หุ้นแม่-ลูก /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
- oatty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2444
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นแม่-ลูก /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 1
Value Investor ที่มุ่งมั่นและขยันทำการบ้านศึกษาหาข้อมูลและหาหุ้นลงทุนมักจะพบว่ามีหุ้นบางตัวที่น่าสนใจเป็นพิเศษ ไม่ใช่เพราะว่ามันมีผลการดำเนินงานที่ดีเลิศหรือมีงบการเงินที่แข็งแกร่งมาก หรือมีศักยภาพในการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ว่าที่จริงหุ้นเหล่านั้นบางตัวมีทุกอย่างตรงกันข้ามกับที่กล่าวทั้งหมด แต่สิ่งที่ทำให้หุ้นมีความน่าสนใจก็เพราะว่า มันเป็นหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่ถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียนอีกบริษัทหนึ่ง และมูลค่าตลาดของหุ้นที่ถืออยู่นั้นมีมูลค่ามากกว่ามูลค่าตลาดของหุ้นของตัวมันเองเสียอีก พูดแบบง่าย ๆ มูลค่าหุ้นในบริษัทลูกที่ถืออยู่นั้นมากกว่ามูลค่าหุ้นของบริษัทแม่ ในทางทฤษฎี หุ้นดังกล่าวก็อาจจะดูเหมือนว่ามีมูลค่าสูงกว่าราคา เข้าข่ายเป็นหุ้นคุณค่า เพราะทรัพย์สินเฉพาะที่เป็นหุ้นในบริษัทลูกก็มีมูลค่าสูงกว่าราคาหุ้นแม่แล้ว และถ้านับทรัพย์สินอื่นและตัวกิจการของบริษัทแม่เข้าไปด้วยมันจะไม่ยิ่ง Undervalue หรือมีมูลค่าสูงกว่าราคาเพิ่มขึ้นไปอีกหรือ? ลองมาดูว่ามีหุ้นตัวไหนบ้างที่มี “ลูกเป็นทรัพย์”
เริ่มตั้งแต่หุ้นตัวใหญ่อย่างหุ้น SHIN บริษัทแม่ของหุ้น ADVANC ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือใหญ่ที่สุดของประเทศ SHIN ถือหุ้น ADVANC ประมาณ 43% หรือ 1,264 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 109,311 ล้านบาท ในขณะที่มูลค่าตลาดหรือ Market Cap. ของหุ้น SHIN เองนั้นมีมูลค่าเพียงประมาณ 77,465 ล้านบาท คิดแล้วมูลค่าหุ้นเฉพาะADVANC ตัวเดียวก็มากกว่ามูลค่าหุ้น SHIN ถึง 41% แล้วทำไมเราจะต้องไปลงทุนในหุ้น ADVANC? ถ้าอยากซื้อ ไปซื้อหุ้น SHIN ไม่ดีกว่าหรือ? เดี๋ยวค่อยมาดูกัน
หุ้นตัวต่อไปก็คือหุ้น MINOR ซึ่งถือหุ้น MINT บริษัทสุดร้อนแรงที่ทำกิจการโรงแรม อาหารจานด่วนหลายยี่ห้อ มูลค่าหุ้นที่ MINOR ถืออยู่ประมาณ 556 ล้านหุ้นหรือ13.7% คิดเป็นเงินถึง 7,619 ล้านบาท สูงกว่ามูลค่าหุ้น MINOR ซึ่งอยู่ที่ 6,725 ล้านบาทประมาณ 13%
หุ้นตัวที่สามคือหุ้น ช. การช่างหรือ CK ซึ่งถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียนหลายตัวอย่างมีนัยสำคัญ แต่เฉพาะหุ้นบริษัทผลิตน้ำประปา TTW เพียงตัวเดียวที่ CK ถืออยู่ประมาณ 1,550ล้านหุ้นหรือ 47% ของบริษัทก็มีมูลค่าเท่ากับ 8,214 ล้านบาทเข้าไปแล้ว ในขณะที่มูลค่าหุ้นทั้งหมดของ CK นั้นอยู่ที่เพียง 6,449 ล้านบาทเท่านั้น
ลองมาดูหุ้นตัวเล็ก ๆ บ้าง เริ่มตั้งแต่หุ้น SVOA ซึ่งถือหุ้นบริษัทไอทีซิตี้หรือ IT จำนวน 112 ล้านหุ้นหรือประมาณ 34% คิดเป็นมูลค่า 670 ล้านบาท แต่ตัว SVOA เองนั้นทั้งบริษัทมีมูลค่าตลาดเพียง 572 ล้านบาท
หุ้นตัวที่ห้าคือหุ้นของ PR ซึ่งถือหุ้น PB บริษัทผู้นำทางด้านขนมปังจำนวนประมาณ 17 ล้านหุ้นหรือ 38% คิดเป็นมูลค่าเท่ากับ 1,216 ล้านบาทในขณะที่ตัวหุ้น PR มีมูลค่าตลาดเพียง1,092 ล้านบาท
และสุดท้ายที่ผมพอจะนึกออกก็คือหุ้น PRG ซึ่งถือหุ้น MBK เจ้าของห้างมาบุญครองจำนวนประมาณ 39 ล้านหุ้นหรือ 21% คิดเป็นมูลค่าเท่ากับ 2,702 ล้านบาท ในขณะที่หุ้น PRG มีมูลค่าตลาดเพียง 2,400 ล้านบาท
คำถามข้อแรกของเรื่องนี้ก็คือ หุ้นของบริษัทที่มีทรัพย์สินเป็นบริษัทลูกมีมูลค่ามากกว่ามูลค่าของบริษัทแม่นั้น น่าลงทุนไหมหรือเป็นหุ้น Value ไหม? คำตอบของผมก็คือ เราต้องดูที่หุ้นของบริษัทลูกก่อน ถ้าวิเคราะห์แล้วพบว่าราคาหุ้นของบริษัทลูกนั้นสูงเกินกว่าพื้นฐาน โดยเฉพาะถ้ารู้สึกว่าสูงเกินไปมาก เราอาจจะบอกตัวเองว่า ทรัพย์สินที่แม่มีอยู่นั้นอาจจะไม่มากเท่าที่เราเห็น และถ้าเป็นอย่างนั้น เราก็อาจจะต้องถอย เหตุผลก็เพราะว่า โดยปกติ บริษัทแม่มักจะไม่ขายหุ้นบริษัทลูกที่เป็นอภิชาตบุตรเหล่านั้น ดังนั้น มันจึงเป็นทรัพย์สินที่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดเท่ากับมูลค่าหุ้นของมันได้.. จบ.
ในกรณีที่เราพบว่าราคาหุ้นของบริษัทลูกนั้นสมเหตุผลแต่ก็ไม่มี Margin Of Safety หรือไม่ได้ถูกพอที่เราจะสนใจซื้อ ในความเห็นผม ก็จบอีกเช่นกัน ไม่ต้องไปดูบริษัทแม่ เพราะถึงแม้ว่าราคาหุ้นบริษัทลูกจะไม่สูงแต่มันก็อันตรายถ้าเกิดเหตุการณ์ที่กระทบกับราคาหุ้นบริษัทลูกซึ่งจะส่งผลให้หุ้นแม่แย่ลงไปด้วย
สุดท้ายที่สำคัญก็คือ ถ้าเราพบว่าหุ้นบริษัทลูกนั้นโดยตัวมันเองก็เป็น Value Stock เป็นหุ้นที่เราอยากซื้อ คำถามก็คือ เราควรซื้อหุ้นแม่แทนที่จะเป็นหุ้นลูกหรือไม่เพราะมันอาจจะถูกกว่า? มองดูอย่างผิวเผินเราน่าจะซื้อหุ้นแม่ แต่ลองมาวิเคราะห์ดูว่าจริงหรือไม่
ข้อที่จะต้องคำนึงก็คือ หนึ่ง เราจะต้องดูว่าบริษัทแม่มีหนี้มากหรือเปล่า ถ้ามีหนี้มากเกินกว่าที่จำเป็นต้องใช้ในการดำเนินการของธุรกิจของบริษัทแม่เอง นี่แปลว่ามูลค่าหุ้นของบริษัทลูกที่เราเห็นนั้นไม่ได้เป็นของบริษัทแม่คนเดียว แต่เป็นของธนาคารเจ้าหนี้ของบริษัทแม่ด้วย
ข้อสอง ต้องดูว่ากิจการของบริษัทแม่นั้นเป็นอย่างไร ถ้ากิจการของบริษัทแม่เองนั้นเป็นกิจการ “ตะวันตกดิน” กำไรมีแต่จะถดถอย แบบนี้เราก็ต้องดูว่ามันจะเป็นตัวที่จะถ่วงหรือทำลายมูลค่าของบริษัทแม่แค่ไหน เพราะในความเป็นจริง ผู้บริหารมักจะไม่ยอมทิ้งหรือเลิกกิจการแม้ว่ากิจการนั้นจะไม่มีมูลค่าหรือมูลค่าเป็นลบถ้าทู่ซี้ทำต่อไป
ข้อสาม บริษัทแม่นั้น มีสถานะเงินสดดีหรือไม่ นั่นก็คือ ถ้าบริษัทแม่เป็นฐานที่ใช้ลงทุนในกิจการอื่นไปเรื่อย ๆ ในขณะที่กิจการของตัวแม่เองนั้นมี Cashflow หรือกระแสเงินสดจากการดำเนินงานไม่ดี ปัญหาก็คือ บริษัทแม่จะไม่ค่อยจ่ายปันผลงามเหมือนบริษัทลูกซึ่งจะทำให้ราคาหุ้นไม่ค่อยเคลื่อนไหว
สุดท้ายที่สำคัญก็คือ ต้องดูอุตสาหกรรมหรือธุรกิจที่บริษัทแม่และบริษัทลูกทำ ถ้าลูกอยู่ในอุตสาหกรรมที่นักลงทุนนิยมและให้คุณค่าสูง แต่แม่ทำธุรกิจที่ไม่น่าสนใจเลยหรือทำธุรกิจหลากหลายจนไม่รู้ว่าทำอะไร แบบนี้ การเลือกลูกอาจจะดีกว่า เพราะหุ้นที่คนนิยมนั้น อย่างไรเสีย มันก็ยังมีความคึกคัก มีคนสนใจซื้อขาย และราคามันไม่เงียบเหงาเมื่อมีข่าวดี ๆ เกิดขึ้น
ข้อสรุปของผมก็คือ โอกาสสูงที่ผมจะเลือกลูกมากกว่าแม่ และจากประสบการณ์ที่เคยลงทั้งในลูกและแม่ ผมพอใจกับผลงานของลูกมากกว่าครับ
เริ่มตั้งแต่หุ้นตัวใหญ่อย่างหุ้น SHIN บริษัทแม่ของหุ้น ADVANC ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือใหญ่ที่สุดของประเทศ SHIN ถือหุ้น ADVANC ประมาณ 43% หรือ 1,264 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 109,311 ล้านบาท ในขณะที่มูลค่าตลาดหรือ Market Cap. ของหุ้น SHIN เองนั้นมีมูลค่าเพียงประมาณ 77,465 ล้านบาท คิดแล้วมูลค่าหุ้นเฉพาะADVANC ตัวเดียวก็มากกว่ามูลค่าหุ้น SHIN ถึง 41% แล้วทำไมเราจะต้องไปลงทุนในหุ้น ADVANC? ถ้าอยากซื้อ ไปซื้อหุ้น SHIN ไม่ดีกว่าหรือ? เดี๋ยวค่อยมาดูกัน
หุ้นตัวต่อไปก็คือหุ้น MINOR ซึ่งถือหุ้น MINT บริษัทสุดร้อนแรงที่ทำกิจการโรงแรม อาหารจานด่วนหลายยี่ห้อ มูลค่าหุ้นที่ MINOR ถืออยู่ประมาณ 556 ล้านหุ้นหรือ13.7% คิดเป็นเงินถึง 7,619 ล้านบาท สูงกว่ามูลค่าหุ้น MINOR ซึ่งอยู่ที่ 6,725 ล้านบาทประมาณ 13%
หุ้นตัวที่สามคือหุ้น ช. การช่างหรือ CK ซึ่งถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียนหลายตัวอย่างมีนัยสำคัญ แต่เฉพาะหุ้นบริษัทผลิตน้ำประปา TTW เพียงตัวเดียวที่ CK ถืออยู่ประมาณ 1,550ล้านหุ้นหรือ 47% ของบริษัทก็มีมูลค่าเท่ากับ 8,214 ล้านบาทเข้าไปแล้ว ในขณะที่มูลค่าหุ้นทั้งหมดของ CK นั้นอยู่ที่เพียง 6,449 ล้านบาทเท่านั้น
ลองมาดูหุ้นตัวเล็ก ๆ บ้าง เริ่มตั้งแต่หุ้น SVOA ซึ่งถือหุ้นบริษัทไอทีซิตี้หรือ IT จำนวน 112 ล้านหุ้นหรือประมาณ 34% คิดเป็นมูลค่า 670 ล้านบาท แต่ตัว SVOA เองนั้นทั้งบริษัทมีมูลค่าตลาดเพียง 572 ล้านบาท
หุ้นตัวที่ห้าคือหุ้นของ PR ซึ่งถือหุ้น PB บริษัทผู้นำทางด้านขนมปังจำนวนประมาณ 17 ล้านหุ้นหรือ 38% คิดเป็นมูลค่าเท่ากับ 1,216 ล้านบาทในขณะที่ตัวหุ้น PR มีมูลค่าตลาดเพียง1,092 ล้านบาท
และสุดท้ายที่ผมพอจะนึกออกก็คือหุ้น PRG ซึ่งถือหุ้น MBK เจ้าของห้างมาบุญครองจำนวนประมาณ 39 ล้านหุ้นหรือ 21% คิดเป็นมูลค่าเท่ากับ 2,702 ล้านบาท ในขณะที่หุ้น PRG มีมูลค่าตลาดเพียง 2,400 ล้านบาท
คำถามข้อแรกของเรื่องนี้ก็คือ หุ้นของบริษัทที่มีทรัพย์สินเป็นบริษัทลูกมีมูลค่ามากกว่ามูลค่าของบริษัทแม่นั้น น่าลงทุนไหมหรือเป็นหุ้น Value ไหม? คำตอบของผมก็คือ เราต้องดูที่หุ้นของบริษัทลูกก่อน ถ้าวิเคราะห์แล้วพบว่าราคาหุ้นของบริษัทลูกนั้นสูงเกินกว่าพื้นฐาน โดยเฉพาะถ้ารู้สึกว่าสูงเกินไปมาก เราอาจจะบอกตัวเองว่า ทรัพย์สินที่แม่มีอยู่นั้นอาจจะไม่มากเท่าที่เราเห็น และถ้าเป็นอย่างนั้น เราก็อาจจะต้องถอย เหตุผลก็เพราะว่า โดยปกติ บริษัทแม่มักจะไม่ขายหุ้นบริษัทลูกที่เป็นอภิชาตบุตรเหล่านั้น ดังนั้น มันจึงเป็นทรัพย์สินที่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดเท่ากับมูลค่าหุ้นของมันได้.. จบ.
ในกรณีที่เราพบว่าราคาหุ้นของบริษัทลูกนั้นสมเหตุผลแต่ก็ไม่มี Margin Of Safety หรือไม่ได้ถูกพอที่เราจะสนใจซื้อ ในความเห็นผม ก็จบอีกเช่นกัน ไม่ต้องไปดูบริษัทแม่ เพราะถึงแม้ว่าราคาหุ้นบริษัทลูกจะไม่สูงแต่มันก็อันตรายถ้าเกิดเหตุการณ์ที่กระทบกับราคาหุ้นบริษัทลูกซึ่งจะส่งผลให้หุ้นแม่แย่ลงไปด้วย
สุดท้ายที่สำคัญก็คือ ถ้าเราพบว่าหุ้นบริษัทลูกนั้นโดยตัวมันเองก็เป็น Value Stock เป็นหุ้นที่เราอยากซื้อ คำถามก็คือ เราควรซื้อหุ้นแม่แทนที่จะเป็นหุ้นลูกหรือไม่เพราะมันอาจจะถูกกว่า? มองดูอย่างผิวเผินเราน่าจะซื้อหุ้นแม่ แต่ลองมาวิเคราะห์ดูว่าจริงหรือไม่
ข้อที่จะต้องคำนึงก็คือ หนึ่ง เราจะต้องดูว่าบริษัทแม่มีหนี้มากหรือเปล่า ถ้ามีหนี้มากเกินกว่าที่จำเป็นต้องใช้ในการดำเนินการของธุรกิจของบริษัทแม่เอง นี่แปลว่ามูลค่าหุ้นของบริษัทลูกที่เราเห็นนั้นไม่ได้เป็นของบริษัทแม่คนเดียว แต่เป็นของธนาคารเจ้าหนี้ของบริษัทแม่ด้วย
ข้อสอง ต้องดูว่ากิจการของบริษัทแม่นั้นเป็นอย่างไร ถ้ากิจการของบริษัทแม่เองนั้นเป็นกิจการ “ตะวันตกดิน” กำไรมีแต่จะถดถอย แบบนี้เราก็ต้องดูว่ามันจะเป็นตัวที่จะถ่วงหรือทำลายมูลค่าของบริษัทแม่แค่ไหน เพราะในความเป็นจริง ผู้บริหารมักจะไม่ยอมทิ้งหรือเลิกกิจการแม้ว่ากิจการนั้นจะไม่มีมูลค่าหรือมูลค่าเป็นลบถ้าทู่ซี้ทำต่อไป
ข้อสาม บริษัทแม่นั้น มีสถานะเงินสดดีหรือไม่ นั่นก็คือ ถ้าบริษัทแม่เป็นฐานที่ใช้ลงทุนในกิจการอื่นไปเรื่อย ๆ ในขณะที่กิจการของตัวแม่เองนั้นมี Cashflow หรือกระแสเงินสดจากการดำเนินงานไม่ดี ปัญหาก็คือ บริษัทแม่จะไม่ค่อยจ่ายปันผลงามเหมือนบริษัทลูกซึ่งจะทำให้ราคาหุ้นไม่ค่อยเคลื่อนไหว
สุดท้ายที่สำคัญก็คือ ต้องดูอุตสาหกรรมหรือธุรกิจที่บริษัทแม่และบริษัทลูกทำ ถ้าลูกอยู่ในอุตสาหกรรมที่นักลงทุนนิยมและให้คุณค่าสูง แต่แม่ทำธุรกิจที่ไม่น่าสนใจเลยหรือทำธุรกิจหลากหลายจนไม่รู้ว่าทำอะไร แบบนี้ การเลือกลูกอาจจะดีกว่า เพราะหุ้นที่คนนิยมนั้น อย่างไรเสีย มันก็ยังมีความคึกคัก มีคนสนใจซื้อขาย และราคามันไม่เงียบเหงาเมื่อมีข่าวดี ๆ เกิดขึ้น
ข้อสรุปของผมก็คือ โอกาสสูงที่ผมจะเลือกลูกมากกว่าแม่ และจากประสบการณ์ที่เคยลงทั้งในลูกและแม่ ผมพอใจกับผลงานของลูกมากกว่าครับ
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี
-
- Verified User
- โพสต์: 332
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นแม่-ลูก /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 2
ขอบคุณนะครับคุณ oatty ที่นำมาให้อ่าน บทความของท่าน อ.นิเวศน์เนี่ยยังคงเยี่ยมยอดอยู่เสมอเลยนะครับ ทำให้นำมาใช้ประโยชน์ได้อยู่เสมอครับ
Life is beautiful + Financial freedom within 2015 by investment stock & real estate
- SunShine@Night
- Verified User
- โพสต์: 2196
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นแม่-ลูก /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 3
เป็นผม ผมก็เลือกลูกครับ
สาวกว่า สวยกว่า
สาวกว่า สวยกว่า

VI ฝึกหัด สำนักปีเตอร์ ลินช์
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี

- SunShine@Night
- Verified User
- โพสต์: 2196
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นแม่-ลูก /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 4
อ้าวนี้คุยเรื่องหุ้นกันเหรอครับ
อ่านผ่านๆ โพสผิดเลย
อ่านผ่านๆ โพสผิดเลย

VI ฝึกหัด สำนักปีเตอร์ ลินช์
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี

- sorawut
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2455
- ผู้ติดตาม: 1
หุ้นแม่-ลูก /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 5
รู้ได้ไงว่าลูกสาวครับ :lol:SunShine@Night เขียน:เป็นผม ผมก็เลือกลูกครับ
สาวกว่า สวยกว่า
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
- worapong
- Verified User
- โพสต์: 929
- ผู้ติดตาม: 0
แต่บางทีแม่ก้อน่าสนใจนะครับ
โพสต์ที่ 6
ในทางกลับกันครับ มีบริษัทค้าปลีกแห่งหนึ่ง เป็นถือว่าเป็นคุณแม่ยังสาว น่ารัก เซ็กซี่ ขี้เล่น เป็นกันเอง แต่กลับมีลูกที่เลี้ยงยาก ใช้เงินเก่ง ไม่ตั้งใจทำมาหากิน แต่พ่อแม่กำลังคุยกันอยู่ว่า จะยกลูกไปให้พ่อเลี้ยง เพราะแม่เลี้ยงมาหลายปีแล้ว แต่ลูกก็ยังไม่รักดีสักที ถือว่าเป็น อวชาตบุตร ถ้าสำเร็จ คุณแม่ลูกหนึ่ง จะกลายเป็นสาวโสดอีกครั้ง สามารถเปปลี่ยนคำนำหน้าเป็นนางสาวได้ดังเดิม มูลค่าของแม่จะเพิ่มขึ้นมาก แต่ถ้าไม่สำเร็จราคาที่เราจ่ายตอนนี้ก็อาจแพงเกินไป เพราะลูกคนนี้ คงล้างผลาญแม่ไปอีกนาน ถึงแม้ว่าแม่จะมั่นใจมากว่าพ่อจะเอาลูกไปชุบตัว ใส่ตะกร้าล้างน้ำขาย แต่ก็มีโอกาศนิดหน่อย ที่แม่อาจต้องทนเลี้ยงลูกต่อไปครับ
margin of safety
circle of competence
waiting for the perfect pitch
circle of competence
waiting for the perfect pitch
- charnengi
- Verified User
- โพสต์: 2388
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แต่บางทีแม่ก้อน่าสนใจนะครับ
โพสต์ที่ 8
[quote="worapong"]ในทางกลับกันครับ มีบริษัทค้าปลีกแห่งหนึ่ง เป็นถือว่าเป็นคุณแม่ยังสาว น่ารัก เซ็กซี่ ขี้เล่น เป็นกันเอง แต่กลับมีลูกที่เลี้ยงยาก ใช้เงินเก่ง ไม่ตั้งใจทำมาหากิน แต่พ่อแม่กำลังคุยกันอยู่ว่า จะยกลูกไปให้พ่อเลี้ยง เพราะแม่เลี้ยงมาหลายปีแล้ว แต่ลูกก็ยังไม่รักดีสักที ถือว่าเป็น อวชาตบุตร ถ้าสำเร็จ คุณแม่ลูกหนึ่ง จะกลายเป็นสาวโสดอีกครั้ง
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แต่บางทีแม่ก้อน่าสนใจนะครับ
โพสต์ที่ 9
[quote="worapong"]ในทางกลับกันครับ มีบริษัทค้าปลีกแห่งหนึ่ง เป็นถือว่าเป็นคุณแม่ยังสาว น่ารัก เซ็กซี่ ขี้เล่น เป็นกันเอง แต่กลับมีลูกที่เลี้ยงยาก ใช้เงินเก่ง ไม่ตั้งใจทำมาหากิน แต่พ่อแม่กำลังคุยกันอยู่ว่า จะยกลูกไปให้พ่อเลี้ยง เพราะแม่เลี้ยงมาหลายปีแล้ว แต่ลูกก็ยังไม่รักดีสักที ถือว่าเป็น อวชาตบุตร ถ้าสำเร็จ คุณแม่ลูกหนึ่ง จะกลายเป็นสาวโสดอีกครั้ง
- atsu
- Verified User
- โพสต์: 1218
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แต่บางทีแม่ก้อน่าสนใจนะครับ
โพสต์ที่ 10
[quote="charnengi"][quote="worapong"]ในทางกลับกันครับ มีบริษัทค้าปลีกแห่งหนึ่ง เป็นถือว่าเป็นคุณแม่ยังสาว น่ารัก เซ็กซี่ ขี้เล่น เป็นกันเอง แต่กลับมีลูกที่เลี้ยงยาก ใช้เงินเก่ง ไม่ตั้งใจทำมาหากิน แต่พ่อแม่กำลังคุยกันอยู่ว่า จะยกลูกไปให้พ่อเลี้ยง เพราะแม่เลี้ยงมาหลายปีแล้ว แต่ลูกก็ยังไม่รักดีสักที ถือว่าเป็น อวชาตบุตร ถ้าสำเร็จ คุณแม่ลูกหนึ่ง จะกลายเป็นสาวโสดอีกครั้ง
- SunShine@Night
- Verified User
- โพสต์: 2196
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นแม่-ลูก /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 11
[quote]ในทางกลับกันครับ มีบริษัทค้าปลีกแห่งหนึ่ง เป็นถือว่าเป็นคุณแม่ยังสาว น่ารัก เซ็กซี่ ขี้เล่น เป็นกันเอง แต่กลับมีลูกที่เลี้ยงยาก ใช้เงินเก่ง ไม่ตั้งใจทำมาหากิน แต่พ่อแม่กำลังคุยกันอยู่ว่า จะยกลูกไปให้พ่อเลี้ยง เพราะแม่เลี้ยงมาหลายปีแล้ว แต่ลูกก็ยังไม่รักดีสักที ถือว่าเป็น อวชาตบุตร ถ้าสำเร็จ คุณแม่ลูกหนึ่ง จะกลายเป็นสาวโสดอีกครั้ง สามารถเปปลี่ยนคำนำหน้าเป็นนางสาวได้ดังเดิม มูลค่าของแม่จะเพิ่มขึ้นมาก แต่ถ้าไม่สำเร็จราคาที่เราจ่ายตอนนี้ก็อาจแพงเกินไป เพราะลูกคนนี้ คงล้างผลาญแม่ไปอีกนาน ถึงแม้ว่าแม่จะมั่นใจมากว่าพ่อจะเอาลูกไปชุบตัว ใส่ตะกร้าล้างน้ำขาย แต่ก็มีโอกาศนิดหน่อย ที่แม่อาจต้องทนเลี้ยงลูกต่อไปครับ[/quote]
ขอเดาว่าคุณแม่ cup C ใช่ไหมครับ
ขอเดาว่าคุณแม่ cup C ใช่ไหมครับ

VI ฝึกหัด สำนักปีเตอร์ ลินช์
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี

- Rocker
- Verified User
- โพสต์: 4526
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แต่บางทีแม่ก้อน่าสนใจนะครับ
โพสต์ที่ 12
[quote="worapong"]ในทางกลับกันครับ มีบริษัทค้าปลีกแห่งหนึ่ง เป็นถือว่าเป็นคุณแม่ยังสาว น่ารัก เซ็กซี่ ขี้เล่น เป็นกันเอง แต่กลับมีลูกที่เลี้ยงยาก ใช้เงินเก่ง ไม่ตั้งใจทำมาหากิน แต่พ่อแม่กำลังคุยกันอยู่ว่า จะยกลูกไปให้พ่อเลี้ยง เพราะแม่เลี้ยงมาหลายปีแล้ว แต่ลูกก็ยังไม่รักดีสักที ถือว่าเป็น อวชาตบุตร ถ้าสำเร็จ คุณแม่ลูกหนึ่ง จะกลายเป็นสาวโสดอีกครั้ง
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แต่บางทีแม่ก้อน่าสนใจนะครับ
โพสต์ที่ 13
[quote="worapong"]ในทางกลับกันครับ มีบริษัทค้าปลีกแห่งหนึ่ง เป็นถือว่าเป็นคุณแม่ยังสาว น่ารัก เซ็กซี่ ขี้เล่น เป็นกันเอง แต่กลับมีลูกที่เลี้ยงยาก ใช้เงินเก่ง ไม่ตั้งใจทำมาหากิน แต่พ่อแม่กำลังคุยกันอยู่ว่า จะยกลูกไปให้พ่อเลี้ยง เพราะแม่เลี้ยงมาหลายปีแล้ว แต่ลูกก็ยังไม่รักดีสักที ถือว่าเป็น อวชาตบุตร ถ้าสำเร็จ คุณแม่ลูกหนึ่ง จะกลายเป็นสาวโสดอีกครั้ง
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
Re: แต่บางทีแม่ก้อน่าสนใจนะครับ
โพสต์ที่ 14
จะจีบก็ระวังพ่อตาหน่อยนะครับ... ได้ข่าวว่าทั่นดุเหลือเกินpor_jai เขียน:น้องworapong นานๆมาโพสทีนึง
ทำให้กระทู้คึกคักเลย
ร้านของยายแม่แถวบ้านผม ขายดีโคตรๆ
ลงของทีนึงรถไม่รู้กี่คันต่อกี่คัน
พนักงานหน้าร้านเฉพาะทอนตังนี่4-5คน
เรียงของ เช็ดร้าน เช็คสต๊อค ผจก.ไม่นับ
ผมคุยๆกับพรรคพวกในเวบรักยายแม่นี้เยอะมาก
แล้วก็มั่นใจกันทั้งนั้นว่าจะจีบติด
ถึงจีบติดแต่ก็อาจโดนเพ้นกบาลได้... :lol: