แนะนำหนังให้กำลังใจ ในยาม วิกฤติ

[crazyrisk]

เพื่อนๆมีหนังเรื่องไหนที่ดูแล้วได้กำลังใจไหมครับ

ผมขอเสนอ...

The Devil wear Prada

สารภาพว่า  ตอนดูรอบแรก ก็รู้สึกสนุกๆเฉยๆ

ไม่ได้มีอะไร

วันก่อน พอดูอีกที  ประทับใจมากครับ

โดยเฉพาะตอนที่นางเอก พยายามพร่ำบ่นว่า

ฉันมาทำงานที่นี่ เพราะต้องการเป็น journalist

ไม่ใช่พวกบ้า เฟอะฟะกับแฟชั่นที่ลวงตาหรอก

และก็บ่นตลอด  แต่ด้วยความที่คิด ว่า จะเอาชนะคำสบประมาทของ ป้า มิรันด้า  ก็เลย มีความกระตือรือร้น จนสามารถ ทำงานได้เข้าขา กับคำสั่งของป้าแกมากขึ้น

จนกระทั่งวันนึงที่มิรันด้า ต้องการได้ตั๋วเครื่องบินกลับ ด่วน
หลังจากถูกยกเลิกเที่ยวบิน เพราะพายุเข้า

นางเอกของเรา ก็ต้องยอมทิ้งมื้อสำคัญกับพ่อ เพื่อมาโทรศัพท์ตามหา ให้ควั่ก แต่แล้วก็ล้มเหลว  (แหงล่ะ พายุนี่นา )

พอมาถึงที่ทำงาน กลับเจอคำเหน็บแนมที่ไม่มีใครทำได้

จาก ป้า มิรันด้า...


นางเอกเดินไปร้องไห้ และบ่นโวยวายกลับ เกย์รุ่นพี่
บอกว่า "เอ๊ย  ไม่ทง ไม่ทำมันแล้ว งานแบบนี้
ใช่ว่า ชั้นอยากจะทำนักหรอกนะ "  
"มันยากนักเรอะไง ที่จะ บอกกับชั้นว่า  ชั้นขอบใจ เธอทำดีที่สุดแล้ว"  


แต่คำพูดของเกย์ที่ช่วยทำให้นางเอก ฟื้นและตื่นขึ้นมาจากความ เสียใจ ก็คือ

เกย์บอกว่า ที่เธอเสียใจน่ะ  เธอทำดีที่สุดแล้วเรอะไง

แอนดี้ บอกว่า " ใช่ ชั้นทำขนาดนี้ เนี่ย มากแล้วนะ"

เกย์บอกว่า " ไม่หรอก  เธอยังไม จริงจังกับงานเธอสักหน่อย"

จนสุดท้าย แอนดี้ เถียงไปเถียงมา  ก็จนมุมกับคำพูดของเกย์รุ่นพี่

" Are U Serious "  

เธอจริงจังกับงานของเธอจริงๆหรือไม่กันแน่




ใช่ครับ ในยามวิกฤต คนบาดเจ็บล้มตายกันเป็นระนาว
บางคน ออกมายืนด่า  รัฐบาล  ออกมาด่า คนนู้นคนนี้
บางทีเผลอด่า คนรอบข้าง....

แต่ถือเป็นบทเรียน แล้วกลับมาทบทวน
จดใส่ ไดอารี่     แล้วฟังเพลงของพี่บอยด์

"หากไม่รู้จักเจ็บปวด  ก็คงไม่ซึ้งถึงความสุขใจ"



มีหนังเรื่องอื่นแนะนำอีกไหมครับ

Inspiration Movie?

[bankniti]

ผมชอบ 8 Miles ที่ Eminem เล่นครับ ด่ากันไปกันมามันส์ดีครับ(แฮะ แฮะ) :lol: จริงๆ แล้วชอบตรงที่ดูแล้วรู้สึกว่าจะเข้ากับชีวิตจริงมากกว่าหนังเรื่องอื่นๆ โดยเฉพาะฉากจบ หากเป็นหนังเรื่องอื่น Eminem ตัวเอกอาจจะไปเป็นนักร้องแร็ปเงินล้านหรือเข้าสังกัดค่ายเพลงชื่อดัง แต่ไม่ใช่กับเรื่องนี้ เพราะฉากจบหลังจากที่ชนะการประชันแร็ปใต้ดิน Eminem ก็รีบกลับไปทำงานกะดึกที่โรงงานเหมือนเดิมเพื่อหาเงินเหมือนเดิม ผมว่ามันสะท้อนภาพความเป็นจริงในชีวิตของคนธรรมดาทั่วไปได้ดีกว่าเรื่องอื่นๆ ไม่เวอร์จนเกินไป

หลายคนในต่างจังหวัด ทำไร่ ทำสวน มีความฝันอยากเป็นนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง แม้จะร้องเพลงได้ดีหรือเสียงดีจริงๆ แต่มีสักกี่คนที่ได้สังกัดค่ายเทปและมีอัลบัมเป็นของตัวเอง การเข้าประกวดร้องเพลงตามงานต่างๆ เช่น งานประเพณีประจำจังหวัด แล้วได้รางวัลชนะเลิศมาก็ถือเป็นความสำเร็จ ความภาคภูมิใจในชีวิตได้แล้ว แต่หลังจากนั้นชีวิตก็เดินต่อไปตามวิถีทางของมัน ไม่ใช่ว่าชนะแล้วจะเลิกทำไร่ทำสวนมานั่งฝันนั่งรอว่าเดี๋ยวค่ายเทปก็จะมาติดต่อไปออกเทป

[por_jai]

ที่สุดแห่งหนังที่ให้กำลังใจสำหรับผม

[กูรูขอบสนาม]

เพิ่งฉายทางเคเบิ้ลเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง

[กูรูขอบสนาม]

เป็นหนังจอใหญ่ปีเตอร์ โอทูลเล่นก็แล้ว
เป็นละครเวทีก็แล้ว
ล่าสุด เปลี่ยนภาพเจมส์ ข้าวมันไก่ ไปเลย

[Akajon]

Cinderella Man (2005)

The Pursuit of Happyness (2006)

The Shawshank Redemption (1994)

ไม่น่าพลาดครับ

[Basketman]

มีหลายเรื่องที่ชอบดูแล้วมีแรงฮึดขึ้นมา..
หนึ่งในนั้นก็คือ...


แต่ถ้าดูแล้วฮึดอย่างว่าต้องไปถามเฮียปรัชญา...  :lol:

[crazyrisk]

[quote="Basketman"]

แต่ถ้าดูแล้วฮึดอย่างว่าต้องไปถามเฮียปรัชญา...

[Juninho]

life is beatiful

The Shawshank Redemption

green mile ผู้กำกับเดียวกับ ชอว์แชง รีเดมชั่น

[crazyrisk]

ตกลง The Shawshank Redemption  เขา ดูแล้วฮึดยังไงเหรอครับ

[miracle]

cast away
beautiful mind

[Akajon]

หนังมันเริ่มจาก Lost แล้วก็ Hope แล้วก็ Freedom ได้กำลังใจดีนะครับ

ลองอ่าน comment

Shawshank Redeems Hollywood, 27 August 2002

Author: Wesley S. Walker from Paducah, KY

http://www.imdb.com/title/tt0111161/usercomments

สื่อความรู้สึกจากหนังได้ดี

หนัง Top 250 Movies of All Times

http://www.imdb.com/chart/top

ปล Casablanca กับ Citizen Kane หนังค่อนข้างเก่า ดูแล้วเฉยๆ คงเพราะกำกับ กับมุมกล้องสู้สมัยนี้ไม่ได้ แต่เนื้อเรื่องก็โอเค

[...]

หมอเคคงหมายถึงดูแล้วฮึดอีกแบบนึงมากกว่ามั๊งครับ  :mrgreen:

[doodeemak]

จาก American Film Institute Press Release 100 อันดับหนัง  Most Inspirational Movies

ไม่รู้ว่าเคยดูกันครบทุกเรื่องยัง  :roll:  

1. "It's a Wonderful Life" (1946)

2. "To Kill a Mockingbird" (1962)

3. "Schindler's List" (1993)

4. "Rocky" (1976)

5. "Mr. Smith Goes to Washington" (1939)

6. "E.T. -- The Extra-Terrestrial" (1982)

7. "The Grapes of Wrath" (1940)

8. "Breaking Away" (1979)

9. "Miracle on 34th Street" (1947)

10. "Saving Private Ryan" (1998)

11. "The Best Years of Our Lives" (1946)

12. "Apollo 13" (1995)

13. "Hoosiers" (1986)

14. "The Bridge on the River Kwai" (1957)

15. "The Miracle Worker" (1962)

16. "Norma Rae" (1979)

17. "One Flew Over the Cuckoo's Nest" (1975)

18. "The Diary of Anne Frank" (1959)

19. "The Right Stuff" (1983)

20. "Philadelphia" (1993)

21. "In the Heat of the Night" (1967)

22. "The Pride of the Yankees" (1942)

23. "The Shawshank Redemption" (1994)

24. "National Velvet" (1944)

25. "Sullivan's Travels" (1941)

26. "The Wizard of Oz" (1939)

27. "High Noon" (1952)

28. "Field of Dreams" (1989)

29. "Gandhi" (1982)

30. "Lawrence of Arabia" (1962)

31. "Glory" (1989)

32. "Casablanca" (1942)

33. "City Lights" (1931)

34. "All the President's Men" (1976)

35. "Guess Who's Coming to Dinner" (1967)

36. "On the Waterfront" (1954)

37. "Forrest Gump" (1994)

38. "Pinocchio" (1940)

39. "Star Wars" (1977)

40. "Mrs. "Miniver" (1942)

41. "The Sound of Music" (1965)

42. "12 Angry Men" (1957)

43. "Gone With the Wind" (1939)

44. "Spartacus" (1960)

45. "On Golden Pond" (1981)

46. "Lilies of the Field" (1963)

47. "2001: A Space Odyssey" (1968)

48. "The African Queen" (1951)

49. "Meet John Doe" (1941)

50. "Seabiscuit" (2003)

51. "The Color Purple" (1985)

52. "Dead Poets Society" (1989)

53. "Shane" (1953)

54. "Rudy" (1993)

55. "The Defiant Ones" (1958)

56. "Ben-Hur" (1959)

57. "Sergeant York" (1941)

58. "Close Encounters of the Third Kind" (1977)

59. "Dances With Wolves" (1990)

60. "The Killing Fields" (1984)

61. "Sounder" (1972)

62. "Braveheart" (1995)

63. "Rain Man" (1988)

64. "The Black Stallion" (1979)

65. "A Raisin in the Sun" (1961)

66. "Silkwood" (1983)

67. "The Day the Earth Stood Still" (1951)

68. "An Officer and a Gentleman" (1982)

69. "The Spirit of St. "Louis" (1957)

70. "Coal Miner's Daughter" (1980)

71. "Cool Hand Luke" (1967)

72. "Dark Victory" (1939)

73. "Erin Brockovich" (2000)

74. "Gunga Din" (1939)

75. "The Verdict" (1982)

76. "Birdman of Alcatraz" (1962)

77. "Driving Miss Daisy" (1989)

78. "Thelma & Louise" (1991)

79. "The Ten Commandments" (1956)

80. "Babe" (1995)

81. "Boys Town" (1938)

82. "Fiddler on the Roof" (1971)

83. "Mr. Deeds Goes to Town" (1936)

84. "Serpico" (1973)

85. "What's Love Got to Do with It" (1993)

86. "Stand and Deliver" (1988)

87. "Working Girl" (1988)

88. "Yankee Doodle Dandy" (1942)

89. "Harold and Maude" (1972)

90. "Hotel Rwanda" (2004)

91. "The Paper Chase" (1973)

92. "Fame" (1980)

93. "A Beautiful Mind" (2001)

94. "Captains Courageous" (1937)

95. "Places in the Heart" (1984)

96. "Searching for Bobby Fischer" (1993)

97. "Madame Curie" (1943)

98. "The Karate Kid" (1984)

99. "Ray" (2004)

100. "Chariots of Fire" (1981)

[bankniti]

[quote="doodeemak"]จาก American Film Institute Press Release 100 อันดับหนัง

[crazyrisk]

[quote="bankniti"][quote="doodeemak"]จาก American Film Institute Press Release 100 อันดับหนัง

[ปรัชญา]

[quote="Basketman"]
แต่ถ้าดูแล้วฮึดอย่างว่าต้องไปถามเฮียปรัชญา...

[wr]

1. "It's a Wonderful Life" (1946)

นี่คือสุดยอดหนังให้กำลังใจครับ
เมื่อตัวเอกที่ทำความดีมาตลอดชีวิต ท้อแท้หมดกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่
และไม่สามารถเชื่อในการทำดีได้ดีอีกต่อไป
ตอนต้นดำเนินช้าๆ เข้มข้นขึ้นเรื่อย จนถึงไคลแมกซ์
ไม่เล่าทางออกของเรื่องนะครับ
เป็นหนังที่สปีลเบิร์กเอามาย้อนดูกระตุ้นตัวเองบ่อยๆ
ถูกเอาคอนเสปบางอย่างไปทำเป็น back to the future
ผมน้ำตาไหลให้เรื่องนี้

[wr]

2. "To Kill a Mockingbird" (1962)

เกี่ยวกับทนายผิวขาว ว่าความให้คนดำที่ต้องคดีทำร้ายคนขาว
ในยุคที่การแบ่งแยกสีผิวรุนแรงมาก
ผ่านมุมมองของเด็กเล็กๆ
ถูกลอกไปใช้เยอะ ดังนั้นทุกวันนี้ดูอาจไม่รู้สึกมากนัก

[wr]

3. "Schindler's List" (1993)

สำหรับผม สปีลเบอร์กทำหนังพวกนี้ไม่เก่ง มักจะไม่พอดี เกินๆขาดๆ
เลยดูแล้วงั้นๆ เรื่องโฮโลคอสท์ หนังเรื่องอื่นเข้าถึงใจมากกว่า

4. "Rocky" (1976)
อันนี้ได้กำลังใจดี ถึงซิลเวสเตอร์จะอมนวมพูดจนฟังไม่รู้เรื่องก็ตาม

[wr]

5. "Mr. Smith Goes to Washington" (1939)

คนกำกับ และตัวเอก เดียวกันกับอันดับที่หนึ่ง
เป็นเรื่องนักการเมืองน้ำดีหน้าใหม่ที่เจอวางยา
โดยกลุ่มนักการเมืองรุ่นเก่า
ต้องต่อสู้ตามลำพังในสภาเพื่อขัดขวางนโยบายชั่วร้าย
โดยใช้เทคนิคทางกฎหมายรัฐธรรมนูญ กับศรัทธาที่จะต่อสู้ยืดเยื้อ
ตอนจบหมดแรงตามเลยทีเดียว

[wr]

6. "E.T. -- The Extra-Terrestrial" (1982)
นี่มันหนังเด็กๆนะ ไม่มีผลอะไรกับความคิดผมเลย ก็สนุกดี

7. "The Grapes of Wrath" (1940)
นี่เป็นเรื่องในยุคเศรษฐกิจตกต่ำ 1929 ไล่มา ในอเมริกา
คงร้ายแรงมากยุคนั้น เพราะการเกษตรก็พังด้วย ชาวนาโดนยึดที่ดิน
เกิดการอพยพครั้งใหญ่ ไปอยู่เป็นชุมชนสลัม
จากชาวนามีที่กว้างๆ ไปเบียดกันอยู่สภาพราวกับสัตว์
มาจากนิยายที่ดังมาก ตัวเอกเป็นลูกชาวนา
โศกนาฏกรรมมากมาย ทั้งนายทุน อันธพาล เศรษฐกิจ ธรรมชาติ ที่ทารุณ
เอ แล้วกำลังใจจามาตอนไหนเนี่ย แต่ก็มีครับ

[wr]

11. "The Best Years of Our Lives" (1946)

ใครนึกว่่าสงครามโลกจบ ทุกอย่างจะสวยงาม
ทหารผ่านศึกกลับมาบ้านในอเมริกา
เพื่อจะพบว่าตัวเองได้สูญเสียอะไรไปหลายอย่าง
ทั้งเสียอวัยวะที่ทำให้ทำงานไม่ได้ ทั้งงานการที่ทิ้งไปและถูกคนรุ่นใหม่คว้าไป
ทั้งๆที่ได้ชื่อว่าเป็นวีรบุรุษ กลับไม่มีค่าพอแม้จะให้ได้งานดีๆทำ
อะไรจะเป็นกำลังใจให้สู้ต่อไปล่ะเนี่ย

[กูรูขอบสนาม]

คุณ wr ดูแต่หนังยุคคลาสสิคทั้งนั้นเลย
ไม่ทราบดูจากที่ไหนเพราะบางเรื่องคงไม่มีโอกาสมาฉายช่องเคเบิ้ลแน่ๆ

หนังหลายเรื่องที่ ลิสต์เบื้องต้น
บางเรื่องก็ไม่ค่อยเข้าใจว่า มันอินสปาย์อย่างไร
อย่าง "Saving Private Ryan"  " The Bridge of River Kwai":roll:
ดูแล้วหดหู่  

บางเรื่องก็หวานแหว๋ว เช่น ทหารเรือกับสาวโรงงาน
ใน The Officer and Gentleman
หรือรักมีอุปสรรคเพราะสงครามหรือเชื้อชาติเช่น Casablanca
อย่าง Killing Field, Hotel Rwanda, Ghandi, Diary of Anne Frank
เอ้ารวม Schindler's List ด้วย
อาจจะให้เหตุผลเรื่องมนุษยธรรมไร้พรมแดนอะไรทำนองนั้นก็ก็ได้

หลายเรื่องทำให้เข้าใจมนุษย์มากขึ้น ไม่รู้จะอินสปาย์หรือเปล่า
แต่ดูแล้ว อิน แน่ๆ อย่าง Driving Miss Daisy
เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างคุณนายเดซี่ผิวขาวและคนขับรถผิวดำผู้ไม่รู้หนังสือ
คุณนายเดซี่จึงสอนให้โดยไม่รังเกียจ
กระทั่งตอนหลังคุณนายเริ่มความจำเสื่อมต้องเข้าไปพักอยู่บ้านคนชรา
ก็มีคนขับรถคนเดิมนี่แหละไปเยี่ยมเยือนสม่ำเสมอ

Rainman ตัวเอกของเรื่องเป็นออสทิสติก
ทำให้เราเข้าใจว่าธรรมชาติของคนประเภทนี้จะเก่งเรื่องตัวเลขมาก
แต่อย่าให้นำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันเชียวล่ะ

หนังที่อินสปายทำให้เรารู้สึกโลกน่าอยู่ขึ้น มีความหวังขึ้น
It's a wonderful life (ฉายช่วงคริสต์มาสทุกปี)
Life is beautiful หัวเราะให้กับโลกได้แม้วันสุดท้ายของชีวิตจะมาถึง
Forrest Gump ความซื่อบื้อไร้เดียงสาที่ไม่เคยเป็นพิษเป็นภัยกับใคร


หนังอินสปาย ปลุกใจให้ฮึกเหิม เราจะไม่แพ้แม้ด้อยกว่า
Seabiscuit ม้าแคระที่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคจนได้ชัยชนะ
Chariots of Fire สปิริตนักวิ่งในเกมส์แข่งขันระดับชาติ
Dead Poet 's Society ครูผู้ปลุกประกายแววกวีของนักเรียน
Stand and Deliver ครู-นักเรียนฮึดสู้ในวิชาคณิตศาสตร์
ท้าทายกับสายตาที่หมิ่นแคลนจากสาธารณะชน
Miracle Worker เรื่องของ เฮเลน เคลเลอร์
ผู้พิการซ้ำซ้อนทั้งตาบอดและหูหนวก
ความจริงน่าจะมีอีกเรื่องคือ My Left Footศิลปินผู้ใช้เท้าข้างเดียวขรรโลงงานศิลปะให้โลกชม


ส่วนที่อินสปายน่ารักๆ ไม่คิดอะไรมากนอกจากชื่นชมจินตนาการของคนสร้าง
ก็ Babe,  ET, Wizard of Oz หรือหนังเพลงเพราะอย่าง
The Sound of Music, Fiddle on the Roofเอาเบาะๆแค่นี้ก่อน

[wr]

ถ้าท่านกูรูสนใจเรื่องไหน ผมจะส่งไปให้ด้วยความระริกระรี้เลยครับ
พีเอ็มมาบอกว่าจาให้ส่งไปที่ไหนนะครับ

14. "The Bridge on the River Kwai" (1957)
หนังดีจากอังกฤษ
ผมเดาว่าเป็นเรื่องกำลังใจของเชลยศึกพันธมิตรในค่ายญี่ปุ่น
ที่พยายามรักษาเกียรติและทำให้ญี่ปุ่นต้องนับถือ
ด้วยการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแควอันยากยิ่ง ทว่า....

เพลงเพราะมากครับเรื่องนี้

[wr]

17. "One Flew Over the Cuckoo's Nest" (1975)

แจ๊คนิโคลสันที่ยังหนุ่มและมีผม เป็นอาชญากรที่แสร้งบ้าเข้าไปอยู่ในโรงบาล
โดยคิดว่าคงดีกว่าในคุก แต่มันจะจริงหรือ
สิ่งที่พบกลับเต็มไปด้วยการกดขี่ บีบคั้น ต่อเหล่าคนบ้าติงต๊อง
เขาเลยต้องขบถสู้เพื่อตัวเอง และคนบ้าอื่นๆ
จนเกือบนาทีสุดท้ายของหนัง ผมถึงได้เห็นแวบของกำลังใจ

[wr]

21. "In the Heat of the Night" (1967)

เราคงต้องการโคตรกำลังใจแน่ๆ
ถ้าเราเป็นนายตำรวจผิวดำในยุคโน้น
ที่ต้องไปจับผู้ร้ายผิวขาวที่มีอิทธิพล
ในถิ่นที่ไม่ได้รักใคร่คนดำอยู่แล้ว
เป็นกำลังใจสำหรับสภาวะตื่นเต้นตึงเครียดครับ

[wr]

25. "Sullivan's Travels" (1941)

หนังผดุงคุณธรรมแบบเบาสมอง
เมื่อผู้กำกับไฮโซ จะทำหนังชีวิตของกระยาจก
เลยอุตส่าห์ปลอมตนเข้าไปในสังคมอันหดหู่นั้น
กลายเป็นการผจญภัย และโรแมนซ์ อันสนุกสนาน
โดยมีผู้ร้ายตัวจริงเป็นคนชั้นสูงแบบตัวเอง
ดูจบแล้วสบายอารมณ์เชียว
หนังเรื่องนี้มีผู้กำกับสองคน ที่ชอบแทคทีมสร้างหนังดีๆเยอะมากครับ

[wr]

24. "National Velvet" (1944)

อยากเห็นอลิซาเบธ เทย์เลอร์(เป็นควีนของคุณบรรหาร)
ในวัย สิบขวบมั้ยครับ สวยจนน่ากลัวครับ
เป็นกำลังใจสำหรับเด็กที่อยากทำเรื่องใหญ่ให้สำเร็จ
เกินผู้ใหญ่จะคาดถึง คือเธอจะเป็นจ๊อกกี้ระดับชาติน่ะครับ

26. "The Wizard of Oz" (1939

อันนี้สอนใจเด็กได้ครับ
โดยตัวละครที่ ไร้ความกล้า หนึ่ง
ไร้สมองหนึ่ง ไร้หัวใจมั้ง อีกหนึ่ง
และพวกเขาต้องรวมกันเพื่อสู้กับแม่มดใจร้ายเสียอีก
เพลงเพราะๆจากยุคทองของมิวสิคัล โดยจูดี้ การ์แลนด์

[wr]

27. "High Noon" (1952)

อะโห นี่แหละหนังคาวบอยให้กำลังใจชั้นดี
นายอำเภอวัยกลางคนของเรา
ต้องเผชิญกับเหล่าผู้ร้ายที่เขาเคยจับยัดเข้าคุกหลายปีก่อน
จนบ้านเมืองสงบสุขอยู่พักใหญ่
พวกมันพ้นโทษมาเพื่อล้างแค้น มีกำหนดถึงเมืองตอนเที่ยงตรง(คุ้นมั้ย)
โดยชาวบ้านทุกคนกลับหดหัว ปล่อยให้เขาสู้ตามลำพัง!
แม้แต่นางเอกเกรซเคลลี่ ยังไม่เข้าใจว่าเขาจะอยู่สู้ไปทำไม
เพลงประกอบ "อย่าทิ้งฉันไปเลย ที่รักจ๋า" ช่างเพราะจับใจ