รบกวนสอบถาม เซียนtfex หน่อยครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 36
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนสอบถาม เซียนtfex หน่อยครับ
โพสต์ที่ 1
คือ ถ้าสมมุติ เซทรอบนี้ผมเดาว่าต่ำสุดไม่เกิน 300 จุด (แต่ไม่รู้จะลงถึงเท่าไหร่) ผมเปิดลองไว้ตอนที่ดัชนี ตอนนี้ 450 จุด โดยที่ซื้อเป็นสัญญา 3 เดือน ถ้าขึ้นก็ไม่ขาย ถือไว้อย่างนั้น โดยที่ถ้าเกิดลง ผมก็จะเอาเงินไปใส่ให้ครบ ตามที่กำหนด 5หมื่นบาท แล้วพอสัญญา ครบกำหนด 3 เดือน สัญญาจะปิด ผมก็เปิดสัญญา 3 เดือนตัวใหม่ ที่ราคานั้นเลย ปีหนึ่ง เท่ากับผม เสียค่าคอม 4 ครั้ง ต่อปี
ถ้าผมถือโดยที่ไม่ขายทำกำไรเลย โดยที่หวังผลระยะยาว 5ปี-10ปี รอไปขายตอนดัชนี 900 จุด คิดคำนวณผลตอบแทนโดยประมาณ (ได้กำไร 450จุด x1000บาท = 450,000 บาท) จากเงินลงทุน 50,000+40,000(ค่าคอม10ปี) เท่ากับ ว่าได้กำไร 5 เท่า ซึ่งนับว่ากำไรงามทีเดียว
คือผมคิดอย่างนี้ถูกหรือเปล่าครับ หรือว่ามีอะไรที่ผมไม่รู้อีก พอดีไม่เคยเล่นtfex อ่ะครับ อยากรู้
ถ้าผมถือโดยที่ไม่ขายทำกำไรเลย โดยที่หวังผลระยะยาว 5ปี-10ปี รอไปขายตอนดัชนี 900 จุด คิดคำนวณผลตอบแทนโดยประมาณ (ได้กำไร 450จุด x1000บาท = 450,000 บาท) จากเงินลงทุน 50,000+40,000(ค่าคอม10ปี) เท่ากับ ว่าได้กำไร 5 เท่า ซึ่งนับว่ากำไรงามทีเดียว
คือผมคิดอย่างนี้ถูกหรือเปล่าครับ หรือว่ามีอะไรที่ผมไม่รู้อีก พอดีไม่เคยเล่นtfex อ่ะครับ อยากรู้
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนสอบถาม เซียนtfex หน่อยครับ
โพสต์ที่ 2
อันดับแรก บอกก่อนว่าไม่เซียนนะคะ แต่จะพยายามตอบเท่าที่เข้าใจค่ะ
เบื้องต้น ต้องแก้ไขความเข้าใจพื้นฐานก่อนค่ะ พี่ nipon_tonna เข้าใจคลาดเคลื่อนไปมากทีเดียว...คือ
ตัวฟิวเจอร์ที่ซื้อขายกันอยู่ทุกซีรี่ย์ ต้องอ้างอิงกะตัวสปอตคือ set50 ค่ะ ไม่ใช่ตัว set
ประมาณคร่าวๆแล้ว set50 มีสัดส่วนเป็น"ประมาณ" 70% ของ set ค่ะ, อันนี้คือคร่าวๆนะคะ ซึ่งก็ไม่แน่นอน แต่จะประมาณนี้ค่ะ, ซึ่งเราก็ดูที่ set50 โดยตรงไปเลย ไม่ต้องดู set ก็ย่อมได้ ,แต่การดู set ไปด้วยก็เป้นการตรวจดูภาพรวมของตลาดไปในตัวก็จะดีค่ะ
และโดยทั่วไปแล้ว set50 ก็มักจะเป็นตัวชี้นำ set นั่นแหละ (เพราะเป็นสัดส่วนที่มาก) แต่ให้ดู set50 โดยตรงจะดีกว่า เพราะบางที set50 ก็แข็งกว่า set หรือบางทีก็อาจจะอ่อนกว่าปกติจึงฉุด set ใหญ่ลงมาได้ (จะเห็นว่า set50 นั่นล่ะ เป็นตัวทำให้ดัชนี set ขึ้นหรือลงได้นั่นเอง)
ดังนั้น คงจะพูดได้ว่า เมื่อเซทถูกลากขึ้นด้วยน้ำหนักของหุ้นใหญ่ทั้งหลายในเซท 50 สัดส่วน set50 ก็จะดูว่ามากขึ้น แต่ถ้าเซทใหญ่ถูกทุบลงมาด้วยหุ้นใหญ่ทั้งหลาย สัดส่วน set50 ก็จะลดลงได้บ้าง
...ดังนั้นสัดส่วน 70% ที่ว่า เป็นแค่การประมาณดูจากที่มันเคยเป็นมา และมันจะพริ้วเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้เล็กน้อย ตามสถานการของการเป็นขาขึ้นหรือขาลง ณ ช่วงเวลานั้นๆ
...ฉนั้น อาจพูดได้ว่า มุมมองของพี่อาจจะผิดเพี้ยนได้เล็กๆน้อยๆ ถ้าเล่นฟิวเจอร์ด้วยการไปอิงดูเอาจาก ดัชนี set ใหญ่
...และคงพูดได้ว่า การคำนวนผลตอบแทนคาดการก็คงผิดเพี้ยนไปได้มากพอสมควร (เช่นว่า ถ้าเซทวิ่งร้อยจุด เซทห้าสิบ ก็คงไม่วิ่งทั้งหมดร้อยจุดหรอก ในร้อยจุดนั้นก็คงต้องมีที่ให้หุ้นนอกเซทห้าสิบทำงานบ้างแหละค่ะ ,ทั้งนี้ที่มันจะเพี้ยนได้มาก ก็แล้วแต่ช่วงเวลาตอนนั้น เช่นว่าเซทวิ่งขึ้นโดยใช้หุ้นใหญ่ลากอย่างเดียวเป็นหลัก ตัวกลางตัวเล็กหลับสนิท แบบนี้เซท 50ก็ดูจะวิ่งขึ้นในสัดส่วนที่มากกว่าปกติ เป็นต้น :lol: โดยมากก็จะเพี้ยนบ่อยช่วงที่มีบางคนต้องการทำดัชนีปิดให้ดูงาม)
ดังนั้น จึงอยากบอกว่า พี่ควรแก้ไขมุมมองพื้นฐานก่อนอันดับแรก ไม่งั้นจะมองอะไรไม่ตรงเพื่อนๆคนอื่นในตลาดฟิวเจอร์ทั่วไป
ทีนี้เมื่อแก้มุมมองแล้ว มาว่ากันต่อเรื่องตัวฟิวเจอร์
ในตัวฟิวเจอร์เอง ก็จะแบ่งเป็น 4 ซีรี่ย์ ซีรี่ย์ละ 1 ไตรมาส (คือสามเดือนนั่นเอง)
ทั้งนี้ ตัวฟิวเจอร์ ก็จะพริ้วออกจากตัวสปอตอ้างอิง (set50)จนกว่าจะถึงวันใกล้ๆสุดท้าย คือสิ้นวันทำการของเดือนที่สามของแต่ละซีรี่ย์ จึงจะวิ่งเข้าใกล้ตัวสปอต จนวันสุดท้ายจริงๆ ก็ไม่ต้องเทรดก็ได้ เพราะจะคำนวนหักลบกันเลยเท่ากันเด๊ะๆ กะตัวสปอตจริง
และเท่าที่สังเกตุดู ตัวซีรี่ย์ที่ไกลกว่า มักจะมีทิศทางบ่งชี้ว่าจะมีส่วนลดจากตัวสปอตมาก ถ้าตลาดยังคงอยู่ในเขตที่ยังรู้สึกว่าเป็นขาลงในระยะกลางยาว
แต่ในช่วงที่ตลาดเชื่อมั่นมากขึ้นว่าอาจจะเป็นขาขึ้น ส่วนลดนี้ก็จะแคบขึ้นมาใกล้ตัวสปอต แต่ตัวซีรี่ย์ไกลจะแซงตัวสปอตเลยหรือไม่ อันนี้ไม่แน่ใจ (เพราะดิฉันก็เพิ่งหัดเล่นตอนเซทเป็นขาลง จึงไม่มีข้อสังเกตุตรงนี้ค่ะ)
ซึ่ง..เท่าที่สังเกตุตัวซีรี่ย์ใกล้สุด ถ้ายิ่งใกล้หมดสัญญา และขณะนั้นตลาดมีท่าทีว่า ระยะสั้นทิศทางเหมือนจะเป็นขาขึ้น ในบางวันหรือบางช่วงของในวัน จะมีโอกาสได้เห็นตัวซีรี่ย์ใกล้สุด วิ่งขึ้นเลยตัวสปอตได้บ้างเหมือนกัน
แต่เอางี้ดีก่า (ชักซับซ้อน คนพุดก้เริ่มงง เดี๋ยงคนอ่านจะงงตาม :lol: )
ถ้าพี่กะเล่นยาว ก็อิงจาก set50 ตัวจริงเป็นหลักแล้วกันค่ะ
(เพียงแต่ว่าที่พยายามอธิบายยาวยืดเรื่องการพริ้วของตัวซีรี่ย์แต่ละตัวนั้น คือมันจะไม่เท่ากันค่ะ ดังนั้นหมายถึง ถ้าพี่จะปิดตัวเดิมที่สิ้นไตรมาส เพื่อไปเข้าตัวถัดไป คงจะไม่ได้ที่ราคาเท่ากันหรอกค่ะ,แต่ถ้าพี่เน้นเล่น long ก็คงจะดี เพราะจะได้แก๊ปฟรีเล็กน้อยเวลาปิดและเปิด,กลับกันถ้าเน้นเล่น short จะเสียแก๊ปเล็กน้อยเช่นกันค่ะ)
เอาเป็นว่ามาเข้าเรื่องของในตย.ที่พี่ยกมาจะดีกว่า
ถ้าพี่มองว่าเซทใหญ่คงไปอยู่ได้ที่ 900 จุดได้แน่ๆ ในอีก 5-10 ปี
ถ้าเอาตัวเลขกลมๆ 70% เลย ก็ set50 ประมาณ 630 จุด
เอากลมๆอีก ตอนนี้เซท 450 =set50 ประมาณ 315 จุด...."พี่ long ที่ตรงนี้นะ)
(เอากรณีที่พี่เผื่อใจทางร้ายไว้ว่า เซทคงลงไปที่ 300จุด=set50 ประมาณ210)
.....เขาเรียกเงินวางประกันครั้งแรกไว้ 50000 บาท (ที่พี่ซื้อ long ไว้ 315)
.....จะเรียกเงินประกันเพิ่ม ทุกครั้งที่เงินประกันคงเหลือต่ำกว่า 35000 (ก็คือทุก -15จุด จะเรียกเงินเติมตั้งแต่ 15000 บาทขึ้นไปหรือเรียกเติมให้กลับมาเต็ม 50000ดังเดิม)
....เอาง่ายๆแล้วกันว่า พี่ควจะต้องมีเงินว่างๆไว้เผื่อเลย 315-210=105*1000=105000 บาท (กรณีที่พี่มองว่าโลเซทคงไม่ต่ำกว่า 300จุด)...ทีนี้ต้องมีเงินสำรองอีกหน่อย คือบางทีถ้ากดลงด้วยหุ้นใหญ่ set50 อาจจะสัดส่วนลดลง สมมติเป็นแค่ 68% ไม่ถึง70% อย่างค่าเฉลี่ยปกติ ...พี่ควรจะเผื่อไว้อีกเลย งั้นสมมติให้กดเหลือ 65% เอ้า เพื่อความชัวร์ ....ดังนั้น set 300จุด=set50 ประมาณ 195 จุด...................ดังนั้น.....
.....315-195=120*1000=120000 บาท รวมกะประกันครั้งแรก 50000= เงินสำรอง 170000บาท + ค่าคอมเผื่อไว้สิบปีตามพี่ว่า 40000 =210000 บาท....นี่คือเงินที่ต้องนอนไว้นิ่งๆตามแผน
.....นั่นหมายถึง เซทไม่ลงต่ำกว่า 300 จุดนะพี่นะ ถ้าลงล่ะ อ้อ พี่ก็ควรมีเงินที่นอนนิ่งๆเผื่อถ้ามันลงนะ เช่น เผื่อไว้อีกซัก 50 *1000 มั้ย หรือจะเผื่อ 100จุดเลย เอาชัวร์...
ทำไมต้องบอกว่า เอาชัวร์ ก็เพราะพี่เล่นยาวไง ระยะสั้นจะผิดทางยังไง พี่ก็จะเล่นยาวน่ะค่ะ...เพราะถ้ามันกดลงต่ำกว่า 300จุด ซัก สองวันล่ะ โบรคเขาไม่รอพี่นะ ถ้ารุ่งขึ้นเขาเรียกพี่เติมเงินแล้วพี่ไม่มีเติม เขาจับปิดสถานะทันทีนะ :!:
แล้วพอสองวันดัชนีมันโผล่ขึ้นมาใหม่ ไม่มีใครรับผิดชอบพี่นะ เตือนไว้ก่อนล่ะ :!: :!: :!:
อ่า เอาล่ะ ทีนี้มามองที่ เป้าหมายบ้าง
คือเซท 900=set50 630 เอากลมๆนะคะ เวลากำไรไม่ต้องเผื่อใจ เอากลมๆก็พอ
=630-315=315*1000=315000บาท
คิดอัตราผลตอบแทนจากเงินที่ต้องเอามานอนนิ่งๆแช่ไว้สิบปี(นี่เอาตามที่พี่ว่านะ ,จริงๆก็ไม่น่าถึง10ปีหรอกค่ะ :lol: หวังว่านะคะ)คือ...
กำไร 315000-หักค่าคอม 40000 ต่อทุน 210000(จริงๆน่าเผื่อมากกว่านี้หน่อย ตามเหตุผลที่บอกว่ามีบังคับขาย :!: :!: )
ถ้าเอาผลกำไรจริงๆ (เพราะเงินเติม เวลาขาขึ้นเลยจุดที่เราถือ ก็จะได้เงินคืนมาหมดที่เติมไป) ทุนจริงก็คือ ค่าคอม 40000 น่ะค่ะ ก็คือกำไรจริง =315000-40000= กำไรจริง 275000 (จะหักค่าดอกเบี้ยค่าเสียเวลาเงินที่ดองไว้สิบปี พี่ก็ลองคิดดูค่ะว่าคุ้มมั้ย ถ้าจะเล่นแนวนี้)
กรณีนี้ กำไรจริงประมาณ 275000 ทุนที่ต้องดองสำรองคือ 210000(รวมคอมที่ต้องจ่ายแล้วไม่เกิน 4หมื่น) =ประมาณ130%
อีกมุมนึง กำไรจริง 275000 ทุนที่ต้องจ่ายหายไปจริงๆ 40000 = 687.5%
งงมะคะ ดิฉันเริ่มงงเล็กน้อยแล้ว ไปล่ะค่ะ
:lovl:
เบื้องต้น ต้องแก้ไขความเข้าใจพื้นฐานก่อนค่ะ พี่ nipon_tonna เข้าใจคลาดเคลื่อนไปมากทีเดียว...คือ
ตัวฟิวเจอร์ที่ซื้อขายกันอยู่ทุกซีรี่ย์ ต้องอ้างอิงกะตัวสปอตคือ set50 ค่ะ ไม่ใช่ตัว set
ประมาณคร่าวๆแล้ว set50 มีสัดส่วนเป็น"ประมาณ" 70% ของ set ค่ะ, อันนี้คือคร่าวๆนะคะ ซึ่งก็ไม่แน่นอน แต่จะประมาณนี้ค่ะ, ซึ่งเราก็ดูที่ set50 โดยตรงไปเลย ไม่ต้องดู set ก็ย่อมได้ ,แต่การดู set ไปด้วยก็เป้นการตรวจดูภาพรวมของตลาดไปในตัวก็จะดีค่ะ
และโดยทั่วไปแล้ว set50 ก็มักจะเป็นตัวชี้นำ set นั่นแหละ (เพราะเป็นสัดส่วนที่มาก) แต่ให้ดู set50 โดยตรงจะดีกว่า เพราะบางที set50 ก็แข็งกว่า set หรือบางทีก็อาจจะอ่อนกว่าปกติจึงฉุด set ใหญ่ลงมาได้ (จะเห็นว่า set50 นั่นล่ะ เป็นตัวทำให้ดัชนี set ขึ้นหรือลงได้นั่นเอง)
ดังนั้น คงจะพูดได้ว่า เมื่อเซทถูกลากขึ้นด้วยน้ำหนักของหุ้นใหญ่ทั้งหลายในเซท 50 สัดส่วน set50 ก็จะดูว่ามากขึ้น แต่ถ้าเซทใหญ่ถูกทุบลงมาด้วยหุ้นใหญ่ทั้งหลาย สัดส่วน set50 ก็จะลดลงได้บ้าง
...ดังนั้นสัดส่วน 70% ที่ว่า เป็นแค่การประมาณดูจากที่มันเคยเป็นมา และมันจะพริ้วเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้เล็กน้อย ตามสถานการของการเป็นขาขึ้นหรือขาลง ณ ช่วงเวลานั้นๆ
...ฉนั้น อาจพูดได้ว่า มุมมองของพี่อาจจะผิดเพี้ยนได้เล็กๆน้อยๆ ถ้าเล่นฟิวเจอร์ด้วยการไปอิงดูเอาจาก ดัชนี set ใหญ่
...และคงพูดได้ว่า การคำนวนผลตอบแทนคาดการก็คงผิดเพี้ยนไปได้มากพอสมควร (เช่นว่า ถ้าเซทวิ่งร้อยจุด เซทห้าสิบ ก็คงไม่วิ่งทั้งหมดร้อยจุดหรอก ในร้อยจุดนั้นก็คงต้องมีที่ให้หุ้นนอกเซทห้าสิบทำงานบ้างแหละค่ะ ,ทั้งนี้ที่มันจะเพี้ยนได้มาก ก็แล้วแต่ช่วงเวลาตอนนั้น เช่นว่าเซทวิ่งขึ้นโดยใช้หุ้นใหญ่ลากอย่างเดียวเป็นหลัก ตัวกลางตัวเล็กหลับสนิท แบบนี้เซท 50ก็ดูจะวิ่งขึ้นในสัดส่วนที่มากกว่าปกติ เป็นต้น :lol: โดยมากก็จะเพี้ยนบ่อยช่วงที่มีบางคนต้องการทำดัชนีปิดให้ดูงาม)
ดังนั้น จึงอยากบอกว่า พี่ควรแก้ไขมุมมองพื้นฐานก่อนอันดับแรก ไม่งั้นจะมองอะไรไม่ตรงเพื่อนๆคนอื่นในตลาดฟิวเจอร์ทั่วไป
ทีนี้เมื่อแก้มุมมองแล้ว มาว่ากันต่อเรื่องตัวฟิวเจอร์
ในตัวฟิวเจอร์เอง ก็จะแบ่งเป็น 4 ซีรี่ย์ ซีรี่ย์ละ 1 ไตรมาส (คือสามเดือนนั่นเอง)
ทั้งนี้ ตัวฟิวเจอร์ ก็จะพริ้วออกจากตัวสปอตอ้างอิง (set50)จนกว่าจะถึงวันใกล้ๆสุดท้าย คือสิ้นวันทำการของเดือนที่สามของแต่ละซีรี่ย์ จึงจะวิ่งเข้าใกล้ตัวสปอต จนวันสุดท้ายจริงๆ ก็ไม่ต้องเทรดก็ได้ เพราะจะคำนวนหักลบกันเลยเท่ากันเด๊ะๆ กะตัวสปอตจริง
และเท่าที่สังเกตุดู ตัวซีรี่ย์ที่ไกลกว่า มักจะมีทิศทางบ่งชี้ว่าจะมีส่วนลดจากตัวสปอตมาก ถ้าตลาดยังคงอยู่ในเขตที่ยังรู้สึกว่าเป็นขาลงในระยะกลางยาว
แต่ในช่วงที่ตลาดเชื่อมั่นมากขึ้นว่าอาจจะเป็นขาขึ้น ส่วนลดนี้ก็จะแคบขึ้นมาใกล้ตัวสปอต แต่ตัวซีรี่ย์ไกลจะแซงตัวสปอตเลยหรือไม่ อันนี้ไม่แน่ใจ (เพราะดิฉันก็เพิ่งหัดเล่นตอนเซทเป็นขาลง จึงไม่มีข้อสังเกตุตรงนี้ค่ะ)
ซึ่ง..เท่าที่สังเกตุตัวซีรี่ย์ใกล้สุด ถ้ายิ่งใกล้หมดสัญญา และขณะนั้นตลาดมีท่าทีว่า ระยะสั้นทิศทางเหมือนจะเป็นขาขึ้น ในบางวันหรือบางช่วงของในวัน จะมีโอกาสได้เห็นตัวซีรี่ย์ใกล้สุด วิ่งขึ้นเลยตัวสปอตได้บ้างเหมือนกัน
แต่เอางี้ดีก่า (ชักซับซ้อน คนพุดก้เริ่มงง เดี๋ยงคนอ่านจะงงตาม :lol: )
ถ้าพี่กะเล่นยาว ก็อิงจาก set50 ตัวจริงเป็นหลักแล้วกันค่ะ
(เพียงแต่ว่าที่พยายามอธิบายยาวยืดเรื่องการพริ้วของตัวซีรี่ย์แต่ละตัวนั้น คือมันจะไม่เท่ากันค่ะ ดังนั้นหมายถึง ถ้าพี่จะปิดตัวเดิมที่สิ้นไตรมาส เพื่อไปเข้าตัวถัดไป คงจะไม่ได้ที่ราคาเท่ากันหรอกค่ะ,แต่ถ้าพี่เน้นเล่น long ก็คงจะดี เพราะจะได้แก๊ปฟรีเล็กน้อยเวลาปิดและเปิด,กลับกันถ้าเน้นเล่น short จะเสียแก๊ปเล็กน้อยเช่นกันค่ะ)
เอาเป็นว่ามาเข้าเรื่องของในตย.ที่พี่ยกมาจะดีกว่า
ถ้าพี่มองว่าเซทใหญ่คงไปอยู่ได้ที่ 900 จุดได้แน่ๆ ในอีก 5-10 ปี
ถ้าเอาตัวเลขกลมๆ 70% เลย ก็ set50 ประมาณ 630 จุด
เอากลมๆอีก ตอนนี้เซท 450 =set50 ประมาณ 315 จุด...."พี่ long ที่ตรงนี้นะ)
(เอากรณีที่พี่เผื่อใจทางร้ายไว้ว่า เซทคงลงไปที่ 300จุด=set50 ประมาณ210)
.....เขาเรียกเงินวางประกันครั้งแรกไว้ 50000 บาท (ที่พี่ซื้อ long ไว้ 315)
.....จะเรียกเงินประกันเพิ่ม ทุกครั้งที่เงินประกันคงเหลือต่ำกว่า 35000 (ก็คือทุก -15จุด จะเรียกเงินเติมตั้งแต่ 15000 บาทขึ้นไปหรือเรียกเติมให้กลับมาเต็ม 50000ดังเดิม)
....เอาง่ายๆแล้วกันว่า พี่ควจะต้องมีเงินว่างๆไว้เผื่อเลย 315-210=105*1000=105000 บาท (กรณีที่พี่มองว่าโลเซทคงไม่ต่ำกว่า 300จุด)...ทีนี้ต้องมีเงินสำรองอีกหน่อย คือบางทีถ้ากดลงด้วยหุ้นใหญ่ set50 อาจจะสัดส่วนลดลง สมมติเป็นแค่ 68% ไม่ถึง70% อย่างค่าเฉลี่ยปกติ ...พี่ควรจะเผื่อไว้อีกเลย งั้นสมมติให้กดเหลือ 65% เอ้า เพื่อความชัวร์ ....ดังนั้น set 300จุด=set50 ประมาณ 195 จุด...................ดังนั้น.....
.....315-195=120*1000=120000 บาท รวมกะประกันครั้งแรก 50000= เงินสำรอง 170000บาท + ค่าคอมเผื่อไว้สิบปีตามพี่ว่า 40000 =210000 บาท....นี่คือเงินที่ต้องนอนไว้นิ่งๆตามแผน
.....นั่นหมายถึง เซทไม่ลงต่ำกว่า 300 จุดนะพี่นะ ถ้าลงล่ะ อ้อ พี่ก็ควรมีเงินที่นอนนิ่งๆเผื่อถ้ามันลงนะ เช่น เผื่อไว้อีกซัก 50 *1000 มั้ย หรือจะเผื่อ 100จุดเลย เอาชัวร์...
ทำไมต้องบอกว่า เอาชัวร์ ก็เพราะพี่เล่นยาวไง ระยะสั้นจะผิดทางยังไง พี่ก็จะเล่นยาวน่ะค่ะ...เพราะถ้ามันกดลงต่ำกว่า 300จุด ซัก สองวันล่ะ โบรคเขาไม่รอพี่นะ ถ้ารุ่งขึ้นเขาเรียกพี่เติมเงินแล้วพี่ไม่มีเติม เขาจับปิดสถานะทันทีนะ :!:
แล้วพอสองวันดัชนีมันโผล่ขึ้นมาใหม่ ไม่มีใครรับผิดชอบพี่นะ เตือนไว้ก่อนล่ะ :!: :!: :!:
อ่า เอาล่ะ ทีนี้มามองที่ เป้าหมายบ้าง
คือเซท 900=set50 630 เอากลมๆนะคะ เวลากำไรไม่ต้องเผื่อใจ เอากลมๆก็พอ
=630-315=315*1000=315000บาท
คิดอัตราผลตอบแทนจากเงินที่ต้องเอามานอนนิ่งๆแช่ไว้สิบปี(นี่เอาตามที่พี่ว่านะ ,จริงๆก็ไม่น่าถึง10ปีหรอกค่ะ :lol: หวังว่านะคะ)คือ...
กำไร 315000-หักค่าคอม 40000 ต่อทุน 210000(จริงๆน่าเผื่อมากกว่านี้หน่อย ตามเหตุผลที่บอกว่ามีบังคับขาย :!: :!: )
ถ้าเอาผลกำไรจริงๆ (เพราะเงินเติม เวลาขาขึ้นเลยจุดที่เราถือ ก็จะได้เงินคืนมาหมดที่เติมไป) ทุนจริงก็คือ ค่าคอม 40000 น่ะค่ะ ก็คือกำไรจริง =315000-40000= กำไรจริง 275000 (จะหักค่าดอกเบี้ยค่าเสียเวลาเงินที่ดองไว้สิบปี พี่ก็ลองคิดดูค่ะว่าคุ้มมั้ย ถ้าจะเล่นแนวนี้)
กรณีนี้ กำไรจริงประมาณ 275000 ทุนที่ต้องดองสำรองคือ 210000(รวมคอมที่ต้องจ่ายแล้วไม่เกิน 4หมื่น) =ประมาณ130%
อีกมุมนึง กำไรจริง 275000 ทุนที่ต้องจ่ายหายไปจริงๆ 40000 = 687.5%
งงมะคะ ดิฉันเริ่มงงเล็กน้อยแล้ว ไปล่ะค่ะ
:lovl:
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนสอบถาม เซียนtfex หน่อยครับ
โพสต์ที่ 4
ขอบคุณเจ๊สายลับมากๆๆ
สงสัยมานานแล้ว เป็นอย่างนี้นี่เอง
ที่จขกร คิดจะทำ ผมก็เคยคิดอย่างนั้นเหมือนกัน
เจ๊อธิบายแล้ว ผมไม่เอาดีกว่าเพราะต้นทุนเงินที่จม มันมากเกินไป
ผมเคยมีประสบการณ์เล่นตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ลงเงินแค่ 3-4% ที่เหลือคือกู้ พอราคายางลงฟลอร์วันเดียว ผมหมดตูด!!! ลองคิดดูว่าถ้ายางฟลอร์ 7-8 วัน จะเป็นอย่างไร และที่สำคัญไม่มีบิดปิดสถานะไม่ได้ อย่างรอบล่าสุดไม่แน่ใจว่าฟลอร์กี่วัน ไม่ได้ตามแล้ว แต่แน่ใจว่าคงมีฟลอร์หลายวันแน่ๆ
ลงทุนหุ้นเงินเราไม่มีเงินกู้ ไม่หมดอายุ สบายใจ ไปเล่นพวกอนุพันธ์ แบบเกียริ่งสูงๆ ต้องกู้เยอะ ต้องเตรียมหัวใจไว้หลายดวงด้วย เพราะมันจะวายบ่อยๆ :lol: :lol:
สงสัยมานานแล้ว เป็นอย่างนี้นี่เอง
ที่จขกร คิดจะทำ ผมก็เคยคิดอย่างนั้นเหมือนกัน
เจ๊อธิบายแล้ว ผมไม่เอาดีกว่าเพราะต้นทุนเงินที่จม มันมากเกินไป
ผมเคยมีประสบการณ์เล่นตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ลงเงินแค่ 3-4% ที่เหลือคือกู้ พอราคายางลงฟลอร์วันเดียว ผมหมดตูด!!! ลองคิดดูว่าถ้ายางฟลอร์ 7-8 วัน จะเป็นอย่างไร และที่สำคัญไม่มีบิดปิดสถานะไม่ได้ อย่างรอบล่าสุดไม่แน่ใจว่าฟลอร์กี่วัน ไม่ได้ตามแล้ว แต่แน่ใจว่าคงมีฟลอร์หลายวันแน่ๆ
ลงทุนหุ้นเงินเราไม่มีเงินกู้ ไม่หมดอายุ สบายใจ ไปเล่นพวกอนุพันธ์ แบบเกียริ่งสูงๆ ต้องกู้เยอะ ต้องเตรียมหัวใจไว้หลายดวงด้วย เพราะมันจะวายบ่อยๆ :lol: :lol:
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 36
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนสอบถาม เซียนtfex หน่อยครับ
โพสต์ที่ 5
ขอบคุณที่มาตอบครับ พอดีผมไปศึกษามาเพิ่มเติมแล้วครับ
ตอนนี้ set50 อยู่ที่ประมาณ 300จุด ถ้าผมซื้อตั้งแต่ ตอนนี้ ก็ต้องมีเงินสำรอง กรณีที่เลวร้ายสุด 300,000 ต่อสัญญา (ตัวผมมองว่า เลวร้ายสุดไม่น่าจะหลุด 200จุด ซึ่งก็ใช้เงินค้ำประมาณ 2แสน)
คิดแบบขี้หมูขี้หมานะครับ ถ้าภายใน 10 ปี มันกลับไป 600จุดได้ จะได้เงินตอนแทนกลับมา 300,000บาท ซึ่งก็เท่ากับ 100% เท่ากับปีละ 10% ก็ยังมากกว่าฝากแบงค์
แต่ถ้าเกิด มันลงไม่ถึง 100จุดละ เกิดซื้อที่300จุด แล้วไม่ลงมาอีกเลย เท่ากับทุนผมก็แค่ 50,000 กำไร300,000 เท่ากับกำไร 6 เท่า ในสิบปี ไม่เลวเลยใช่ไหมครับ
แล้วเรายังมีโอกาสได้ส่วนต่างอีกใช่ไหมครับ คือถ้าซีรี่ของผมที่ซื้อมาพอใกล้หมดอายุ แล้วช่วงเวลานั้นหุ้นลงพอดี ซีรี่ใกล้ๆ จะมีราคาสูง กว่าซีรีไกลๆ ผมก็ปิดสถานะ แล้วไปซื้อซีรี่ที่ไกลๆ เพื่อเอาส่วนต่างก็ได้อีกใช่ไหมครับ (เพราะผมถือยาวอยู่แล้ว ไม่สนใจราคา) เช่น ซีรี่ เดือนมีนาคม 310 ผมขาย แล้วไปซื้อซีรี เดือน ธันวาคม 306 ผมก็ได้กำไร 4 ช่อง ถูกไหมครับ
ตอนนี้ set50 อยู่ที่ประมาณ 300จุด ถ้าผมซื้อตั้งแต่ ตอนนี้ ก็ต้องมีเงินสำรอง กรณีที่เลวร้ายสุด 300,000 ต่อสัญญา (ตัวผมมองว่า เลวร้ายสุดไม่น่าจะหลุด 200จุด ซึ่งก็ใช้เงินค้ำประมาณ 2แสน)
คิดแบบขี้หมูขี้หมานะครับ ถ้าภายใน 10 ปี มันกลับไป 600จุดได้ จะได้เงินตอนแทนกลับมา 300,000บาท ซึ่งก็เท่ากับ 100% เท่ากับปีละ 10% ก็ยังมากกว่าฝากแบงค์
แต่ถ้าเกิด มันลงไม่ถึง 100จุดละ เกิดซื้อที่300จุด แล้วไม่ลงมาอีกเลย เท่ากับทุนผมก็แค่ 50,000 กำไร300,000 เท่ากับกำไร 6 เท่า ในสิบปี ไม่เลวเลยใช่ไหมครับ
แล้วเรายังมีโอกาสได้ส่วนต่างอีกใช่ไหมครับ คือถ้าซีรี่ของผมที่ซื้อมาพอใกล้หมดอายุ แล้วช่วงเวลานั้นหุ้นลงพอดี ซีรี่ใกล้ๆ จะมีราคาสูง กว่าซีรีไกลๆ ผมก็ปิดสถานะ แล้วไปซื้อซีรี่ที่ไกลๆ เพื่อเอาส่วนต่างก็ได้อีกใช่ไหมครับ (เพราะผมถือยาวอยู่แล้ว ไม่สนใจราคา) เช่น ซีรี่ เดือนมีนาคม 310 ผมขาย แล้วไปซื้อซีรี เดือน ธันวาคม 306 ผมก็ได้กำไร 4 ช่อง ถูกไหมครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 36
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนสอบถาม เซียนtfex หน่อยครับ
โพสต์ที่ 6
แก้ไขข้างบนหน่อยครับ (ตัวผมมองว่าไม่น่าจะหลุด 100จุด ใช้เงินค้ำประมาณ 250,000 บาท)
ผมคิดว่า กำไรจะได้กี่เท่า ขึ้นอยู่กับจังหวะการเข้าของเรา ว่าเข้าถูกจังหวะหรือเปล่า ถ้าเราเข้าจังหวะที่ มันเป็นสุดเหวแล้ว เราก็ใช้เงินค้ำแค่ 5หมื่น ก็จะได้กำไรหลายเท่า แต่ถ้าไปเข้าจังหวะ ยังไม่สุด มันก็จะได้กำไร ลดน้อยลงไปตามส่วน เพราะต้องเอาเงินไปลงเพิ่ม แต่เงินที่ลงเพิ่มเราก็อาจลงแค่ 1ปี หรือ2ปี ก็ได้ แล้วมันก็อาจจะกลับขึ้นมา เราก็ได้เงินส่วนนั้นคืน แต่ก็อาจจะไม่ขึ้นมา อาจจะวิ่งแถวนั้น หลายปี ก็ต้องจมไปกับตรงนั้น
ซึ่งส่วนตัวผมมองว่า น่าเล่นกว่า หุ้นนะครับ เพราะผมดูราคาหุ้นในอดีตแล้ว บางตัวก็ยังไม่กลับมาที่เดิมเหมือนสมัยบูมๆได้เลย คือเราเล่นเซท ยังไงก็ยังกลับมาได้ แต่หุ้นเกิดเข้าผิดตัวแล้วไม่กลับมา นี่ซวยเลย หุ้นอาจได้กำไรเยอะกว่า เซทอาจกำไรน้อยกว่า แต่ก็ยังได้นะครับ ยกตัวอย่าง ptt นี่ก็มีความเสี่ยงที่ว่าพลังงานทดแทนจะมา เกิดอนาคตเค้าหาพลังงานทดแทนได้ แล้วใช้น้ำมันเพียงนิดเดียว แล้วราคาน้ำมัน ไม่เกิน 50 เหรียญ แล้วptt จะกลับไป 400 เหมือนเดิมได้ไหมก็ไม่รู้ ผมมองว่า มันเสี่ยงนะครับ
แล้วโอกาสที่เซทจะลงมาแรงๆ ก็มีไม่บ่อย 10ปี มีครั้ง ถ้าเราพลาดรอบนี้ก็ไม่รู้ต้องรออีกกี่ปี
ผมคิดว่า กำไรจะได้กี่เท่า ขึ้นอยู่กับจังหวะการเข้าของเรา ว่าเข้าถูกจังหวะหรือเปล่า ถ้าเราเข้าจังหวะที่ มันเป็นสุดเหวแล้ว เราก็ใช้เงินค้ำแค่ 5หมื่น ก็จะได้กำไรหลายเท่า แต่ถ้าไปเข้าจังหวะ ยังไม่สุด มันก็จะได้กำไร ลดน้อยลงไปตามส่วน เพราะต้องเอาเงินไปลงเพิ่ม แต่เงินที่ลงเพิ่มเราก็อาจลงแค่ 1ปี หรือ2ปี ก็ได้ แล้วมันก็อาจจะกลับขึ้นมา เราก็ได้เงินส่วนนั้นคืน แต่ก็อาจจะไม่ขึ้นมา อาจจะวิ่งแถวนั้น หลายปี ก็ต้องจมไปกับตรงนั้น
ซึ่งส่วนตัวผมมองว่า น่าเล่นกว่า หุ้นนะครับ เพราะผมดูราคาหุ้นในอดีตแล้ว บางตัวก็ยังไม่กลับมาที่เดิมเหมือนสมัยบูมๆได้เลย คือเราเล่นเซท ยังไงก็ยังกลับมาได้ แต่หุ้นเกิดเข้าผิดตัวแล้วไม่กลับมา นี่ซวยเลย หุ้นอาจได้กำไรเยอะกว่า เซทอาจกำไรน้อยกว่า แต่ก็ยังได้นะครับ ยกตัวอย่าง ptt นี่ก็มีความเสี่ยงที่ว่าพลังงานทดแทนจะมา เกิดอนาคตเค้าหาพลังงานทดแทนได้ แล้วใช้น้ำมันเพียงนิดเดียว แล้วราคาน้ำมัน ไม่เกิน 50 เหรียญ แล้วptt จะกลับไป 400 เหมือนเดิมได้ไหมก็ไม่รู้ ผมมองว่า มันเสี่ยงนะครับ
แล้วโอกาสที่เซทจะลงมาแรงๆ ก็มีไม่บ่อย 10ปี มีครั้ง ถ้าเราพลาดรอบนี้ก็ไม่รู้ต้องรออีกกี่ปี
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 36
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนสอบถาม เซียนtfex หน่อยครับ
โพสต์ที่ 7
แล้วอีกอย่างครับ อนุพันธ์ตัวนี้จะมีวันเจ๊ง หรือว่ายกเลิกกันหรือเปล่าครับ หรือว่าตราบใดที่ตลาดหุ้นไม่เจ๊ง มันก็ไม่ยกเลิก
เพราะเกิดผมซื้อไปตอน 300 แล้วลงไป 100 พอมันจะกลับตัวขึ้นมาดันยกเลิก ผมตายเลย
เพราะเกิดผมซื้อไปตอน 300 แล้วลงไป 100 พอมันจะกลับตัวขึ้นมาดันยกเลิก ผมตายเลย
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 36
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนสอบถาม เซียนtfex หน่อยครับ
โพสต์ที่ 8
ถามอีกอย่างด้วยครับ set50 นี่มันจะปรับหุ้นในกลุ่มนี้ทุก 6เดือนใช่ไหมครับ อย่างนี้ถ้าอีกหน่อย กลุ่ม ptt เกิดเน่าขึ้นมา แล้วกลุ่มอื่นพุ่งขึ้นมาแทน อย่างนี้ กลุ่ม ptt ก็มีสิทหลุด set50 แล้วกลุ่มอื่นก็ได้เข้ามา ถูกไหมครับ
แล้ว เกณฑ์การเข้ามาอยู่ใน set50ได้นี่ ต้องเป็นยังไงบ้างครับ
แล้ว เกณฑ์การเข้ามาอยู่ใน set50ได้นี่ ต้องเป็นยังไงบ้างครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนสอบถาม เซียนtfex หน่อยครับ
โพสต์ที่ 9
แหะๆ พี่ nipon_tonna ยิงถามเป็นชุดเลย ขอตอบเฉพาะที่คิดว่าเข้าใจแล้วกัน อันไหนไม่ตอบก็รอเซียนท่านอื่นมาช่วยตอบแล้วกันนะคะ
แต่เอาล่ะ ก็คงน่าจะมากกว่าฝากแบงค์ได้จริงๆ ตามมุมมองของพี่ที่ว่าไว้ค่ะ
แต่...อย่าลืมใส่ปัจจัยความเสี่ยง ซึ่งมันน่าจะแตกต่างกะการฝากแบงค์อยู่พอสมควรนะคะ
คือ หนึ่ง เราถึงจุดต่ำสุดหรือยัง สอง เราจะไปถึง 900จุดในสิบปีจริงหรือไม่
เราจะประเมินกำหนดของการฟื้นตัวจากสถิติที่เคยเกิดขึ้นไปแล้วในอดีตกัน
เอาตั้งกะเปิดตลท.ในปี 18 เป็นต้นมา
เซท แสดงรอบวงจรใหญ่ของอภิมหาสถานการวิกฤตไว้แล้วสองรอบ ที่เห็นเด่นชัดคือ หลังการทำไฮในปี 2521 และไฮในปี 2537 สังเกตุไว้เป็นสถิติได้ดังนี้คือ
ร่วงหล่นมาเจอโลว์ ใช้เวลาเดินทางจากเขตฟ้าลงสู่จรดดิน ประมาณ 1-2 ปี
หลังจากเจอโลว์แล้ว ใช้เวลาในการฟักตัว (สลับขึ้นๆลงๆ อย่างคลื่นแคบบ้าง อย่างกว้างบ้าคลั่งบ้าง) ประมาณ 4-5 ปี ...กว่าที่มันจะมั่นคงพอที่จะตะกายทะยานขึ้นจากเขตก้นหุบเหวขึ้นมาได้ เพื่อกลับมาทวงบัลลังก์การเป็นกระทิงขาขึ้นระยะยาวได้อย่างเต็มปาก
หลังจากขั้นตอนการไต่ออกจากก้นเหว กระทิงหนุ่มที่เกิดใหม่ จะพยายามอย่างยิ่งยวดในการที่จะฝ่าด่านไปทีละด่าน เพื่อจุดมุ่งหมายที่จะไปให้ถึง
"นิวไฮ"
...ซึ่งในรอบล่าสุดที่ผ่านมาสดๆร้อนๆ แผนการทะลวงเพื่อ นิวไฮ ของเรา...ไม่บรรลุผล :lol: เจอมรสุมเยอะไปหน่อย ทั้งศึกนอก ศึกใน (รอบนี้ดิฉันคิดว่าศึกในค่อนข้างมีผลพอสมควร บ้านเราจึงได้รับเกียรตกับตำแหน่ง อันเดอร์เพอฟอร์ม เมื่อเทียบกะเพื่อนๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ :lol: )
...ขณะที่เรายังได้เพียงเงอะเงิ่น ทะลวงเพื่อไปนิวไฮด้วยความทุลักทุเลอยู่นั้น ....วงจรของรอบใหญ่ก้เข้ารอบช่วงขาลงพอดี...กรรมการเป่าหวีดปี๊ดๆๆๆ หมดเวลา.....จบกัน :wall: เราจึงฝืนไม่ไหว ต้องลงตามเพื่อนๆ ตามรอบของปรากฏการวงจรแห่งธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ (ไม่รู้ทำไมต้องเป็นตามวงจรนี้ แปลกแต่จริง ตามที่เคยอ่านๆเจอผ่านๆตามา พวกเด็กสถิติทั้งหลาย ก็ว่ากันว่า รอบนึงก็ประมาณ 13 ปี บวกลบ ,ก็ไม่รู้ทำไมต้องเป็นงี้เหมือนกัน เพราะนักสถิติไม่มีหน้าที่หาเหตุผล ไม่มีหน้าที่ใช้อารมณ์ มีหน้าที่เพียง เก็บสถิติเพื่อนำมาใช้ประโยชน์เท่านั้น)
ว้ายยยย ทำไมช้านออกทะเลไปไกลเงี้ยเนี่ยยยย :lovl:
เอาเป็นว่า พี่ก็ลองประมาณๆเอาดูละกันค่ะ ว่า 900 จุดในสิบปี นับจากวันนี้เป็นต้นไป มันเป็นไปได้หรือไม่ค่ะ
ถ้าคิดแบบผลตอบแทนทบต้น เงินต้น 300000 อีกสิบปีรับ 630000 น่าจะเท่ากะผลตอบแทนทบต้นที่ 7.7% ต่อปีค่ะถ้าภายใน 10 ปี มันกลับไป 600จุดได้ จะได้เงินตอนแทนกลับมา 300,000บาท ซึ่งก็เท่ากับ 100% เท่ากับปีละ 10% ก็ยังมากกว่าฝากแบงค์
แต่เอาล่ะ ก็คงน่าจะมากกว่าฝากแบงค์ได้จริงๆ ตามมุมมองของพี่ที่ว่าไว้ค่ะ
แต่...อย่าลืมใส่ปัจจัยความเสี่ยง ซึ่งมันน่าจะแตกต่างกะการฝากแบงค์อยู่พอสมควรนะคะ
คือ หนึ่ง เราถึงจุดต่ำสุดหรือยัง สอง เราจะไปถึง 900จุดในสิบปีจริงหรือไม่
เราจะประเมินกำหนดของการฟื้นตัวจากสถิติที่เคยเกิดขึ้นไปแล้วในอดีตกัน
เอาตั้งกะเปิดตลท.ในปี 18 เป็นต้นมา
เซท แสดงรอบวงจรใหญ่ของอภิมหาสถานการวิกฤตไว้แล้วสองรอบ ที่เห็นเด่นชัดคือ หลังการทำไฮในปี 2521 และไฮในปี 2537 สังเกตุไว้เป็นสถิติได้ดังนี้คือ
ร่วงหล่นมาเจอโลว์ ใช้เวลาเดินทางจากเขตฟ้าลงสู่จรดดิน ประมาณ 1-2 ปี
หลังจากเจอโลว์แล้ว ใช้เวลาในการฟักตัว (สลับขึ้นๆลงๆ อย่างคลื่นแคบบ้าง อย่างกว้างบ้าคลั่งบ้าง) ประมาณ 4-5 ปี ...กว่าที่มันจะมั่นคงพอที่จะตะกายทะยานขึ้นจากเขตก้นหุบเหวขึ้นมาได้ เพื่อกลับมาทวงบัลลังก์การเป็นกระทิงขาขึ้นระยะยาวได้อย่างเต็มปาก
หลังจากขั้นตอนการไต่ออกจากก้นเหว กระทิงหนุ่มที่เกิดใหม่ จะพยายามอย่างยิ่งยวดในการที่จะฝ่าด่านไปทีละด่าน เพื่อจุดมุ่งหมายที่จะไปให้ถึง
"นิวไฮ"
...ซึ่งในรอบล่าสุดที่ผ่านมาสดๆร้อนๆ แผนการทะลวงเพื่อ นิวไฮ ของเรา...ไม่บรรลุผล :lol: เจอมรสุมเยอะไปหน่อย ทั้งศึกนอก ศึกใน (รอบนี้ดิฉันคิดว่าศึกในค่อนข้างมีผลพอสมควร บ้านเราจึงได้รับเกียรตกับตำแหน่ง อันเดอร์เพอฟอร์ม เมื่อเทียบกะเพื่อนๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ :lol: )
...ขณะที่เรายังได้เพียงเงอะเงิ่น ทะลวงเพื่อไปนิวไฮด้วยความทุลักทุเลอยู่นั้น ....วงจรของรอบใหญ่ก้เข้ารอบช่วงขาลงพอดี...กรรมการเป่าหวีดปี๊ดๆๆๆ หมดเวลา.....จบกัน :wall: เราจึงฝืนไม่ไหว ต้องลงตามเพื่อนๆ ตามรอบของปรากฏการวงจรแห่งธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ (ไม่รู้ทำไมต้องเป็นตามวงจรนี้ แปลกแต่จริง ตามที่เคยอ่านๆเจอผ่านๆตามา พวกเด็กสถิติทั้งหลาย ก็ว่ากันว่า รอบนึงก็ประมาณ 13 ปี บวกลบ ,ก็ไม่รู้ทำไมต้องเป็นงี้เหมือนกัน เพราะนักสถิติไม่มีหน้าที่หาเหตุผล ไม่มีหน้าที่ใช้อารมณ์ มีหน้าที่เพียง เก็บสถิติเพื่อนำมาใช้ประโยชน์เท่านั้น)
ว้ายยยย ทำไมช้านออกทะเลไปไกลเงี้ยเนี่ยยยย :lovl:
เอาเป็นว่า พี่ก็ลองประมาณๆเอาดูละกันค่ะ ว่า 900 จุดในสิบปี นับจากวันนี้เป็นต้นไป มันเป็นไปได้หรือไม่ค่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนสอบถาม เซียนtfex หน่อยครับ
โพสต์ที่ 10
ไม่ทราบว่า ตรงไหน ดูยังไง พี่จึงจะเชื่อได้ว่า มันจะไม่ลงมาอีกต่ำกว่าที่ซื้อไว้เกิดซื้อที่300จุด แล้วไม่ลงมาอีกเลย เท่ากับทุนผมก็แค่ 50,000 กำไร300,000 เท่ากับกำไร 6 เท่า ในสิบปี
หมายถึงว่า ถ้าพี่ดูออกเมื่อไหร่ ก็แปลว่า พี่มั่นใจแล้วที่จะไม่ต้องเอาเงินที่ค้ำไว้เต็มสามแสน ดองนิ่งๆไว้อีกต่อไป
ดังนั้น ผลตอบแทน จะเป็น 6 เท่า หรือมากน้อยกว่านั้น ขึ้นอยู่กะระยะเวลาเงินที่พี่ต้องดองไว้นิ่งๆด้วยค่ะ
(การดองเงินไว้ในบช.ออมทรัพย์เผื่อเรียก หรือดองในบช.ทีเฟคไปเลย ก็จะได้ดอกเบี้ยพอๆกันนะคะ แล้วแต่ละโบรคก็คงอาจจะเท่ากันหรือไม่ อันนี้ไม่ทราบค่ะ,แต่ก็คงไม่ค่อยต่างกะผลตอบแทนออมทรัพย์เท่าไรนักค่ะ)
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนสอบถาม เซียนtfex หน่อยครับ
โพสต์ที่ 11
ขาย 310 ซื้อกลับ 306 ได้กำไร 4 ช่อง ถูกต้องค่ะแล้วเรายังมีโอกาสได้ส่วนต่างอีกใช่ไหมครับ คือถ้าซีรี่ของผมที่ซื้อมาพอใกล้หมดอายุ แล้วช่วงเวลานั้นหุ้นลงพอดี ซีรี่ใกล้ๆ จะมีราคาสูง กว่าซีรีไกลๆ ผมก็ปิดสถานะ แล้วไปซื้อซีรี่ที่ไกลๆ เพื่อเอาส่วนต่างก็ได้อีกใช่ไหมครับ (เพราะผมถือยาวอยู่แล้ว ไม่สนใจราคา) เช่น ซีรี่ เดือนมีนาคม 310 ผมขาย แล้วไปซื้อซีรี เดือน ธันวาคม 306 ผมก็ได้กำไร 4 ช่อง ถูกไหมครับ
ในข้อสังเกตุนี้ (ที่ดิฉันเคยตั้งข้อกังขาไว้ก่อนนี้ด้านบน)
ดิฉันไม่แน่ใจว่า หากเซทกลับมาเป็นขาขึ้นระยะ กลาง-ยาว ได้จริง ตัวซีรี่ย์ไกล จะยังคงมีส่วนลดมากกว่าตัวซี่รี่ย์ใกล้ อีกหรือไม่
...หรือ ก็ไม่แน่ว่า กลายเป็นตัวซีรี่ย์ไกล กลับวิ่งนำดัชนีอ้างอิงหรือเปล่า ในกรณีหากตลาดมั่นใจว่านี่กะลังเป็นขาขึ้นยาวแล้ว
ซึ่งหากข้อกังขา เป็นดังที่ว่า อาจเสียแก๊ปก็ได้ค่ะ ถ้าถือ long และต้องการเปลี่ยนซีรี่ย์ทันที ถ้าเป้นขาขึ้นแน่นอนชัวร์ๆ
(คือ ดิฉันตั้งข้อสังเกตุนี้ เนื่องมาจากทฤษฏีส่วนลดในขาลง กลับกันถ้าในขาขึ้น ก็อาจเป็นไปได้ที่สูตรจะกลับข้างกันก็ได้ ,ก็ในเมื่อยามขาลงยังปกคลุมระยะกลางยาว ดังนั้นซีรี่ย์กลางยาวมีส่วนลด ก็น่าจะถูกต้องแล้ว ,แล้วถ้าส่วนใหญ่ประสานเสียงว่านี่คือขาขึ้นระยะกลาง-ยาวล่ะ จะซื้อขายด้วยส่วนลดไปเพื่ออะไร... )
^
^
^
ข้อสงสัยด้านบน เป็นส่วนตัวดิฉันเท่านั้น มิใช่ข้อมูลสถิติอันใดค่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนสอบถาม เซียนtfex หน่อยครับ
โพสต์ที่ 12
ก็มีโอกาสเป็นไปได้ค่ะ ความซวยไม่เข้าใครออกใคร ไม่เลือกเวลาสถานที่ บางคนก็ว่า เป็นฟ้าลิขิตค่ะผมดูราคาหุ้นในอดีตแล้ว บางตัวก็ยังไม่กลับมาที่เดิมเหมือนสมัยบูมๆได้เลย คือเราเล่นเซท ยังไงก็ยังกลับมาได้ แต่หุ้นเกิดเข้าผิดตัวแล้วไม่กลับมา นี่ซวยเลย
:lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนสอบถาม เซียนtfex หน่อยครับ
โพสต์ที่ 13
พี่น่าจะเข้าใจถูกต้องค่ะ อันนี้ดิฉันก็เดาเอานะคะ ว่าพี่น่าจะถูกต้อง เพราะก็ไม่คาดว่ามันจะเจ๊งได้เช่นกันค่ะจะมีวันเจ๊ง หรือว่ายกเลิกกันหรือเปล่าครับ หรือว่าตราบใดที่ตลาดหุ้นไม่เจ๊ง มันก็ไม่ยกเลิก
จะเจ๊งหรือยกเลิกได้ ก็คงต้องมีมาตรการรองรับ หรืออะไรที่รับรองสถานะของผู้ลงทุน ที่ไม่น่าจะทำให้ใครสูญเสียอย่างไม่ยุติธรรมค่ะ
ยกเว้นกรณีเข็มขัดสั้นคาดไม่ถึง เช่น โลกนี้ไม่มีอีกแล้วตลาดทุน ประเทศนี้เปลี่ยนแปลงไปยึดถือระบบอะไรอื่นที่เห็นว่าตลาดทุนนี่ต้องทำลายให้ย่อยยับไปอย่างไม่จำเป็นต้องไยดีผู้ลงทุน หรือ น้ำท่วมประเทศไทย แผ่นดินไหวแยกพังกันหมดทุกภาคส่วน ...อะไรเทือกนั้นค่ะ :lol: :lol: :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนสอบถาม เซียนtfex หน่อยครับ
โพสต์ที่ 14
อันนี้ไม่ทราบค่ะ ให้พี่เซียนลูกอิสานตอบ หรือพี่คนอื่นมาตอบก็รอหน่อยละกันค่ะเกณฑ์การเข้ามาอยู่ใน set50ได้นี่ ต้องเป็นยังไงบ้างครับ
(ขอแชร์มุมมองกะพี่ลูกอิสาน นินุงค่ะ)
ดิฉันคิดว่า อันนี้น่าจะมาจากกลยุทธไม่รอบคอบพอค่ะพอราคายางลงฟลอร์วันเดียว ผมหมดตูด!!!
เช่น พอร์ทมีมูลค่า 100 เอาเงินมาเล่นทีเฟคทีเดียวทั้งหมดเลย(หรือใช้เกิน 4-50% ขึ้นไป) เวลาเกิดผิดทางเข้า จะเอาที่ไหนมาแก้สถานการได้ นอกจากถูกบังคับปิดสถานะอย่างเดียว...อย่างงี้เรียกว่า ทุบหม้อข้าวออกรบ ทั้งๆที่อาจจะรบไม่ชนะ ก็เสี่ยงมากที่จะไปแพ้ย่อยยับค่ะ
อย่างกรณีที่ได้ยกตย.ไปแล้ว ของพี่ nipon_tonna ว่า
ถ้าเข็มขัดสั้น ลงต่ำกว่าจุดที่คาดการไปบ้าง ซักสองวัน แล้ว"หมดตูด" ไปแล้ว(ตามศัพท์พี่ลูกอิสาน ) แล้วอีกสองวันมันตีกลับขึ้นมาใหม่ ....ก็..เจ๊ง...อย่างไม่น่าให้อภัย .....ค่ะ...โบรคเขาไม่ฟังข้อแก้ตัวใดใดทั้งสิ้น จับปิดทันที
ตอนแรกก็สงสัยระคนสงสาร เลยถามแย้งไปว่า ทำไมกฏโหดจัง
คำตอบที่ได้คือ ... ตลาดจะปกป้องผู้เล่นฝ่ายใดฝ่ายนึงอย่างไม่ยุติธรรมไม่ได้ เพราะในขณะที่ฝ่ายนึงถือ long ย่อมมีอีกฝ่ายถือ short อยู่ ...ถ้าตลาดอ่อนข้อให้ฝ่าย long แล้วอีกสองวันมันลงไปต่อ แล้วฝ่าย short ขอปิดสถานะ ...ตลาดจะเอาตังค์ส่วนต่างจากใครมาจ่ายฝ่าย short ล่ะ....
....เออ....จริงแฮะ....กฏนี้ล่ะ แฟร์แล้ว
โดยทั่วไป ผู้ที่เล่นฟิวเจอร์ ตามกฏตลท. ให้วางเงิน 50000 แต่ส่วนใหญ่นักแทง เอ้ย นักเล่น :lol: เขาจะวางเงินไว้เลยเฉลี่ยไม่ควรน้อยกว่า 85000 (ดิฉันจะวางเลยแสนนึง) เป็นต้น
และส่วนใหญ่ นลท.ฟิวเจอร์ที่เป็นเด็กดีหน่อย ก็ไม่น่าจะลงไปลุยด้วยเงินที่เป็นสัดส่วนมากเกินไปเมื่อเทียบขนาดพอร์ท
(ความเห็นส่วนตัว ดิฉันคิดว่า มากสุดไม่ควรเกิน 1 ใน 3 ของพอร์ทค่ะ,แต่คนอื่นจะมีมุมมองแค่ไหน อันนี้ก็ไม่ทราบได้ค่ะ อย่างบางคนเขาก้เล่นกันแค่ 10%ของพอร์ทก็พอ)
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนสอบถาม เซียนtfex หน่อยครับ
โพสต์ที่ 15
กระทู้นี้สนุกดีครับ
ขอรบกวนถามบ้างสิครับ คุณสายลับ
ถ้าเราดูจาก www.tfex.co.th
เวลามีคน long หรือ short เราจะรู้ได้ไหมครับว่า
สมมุติว่า short เป็นการ short เพื่อปิด long หรือ short สัญญาใหม่ขึ้นมาเลย
ผมเคยถามคำถามนี้บางท่าน เขาบอกว่าให้ดู oi แต่ผมก็ดูไม่เป็นน่ะครับ
ว่าดูยังไง
เพราะส่วนใหญ่ก็เห็น oi เพิ่มขึ้นทุกวันๆ
ไม่รู้ผมถามงงป่าวนะครับ :lol:
มีเรื่องที่ผมก็ไม่รู้ดีเท่าไหร่มาแชร์เล็กน้อย 555
มีคนเล่าให้ผมฟังว่าการ long หรือ short สะสมของต่างชาติ
มากกว่า 3000 ล้านบาท ไม่ว่าทางใดทางหนึ่งทั้ง long และ short
จะมี momentum ให้เล่นได้
ส่วนใหญ่ก็เล่นซื้อตามน้ำตอนเขา long สะสม 30 วันสูงถึง 3000 ล้านมากกว่า
มีคนบอกผมว่าเหตุผลที่เป็นอย่างนี้ เพราะว่าจะมีโบรกฝรั้งหรือเรียกว่าอะไรก็ไม่รู้
สมมุติว่าเขาได้ order จากลูกค้าว่าจะ buy ptt 1 ล้านหุ้น
เขาก็จะเป็นซื้อ tfex ก่อนที่จะส่ง order ให้ลูกค้าเพราะการ buy ptt ถึง 1 ล้านหุ้น ทำให้ดัชนีขึ้นได้เลย
เหมือนมีกฏว่าคนรับ order มาจะซื้อหุ้นไม่ได้แต่ซื้อ tfex ได้อะไรประมาณนี้
(อาจจะอธิบายไม่ค่อย clear นะครับ เพราะไปแอบฟังเขาพูดกันมาอีกที)
พี่สายลับมีความเห็นอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพนี้ไหมครับ
ในการประยุกต์ไปเล่น tfex หรือเล่นหุ้นก็ได้
ขอรบกวนถามบ้างสิครับ คุณสายลับ
ถ้าเราดูจาก www.tfex.co.th
เวลามีคน long หรือ short เราจะรู้ได้ไหมครับว่า
สมมุติว่า short เป็นการ short เพื่อปิด long หรือ short สัญญาใหม่ขึ้นมาเลย
ผมเคยถามคำถามนี้บางท่าน เขาบอกว่าให้ดู oi แต่ผมก็ดูไม่เป็นน่ะครับ
ว่าดูยังไง
เพราะส่วนใหญ่ก็เห็น oi เพิ่มขึ้นทุกวันๆ
ไม่รู้ผมถามงงป่าวนะครับ :lol:
มีเรื่องที่ผมก็ไม่รู้ดีเท่าไหร่มาแชร์เล็กน้อย 555
มีคนเล่าให้ผมฟังว่าการ long หรือ short สะสมของต่างชาติ
มากกว่า 3000 ล้านบาท ไม่ว่าทางใดทางหนึ่งทั้ง long และ short
จะมี momentum ให้เล่นได้
ส่วนใหญ่ก็เล่นซื้อตามน้ำตอนเขา long สะสม 30 วันสูงถึง 3000 ล้านมากกว่า
มีคนบอกผมว่าเหตุผลที่เป็นอย่างนี้ เพราะว่าจะมีโบรกฝรั้งหรือเรียกว่าอะไรก็ไม่รู้
สมมุติว่าเขาได้ order จากลูกค้าว่าจะ buy ptt 1 ล้านหุ้น
เขาก็จะเป็นซื้อ tfex ก่อนที่จะส่ง order ให้ลูกค้าเพราะการ buy ptt ถึง 1 ล้านหุ้น ทำให้ดัชนีขึ้นได้เลย
เหมือนมีกฏว่าคนรับ order มาจะซื้อหุ้นไม่ได้แต่ซื้อ tfex ได้อะไรประมาณนี้
(อาจจะอธิบายไม่ค่อย clear นะครับ เพราะไปแอบฟังเขาพูดกันมาอีกที)
พี่สายลับมีความเห็นอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพนี้ไหมครับ
ในการประยุกต์ไปเล่น tfex หรือเล่นหุ้นก็ได้
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนสอบถาม เซียนtfex หน่อยครับ
โพสต์ที่ 16
:lol: ค่ะ ดิฉันก็ดูไม่เป็นค่ะ มีพวกแล้วพี่ฮงเขาบอกว่าให้ดู oi แต่ผมก็ดูไม่เป็นน่ะครับ
อืม ก็น่าจะเป็นอะไรคล้ายๆหุ้นนะค่ะ เงินต่างชาติมีผลต่อตลาดบ้านเราอยู่แล้วมีคนเล่าให้ผมฟังว่าการ long หรือ short สะสมของต่างชาติ
มากกว่า 3000 ล้านบาท ไม่ว่าทางใดทางหนึ่งทั้ง long และ short
จะมี momentum ให้เล่นได้
ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ ทฤษฏีมือที่สามไง เขาเป็นคนนอก เวลาเข้ามาแทรก ความกระเพื่อมย่อมเกิดขึ้นระหว่างการดำเนินชีวิตปกติของเราสอง ทุย-เม่า :lol:
เอวังด้วยฉะนี้ ไอ้เราสองมันก็แค่น้ำเก่าในแก้ว(พี่ทรุย จะมีน้ำใหม่มาเพิ่มบ้างก็ ltf สงครามกระหน่ำซื้อท้ายปี)
ส่วนเขานั้นมันเป็นน้ำที่เทเข้า-รินออก เวลาเขาจะทำอะไร มันจึงย่อมกระเทือนไปตามนั้น
เรื่องข้อสังเกตุที่ว่า ก็น่าสนใจค่ะ
ว่าจริงๆ คนซื้อหรือขายฟิวเจอร์ มีเหตุผลหลากหลายกันไป แต่แบ่งเป้นสองพวกหลักๆคือ
เทรดเพื่อป้องกันความเสี่ยง
หรือ เทรดเพื่อเพิ่มกำไร
พวกแรก จะเทรดตรงข้ามกะที่กระทำลงไปในพอร์ทหุ้น (ขายหุ้น ซื้อฟิวเจอร์)
พวกสอง จะเทรดในทิศทางเดียวกะที่ทำลงไปกะหุ้น (ขายหุ้น ขายฟิวเจอร์)
พวกแรกมีวินัยสูง พวกสองมั่นใจสูง
เรื่องกฏกติกาของแต่ละกองทุน อันนี้ดิฉันไม่ทราบรายละเอียด แต่ถ้าเอาตามที่เดา คือมันก็ขึ้นอยู่กะลักษณะของกองนั้นๆว่าตั้งมาเพื่อเล่นแนวไหน(มั้งคะ)
ทั้งนี้ ความเห็นส่วนตัวคือ ยึดถือกร๊าฟเข้าไว้ เรื่องอื่นที่เดาไป เอาไว้เป็นส่วนประกอบ แต่ข้อมูลหลักต้องยึดถือกร๊าฟเข้าไว้ มันว่าไงก็ว่าตามมัน
วินัยส่วนตัวเป็นเรื่องสำคัญ ...เราเป็นใคร ตอบตรงนี้ให้ได้ก่อน จะเทรดยาวหรือเทรดสั้น แค่ไหนถึงว่าผิดทาง แค่ไหนที่ว่าถูกทาง
วางแผนให้แน่นๆ วาดแผนผังการเดินหมากขึ้นมา ทางหนึ่ง สอง สาม สี่ วางไว้หลายๆหมาก ถ้าเกิดอย่างนี้จะทำอะไร เกิดอย่างนั้นจะแก้อย่างไร
"เข้าถูกหรือผิดไม่เป็นไร การตัดสินใจหลังจากนั้นสำคัญกว่า"
มีคนเขาประเมินสถิติเอาไว้(เอามาจากโบรคบอกนะคะ :lol: )
เขาว่า จังหวะที่เข้า (ตัดสินใจเปิด long หรือเปิด short) โอกาสผิดกะถูกพอๆกันเลย (ถ้าจำไม่ผิด ค่าเฉลี่ยของนักเล่น เปิดผิดมากกว่าถูกเล็กน้อยด้วยซ้ำ)
ดังนั้น สิ่งสำคัญคือการเตรียมแผนไว้ดีๆ ไม่ใช่พอเห็นประกายไฟแล้วรนราน ไม่รู้ประตูหนีไฟไปทางไหน สุดท้ายสำลักควัน ไฟครอกตาย อินเทรนอัคคีภัยปีใหม่หน่อย
บางคนเล่นสั้นมาก สามจุดหนีแล้ว
บางคนมองเทรนยาวกว่า ให้ถึงยี่สิบจุด
อย่างพี่ nipon_tonna มองอภิมหายาว ว่ากันด้วยรอบใหญ่เลย โอกาสผิดคงน้อยมาก แต่หน้าตักจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่สุด ผิดทาง-เกทับ ผิดอีก เกไปอีก ...แบบนี้ต้องคำนวนหน้าตักให้แม่นๆชัวร์ๆ
นี่ล่ะค่ะ ดิฉันถึงว่า การเล่นฟิวเจอร์ กลยุทธนั้นสำคัญสุด กลยุทธข้อแรกที่ต้องสังวรให้มาก...."เราคือใคร"
อย่าผิดออกจากทางของเรา ถ้าจะปรับเปลี่ยนความเป็นตัวเรา ต้องออกมาก่อนแล้ว วางแผนใหม่ค่อยเข้าไป
ตลาดนี้ไม่มีคำว่า ตกรถ หรือ ขายหมู มันเล่นได้สองทาง ไม่ขึ้นก็ลง ถ้างง ไม่ต้องเล่น ออกไปยืนดูสงบอารมณ์ก่อนได้ พร้อมเมื่อไหร่ค่อยเข้าไปใหม่ อย่าเมาหมัดเข้าไปอ่าค่ะ
ขายไม่ทัน ไปรอซื้อ ซือ้ไม่ทัน ไปรอขาย อย่างนี้ก้ได้ จะได้ไม่เมาหมัด
ไม่เหมือนหุ้น พอรู้สึกตกรถจะรีบตะกาย รนรานไปหมด รนจนบางทีกล้าๆกลัวๆ จนติดดอยจนได้น่ะค่ะ
แล้วอีกอย่าง ลบความเป็นนักลงทุนหุ้นออกไปก่อน อย่าสับสน
เข้า-ออก ณ ดัชนีเท่าไหร่ก็ช่าง ไม่เหมือนหุ้น ซื้อ 3 บาทกะ 6 บาทต่างกันมาก แต่...ดัชนีนั้นจะเป็นตัวเลขเท่าไหร่ ช่างมัน มันไม่มีค่าอะไร ค่าของมันอยู่ที่ว่า ลู่วิ่ง ณ จุดที่เราเข้าไปจนวิ่ง(ขึ้นหรือลง)ไปถึงตามเป้าหมาย ความยาวเป็นกี่จุด จุดที่ว่านั้นคือ จุดละพันเท่าๆกัน ...ฉนั้น หาลู่วิ่งให้เจอก่อน
เท่าที่พอจะเข้าใจก็มีเท่านี้ :oops: รอท่านอื่นเสริมค่ะ
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนสอบถาม เซียนtfex หน่อยครับ
โพสต์ที่ 17
007-s เขียน: :lol: ค่ะ ดิฉันก็ดูไม่เป็นค่ะ มีพวกแล้วพี่ฮง
ก่อนอื่นขอบคุณสำหรับคำตอบนะครับ
ผมจะลองไปหาคำตอบเรื่อง oi จากคนอื่นดูนะครับ ถ้าได้จะมาเล่าให้ฟังนะครับ
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 36
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนสอบถาม เซียนtfex หน่อยครับ
โพสต์ที่ 18
เรื่องส่วนต่างระหว่าง ซีรี่ ผมเดาว่า น่าจะเป็นอย่างที่คุณ007-s คิดนั่นล่ะครับ แต่ทั้งปี มันก็น่าจะมีช่วงที่ตลาดดูแล้วแนวโน้มน่าจะลงบ้าง ผมก็หาจังหวะนั้น เปลี่ยนซีรี่ เพื่อกินส่วนต่าง
ส่วนเงินลงทุนนั้น ผมลองคำนวณแล้ว ตอนนี้set50 ประมาณ 300จุด ผมเดาว่าไม่น่าจะหลุด 100จุด ก็เท่ากับต้องใช้เงินขั้นต่ำ 250,000 (200จุดx1,000บาท)+(50,000 เงินประกัน) บาท ต่อสัญญา ส่วนถ้าเกิดหลุด 100 ก็คงต้องไปยืมพี่น้องมาก่อนละคร้าบ เหอเหอ
ขอบคุณทุกคนที่มาช่วยกันตอบนะครับ
ส่วนเงินลงทุนนั้น ผมลองคำนวณแล้ว ตอนนี้set50 ประมาณ 300จุด ผมเดาว่าไม่น่าจะหลุด 100จุด ก็เท่ากับต้องใช้เงินขั้นต่ำ 250,000 (200จุดx1,000บาท)+(50,000 เงินประกัน) บาท ต่อสัญญา ส่วนถ้าเกิดหลุด 100 ก็คงต้องไปยืมพี่น้องมาก่อนละคร้าบ เหอเหอ
ขอบคุณทุกคนที่มาช่วยกันตอบนะครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 36
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนสอบถาม เซียนtfex หน่อยครับ
โพสต์ที่ 19
ผมกะรอที่ โลเดิม ประมาณ 260จุด แล้วค่อยพิจารณาlongครับ ซักช่วงเดือน3 เดือน6 จะได้เห็นไหมอ่ะครับ หรือว่าจะไม่ลงมาอีกแล้ว
ตัวผมมองว่า ช่วงเดือน6 ตอนที่ตราสารที่ลงทุนในอเมริกา หรือไรนี่ล่ะ จะครบกำหนดพอดี คิดว่าอาจจะมีการเทขายออกมาก่อนข่าวนั้นออกหรือเปล่าครับ
ตัวผมมองว่า ช่วงเดือน6 ตอนที่ตราสารที่ลงทุนในอเมริกา หรือไรนี่ล่ะ จะครบกำหนดพอดี คิดว่าอาจจะมีการเทขายออกมาก่อนข่าวนั้นออกหรือเปล่าครับ
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนสอบถาม เซียนtfex หน่อยครับ
โพสต์ที่ 20
007-s เขียน: วางแผนให้แน่นๆ วาดแผนผังการเดินหมากขึ้นมา ทางหนึ่ง สอง สาม สี่ วางไว้หลายๆหมาก ถ้าเกิดอย่างนี้จะทำอะไร เกิดอย่างนั้นจะแก้อย่างไร
"เข้าถูกหรือผิดไม่เป็นไร การตัดสินใจหลังจากนั้นสำคัญกว่า"
อืม เห็นด้วยครับ หลังๆผมก็เพิ่งเข้าใจว่าทำไมบางคนถึงบอกว่าใช้แนวคิด
การทำสงคราม การเดินหมาก มาใช้กับการเล่นหุ้น
จริงๆแล้ว หลังๆผมเอง ก็มองกว่าการเล่นหุ้น หรือ เล่น future
(ไม่ใช่คำว่าลงทุนนะครับ อิอิ)
อยู่ที่ใครบริหารเงินหน้าตักได้เก่งกว่ากัน
ใครมีระเบียบมากกว่ากัน
ผมเห็นด้วยว่าการเล่นหุ้นหรือ future นั้น
พร้อมที่จะมีอะไร พลิกล็อคได้ตลอดเวลา
เราในฐานะผู้เล่นไม่ได้มีหน้าที่เก็งว่ามันจะเป็นยังไง
แต่ต้องหาสัญญาณซื้อขาย หรือ เล่นตาม momentum มากกว่า
พูดง่ายๆก็คือ follow the trend นั้นเอง
ว่าแต่เจ๊ สายลับน่าจะเป็นคุยกันที่กระทู้ของผมที่มวยวัดนะครับ
รู้สึก concept การลงทุนมาจากสำนักเดียวกันนะ
(ง่อไบ๋)
55555555
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนสอบถาม เซียนtfex หน่อยครับ
โพสต์ที่ 21
โห ทู้พี่ฮงยาวเหยียดเลย เดี๋ยวหาเวลาว่างๆอ่านก่อนว่าเรื่องมันเป็นไงมาไง :lol:
..........
อ้อ พี่ nipon_tonna คะ
มันมีอีกอย่างนึงนะ คือ tdex อันนี้มันเป็นคล้ายๆหน่วยลงทุน หรือจริงๆก็เทรดแบบหุ้นนี่ล่ะ (เวลาจะซื้อขายก็คีย์ในหน้าจอเทรดหุ้นปกติเลยค่ะ)
ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะมีปันผลด้วยนะ
คือประมาณ มีคนบริหารให้เสร็จ เขาก็จับพวกในเซทห้าสิบน่ะมารวมไว้ในสัดส่วนของตัว tdex เวลาดูตัวอ้างอิงมันก็จะอิงกะ set50 เลยค่ะ ปันผลรู้สึกเขาก็เอามาจากหุ้นที่ tdex ถืออยู่ ก็จ่ายออกมาเป็นปันผลให้หรือไรเนี่ยค่ะ
สงสัยพี่อาจจะรู้อยู่แล้วเป่าก็ไม่แน่ใจ
มันจะอิงกันเลย อย่างถ้าเซทห้าสิบอยู่ซัก 350 ตัว tdex ก็จะเป็น 3.5 บาท ไรเงี้ยค่ะ
ถามว่ามันจะอิงกันได้ไง ก็ประมาณนี้ค่ะ(ถ้าดิฉันจำไม่ผิดนะ :lol: ) คือ ถ้ามีใครซื้อ tdex เขาก็คือได้เงินมาใช่มะ เขาก็เอามาซื้อหุ้นในเซทห้าสิบในกระดาน กลับกัน พอมีคนขาย tdex เขาก็ขายหุ้นเซทห้าสิบที่ tdex ถืออยู่น่ะ ออกมาเข้าสู่ในกระดาน
พี่ nipon_tonna อาจจะรู้อยู่แล้วก็ได้ แต่พี่อยากจะเล่นที่ตัวฟิวเจอร์มากกว่า อันนี้ก็แล้วแต่ค่ะ
...ตัว tdex มันเทรดแบบเดียวกะเทรดหุ้น คือวางเงินเต็ม แต่จะไม่มีบังคับขายไรเงี้ย แล้วแบบมีปันผลให้กินไประหว่างรอ (หรือว่าง่ายๆ ก็แบบ ติดน่ะ :lol: )
...ส่วน futures ไม่ต้องวางเงินเต็ม อ้อ แล้วคือที่ต่างคือ มันเล่นได้ทั้งขึ้นและลง จริงๆแม้ไม่วางเงินเต็ม แต่ก็ควรมีหน้าตักสำรองไว้ตามที่วางแผน เพียงแต่เงินมันจะพริ้วได้ ยักเข้ายักออกได้ตามความสามารถในการบริหาร
ที่นำมาเสนอไว้ เพราะเห็นว่า บางคนก็เล่นอย่างที่พี่ว่าคือ กลัวเลือกหุ้นไม่ถูกตัว จิ้มผิดคิดจนตัวตาย ไรเงี้ยอ่าค่ะ แล้วก็ไม่อยากปวดหัวเติมเงินไรวุ่นวายเสียวไส้ ก็น่าจะพินามองๆ tdex มั่ง
ส่วนพี่อยากหวังว่าไม่แน่อาจได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าได้ อันนี้ก็ต้องลองกะฟิวเจอร์ดูเองค่ะ แต่อย่างที่ว่า เล่นฟิวเจอร์มันต้องวางแผนมากกว่าซื้อ tdex หลายขุม
..........
อ้อ พี่ nipon_tonna คะ
มันมีอีกอย่างนึงนะ คือ tdex อันนี้มันเป็นคล้ายๆหน่วยลงทุน หรือจริงๆก็เทรดแบบหุ้นนี่ล่ะ (เวลาจะซื้อขายก็คีย์ในหน้าจอเทรดหุ้นปกติเลยค่ะ)
ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะมีปันผลด้วยนะ
คือประมาณ มีคนบริหารให้เสร็จ เขาก็จับพวกในเซทห้าสิบน่ะมารวมไว้ในสัดส่วนของตัว tdex เวลาดูตัวอ้างอิงมันก็จะอิงกะ set50 เลยค่ะ ปันผลรู้สึกเขาก็เอามาจากหุ้นที่ tdex ถืออยู่ ก็จ่ายออกมาเป็นปันผลให้หรือไรเนี่ยค่ะ
สงสัยพี่อาจจะรู้อยู่แล้วเป่าก็ไม่แน่ใจ
มันจะอิงกันเลย อย่างถ้าเซทห้าสิบอยู่ซัก 350 ตัว tdex ก็จะเป็น 3.5 บาท ไรเงี้ยค่ะ
ถามว่ามันจะอิงกันได้ไง ก็ประมาณนี้ค่ะ(ถ้าดิฉันจำไม่ผิดนะ :lol: ) คือ ถ้ามีใครซื้อ tdex เขาก็คือได้เงินมาใช่มะ เขาก็เอามาซื้อหุ้นในเซทห้าสิบในกระดาน กลับกัน พอมีคนขาย tdex เขาก็ขายหุ้นเซทห้าสิบที่ tdex ถืออยู่น่ะ ออกมาเข้าสู่ในกระดาน
พี่ nipon_tonna อาจจะรู้อยู่แล้วก็ได้ แต่พี่อยากจะเล่นที่ตัวฟิวเจอร์มากกว่า อันนี้ก็แล้วแต่ค่ะ
...ตัว tdex มันเทรดแบบเดียวกะเทรดหุ้น คือวางเงินเต็ม แต่จะไม่มีบังคับขายไรเงี้ย แล้วแบบมีปันผลให้กินไประหว่างรอ (หรือว่าง่ายๆ ก็แบบ ติดน่ะ :lol: )
...ส่วน futures ไม่ต้องวางเงินเต็ม อ้อ แล้วคือที่ต่างคือ มันเล่นได้ทั้งขึ้นและลง จริงๆแม้ไม่วางเงินเต็ม แต่ก็ควรมีหน้าตักสำรองไว้ตามที่วางแผน เพียงแต่เงินมันจะพริ้วได้ ยักเข้ายักออกได้ตามความสามารถในการบริหาร
ที่นำมาเสนอไว้ เพราะเห็นว่า บางคนก็เล่นอย่างที่พี่ว่าคือ กลัวเลือกหุ้นไม่ถูกตัว จิ้มผิดคิดจนตัวตาย ไรเงี้ยอ่าค่ะ แล้วก็ไม่อยากปวดหัวเติมเงินไรวุ่นวายเสียวไส้ ก็น่าจะพินามองๆ tdex มั่ง
ส่วนพี่อยากหวังว่าไม่แน่อาจได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าได้ อันนี้ก็ต้องลองกะฟิวเจอร์ดูเองค่ะ แต่อย่างที่ว่า เล่นฟิวเจอร์มันต้องวางแผนมากกว่าซื้อ tdex หลายขุม