เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
LOSO
Verified User
โพสต์: 2512
ผู้ติดตาม: 0

เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

โพสต์ที่ 1

โพสต์

"อจ.มศว"แฉข้อสอบปรนัยทำเด็กไทยอ่อน"คณิต-วิทย์" แนะสสวท.พัฒนาตำรา-เปลี่ยนวิธีคิด

อาจารย์ มศว ออกโรงชำแหละ เหตุผลสัมฤทธิ์"คณิต-วิทย์"เด็กไทยตกต่ำ มีปัจจัยทั้งใช้ข้อสอบปรนัยวัดผล ไม่ให้เด็กตกซ้ำชั้น ชี้สสวท.ตั้งเป้า 10 ปีพัฒนาได้ไม่ง่าย ผอ.สทศ.ชี้แบบเรียนคณิตศาสตร์อ่านเข้าใจยาก ด้านเลขาฯ กพฐ. แจงต้องใช้เวลา

จากกรณีที่สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ออกมาเปิดเผยผลการวิจัยโครงการศึกษาแนวโน้มการจัดการศึกษาคณิตศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ ร่วมกับนานาชาติ ปี 2550 หรือ TIMSS - 2007 ซึ่งมี 59 ประเทศ และ 8 รัฐเข้าร่วม ซึ่งปรากฏว่าพบเด็กไทยอ่อนวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ โดยผลคะแนนคณิตศาสตร์อยู่อันดับที่ 29 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยนานาชาติที่กำหนดไว้ และวิทยาศาสตร์อยู่อันดับที่ 21 และเมื่อเปรียบเทียบกับผลคะแนนเมื่อปี 2542 ทั้ง 2 วิชาลดลง คณิตศาสตร์จาก 467 คะแนน เหลือ 441 คะแนน และวิทยาศาสตร์ จาก 482 คะแนน เหลือ 471 คะแนน นั้น


เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า การแก้ปัญหาเด็กไทยอ่อนวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ เป็นปัญหาที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ดำเนินการแก้ไขมาโดยตลอด แต่จะให้เห็นผลทันทีคงเป็นไปไม่ได้ จะต้องใช้เวลา โดยการแก้ไขปัญหานั้น สพฐ.ได้ร่วมมือกับ สสวท.จัดโรงเรียนนำร่องกว่า 1,750 แห่ง เพื่อเป็นต้นแบบในการพัฒนามาตรฐานการเรียนวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และถ้าประสบความสำเร็จจะขยายไปโรงเรียนต่างๆ นอกจากนี้ ยังได้ศึกษารูปแบบการสอนของเอกชนที่เปิดสอนวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับโรงเรียนต่างๆ ด้วย ส่วนผลวิจัยที่พบว่าโรงเรียนในสังกัด สพฐ.มีคะแนนนต่ำสุดนั้น ตนมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะโรงเรียนในสังกัด สพฐ.มีจำนวนมาก


คุณหญิงกษมา กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายเสนอให้ปรับเปลี่ยนมาตรฐานการเรียนวิชาคณิตศาสตร์และ วิทยาศาสตร์นั้น ตนเห็นว่าเป็นข้อเสนอที่ทาง สพฐ.ทำอยู่แล้ว อาทิ 1.พัฒนาคุณภาพครู และแก้ปัญหาการบรรจุครูสอนให้ตรงกับวุฒิการศึกษา 2.กำหนดมาตรการดูแลเด็กที่เรียนอ่อนและติดตามผลอย่างใกล้ชิด 3.พัฒนาสื่อการสอนให้ทันสมัยและเหมาะสม เนื่องจากพบว่าการสอนส่วนใหญ่ยังขาดแคลนสื่อการสอนที่ทันสมัย โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ และ 4.การให้ผู้สอนสร้างบรรยากาศการเรียนให้สนุกและน่าสนใจมากขึ้น เป็นต้น  


นายสมเกียรติ ชอบผล รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้เด็กไทยอ่อนวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาตร์ มาจากหลายปัจจัย เช่น พื้นฐานของผู้เรียนเอง ปัญหาขาดแคลนครูผู้สอนวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และในปี 2552 สพฐ.ได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีการเข้มงวดเรื่องมาตรฐานการสอนมากขึ้น โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ส่วนที่ตั้งเป้าไว้อีก 10 ปีข้างหน้า ผลการประเมินวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ของเด็กไทยจะสูงกว่านานาชาตินั้น ตนมองว่าเป็นแค่การตั้งเป้าหมาย แต่ต้องเร่งพัฒนาภายในไม่กี่ปีนี้ คงไม่รอถึง 10 ปีแน่นอน  


นางอุทุมพร จามรมาน ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (ผอ.สทศ.) กล่าวว่า เห็นด้วยที่จะต้องพลิกโฉมการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ใหม่ โดยเฉพาะ สสวท.จะต้องพัฒนาแบบเรียนให้ทันสมัย อ่านเข้าใจ โดยเฉพาะแบบเรียนคณิตศาสตร์ต้องเขียนให้อ่านเข้าใจ เพราะปัจจุบันเป็นนามธรรมมากเกินไป รวมทั้งต้องอบรมและพัฒนาครูด้วยวิธีการใหม่ เช่น อบรมผ่านระบบออนไลน์ แทนการเรียกมาอบรมได้ครั้งละไม่กี่ร้อยคน ซึ่งจะยิ่งทำให้เห็นผลการพัฒนาล่าช้าไปอีก ที่สำคัญจะต้องแก้ปัญหาขาดแคลนครู ซึ่งจะต้องแก้ปัญหาในระดับโรงเรียน ไม่ใช่แก้ปัญหาในระดับภาคหรือภาพรวมเท่านั้น ส่วนที่ทาง สสวท.ระบุว่า อีก 10 ปีข้างหน้าเด็กไทยจะมีคะแนนประเมินสูงกว่าเด็กนานาชาตินั้น ตนมองว่าเป็นไปได้ยาก มีทางเดียว สสวท.จะต้องพัฒนาการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์แบบก้าวกระโดด ไม่ใช่ค่อยๆ ทำเหมือนในอดีต ซึ่งหากทุกคนตั้งใจทำน่าจะประสบผลสำเร็จได้


นายณรงค์ ปั้นนิ่ม อาจารย์สาขาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) และประธานคณะกรรมการผู้ดูแลวิชาคณิตศาสตร์ มูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษา ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (สอวน.) กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวได้หมักหมมอยู่ในระบบการเรียนการสอนในสังคมไทยมานานมากแล้ว เพราะครูไทยใช้ระบบข้อสอบปรนัยมาวัดผลเด็ก และการฝึกเด็กก็ยังใช้ข้อสอบปรนัยอีก ซึ่งเป็นข้อสอบที่ไม่ได้พัฒนาระบบคิด และการใช้เหตุผล ข้อสอบปรนัยเป็นข้อสอบที่ทำลายเด็กไทยอย่างมาก คนที่มาเรียนครูก็ถูกมอมเมาด้วยข้อสอบปรนัย มาเป็นครูก็ใช้ข้อสอบปรนัย เด็กบางคนทำข้อสอบโดยไม่ต้องอ่านคำถาม แต่ใช้วิธีสุ่มเดาก็สามารถสอบผ่านได้


"สังคมการศึกษาไทยเราบริโภคข้อสอบปรนัยมาตั้งแต่ปี 2516 ถึงตอนนี้เป็นเวลาถึง 35 ปี วงจรข้อสอบปรนัยได้ทำลายเด็กไทย โดยที่ครูไทยยังไม่รู้ตัว อีกทั้งครูทุกวันนี้ก็มุ่งสอนเพื่อหวังให้เด็กสอบเรียนต่อได้ มีการสอนวิธีลัด สอนเทคนิค โดยไม่ได้สอนเพื่อให้เด็กเกิดความรู้ เด็กทุกวันนี้จึงชอบไปกวดวิชา แม้แต่สอบเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยแล้วบางคนก็ยังต้องไปกวดวิชา เพราะมาเจอข้อสอบอัตนัยหรือข้อสอบที่ให้คิดวิเคราะห์แล้วเขียนออกมา เด็กมีปัญหาทำไม่ได้ เข้าสู่การทำงานก็ไร้คุณภาพ ในขณะที่ประเทศที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ สูง ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ มาเลเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง มาเลเซีย จะไม่ใช้ข้อสอบปรนัยกับเด็กของเขา" นายณรงค์กล่าว


นายณรงค์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ระบบการเรียนที่ไม่ให้เด็กซ้ำชั้น ก็ทำลายเด็ก เพราะจะไม่มีความตั้งใจในการเรียน บางคนได้เกรดเฉลี่ย 0 มาซ่อมก็สามารถผ่านไปได้ เท่าที่ทราบในเมืองไทยมีโรงเรียนจิตรลดาเพียงโรงเรียนเดียวที่ยังมีการซ้ำ ชั้น หากผลการเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ แต่โรงเรียนอื่นๆ ไม่มีการซ้ำชั้น แม้ผลการเรียนของเด็กจะไม่ผ่านก็ตาม ซึ่งแตกต่างจากการเรียนสมัยก่อนมาก ทั้งนี้ หลายคนอาจจะบอกว่าเด็กไทยในปัจจุบันนี้ก็ตั้งใจและเป็นเด็กเก่ง ไปแข่งขันระดับนานาชาติไม่ว่าจะเป็นคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ก็คว้ารางวัล ต่างๆ มามากมาย ซึ่งก็น่าดีใจ น่ายินดี แต่เด็กกลุ่มนี้เป็นชนกลุ่มน้อยเท่านั้น แต่ชนกลุ่มมากยังมีปัญหาอยู่ในระดับที่แย่มาก น่าเป็นห่วง


"ที่ สสวท.ตั้งเป้าว่ามีแผนพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในวิชาคณิตศาสตร์และวิทยา ศาสตร์ให้เด็กไทยมีคะแนนสูงขึ้นในอีก 10 ปีข้างหน้า คิดว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย สสวท.เองต้องปรับเปลี่ยนตัวเองก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกระบวนการคิด การพัฒนาตำราต่างๆ เพราะเท่าที่มีโอกาสพัฒนาครูคณิตศาสตร์มาเป็นปีที่ 9 เพื่อให้ครูมีความรู้ ทักษะ และวิธีการสอนคณิตศาสตร์ ก็ยังพบว่าครูยังติดกับดักการสอนแบบปรนัย ซึ่งไม่อาจจะวัดผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาได้ เมื่อเด็กต้องไปวัดผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาที่วัดกันด้วยความรู้ ความเข้าใจ เหตุผล เด็กไทยจึงทำไม่ได้ ผลสัมฤทธิ์จึงอยู่ในเกณฑ์ต่ำ" นายณรงค์กล่าว

http://www.matichon.co.th/news_detail.p ... 0&catid=04

เศร้าใจ อนาคตของชาติ  :(  :(  :(  :(
ความพยายามไม่มี    ปัญญาไม่เกิด
noooon010
Verified User
โพสต์: 2712
ผู้ติดตาม: 0

เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

โพสต์ที่ 2

โพสต์

แต่เราสามารถปรับความเศร้า เป็น แนวทางในการพัฒนาได้นะครับ
อย่างน้อยต้องเริ่มที่ตัวเราครับ

ดังนั้นผมจะเน้นพฒนาการสอนและปรับปรุงตัวเองให้ให้ดีขึ้นครับ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ

มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม


นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
ภาพประจำตัวสมาชิก
LOSO
Verified User
โพสต์: 2512
ผู้ติดตาม: 0

เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ครับ  ถึงแม้นลูกสาวผมจะเปนชนกลุ่มน้อยที่เป็นตัวแทนประเทศประเทศไทยไปแข่งขันคณิตศาสตร์นานาชาติและได้เหรียญเงินกลับมา ............

แต่ก้อเศร้าใจครับ  ที่เห็นส่วนมากในประเทศเป็นแบบนี้ ...............

จะไปหวังพึ่งแต่รร.หรือครูคงไม่พอครับ ........

ครอบครัว ผู้ปกครองต้องสนใจ  สนับสนุน  ช่วยเหลือเด็กด้วยครับ ................
ความพยายามไม่มี    ปัญญาไม่เกิด
ปุย
Verified User
โพสต์: 2032
ผู้ติดตาม: 0

เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ยินดี กับ ลูกสาว พี่loso ด้วยครับ

ผมมีเพื่อน + รุ่นน้อง ที่เป็น math olympic เหรียญทอง อยู่ 2 คน

ยอมรับ ว่าพวกนี้ bright จริงๆ ขนาดผมว่าแน่ๆ ยังต้องยอมหลีกทางให้

เท่าที่อ่านบทความ ผมว่าก็ดีนะครับ เหมือนเค้าเริ่มรู้ตัวแล้ว แม้จะช้าไป
แต่ก็ยังดีกว่าไม่รู้ตัว โดยส่วนตัว ผมว่า พวกกวดวิชา นี่ส่งผลลบต่อระบบการศึกษาของไทย มากกว่าผลดีนะครับ
เหมือนสอนให้ทำข้อสอบได้ ผ่านได้คะแนนดี แต่ไม่เข้าใจ
คงต้องโทษระบบวัดผลด้วยแหละ

ได้ข่าว ว่าที่นายก พี่มาร์ค จะควบ ก.ศึกษาด้วย
ก็อยากฝากความหวังไว้เหมือนกัน ว่าแกคงจะเห็นอะไร
ที่จะทำให้ ประเทศไทย พัฒนาแบบยั่งยืนจริงๆ
Zionism
Verified User
โพสต์: 1260
ผู้ติดตาม: 0

เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ถ้าจะพัฒนากันการศึกษาจริงๆก็คงต้องอาศัยเวลาเป็นหลายสิบปี
มันไม่เห็นผลทันที ต้องสร้างทีล่ะรุ่นๆ
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0

เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ระบบการเรียนการสอนของไทยเป็นระบบที่แย่มากๆ

หลายฝ่ายไม่สนับสนุนการเรียนพิเศษนอกโรงเรียน

แต่

เวลามีการสอบแข่งขันคณิตศาสตร์ไม่ว่าจะเป็น สสวท. หรือ สมาคมคณิตศาสตร์
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
ภาพประจำตัวสมาชิก
LOSO
Verified User
โพสต์: 2512
ผู้ติดตาม: 0

เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ลองเอาหนังสือเลข+วิทย์ของเด็กเดี๋ยวนี้มาดู  ผมยังตกใจเลย .........

ว่าเด็กเดี๋ยวนี้เรียนมากกว่าสมัยผมเรียนประถม มัธยมเยอะเลย ..............

หลายๆเรื่องผมไม่เคยเรียน ไม่เคยรู้จัก ...............

แต่ถึงขนาดนั้น ..........

ผมมีโอกาสได้พบกับอาจารย์ที่คุมทีมนักเีรียนไทยไปแข่งต่างประเทศ.........

แกบอกว่าเด็กต่างประเทศเรียนมากกว่าเราและเร็วกว่าเราด้วย..........

แล้วลองหยิบหนังสือเลขป.3ของจีนให้ดู................

ผมตกใจแทบช๊อค ...............

เด็กป.3จีน  เขาเรียนการแก้สมการแล้วนะครับ .........

ของไทยต้องป.5หรือป.6 ครับ .........

เด๋วว่างๆมาแชร์กันเรื่องระบบการศึกษาในไทยต่อนะครับ .............
ความพยายามไม่มี    ปัญญาไม่เกิด
ปุย
Verified User
โพสต์: 2032
ผู้ติดตาม: 0

Re: เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

โพสต์ที่ 8

โพสต์

LOSO เขียน: จากกรณีที่สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ออกมาเปิดเผยผลการวิจัยโครงการศึกษาแนวโน้มการจัดการศึกษาคณิตศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ ร่วมกับนานาชาติ ปี 2550 หรือ TIMSS - 2007 ซึ่งมี 59 ประเทศ และ 8 รัฐเข้าร่วม ซึ่งปรากฏว่าพบเด็กไทยอ่อนวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ โดยผลคะแนนคณิตศาสตร์อยู่อันดับที่ 29 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยนานาชาติที่กำหนดไว้ และวิทยาศาสตร์อยู่อันดับที่ 21 และเมื่อเปรียบเทียบกับผลคะแนนเมื่อปี 2542 ทั้ง 2 วิชาลดลง คณิตศาสตร์จาก 467 คะแนน เหลือ 441 คะแนน และวิทยาศาสตร์ จาก 482 คะแนน เหลือ 471 คะแนน นั้น
อ่านข่าววันนี้ที่นี่ ก็มีเด็กจากดูไบ ไปร่วม test เช่นกัน
ข่าวเค้าว่า ผลแย่มาก จากค่าเฉลี่ย ทั่วโลก
แต่คะแนนที่ได้ คือ math 461 และ science 489 ดีกว่าของไทยอีก  :shock:

เด็กจาก สิงค์โปร์ เกาหลี ญี่ปุ่น ไทเป ฮ่องกง จะอยู่แถว top

ลองหา report จาก web ก็ไปเจอที่นี่ http://nces.ed.gov/timss/
ภาพประจำตัวสมาชิก
LOSO
Verified User
โพสต์: 2512
ผู้ติดตาม: 0

เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

โพสต์ที่ 9

โพสต์

chatchai เขียน:ระบบการเรียนการสอนของไทยเป็นระบบที่แย่มากๆ

หลายฝ่ายไม่สนับสนุนการเรียนพิเศษนอกโรงเรียน

แต่

เวลามีการสอบแข่งขันคณิตศาสตร์ไม่ว่าจะเป็น สสวท. หรือ สมาคมคณิตศาสตร์  ข้อสอบส่วนใหญ่ก็จะเป็นเนื้อหาเกินระดับที่เรียน  เช่น  ระดับ ป.3  ก็จะมีเนื้อหาระดับชั้นประถมปลาย   ถ้าแข่งระดับ ป.6 ก็จะมีเนื้อหาระดับชั้นมัธยมต้น

รวมทั้งการสอบคัดเลือกเข้าเรียนระดับมัธยมของโรงเรียนดังๆ  เนื้อหาที่สอบก็จะเกินระดับเช่นกัน

ทำให้ผู้ปกครองต้องดิ้นรนพาลูกๆไปเรียนพิเศษ  เพื่อที่จะได้เรียนเนื้อหาเกินระดับ  จะได้สอบได้คะแนนดีๆ

แข่งกันเร่งเรียน  จนชีวิตของเด็กมีแต่วิชาการ
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ  พี่ฉัตรชัย ...............

ออกข้อสอบให้อยู่ในหลักสูตร เนื้อหา  ที่เด็กเรียน ................

แต่ให้พลิกแพลง ซับช้อนก็คัดเด็ก ประเมินเด็กได้ครับ .............

แต่ทําไมครู อาจารย์ที่ออกข้อสอบถึงไม่ทําครับ .............



แล้วผมก้ออยากเห็นเนื้อหาในหลักสูตรที่เทียบเท่ากับนานาชาติ ............

ผมไม่อยากเห็นข้ออ้างว่าเดี๋ยวเด็กไทยเรียนไม่ไหว ................

ผมห่วงครูผู้สอนมากกว่าครับ ว่า ..............
ความพยายามไม่มี    ปัญญาไม่เกิด
ภาพประจำตัวสมาชิก
ก้อนหิน
Verified User
โพสต์: 2344
ผู้ติดตาม: 0

เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ผมเคยสอนพิเศษ เด็กมาครับ รู้สึกว่า

ระดับ ประถม กับ ม ต้น เรามักจะเรียน เรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ หลายรอบ แต่พอ ม ปลาย กับเอาเนื้อหามากมาย มาอัดๆๆๆๆๆ


ส่วนเรื่องข้อสอบแข่งขัน นี่ก็อย่างพี่ฉัตรว่าจริงๆครับ เกินหลักสูตรตลอด

เห็นพวกค่าย โอลิมปิก ก็จะสอนเนื้อหา มหาลัยไปเลย
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

โพสต์ที่ 11

โพสต์

คนสอนมากกว่าคนไม่ชัดเจน
เด็กก็ไม่ตั้งใจเท่าไร
:)
Zionism
Verified User
โพสต์: 1260
ผู้ติดตาม: 0

เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

โพสต์ที่ 12

โพสต์

........ทฤษฎีสมคบคิด   :twisted:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Luty97
Verified User
โพสต์: 1520
ผู้ติดตาม: 0

เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ผมว่าส่วนหนึ่งที่ต้องรีบปรับปรุงเลยคือ การปรับมาตรฐานครูไทยครับ

เราคงต้องยอมรับว่าเวลาจะเข้ามหาวิทยาลัย ทางเลือกที่คนจะมุ่งเป็นครูอาจารย์จะเป็นทางเลือกท้ายๆ เนื่องจากผลตอบแทนของครูต่ำกว่าหมอหรืออาชีพอื่นๆอีกมาก

เหมือนว่าคนที่จะเป็นครูคือคนที่พลาดจากหมอ วิศวะ แล้วอย่างนี้เมื่อคนสอนยังไม่ใช่คนที่เก่งๆ เค้าจะสร้างคนเก่งได้อย่างไร (ไม่ใช่ทุกคนนะครับ ผมพูดถึงส่วนใหญ่ เพราะครูบางคนไม่เก่ง แต่สอนเก่งจริงๆก็มีเยอะ)

ผมแค่อยากสะท้อนให้เห็นว่าถ้าคนที่ได้ที่ 1 2 3 ประเทศไทยมุ่งที่จะเป็นอาจารย์ ระดับการสอนย่อมน่าจะดีขึ้นได้ในระยะยาวครับ
หลักของความสมดุล
กล้วยทอด
Verified User
โพสต์: 1468
ผู้ติดตาม: 0

เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

โพสต์ที่ 14

โพสต์

[quote="chatchai"]ระบบการเรียนการสอนของไทยเป็นระบบที่แย่มากๆ

หลายฝ่ายไม่สนับสนุนการเรียนพิเศษนอกโรงเรียน

แต่

เวลามีการสอบแข่งขันคณิตศาสตร์ไม่ว่าจะเป็น สสวท. หรือ สมาคมคณิตศาสตร์
..สักวันจะเก่งเหมือนพี่บ้าง..
กล้วยทอด
Verified User
โพสต์: 1468
ผู้ติดตาม: 0

เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

โพสต์ที่ 15

โพสต์

[quote="LOSO"]ครับ
..สักวันจะเก่งเหมือนพี่บ้าง..
ภาพประจำตัวสมาชิก
โอ@
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4244
ผู้ติดตาม: 0

เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

โพสต์ที่ 16

โพสต์

รัฐบาลเอาจริงหน่อย ประกาศกฎหมายขึ้นเงินเดือนครูทุกระดับ ทุกปีปีละ 10% เป็นเวลา 7 ปี

นักเรียนใหม่ๆที่เก่งเขาจะได้็จะเริ่มอยากเป็นครูกันบ้าง เงินเริ่มดี

เงินเดือนครูไม่ยอมเพิ่มเอาแต่เพิ่มตึกเรียนอยู่ได้

ผมเคยคิดนะว่าบางทีนักการเมืองก็ไมอยากให้คนไทยฉลาดซักเท่าไหร่ เดี๋ยวทำแบบเดี๋ยวนี้ไม่ได้
_________
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

โพสต์ที่ 17

โพสต์

ยุคนี้  สอนพิเศษรายได้ดี  แม้จะเรียนกับแผ่นCD  เปิดให้ดูครับ
เป็นยุคขายแฟรนไชน์

ยุคที่เด็กต่างจังหวัดเหนื่อยมาก
เผอิญผมมีลูกเรียน  ม.5  (ค่าเรียนพิเศษตกเดือนละเลข5หลักครับ)
การแข่งขันค่อนข้างสูงมาก

เห็นลูกไปอบรมเศรษฐศาสตร์จุฬาฯ  มาเล่าให้ฟังก็ดีนะครับ
พาเด็กไปออกรอบชม  บริษัทCP  ที่สระบุรี
ไปเนี่ยมชมวังบางขุนพรหม  ของแบ๊งค์ชาติ  อื่นๆ

http://econcu.freeforums.org/topic-t178.html

เด็กสมัยนี้ถ้าไม่ขรนขวายดิ้นรนสู้  ก็จะไล่ตามไม่ทัน
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0

เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

โพสต์ที่ 18

โพสต์

กล้วยทอด เขียน:เดี๋ยวนี้เด็กตามบ้านนอก จะมาเทียบกับความสามารถของเด็กกรุงเทพคงจะยากแล้วมัง
มาตรฐานการศึกษา ศักยภาพผู้ปกครอง และการเข้าถึงข้อมูล น่าจะฉีกจากแต่สมัยก่อนเยอะ
ดูข่าวเด็กเข้าค่ายโอลิมปุสรอบท้ายๆ เด็กต่างจังหวัดน้อยลงอ่ะค่ะ
ผิดแล้วครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0

เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

โพสต์ที่ 19

โพสต์

ยุวชนเพชรยอดมงกุฎ ที่สุดความเป็นเลิศ ประวัติศาสตร์ไทย

ผมคือคนไทย ผมต้องเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทย ฝรั่งหัวทองจะมารู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยดีเท่ากับเราคงไม่ได้ จงภูมิใจ และเรียนรู้ให้สนุก เพราะประวัติศาสตร์ คืออดีต เป็นบทเรียนที่สอน และย้ำเตือนคนปัจจุบันไม่ให้ทำผิดซ้ำสอง
     
      นี่คือเสียงของ พชร ชินอ่อน อายุ 16 ปี ชั้น ม.5 ร.ร.แก่นนครวิทยาลัย จ.ขอนแก่น ผู้คว้ารางวัลชนะเลิศเหรียญทอง ระดับช่วงชั้นที่ 4 (ม.4-ม.5) ในการแข่งขันประวัติศาสตร์เพชรยอดมงกุฎ ครั้งที่ 1 พ.ศ.2551 เพื่อสนองพระราชเสาวนีย์ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยจัดขึ้น ณ ร.ร.สตรีวิทยา เมื่อวันที่ 29-30 พ.ย.2551 ที่ผ่านมา
 
      ทั้งนี้ นอกจาก พชร ที่ได้รับรางวัลแล้ว การแข่งขันครั้งนี้ ยังมีนักเรียนคนเก่งที่ได้รับรางวัลอีก 3 ช่วงชั้น คือ ด.ช.สรัล สิริธนาคล จาก ร.ร.อุดมวิทยา จ.ราชบุรี ชนะเลิศในช่วงชั้นที่ 1 (ป.1-ป.3) ด.ญ.ธันยพร บุญพันธ์ จาก ร.ร.อนุบาลสุธีธร จ.นครปฐม ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในช่วงชั้นที่ 2 (ป.4-6) และ ด.ช.ภัทรวีย์ สูญทุกข์ จาก ร.ร.เบญจมราชรังสฤษฏิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ที่ชนะเลิศในช่วงชั้นที่ 3 (ม.1-3)
       
      เราลองไปฟังเสียงพวกเขาดูว่า แต่ละคนมีความเห็นและมีความสนใจต่อวิชาประวัติศาสตร์กันอย่างไรบ้าง...
     
      เริ่มต้นจากเพชรเม็ดน้อยแต่เต็มไปด้วยกะรัตเพชร อย่าง สรัล สิริธนาคล หรือ รัน อายุ 9 ขวบ นร.ชั้น ป.3 ผู้คว้ารางวัลชนะเลิศเหรียญทอง ช่วงชั้นที่ 1 (ป.1-ป.3) ที่ทั้งฉลาด ขยัน และมีความตั้งใจ แถมเป็นหนอนหนังสือตัวยงของโรงเรียน และครอบครัว
     
      น้องรัน เล่าว่า ได้รับการคัดเลือกจากโรงเรียนเข้าร่วมแข่งขันเวทีวิชาการระดับประเทศหลายเวที และได้รับรางวัลมากมาย โดยเฉพาะการแข่งขันเพชรยอดมงกุฎ ได้แก่ รางวัลชมเชยภาษาไทยเพชรยอดมงกุฎ ครั้งที่ 5 รางวัลชมเชย (ประเภทเพชร) วิทยาศาสตร์เพชรยอดมงกุฎ ครั้งที่ 5 รางวัลชมเชยพระพุทธศาสนาเพชรยอดมงกุฎ ครั้งที่ 5 และล่าสุด ได้รับรางวัลชนะเลิศเหรียญทอง ประวัติศาสตร์เพชรยอดมงกุฎ ครั้งที่ 1 ชิงถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
     
      คุณแม่ชอบซื้อหนังสือให้ผมอ่าน และผมก็ชอบอ่านหนังสือ โดยเฉพาะรวมกษัตริย์มหาราช และสมโภชกรุง เป็นเรื่องที่สนุก และได้ความรู้ ซึ่งไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด อยากให้เพื่อนๆ ลองรัก และชอบประวัติศาสตร์สักนิด เชื่อได้เลยว่า ต้องติดใจ และเคลิ้มตามเหมือนกับผมแน่นอน น้องรัน เล่าถึงความชอบ

      นอกจากนี้ คุณแม่น้องรัน เล่าเสริมว่า เวลากลับจากโรงเรียนรันจะไม่เล่นเกม เหมือนกับเด็กทั่วไป แต่จะวิ่งไปหยิบหนังสือมานั่งอ่านกับแม่ ซึ่งนอกจากหนังสือประวัติศาสตร์ไทยแล้ว รันยังรัก และชื่นชอบประวัติศาสตร์โลกอีกด้วย โดยเฉพาะสามก๊กในแบบฉบับการ์ตูน ของสำนักพิมพ์นานมีบุ๊ค มีทั้งหมด 15 เล่ม ที่ รัน บอกว่า อ่านแล้วสนุก เห็นภาพ และเข้าใจง่าย รวมทั้งได้เรียนรู้คำศัพท์ และชื่อจีนตั้งหลายอย่าง เรียกได้ว่า อ่านเพลิน แถมได้ความรู้ประดับสมองไปในตัว หลังการประกวดเสร็จ แม่สัญญากับน้องว่า จะซื้อสามก๊กที่เหลือให้อีก 8 เล่ม เป็นรางวัลสำหรับชัยชนะในครั้งนี้
     
      ถามว่า ทำไมเรียนประวัติศาสตร์ถึงน่าเบื่อ เพราะมันไม่มีตัวเชื่อม หรือสร้างความเพลิดเพลินให้กับเด็ก เช่น ภาพประกอบ หรือการ์ตูนประวัติศาสตร์เพราะทำให้คนอ่านเข้าใจง่าย และเห็นภาพชัดเจนขึ้น ส่วนใหญ่หนังสือหรือตำราเรียนจะมีแต่ตัวอักษร เล่าเรื่องราวซับซ้อน เข้าใจยาก ดังนั้น ถ้าอยากให้ลูกเก่ง ต้องเริ่มให้ลูกอ่านในสิ่งที่ชอบ เข้าใจง่าย และเห็นภาพตาม เพื่อสร้างนิสัยรักการอ่านในตอนโตต่อไป แม่ชุของน้องรัน เล่า
     
      ด้าน พชร ผู้ชนะในช่วงชั้นที่ 4 บอกว่า ดีใจ และภูมิใจ ที่สามารถทำวันนี้ได้สำเร็จ เพราะมีการเตรียมพร้อม และเตรียมตัวมาอย่างดี เริ่มจากทบทวนตำราประวัติศาสตร์ โดยศึกษาตั้งแต่การเข้ามาของคนไทย จนกระทั่งถึงการปฏิวัติครั้งล่าสุด เพราะสนุก และน่าติดตาม แถมยังให้แง่คิด หรือกุศโลบายที่แฝงอยู่ในตำราประวัติศาสตร์ เช่น ยุทธวิธีการลวงข้าศึก รวมทั้งรู้ประวัติศาสตร์ เหมือนกับรู้อดีตที่ผ่านมาของคน ทำให้เกิดความเข้าใจ และรับรู้ความผิดพลาด เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยนั่นเอง
     
      อย่าไปเครียด อ่านเพื่อรู้ และวิเคราะห์ออกมาเป็นความเข้าใจ ที่สำคัญ คนจะเก่งประวัติศาสตร์ต้องอ่านและนึกภาพตาม เพราะมันทำให้เห็นเหตุการณ์ชัดเจน รวมทั้งเรียนไม่ใช่เพื่อเป็นนักประวัติศาสตร์ แต่วิชานี้ช่วยเสริมรากในศาสตร์สาขาอื่นๆ ได้ เช่น ผมจะเรียนวิศวกรรมศาสตร์ ผมก็จะนำวิธีทางประวัติศาสตร์มาเป็นวิธีคิด คือ รวบรวม ตรวจสอบ วิเคราะห์ สรุป และนำเสนอข้อมูล ถ้าเรามองประวัติศาสตร์ในแง่ดี หรือมองในมุมบวก ไม่น่าเบื่อ หรือเครียดอย่างที่หลายคนคิด ประวัติศาสตร์จะทำให้ปัจจุบันเราดีขึ้น พชร เล่า
     
      อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในครั้งนี้ ใช่ว่าจะมีผู้ชนะเพียงอย่างเดียว แต่ผู้มีใจรัก และคลั่งไคล้ในวิชาประวัติศาสตร์ จนเพื่อนร่วมห้องต้องยกนิ้วให้อย่าง จิรวัฒน์ คูณขาว หรือ แชมป์ อายุ 17 ปี ชั้น ม.6 ร.ร.เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า รองชนะเลิศอันดับ 1 เพราะแชมป์สนใจวิชาประวัติศาสตร์ตั้งแต่อยู่ ป.5 เริ่มจากการอ่านการ์ตูนประวัติศาสตร์ ชีวประวัติบรรพบุรุษไทย เรื่อยมาจนถึงหนังสือพงศาวดาร หรือตำราวิชาการที่ยาก ลึกซึ้ง และซับซ้อนขึ้น
       
      ผมไม่เสียใจ กลับภูมิใจ และพร้อมให้คำมั่นกับตัวเองว่า จะนำประสบการณ์ที่ได้ ไปเสริมจุดด้อยของตัวเองให้แข็งแกร่งต่อไป สิ่งที่ทำให้ผมชอบ และรักประวัติศาสตร์ เห็นทีจะหนีไม่พ้นความสนุก น่าติดตาม น่าค้นหา และที่สำคัญทำให้ผมเห็นอดีต ช่วยเติมเต็มความบกพร่องทางความคิด สร้างความเข้าใจ และรู้ชัดถึงความผิดพลาด เสริมใหเกิดการพัฒนา โดยใช้ปัจจุบันเชื่อมร้อยอดีตให้เกิดแรงผลักที่ดีในอนาคต เพราะปัจจุบันคืออดีตของอนาคต น้องแชมป์เล่า
     
      นอกจากนี้ แชมป์ ยังสะท้อนด้วยว่า สังคมไทยสอนเด็กให้เรียนเพื่อสร้างเงิน แต่ไม่สร้างให้คนเกิดความรอบรู้ โดยเฉพาะวิชาประวัติศาสตร์จะเห็นได้ว่า เด็กไม่ค่อยสนใจ หรือเลือกเรียนกันน้อยมาก เหตุเพราะไม่สร้างเงิน และรายได้ในอนาคต ส่วนใหญ่จะเลือกเรียนในสาขาวิชาที่ทำเงินมากกว่า ส่วนตัวอยากเรียนคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพราะยังเกี่ยวโยงกับพื้นฐานทางประวัติศาสตร์ โดยจะเน้นประวัติศาสตร์โลก แต่ถ้าพลาดจะเลือกเรียนคณะอักษรศาสตร์ เอกประวัติศาสตร์ เพราะสนใจ และมีพื้นฐานมาตั้งแต่แรก

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.a ... 0000145988
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
กล้วยทอด
Verified User
โพสต์: 1468
ผู้ติดตาม: 0

เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

โพสต์ที่ 20

โพสต์

chatchai เขียน:
ผิดแล้วครับ
..สักวันจะเก่งเหมือนพี่บ้าง..
ภาพประจำตัวสมาชิก
LOSO
Verified User
โพสต์: 2512
ผู้ติดตาม: 0

เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

โพสต์ที่ 21

โพสต์

[quote="กล้วยทอด"][quote="LOSO"]ครับ
ความพยายามไม่มี    ปัญญาไม่เกิด
Zionism
Verified User
โพสต์: 1260
ผู้ติดตาม: 0

เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

โพสต์ที่ 22

โพสต์

สอนเอง ติวเอง  เราเหนื่อยหน่อย
:bow:
ภาพประจำตัวสมาชิก
LOSO
Verified User
โพสต์: 2512
ผู้ติดตาม: 0

เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

โพสต์ที่ 23

โพสต์

[quote="ปรัชญา"]ยุคนี้
ความพยายามไม่มี    ปัญญาไม่เกิด
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

โพสต์ที่ 24

โพสต์

ครอบครัวคุณLOSO  อบอุ่นและโชคดี
มีเวลาช่วยติวหนังสือให้ลูกๆ

หลายๆครอบครัวก็ทำแต่ธุรกิจหาเงินจนไม่มีเวลาให้ลูกเท่าที่ควร
รวมถึงครอบครัวผมด้วย

เลยต้องฝากลูกๆไว้กับการเรียนพิเศษ  เลยได้สัมผัสกับสถาบันต่างๆ
คณุสมศรี  
นเรศวร
อ.ปู๊
อ.อุ๊
คุมอง
แอสเซท
และอีกหลายๆแห่ง

มีเด็ก  มัธยมปี4ที่กำลังศึกษา  แต่ไปเรียนพิเศษ  ม.6แล้ว
เห็นลูกเล่าให้ฟังว่า  ทำไมไปเรียนล่วงหน้า
เด็กตอบว่าก็ข้อสอบ  ม4  เอาเนื้อหา  ม.6มาให้ตอบ
หากไม่ไปเรียนก่อนก็ทำข้อสอบได้ไม่ดี

นี่คือปัญหาระดับหนึ่ง  
ที่ครูผู้สอบเอาข้อสอบที่อยู่ระดับสูงกว่ามาให้เด็กสอบ
แล้วถ้าเด็กไม่ได้คุณพ่อคุณแม่ติวให้  
หรือเรียนพิเศษจะทำข้อสอบได้อย่างไร
หรือเป็นวิธีคิดของครูที่ออกข้อสอบ(แต่แอบเอี่ยวกับสถาบันสอนพิเศษ)

เพื่อให้ผู้ปกครองส่งลูกหลานให้ไปเรียนพิเศษ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Luty97
Verified User
โพสต์: 1520
ผู้ติดตาม: 0

เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

โพสต์ที่ 25

โพสต์

จากที่พี่ปรัชญาเล่าให้ฟังก็เห็นได้ชัดอะครับ

ว่าปัจจุบันครูก็ต้องดิ้นรน  :(

ถ้าครูเงินเดือนพอๆกับอัยการ มาตรฐานคงดีขึ้นในระยะยาวได้นะครับ
หลักของความสมดุล
ภาพประจำตัวสมาชิก
LOSO
Verified User
โพสต์: 2512
ผู้ติดตาม: 0

เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

โพสต์ที่ 26

โพสต์

[quote="ปรัชญา"]
มีเด็ก
ความพยายามไม่มี    ปัญญาไม่เกิด
ภาพประจำตัวสมาชิก
LOSO
Verified User
โพสต์: 2512
ผู้ติดตาม: 0

เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

โพสต์ที่ 27

โพสต์

[quote="ปรัชญา"]ครอบครัวคุณLOSO
ความพยายามไม่มี    ปัญญาไม่เกิด
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

เฮ้อออออออออออออ เศร้าใจ !!!!

โพสต์ที่ 28

โพสต์

[quote="LOSO"]
พี่ปรัชญาอย่าลืมดูให้น้องเขาไปสมัครสอบและสอบ GAT +PATนะครับ ........

เห็นเด็กตกข่าวหลายคน
โพสต์โพสต์