คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 17
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2378
กำลังใจเริ่มถดถอย ซื้อแล้วก็ลงอีก กระสุนเริ่มร่อยหรอเหมือนกันครับพี่วิบูลย์ แบ่งปันกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ ทำงาน...เก็บตังค์....อดออม...เพื่อลงทุน...มุ่งแสดงว่าอิสระภาพทางการเงินที่แท้จริง (แต่ตอนนี้ประสาทจากิน...อิอิ)
ติดลบเกือบ 19% มอง devidend ที่ 7% พอครับ
อยากทราบว่าพี่วิบูลย์คิดเห็นอย่างไรครับกับหุ้นกลุ่มสื่อสาร ส่วนตัวผมคิดว่าน่าจะกระทบกับรายได้ไม่มากเท่าไหร่ครับ เลยมุ่งเก็บหุ้นกลุ่มนี้หนะครับ แต่กลัวจะมาผิดทางเลยอยากรบกวนขอข้อคิดเห็นจากพี่หน่อยนะครับ
ขอบพระคุณล่วงหน้านะครับ
ติดลบเกือบ 19% มอง devidend ที่ 7% พอครับ
อยากทราบว่าพี่วิบูลย์คิดเห็นอย่างไรครับกับหุ้นกลุ่มสื่อสาร ส่วนตัวผมคิดว่าน่าจะกระทบกับรายได้ไม่มากเท่าไหร่ครับ เลยมุ่งเก็บหุ้นกลุ่มนี้หนะครับ แต่กลัวจะมาผิดทางเลยอยากรบกวนขอข้อคิดเห็นจากพี่หน่อยนะครับ
ขอบพระคุณล่วงหน้านะครับ
อดทนต่อความยากลำบาก ฝ่าฟันอุปสรรคทั้งปวง เพื่อความสำเร็จในอนาคต
-
- Verified User
- โพสต์: 11
- ผู้ติดตาม: 0
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2383
ปกติก็มีเงินสดติดมือบ้างsai เขียน:รบกวนสอบถามพี่วิบุลย์ปัจจุบันถือเงินสดเท่าไรครับ และในภาวะการณ์ปกติพี่มีถือเงินสดบ้างหรือไม่ เป็นสัดส่วนเท่าไรครับพี่ ขอบคุณครับ
ตอนนี้ถอยมาตั้งหลักที่ 20%
หุ้นที่ขายจะเป็นหุ้นราคาเกินพื้นฐานมากกว่า
ถ้าต่ำกว่าพื้นฐานก็ยังถือต่อ
แต่ถ้าพื้นฐานเปลี่ยน ราคาเท่าไหร่ก็ขาย
เท่าที่เช็คพื้นฐานแต่ละตัวที่ถืออยู่ก็ยังโอเค
น่าจะทนภาวะเศรษฐกิจตกสะเก็ดได้สักห้าปี
เพราะบริษัทพวกนี้ผ่านปี 40 มากันทุกบริษัท
และอยู่รอดมาได้จนทุกวันนี้
รอบนี้ฝรั่งขายแบบไม่สนใจราคาพื้นฐาน
ขนเงินกลับอย่างเดียว
เพราะขาดทุนที่ต่างประเทศหนัก
GE Capitol ยังต้องเร่ขาย Leasingในเมืองไทยเลย
หลังจากเข้ามาซื้อพอร์ตสินเชื่อรถยนต์จากไฟแนนซ์ที่ถูกปิดของไทยเมื่อสิบปีที่แล้ว
ขนาดจีอียังเดี้ยง ไม่ต้องพูดถึงสถาบันการเงินเล็กๆอื่นๆ
คนที่ถือหุ้นอยู่เลยเจ็บไปตามๆกัน
คนที่รอดคือคนที่ไม่มีหุ้น
แต่ถ้าเราไม่คิดเลิกลงทุนใน 2-3 ปีนี้
และเงินในหุ้นก็ถือว่าเป็นเงินลงทุนระยะยาวอยู่แล้ว
ไม่ได้คิดเอาออกมาใช้ทำอะไร
ไม่ได้เอาออกมาซื้อรถขับโก้ๆ ซื้อบ้าน ซื้อนู้นซื้อนี่
ถ้าผ่านไปสองสามปีมันไม่ดีขึ้น
แสดงว่าเราคิดผิด
ถึงเวลานั้นคงต้องบอกว่า Value Investing มันใช้ไม่ได้ในตลาดหุ้นเมืองไทยจริงๆ
แต่เวลาเท่านั้นเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าใช่ไม่ใช่
ตอนนี้ก็ทำมาหากินกันต่อไป
อย่าไปสนใจตลาดหุ้นมากนักก็ได้
ผมมีคำพูดของอาจารย์เบนจามิน เกรแฮม
ผู้ที่วอร์เรน บัฟเฟตให้ความนับถือเหมือนพ่อบังเกิดเกล้า
เขียนไว้ในหนังสือ Intelligence Investor
ประโยคแรก
"ราคาหุ้นผันผวนในระยะสั้น แต่ราคาหุ้นจะสะท้อนผลการดำเนินการของบริษัทในระยะยาว"
ต่อมา
"นักลงทุนไม่ควรสนใจราคาหุ้นในระยะสั้น
แต่ควรให้ความสำคัญกับเงินปันผลและผลการดำเนินงานของบริษัทมากกว่า"
และคำพูอมตะสุดท้าย
"แล้วมันจะผ่านไป"
เอามาปัดฝุ่นอ่านอีกรอบก็ได้นะครับท่าน
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2384
เลิกดูตลาดหุ้นไปสักสองปีเป็นยังไงครับpekkyboy เขียน: กำลังใจเริ่มถดถอย ซื้อแล้วก็ลงอีก กระสุนเริ่มร่อยหรอเหมือนกันครับพี่วิบูลย์ แบ่งปันกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ ทำงาน...เก็บตังค์....อดออม...เพื่อลงทุน...มุ่งแสดงว่าอิสระภาพทางการเงินที่แท้จริง (แต่ตอนนี้ประสาทจากิน...อิอิ)
ติดลบเกือบ 19% มอง devidend ที่ 7% พอครับ
กลับไปตั้งหน้าตั้งตาทำงานหาเงินต่อไป
น่าจะช่วยลดอาการทางประสาทได้
ผมไม่มีความรู้เรื่องหุ้นสื่อสารเลยpekkyboy เขียน:อยากทราบว่าพี่วิบูลย์คิดเห็นอย่างไรครับกับหุ้นกลุ่มสื่อสาร ส่วนตัวผมคิดว่าน่าจะกระทบกับรายได้ไม่มากเท่าไหร่ครับ เลยมุ่งเก็บหุ้นกลุ่มนี้หนะครับ แต่กลัวจะมาผิดทางเลยอยากรบกวนขอข้อคิดเห็นจากพี่หน่อยนะครับ
ขอบพระคุณล่วงหน้านะครับ
เคยตามสมัยที่จะมีการตั้งกทช กสช อะไรพวกนั้น
สุดท้ายก็เงียบไปเพราะการเมือง
จนตอนนี้ผมยังไม่รุ้เลยว่าตั้งเสร็จหรือยัง
ตั้งแล้วจะมีผลกระทบกับบริษัทไหนอย่างไรบ้าง
ผมสุดจะเดาครับ
ลองถามอาจารย์ลูกอีสานดูครับ
เผื่อจะได้อะไรดีๆ
โชคดีครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2386
พี่วิบูลย์ขอบคุณนะครับ :D
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 75
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความเห็นหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2387
คิดอย่างไรกับหุ้น amata บ้างครับ มือใหม่หัดขับ
-
- Verified User
- โพสต์: 75
- ผู้ติดตาม: 0
มือใหม่หัดขับ
โพสต์ที่ 2388
ขอความเห็นหุ้น amata ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 17
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2389
ขอบคุณพี่วิบูลย์สำหรับคำแนะนำครับ
เมื่อวานหุ้นขึ้นผมเลยขายหุ้นออกไปบางส่วน เพื่อลดแรงกดดันและรักษาสุขภาพจิตของตัวเองครับ นึกขึ้นมาได้ว่าถ้าเราถือหุ้นแล้วเกิดความเครียดก็ควรจะลดพอร์ตตัวเองลงจนถึงระดับที่เราสามารถรับได้อ่ะครับ(ตามอาจารย์หลายๆท่านที่เคยแนะนำเอาไว้ ) แล้วผมก็ถอยออกมาดูหุ้นอยู่ห่างๆรอฝุ่นหายตลบ ค่อยกลับเข้าไปใหม่ ตอนนี้นั่งโหลดกระสุนไปพลางๆก่อนครับ
เมื่อวานหุ้นขึ้นผมเลยขายหุ้นออกไปบางส่วน เพื่อลดแรงกดดันและรักษาสุขภาพจิตของตัวเองครับ นึกขึ้นมาได้ว่าถ้าเราถือหุ้นแล้วเกิดความเครียดก็ควรจะลดพอร์ตตัวเองลงจนถึงระดับที่เราสามารถรับได้อ่ะครับ(ตามอาจารย์หลายๆท่านที่เคยแนะนำเอาไว้ ) แล้วผมก็ถอยออกมาดูหุ้นอยู่ห่างๆรอฝุ่นหายตลบ ค่อยกลับเข้าไปใหม่ ตอนนี้นั่งโหลดกระสุนไปพลางๆก่อนครับ
อดทนต่อความยากลำบาก ฝ่าฟันอุปสรรคทั้งปวง เพื่อความสำเร็จในอนาคต
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2391
ลองดูในห้องร้อยคนร้อยหุ้นครับtatar_2522 เขียน:คิดอย่างไรกับหุ้น amata บ้างครับ มือใหม่หัดขับ
สำหรับผม ผมว่าวิกฤติเศรษฐกิจแฮมเบอร์เกอร์คราวนี้
ธุรกิจส่งออกจะโดนเต็มๆ
เพราะผู้ซื้อไม่มีตังค์
นิคมอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ของไทยจะเป็นการส่งออก
ดังนั้นการขยายการผลิตหรือการตั้งโรงงานใหม่คงน้อยลงมาก
อมตะคงหนีไม่พ้นที่จะโดนหางเลขจากรอบนี้
แต่ราคาหุ้นมันเย้ายวนใจมาก
จากราคา 14 บาทเหลือ 4 บาท
ตอนนี้มาร์เกตแคป 4,000 ล้านบาท
ลองดูซิว่าที่ดินที่เหลือมีมูลค่าเท่าไหร่
มากหรือน้อยกว่า 4,000 ล้าน
ต้องไปคิดเองหละนะเพราะผมไม่มีข้อมูล
ชั่วโมงนี้คงต้องอาศัย Asset Valuation แทนแล้วหละ
โชคดีครับ
- BABY TERMITE
- Verified User
- โพสต์: 368
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2392
เห็นด้วยครับ...VIB007 เขียน: ลองดูในห้องร้อยคนร้อยหุ้นครับ
สำหรับผม ผมว่าวิกฤติเศรษฐกิจแฮมเบอร์เกอร์คราวนี้
ธุรกิจส่งออกจะโดนเต็มๆ
เพราะผู้ซื้อไม่มีตังค์
นิคมอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ของไทยจะเป็นการส่งออก
ดังนั้นการขยายการผลิตหรือการตั้งโรงงานใหม่คงน้อยลงมาก
อมตะคงหนีไม่พ้นที่จะโดนหางเลขจากรอบนี้
แต่ราคาหุ้นมันเย้ายวนใจมาก
จากราคา 14 บาทเหลือ 4 บาท
ตอนนี้มาร์เกตแคป 4,000 ล้านบาท
ลองดูซิว่าที่ดินที่เหลือมีมูลค่าเท่าไหร่
มากหรือน้อยกว่า 4,000 ล้าน
ต้องไปคิดเองหละนะเพราะผมไม่มีข้อมูล
ชั่วโมงนี้คงต้องอาศัย Asset Valuation แทนแล้วหละ
โชคดีครับ
พื้นฐานธุรกิจโดนเต็มๆ
ราคาก็ลงมาแบบเต็มๆ
ถ้าจะลงทุน ก็ต้องมีหัวใจแบบเต็มๆ
เพราะคงต้องอดทนนานพอสมควร คุ้มไม่คุ้มอยู่ที่มุมมองครับ
โชคดีครับ :D
ปลวกน้อยคอยวันเติบใหญ่
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4740
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2393
ผมรู้สึก อบอุ่นอย่างไงไม่รู้ครับ ในท่ามกลาง ความเยือกเย็นของตลาด ช่วงนี้เมื่อได้อ่านข้อความของเพื่อนๆชาว VI ต่างก็ให้กำลังใจกันและกัน
ผมคนนึงที่ใฝ่ฝันอยากมี อิสระภาพทางการเงิน มุ่งมั่นเก็บเงิน จากน้ำพักน้ำแรง มาลงทุน หวังไว้ว่า 15% ต่อ ปี อีก 5-10ปี จะได้ไม่ต้องทำงานหนัก เหมือนทุกวันนี้
มาลงทุนปีแรก ตอนต้นๆปี มาถึงวัน ใจไม่อยู่กะเนื้อกะตัวแล้ว แต่ก็มีกะทู้ดีๆ ในเวปนี้แหละครับ เป็นกำลัง ติดตามอ่านทุกเช้าเย็น
ขอบคุณ คุณ VIB007 คุณลูกอิสาน คุณนริศ คุณChatchai และท่านอื่นๆที่สระเวลามาโพสต์ข้อความดีๆไว้ให้อ่าน เป็นการแบ่งปันที่ ประเสริฐครับ
ผมคนนึงที่ใฝ่ฝันอยากมี อิสระภาพทางการเงิน มุ่งมั่นเก็บเงิน จากน้ำพักน้ำแรง มาลงทุน หวังไว้ว่า 15% ต่อ ปี อีก 5-10ปี จะได้ไม่ต้องทำงานหนัก เหมือนทุกวันนี้
มาลงทุนปีแรก ตอนต้นๆปี มาถึงวัน ใจไม่อยู่กะเนื้อกะตัวแล้ว แต่ก็มีกะทู้ดีๆ ในเวปนี้แหละครับ เป็นกำลัง ติดตามอ่านทุกเช้าเย็น
ขอบคุณ คุณ VIB007 คุณลูกอิสาน คุณนริศ คุณChatchai และท่านอื่นๆที่สระเวลามาโพสต์ข้อความดีๆไว้ให้อ่าน เป็นการแบ่งปันที่ ประเสริฐครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2394
[quote="dome@perth"]ผมรู้สึก อบอุ่นอย่างไงไม่รู้ครับ ในท่ามกลาง ความเยือกเย็นของตลาด ช่วงนี้เมื่อได้อ่านข้อความของเพื่อนๆชาว VI ต่างก็ให้กำลังใจกันและกัน
ผมคนนึงที่ใฝ่ฝันอยากมี อิสระภาพทางการเงิน มุ่งมั่นเก็บเงิน จากน้ำพักน้ำแรง มาลงทุน หวังไว้ว่า 15% ต่อ ปี อีก 5-10ปี จะได้ไม่ต้องทำงานหนัก เหมือนทุกวันนี้
มาลงทุนปีแรก
ผมคนนึงที่ใฝ่ฝันอยากมี อิสระภาพทางการเงิน มุ่งมั่นเก็บเงิน จากน้ำพักน้ำแรง มาลงทุน หวังไว้ว่า 15% ต่อ ปี อีก 5-10ปี จะได้ไม่ต้องทำงานหนัก เหมือนทุกวันนี้
มาลงทุนปีแรก
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2395
จดหมายจากวอร์เรน บัฟเฟตต์
Value Way, Oct 27, 08
:วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนเอกของโลกเขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ ฉบับวันที่ 17 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมาเกี่ยวกับกลยุทธ์การลงทุนของเขาในสถานการณ์ปัจจุบัน
โลกการเงินการธนาคารทั้งในอเมริกาและต่างประเทศกำลังประสบหายนะ มันเป็นปัญหาที่กำลังกระจายไปถึงเศรษฐกิจโดยรวม รูรั่วเล็กๆ ที่ตอนนี้กำลังจะกลายเป็นหลุมพรางขนาดใหญ่ ในระยะสั้นอัตราการว่างงานคงเพิ่มขึ้น และกิจกรรมทางธุรกิจคงชะลอตัว พาดหัวข่าวจะยังมีเรื่องน่ากลัวต่อไปเรื่อยๆ
ดังนั้น.....ตอนนี้ผมถึงได้ซื้อหุ้นในตลาดอเมริกา ที่ผมกำลังพูดถึงเป็นบัญชีซื้อขายหุ้นส่วนตัวของผม ที่ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้ลงทุนในอะไรเลยนอกจากพันธบัตรรัฐบาล (คำอธิบายนี้ไม่ได้รวมถึงหุ้นของ เบิร์กไชน์ที่ผมถืออยู่ที่ตอนนี้ได้มอบให้เพื่อการกุศลไปแล้ว) ถ้าตราบใดที่ราคาหุ้นยังน่าสนใจ ทรัพย์สินทั้งหมดของผมจะเป็นหุ้นในตลาดอเมริกา 100 เปอร์เซ็นต์ในเร็วๆ นี้
ทำไมนะหรือ? กฎง่ายๆ ของผม :จงกลัวเมื่อคนกำลังโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกำลังกลัว และที่แน่นอนที่สุดตอนนี้ความกลัวกำลังแผ่กระจายออกไป ไปจนถึงแม้กระทั่งนักลงทุนที่มีประสบการณ์ นักลงทุนมีสิทธิที่จะระแวงเมื่อเจอกับกิจการหรือธุรกิจที่มีหนี้สูง หรืออยู่ในตำแหน่งทางการแข่งขันที่อ่อนแอ แต่การที่จะระแวงถึงความรุ่งเรืองในระยะยาวของบริษัทที่แข็งแกร่งไม่เห็นจะเข้าท่าเลย แน่นอนว่ารายได้ของบริษัทต่างๆ ย่อมจะต้องเจอกับความไม่ราบรื่นบ้างเป็นธรรมดาของการทำธุรกิจ แต่บริษัทใหญ่ๆ ส่วนมากจะมีสถิติกำไรสูงสุดใหม่ในอีก 5 ปี 10 ปี และ 20 ปีนับจากนี้ไป
ขอผมชี้แจงเรื่องหนึ่งก่อนคือ ผมไม่สามารถทำนายการขึ้นลงของตลาดหุ้นในระยะสั้นๆ ได้ ผมไม่รู้แม้แต่นิดเดียวว่าหุ้นจะขึ้นหรือลงในระยะ 1 เดือนหรืออีก 1 ปีข้างหน้า แต่ที่น่าจะเป็นไปได้ก็คือตลาดหุ้นจะปรับตัวสูงขึ้นพอสมควรทีเดียวก่อนที่ความรู้สึกว่าเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้น ถ้าคุณมัวแต่รอฟังเสียงของนกโรบิน นั่นหมายความว่าฤดูใบไม้ผลิได้ผ่านไปแล้ว
พูดถึงประวัติศาสตร์กันสักนิดหน่อย ในระหว่างช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ (The Great Depression 1930) ดัชนีดาวน์โจนส์ ตกต่ำเหลือเพียง 41 จุดในวันที่ 8 กรกฎาคม 1932 สภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ลงเรื่อยๆ จนกระทั่ง แฟรงคลิน ดี รูสเวลล์ (Franklin D. Roosevelt) เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อเดือนมีนาคม 1933 และก่อนหน้านั้นตลาดปรับตัวขึ้นไปแล้ว 30 เปอร์เซ็นต์ หรือคิดย้อนไปสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนที่อะไรก็ไม่ดีไปเสียหมดสำหรับอเมริกา, ยุโรปและแปซิฟิก ตลาดหุ้นตกลงมาต่ำสุดในเดือนเมษายน 1942 นั่นคือก่อนที่ฝ่ายพันธมิตรจะชนะสงคราม อีกครั้งในตอนปี 1980 เวลาช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่จะซื้อหุ้น ตอนที่เงินเฟ้อกำลังทะยานและเศรษฐกิจกำลังทรุด กล่าวสั้นๆ ก็คือข่าวร้ายคือเพื่อนที่ดีที่สุดของนักลงทุน มันให้โอกาสคุณได้ซื้ออนาคตของอเมริกาในราคาที่มีส่วนลด
ในระยะยาวแล้วตลาดหุ้นจะมีแต่ข่าวดี ประเทศสหรัฐอเมริกาผ่านสงครามโลกมา 2 ครั้ง และปัญหาความขัดแย้งทางทหารที่อื่นๆ อีกหลายที่ เศรษฐกิจล่มสลายครั้งใหญ่ เศรษฐกิจถดถอยอีกหลายครั้ง เศรษฐกิจตกต่ำเพราะราคาน้ำมัน โรคไข้หวัดนก การลาออกที่น่าอดสูของประธานาธิบดีบางคน ถึงอย่างนั้นดัชนีดาวน์โจนส์ ยังปรับตัวไปจาก 66 ไปถึง 11,497 จุด คุณอาจจะคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่นักลงทุนจะขาดทุนในช่วงทศวรรษที่ตลาดปรับตัวขึ้นอย่างเหลือเชื่อ แต่นักลงทุนบางคนก็ยังขาดทุนในช่วงนั้นเพราะพวกเขาซื้อหุ้นตอนที่รู้สึกดีแล้วก็ขายขาดทุนเมื่อพาดหัวข่าวในหนังสือพิมพ์ทำให้พวกเขากลัว
วันนี้คนที่ถือเงินสดคงรู้สึกสบายใจ ทั้งที่จริงแล้วเขาไม่ควรคิดอย่างนั้นเลย เงินสดเป็นสินทรัพย์ที่แย่มากในระยะยาว มันแทบจะไม่ให้ผลตอบแทนอะไรเลยและมูลค่าก็มีแต่จะลดลงด้วย อันที่จริงนโยบายที่รัฐบาลกำลังดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาตอนนี้จะทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นและบั่นทอนมูลค่าที่แท้จริงของเงินสด หุ้นยังไงก็ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินสดในช่วงทศวรรษข้างหน้า อาจจะมากกว่าเยอะด้วย นักลงทุนที่กอดเงินสดไว้กำลังพนันว่าเขาสามารถคาดเวลาเหมาะๆ ที่จะเปลี่ยนเงินสดเป็นทรัพย์สินอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี ในระหว่างที่รอความสบายใจจากข่าวดี พวกเขาได้ละทิ้งคำแนะนำของนักฮอคกี้เวิร์น เกสกี้ (Wayne Gretzky) ที่ว่าผมไถลสเกตไปในที่ๆ ลูกฮอกกี้กำลังจะไป ไม่ใช่ขยับตัวไปที่ที่มันเคยไปมาแล้ว
ผมไม่ชอบให้ความเห็นเกี่ยวกับตลาดหุ้น และขอย้ำอีกครั้งว่าผมไม่รู้ว่าตลาดจะเป็นอย่างไรในระยะสั้น ถึงอย่างไรก็ตามผมเองชอบคำแนะนำของร้านอาหารที่เปิดในตึกของธนาคารที่เงียบเหงาที่โฆษณาว่า พูดอะไรไป ก็กล้าใช้เงินทำอย่างนั้นด้วย วันนี้ทั้งเงินผมและคำพูดผม ทั้งสองอย่างบอกว่า หุ้น
Value Way, Oct 27, 08
:วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนเอกของโลกเขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ ฉบับวันที่ 17 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมาเกี่ยวกับกลยุทธ์การลงทุนของเขาในสถานการณ์ปัจจุบัน
โลกการเงินการธนาคารทั้งในอเมริกาและต่างประเทศกำลังประสบหายนะ มันเป็นปัญหาที่กำลังกระจายไปถึงเศรษฐกิจโดยรวม รูรั่วเล็กๆ ที่ตอนนี้กำลังจะกลายเป็นหลุมพรางขนาดใหญ่ ในระยะสั้นอัตราการว่างงานคงเพิ่มขึ้น และกิจกรรมทางธุรกิจคงชะลอตัว พาดหัวข่าวจะยังมีเรื่องน่ากลัวต่อไปเรื่อยๆ
ดังนั้น.....ตอนนี้ผมถึงได้ซื้อหุ้นในตลาดอเมริกา ที่ผมกำลังพูดถึงเป็นบัญชีซื้อขายหุ้นส่วนตัวของผม ที่ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้ลงทุนในอะไรเลยนอกจากพันธบัตรรัฐบาล (คำอธิบายนี้ไม่ได้รวมถึงหุ้นของ เบิร์กไชน์ที่ผมถืออยู่ที่ตอนนี้ได้มอบให้เพื่อการกุศลไปแล้ว) ถ้าตราบใดที่ราคาหุ้นยังน่าสนใจ ทรัพย์สินทั้งหมดของผมจะเป็นหุ้นในตลาดอเมริกา 100 เปอร์เซ็นต์ในเร็วๆ นี้
ทำไมนะหรือ? กฎง่ายๆ ของผม :จงกลัวเมื่อคนกำลังโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกำลังกลัว และที่แน่นอนที่สุดตอนนี้ความกลัวกำลังแผ่กระจายออกไป ไปจนถึงแม้กระทั่งนักลงทุนที่มีประสบการณ์ นักลงทุนมีสิทธิที่จะระแวงเมื่อเจอกับกิจการหรือธุรกิจที่มีหนี้สูง หรืออยู่ในตำแหน่งทางการแข่งขันที่อ่อนแอ แต่การที่จะระแวงถึงความรุ่งเรืองในระยะยาวของบริษัทที่แข็งแกร่งไม่เห็นจะเข้าท่าเลย แน่นอนว่ารายได้ของบริษัทต่างๆ ย่อมจะต้องเจอกับความไม่ราบรื่นบ้างเป็นธรรมดาของการทำธุรกิจ แต่บริษัทใหญ่ๆ ส่วนมากจะมีสถิติกำไรสูงสุดใหม่ในอีก 5 ปี 10 ปี และ 20 ปีนับจากนี้ไป
ขอผมชี้แจงเรื่องหนึ่งก่อนคือ ผมไม่สามารถทำนายการขึ้นลงของตลาดหุ้นในระยะสั้นๆ ได้ ผมไม่รู้แม้แต่นิดเดียวว่าหุ้นจะขึ้นหรือลงในระยะ 1 เดือนหรืออีก 1 ปีข้างหน้า แต่ที่น่าจะเป็นไปได้ก็คือตลาดหุ้นจะปรับตัวสูงขึ้นพอสมควรทีเดียวก่อนที่ความรู้สึกว่าเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้น ถ้าคุณมัวแต่รอฟังเสียงของนกโรบิน นั่นหมายความว่าฤดูใบไม้ผลิได้ผ่านไปแล้ว
พูดถึงประวัติศาสตร์กันสักนิดหน่อย ในระหว่างช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ (The Great Depression 1930) ดัชนีดาวน์โจนส์ ตกต่ำเหลือเพียง 41 จุดในวันที่ 8 กรกฎาคม 1932 สภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ลงเรื่อยๆ จนกระทั่ง แฟรงคลิน ดี รูสเวลล์ (Franklin D. Roosevelt) เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อเดือนมีนาคม 1933 และก่อนหน้านั้นตลาดปรับตัวขึ้นไปแล้ว 30 เปอร์เซ็นต์ หรือคิดย้อนไปสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนที่อะไรก็ไม่ดีไปเสียหมดสำหรับอเมริกา, ยุโรปและแปซิฟิก ตลาดหุ้นตกลงมาต่ำสุดในเดือนเมษายน 1942 นั่นคือก่อนที่ฝ่ายพันธมิตรจะชนะสงคราม อีกครั้งในตอนปี 1980 เวลาช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่จะซื้อหุ้น ตอนที่เงินเฟ้อกำลังทะยานและเศรษฐกิจกำลังทรุด กล่าวสั้นๆ ก็คือข่าวร้ายคือเพื่อนที่ดีที่สุดของนักลงทุน มันให้โอกาสคุณได้ซื้ออนาคตของอเมริกาในราคาที่มีส่วนลด
ในระยะยาวแล้วตลาดหุ้นจะมีแต่ข่าวดี ประเทศสหรัฐอเมริกาผ่านสงครามโลกมา 2 ครั้ง และปัญหาความขัดแย้งทางทหารที่อื่นๆ อีกหลายที่ เศรษฐกิจล่มสลายครั้งใหญ่ เศรษฐกิจถดถอยอีกหลายครั้ง เศรษฐกิจตกต่ำเพราะราคาน้ำมัน โรคไข้หวัดนก การลาออกที่น่าอดสูของประธานาธิบดีบางคน ถึงอย่างนั้นดัชนีดาวน์โจนส์ ยังปรับตัวไปจาก 66 ไปถึง 11,497 จุด คุณอาจจะคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่นักลงทุนจะขาดทุนในช่วงทศวรรษที่ตลาดปรับตัวขึ้นอย่างเหลือเชื่อ แต่นักลงทุนบางคนก็ยังขาดทุนในช่วงนั้นเพราะพวกเขาซื้อหุ้นตอนที่รู้สึกดีแล้วก็ขายขาดทุนเมื่อพาดหัวข่าวในหนังสือพิมพ์ทำให้พวกเขากลัว
วันนี้คนที่ถือเงินสดคงรู้สึกสบายใจ ทั้งที่จริงแล้วเขาไม่ควรคิดอย่างนั้นเลย เงินสดเป็นสินทรัพย์ที่แย่มากในระยะยาว มันแทบจะไม่ให้ผลตอบแทนอะไรเลยและมูลค่าก็มีแต่จะลดลงด้วย อันที่จริงนโยบายที่รัฐบาลกำลังดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาตอนนี้จะทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นและบั่นทอนมูลค่าที่แท้จริงของเงินสด หุ้นยังไงก็ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินสดในช่วงทศวรรษข้างหน้า อาจจะมากกว่าเยอะด้วย นักลงทุนที่กอดเงินสดไว้กำลังพนันว่าเขาสามารถคาดเวลาเหมาะๆ ที่จะเปลี่ยนเงินสดเป็นทรัพย์สินอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี ในระหว่างที่รอความสบายใจจากข่าวดี พวกเขาได้ละทิ้งคำแนะนำของนักฮอคกี้เวิร์น เกสกี้ (Wayne Gretzky) ที่ว่าผมไถลสเกตไปในที่ๆ ลูกฮอกกี้กำลังจะไป ไม่ใช่ขยับตัวไปที่ที่มันเคยไปมาแล้ว
ผมไม่ชอบให้ความเห็นเกี่ยวกับตลาดหุ้น และขอย้ำอีกครั้งว่าผมไม่รู้ว่าตลาดจะเป็นอย่างไรในระยะสั้น ถึงอย่างไรก็ตามผมเองชอบคำแนะนำของร้านอาหารที่เปิดในตึกของธนาคารที่เงียบเหงาที่โฆษณาว่า พูดอะไรไป ก็กล้าใช้เงินทำอย่างนั้นด้วย วันนี้ทั้งเงินผมและคำพูดผม ทั้งสองอย่างบอกว่า หุ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 8
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามเรื่องสินค้าcomudity
โพสต์ที่ 2396
อยากถามเรื่องไซเคิลครับ ประมาณว่าลงทุนเหล็กดีกว่าทองไหม เช่นถ้าผมซื้อทองตอนนี้12000อีก3-4ปี ถ้าทองขึ้นไปถึง 18000ผมได้กำไร 50เปอร์เซ็นต์ แล้วถ้าตุนเหล็กล่ะครับ ตอนนี้เศษเหล็ก โลละ3บาท เมื่อต้นปีผมเคยเอาเศษเหล็กไปขายได้โลละ 17 บาท คือคิดว่าคุ้มกว่าซื้อทองปกติรอบของราคาเหล็กกี่ปีถึงจะมาครับแล้วดูสถิติได้จากไหนครับหรือซื้อหุ้นเหล็กดีกว่า
I am a pig from sampran.
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอถามเรื่องสินค้าcomudity
โพสต์ที่ 2398
ลองถามท่านประธาน"สามัญชน"ดูดีกว่าครับmousour เขียน:อยากถามเรื่องไซเคิลครับ ประมาณว่าลงทุนเหล็กดีกว่าทองไหม เช่นถ้าผมซื้อทองตอนนี้12000อีก3-4ปี ถ้าทองขึ้นไปถึง 18000ผมได้กำไร 50เปอร์เซ็นต์ แล้วถ้าตุนเหล็กล่ะครับ ตอนนี้เศษเหล็ก โลละ3บาท เมื่อต้นปีผมเคยเอาเศษเหล็กไปขายได้โลละ 17 บาท คือคิดว่าคุ้มกว่าซื้อทองปกติรอบของราคาเหล็กกี่ปีถึงจะมาครับแล้วดูสถิติได้จากไหนครับหรือซื้อหุ้นเหล็กดีกว่า
ท่านถนัดหุ้นวัฏจักร
อาจตอบคำถามเรื่องเหล็กได้ดีกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 20
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2400
Marry Buffet คงเขียนถูกต้องใช่ไหมคับเกี่ยวกับ W. Buffet ที่ว่า Buffet ไม่ได้ลงทุนในหุ้นทุกเมื่อเชื่อยาม(หมายถึงลงทุนซื้อหุ้นเพิ่ม) ในยามที่หุ้นแพงๆ เขาก็จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลกอดไว้ แล้ว Buffet จะเคลื่อนไหวจริงจังเมื่อ Mr.Market เสนอหุ้นในราคา sale สุดๆ ให้เขา
อันนี้หมายถึง "ราคาเป็นตัวกำหนดผลกำไร" ใช่ป่ะคับ
ขอถามพี่ๆ หน่อยน่ะคับว่าพอร์ตพี่ๆ มีหุ้นต่างประเทศหรือเปล่าคับ ถ้ามีแล้วตอนพี่ๆ หาข้อมูลต้องทำยังไงคับ
ปล. ติดตาม Value way ของพี่มนตรี พี่วิบูลย์ อยู่น่ะคับ คือผมไม่ค่อยได้อ่านกรุงเทพธุรกิจคับ อยากให้พี่ๆ เมตตารวมเป็นแล่มๆ ออกมาเรื่อยๆ จะเป็นพระคุณยิ่งคับ ^^
อันนี้หมายถึง "ราคาเป็นตัวกำหนดผลกำไร" ใช่ป่ะคับ
ขอถามพี่ๆ หน่อยน่ะคับว่าพอร์ตพี่ๆ มีหุ้นต่างประเทศหรือเปล่าคับ ถ้ามีแล้วตอนพี่ๆ หาข้อมูลต้องทำยังไงคับ
ปล. ติดตาม Value way ของพี่มนตรี พี่วิบูลย์ อยู่น่ะคับ คือผมไม่ค่อยได้อ่านกรุงเทพธุรกิจคับ อยากให้พี่ๆ เมตตารวมเป็นแล่มๆ ออกมาเรื่อยๆ จะเป็นพระคุณยิ่งคับ ^^
- As Albert Einstein said "God always takes the simplest way" -