777777777777
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
777777777777
โพสต์ที่ 3
เพราะ RPC "ดูเหมือน" ตรงโพรไฟล์ vi มังครับ และกำไร
ต่อหุ้น "ดูดี" ด้วย
สำหรับคนที่สนใจพลังงานตัวเล็ก SCG ก็ไม่เลวนะครับ
ที่ 3.60 บาทหรือต่ำกว่า และยังมี UMS ที่ต่ำกว่า 8 บาท
ถ้าตัวใหญ่ก็ EGCOMP ที่ต่ำกว่า 50 บาท
หุ้นพลังงานผมยอมไม่ซื้อครับ ถ้าราคาไม่ถูก
ต่อหุ้น "ดูดี" ด้วย
สำหรับคนที่สนใจพลังงานตัวเล็ก SCG ก็ไม่เลวนะครับ
ที่ 3.60 บาทหรือต่ำกว่า และยังมี UMS ที่ต่ำกว่า 8 บาท
ถ้าตัวใหญ่ก็ EGCOMP ที่ต่ำกว่า 50 บาท
หุ้นพลังงานผมยอมไม่ซื้อครับ ถ้าราคาไม่ถูก
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
777777777777
โพสต์ที่ 5
ผมพูดถึง yield อย่างเดียวครับคุณ hot
ผมไม่ค่อยเข้าใจธุรกิจเท่าไหร่ รู้แต่ว่า
ในธุรกิจการผลิตไฟฟ้าจำหน่ายนั้น โอกาส
ขาดทุนน้อยครับ แต่โอกาสโตกระโดดก็ไม่มี
เพราะต้นทุนต่างๆ เป็นที่รู้กันอยู่ทุกฝ่าย
ดีมานด์ก็ไม่สามารถเพิ่มแบบกระโดดได้สูงๆ
เพราะซัพพลายจำกัดเหมือนกัน
เพราะฉะนั้นวิธีที่เซฟที่สุดคือให้ดู yield เฉลี่ย
โดยให้มี margin of safety ดีกว่าหุ้นกู้ AAA
สัก 3-4% ถ้าไม่ได้ ไปซื้อหุ้นกู้เอาดีกว่า
ผมไม่ค่อยเข้าใจธุรกิจเท่าไหร่ รู้แต่ว่า
ในธุรกิจการผลิตไฟฟ้าจำหน่ายนั้น โอกาส
ขาดทุนน้อยครับ แต่โอกาสโตกระโดดก็ไม่มี
เพราะต้นทุนต่างๆ เป็นที่รู้กันอยู่ทุกฝ่าย
ดีมานด์ก็ไม่สามารถเพิ่มแบบกระโดดได้สูงๆ
เพราะซัพพลายจำกัดเหมือนกัน
เพราะฉะนั้นวิธีที่เซฟที่สุดคือให้ดู yield เฉลี่ย
โดยให้มี margin of safety ดีกว่าหุ้นกู้ AAA
สัก 3-4% ถ้าไม่ได้ ไปซื้อหุ้นกู้เอาดีกว่า
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
777777777777
โพสต์ที่ 7
1. รับโอนโรงไฟฟ้ามาจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิต
2. ดอกเบี้ยลด
3. ได้ค่าชดเชย
4. ได้ปันผลจากบริษัทลูก
ถ้าตัดความผันผวนพวกนี้ออกไปแล้วดูกันยาๆ
ควรจะคิดจาก yield เฉลี่ยเป็นหลักครับ การที่
จะหวังให้ธุรกิจจริงของโรงไฟฟ้าเติบโตแบบ
ก้าวกระโดดมันยากครับ -- โดยเฉพาะเมื่อเทียบ
กับธุรกิจอื่นๆ
2. ดอกเบี้ยลด
3. ได้ค่าชดเชย
4. ได้ปันผลจากบริษัทลูก
ถ้าตัดความผันผวนพวกนี้ออกไปแล้วดูกันยาๆ
ควรจะคิดจาก yield เฉลี่ยเป็นหลักครับ การที่
จะหวังให้ธุรกิจจริงของโรงไฟฟ้าเติบโตแบบ
ก้าวกระโดดมันยากครับ -- โดยเฉพาะเมื่อเทียบ
กับธุรกิจอื่นๆ