ข้อคิดจาก Sir John Templeton
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
ข้อคิดจาก Sir John Templeton
โพสต์ที่ 1
John Templeton ได้จากโลกนี้ไปเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ตอนอายุ 95 ปี ท่านได้รับการยอมรับว่าเป็นนักลงทุนผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดท่านหนึ่ง ต่อไปนี้คือข้อคิดบางส่วนของท่านครับ
ความมุมานะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างผลตอบแทนแบบเหนือชั้น สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือสามัญสำนึก อย่าให้ตัวเองได้รับอิทธิพลจากความกระตือรือร้น อย่าให้ตัวเองถูกครอบงำด้วยความสิ้นหวัง อย่าซื้อหุ้นที่คุณไม่เข้าใจ ศึกษาหุ้นที่คุณต้องการซื้อไว้ล่วงหน้าเสมอ วางแผนระยะยาว บอกตัวเองไว้ล่วงหน้าเลยว่าจะต้องพบเจอภาวะตลาดหมี
ความมุมานะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างผลตอบแทนแบบเหนือชั้น สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือสามัญสำนึก อย่าให้ตัวเองได้รับอิทธิพลจากความกระตือรือร้น อย่าให้ตัวเองถูกครอบงำด้วยความสิ้นหวัง อย่าซื้อหุ้นที่คุณไม่เข้าใจ ศึกษาหุ้นที่คุณต้องการซื้อไว้ล่วงหน้าเสมอ วางแผนระยะยาว บอกตัวเองไว้ล่วงหน้าเลยว่าจะต้องพบเจอภาวะตลาดหมี
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
ข้อคิดจาก Sir John Templeton
โพสต์ที่ 2
เราไม่สามารถคาดการณ์วัฏจักรธุรกิจหรือตลาดหุ้นได้ และเราก็ไม่เคยเจอคนที่สามารถคาดการณ์ได้ถูกต้องมากกว่า 60% เรามักจะบอกลูกค้าว่า อย่าไปกังวลกับเรื่องพวกนี้ เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ ตลาดหมีและความถดถอยทางธุรกิจจะต้องเกิดขึ้นแน่ๆ เพียงแต่คุณไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไร เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว เตรียมตัวทางการเงินไว้ อย่าเป็นหนี้เพราะมันอาจทำให้คุณต้องออกจากตลาดผิดเวลามันอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ แต่ยังไงซะ ผมก็ไม่อยากจะก่อหนี้อยู่ดี
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
ข้อคิดจาก Sir John Templeton
โพสต์ที่ 3
อีกอย่าง คุณต้องเตรียมความพร้อมทางด้านจิตใจเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้คุณตื่นตระหนกผิดเวลาและขายหุ้นออกไปแบบโง่ๆ ถ้าคุณได้เตรียมตัวและรู้อยู่เต็มอกว่าจะต้องเจอตลาดหมีและภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ คุณไม่เพียงจะมองมันอย่างไร้กังวล แต่คุณจะถือมันเป็นโอกาสอีกด้วย
กระบวนการคัดเลือกหุ้นมีความซับซ้อน นักลงทุนผู้ชาญฉลาดไม่อาจลงมือทำแบบเดียวกับนักลงทุนคนอื่นๆได้ ประเด็นนี้เป็นสิ่งที่การลงทุนมีความแตกต่างไปจากอาชีพอื่นๆ ตัวอย่างเช่น ถ้าหมอสิบคนให้ความเห็นเกี่ยวกับวิธีการรักษาโรค การปฏิบัติตามความเห็นส่วนใหญ่น่าจะให้ผลดี หรือหากวิศวกรสิบคนเห็นชอบกับการออกแบบสะพาน เราก็น่าจะสร้างสะพานตามแบบนั้น ในทางตรงกันข้าม ถ้านักวิเคราะห์สิบคนบอกให้เราซื้อหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง การซื้อหุ้นตัวนั้นอาจจะเป็นความผิดพลาดได้....จะว่าไปแล้ว ถ้าเมื่อไรก็ตาม แทบทุกคนแนะนำเหมือนกันไปหมด อย่าไปทำแบบนั้นเชียว
กระบวนการคัดเลือกหุ้นมีความซับซ้อน นักลงทุนผู้ชาญฉลาดไม่อาจลงมือทำแบบเดียวกับนักลงทุนคนอื่นๆได้ ประเด็นนี้เป็นสิ่งที่การลงทุนมีความแตกต่างไปจากอาชีพอื่นๆ ตัวอย่างเช่น ถ้าหมอสิบคนให้ความเห็นเกี่ยวกับวิธีการรักษาโรค การปฏิบัติตามความเห็นส่วนใหญ่น่าจะให้ผลดี หรือหากวิศวกรสิบคนเห็นชอบกับการออกแบบสะพาน เราก็น่าจะสร้างสะพานตามแบบนั้น ในทางตรงกันข้าม ถ้านักวิเคราะห์สิบคนบอกให้เราซื้อหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง การซื้อหุ้นตัวนั้นอาจจะเป็นความผิดพลาดได้....จะว่าไปแล้ว ถ้าเมื่อไรก็ตาม แทบทุกคนแนะนำเหมือนกันไปหมด อย่าไปทำแบบนั้นเชียว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
ข้อคิดจาก Sir John Templeton
โพสต์ที่ 4
จะให้ดี เราต้องซื้อหุ้นที่กำลังตกต่ำ ราคาหุ้นจะอยู่ในระดับถูกได้ก็เพราะมันมีแรงขายหนักๆ ดังนั้น ในการลงทุน ถ้าคุณอยากได้หุ้นถูกซึ่งจะให้ผลตอบแทนดีๆในระยะยาว คุณต้องพร้อมทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำ บางคนคิดว่าเราเป็นพวกชอบทำอะไรสวนทางกับคนส่วนใหญ่ จริงๆแล้ว เราคิดว่าเราชอบช่วยเหลือคนอื่นซะมากกว่า ตอนคนตกใจหนีตายขายหุ้นออกมา เราก็พวกเขาช่วยรับซื้อหุ้นเอาไว้ ตอนคนตื่นเต้นกลัวตกรถและรีบไล่ราคาหุ้น เราก็ช่วยขายหุ้นให้
จำไว้ว่า ตลาดกระทิงถือกำเนิดขึ้นในยามที่ผู้คนล้วนสิ้นหวัง เติบโตขึ้นท่ามกลางความเคลือบแคลงสงสัย โตเต็มที่ตอนที่ใครๆก็พากันมองโลกในแง่ดี และตายสนิทเมื่อความหวังลมๆแล้งๆปกคลุมตลาด จังหวะซื้อคือตอนที่มีการมองแง่ร้ายแบบสุดๆราวกับโลกจะแตกฟ้าจะถล่มน้ำจะท่วมโลก จังหวะขายคือตอนที่ใครๆก็พากันนั่งฝันหวานหลับตาพริ้มและยิ้มกริ่ม
จำไว้ว่า ตลาดกระทิงถือกำเนิดขึ้นในยามที่ผู้คนล้วนสิ้นหวัง เติบโตขึ้นท่ามกลางความเคลือบแคลงสงสัย โตเต็มที่ตอนที่ใครๆก็พากันมองโลกในแง่ดี และตายสนิทเมื่อความหวังลมๆแล้งๆปกคลุมตลาด จังหวะซื้อคือตอนที่มีการมองแง่ร้ายแบบสุดๆราวกับโลกจะแตกฟ้าจะถล่มน้ำจะท่วมโลก จังหวะขายคือตอนที่ใครๆก็พากันนั่งฝันหวานหลับตาพริ้มและยิ้มกริ่ม
-
- Verified User
- โพสต์: 5
- ผู้ติดตาม: 0
ข้อคิดจาก Sir John Templeton
โพสต์ที่ 10
WEB เขียน:ตลาดกระทิงถือกำเนิดขึ้นในยามที่ผู้คนล้วนสิ้นหวัง เติบโตขึ้นท่ามกลางความเคลือบแคลงสงสัย
WEB เขียน:โตเต็มที่ตอนที่ใครๆก็พากันมองโลกในแง่ดี และตายสนิทเมื่อความหวังลมๆแล้งๆปกคลุมตลาด
ข้าน้อยขอคารวะ อ.WEBWEB เขียน:จังหวะซื้อคือตอนที่มีการมองแง่ร้ายแบบสุดๆราวกับโลกจะแตกฟ้าจะถล่มน้ำจะท่วมโลก จังหวะขายคือตอนที่ใครๆก็พากันนั่งฝันหวานหลับตาพริ้มและยิ้มกริ่ม
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
ข้อคิดจาก Sir John Templeton
โพสต์ที่ 15
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
- mario
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 720
- ผู้ติดตาม: 0
ข้อคิดจาก Sir John Templeton
โพสต์ที่ 16
ชอบมากครับ ขอเก็บไปเป็นข้อคิดเตือนใจ
ว่าแต่พี่ web มีโครงการจะแปลหนังสือของ Sir John Templeton หรือเปล่าครับ
ว่าแต่พี่ web มีโครงการจะแปลหนังสือของ Sir John Templeton หรือเปล่าครับ
The basic ideas of investing are to look at stocks as business,
use the market's fluctuations to your advantage,
and seek a margin of safety.
Investing is not about big returns ,it's about safety of principal and satisfactory returns.
use the market's fluctuations to your advantage,
and seek a margin of safety.
Investing is not about big returns ,it's about safety of principal and satisfactory returns.
- halfofw
- Verified User
- โพสต์: 93
- ผู้ติดตาม: 0
ข้อคิดจาก Sir John Templeton
โพสต์ที่ 17
ฟังดูง่ายไปหน่อยป่ะครับ "เราต้องซื้อหุ้นที่กำลังตกต่ำ ราคาหุ้นจะอยู่ในระดับถูกได้ก็เพราะมันมีแรงขายหนักๆ "
ยกตัวอย่าง ใครซื้อ PTTAR 49 -> 40 .. เห็นว่า มันลดราคามา -18% จึงเข้าไปซื้อ
ปรากฎว่า PTTAR 40 -> 32 ... มันลงต่ออีก -20% จึงเข้าไปซื้อเพิ่ม
ปรากฎว่า PTTAR 32 -> 24 ... มันลงต่ออีก -25% จึงเข้าไปซื้อเพิ่มอีก
ปรากฎว่า PTTAR 24 -> 20 ... มันลงต่ออีก -16% จึงเข้าไปซื้อเพิ่มอีก
คำถาม ถ้าคุณยังไม่ได้ซือ้ PTTAR คุณคิดว่าราคา 20 บาท มันถูกพอแล้วยัง
(49->20 = -60%)
ถ้าคุณซื้อ ... ผมมีคำถามว่า คุณมั่นใจได้อย่างไรว่ามันจะไม่ลงต่อไปที่
16 บาท , 12 บาท , 8 บาท, 4 บาท , 1 บาท
????????????????????????????????????
สงสัยบทความที่เขียนจริง ๆ ครับ
ยกตัวอย่าง ใครซื้อ PTTAR 49 -> 40 .. เห็นว่า มันลดราคามา -18% จึงเข้าไปซื้อ
ปรากฎว่า PTTAR 40 -> 32 ... มันลงต่ออีก -20% จึงเข้าไปซื้อเพิ่ม
ปรากฎว่า PTTAR 32 -> 24 ... มันลงต่ออีก -25% จึงเข้าไปซื้อเพิ่มอีก
ปรากฎว่า PTTAR 24 -> 20 ... มันลงต่ออีก -16% จึงเข้าไปซื้อเพิ่มอีก
คำถาม ถ้าคุณยังไม่ได้ซือ้ PTTAR คุณคิดว่าราคา 20 บาท มันถูกพอแล้วยัง
(49->20 = -60%)
ถ้าคุณซื้อ ... ผมมีคำถามว่า คุณมั่นใจได้อย่างไรว่ามันจะไม่ลงต่อไปที่
16 บาท , 12 บาท , 8 บาท, 4 บาท , 1 บาท
????????????????????????????????????
สงสัยบทความที่เขียนจริง ๆ ครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
ข้อคิดจาก Sir John Templeton
โพสต์ที่ 20
ลองอ่านดูดีๆอีกครั้งนะครับ ราคาหุ้นจะอยู่ในระดับถูกได้ก็เพราะมันมีแรงขายหนักๆ ไม่ใช่ ถ้ามีแรงขายหนักๆ หุ้นจะมีราคาถูก นะครับ อีกอย่างท่านก็บอกว่า อย่าซื้อหุ้นที่คุณไม่เข้าใจ ศึกษาหุ้นที่คุณต้องการซื้อไว้ล่วงหน้าเสมอ ที่สำคัญ ข้อคิดนี้เป็นแค่ส่วนเล็กๆ ไม่ใช่ทั้งหมดที่เราต้องรู้ต้องเข้าใจนะครับ
มีหลายๆท่านถามผมเกี่ยวกับงานแปล ช่วงใกล้ๆนี้คงยังไม่มีหนังสือออกมาครับ พลังทางด้านการแปลไม่รู้หายไปไหนหมด :lol:.คิดถึงสำนวนเด็ดๆของพี่จัง เมื่อไหร่จะมีผลงานแปลมาให้อ่านอีกครั้งครับ
ผมคงไม่ได้แปลครับ :Dว่าแต่พี่ web มีโครงการจะแปลหนังสือของ Sir John Templeton หรือเปล่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 600
- ผู้ติดตาม: 0
ข้อคิดจาก Sir John Templeton
โพสต์ที่ 23
อืมม น่าคิดอีกแล้ว วัฎจักรสงสาร ยืมคำพูดใครมานะ :oคำถาม ถ้าคุณยังไม่ได้ซือ้ PTTAR คุณคิดว่าราคา 20 บาท มันถูกพอแล้วยัง
(49->20 = -60%)
- halfofw
- Verified User
- โพสต์: 93
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อคิดจาก Sir John Templeton
โพสต์ที่ 24
ถึงคุณ terati20 & naris
ที่ผมเขียน ผมเขียนว่า ยกตัวอย่างหุ้น PTTAR
ที่เลือก PTTAR มายกตัวอย่างเพราะเป็นหุ้นตัวใหญ่ใน หมวดพลังงาน
และก็มั่นใจว่า มีคนติดหุ้นที่ ราคา 30 - 40 บาท เยอะมาก ๆ
ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่เค้าซื้อ ผมก้อไม่รู้หรอกว่าเค้าทำการบ้านมาหรือปล่าว
เพียงแต่ บทความที่ ฝรั่งมันเขียน เนียะ มันอ่านดูแล้วมัน ดูเหมือนกว่าการลงทุนในตลาดหุ้น ช่างง่ายเหลือเกิน ง่ายซะจนใคร ๆ ก้อลงทุนได้
แต่สำหรับผม ผมไม่ได้คิดว่ามันง่ายอย่างนั้นหรอก
อย่างที่คุณพูดนั้นล่ะ เราต้องศึกษา หุ้นตัวที่เราจะซื้อก่อน
แล้วเราก็คงต้องมีการวางแผนเป็นอย่างดีสำหรับการที่จะซื้อ
แต่ไม่ใช่มาบอกว่า หุ้นมัน -50% ราคาถูกสุด ๆ ขายบ้านขายรถมาซื้อ
PTTAR: 49 -> 40 -> 32 -> 25 -> 20 ..... ซื้อได้ยัง
TTA: 70 -> 60 -> 50 -> 40 -> 30 -> 27 .... ถูกพอยัง
SCB: 95 -> 85 -> 75 -> 65 -> 61 .... จุดที่ควรซื้อใช่มั๊ย
????? รู้งัยว่าจะจะซื้อราคาไหน ????
???? รุ้ได้งัยว่า รับมีดแล้ว มือไม่ขาด ????
??? มั่นใจแค่ไหนกับการเฉลี่ยขาลง ???
เป็นการแสดงความคิดเห็นครับผม .. ว่ามันไม่มีอะไรง่ายขนาดที่พูดหรอก
ต้องมีการศึกษาต่อ ...
ขอโทษนะครับ ถ้าแสดงความคิดเห็นไม่ถูกต้อง หรือไม่ถูกใจ
ที่ผมเขียน ผมเขียนว่า ยกตัวอย่างหุ้น PTTAR
ที่เลือก PTTAR มายกตัวอย่างเพราะเป็นหุ้นตัวใหญ่ใน หมวดพลังงาน
และก็มั่นใจว่า มีคนติดหุ้นที่ ราคา 30 - 40 บาท เยอะมาก ๆ
ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่เค้าซื้อ ผมก้อไม่รู้หรอกว่าเค้าทำการบ้านมาหรือปล่าว
เพียงแต่ บทความที่ ฝรั่งมันเขียน เนียะ มันอ่านดูแล้วมัน ดูเหมือนกว่าการลงทุนในตลาดหุ้น ช่างง่ายเหลือเกิน ง่ายซะจนใคร ๆ ก้อลงทุนได้
แต่สำหรับผม ผมไม่ได้คิดว่ามันง่ายอย่างนั้นหรอก
อย่างที่คุณพูดนั้นล่ะ เราต้องศึกษา หุ้นตัวที่เราจะซื้อก่อน
แล้วเราก็คงต้องมีการวางแผนเป็นอย่างดีสำหรับการที่จะซื้อ
แต่ไม่ใช่มาบอกว่า หุ้นมัน -50% ราคาถูกสุด ๆ ขายบ้านขายรถมาซื้อ
PTTAR: 49 -> 40 -> 32 -> 25 -> 20 ..... ซื้อได้ยัง
TTA: 70 -> 60 -> 50 -> 40 -> 30 -> 27 .... ถูกพอยัง
SCB: 95 -> 85 -> 75 -> 65 -> 61 .... จุดที่ควรซื้อใช่มั๊ย
????? รู้งัยว่าจะจะซื้อราคาไหน ????
???? รุ้ได้งัยว่า รับมีดแล้ว มือไม่ขาด ????
??? มั่นใจแค่ไหนกับการเฉลี่ยขาลง ???
เป็นการแสดงความคิดเห็นครับผม .. ว่ามันไม่มีอะไรง่ายขนาดที่พูดหรอก
ต้องมีการศึกษาต่อ ...
ขอโทษนะครับ ถ้าแสดงความคิดเห็นไม่ถูกต้อง หรือไม่ถูกใจ
- mario
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 720
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อคิดจาก Sir John Templeton
โพสต์ที่ 26
[quote="halfofw"]
????? รู้งัยว่าจะจะซื้อราคาไหน
????? รู้งัยว่าจะจะซื้อราคาไหน
The basic ideas of investing are to look at stocks as business,
use the market's fluctuations to your advantage,
and seek a margin of safety.
Investing is not about big returns ,it's about safety of principal and satisfactory returns.
use the market's fluctuations to your advantage,
and seek a margin of safety.
Investing is not about big returns ,it's about safety of principal and satisfactory returns.
-
- Verified User
- โพสต์: 187
- ผู้ติดตาม: 0
ข้อคิดจาก Sir John Templeton
โพสต์ที่ 27
PTTAR เป็นหุ้นวัฏจักร การหามูลค่ากิจการผมว่ายากน่ะ กำไรเค้าขึ้นอยู่กับส่วนต่างของต้นุทุนกับราคาขาย ซึ่งเค้ากำหนดเองไม่ได้ มันเป็นราคาตลาดโลกซึ่งขึ้นกับอุปสงค์ อุปทานของโลก ภาวะเศรษฐกิจโลก เป็นหุ้นอ้วนผอมตามนิยามของอ.นิเวศน์ เดี๋ยวกำไรมาก เดี๋ยวกำไรน้อย ไม่มีใครคาดการณ์ได้ถูกต้องแน่นอนได้ บอกได้แค่แนวโน้มว่าจะเป็นอย่างไร
ผมรู้แต่ว่า PTTAR ควรซื้อตอน PE สูง ๆ ขายตอน PE ต่ำ ๆ ตามสูตรของปีเตอร์ ลินท์ แล้วต้องเป็นคนมองโลกในแง่ดีด้วยว่า สักวันมันจะกลับมา
ผมรู้แต่ว่า PTTAR ควรซื้อตอน PE สูง ๆ ขายตอน PE ต่ำ ๆ ตามสูตรของปีเตอร์ ลินท์ แล้วต้องเป็นคนมองโลกในแง่ดีด้วยว่า สักวันมันจะกลับมา
- mario
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 720
- ผู้ติดตาม: 0
ข้อคิดจาก Sir John Templeton
โพสต์ที่ 28
เห็นด้วยครับว่าเป็นหุ้นที่หา" มูลค่าของกิจการ" ยากDimsum เขียน:PTTAR เป็นหุ้นวัฏจักร การหามูลค่ากิจการผมว่ายากน่ะ กำไรเค้าขึ้นอยู่กับส่วนต่างของต้นุทุนกับราคาขาย ซึ่งเค้ากำหนดเองไม่ได้ มันเป็นราคาตลาดโลกซึ่งขึ้นกับอุปสงค์ อุปทานของโลก ภาวะเศรษฐกิจโลก เป็นหุ้นอ้วนผอมตามนิยามของอ.นิเวศน์ เดี๋ยวกำไรมาก เดี๋ยวกำไรน้อย ไม่มีใครคาดการณ์ได้ถูกต้องแน่นอนได้ บอกได้แค่แนวโน้มว่าจะเป็นอย่างไร
ผมรู้แต่ว่า PTTAR ควรซื้อตอน PE สูง ๆ ขายตอน PE ต่ำ ๆ ตามสูตรของปีเตอร์ ลินท์ แล้วต้องเป็นคนมองโลกในแง่ดีด้วยว่า สักวันมันจะกลับมา
แต่ถ้าใครคิดจะลงทุน ก็ควรจะมี "คำตอบ"
ส่วนคำตอบของผมสำหรับหุ้นตัวนี้ "Too Hard" ครับ
The basic ideas of investing are to look at stocks as business,
use the market's fluctuations to your advantage,
and seek a margin of safety.
Investing is not about big returns ,it's about safety of principal and satisfactory returns.
use the market's fluctuations to your advantage,
and seek a margin of safety.
Investing is not about big returns ,it's about safety of principal and satisfactory returns.
- น้ำครึ่งแก้ว
- Verified User
- โพสต์: 1098
- ผู้ติดตาม: 0
ข้อคิดจาก Sir John Templeton
โพสต์ที่ 29
ขอบคุณ คุณ web ที่นำบทความดีๆมาให้อ่านครับผม
ทำให้มีสติมากขึ้นเยอะเลยครับผม
ขอบคุณครับ
ทำให้มีสติมากขึ้นเยอะเลยครับผม
ชอบประโยคนี้มากเลยเราไม่สามารถคาดการณ์วัฏจักรธุรกิจหรือตลาดหุ้นได้ และเราก็ไม่เคยเจอคนที่สามารถคาดการณ์ได้ถูกต้องมากกว่า 60% เรามักจะบอกลูกค้าว่า อย่าไปกังวลกับเรื่องพวกนี้ เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ ตลาดหมีและความถดถอยทางธุรกิจจะต้องเกิดขึ้นแน่ๆ เพียงแต่คุณไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไร เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว เตรียมตัวทางการเงินไว้ อย่าเป็นหนี้เพราะมันอาจทำให้คุณต้องออกจากตลาดผิดเวลามันอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ แต่ยังไงซะ ผมก็ไม่อยากจะก่อหนี้อยู่ดี
ขอบคุณครับ
" ชีวิตไม่เคยขาดความหวาน "