ซื้อขายหุ้น อิง Technical ดีกว่า VI ?

[phemstap]

ขอออกตัวก่อนว่า ผมเองเป็น VI เคยอ่านหนังสือ มหัศจรรย์แห่งเทคนิค เขียนโดย สนธิ ลิ้มทองกุล
เอ้ยไม่ใช่ สนธิ อังสนากุล ตอนนั้นเป็นช่วงเริ่มลงทุน ก็อ่านไปทั่ว หัวซอยยันท้ายซอย แต่ถ้าถามผมตอนนี้
ผมลืมวิธีที่กล่าวในหนังสือเล่มนั้นหมดแล้ว อ่านแค่ครั้งเดียว และไม่เคยแตะอีกเลย ต่างกับหนังสือของ
ดร.นิเวศน์ และของ Settrade ที่เกี่ยวกับการออม ที่มักจะหยิบมาอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อเตือนตัวเองให้ยึดหลัก
วิธีของพื้นฐานตัวบริษัทฯ และต้องมีวินัย ควบคุมความโลภและความกลัวให้ได้

แต่ก็ต้องเกิดข้อสงสัยในใจว่า แล้วทำไมตลาดจึงมีแต่คนส่วนใหญ่ที่อิงการวิเคราะแบบ Technical
โดยเฉพาะแนวรับ แนวต้าน ? มันต้องมีอะไรดีและทำกำไรให้คนมามากต่อมาก จึงจะเกิดการ popular
มากขนาดนี้.......

เหตุเกิดเมื่อวันก่อน เมือผมไปรอรับลูกซ้อมดนตรีจนดึก ประมาณ 3 ทุ่มกว่า ผมนั่งอยู่ใน Fast Food
ของห้างต่างจังหวัด กำลังอ่านหนังสือทบทวน ลงทุนเพื่อชีวิต ด้วยหุ้น
มีชายวัย 50 กว่าๆ มือถือเบียร์ เดินมานั่งที่โต๊ะผม เห็นหนังสือที่ผมที่ถือแวบๆมีคำว่า ด้วยหุ้น จึงเอ่ยออกมาว่า

ชายวัย 50 กว่า : ซื้อหุ้นตัวไหนอยู่เหรอ

phemstap : เงียบ

ชายวัย 50 กว่า : ปตท. เหรอ

phemstap : "อ๋อ พอดีผมไม่ได้ลงทุนบริษัทฯใหญ่ๆแบบนั้น บริษัทฯที่ผมลงทุนจะเป็นขนาดเล็กถึงกลาง"

ชายวัย 50 กว่า : ผมไปบรรยายบ่อย เรื่องหุ้น ล่าสุด KGI ก็เพิ่งเชิญผมไป การซื้อขายหุ้นนั้น ดูแค่แนวโน้มก็พอ
                         หนังสือพวกนี้ไม่ต้องไปอ่านหรอก

phemstap : ผมมองว่าเดี๋ยวนี้ทุกคนต่างฝ่ายต่างมีข้อมูลกันมากขึ้น ดูแนวโน้มโดยใช้ข้อมูลสถิตินั้น
                   ทำได้ลำบาก ดูอย่างตลาดอเมริกา บางวันบวกร้อยกว่าจุด อีกวันก็ติดลบกลับสองร้อยกว่า
                   และผมก็ไม่มีเวลามานั่งเฝ้าดู Graph หาแนวโน้มด้วย

ชายวัย 50 กว่า : เงียบ และแสดงความไม่พอใจ  :x

phemstap : เงียบ คิดในใจว่า ไม่ได้เจตนาจะพูดแบบนั้นเลย นั่งอยู่ซักพัก จึงเดินออกไปรับลูกกลับบ้าน

1) จริงๆใน Web นี้มีใครที่ใช้ Technical เป็นตัวเสริมบ้าง แต่พื้นฐานคืออิงกับ VI ? และใช้ผสมผสานมัน Work ?

2) ถ้า VI pure pure มั้น Work ดี ทำไมต้องเสริมด้วย Technical ? หรืออยู่ที่ความเชื่อ ? เชื่อว่ามันช่วยเสริมความแน่ใจ
ว่ามันกำลังจะกลับเป็นขาขึ้น หรือขาลง ?

3) แล้วพวกเราหมู่น้อย จะทำอย่างไรให้คนหมู่ใหญ่เห็นด้วยกับพวกเรา และคุยกับพวกเรารู้เรื่อง ?

[vision]

ไม่เป็นไรหรอกครับ ใครถนัดแบบไหนก็ใช้แบบนั้น ใครถนัดสองแบบก็ยิ่งดี

พอดีผมเองจบคณิตศาสตร์มา เลยรู้สึกเบื่อหาวเรอเมื่อเจอสูตรเจอกราฟ จึงไม่เคยมองเทคนิคเลยแม้แต่น้อย

แต่เรื่องพื้นฐานทางธุรกิจ บัญชงบัญชี เพิ่งมาสนใจเรียนเอาตอนหลัง เลยเห็นว่ามันสนุกน่าสนใจ แต่คงเป็น VI ที่ดีไม่ได้ เพราะไม่ชอบประเมินมูลค่าเป็นตัวเลข ก็มันน่าเบื่อนี่นา

ลงทุนแล้วไม่ขาดทุนก็ดีใจแล้ว เห็นเขาบอกว่าในตลาดหุ้นมีคนขาดทุนตั้ง 90% เราดีกว่าค่าเฉลี่ยก็พอใจแล้ว

[สามัญชน]

ตามความเห็นผม  ไม่รู้ว่าถูกหรือผิด

ถ้าเลือกหุ้น  ต้องเลือกด้วยพื้นฐาน เพราะหุ้นก็คือการทำธุรกิจ  
ถ้าเลือกด้วยเทคนิคก็แปลว่าเลือกด้วยสาเหตอื่นที่ไม่ใช่พื้นฐานของธุรกิจ

ถามว่าจริงๆแล้วตัวหุ้นคืออะไรแน่
ตัวผมมองว่ามันคือการทำธุรกิจ
เพราะหุ้นก็คือบริษัทที่ทำมาหากินหากำไร
แล้วราคาหุ้นในระยะยาวก็จะสะท้อนผลประกอบการเอง

ส่วนการคาดหวังระยะสั้นว่าหุ้นจะขึ้นจะลงวันต่อวัน  หรือเดือนต่อเดือนนั้น
ผมมองว่าไม่ใช่การลงทุน
แต่เป็นการพนันกับแนวโน้มและอารมณ์ของตลาด
เดาถูกก็กำไร เดาผิดก็ขาดทุน
ไม่แน่ไม่นอน
เพราะอารมณ์นั้นเป็นสิ่งที่ผันผวน
และยึดเป็นที่พึ่งเป็นหลักเป็นแหล่งไม่ได้เลย
อย่าว่าแต่อารมณ์ตลาดเลย
แม้แต่อารมณ์เราเองคนเดียวโดดๆ ก็ไม่บันเบา แฮ่....

แต่การพนันกับพื้นฐานนั้น
เรายืดระยะเวลาในการพนันออกไปเป็นปีหรือสองปีอย่างน้อย
การยืดเวลาทำให้เราได้เปรียบมหาศาล
เพราะเราเลือกจังหวะขายได้
ไม่พอใจราคา เราก็ยังไม่ขาย
ดังนั้นโอกาสชนะจึงมีสูงมาก
และถ้าเลือกดีๆตั้งแต่ต้น
โอกาสแพ้ก็อาจจะมีแต่ก็น้อยกว่ามาก

ทั้งหมดนี้คือโหมดการเลือก

ทีนี้โหมดการซื้อขาย
หมายถึงเลือกตัวหุ้นได้ดีแล้ว  แล้วจะเริ่มซื้อตอนไหน
ปัจจัยพื้นฐานไม่ได้มีบอกไว้ว่าซื้อวันไหนจะได้ราคาต่ำกว่ากัน
ผมจึงใช้เทคนิค
เพราะดีกว่าไม่มีอะไรเลย   :lol:

[areliang]

ผมว่า การดู เทคนิคอล
อย่างเดียว น่าจะอยู่ในรูปแบบเก็งกำไรมากกว่านะครับ

มันพอจะบอกได้นะ ว่าแรงซื้อกำลังจะเข้ามาในตัวนี้

แต่มันก็ไม่ได้บอกว่าแรงซื้อจะยาวนะแค่ไหน

มันเป็นการคำนวณ จากการซื้อ การขาย

แต่ VI จะเป็นการดูพื้นฐาน ของความเป็นจริง ธุรกิจจริงๆ ครับ

ส่วนตัว ดูข้อมูล ตามแนว VI

แต่จะดูกราฟ ว่าราคา เคยไปไหนมาไหนบ้าง ย้อนหลังครับ

เพื่อดูราคาที่จะเข้าซื้อ

ส่วนพวกเส้นตัดอะไรไม่ค่อยได้ดู

[icque]

ผมจึงใช้เทคนิค:lol:

โอ...พี่สามัญชนดูเทคนิคเป็นด้วยหรือครับ   :lol:

[สวนหย่อม]

ตอนเลือกหุ้นดูพื้นฐานล้วนๆ แต่ก็เหมือนพี่หมอสามัญชน
ผมก็ดูกราฟเวลาจะซื้อขาย ใช้ต่อราคาครับ

[สามัญชน]

โอ...พี่สามัญชนดูเทคนิคเป็นด้วยหรือครับ

[Stock Broker]

2) ถ้า VI pure pure มั้น Work ดี ทำไมต้องเสริมด้วย Technical ? หรืออยู่ที่ความเชื่อ ? เชื่อว่ามันช่วยเสริมความแน่ใจ
ว่ามันกำลังจะกลับเป็นขาขึ้น หรือขาลง ?

ก็นั่นสิครับ ก็ถ้าคุณมั่นใจและสบายใจกับหลักการ VI ก็ดีอยู่แล้วนี่ครับ

3) แล้วพวกเราหมู่น้อย จะทำอย่างไรให้คนหมู่ใหญ่เห็นด้วยกับพวกเรา และคุยกับพวกเรารู้เรื่อง ?

แล้วทำไมต้องให้คนหมู่ใหญ่มาเห็นด้วยด้วยล่ะครับ คนส่วนใหญ่ 90% ขาดทุนในตลาดหุ้นนะครับ

[Stock Broker]

แต่อ่านกระทู้ประเภทความเห็นเกี่ยวกับแนว VI ปะทะ Technical หลายๆ ครั้งแล้ว ผมพอจะสรุปได้ว่าหลักการ VI เข้าใจง่ายกว่าหลักการ Technical นะ

[mprandy]

[quote="สามัญชน"]ตามความเห็นผม

[newbie_12]

โอ...พี่สามัญชนดูเทคนิคเป็นด้วยหรือครับ

[TPH]

ผมเห็นด้วยกับพี่หมอสามัญชนและลุงmprandy ครับ ในการที่เราจะเลือกหุ้นที่จะลงทุนควรจะใช้พื้นฐานทางธุรกิจ ควรที่จะทำการประเมินมูลค่าที่แท้จริงของบริษัทตามความรู้และความเข้าใจที่มี และซื้อในราคาที่มีส่วนลด ซึ่งหากท่านใดมีความรู้ทางเทคนิคก็อาจจะใช้สัณญานทางราคา,ปริมาณการซื้อขาย,ภาวะตลาดเข้ามาช่วยให้ซื้อได้ถูกมากขึ้น MOS ก็มากขึ้น

[phemstap]

[quote="สามัญชน"]ตามความเห็นผม

[phemstap]

3) หลังจากย้ายมาอยู่ต่างจังหวัดได้ 2 ปีกว่า เจอคนเล่นหุ้นแบบเก็งกำไร แบบใช้เทคนิคซะส่วนใหญ่
   ผมมีความคิดว่า อยากให้พวกเขาหันมาลงทุนแบบ VI จะได้ไม่พึ่งดวง หรือฟังคนอื่น ดูแนวรับแนวต้านตามคนอื่น
   เห็นใจคนต่างจังหวัดที่เล่นหุ้นเหมือนซื้อ Lottery แต่เมื่อเราเอ่ยปาก ก็โดนเต็มๆ เหมือน Case ด้านบน
   คนนั้นเขาก็ฉุนผมเลย  :(  ในใจเขาอาจจะคิดว่าเราเด็กไปรู้อะไร ผมว่าคงต้องใช้เวลา Prove อีกสำหรับผม
   ไว้อีก 5 ปี เจอกันใหม่ครับคุณ Financial Engineer => เอ...ผมไม่เคยเห็นต่ำแหน่งนี้ในองกรณ์น้า มีแต่ Financial Controller
   หรือไม่งั้นก็ Financial Calculator !!!  :P

[phemstap]

โอ...พี่สามัญชนดูเทคนิคเป็นด้วยหรือครับ

[poppo]

ผมเห็นด้วยกับพี่หมอสามัญชนและลุงmprandy ครับ ในการที่เราจะเลือกหุ้นที่จะลงทุนควรจะใช้พื้นฐานทางธุรกิจ ควรที่จะทำการประเมินมูลค่าที่แท้จริงของบริษัทตามความรู้และความเข้าใจที่มี และซื้อในราคาที่มีส่วนลด ซึ่งหากท่านใดมีความรู้ทางเทคนิคก็อาจจะใช้สัณญานทางราคา,ปริมาณการซื้อขาย,ภาวะตลาดเข้ามาช่วยให้ซื้อได้ถูกมากขึ้น MOS ก็มากขึ้น

มาเถียงแทนจาน mprandy ครับ ยังม่ายแก่ขนาดเป็นลุงนะครับ

[Stock Broker]

[quote="phemstap"]3) หลังจากย้ายมาอยู่ต่างจังหวัดได้ 2 ปีกว่า เจอคนเล่นหุ้นแบบเก็งกำไร แบบใช้เทคนิคซะส่วนใหญ่

[SunShine@Night]

ผมเคยไปเรียนเทคนิคมาครับของตลาดหลักทรัพย์

สงสัยไม่มีพรสวรรค์ด้านนี้

ดูยังไงก็ดูแนวโน้มไม่ออก

[สวนหย่อม]

ผมว่าคำถามนี้มันคลาสสิกจริงๆ ผมลองเปิดกระทู้เก่าๆ เล่นในหน้า 401-402
ก็พบอันนี้ครับ  :)  
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=149

[ayethebing]

พุทธศาสนามี 2 นิกายคือหินยานหรือเถรวาท กับมหายาน ซึ่งมีข้อแตกต่างกันอยู่จุดหนึ่งจากในหลายๆ จุดคือเถรวาทมุ่งเน้นที่การทำให้ตัวเองหลุดพ้นก่อนแล้วจึงช่วยเหลือเผยแผ่ให้ผู้อื่นหลุดพ้น ในขณะที่อุดมคติของมหายานจะมุ่งเน้นที่ช่วยผู้อื่นเป็นสำคัญ

ในความเชื่อส่วนตัวของผมเอนเอียงไปทางเถรวาทมากกว่าครับ

ไม่ค่อยเกี่ยวกับเรื่องกระทู้เท่าไหร่เลยนะเนี่ย

กลับมาเรื่องตอบคำถามที่คุณ phemstap ถาม

1. จริงๆใน Web นี้มีใครที่ใช้ Technical เป็นตัวเสริมบ้าง แต่พื้นฐานคืออิงกับ VI ? และใช้ผสมผสานมัน Work ?

เทคนิคอล ส่วนตัวผมเองไม่ได้ใช้ เพราะใช้ไม่เป็นครับ ไม่ได้รังเกียจอะไร แต่มันต้องใช้ความรู้เยอะมากๆ ในการที่จะทำให้รู้จริง รู้ลึกในอะไรสักเรื่องครับ ผมเลือกอีกทางที่อยู่ในกรอบของความสามารถของตัวเองดีกว่าครับ

2. ถ้า VI pure pure มั้น Work ดี ทำไมต้องเสริมด้วย Technical ? หรืออยู่ที่ความเชื่อ ? เชื่อว่ามันช่วยเสริมความแน่ใจ ว่ามันกำลังจะกลับเป็นขาขึ้น หรือขาลง ?

เนื่องจากไม่ได้ใช้ เลยไม่รู้จะตอบคำถามไงดี

3. แล้วพวกเราหมู่น้อย จะทำอย่างไรให้คนหมู่ใหญ่เห็นด้วยกับพวกเรา และคุยกับพวกเรารู้เรื่อง ?

ถ้าคุยเรื่องหุ้นไม่รู้เรื่องก็คุยเรื่องอื่นก็ได้นี่ครับ ยกเว้นคุยเรื่องการเมืองแล้วเค้าเชียร์พันธมิตร คุณชอบคนหน้าเหลี่ยม หรือเปลี่ยนไปคุยเรื่องกีฬา คุณชอบ manu เค้าชอบ liverpool สงสัยต้องเปลี่ยนคนคุยกระมังครับ  

[phemstap]

[quote="สวนหย่อม"]ผมว่าคำถามนี้มันคลาสสิกจริงๆ ผมลองเปิดกระทู้เก่าๆ เล่นในหน้า 401-402
ก็พบอันนี้ครับ