คิดว่า หนังสือ พ่อรวยสอนลูก มีผลกับ การพังของ ศก USA ไหมครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 37
- ผู้ติดตาม: 0
คิดว่า หนังสือ พ่อรวยสอนลูก มีผลกับ การพังของ ศก USA ไหมครับ
โพสต์ที่ 2
ผมรู้สึกว่าคนที่อ่านเริ่ม อาศัยความสะบายกันมากขึ้น
บางครั้งกะไม่พยายามอะไรเลย บอกขอเหนื่อยครั้งเดียวกุสบายมีคนอื่นทำงานหาเงินให้
ซึ่งผมคิดว่าเป็งความเข้าใจที่ผิดๆๆ
คนเราต้องพยายามบ้าง เรียนรู้เอาตัวรอดตลอดเวลา ไม่งั้นซักวันก้ล่มจมได้เหมือนกัน
ผมว่าธุรกิจเครือข่ายบางอัน ก็อาศัยจุดบกพร่องนี้แหละ
ดังคำนิยามที่ว่า ถ้าเราจะล่อหนู เราก็เอาอาหารมาล่อ เตรียมกับดักไว้
เดี่ยวหนูก็มาติดกับดักเองแหละ
ผิดพลาดประการก็โต้แย้งมาได้นะครับ
บางครั้งกะไม่พยายามอะไรเลย บอกขอเหนื่อยครั้งเดียวกุสบายมีคนอื่นทำงานหาเงินให้
ซึ่งผมคิดว่าเป็งความเข้าใจที่ผิดๆๆ
คนเราต้องพยายามบ้าง เรียนรู้เอาตัวรอดตลอดเวลา ไม่งั้นซักวันก้ล่มจมได้เหมือนกัน
ผมว่าธุรกิจเครือข่ายบางอัน ก็อาศัยจุดบกพร่องนี้แหละ
ดังคำนิยามที่ว่า ถ้าเราจะล่อหนู เราก็เอาอาหารมาล่อ เตรียมกับดักไว้
เดี่ยวหนูก็มาติดกับดักเองแหละ
ผิดพลาดประการก็โต้แย้งมาได้นะครับ
ชีวิตนี้สั้นนัก ทำความดีไว้เถิด
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
คิดว่า หนังสือ พ่อรวยสอนลูก มีผลกับ การพังของ ศก USA ไหมครับ
โพสต์ที่ 3
ก็มีส่วนครับ เพราะตลาดพังคราวนี้มาจากอสังหา ที่มีพฤติกรรมคล้ายๆตัวอย่างในหนังสือ
แต่ในมุมกลับกัน หนังสืออาจจะเขียนจากพฤติกรรมจริงของคนเมกันก็ได้นะครับ
อย่างนี้ต้องเอานโยบายอยู่อย่างพอเพียงไปให้คนที่นั่นอ่านมั่งครับ
แต่ในมุมกลับกัน หนังสืออาจจะเขียนจากพฤติกรรมจริงของคนเมกันก็ได้นะครับ
อย่างนี้ต้องเอานโยบายอยู่อย่างพอเพียงไปให้คนที่นั่นอ่านมั่งครับ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
คิดว่า หนังสือ พ่อรวยสอนลูก มีผลกับ การพังของ ศก USA ไหมครับ
โพสต์ที่ 4
ผมว่าคนเรามองอะไรไม่เหมือนกันนะครับ
บางคนมองว่า ปากกาด้ามนี้ เขียนลื่นดี
บางคนบอกว่า ปากกาด้ามนี้ ทันเล็กเกินไป
บางคนมองว่า ปากกาด้ามนี้ มีไว้ทำไม
...บางคนมองว่า ปากกาด้ามนี้นั้นมีไว้ เพื่อประโยชน์แก่คนทุกคน
...มุมมองต่างกัน แต่อยู่ร่วมกันด้ครับ
โดยส่วนตัวอยากบอกว่า ผมอ่าน richdad มาก่อน จนพอมีความรู้ด้านการเงินกับเค้าครับ
ผมว่า หนังสือด้านนี้เน้นเรื่องการสร้างความฉลาดทางการเงินครับ
แล้วก็บอกว่า เราสามารถบริหารเงินที่ได้จาก active income ให้กลายเป็น passive income ซึ่งนั่นหมายความว่าเค้าอยากให้คนเรามี ความฉลาดทางการเงิน มากขึ้นครับ
เพราะเดิมคนจะมองว่า ไปทำงานนะ ทำเยอะๆ แล้วจะได้เงิน
แล้วจะได้มาซื้อของ
การคิดแค่นั้นมันไม่พอครับ
ดังนั้นเค้าจึงสอนเรื่อง the richest man in babylon ครับ
เค้าบอกว่า จริงๆเราควรมีเงินเก็บลืม 10 % เก็บไว้ในยามฉุกเฉิน
อีก 20% สำหรับจ่ายหนี้(ไม่ควรให้ก่อหนี้เกินไป)
อีก 70% ไว้ใช้จ่าย และอาจนำไปลงทุน ใน 3 สินทรัพย์
นั่นคือ
1.ธุรกิจ
2.อสังหาฯ
3.หุ้น
ซึ่งจริงๆ เค้าสอนเรื่องความพอดีมาก่อนแล้วครับ
มันอยู่ที่คนใช้มากกว่า
ตอนนี้ก็มี clip ของ Robert K. ใน web นะครับ
ลองดูครับ
www.richdad.com
ส่วนอันนี้ก็เป็น web ของพี่หนุ่มกับเพื่อนๆที่ชอบ richdad ครับ
http://www.richdadthai.com/
มันแล้วแต่มุมมองครับ
ถ้าเราโทษคนนู้นคนนี้ เราก็จะได้แต่ข้อติฉิน นินทา
แต่ถ้าเรานำสิ่งดีๆกลับมาศึกษา
เราจะได้อะไรดีๆอีกมากมายครับ
มีความสุขกับวันพักผ่อนนะครับผม :D
บางคนมองว่า ปากกาด้ามนี้ เขียนลื่นดี
บางคนบอกว่า ปากกาด้ามนี้ ทันเล็กเกินไป
บางคนมองว่า ปากกาด้ามนี้ มีไว้ทำไม
...บางคนมองว่า ปากกาด้ามนี้นั้นมีไว้ เพื่อประโยชน์แก่คนทุกคน
...มุมมองต่างกัน แต่อยู่ร่วมกันด้ครับ
โดยส่วนตัวอยากบอกว่า ผมอ่าน richdad มาก่อน จนพอมีความรู้ด้านการเงินกับเค้าครับ
ผมว่า หนังสือด้านนี้เน้นเรื่องการสร้างความฉลาดทางการเงินครับ
แล้วก็บอกว่า เราสามารถบริหารเงินที่ได้จาก active income ให้กลายเป็น passive income ซึ่งนั่นหมายความว่าเค้าอยากให้คนเรามี ความฉลาดทางการเงิน มากขึ้นครับ
เพราะเดิมคนจะมองว่า ไปทำงานนะ ทำเยอะๆ แล้วจะได้เงิน
แล้วจะได้มาซื้อของ
การคิดแค่นั้นมันไม่พอครับ
ดังนั้นเค้าจึงสอนเรื่อง the richest man in babylon ครับ
เค้าบอกว่า จริงๆเราควรมีเงินเก็บลืม 10 % เก็บไว้ในยามฉุกเฉิน
อีก 20% สำหรับจ่ายหนี้(ไม่ควรให้ก่อหนี้เกินไป)
อีก 70% ไว้ใช้จ่าย และอาจนำไปลงทุน ใน 3 สินทรัพย์
นั่นคือ
1.ธุรกิจ
2.อสังหาฯ
3.หุ้น
ซึ่งจริงๆ เค้าสอนเรื่องความพอดีมาก่อนแล้วครับ
มันอยู่ที่คนใช้มากกว่า
ตอนนี้ก็มี clip ของ Robert K. ใน web นะครับ
ลองดูครับ
www.richdad.com
ส่วนอันนี้ก็เป็น web ของพี่หนุ่มกับเพื่อนๆที่ชอบ richdad ครับ
http://www.richdadthai.com/
มันแล้วแต่มุมมองครับ
ถ้าเราโทษคนนู้นคนนี้ เราก็จะได้แต่ข้อติฉิน นินทา
แต่ถ้าเรานำสิ่งดีๆกลับมาศึกษา
เราจะได้อะไรดีๆอีกมากมายครับ
มีความสุขกับวันพักผ่อนนะครับผม :D
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 234
- ผู้ติดตาม: 0
คิดว่า หนังสือ พ่อรวยสอนลูก มีผลกับ การพังของ ศก USA ไหมครับ
โพสต์ที่ 5
ผมว่ามีส่วนเหมือนกันครับ
หนังสือ Rich Dad series สะท้อนแนวคิดที่เน้นการก่อหนี้ เพื่อการลงทุน เพิ่ม leverage ให้มากที่สุด เพื่อจะได้กำไรมากและเร็วที่สุด โดยไม่ค่อยกล่าวถึง downside risk เป็นแนวคิดที่ผมต่อต้านตั้งแต่เริ่มอ่านแล้ว (แต่ก็ยังอ่านเกือบครบทุกเล่ม)
แต่ข้อดีของหนังสือเล่มนี้ก็อย่างที่ว่า ช่วยเพิ่ม financial knowledge โดยเฉพาะกับผมซึงเพิ่งเริ่มทำงานครับ
หนังสือ Rich Dad series สะท้อนแนวคิดที่เน้นการก่อหนี้ เพื่อการลงทุน เพิ่ม leverage ให้มากที่สุด เพื่อจะได้กำไรมากและเร็วที่สุด โดยไม่ค่อยกล่าวถึง downside risk เป็นแนวคิดที่ผมต่อต้านตั้งแต่เริ่มอ่านแล้ว (แต่ก็ยังอ่านเกือบครบทุกเล่ม)
แต่ข้อดีของหนังสือเล่มนี้ก็อย่างที่ว่า ช่วยเพิ่ม financial knowledge โดยเฉพาะกับผมซึงเพิ่งเริ่มทำงานครับ
"Many shall be restored that are now fallen and many shall fall that are now in honor."
-
- Verified User
- โพสต์: 149
- ผู้ติดตาม: 0
คิดว่า หนังสือ พ่อรวยสอนลูก มีผลกับ การพังของ ศก USA ไหมครับ
โพสต์ที่ 6
มีผลโดยตรงแน่นอนครับ
ผมใช้เมื่อซักเจ็ดปีก่อนได้ผล
แต่เป็นเพราะคนยังใช้ไม่เยอะมาก
พอคนใช้มากก็จะพังครับ
เพราะดีมานด์จะค่อยๆผลักดันราคาให้แพงเป็นมาตรฐานใหม่
ซัพพลายจะค่อยๆเพิ่มเพราะราคาดี
ที่สุดก็ต้องลงเอยแบบนี้ เป็นธรรมชาติครับ
ผมใช้เมื่อซักเจ็ดปีก่อนได้ผล
แต่เป็นเพราะคนยังใช้ไม่เยอะมาก
พอคนใช้มากก็จะพังครับ
เพราะดีมานด์จะค่อยๆผลักดันราคาให้แพงเป็นมาตรฐานใหม่
ซัพพลายจะค่อยๆเพิ่มเพราะราคาดี
ที่สุดก็ต้องลงเอยแบบนี้ เป็นธรรมชาติครับ
- kornjackrit
- Verified User
- โพสต์: 1524
- ผู้ติดตาม: 0
คิดว่า หนังสือ พ่อรวยสอนลูก มีผลกับ การพังของ ศก USA ไหมครับ
โพสต์ที่ 7
เห็นด้วยกับคุณ noooon010 ครับ
ผมว่าจริงๆก็คงมีผลนะครับ
แต่สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับตัวเราด้วยละครับ
ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ดีขนาดไหน
ถ้าใช้ไม่ถูกวิธี ไม่ถูกทาง ก็ไม่เกิดประโยชน์
และอาจจะเกิดโทษด้วยอีกต่างหาก
เหมือนมีดครับ
ถ้าใช้ไม่ถูกวิธี หรือไม่เหมาะสม
เ่ช่น ใช้เอาไปทำร้ายคนอื่น เราก็ติดคุก
แต่ถ้าใช้อย่างถูกต้อง หรือเหมาะสม
เช่น ใช้หั่นผัก ผลไม้ไว้รับประัทาน เราก็จะมีสุขภาพแข็งแรง
หนังสือ Rich Dad Poor Dad ก็เช่นกัน
ถ้าผู้ือ่านนำแนวคิดที่ได้ไปประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม
ผมเชื่อว่าผู้อ่านท่านนั้นต้องได้ประโยชน์อย่างมหาศาล
ในทางกลับกัน ถ้าเอาความโลภเป็นที่ตั้ง หรือนำไปใช้โดยไม่ศึกษา
อย่างรอบคอบเสียก่อน ผลสุดท้ายกคงจะเลวร้าย อย่างที่เกิดขึ้นในปัจจุบันครับ
:roll: :roll:
ผมว่าจริงๆก็คงมีผลนะครับ
แต่สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับตัวเราด้วยละครับ
ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ดีขนาดไหน
ถ้าใช้ไม่ถูกวิธี ไม่ถูกทาง ก็ไม่เกิดประโยชน์
และอาจจะเกิดโทษด้วยอีกต่างหาก
เหมือนมีดครับ
ถ้าใช้ไม่ถูกวิธี หรือไม่เหมาะสม
เ่ช่น ใช้เอาไปทำร้ายคนอื่น เราก็ติดคุก
แต่ถ้าใช้อย่างถูกต้อง หรือเหมาะสม
เช่น ใช้หั่นผัก ผลไม้ไว้รับประัทาน เราก็จะมีสุขภาพแข็งแรง
หนังสือ Rich Dad Poor Dad ก็เช่นกัน
ถ้าผู้ือ่านนำแนวคิดที่ได้ไปประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม
ผมเชื่อว่าผู้อ่านท่านนั้นต้องได้ประโยชน์อย่างมหาศาล
ในทางกลับกัน ถ้าเอาความโลภเป็นที่ตั้ง หรือนำไปใช้โดยไม่ศึกษา
อย่างรอบคอบเสียก่อน ผลสุดท้ายกคงจะเลวร้าย อย่างที่เกิดขึ้นในปัจจุบันครับ
:roll: :roll:
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
คิดว่า หนังสือ พ่อรวยสอนลูก มีผลกับ การพังของ ศก USA ไหมครับ
โพสต์ที่ 8
ผมว่า มันเหมือนกับตอนที่พวกเรา ลงทุนหุ้น แล้วคนอื่นๆบอกว่า ระวังเจ๊งน่ะครับ
เพราะเค้าไม่เข้าใจว่า การลงทุนคืออะไร
TFEX ก็เช่นกัน มันมีทั้งข้อดี - ข้อเสีย
ต้องมองให้ออกครับ
ทุกสิ่งมีดี มีร้าย มีคนชอบ และไม่ชอบ
ความคิดเห็นผมก็เช่นกัน
ผมเชื่อเช่นนั้นครับ
ดังนั้นผมขอฝากหลัก กาละมสูตรไว้นะครับ :D
http://www.dopa.go.th/religion/tammar.html
เพราะเค้าไม่เข้าใจว่า การลงทุนคืออะไร
TFEX ก็เช่นกัน มันมีทั้งข้อดี - ข้อเสีย
ต้องมองให้ออกครับ
ทุกสิ่งมีดี มีร้าย มีคนชอบ และไม่ชอบ
ความคิดเห็นผมก็เช่นกัน
ผมเชื่อเช่นนั้นครับ
ดังนั้นผมขอฝากหลัก กาละมสูตรไว้นะครับ :D
http://www.dopa.go.th/religion/tammar.html
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 1088
- ผู้ติดตาม: 0
คิดว่า หนังสือ พ่อรวยสอนลูก มีผลกับ การพังของ ศก USA ไหมครับ
โพสต์ที่ 9
แน่นอนเลยครับสมัยอยู่อเมริกาผมก็เห็นคนแห่ไปเก็งกำไรบ้านกันเพราะนายนี่แหล่ะครับ
หนังสือนี่เขียนเหมือนกับว่าเงินนี่หามาได้ง่ายๆแต่ไม่ค่อยเตือนถึงเรื่่อง downside ของธุรกิจต่างๆ
แต่จะว่าไปหนังสือนี้ผมว่าอยู่ในหมวด การกระตุ้น inspiration มากกว่าหนังสือธุรกิจ
หนังสือนี่เขียนเหมือนกับว่าเงินนี่หามาได้ง่ายๆแต่ไม่ค่อยเตือนถึงเรื่่อง downside ของธุรกิจต่างๆ
แต่จะว่าไปหนังสือนี้ผมว่าอยู่ในหมวด การกระตุ้น inspiration มากกว่าหนังสือธุรกิจ
- songwit
- Verified User
- โพสต์: 279
- ผู้ติดตาม: 0
คิดว่า หนังสือ พ่อรวยสอนลูก มีผลกับ การพังของ ศก USA ไหมครับ
โพสต์ที่ 10
ผมคิดว่าไม่ใช่ครับ ตรงกันข้ามหนังสือได้บอกก่อนด้วยว่าเศรษฐกิจ US จะพังคิดว่า หนังสือ พ่อรวยสอนลูก มีผลกับ การพังของ ศก USA ไหมครับ
ผู้เขียนบอกเสมอว่ามีขึ้นก็มีลง เศรษฐกิจขาขึ้นก็มีขาลง
ซึ่งผมคิดว่าเวลานี้ โรเบิร์ต(ผู้เขียน) คงกำลังทำตามหนังสือที่เขาเขียน
คือกำลังซื้ออสังหา ราคาถูกมากมายและกู้เงินทุกรูปแบบที่สามารถกู้ได้มาซื้อ
จนหมดportเลยครับ
แถมดีกว่าหุ้นอีกเพราะอะไร....?
1.ลดครึ่งราคา ดีเท่าหุ้น PB<1
2.ซื้อโรงแรม1หลังใช้เงินดาวส์แค่20% แต่หุ้นต้องวางเงิน100%
ขอบคุณที่อ่านครับ
- u4321603
- Verified User
- โพสต์: 81
- ผู้ติดตาม: 0
คิดว่า หนังสือ พ่อรวยสอนลูก มีผลกับ การพังของ ศก USA ไหมครับ
โพสต์ที่ 11
ในความเห็นของผม หนังสือ Rich Dad Poor Dad นั้นเปรียบได้กับเมล็ดพันธุ์ทางความคิดมากกว่าครับ ซึ่งคนแต่ละคนจะแตกแขนงไปในทางไหน และเอาไปประยุกต์ใช้อย่างไรมันแล้วแต่บุคลครับ อย่างเช่น ข้าวสารมันก็คือข้าวสารวันยังคำ เพียงแต่ว่าเราจะเอามันไปกระกอบอาหารอย่างไร เช่น ข้าวต้ม ข้าวสวย แป้ง ขนมปัง ฯ แล้วแต่ความชอบและความเหมาะสมของแต่ละบุคลครับ
"The Pursuit of Happyness"
Money = Time x VI
Money = Time x VI
- saleman
- Verified User
- โพสต์: 164
- ผู้ติดตาม: 0
คิดว่า หนังสือ พ่อรวยสอนลูก มีผลกับ การพังของ ศก USA ไหมครับ
โพสต์ที่ 12
เห็นด้วยครับ..... อ่านแล้วมีแรงบรรดาลใจเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรมองตัวเราด้วยว่าเราเหมาะแบบไหน ที่สำคัญอย่าลืมนำสิ่งที่พระเจ้าอยู่หัว ทรงสอนกับพวกเราว่า ให้รู้จักพอเพียง มาเป็นภูมิคุ้มกันให้กับชีวิตเรา.chaichat เขียน:แน่นอนเลยครับสมัยอยู่อเมริกาผมก็เห็นคนแห่ไปเก็งกำไรบ้านกันเพราะนายนี่แหล่ะครับ
หนังสือนี่เขียนเหมือนกับว่าเงินนี่หามาได้ง่ายๆแต่ไม่ค่อยเตือนถึงเรื่่อง downside ของธุรกิจต่างๆ
แต่จะว่าไปหนังสือนี้ผมว่าอยู่ในหมวด การกระตุ้น inspiration มากกว่าหนังสือธุรกิจ
รายได้เยอะไม่รู้จักเก็บสักวันก็หมด
รายได้น้อยถ้ารู้จักเก็บรู้จักใช้ก็ไม่มีวันจน
เงิน 1 บาทในกระเป๋าเราย่อมมีค่ามากกว่า เงิน 100 บาทในกระเป๋าคนอื่น
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
L O N G
L O N G
-
- Verified User
- โพสต์: 1922
- ผู้ติดตาม: 0
คิดว่า หนังสือ พ่อรวยสอนลูก มีผลกับ การพังของ ศก USA ไหมครับ
โพสต์ที่ 14
มันพังเพราะ ความโลภ(อยากได้ผลตอบแทนสูงมาก)+ความโง่(ไม่รอบคอบ
กับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น) มากกว่าครับ ไม่ใช่จากหนังสือ richdad หรอกครับ
หลักๆคือ สถาบันการเงินไม่ว่าจะเป็นบ.ประกัน หรือ แบงค์ ได้รับแรงกดดันใน
การที่จะทำกำไรให้ได้ดีในยุคที่fedลดดอกเบี้ยต่ำมากหลังเกิด 911 เพื่อดัน
ตลาดหุ้น โดยการปล่อยเงินกู้ให้กับคนที่ไม่มีรายได้ ไม่มีงานทำ แล้วคิด
ดอกเบี้ยในอัตราสูง พอบางทีทำแล้วมีกำไรทางบัญชีในงบดี ก็ทำกันมาก
ขึ้นๆ เพื่อไม่ยอมให้น้อยหน้ากัน จนกระทั่ง อยากได้กำไรมากขึ้นไปอีก เงินตัว
เองเริ่มไม่พอ ก็ใช้วิธี leverage โดยที่สถาบันการเงินใหญ่จะสามารถกู้ได้
ดอกเบี้ยต่ำ แล้วนำไปปล่อยดอกเบี้ยสูง และทำกันทุกสถาบันการเงิน น้อย
มาก ต่างกันไป สุดท้าย พวกหนี้เน่ามันก็เน่าอยู่ดี สุดท้ายก็ฟองสบู่แตกแบบ
ที่เห็น เจ้าหนี้ที่สถาบันการเงินกู้มาก็มาไล่เบี้ยเอาเงิน ก็ไม่มีเงินใช้ เลห์แมน
รัฐไม่ช่วยเจ๊งทันที เอไอจีรัฐช่วยโดยให้เงินมาใช้หนี้ ศัพท์เทคนิคเรียก เสริม
สภาพคล่อง และที่อื่นๆอีก เพราะเป็นกันทั้งระบบ
แต่ใน richdad เป็นการลงทุนแล้วเอากระแสเงินสดที่ได้จากการลงทุน
มาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันจนเรียกว่าอิสรภาพทางการเงินมากกว่าการ
เก็งกำไรอสังหาฯหรือการลงทุนในกองทุนหนี้เน่านะครับ
กับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น) มากกว่าครับ ไม่ใช่จากหนังสือ richdad หรอกครับ
หลักๆคือ สถาบันการเงินไม่ว่าจะเป็นบ.ประกัน หรือ แบงค์ ได้รับแรงกดดันใน
การที่จะทำกำไรให้ได้ดีในยุคที่fedลดดอกเบี้ยต่ำมากหลังเกิด 911 เพื่อดัน
ตลาดหุ้น โดยการปล่อยเงินกู้ให้กับคนที่ไม่มีรายได้ ไม่มีงานทำ แล้วคิด
ดอกเบี้ยในอัตราสูง พอบางทีทำแล้วมีกำไรทางบัญชีในงบดี ก็ทำกันมาก
ขึ้นๆ เพื่อไม่ยอมให้น้อยหน้ากัน จนกระทั่ง อยากได้กำไรมากขึ้นไปอีก เงินตัว
เองเริ่มไม่พอ ก็ใช้วิธี leverage โดยที่สถาบันการเงินใหญ่จะสามารถกู้ได้
ดอกเบี้ยต่ำ แล้วนำไปปล่อยดอกเบี้ยสูง และทำกันทุกสถาบันการเงิน น้อย
มาก ต่างกันไป สุดท้าย พวกหนี้เน่ามันก็เน่าอยู่ดี สุดท้ายก็ฟองสบู่แตกแบบ
ที่เห็น เจ้าหนี้ที่สถาบันการเงินกู้มาก็มาไล่เบี้ยเอาเงิน ก็ไม่มีเงินใช้ เลห์แมน
รัฐไม่ช่วยเจ๊งทันที เอไอจีรัฐช่วยโดยให้เงินมาใช้หนี้ ศัพท์เทคนิคเรียก เสริม
สภาพคล่อง และที่อื่นๆอีก เพราะเป็นกันทั้งระบบ
แต่ใน richdad เป็นการลงทุนแล้วเอากระแสเงินสดที่ได้จากการลงทุน
มาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันจนเรียกว่าอิสรภาพทางการเงินมากกว่าการ
เก็งกำไรอสังหาฯหรือการลงทุนในกองทุนหนี้เน่านะครับ
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
คิดว่า หนังสือ พ่อรวยสอนลูก มีผลกับ การพังของ ศก USA ไหมครับ
โพสต์ที่ 15
[quote="noooon010"]
มันแล้วแต่มุมมองครับ
ถ้าเราโทษคนนู้นคนนี้ เราก็จะได้แต่ข้อติฉิน นินทา
แต่ถ้าเรานำสิ่งดีๆกลับมาศึกษา
เราจะได้อะไรดีๆอีกมากมายครับ
มีความสุขกับวันพักผ่อนนะครับผม
มันแล้วแต่มุมมองครับ
ถ้าเราโทษคนนู้นคนนี้ เราก็จะได้แต่ข้อติฉิน นินทา
แต่ถ้าเรานำสิ่งดีๆกลับมาศึกษา
เราจะได้อะไรดีๆอีกมากมายครับ
มีความสุขกับวันพักผ่อนนะครับผม
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 307
- ผู้ติดตาม: 0
คิดว่า หนังสือ พ่อรวยสอนลูก มีผลกับ การพังของ ศก USA ไหมครับ
โพสต์ที่ 18
มีผลครับ แต่มีผลเฉพาะคนที่อ่านไม่ละเอียด อ่านไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียดคิดว่าตัวเองรู้แต่รู้ไม่จริง หลักการสำคัญของเขาย้ำแล้วย้ำอีกในเรื่องของ cashflow และต้องระมัดระวังอย่างมากเวลากู้เงินมาลงทุนต้องไม่ให้กระแสเงินสดติดลบ คนที่เคยเล่น cashflow 101 และ 102 น่าจะเข้าใจดี :roll:
"หากท่านคาดการณ์ว่าจะไม่ได้รับประโยชน์เลยแม้แต่น้อยจากการปฏิบัตืการรุก ให้ท่านจงตั้งมั่นอยู่กับที่อย่างสงบ"
"ไม่มีสูตรสำเร็จในชัยชนะ คนทำผิดจะเกิดขึ้นเฉพาะกับฝ่ายที่แพ้เท่านั้น"
- ซุนวู -
"ไม่มีสูตรสำเร็จในชัยชนะ คนทำผิดจะเกิดขึ้นเฉพาะกับฝ่ายที่แพ้เท่านั้น"
- ซุนวู -
-
- Verified User
- โพสต์: 149
- ผู้ติดตาม: 0
คิดว่า หนังสือ พ่อรวยสอนลูก มีผลกับ การพังของ ศก USA ไหมครับ
โพสต์ที่ 19
แค่ปัจจัยเปลี่ยนก็ทำให้จากที่กระแสเงินบวกกลายเป็นลบได้ครับ
เช่น มีตึกใหม่เอี่ยมขึ้นมาข้างๆ เอเย่นต์มาพาลูกค้าต่างชาติหนีไปยกตึก
เพราะทางนั้นให้ค่าคอมรวมดีกว่า เรามีห้องสองห้องก็เสร็จได้
หรือดอกเบี้ยเปลี่ยนไป ทำให้ต้องเพิ่มค่างวดขึ้นอีก
หรือมีตึกมาขึ้นบังวิว ทำให้ต้องลดราคาค่าเช่าลงมาก เป็นต้น
ไม่มีคนเช่าสักหกเดือน
ถ้าไม่มีรายได้ทางอื่นก็แย่แล้วครับ
เช่น มีตึกใหม่เอี่ยมขึ้นมาข้างๆ เอเย่นต์มาพาลูกค้าต่างชาติหนีไปยกตึก
เพราะทางนั้นให้ค่าคอมรวมดีกว่า เรามีห้องสองห้องก็เสร็จได้
หรือดอกเบี้ยเปลี่ยนไป ทำให้ต้องเพิ่มค่างวดขึ้นอีก
หรือมีตึกมาขึ้นบังวิว ทำให้ต้องลดราคาค่าเช่าลงมาก เป็นต้น
ไม่มีคนเช่าสักหกเดือน
ถ้าไม่มีรายได้ทางอื่นก็แย่แล้วครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 307
- ผู้ติดตาม: 0
คิดว่า หนังสือ พ่อรวยสอนลูก มีผลกับ การพังของ ศก USA ไหมครับ
โพสต์ที่ 20
เท่าที่ทราบปัจจัยภายนอกในเรื่อง market risk (อดบ. เงินเฟ้อ ค่าเงิน eco.growth) ไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้ให้กระแสเงินสดของพวกนักลงทุนsubprimeเหล่านั้นติดลบนะครับ เกิดจากการเล่นเกมที่ผิดพลาดของตัวพวกเขาเองทั้งนั้น ในเกม cashflow 101/102 ก็ได้ชี้ให้เห็นแล้วว่า บ้านที่ไม่ก่อให้เกิดกระแสเงินสดเป็น+ คือไม่มีค่าเช่านั้นเป็นหนี้สินไม่ใช่ทรัพย์สิน การซื้อบ้านมาเก็งกำไรซื้อมาขายไปโดยบ้านนั้นไม่สร้างกระแสเงินสดจะเอากำไรจาก arbitrage อย่างเดียว ไม่ใช่หลักการของ richdad พูดง่ายๆก็คือคนพวกนี้เล่นเกมแพ้ game over
"หากท่านคาดการณ์ว่าจะไม่ได้รับประโยชน์เลยแม้แต่น้อยจากการปฏิบัตืการรุก ให้ท่านจงตั้งมั่นอยู่กับที่อย่างสงบ"
"ไม่มีสูตรสำเร็จในชัยชนะ คนทำผิดจะเกิดขึ้นเฉพาะกับฝ่ายที่แพ้เท่านั้น"
- ซุนวู -
"ไม่มีสูตรสำเร็จในชัยชนะ คนทำผิดจะเกิดขึ้นเฉพาะกับฝ่ายที่แพ้เท่านั้น"
- ซุนวู -
- Polar Bear
- Verified User
- โพสต์: 109
- ผู้ติดตาม: 0
คิดว่า หนังสือ พ่อรวยสอนลูก มีผลกับ การพังของ ศก USA ไหมครับ
โพสต์ที่ 21
เห็นด้วยครับ เมล็ดพันธุ์บางอย่างก็ปลูกในพื้นที่บางประเภทไม่ขึ้น ไม่ว่าเมล็ดพันธุ์นั้น่จะดีเลิศแค่ไหน ถ้าคนปลูกไม่เข้าใจก็ปลูกไม่ขื้น แล้วยังจะคิดไปอีกว่าที่ปลูกไม่ขึ้น ก็เพราะเมล็ดพันธุ์มันไม่ดีu4321603 เขียน:ในความเห็นของผม หนังสือ Rich Dad Poor Dad นั้นเปรียบได้กับเมล็ดพันธุ์ทางความคิดมากกว่าครับ ซึ่งคนแต่ละคนจะแตกแขนงไปในทางไหน และเอาไปประยุกต์ใช้อย่างไรมันแล้วแต่บุคลครับ อย่างเช่น ข้าวสารมันก็คือข้าวสารวันยังคำ เพียงแต่ว่าเราจะเอามันไปกระกอบอาหารอย่างไร เช่น ข้าวต้ม ข้าวสวย แป้ง ขนมปัง ฯ แล้วแต่ความชอบและความเหมาะสมของแต่ละบุคลครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1289
- ผู้ติดตาม: 0
คิดว่า หนังสือ พ่อรวยสอนลูก มีผลกับ การพังของ ศก USA ไหมครับ
โพสต์ที่ 23
เคยคิดถึงเหมือนกัน ครับ
จริงๆ เรื่องreal estate ถ้าจะทำจริง ผมว่าต้องตามอ่านผลงาน ของ ดอร์ฟ เดอรอส จะแน่นกว่าอ่านแต่ฉบับโรเบิร์ตมาก
คิดว่ามีผลทางอ้อม และน้อยนิด เพราะส่วนมาก คนอ่าน ที่นำไปใช้ก็แค่ระดับรายย่อย เท่าั้นั้น และ ไม่ได้ทำธุรกรรมซับซ้อน กู้ซื้อไปขาย กู้ซื้อปล่อยเช่า...จบ
แม้มีรายย่อยหลายคนก็ยังไม่ใหญ่เท่า...
...ระดับ hedge fund, กองทุน, แบง ,บริษัทใหญ่ๆ พวกนี้ของเค้าเยอะ ขนาด asset พวกนี้ใหญ่กว่ามหาศาล ไขว้กันไปมาซับซ้อน ...เอวัง จึงเกิดเป็น crisis สาหัส
สรุป ผมว่าไม่มีผล
ปล.ชอบหลายมุมมองที่โพสในกระทู้นี้ ผมไม่เึคยนึกถึงมาก่อน ..เ่ช่น ไม่เน้น downside risk, หรือ ชีวิตจริงที่คุณ wr โพส
ถือว่าแลกเปลี่ยนกันครับใจเย็นๆ พี่ที
จริงๆ เรื่องreal estate ถ้าจะทำจริง ผมว่าต้องตามอ่านผลงาน ของ ดอร์ฟ เดอรอส จะแน่นกว่าอ่านแต่ฉบับโรเบิร์ตมาก
คิดว่ามีผลทางอ้อม และน้อยนิด เพราะส่วนมาก คนอ่าน ที่นำไปใช้ก็แค่ระดับรายย่อย เท่าั้นั้น และ ไม่ได้ทำธุรกรรมซับซ้อน กู้ซื้อไปขาย กู้ซื้อปล่อยเช่า...จบ
แม้มีรายย่อยหลายคนก็ยังไม่ใหญ่เท่า...
...ระดับ hedge fund, กองทุน, แบง ,บริษัทใหญ่ๆ พวกนี้ของเค้าเยอะ ขนาด asset พวกนี้ใหญ่กว่ามหาศาล ไขว้กันไปมาซับซ้อน ...เอวัง จึงเกิดเป็น crisis สาหัส
สรุป ผมว่าไม่มีผล
ปล.ชอบหลายมุมมองที่โพสในกระทู้นี้ ผมไม่เึคยนึกถึงมาก่อน ..เ่ช่น ไม่เน้น downside risk, หรือ ชีวิตจริงที่คุณ wr โพส
ถือว่าแลกเปลี่ยนกันครับใจเย็นๆ พี่ที
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
- King_Krimson
- Verified User
- โพสต์: 171
- ผู้ติดตาม: 0
คิดว่า หนังสือ พ่อรวยสอนลูก มีผลกับ การพังของ ศก USA ไหมครับ
โพสต์ที่ 24
ความแน่นอนที่สุด คือ ความไม่แน่นอนครับ
มีเกิด ก็ ต้องมีดับ เป็นไปตามวัฎจักร ครับ
มีเกิด ก็ ต้องมีดับ เป็นไปตามวัฎจักร ครับ
"Ther Pursuit of Liberty"
"You can only depend on yourself. The cavalry ain't coming."
"You can only depend on yourself. The cavalry ain't coming."
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
คิดว่า หนังสือ พ่อรวยสอนลูก มีผลกับ การพังของ ศก USA ไหมครับ
โพสต์ที่ 25
พึ่งมาใช้ com ครับ พอดียุ่งมากๆช่วงนี้
พี่พอใจครับ ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้นจริงๆนะครับ
ช่วงนี้ผมคุยกับคนหลายๆคน โดยเฉพาะคนที่ปกติเราไม่ได้คุย เช่นคนขับรถตู้ คนขายขิองเก่า ฯลฯ
คุยแล้วได้มุมมองใหม่ๆ ซึ่งเดิม ผมก็ได้ idea ต่างๆจากการอ่าน richdad น่ะครับ
จริงๆการโทษกัน มันไม่ได้ทำให้เราได้แง่คิดดีๆเลยครับ
ลองมองรอบๆตัวสิครับ มีใครกล่าวโทษกันบ้างไหม
แล้วบรรยากาศมันเป็นอย่างไรครับ
ช่วงนี้ผมรู้สึกว่า ผมได้กลับมามีมุมมองหลายๆอย่างมากขึ้น มีความอยากเรียนรู้และสนุกไปกับมัน และรู้จักตนเองมากขึ้น
ถ้ามองในแง่บวก เราก็จะได้อะไรดีๆกลับมาครับ
รับฟังทุกความเห็นนะครับ
แต่ก็ยังรู้สึกว่า คนไม่เข้าใจ kiyosaki นะครับ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 332
- ผู้ติดตาม: 0
คิดว่า หนังสือ พ่อรวยสอนลูก มีผลกับ การพังของ ศก USA ไหมครับ
โพสต์ที่ 26
ถ้าคนที่อ่าน Rich dad แบบไม่ลึกซึ้ง ก็คงอาจจะมีผลบ้างครับ แต่น่าจะเกี่ยวข้องกับปัญหานี้น้อยมากครับ โดยส่วนตัวที่อ่าน ผมว่าหนังสือของ Robert ให้ประโยชน์ค่อนข้างมากครับ โดยเฉพาะการพูดเกี่ยวกับเรื่องหนี้สิน ทรัพย์สิน, การให้เก็บเงิน 10% ก่อนที่จะเอาเงินที่เหลือมาใช้, เรื่องของอิสรภาพทางการเงิน ที่ต้องมีกระแสเงินสดต่อเดือนมากกว่ารายจ่ายประจำเดือน เป็นต้น ผมว่าคนที่อ่านหนังสือ Rich dad อย่างละเอียด น่าจะได้ประโยชน์ค่อนข้างมากนะครับ แต่ก็ดีนะครับที่คุณ teetotal ยกขึ้นมาเป็นประเด็นให้ได้ Discuss กัน ผมว่าหลายๆเรื่อง เราควรจะมองหลายๆด้านครับ
ปล. คุณ noooon010 เคยไปอบรมหรือเล่นเกมกับพี่หนุ่ม richdadthai ด้วยเหรอครับ รู้สึกว่าได้ประโยชน์ค่อนข้างมากเลยจากการไปอบรมกับแกครับ
ปล. คุณ noooon010 เคยไปอบรมหรือเล่นเกมกับพี่หนุ่ม richdadthai ด้วยเหรอครับ รู้สึกว่าได้ประโยชน์ค่อนข้างมากเลยจากการไปอบรมกับแกครับ
Life is beautiful + Financial freedom within 2015 by investment stock & real estate
-
- Verified User
- โพสต์: 1667
- ผู้ติดตาม: 0
คิดว่า หนังสือ พ่อรวยสอนลูก มีผลกับ การพังของ ศก USA ไหมครับ
โพสต์ที่ 27
เมื่อวาน อ่านหนังสือ เกษตรปราณีต 1 ไร่
วางที่งานสัปดาห์หนังสือ
แค่ มีที่ไร่เดียว ก็มีความสุขได้แล้ว
มีเงินสัก 10 ล้าน ลงทุนซื้อหุ้นกินปันผล
ติดตามกิจการที่ตัวเองลงทุน
ไม่ค้องไปลงทุนเปิดกิจการที่ต้องเฝ้า
ไม่ต้องมีบ้านหลายหลังปล่อยเช่า แล้วต้อง ตามทวงค่าเช่า คนที่มาเช่า
แล้ว ไปอยู่บ้านนอก
จำกัดรายจ่ายตัวเอง ทำการเกษตร ลดรายจ่าย
ออกกำลังกายในงาน กินผักปลอดสารพิษ
อย่างนี้ ผมว่า มีความสุขแล้ว
สุดท้ายตายไปทุกอย่าง คืนแผ่นดินหมด
คนมันคิดแต่จะรวยๆ จะสบาย
ทรัพยากรโลกที่สะสมมาเป็นล้านปี
มันเลยหมด ในเวลา 100 กว่าปีมานี่
ลองไปหาหนังสือเรื่อง คนเผาถ่าน ของนิมิตร ภูมิภาวร มาอ่านสิครับ
ลุงที่ใช้ชีวิตในป่า เผาถ่านจากไม้ที่ล้มเอง
หาเลี้ยงชีวิตแบบ พออยู่
ชีวิตที่ไม่ต้องรวย ไม่ต้องผลาญทรัพยากร มากๆ
ไม่เบียดเบียนคนอื่น
โลกมันวุ่นวาย เพราะ มัวแต่สอนกันว่าต้องรวยจนฝังหัว
ตายไปเอาอะไรไปได้ บ้าง
เงินทอง แค่ของสมมติ
วางที่งานสัปดาห์หนังสือ
แค่ มีที่ไร่เดียว ก็มีความสุขได้แล้ว
มีเงินสัก 10 ล้าน ลงทุนซื้อหุ้นกินปันผล
ติดตามกิจการที่ตัวเองลงทุน
ไม่ค้องไปลงทุนเปิดกิจการที่ต้องเฝ้า
ไม่ต้องมีบ้านหลายหลังปล่อยเช่า แล้วต้อง ตามทวงค่าเช่า คนที่มาเช่า
แล้ว ไปอยู่บ้านนอก
จำกัดรายจ่ายตัวเอง ทำการเกษตร ลดรายจ่าย
ออกกำลังกายในงาน กินผักปลอดสารพิษ
อย่างนี้ ผมว่า มีความสุขแล้ว
สุดท้ายตายไปทุกอย่าง คืนแผ่นดินหมด
คนมันคิดแต่จะรวยๆ จะสบาย
ทรัพยากรโลกที่สะสมมาเป็นล้านปี
มันเลยหมด ในเวลา 100 กว่าปีมานี่
ลองไปหาหนังสือเรื่อง คนเผาถ่าน ของนิมิตร ภูมิภาวร มาอ่านสิครับ
ลุงที่ใช้ชีวิตในป่า เผาถ่านจากไม้ที่ล้มเอง
หาเลี้ยงชีวิตแบบ พออยู่
ชีวิตที่ไม่ต้องรวย ไม่ต้องผลาญทรัพยากร มากๆ
ไม่เบียดเบียนคนอื่น
โลกมันวุ่นวาย เพราะ มัวแต่สอนกันว่าต้องรวยจนฝังหัว
ตายไปเอาอะไรไปได้ บ้าง
เงินทอง แค่ของสมมติ
- tok
- Verified User
- โพสต์: 833
- ผู้ติดตาม: 0
คิดว่า หนังสือ พ่อรวยสอนลูก มีผลกับ การพังของ ศก USA ไหมครับ
โพสต์ที่ 28
เยี่ยมเลยครับ คุณ teetotal
เดี๋ยวผม จะไปหาหนังสือ เกษตรปราณีต 1 ไร่ มาอ่าน
ตอนแรกผมคิดว่าถ้ามีเงินสัก 10 ล้าน จะแบ่งไปลงทุนในหุ้น 9 ล้าน อีก 1 ล้าน จะเอาบางส่วนไปเปิดร้านกาแฟ เอาไว้นั่งอ่านหนังสือ
ตอนนี้ได้ความคิดเพิ่มเลยครับ เอาเงินไปซิ้อที่ 1 ไร่ทำเกษตรปราณีต พร้อมเปิดร้าน "เกษตรปราณีต cafe"
แต่ลองคิดดู เงิน 9 ล้าน เอาไปลงทุนในหุ้น ให้ได้ผลตอบแทน 15% ทุกปี สิบปีผ่านไป จะมีเงินถึง 36 ล้านบาท
ได้เป็น millionnaire (USD) ตามที่เคยคิดไว้เลย
เดี๋ยวผม จะไปหาหนังสือ เกษตรปราณีต 1 ไร่ มาอ่าน
ตอนแรกผมคิดว่าถ้ามีเงินสัก 10 ล้าน จะแบ่งไปลงทุนในหุ้น 9 ล้าน อีก 1 ล้าน จะเอาบางส่วนไปเปิดร้านกาแฟ เอาไว้นั่งอ่านหนังสือ
ตอนนี้ได้ความคิดเพิ่มเลยครับ เอาเงินไปซิ้อที่ 1 ไร่ทำเกษตรปราณีต พร้อมเปิดร้าน "เกษตรปราณีต cafe"
แต่ลองคิดดู เงิน 9 ล้าน เอาไปลงทุนในหุ้น ให้ได้ผลตอบแทน 15% ทุกปี สิบปีผ่านไป จะมีเงินถึง 36 ล้านบาท
ได้เป็น millionnaire (USD) ตามที่เคยคิดไว้เลย
- King_Krimson
- Verified User
- โพสต์: 171
- ผู้ติดตาม: 0
คิดว่า หนังสือ พ่อรวยสอนลูก มีผลกับ การพังของ ศก USA ไหมครับ
โพสต์ที่ 29
"Ther Pursuit of Liberty"
"You can only depend on yourself. The cavalry ain't coming."
"You can only depend on yourself. The cavalry ain't coming."