สัดส่วน 5.01%
บมจ. เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) (SIS) 4.96% บมจ. ลานนารีซอร์สเซส (LANNA)
4.17% บมจ.ยูนิ เวนเจอร์ (UV) 3.18% บมจ.ระยองเพียวริฟายเออร์ (RPC) 3.14% บมจ.
เอส แอนด์ พี ซินดิเคท (S&P) 2.83% บมจ. มิลล์คอนสตีลอินดัสทรีส์ (MILL)1.40% บมจ.
อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) (AEONTS) 1.34% และ บมจ. ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล
(MINT) 0.52 %

'เสี่ยปู่' เผยล่าสุดพอร์ตลงทุนมีพันลบ. เชื่อหุ้นไทยปีนี้แตะ 500 จุด
            นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล หรือเสี่ยปู่ นักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยกับ
eFinanceThai.com ว่าโดยมุมมองส่วนตัวประเมินว่า SET Index ได้เคลื่อนไหวผ่านจุดเลว
ร้ายที่สุดแล้วในช่วงปี2551ที่ผ่านมาโดยปรับลงจากระดับ 800 จุดไปทำจุดต่ำสุดที่ประมาณ
380 จุดจากผลกระทบที่รุนแรงของวิกฤตเศรษฐกิจโลกและปัญหาความรุนแรงทางการเมืองใน
ประเทศผนวกกันเข้ามารุมเร้าทำให้มีเผชิญกับแรงเทขายอย่างหนัก แต่ในปี 2552 นี้ปัญหาใหญ่
ที่กดทับตลาดหุ้นไทยอย่างประเด็นการเมืองคลายตัวลงไปมาก โดยเชื่อว่าการเข้ามาของรัฐบาล
ชุดใหม่และฟื้นความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาต่อเนื่อง
ของทั้งในประเทศและในระดับสากลจากรัฐบาลสหรัฐฯภายใต้การนำของประธานาธิบดีบารัค โอ
บามารวมถึงรัฐบาลกลางทั่วโลกจะค่อยๆเยียวยาผลกระทบจากเศรษฐกิจตกต่ำให้ลดน้อยลงและ
ช่วยสกัดกั้นไม่ให้เศรษฐกิจและการลงทุนทรุดตัวลงไปมากกว่านี้
           โดยคาดว่าดัชนีฯน่าจะปรับขึ้นไปยืนเหนือ 500 จุดได้ เนื่องจากประเมินว่าบริษัทจด
ทะเบียนในประเทศไทยยังมีความสามารถในการทำกำไรค่อนข้างสูง พิจารณาจากผลประกอบ
การไตรมาส 4/2551 ที่โดยรวมยังออกมาแข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นภูมิภาค และจากราคาที่ปรับลง
ไปมากทำให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงขึ้นซึ่งจะจูงใจให้มีแรงซื้อลงทุนเข้ามา
           ' พอร์ตการลงทุนในปัจจุบันมีมูลค่ารวมประมาณ 1 พันล้านบาท โดยเน้นการลงทุนในหุ้น
คุณค่าหรือหุ้นพื้นฐานดีที่ให้อัตราตอบแทนจากเงินปันผลหรือ Dividend Yield สูงเกิน 10% ซึ่ง
หากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนจะพบว่าในตลาดหุ้นไทยมีหุ้นหลายบริษัทที่มีความสามารถในการทำ
กำไรได้ดีและจ่ายเงินปันผลสูงต่อเนื่อง อีกทั้งราคายังอยู่ต่ำมากจากราคาเหมาะสมตามปัจจัยพื้น
ฐาน จึงยังคงมองหาจังหวะในการซื้อหุ้นเหล่านี้เพิ่มเข้ามาต่อเนื่อง'

*เล็งลงทุน MFEC -MINT- LANNA เพิ่ม
             ทั้งนี้หุ้นในพอร์ตที่ปันผลโดดเด่นและน่าลงทุนเพิ่มได้แก่ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด
(มหาชน) หรือ MFEC จะจ่ายปันผลประมาณ 0.40 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงิน
ปันผล 12.2% MINT รวมถึง LANNA ที่จ่ายเงินปันผลสูงกว่า 10%อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม
ได้สำรองเงินสดไว้บางส่วนเพื่อการเข้าซื้อรอบใหม่ที่เป็นจังหวะเข้าเก็บหุ้นน่า โดยน่าจะเป็นช่วงที่
ดัชนีฯย่อตัวลงหลุด 400 จุด ราคาหุ้นจะน่าสนใจเข้าซื้อมากและผลตอบแทนจากหุ้นจะสูงขึ้นอีก
            ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานเชื่อว่าจะผ่านพ้นจุดต่ำสุดของผลขาดทุนไปในไตรมาส4/2551 จา
การขาดทุนจากสต็อกน้ำมันหลังราคาในตลาดโลกปรับลงเร็วและแรงจาก 150 ดอลลาร์ลงสู่
ระดับ 40 ดอลลาร์ในปลายปีที่ผ่านมา แต่ปีนี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในหลาย
ประเทศทั่วโลกน่าจะกระตุ้นการบริโภคน้ำมันเพิ่มขึ้นได้

* ชนะชัย เก็บหุ้นเก็งกำไรเพียบ IEC-APURE-TUCC และ EMC กว่า10%
             และนายชนะชัน อีก 1 นักลงทุนรายใหญ่ ที่ปรากฎว่ามีรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในหลักทรัพย์
จำนวน 17 หลักทรัพย ซึ่งข้อมูลการลงทุนของนายชนะชัย มีมาตั้งแต่ปี 2545 เช่น บมจ. อินเทอร์
เน็ตประเทศไทย (INET) 0.80% บมจ. ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น (PICNI) 0.68% บมจ. เอ็ม พิค
เจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (MPIC) 5.88% บมจ. อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง (IEC)
0.67% บมจ. ไทยยูนีคคอยล์เซ็นเตอร์ (TUCC) 2.55% บมจ. อกริเพียว โฮลดิ้งส์ (APURE)
สัดส่วน0.67% บมจ. อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น (ADAM) 0.60%
ส่วนปี 2551 ที่ผ่านมา นายชนะชัย รุกถือหุ้นหลายหลักทรัพย์ โดยที่ปรากฎในรายชื่อโครงสร้างผู้
ถือหุ้นตามข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ มีจำนวนทั้งสิ้น 4 หลักทรัพย์ และที่เป็นข่าวโด่งดังที่สุดคง
หนีพ้น การเข้าถือหุ้นใหญ่ บมจ. อีเอ็มซี (EMC) ในสัดส่วน 10.27% จนทำให้ขึ้นแท่นเป็นผู้
บริหารของบริษัท นอกจากนั้นก็มี บมจ.อีสเทิร์นไวร์ (EWC) 5.02% บมจ. เมโทรสตาร์
พร็อพเพอร์ตี้ (METRO)1.73% และ บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNTE) 0.86%

*หุ้นร้อนGEN-BLISS-BLAND ยังครองใจขาใหญ่
              นอกเหนือจากการถือหุ้นของนักลงทุนรายใหญ่เหล่านี้แล้ว ยังมีนักลงทุนรายใหญ่ที่รู้จัก
กันดีในนามของเสี่ยโทนี่ หรือ เสี่ยสอง ในอดีต ซึ่งคาดว่าน่าจะถือหุ้นโดยผ่านนอมินี หลายราย
อาทิเช่นหุ้น บมจ. เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง (GEN) บมจ. ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น (LIVE) บมจ.
อินเตอร์เนชั่นเนิลเอนจีเนียริง (IEC) บมจ. บลิส-เทล (BLISS) ในขณะที่หุ้นเก็งกำไรอีกหลาย
ตัว เช่น บมจ. เอ็นอีพี อสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรม (NEP) บมจ. บางกอกแลนด์
(BLAND) บมจ. สามชัย สตีล อินดัสทรี (SAM) และ บมจ. แนเชอรัล พาร์ค (N-PARK) ก็ถือ
เป็นหุ้นยอดนิยมของบรรดานักลงทุนรายใหญ่ในตลาดฯ เช่นเดียวกัน

* 'หมอยรรยง' ถือ SECC มากสุด 3.24%
             โดยข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 29 ม.ค. 52 นั้น นายยรรยง มีหุ้นที่ถืออยู่ในชื่อของตนเอง
จำนวน 5 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ. เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (SECC) 3.24 %
บมจ.กรุงเทพธนาทร (BFIT) 0.91% บมจ. ยีเอสเอส อาร์เรย์ เทคโนโลยี่ 0.83% บมจ. บริการ
เชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAF) 0.67% และ บมจ. โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) 0.59 %
             ทั้งนี้จากการรวบรวมพอร์ตของนักลงทุนดังกล่าว จะเห็นได้ว่าหุ้นเก็งกำไรยังคงได้รับ
ความนิยม ในการเข้าไปลงทุนค่อนข้างมาก แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาหุ้นเหล่านี้ จะมีราคาปรับลดลง
ค่อนข้างมาก แต่อย่างไรก็ตามการซื้อขาย นั้นคาดว่าจะสลับกันเข้าเก็บ และทยอยขาย ตาม
จังหวะการขึ้นลงของดัชนีเป็นหลักมากกว่า ดังนั้นอาจทำให้จำนวนหุ้นในพอร์ตลดลง หรือเพิ่มขึ้น
ไม่คงที่ แต่อย่างไรก็ตามภาวะที่ตลาดฯ ซบเซา และได้รับผลกระทบจากปัจจัยทั้งในและนอก
ประเทศ เชื่อว่าส่งผลให้นักลงทุนกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย จากข่าวที่ปรากฎก่อนหน้า
นี้ หลายต่อหลายคนเจ็บหนักจากการผลขาดทุนไปด้วยเช่นกัน
             เพราะฉะนั้นเริ่มต้นปีใหม่ 2552 หลายคนจึงตั้งความหวังว่า ตลาดหุ้นน่าจะเริ่มปรับตัวดี
ขึ้น หรือฟื้นตัวจากปี 2551 ได้ หลังจากมีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ และกอบกู้ภาวะ
เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงได้ โดยเฉพาะการเร่งฟื้นความเชื่อมั่น และดึงเม็ดเงินลงทุนของนักลงทุน
ที่หายหน้าหายตาไปก่อนหน้านี้ได้ แม้ว่าหน่วยงานของรัฐบาลไม่ว่าจะกระทรวงการคลัง ธนาคาร
แห่งประเทศไทย (ธปท.) จะยอมรับว่าอาจต้องรอจนถึงไตรมาส 3 ถึงจะฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งก็ตาม






ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย     วันที่   30/01/09   เวลา   8:01:32
ภาพประจำตัวสมาชิก
MO101
Verified User
โพสต์: 3226
ผู้ติดตาม: 0

เปิดพอร์ตขาใหญ่ปีฉลู

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ถือหุ้นมากสุดนับตาม % โอ้ว
มีวิธีคิดการือหุ้นมากที่สุด มีวิธีเดียวคือนับตามมูลค่าตลาด ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง
i_sarut
Verified User
โพสต์: 1808
ผู้ติดตาม: 0

เปิดพอร์ตขาใหญ่ปีฉลู

โพสต์ที่ 3

โพสต์

MINT เหตุจ่ายปันผลงาม
 :shock:
"Risk comes from not knowing what you're doing" - Warren Buffet

สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย

http://www.sarut-homesite.net/
AuI_a VI
Verified User
โพสต์: 413
ผู้ติดตาม: 0

เปิดพอร์ตขาใหญ่ปีฉลู

โพสต์ที่ 4

โพสต์

:rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  :rofl:  อ่านพวกนี้แล้วหนุกดีแฮะ
Even Sir Isaac Newton loss in stock market

"You can't predict the future, because the future depends on how you react to it."

ซื้อหุ้นเมื่อคนส่วนใหญ่หมดศรัทธาในหุ้นและเทขายอยู่  นั่นคือเวลาตี5ในการจ่ายตลาด....จาก สอง ว. ผู้ยิ่งใหญ่
beammy
Verified User
โพสต์: 3345
ผู้ติดตาม: 0

เปิดพอร์ตขาใหญ่ปีฉลู

โพสต์ที่ 5

โพสต์

อีกซัก 20 ปี เด๋วให้ดูพอร์ตบีมมี่ซะก่อนนนน  :8)
ภาพประจำตัวสมาชิก
dome@perth
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4740
ผู้ติดตาม: 0

เปิดพอร์ตขาใหญ่ปีฉลู

โพสต์ที่ 6

โพสต์

[quote="beammy"]อีกซัก 20 ปี เด๋วให้ดูพอร์ตบีมมี่ซะก่อนนนน
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง
"
pornchal
Verified User
โพสต์: 1070
ผู้ติดตาม: 0

เปิดพอร์ตขาใหญ่ปีฉลู

โพสต์ที่ 7

โพสต์

คงรอดูไม่ไหว นานเกินไป
เล่นอีก 5 - 10 ปี ก้อเลิกแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
dome@perth
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4740
ผู้ติดตาม: 0

เปิดพอร์ตขาใหญ่ปีฉลู

โพสต์ที่ 8

โพสต์

pornchal เขียน:คงรอดูไม่ไหว นานเกินไป
เล่นอีก 5 - 10 ปี ก้อเลิกแล้ว
:shock:
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง
"
โพสต์โพสต์