มีคนมายึดหน้าบ้านเป็นที่จอดรถ และอ้างว่าเป็นของปวงชน

[Yaileela]

แอบเอา sticker เรารักพันธมิตรติดกระจกหลัง

ตีสี่รับรองงานเข้า

[dino]

แอบเอา sticker เรารักพันธมิตรติดกระจกหลัง

ตีสี่รับรองงานเข้า

แหะ แหะ พวกเดียวกันมั้งครับ
ยึดโดยอ้างความชอบทำ อย่างไม่ชอบธรรม

[Hughes]

ผมชอบไอเดียผัดกับข้าวหน้าบ้านครับ  :lol:

[py106]

มีแต่คนโหดๆทั้งนั้นเลยนะนี่
ผมว่าแค่ invite ตาเจ๊กนั่นมาอ่านที่กระทู้นี้ก็คงได้ผลแล้วคับ
:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

[Coca-Cola]

ขอบคุณครับ ไม่ได้เข้าเว็บนานเลย หาโอกาสยากมาก ที่จะอยู่หน้าคอมพ์
เกิดการคุยครั้งที่สองครับ คือผมเดินไปหาข้าวเที่ยงกิน แล้วต้องเดินผ่านหน้าบ้านเจ๊ก ปรากฏว่าเขาขอคุยด้วยว่า เขามีสิทธิในการจอดรถ 24 ช.ม. เพราะเป็นที่สาธารณ และถ้าเขาหาที่จอดไม่ได้ (เพราะบ้านเขาขี้โอ่มีรถโชว์ 5 คัน) เขาก็จพร้อมจะจอดรถที่หน้าโรงงานทอผ้าเลย(ทำสายตามองไปโรงงานฝากตรงข้ามถนน) เพราะถนนเป็นของปวงชน ใครจะทำอย่างไรก็ได้...
ผมอึ้งไป พร้อมกับคิดว่า ไอ้เชี้ยล้านเนี่ย แม่งเชี้ยจริงๆ หลงเคยนับถือในฐานะคนเฒ่าคนแก่ แต่นับแต่นี้ผมคนหนึ่งแหละ ที่ถ้าเห็นหน้าที่ไร ก็ให้นึกด่า "ไอ้xxx" มันตลอดไปจนกว่าจะไม่เจอหน้ากันอีก สันดานอย่างนี้ทำลายมิตรสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนบ้านตลอดไปเลย..
ผมก็เลยหลอกด่าไปว่า บ้านเพื่อนผมมีรถอยู่ 1 คัน หน้าบ้านจึงเขียนป้ายว่า "กรุณาอย่าจอดรถ เนื่องจากมีรถเข้าออกครับ" ปรากฏว่ามีรถ Sup. จากโรงงานหนึ่ง มาจอดทุกวันคู่เลย ทำให้บางครั้งเมื่อจะนำรถเข้าออกจึงลำบากมาก เพื่อนจึงดักเจอหน้า แล้วถามเหตุผล ทางSup. จึงอ้างว่าถนนหน้าบ้านเป็นของ"ปวงชน" ผมมีสิทธิที่จะทำอย่างไรก้บถนนหน้าบ้านคุณก็ได้ ถ้ามันจะทำให้ผมได้รับประโยชน์ แม้จะทำให้เจ้าของบ้านเสียหาย เพราะผมคือ"ปวงชน"ผู้มีสิทธิเต็มร้อย เพื่อนผมจึงด่าไป (ผมพูดเสียงสูง) "นี่มันหน้าบ้านคุณเหรอ ถึงคิดจะจอดก็จอด วันคู่ที่ไร ต้องวิ่งมาจองไว้ตั้งแต่เช้า เอาออกอีกที ก็2ทุ่ม3ทุ่ม อดหยากปากแห้งขนาดนั้นเชียว ถ้าไม่มีปัญญาจ่ายค่าที่จอดรถที่เข้าปล่อยเช่าอยู่ ที่มันอยู่ปากซอยใกล้ๆ นั่น แล้วจะซื้อรถมาทำไมครับ" (ผมพูดสุภาพ ดังที่พิมพ์นี่จริงๆ ครับ) ผมพูดเสร็จ นิ่งสักพัก ให้คำพูดทุกคำผ่านเข้าสู่โสตประสาทของเจ้ก แล้วซึมซาบเข้าสู่สมอง คาดหวังอย่างแรง ให้สันดาบลงสู่ต่อมความคิด และใคร่ครวญถึงผม ผู้เสียหายในทุกวันที่เจ๊กเอารถมาจอด อย่างไม่ไว้หน้าอินหน้าพรหมกันเลยสักครั้ง.. "เพื่อนบ้านของคุณคือบ้านหลังไหน ผมอยากรู้" เจ๊กถาม "ผมคงพูดไม่ได้หรอกครับ ในเมื่อเกิดการขัดแย้งเช่นนึ้ การเปิดเผย อาจทำให้เพื่อนผมไม่สบายใจได้" "แต่อย่างไรแล้ว กรณีผมก็คงไม่ต่างกัน" "ผมเชื่อว่าอาเจ๊กจะใส่ใจต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผม และที่สำคัญผมได้พูดถึงความเสียหายที่เกิดอยู่จริงแล้ว ผมนับถืออาเจ๊กมาครับ เพราะว่าเมื่อเกิดความคิดเห็นที่ต่าง อาเจ๊กก็เลือกที่จะคุยให้เกิดความกระจ่าง ผมยกตัวอย่างอย่างนี้ มี 7-11 อยู่ 2 ร้าน ร้านแรกอยู่ริมถนนซอยหลัก ส่วนร้านที่สองอยู่ลึกเข้าไปในซอยย่อย ทั้งสองร้านขายสินค้าชนิดเดียวกัน หากอาเจ๊กจะเลือกซื้อสินค้าสักอย่าง ทุกครั้ง... อาเจ๊กจะดั้นดนเดินเข้าไปในซอยย่อยเป็นนาทีสองนาที เพื่อซื้อเป๊ปซี่1ขวด หรืออาเจ๊กจะซื้อที่ร้าน 7-11ที่อยู่ใกล้อาเจ๊กหละครับ แน่นอนครับ อาเจ๊กต้องเลือกซื้อร้านแรก ร้านชำของผมก็เช่นกัน เมื่อก่อนที่อาเจ๊กไม่นำมาจอดจนเป็นกิจวัตร ร้านผมก็สะดวกซื้อสะดวกขายเช่นเดียว 7-11 ร้านแรก แต่เมื่อทุกวันคู่นั้น มีรถอาเจ๊กมาจอดอยู่ทุกครั้งไป ร้านชำของผม ก็มีสภาพคล้ายร้าน 7-11 ที่อยู่ลึกลับเข้าไปในตรอกซอกซอย ทำให้ลูกค้าที่ขับรถมาโดยเฉพาะรถเก๋ง ก็เลือกที่จะขับผ่านไป และไปเลือกซื้อสินค้าร้านอื่น ที่อำนวยความสะดวกได้ดังเช่นร้าน7-11ร้านแรก เปรียบเทียบเช่นนี้ อาเจ๊กคิดว่าอย่างไรครับ" (ระหว่างที่ผมไล่รายละเอียด เจ๊กพยายามจะแทรกตลอดเวลา แต่ผมเลือกจะพูดต่อเพื่ออธิบายให้เสร็จ) "แต่เศรษฐกิจช่วงนี้แย่ ยอดขายหดหายก็เป็นธรรมดา และอีกอย่างคนซื้อควรจะพยายามกว่านี้ ถ้าอยากเข้าร้าน ก็ต้องยอมไปจอดไกลๆ อย่างเช่นฝั่งตรงข้ามแล้วเดินข้ามมา หรือไม่ก็จอดไกลไปสัก 7-8 คูหาแล้วเดินเข้ามา คนซื้อควรจะมีความพยายามกว่านี้ และการหาที่จอดรดรถเพื่อลงมาซื้อสินค้าไม่ได้ ก็ถือว่าลูกค้าประเภทนั้นโง่มากๆ แล้วคุณจะไปรับลูกค้าประเภทนั้น ให้ร้านคุณเสียชื่อเสียงทำไม.." (เชื่อเถอะครับ ผมรังเกียจ-สมเพชเข้าลำไส้ แล้วเลยทะลุไปถึงลำไส้ใหญ๋เลยที่เดียว)   "อ้าว! คุณป้าสวัสดีครับ ไปไหนมาครับ" (ผมตัดบทเพราะเห็นคุณป้าเดินผ่านมาพอดี) "ไปตลาดมา นี่ว่าจะแวะไปร้านแนะ จะซื้อวุ้นเส้นสักหน่อย ยาสระผมก็หมด" "ดีครับ เดินอย่างนี้ 100 ปี ก็ยังแข็งแรง ไปครับ เดี๋ยวผมเดินไปเป็นเพื่อน" (คุณป้าหัวเราะ) ผมเดินออกมาทิ้งการสนทนาไว้ตรงนั้น สิ่งหนึ่งที่ลอยเนือยๆ ตรงค้างอยู่ คือความระอา อย่างยากจะอธิบาย แต่สำคัญที่ผมได้พูดแล้ว พูดถึงความเสียหาย การเปรียบเทียบตัวอย่างที่เห็นได้ชัด และความสะใจที่ได้หรอกว่าไปว่า "นี่มันหน้าบ้านคุณเหรอ ถึงอยากจะทำอะไรก็ทำ หน้าบ้านคุณใช่มั๊ย" 555555555555 :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

[Coca-Cola]

สรุปนะครับ
รถในครอบครัวอาเจ๊กทั้ง 5 คัน ก็ไม่มีใครมาจอดอีก อย่างหนึ่งผมเชื่อว่า เกิดความเข้าใจ อย่างหนึ่งผมได้แสดงอาการสมเพชออกไป จนเขาหน้าจะรู้สึกละอาย
แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ทำให้เมื่อเจอหน้ากันในกาลต่อมา ผมก็แสดงรอยยิ้ม และไม่แสดงท่าทีเกลียดชังและสมเพชต่อวิธีคิด (ที่พร้อมจะเอาประโยชน์แม้ผู้อื่นจะเสียหาย) เหมือนเคย แน่นอนครับ แกก็ส่งรอยยิ้มแหยๆ กลับมา
หวังว่าในอนาคต จะเกิดการทักทาย มีคำพูดดีๆ ระหว่างกัน...
เพื่อนบ้านนั้น.. สำคัญมากสมควรจะได้แสดงโอกาสแบ่งปันกัน พึ่งพิงกัน มีมิตรภาพที่ดีต่อกัน  เอาง่ายๆ หากเราเป็นเพื่อนบ้านที่ดีระหว่างกัน วันหนึ่ง ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะทำประกันชีวิต แล้วคุณคิดว่าผมจะปรึกษาใคร ถูกครับ ก็ต้องปรึกษาอาเจ๊ก และเป็นการง่ายที่ผมจะทำประกันชีวิตกับแก เช่นเดียวกันมิตรภาพที่ดีก็ทำให้บางครั้งอาเจ๊กก็อาจจะเลือกเดินเข้ามาซื้อของภายในร้านบ้าง แม้ว่าโดยตามฐานะแล้วย่อมทำให้แกรักษาภาพลักษณ์โดยการเลือกซื้อสินค้าในห้างและ7-11 เป็นหลัก แต่ด้วยมิตรภาพย่อมทำให้บางครั้งแกก็อาจจะเลือกมาซื้อร้านชำร้านนี้ได้
เพื่อนบ้านเป็นกัลยาณิมิตรอันดี ผูกสัมพันธ์ได้ เป็นเรื่องที่ดีมากครับ โอกาสเจอหน้ากันก็บ่อย หากคิดทำให้ผู้อื่นเสียหาย เกิดความเป็นศัตรูแล้ว เจอกันบ่อยครั้งเท่าใด ก็ย่อมร้อนมากเท่านั้น ดีไม่ดีอาจพาความร้อนเข้ามาระบายในบ้านด้วยความไม่ตั้งใจ ยิ่งเสียหายเข้าไปใหญ่ ไม่ดีเลยครับ
เพื่อนบ้าน... แบ่งปันกันเถอะครับ เอาใจเขาใส่ใจเรา มีความรับผิดชอบในตัวตน สร้างบรรทัดฐานใดขึ้นมาในชีวิตก็ต้องรับผิดชอบ ไม่นำความเดือดร้อนไปสู่ผู้อื่น กัลยาณมิตร ... เป็นสิ่งสำคัญมากนะครับ  :D  :D  :D

[dino]

แหะ แหะ จบด้วยดีอย่างนี้ ยินดีด้วยครับ

[Hughes]

อ้าวเลยไม่ได้ผัดกับข้าวหน้าบ้านเลย :lol:

[Capo]

จบด้วยดี ก็ยินดีด้วยครับ

นึกถึงตอนช่วงกินเจ โดนใช้ให้ไปซื้อหมี่กึงตรงตลาดเหล่งบ่วยเอี้ย

นึกภาพช่วงเทศกาลจีนแถวเยาวราช รถก็เยอะ คนก็แยะ บางซอยเดินไม่ไหว ต้องไหลตามกันไป

ซื้อของเสร็จ ขากลับผมก็เดินกลับทางถนนเจริญกรุง เดิน ๆ อยู่แถว ๆ ฝึ่งตรงข้ามวัดมังกร

อยู่ ๆ ก็ได้ยินเสียง "ปุ้ง" อย่างดัง  ตอนนั้นทุกคนหันไปหาทางต้นเสียงกันหมด

ผมเองก็นึกว่ารถชนแน่ ๆ แต่พอหันไปมองก็ไม่เห็นอะไรผิดปกตินี่หว่า

แต่เห็นคนตรงแถว ๆ ต้นเสียงมองไปที่รถญี่ป่นสีแดงคันนึงที่จอดที่ริมฟุตบาท

สักพักเจ้าของรถก็เปิดประตูลงมายืนข้างรถ แล้วก้มลงหยิบไม้กวาดทางมะพร้าว ที่ด้ามเป็นไม้ไผ่ขึ้นมา พร้อมกับมองไปข้างบนอย่าง งง งง

555 แถวนั้นเขาเล่นกันแรงจริง ๆ

[NYPL]

โถ่ เสียดายครับ อดใช้ business model จากอเมริกาเลยครับ

ใน municipality ที่ผมเคยอยู่จะเห็นป้ายเตือนพวกที่ชอบจอดรถเรี่ยราดทำนองว่า "Will be towed at the owner's expense" ติดไว้ตามที่ต่างๆ รวมถึีงที่จอดรถส่วนบุคคลด้วย คือ จะโดนเรียกรถมาลากไป แล้วต้องเสียค่าปรับให้กับเจ้าของที่ตามที่เขากำหนด (ที่ป้ายไม่เห็นมีราคาติดไว้และไม่ทราบว่าต้องเสียให้ municipal ด้วยหรือเปล่า) ผมเองก็ไม่เคยโดนนะครับ เลยไม่ทราบว่าแต่ละที่เค้ากำหนดค่าปรับกันเองจริงหรือไม่ แล้วมาเรทสูงสุดต่ำสุดกำหนดไว้หรือเปล่า

ในบ้านเราผมเห็นมีแต่รถลากสำหรับลากรถที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ทราบว่ามีแบบนี้บ้างหรือไม่ครับ หวังรวยได้เลยนะครับเนี่ย

[njTAO]

รู้สึกสองสามวันนี้พี่น้องปวงชนเริ่มจะหลงประเด็นกันไปหน่อยนะครับ
พี่น้องพันธมิตรเค้าท้าให้พี่น้องตำรวจมาปราบเค้า พี่น้องตำรวจก็ไม่ทราบจะรออะไร  สงสัยคงคิดว่าปราบไปก็เหนื่อยเปล่า เดี๋ยวพี่น้องก็มาชุมนุมอีก (ก็เขาประกาศไว้แล้วนี่) ไม่ทราบว่าไอเดียนี้พอใช้ได้หรือไม่ ไม่ทราบว่าไปซ้ำกับใครบ้างไหม

สนามบินสุวรรณภูมินั้น ปล่อยให้พี่น้องพธม เค้าอยู่ไปดีมั้ยครับ (แต่เชิญให้เขา(รวมทั้งพี่น้องที่จุดอื่น เช่น ทำเนียบฯ)ไปอยู่เฟส 2 ซึ่งยังคงไม่ได้ใช้อะไร แล้วเปิดเฟส 1 ใช้) 1 ไร่ = 1,600 ตรม (จุคนได้ 400 คน (ถ้า 1 คน: 4 ตรม)) 100,000 คน ใช้แค่ 250 ไร่เอง ถ้า 1 ล้านคนใช้ 2,500 ไร่ สนามบินใหญ่ตั้ง 2 หมื่นไร่นี่ หรือจัดเขตชุมนุมเป็นบริเวณติดรั้วโดยรอบสนามบิน(บริเวณคูน้ำ)ก็น่าจะได้นะครับ กว้างดี

อย่างนี้อยู่ได้เป็นปีๆเลยครับ ระหว่างนี้ก็ให้กลุ่มพี่น้องเขาทำ demo หรือ dummy การเมืองใหม่ของเขาขึ้นมา ลองร่างรธน. ฉบับพธม. ก็ไม่เลวนะครับ แล้วมาเทียบเคียงกับรธน. ปัจจุบัน (ผมก็คนหนึ่งล่ะครับที่อยากรู้ว่ามันเป็นอย่างไร นักวิชาการเขาก็มีไม่น้อยไม่ใช่เหรอครับ) แล้วถ้ามันใช้ได้จริง เวลามาปรับใช้ก็ประหยัดเวลาเพราะมีต้นแบบอยู่แล้ว ไม่ใช่เริ่มสร้างจากฝุ่นดินทราย

Solution นี้ไม่ใช่แค่ win-win นะครับ แต่ผมว่ามันเป็น win-win-win-win-win เชียว
win1: รฐบ ได้แสดงถึงภูมิปัญญาไทยในการผลักดันการชุมนุม
win2: พธม ได้แสดงทดลองระบบการเมืองใหม่ เลิกไล่ไร้สาระ (ก็ไล่แล้วเขาไม่ไปนี่) และให้โลกประจักษ์ถึงแนวคิดการเมืองใหม่โดยประชาชน
win3: ความสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่าย และชีวิต(ที่อาจจะมี)
win4: เปิดประตูชาติเหมือนเดิม
win5: ลดความเสีย่หายของการท่าและชาติ ฯลฯ

ความคิดนี้ไม่สงวนสิทธิ์ครับ แต่ต้องงอมจนเน่าไปหลายตลบแน่ๆ ใครเขาจะฟังจุลินทรีย์ตัวเล็กๆ

ปล.
ไม่ทราบเหมือนกันนะครับว่ามีที่ไหนเขาลองประเมินดูว่ามั้ยว่าประชากรในไทย 3 กลุ่ม (เสื้อเหลือง เสื้อขาว(อย่างเราๆ ท่านๆ) เสื้อแดง) มีสัดส่วนเป็นเท่าไร

[Juninho]

ความเห็นดีจังเลยครับ คุณ njTAO

ที่ผมอ่านความเห็นส่วนใหญ่มีแต่หาว่า อีกฝ่ายผิด พี่งมี คุณ njTAO
นี่ล่ะ ที่ผมอ่านความเห็นแล้วชอบจัง
ส่วนตัวผม ผมเห็นว่า เรื่องนี้ไม่มีใครผิดไม่มีใครถูก

ฝ่ายหนึ่งอยากได้การเมืองที่โปร่งใสไม่มีคอร์รัปชั่น แล้วออกมากดดันรัฐ
ซึ่งผมว่า มาตราการรุนแรงไปหน่อย กระทบชาติมากเกินไป  
แต่หลักการโดยรวมยังถือว่าดี

ฝ่ายหนึ่งยังชอบการเมืองแบบเก่าอยู่ พัฒนาบ้านเมืองไป กินไปบ้าง
แต่มีงานออกมา

เพราะฉะนั้นไม่มีใครผิดหรอก อย่าทะเลาะกันเลย
รักชาติทั้งคู่ แต่ชอบคนละแบบ แล้วจะฆ่ากันไปใย

[thaloengsak]

[quote="happiness"]ความเห็นดีจังเลยครับ คุณ njTAO

ที่ผมอ่านความเห็นส่วนใหญ่มีแต่หาว่า อีกฝ่ายผิด พี่งมี คุณ njTAO
นี่ล่ะ ที่ผมอ่านความเห็นแล้วชอบจัง
ส่วนตัวผม ผมเห็นว่า เรื่องนี้ไม่มีใครผิดไม่มีใครถูก

ฝ่ายหนึ่งอยากได้การเมืองที่โปร่งใสไม่มีคอร์รัปชั่น แล้วออกมากดดันรัฐ
ซึ่งผมว่า มาตราการรุนแรงไปหน่อย กระทบชาติมากเกินไป

[HARINLUX]

ใช้ไม้นวมก่อน
          ลองหารถยนต์มาจอดประกบหน้าหลัง  ซัก 2-3  วัน  น่าจะได้ผลนา  :shock:


--------------------------------------
ความรู้  คู่คุณธรรม

[Anti-Aircraft]

โห ห้องนั่งเล่นยังอุตส่าห์ขุด ซูฮกครับเฮีย 55+

[oneway]

ปัญหานี้ก็เป็นปัญหาหนักใจน่าดูเลยนะครับ

ผมแนะนำให้ลองไปดู

มาตรา 421 การใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่นนั้น ท่านว่าเป็นการอันมิชอบด้วยกฎหมาย  

เรื่องการละเมิดครับ

แต่เรื่องนี้ยังไม่คำพิพากษาเป็นตัวอย่างนะครับ เดียวผมจะลองไปดูข้อกฎหมาย
แล้วเดียวจะมาตอบให้นะครับ

แต่อย่าลืมนะครับ เขียนว่าห้ามจอดรถขวางหน้าบ้านนี้เรา ผิดกฎหมายนะครับ ถ้าเขาจอดในถนนสาธารณะ

[oneway]

มาตรา 310 ผู้ใดหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการ ใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคแรก เป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกัก ขัง หรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตายหรือรับอันตราย สาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 290 มาตรา 297 หรือ มาตรา 298 นั้น

มาตรานี้เป็นความผิดทางด้าน อาญานะครับ มีโทษถึง จำคุก แต่ต้องดูด้วยนะครับ ว่าเรายังคงใช้ชีวิตได้โดยปกติสุขหรือไม่ เช่น เรายังสามารถออกจากบ้านได้อยู่ เป็นต้น

ผมดูข้อกฎหมายยังไม่มีการลองรับเรื่องนี้ซักเท่าไร
ผมว่าใช้การเจรจาดีที่สุดนะครับ

อย่าให้เหมือนกรณีนี้เลยนะครับ
http://hilight.kapook.com/view/51282