นักการทูตหลายประเทศ ตั้งคำถามว่า สงครามสั่งสอนจอร์เจียของรัสเซียในทะเลดำ
คือ การปิดฉากระเบียบใหม่ของสหรัฐฯหลังสงครามเย็นที่มีมาตั้งแต่ พ.ศ. 2534 ใช่หรือไม่? และ สงครามเย็นครั้งที่สอง กำลังเริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้งหรือไม่?โจทย์ดังกล่าว ถือว่ามีความสำคัญ หากจะใช้ทฤษฎี ระบบโลกของวอลเลอร์สไตน์เข้ามามองได้หรือไม่?
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นดูเหมือนจะยังคงไม่มีคำตอบ
รัสเซียยังคงยืนกรานว่า สถานการณ์สงครามที่เกิดขึ้นในหลายวันมานี้ ไม่ใช่ปัยหาที่รัสเซียก่อขึ้น แต่เป็นปัญหาที่รัฐบาลจอร์เจีย โดยการสนับสนุนของพันธมิตรสหรัฐฯ/อิสราเอลหนุนหลัง เพื่อก่อสงครามจำกัดวงโดยมีเป้าหมายดึงความสนใจของชาวโลกสร้างกระแสต่อต้านรัสเซียขึ้นมา
ในขณะที่สื่อตะวันตกเกือบทั้งหมด ต่างอ้างคำสัมภาษณ์ของผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์ในยุโรปตะวันออก ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นดังคำอ้างของรัสเซียแม้แต่น้อย เพราะแท้ที่จริงแล้ว ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น สอดคล้องกับท่าทีของรัสเซียต่อสถานการณ์ในทะเลดำและยุโรปตะวันตกในหลายเดือนมานี้ว่า พวกเขาจะไม่อดทนกับการล้ำเส้น(แม้จะเป็นเส้นจินตนาการ)เขตอิทธิพลของตนเองในยุโรปตะวันออกและทะเลดำให้แก่หน้าไหนทั้งสิ้น
ข้อเท็จจริงและท่าทีที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วดังกล่าว ทำให้ยากที่เราจะได้เห็นว่า เบื้องหลังเกมสงครามขนาดย่อมที่เกิดขึ้นในแคว้น ออสเซเตียของจอร์เจียนั้น แท้ที่จริงแล้ว เป็นอย่างไรและจะพัฒนาไปสู่จุดไหนกันแน่
ข้อเท็จจริงที่ทราบกันเบื้องต้นก็คือ ดินแดนดังกล่าว อุดมไปด้วยแก๊สธรรมชาติและน้ำมัน ในขณะที่ผู้คนที่อยู่อาศัยในบริเวณนั้นเป็นชาวคอสแซคที่ถือสองสัญชาติทั้งรัสเซียและจอร์เจีย และมีปัญหากับรัฐบาลกลางของจอร์เจียอยู่มาตั้งแต่ประเทศนี้แยกตัวออกจากโซเวียต
ร้ายไปกว่านั้น รัฐบาลกลางของจอร์เจีย ก็มีแนวโน้มชัดเจนว่า กำลังเดินนโยบายทางการทูตโน้มเอียงไปทางด้านสหรัฐฯและอิสราเอล มากขึ้นเรื่อยๆ โดยพยายามปลีกตัวออกห่างจากข้อตกลงร่วมมือทางทหารกับรัสเซียหลายต่อหลายครั้ง
รัสเซียเคยแสดงท่าทีไม่พอใจกับรัฐบาลจอร์เจียหลายวาระว่า กำลังทำตัวเป็นสุนัขรับใช้พันธมิตรสหรัฐฯ/อิสราเอล เพื่อรักษาอำนาจเผด็จการของรัฐบาลซึ่งนับวันจะยิ่งเสื่อมความนิยมจากประชาชนมากขึ้นต่อเนื่อง
ล่าสุด รัฐบาลจอร์เจีย เพิ่มงบประมาณทางทหารขึ้นอีก 30% โดยได้รับเงินสนับสนุนจากสหรัฐนและอิสราเอล เพื่อนำเงินไปซื้ออาวุธหนักจากทั้งสองประเทศนี้ และให้เหตุผลว่าเพื่อป้องกันตัวเองจากศัตรู ซึ่งจะเป็นใครไม่ได้นอกจากรัสเซียเอง
ข้อเท็จจริงนี้ ทำให้รัสเซียมองเห็นว่า นับวันตนเองจะถูกสหรัฐฯและพันธมิตรล้อมกรอบในเขตอิทธิพลดั้งเดิมในยุโรปตะวันออกอย่างเข้มข้นมากขึ้นรวมทั้งการที่อดีตพันธมิตรเก่าของรัสเซียในอดีต กลายเป็นภาคีสนธิสัญญานาโต้ไปแล้วหลายชาติ
หากเป็นช่วงเวลาของการล่มสลายทางเศรษฐกิจ รัสเซียคงไม่มีปฏิกิริยาอะไรมาก แต่ข้อเท็จจริงที่ว่า หลายปีมานี้ วิกฤตราคาน้ำมัน ได้ทำให้รัสเซียร่ำรวยมากขึ้นจากการขายพลังงาน สามารถที่จะทำให้รัฐบาลรัสเซียมีความมั่นใจที่จะเดินหน้าลงทุนทุ่มเทกับเกมยุทธศาสตร์การเมืองและการทหารในระดับโลกครั้งใหม่อีกครั้งหนึ่งอย่างอหังการเหมือนเช่นที่เคยกระทำมาในช่วงสงครามเย็น
เมื่อเร็วๆนี้ กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ออกแถลงการณ์ตอบโต้เสียงวิพากษ์ของนักการเมืองอย่างจอห์น แมคเคนที่กำลังหาเสียงเป็นประธานาธิบดีอเมริกันอย่างรุนแรงว่า เราพร้อมจะเป็นเพื่อนกับทุกชาติ แต่ไม่ใช่กับชาติที่มาชี้นิ้วสั่งเราว่า เราควรคบกับใคร ควรร่วมหลับนอนกับใคร และควรไล่ใครออกนอกบ้านของเรา...เรามิใช่ศัตรูของสหรัฐฯ แต่ในทางกลับกันเราก็มิใช่มหามิตรเช่นกัน เรามีปัญหากับรัฐบาลอเมริกัน แต่มิใช่กับชาวอเมริกัน
ท่าทีเช่นนี้ ยังแสดงให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น หลังจากที่รัสเซียสามารถตกลงในสัญญาแก้ไขปัญหาพรมแดนอันยาวไกลกับจีนที่เรื้อรังมานานได้สำเร็จเมื่อเดือนที่ผ่านมานี้เอง เพราะกระทรวงกลาโหมรัสเซียก็ออกแถลงการณ์ณ์ยืนยันครั้งใหม่ว่า พร้อมจะส่งฝูงเครื่องบินสอดแนมและทิ้งระเบิดกลับมาเยือนฐานทัพที่มีในข้อตกลงกับพันธมิตรเก่าแก่อย่างคิวบา และเวียดนาม อีกครั้งหนึ่ง โดยเริ่มต้นที่คิวบาก่อน
นอกจากนั้น จะมีการส่งคนไปปรับปรุงศูนย์ดักฟังข้อมูลพิเศษที่คิวบารอบใหม่อย่างจริงจัง หลังจากปล่อยทิ้งร้างมาหลายปี
แถลงการณ์ดังกล่าว ระบุชัดเจนว่า เพื่อเป็นการแสดงปฏิกิริยาต่อแรงวกดดันของสหรัฐและพนาโต้ที่มีต่อพรมแดนของรัสเซียในยุโรป โดยเฉพาะข้อเสนอตั้งขีปนาวุธตลอดพรมแดนสหภาพยุโรปกับรัสเซีย
พัฒนาการแบบรุกคืบหน้าทางทหารของรัสเซียดังกล่าว เป็นสิ่งที่ชาติตะวันตกหวาดระแวงเป็นธรรมดา ดังนั้นข้ออ้างของรัสเซียว่า ที่โจมตีจอร์เจียนั้นเป็นเพราะต้องการแค่รักษาสันติภาพ จึงไม่มีใครเชื่อถือกันมากนัก แต่ดูเหมือนว่า จะไม่มีใครกล้าวิพากษ์อะไรกันรุนแรง เพราะเรื่องนี้ว่าไปแล้ว เข้าข่ายไก้เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ กันพอสมควร
โจทย์ของนักการทูกว่าโลกจะย้อนกลับไปสู่สงครามเย็นรอบสอง ถูกรัสเซียปฏิเสธมาแล้ว แต่ไม่ได้หมายความคำตอบของรัสเซียจะถูกต้องเสมอไป เพราะอาจจะคตอบไม่ตรงคำถามก็ได้
ใครที่เชื่อว่า อเมริกาจะตรองโลกไปอีกยาวนานแบบนำเดี่ยว คงต้องทบทวนกันใหม่
โลกเคลื่อนไหวเร็วยิ่งขึ้น และสถานการณ์ก็ยิ่งผันผวนง่ายขึ้นด้วยเสมอไม่มีใครหยุดยั้งพลวัตของโลกได้ตามใจชอบ.
วันที่ 14 ส.ค. 2551 ข่าวหุ้น
ผมก็ว่ารัสเซีย จะเป็นรายต่อไปจากจีน
แล้วถ้านี่เป็นจริง.....
