ภัยแล้งกับน้ำท่วมอย่างมองข้าม
-
- Verified User
- โพสต์: 6853
- ผู้ติดตาม: 0
ภัยแล้งกับน้ำท่วมอย่างมองข้าม
โพสต์ที่ 1
ไม่ได้เกิดแต่ประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่
และมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเพราะภาวะเรือนกระจกและ
อื่นที่คนเรากระทำกับโลกของเรา เนื่องจากการขยายในอุตสาหกรรม
ในทุกด้าน
การขยายในอุตสาหกรรมนั้นสิ่งที่ตามมาคือ
การใช้พลังงานมากขึ้น ค่าพลังงานจะสูงตามการใช้พลังงาน
จนในที่สุด มูลค่าการผลิตสินค้าการเกษตร จะมีน้อยลง
เพราะการทำกำไรน้อยลง
แต่สักวัน
อาหารและสินค้าเกษตรจะมีค่ามากกว่าสินค้าอุตสาหกรรม
และมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเพราะภาวะเรือนกระจกและ
อื่นที่คนเรากระทำกับโลกของเรา เนื่องจากการขยายในอุตสาหกรรม
ในทุกด้าน
การขยายในอุตสาหกรรมนั้นสิ่งที่ตามมาคือ
การใช้พลังงานมากขึ้น ค่าพลังงานจะสูงตามการใช้พลังงาน
จนในที่สุด มูลค่าการผลิตสินค้าการเกษตร จะมีน้อยลง
เพราะการทำกำไรน้อยลง
แต่สักวัน
อาหารและสินค้าเกษตรจะมีค่ามากกว่าสินค้าอุตสาหกรรม
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
ภัยแล้งกับน้ำท่วมอย่างมองข้าม
โพสต์ที่ 3
ท่านใดที่เข้าใจจริงๆบอกด้วยครับว่า GMO ในพืชและสัตว์ เมื่อเราทำให้สุก และกินเข้าไป จะมีปัญหาจริงหรือ และนานแค่ไหน ถึงจะเห็นผลครับ
แต่ผมว่าธรรมชาติแบบเดิมๆก็ดีอยู่แล้วนะ
คนล้นโลก จะโรคระบาดตาย หรือสงกรานต์เมาแหกโค้งตาย รวมๆสักสองสามหมื่น ก็ไม่แปลกหรอกครับ มันเป็นวัฎจักรของสิ่งมีชีวิต บางทีคนน้อยลง จะได้ล้างผลาญทรัพยากรธรรมชาติน้อยลงหน่อย
แต่ผมว่าธรรมชาติแบบเดิมๆก็ดีอยู่แล้วนะ
คนล้นโลก จะโรคระบาดตาย หรือสงกรานต์เมาแหกโค้งตาย รวมๆสักสองสามหมื่น ก็ไม่แปลกหรอกครับ มันเป็นวัฎจักรของสิ่งมีชีวิต บางทีคนน้อยลง จะได้ล้างผลาญทรัพยากรธรรมชาติน้อยลงหน่อย
Expecto Patronum!!!!!!
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ภัยแล้งกับน้ำท่วมอย่างมองข้าม
โพสต์ที่ 5
ขอให้ความเห็นเรื่อง GMO ดังนี้ครับ
GMO ไม่น่าจะส่งผลกระทบกับผู้ใช้โดยตรงเท่าไหร่นัก ถ้าไม่ได้
บริโภคในปริมาณที่สูงมาก สิ่งที่นักวิชาการเกรงคือ side effect
จากสิ่งที่เกิดจาก GMO เช่นโฮร์โมนต่างๆ จะรบกวนการทำงาน
และการเจริญเติบโตของมนุษย์ ซึ่งทางแล็บต่างๆ ก็พยายาม
หาข้อมูลด้านนี้อยู่ เนื่องจากสินค้า GMO อยู่ในตลาดได้ไม่ถึง
หนึ่งชั่วอายุคน การจะฟันธงลงไปว่า มีผลแน่ๆ หรือไม่มีผลแน่ๆ
นั้น ไม่สามารถทำได้ 100%
แต่สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์กลัวมากใน GMO คือการควบคุมการ
แลกเปลี่ยนทางพันธุกรรมครับ
โดยเฉพาะในพืช
พืชสามารถแลกเปลี่ยนพันธุกรรมระหว่างต้นด้วยกันได้โดยไม่
ต้องเกิดการผสมพันธุ์ ยกตัวอย่างเช่นถ้าไร่ผมปลูกฝ้ายที่ผ่าน
การตัดต่อยีนให้มีโปรตีนฆ่าแมลง มีความเป็นไปได้สูงที่ในอีก
สองสามปีให้หลัง พืชต่างๆ (พันธุ์อื่น) จะรับเอายีนพิเศษนี้ไป
เพื่อให้มันสามารถฆ่าแมลงได้ด้วย (evolution race) ซึ่งเกิด
กับพืชทุกต้น ไม่ใช่เฉพาะต้นที่เกิดใหม่เท่านั้น ถ้ากระจายเข้า
ไปในป่า อาจจะทำให้พืชทุกชนิดในป่ามียีนฆ่าแมลงอยู่ ก็จะ
ทำให้แมลงตายหมด และทำให้นกตายตามมา และทำให้
ระบบนิเวศน์เสียสมดุลในที่สุด
หรือในทางกลับกัน เมื่อยีนนี้ระบาดเข้าไปในป่า แล้วแมลง
สามารถปรับยีนตัวเองให้สามารถทนต่อพืชแบบนี้ได้ แมลง
พวกนี้ก็จะกลับเข้าไปรบกวนสวนฝ้ายเดิมได้อีกครั้ง ทุกอย่าง
ก็จะกลับไปเหมือนจุดเริ่มต้นใหม่ โดยที่เราได้แมลงพันธุ์ใหม่
ที่ร้ายกาจกว่าเดิม
GMO ไม่น่าจะส่งผลกระทบกับผู้ใช้โดยตรงเท่าไหร่นัก ถ้าไม่ได้
บริโภคในปริมาณที่สูงมาก สิ่งที่นักวิชาการเกรงคือ side effect
จากสิ่งที่เกิดจาก GMO เช่นโฮร์โมนต่างๆ จะรบกวนการทำงาน
และการเจริญเติบโตของมนุษย์ ซึ่งทางแล็บต่างๆ ก็พยายาม
หาข้อมูลด้านนี้อยู่ เนื่องจากสินค้า GMO อยู่ในตลาดได้ไม่ถึง
หนึ่งชั่วอายุคน การจะฟันธงลงไปว่า มีผลแน่ๆ หรือไม่มีผลแน่ๆ
นั้น ไม่สามารถทำได้ 100%
แต่สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์กลัวมากใน GMO คือการควบคุมการ
แลกเปลี่ยนทางพันธุกรรมครับ
โดยเฉพาะในพืช
พืชสามารถแลกเปลี่ยนพันธุกรรมระหว่างต้นด้วยกันได้โดยไม่
ต้องเกิดการผสมพันธุ์ ยกตัวอย่างเช่นถ้าไร่ผมปลูกฝ้ายที่ผ่าน
การตัดต่อยีนให้มีโปรตีนฆ่าแมลง มีความเป็นไปได้สูงที่ในอีก
สองสามปีให้หลัง พืชต่างๆ (พันธุ์อื่น) จะรับเอายีนพิเศษนี้ไป
เพื่อให้มันสามารถฆ่าแมลงได้ด้วย (evolution race) ซึ่งเกิด
กับพืชทุกต้น ไม่ใช่เฉพาะต้นที่เกิดใหม่เท่านั้น ถ้ากระจายเข้า
ไปในป่า อาจจะทำให้พืชทุกชนิดในป่ามียีนฆ่าแมลงอยู่ ก็จะ
ทำให้แมลงตายหมด และทำให้นกตายตามมา และทำให้
ระบบนิเวศน์เสียสมดุลในที่สุด
หรือในทางกลับกัน เมื่อยีนนี้ระบาดเข้าไปในป่า แล้วแมลง
สามารถปรับยีนตัวเองให้สามารถทนต่อพืชแบบนี้ได้ แมลง
พวกนี้ก็จะกลับเข้าไปรบกวนสวนฝ้ายเดิมได้อีกครั้ง ทุกอย่าง
ก็จะกลับไปเหมือนจุดเริ่มต้นใหม่ โดยที่เราได้แมลงพันธุ์ใหม่
ที่ร้ายกาจกว่าเดิม