รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

กระทู้คุณค่า มีประโยชน์ ความรู้ดีดี เป็นประโยชน์เสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน แค่ไหนก็ตาม
ภาพประจำตัวสมาชิก
Tao Investor
Verified User
โพสต์: 200
ผู้ติดตาม: 0

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์ที่ 61

โพสต์

FCF คือ Free Cash Flow ครับ เป็นเงินสดที่ไม่มีภาระผูกพันและสามารถเอามาจ่ายให้ผู้ถือหุ้นได้ครับ

คือเงินสด ในบริษัท ณ เวลานั้นๆ เลยหรือครับ

ไม่มีภาระผูกพัน คือ ยังไม่มีจุดประสงค์ที่จะใช้งานใช่ไหมครับ

ถ้าไปกู้มา ถือว่า มีภาระผูกพัน ไหมครับ :?:

ถ้าต้องเอาไว้ซื้อวัตถุดิบในอีก 6 เดือนข้างหน้า ถือว่ามีภาระผูกพันไหมครับ :?:

เหมือนกับ เงินสดของกิจการ (แล้วไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์)
เลยเอามาให้ผู้ถือหุ้นไปทำประโยชน์เอาเอง ใช่ไหมครับ :?:
Inmagination is more importan than knowledge
ภาพประจำตัวสมาชิก
house
Verified User
โพสต์: 683
ผู้ติดตาม: 0

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์ที่ 62

โพสต์

เหมือนกับ เงินสดของกิจการ (แล้วไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์)
เลยเอามาให้ผู้ถือหุ้นไปทำประโยชน์เอาเอง ใช่ไหมครับ
ใช่ครับ

สูตรการหาดูได้จากกระทู้นี้ครับ
http://www.thaivalueinvestor.com/webboa ... php?t=1186
ทำให้เต็มที่ เพื่อจะไม่เสียใจภายหลัง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Tao Investor
Verified User
โพสต์: 200
ผู้ติดตาม: 0

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์ที่ 63

โพสต์

ถ้าอยากศึกษาเกี่ยวกับ เรื่องพวก นี้ DcF FCF ฯลฯ

ต้องอ่านหนังสือเล่มไหนครับ :?:

เอาแบบ ภาษาไทยนะครับ (มีตัวอย่างด้วยก็จะดีมากๆ เลยครับ)

รบกวนพี่ๆ ช่วยแนะนำด้วยนะครับ
ขอบคุณครับผม
Inmagination is more importan than knowledge
ภาพประจำตัวสมาชิก
wpong
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1336
ผู้ติดตาม: 0

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์ที่ 64

โพสต์

ก่อนอืนต้องขออภัย พี่ผู้ใหญ่ทีมีใจเป็น VI หลายท่านที่ไม่ได้ใช้งบกระแสเงินสดเป็นหลักในการคำนวน ผมไม่ได้ต้องการลบหลู่ ผมรู้ว่าพี่เหล่านั้นมีวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองอยู่แล้ว ไม่ว่าการใช้สูตรพื้นฐานใดก็ตาม หากรวมกับประสบการณ์ที่ยาวนาน ก็สามารถประสบความสำเร็จได้

ผมเพียงแต่เห็นน้องๆหลายๆคน รู้สึกภาคภูมิใจในความเข้าใจแนวคิด โดยไม่ได้มีความรู้พ์นฐานทางการเงินรองรับ ผมกลัวเขาจะเครียดเกินไปในภาวะปัจจุบัน


ข้อดีของ DCF คือทำให้เราต้องไล่งบตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต เป็นการฝึกคิดไปในตัว โดยตัวมันเองก็ไม่ใช่สูตรสำเร็จเช่นเดียวกัน :P

ค่าที่ได้จากการคำนวน DCF ยังสำคัญน้อยกว่า ข้อมูลต่างๆที่ได้มาเพื่อใช้ในการคำนวน
ตัว FCF ในแต่ละปีของบางบริษัท ก็ผกผันอย่างรุนแรง

อ่านงบ คำนวน DCF ก็เหมือนกับการเรียนรู้บ. ดูวงจร และการใช้เงินของเขา
ภาพประจำตัวสมาชิก
HI.ผมเอง
Verified User
โพสต์: 811
ผู้ติดตาม: 0

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์ที่ 65

โพสต์

Tao Investor เขียน:ถ้าอยากศึกษาเกี่ยวกับ เรื่องพวก นี้ DcF FCF ฯลฯ

ต้องอ่านหนังสือเล่มไหนครับ

เอาแบบ ภาษาไทยนะครับ (มีตัวอย่างด้วยก็จะดีมากๆ เลยครับ)

รบกวนพี่ๆ ช่วยแนะนำด้วยนะครับ
ขอบคุณครับผม
ไปลองยืนอ่านที่se-edก่อนก็ได้ว่าตรงกับที่ต้องการู้หรือไม่ครับ
รูปภาพ
รูปภาพ
wpong เขียน:ข้อดีของ DCF คือทำให้เราต้องไล่งบตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต เป็นการฝึกคิดไปในตัว โดยตัวมันเองก็ไม่ใช่สูตรสำเร็จเช่นเดียวกัน

ค่าที่ได้จากการคำนวน DCF ยังสำคัญน้อยกว่า ข้อมูลต่างๆที่ได้มาเพื่อใช้ในการคำนวน
ตัว FCF ในแต่ละปีของบางบริษัท ก็ผกผันอย่างรุนแรง

อ่านงบ คำนวน DCF ก็เหมือนกับการเรียนรู้บ. ดูวงจร และการใช้เงินของเขา
จำได้ว่าเมื่อเร็วๆนี้ อ.นิเวศน์ ท่านเคยเขียนเรื่องDCFในคอลัมน์ของท่าน(โลกในมุมมองของVI) แต่บังเอิญลองค้นหาแล้วไม่เจอ
ท่านให้ความเห็นว่าVIในแบบท่านนิยมความเรียบง่ายเป็นหลัก
DCF นั้นค่อนข้างจะมีตัวเลขหลายตัวที่เกิดจากการคาดเดา
หากผู้คิดมีการให้ตัวเลขแบบเอนเอียง ผลที่ได้รับก็จะผิดเพี้ยนมาก

โดยส่วนตัวแล้วผมเห็นว่า การคาดเดายอดขายและกำไรก็นั้นก็มีความยากระดับหนึ่งแล้ว
แต่หากการคาดเดา FCFยิ่งยากกว่าหากไม่เข้าใจในการทำธุรกิจนั้นมากพอ
เพราะมีค่าอื่นๆมาเป็นตัวแปรอีกมากมาย
ไหนจะคาดเดาอัตราการเติบโตของFCFในแต่ละปีอีก ซึ่งก็คงไม่พ้นต้องใช้ข้อมูลในอดีตผสมกับการคาดเดาการเติบโตของอนาคต
แถมตัวDISCOUNT RATE ที่หาได้นั้นใกล้เยงความจริงมากน้อยแค่ไหน และยังส่งผลต่อสูตรการคำนวนอีกมาก

ผมจึงค่อนข้างเห็นด้วยกับหลักความเรียบง่ายครับ
Supra
Verified User
โพสต์: 479
ผู้ติดตาม: 0

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์ที่ 66

โพสต์

:D :D :D

การเข้าใจแนวคิดที่ถูกต้องเป็นเพียงจุดเริ่มเล็กครับ ส่วนเรื่องความรู้การเงิน การลงทุนมันก้อต้องอาศัยเวลา ความรู้ ประสบการณ์ ผู้ที่ประสบความสำเร็จก้อคงต้องผ่านจุดเหล่านี้มาทั้งน้าน เพียงแต่เราต้องไม่ลำพองตัวว่ารู้แล้ว ฉลาดแล้ว เข้าใจ เก่งกาจแล้ว

ความผิดพลาดมันก้อเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จที่เราต้องผ่าน ไม่รู้ย่อมไม่ผิดหรอกครับ ความรู้ไม่มีวันหมดสิ้นครับ ไม่รู้ใช่ว่าจะผิด แต่คิดว่ารู้สิอาจทำให้ผิดได้ครับ 8) 8) 8) :D :D
*****
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์ที่ 67

โพสต์

HI.ผมเอง เขียน: จำได้ว่าเมื่อเร็วๆนี้ อ.นิเวศน์ ท่านเคยเขียนเรื่องDCFในคอลัมน์ของท่าน(โลกในมุมมองของVI) แต่บังเอิญลองค้นหาแล้วไม่เจอ
ท่านให้ความเห็นว่าVIในแบบท่านนิยมความเรียบง่ายเป็นหลัก
DCF นั้นค่อนข้างจะมีตัวเลขหลายตัวที่เกิดจากการคาดเดา
หากผู้คิดมีการให้ตัวเลขแบบเอนเอียง ผลที่ได้รับก็จะผิดเพี้ยนมาก

โดยส่วนตัวแล้วผมเห็นว่า การคาดเดายอดขายและกำไรก็นั้นก็มีความยากระดับหนึ่งแล้ว
แต่หากการคาดเดา FCFยิ่งยากกว่าหากไม่เข้าใจในการทำธุรกิจนั้นมากพอ
เพราะมีค่าอื่นๆมาเป็นตัวแปรอีกมากมาย
ไหนจะคาดเดาอัตราการเติบโตของFCFในแต่ละปีอีก ซึ่งก็คงไม่พ้นต้องใช้ข้อมูลในอดีตผสมกับการคาดเดาการเติบโตของอนาคต
แถมตัวDISCOUNT RATE ที่หาได้นั้นใกล้เยงความจริงมากน้อยแค่ไหน และยังส่งผลต่อสูตรการคำนวนอีกมาก

ผมจึงค่อนข้างเห็นด้วยกับหลักความเรียบง่ายครับ
การคำนวณ DCF นั้นมีตัวแปรมากมาย ซึ่งถ้าเราพิจารณาบริษัทที่มีผลการดำเนินงานสม่ำเสมอ คาดการณ์ได้ไม่คาดเคลื่อนมากนัก ก็จะช่วยได้มาก แต่บริษัทเหล่านี้มักจะไม่มีอัตราการเติบโตที่น่าตื่นเต้น ไม่มี Story ให้นักเก็งกำไรมาจุดพลุ คุณจะทนถือไหวหรือเปล่าครับ

ส่วนเรื่อง Discount Rate นั้น คนอื่นจะใช้เท่าไร ผมก็ไม่ค่อยสนใจครับ ผมใช้ค่าผลตอบแทนที่ผมพอใจครับ

หลักการเรียบง่าย บางครั้งก็ทำให้นักลงทุนน่าใหม่เข้ามาลงทุน แต่ยุคสมัยนี้การพิจารณาเพียงแค่ง่ายๆ ผ่านๆ จะถูกหลอกเอาได้ง่ายๆครับ ต้องระวังให้มาก หลายคนลงทุนเพียงแค่ดู P/E P/B Yield แค่นี้ ระยะยาวจะรอดไหมครับ?
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 0

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์ที่ 68

โพสต์

ผมเองก็ใช้ DCF ในการวิเคราะห์หุ้นครับ
หลักการก็เหมือนที่คุณ chatchai ว่ามา
เวลาผมประมาณ FCF ไม่ใช่ผมจะพยายามให้ใกล้เคียงมากที่สุดเพราะมันยากเกินความสามารถ
แต่ผมจะประมาณให้ conservative มากที่สุด คือให้ต่ำๆเอาไว้ก่อน ... เมื่อ discount ลงมาแล้วยังมีราคาถูกอยู่มันก็ปลอดภัยแล้วครับ

ส่วน discount rate นั้นก็เหมือนพี่ chatchai อีกนั่นแหละ. :o
ผมใช้ผลตอบแทนที่ผมอยากได้โดยปกติผมใช้ 14%
และสุดท้าย margin of safety อีกอย่างต่ำ 25% ..

การคำนวณราคาเป้าหมายได้แบบนี้ทำให้ผมรู้ตัวเองมากขึ้นครับว่ากำลังทำอะไรอยุ่
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
Tongue
Verified User
โพสต์: 725
ผู้ติดตาม: 0

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์ที่ 69

โพสต์

หลักการเรียบง่าย บางครั้งก็ทำให้นักลงทุนน่าใหม่เข้ามาลงทุน แต่ยุคสมัยนี้การพิจารณาเพียงแค่ง่ายๆ ผ่านๆ จะถูกหลอกเอาได้ง่ายๆครับ ต้องระวังให้มาก หลายคนลงทุนเพียงแค่ดู P/E P/B Yield แค่นี้ ระยะยาวจะรอดไหมครับ?
เท่าที่ผ่านมา โดนไปแล้วครับ
หาตังค์ได้ ใช้ตังค์เก่งครับ

อยากถามพี่ ฉัตรชัย พอดีครับว่า
หลักการลงบัญชี ของ บริษัทๆ นึงนี่เปลี่ยนแปลงได้ไหมครับ
คือ ปีหนึ่ง ใช้แบบหนึ่ง อีกปีใช้อีกแบบหนึ่ง
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์ที่ 70

โพสต์

เปลี่ยนแปลงได้แน่นอนครับ แต่บริษัทที่ดีควรบอกให้ละเอียดครับว่าใช้หลักการอะไร
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
ภาพประจำตัวสมาชิก
Tongue
Verified User
โพสต์: 725
ผู้ติดตาม: 0

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์ที่ 71

โพสต์

โอ้โห อย่างนี้ หุ้นแปลกๆ กำไรพุ่งๆ นี้ น่ากลัว มากๆ

โดยเฉพาะ ไตรมาสสี่

อืม... ขอบคุณมากครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
wpong
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1336
ผู้ติดตาม: 0

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์ที่ 72

โพสต์

คุณ Hi ครับ
เพราะมันมีตัวแปรเยอะ ผมถึงชอบครับ

การใช้ตัวแปรเส้นตรงจะถูกต้องมาก ถ้าเป็น Steady State หรือ Cash Cow แต่ก็จะพลาดโอกาสงามๆ หรือตกลงไปสู่ บ. ที่ถดถอยได้เหมือนกัน

ผมใช้ DCF ดูเรื่องราวของบริษัท

ผมอาจทำนายผิดก็ได้ แต่มันก็น่าสนุกที่ผิดบนความไม่รู้ของตัวเองครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
HI.ผมเอง
Verified User
โพสต์: 811
ผู้ติดตาม: 0

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์ที่ 73

โพสต์

chatchai เขียน:การคำนวณ DCF นั้นมีตัวแปรมากมาย ซึ่งถ้าเราพิจารณาบริษัทที่มีผลการดำเนินงานสม่ำเสมอ คาดการณ์ได้ไม่คาดเคลื่อนมากนัก ก็จะช่วยได้มาก แต่บริษัทเหล่านี้มักจะไม่มีอัตราการเติบโตที่น่าตื่นเต้น ไม่มี Story ให้นักเก็งกำไรมาจุดพลุ คุณจะทนถือไหวหรือเปล่าครับ
ยอมรับครับ ว่าทนไม่ไหว :mrgreen:
chatchai เขียน:ส่วนเรื่อง Discount Rate นั้น คนอื่นจะใช้เท่าไร ผมก็ไม่ค่อยสนใจครับ ผมใช้ค่าผลตอบแทนที่ผมพอใจครับ
WGเนี่ยคุณฉัตรชัยใช้เท่าไหร่ครับ :roll:
chatchai เขียน:หลักการเรียบง่าย บางครั้งก็ทำให้นักลงทุนน่าใหม่เข้ามาลงทุน แต่ยุคสมัยนี้การพิจารณาเพียงแค่ง่ายๆ ผ่านๆ จะถูกหลอกเอาได้ง่ายๆครับ ต้องระวังให้มาก หลายคนลงทุนเพียงแค่ดู P/E P/B Yield แค่นี้ ระยะยาวจะรอดไหมครับ?
ขอบคุณที่เตือนครับ
เริ่มต้นจากสิ่งง่ายๆก่อน น่าจะเป็นสิ่งที่ดีนะครับ ส่วนเรื่องระยะยาวนั้น จะรอดหรือไม่นั้น ..... คงไม่ได้อยู่ที่เรื่อง DCFเพียงอย่างเดียวมั๊งครับ 8)


wpong เขียน:คุณ Hi ครับ
เพราะมันมีตัวแปรเยอะ ผมถึงชอบครับ

การใช้ตัวแปรเส้นตรงจะถูกต้องมาก ถ้าเป็น Steady State หรือ Cash Cow แต่ก็จะพลาดโอกาสงามๆ หรือตกลงไปสู่ บ. ที่ถดถอยได้เหมือนกัน

ผมใช้ DCF ดูเรื่องราวของบริษัท

ผมอาจทำนายผิดก็ได้ แต่มันก็น่าสนุกที่ผิดบนความไม่รู้ของตัวเองครับ
ดีใจด้วยครับ ที่ลงทุนแล้วมีความสุข :)
เห็นด้วยครับเรื่องเรียนรู้อย่างสนุกจากประสบการณ์ในการลงทุน
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์ที่ 74

โพสต์

HI.ผมเอง เขียน: ขอบคุณที่เตือนครับ
เริ่มต้นจากสิ่งง่ายๆก่อน น่าจะเป็นสิ่งที่ดีนะครับ ส่วนเรื่องระยะยาวนั้น จะรอดหรือไม่นั้น ..... คงไม่ได้อยู่ที่เรื่อง DCFเพียงอย่างเดียวมั๊งครับ
คงไม่ใช่ DCF หรอกครับ แต่คงต้องรู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทให้มากที่สุดครับ
Dech
Verified User
โพสต์: 4596
ผู้ติดตาม: 0

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์ที่ 75

โพสต์

โห ไม่รู้อะไร เลย คุยกันไม่รู้เรื่องแล้วครับ

ที่ผ่านมาผมเดาเอาและอาศัยอ่านและลอกตามผู้รู้ในนี้ตลอดเลย

ไม่พัฒนาซะที ขี้เกียจนั่นเองครับ ไม่แนะนำให้ทำตาม
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
khaolad
Verified User
โพสต์: 46
ผู้ติดตาม: 0

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์ที่ 76

โพสต์

thank you