ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

กระทู้คุณค่า มีประโยชน์ ความรู้ดีดี เป็นประโยชน์เสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน แค่ไหนก็ตาม
ภาพประจำตัวสมาชิก
kmphol
Verified User
โพสต์: 417
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 211

โพสต์

ขอบคุณพี่ลูกอีสานมากนะครับ สำหรับความรู้ที่แบ่งปันให้
ผมขอถามเพิ่มเติมหน่อยครับว่า การดูว่าพื้นฐานของกิจการได้เปลี่ยนไปแล้วจริง ต้องขายหุ้นทิ้งอย่างเดียว ดูจากอะไรครับ
ผมมีปํญหาว่าบางทีไม่สามารถแยกแยะได้ว่าควรขายหุ้นทิ้งหรือยัง เคยอ่านหนังสือเขาบอกว่าเมื่อบริษัทมีปํญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้
แต่ผมเองคิดว่าทุกปัญหาสามารถแก้ไขได้ อยู่ทีว่า มีคนแก้ไขหรือไม่ และใช้เวลานานแค่ไหนในการแก้ไข
ผมขอยกตัวอย่างหุ้นดังนี้ครับ  
MCOTคุณ มิ่งขวัญ ลาออก
BECL แอร์พอรตลิงค์เปิด ทางด่วนอีกเส้นยังไม่เก็บค่าผ่านทาง
PTT มีการฟ้องร้องเรื่อง delisting
THAI น้ำมันแพง ต้นทุนสูง demand ลด
SCC ต้นทุนแพง demand ลด
เศรษฐกิจโดยรวมแย่ เงินเฟ้อสูง ดอกเบี้ยแพง
ซึ่งผมว่าปํญหาข้างต้น มีทางแก้แต่อาจใช้เวลานานและเรายังไม่ควรขายหุ้นทิ้ง แต่ผมจะขายถ้างบการเงินเริ่มขาดทุน แต่ก็ไม่รู้ว่าขาดทุนสักแค่ไหน กี่ไตรมาสถึงต้องขาย
พี่ลูกอีสานมี แนวทางอย่างไรในการดูพื้นฐานและตัดสินใจว่าต้องขายครับ
ขอความรู้ด้วยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
romee
Verified User
โพสต์: 1850
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 212

โพสต์

ถามพี่ลูกอีสานว่าหุ้นที่ออก PO หรือเพิ่มทุน หรือออก W

ถ้าเราถือหุ้นตัวนั้นๆอยู่ ก่อนที่มันจะออก PO และอีกหลายๆแบบ   เราจะมีวิธีคิด วิธีดูยังไง ว่ามันจะไดลูทไปเท่าไร และคุ้มมั้ย ที่จะถือต่อนะครับ

แล้วปกติพี่ทำไง ถ้าเจอหุ้นเพิ่มทุนแบบนี้  :?:
ภาพประจำตัวสมาชิก
yuki
Verified User
โพสต์: 45
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 213

โพสต์

ถามคุณลูกอิสานครับว่า ซื้อพวก วอแรนท์ด้วยหรือเปล่าครับ
และ หุ้นที่ติดตาม และ ดูอยู่ห่างๆ ที่เป็นร้อยๆตัวนี่

ถามว่า ทำไมถึงเลือกที่จะติดตามหุ้นเหล่านั้นครับ
เช่น ดูงบการเงินทุก บ.ในตลาดแล้ว พวกนั้นน่าสนใจสุด
หรือว่าเป็น บ.ที่ไม่ดัง ไม่เป็นผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรม อะไรอย่างนี้น่ะครับ
(ประมาณว่าใช้เกณฑ์อะไรคร่าวๆ)  :?:
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6447
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 214

โพสต์

ลูกอิสาน เขียน:ไม่น่าเชื่อว่าในตลาดหุ้นไทยจะมีหุ้น net net หลายตัวครับ บางตัวซื้อขายกันที่ 2/5 ของสินทรัพย์หมุน-หนี้ทั้งหมด ด้วยซ้ำ แต่มาเข้าคำถามว่าหุ้น net-net ในตลาดหุ้นไทยจะให้ผลตอบแทนคุ้มค่าการรอคอยหรือเปล่า ผมขอมาต่ออีกวันครับ ต้องพาลูกเข้านอนก่อน
โดยความหมายของหุ้น net-net คือเราซื้อหุ้นที่ราคาต่ำมาก และหากเราถือหุ้นสัดส่วนมากพอ สามารถชำแหละกิจการคือหยุดประกอบธุรกิจนำสินทรัพย์ออกขายทอดตลาดและยังมีกำไร ซึ่งในตลาดหุ้นอเมริกามีนักลงทุนซื้อหุ้นทั้งบริษัทและนำมาขายทอดตลาดได้จริงๆ  แต่ในเมืองไทยนี่อาจจะคนละเรื่องกัน ด้วยเหตุผลประมาณนี้ครับ..

1.บริษัทไทยส่วนใหญ่ ผู้ก่อตั้งยังถือหุ้นใหญ่ มีอำนาจการบริหารงาน เรื่องที่จะหยุดประกอบธุรกิจแล้วแบ่งสินทรัพย์กันเป็นไปได้ยากมาก เพราะเรื่องฐานะหน้าตาเรื่องนึง มีอำนาจมีลูกน้องให้บริหาร ความยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นกิจการที่สือทอดจากครอบครัว เรื่องเงินๆทองๆ ถึงแม้กิจการจะขาดทุน แต่เจ้าของผู้บริหารไม่เคยจน นอกจากได้รายเงินเดือนจากการบริหาร ยังสามารถผ่องถ่ายเงินออกจากบริษัทได้ง่ายมากหลายวิธี บางครั้งเราจะเห็นว่าบางบริษัทขาดทุนมาหลายปีดีดัก ปันผลก็ไม่มี แต่ผู้บริหารมีเงินมาซื้อหุ้นตอนตลาดซบเซา หรือซื้อหุ้นเพิ่มทุนจำนวนมากๆได้อย่างน่าประหลาดใจ

2.หุ้น net-net เป็นธุรกิจที่ไม่มีอนาคต
เกือบทั้งหมดมีปัญหาของตัวเอง ซึ่งนี่เองที่เป็นสาเหตุทำให้หุ้นซื้อขายกันที่ราคาถูกมากกๆ เกือบทุกบบริษัทจะขาดทุนหรือกำไรเล็กน้อยๆ หากธุรกิจขาดทุนไปเรื่อยๆแน่นอนว่าส่วนทุน-สินทรัพย์จะค่อยๆลดลง เสมือนเลือดที่ไหลออกไม่หยุด ราคาหุ้นก็จะค่อยๆลดลงด้วย ดังนั้นการทำกำไรจากหุ้นเหล่านี้จะยาก เว้นแต่ว่ามีการปลดปล่อยสินทรัพย์ออกมา หรือมีจุดเปลี่ยนธุรกิจที่ทำให้ผลประกอบการดีขึ้นครับ


จากมุมมองข้างต้นผมไม่ค่อยสนใจหุ้น net-net ในตลาดหุ้นไทยครับ เพราะถึงแม้เราซื้อหุ้นได้ถูกก็จริง แต่มีความไม่แน่นอนสูงว่าเมื่อไหร่เราจะได้ผลตอบแทน บางบริษัทเราอาจจะต้องรอเป็นเวลานาน บางบริษัทอาจจะไม่มีวันนั้น หุ้นมี 400 ตัว เราเลือกลงทุนในตัวที่เราคาดการณ์ผลประกอบการได้ในกรอบเวลานึง ไม่ดีกว่าหรือ  ยกเว้นว่าเราเจอหุ้น net-net และมีข้อมูลที่เชื่อได้ว่าธุรกิจกำลังดีขึ้นหรือกำลังจะมีการปลดปล่อยสินทรัพย์ออกมา
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6447
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 215

โพสต์

teelek เขียน:ถาคุณลูกอิสานครับ ว่า
มีสถานการณ์ใดบ้างที่จะทำให้เกิดไดลูชั่นได้บ้างครับ
ขอบคุณครับ

คงเป็นกรณีที่มีหุ้นเพิ่มขึ้น เมื่อตัวหารเพิ่มขึ้น กำไรต่อหุ้นก็ลดลงใช่ไหมครับ เพราะกำไรต่อหุ้น(eps)=กำไร/จำนวนหุ้น

แน่นอนว่าทุกกรณีที่ทำให้จำนวนหุ้นเพิ่มก็เกิด dilution effect ทั้งสิ้น เช่นการขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งแรก(IPO) การขายหุ้นเพิ่มทุนเฉพาะเจาะจง(PP) การขายหุ้นเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิม (PO) การจ่ายปันผลเป็นหุ้น การแปลงสภาพวอร์แรนต์  ในทางตรงกันข้ามการที่จำนวนหุ้นลดลง จะทำให้กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น ซึ่งหมายถึงราคาด้วย ที่เราเจอบ่อยๆคือการซื้อหุ้นคืนโดยบริษัท ทำให้ eps สูงขึ้น ส่วนการลดทุนลดหุ้นโดยตรง มีค่อนข้างน้อย ที่เราเคยเจอบ้างเช่นกรณี csl

romee เขียน:ถามพี่ลูกอีสานว่าหุ้นที่ออก PO หรือเพิ่มทุน หรือออก W ถ้าเราถือหุ้นตัวนั้นๆอยู่ ก่อนที่มันจะออก PO และอีกหลายๆแบบ   เราจะมีวิธีคิด วิธีดูยังไง ว่ามันจะไดลูทไปเท่าไร และคุ้มมั้ย ที่จะถือต่อนะครับแล้วปกติพี่ทำไง ถ้าเจอหุ้นเพิ่มทุนแบบนี้  :?:
ปกติการเพิ่มทุน จะทำให้มีเงินเข้าบริษัทๆ ซึ่งนำไปขยายกิจการ เป็นเงินทุนหมุนเวียน คืนเงินกู้ โดยรวมก็ควรทำให้กำไรเพิ่มขึ้น ดังนั้นผมจะคาดการณ์กำไรหลังการเพิ่มทุนหารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมด จะได้ eps คูณกับ PE ที่เหมาะสม เราก็จะได้ราคาที่ควรจะเป็นอย่างคร่าวๆ ถ้าคิดว่าราคาหุ้นยังถูกกว่าราคาที่เราคำนวณได้ ผมก็จะถือครับ แต่ส่วนมากผมจะขายมากกว่า เพราะกรณีเพิ่มทุนจะทำให้จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นทันทีหรือแน่นอน แต่กำไรที่คาดว่าจะเพิ่มยังมีความไม่แน่นอนว่าจะทำได้จริงหรือเปล่า เรียกว่ากำไรยังไม่มา แต่ไดลูชั่นนั้นมาแล้ววว :lol:   มียกเว้นกรณีการเพิ่มทุนโดยการออกวอร์แรนต์ ซึ่งยังไม่มีการแปลงสภาพ ผมจะดูแนวโน้มว่าจะมีการแปลงสภาพตอนไหน สัดส่วนเท่าไหร่ ก็จะทำให้รู้จำนวนหุ้นโดยรวมแต่ละปี เพื่อนำไปหา eps ได้ครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6447
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 216

โพสต์

[quote="yuki"]ถามคุณลูกอิสานครับว่า ซื้อพวก วอแรนท์ด้วยหรือเปล่าครับและ หุ้นที่ติดตาม และ ดูอยู่ห่างๆ ที่เป็นร้อยๆตัวนี่ถามว่า ทำไมถึงเลือกที่จะติดตามหุ้นเหล่านั้นครับเช่น ดูงบการเงินทุก บ.ในตลาดแล้ว พวกนั้นน่าสนใจสุดหรือว่าเป็น บ.ที่ไม่ดัง ไม่เป็นผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรม อะไรอย่างนี้น่ะครับ(ประมาณว่าใช้เกณฑ์อะไรคร่าวๆ)
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6447
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 217

โพสต์

[quote="kmphol"]ขอบคุณพี่ลูกอีสานมากนะครับ สำหรับความรู้ที่แบ่งปันให้ผมขอถามเพิ่มเติมหน่อยครับว่า การดูว่าพื้นฐานของกิจการได้เปลี่ยนไปแล้วจริง ต้องขายหุ้นทิ้งอย่างเดียว ดูจากอะไรครับผมมีปํญหาว่าบางทีไม่สามารถแยกแยะได้ว่าควรขายหุ้นทิ้งหรือยัง เคยอ่านหนังสือเขาบอกว่าเมื่อบริษัทมีปํญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้แต่ผมเองคิดว่าทุกปัญหาสามารถแก้ไขได้ อยู่ทีว่า มีคนแก้ไขหรือไม่ และใช้เวลานานแค่ไหนในการแก้ไข
ผมขอยกตัวอย่างหุ้นดังนี้ครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
sci
Verified User
โพสต์: 678
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 218

โพสต์

สวนหย่อม wrote:
ขอบคุณมากครับพี่    
แล้วหยั่งพี่นี้สนใจหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรบ้างไหมครับ
(จริงๆ พี่ก็ต้องดูไว้เยอะอยู่แล้ว เพราะพี่ตามหุ้นอยู่ 200 กว่าตัวนี่นา   )ได้ยินหลายๆ คนบอกว่าปีที่แล้วเป็นปีทองของปิโตร หลายๆบริษัททำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ
เรามีวิธีสังเกตุวัฎจักรขาขึ้นของปิโตรยังไงบ้างไหมครับ แล้วปีนี้พี่คิดว่าเป็นไงครับ  


หลังๆผมไม่ค่อยได้ตามกลุ่มนี้เลยครับ เพราะหาข้อมูลยากทั้งราคา demand supply ประกอบกับเป็นหุ้นวัฤจักร ซึ่งเวลาที่เราควรจะซื้อคือช่วงตกต่ำ แน่นอนว่าไม่ใช่ตอนนี้

เคยอ่านเจอเค้าบอกว่าช่วงก่อนวัฤจักรขาขึ้นคือแทบทุกบริษัทจะขาดทุน ต่อเนื่องยาวนาน ไม่มีการขยายกำลังการผลิต ราหุ้นตกต่ำ pe สูงมากๆ pb ต่ำๆและถ้าให้ผมเดาวัฤจักรขาลงคงอยู่ไม่ไกลครับ น้ำมันดิบกับปิโตรนี่คนละเรื่องนะครับ น้ำมันดิบอยากผลิตเพิ่มไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องเสี่ยงดวงขุดเจาะ ส่วนโรงงานปิโตรนี่สร้างเท่าไหร่ ก็ได้ครับ

ไม่แน่ใจว่าคือ การสร้างโรงงานหรือการผลิตครับ แต่ถ้าเป็นการผลิต ปิโตรเคมีขั้นปลาย พวกเม็ดพลาสติก ส่วนใหญ่แล้ว วัตถุดิบที่นำมาผลิตปิโตรเคมี จะมาจากน้ำมันดิบครับ แต่มีบางที่ใช้ วัตถุดิบ จากแก็ส ส่วนตัวคิดว่า ส่วนมากแล้วมาจากน้ำมันนี่แหละครับ ทั้ง olefin และ styrene ซึ่ง มีส่วนเกี่ยวกันในเรื่องของต้นทุน แต่ ราคาขาย ไม่ได้เกี่ยวกันครับ เพราะไม่สามารถปรับเองได้

โดยส่วนตัวแล้วชื่นชม พี่ลูกอีสานครับ จากการประสบความสำเร็จการลงทุนเคยได้ฟังพี่ พูดถึงเรื่อง การลงทุนสามารถเปลี่ยนฐานะของเราได้ พี่พอจะเล่าให้ฟังได้มั้ยครับ ว่า นอกจากพี่แล้ว ยังมีใครที่รู้จัก ที่ลงทุนโดยเริ่มจาก นับ 1เลย โดยที่ มาจากเงินที่หาได้เอง ครับ
ปล.หาดใหญ่ยังน่าอยู่มั้ยครับ ไม่ได้กลับนานแล้ว
Tlk
Verified User
โพสต์: 395
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 219

โพสต์

เรียนถามคุณพี่ลูกอิสานว่าที่ผ่านมาในสถานการณ์ใดบ้างในอดีตที่ คุณลูกอิสานได้ตัดสินใจซื้อและขายหุ้นตัวนั้นๆที่คุณลูกอิสานรู้สึกประทับใจและอยากถ่ายทอดประสบการณ์เชิงวิเคราะห์นั้นให้ ผู้ที่เป็นแฟนกระทู้นี้ได้เรียนรู้และเป็นวิทยาทานหน่อยครับ ถ้าได้ทั้งแบบกำไรท่วมท้น และขาดทุนก็ยิ่ดีครับ แต่ถ้าไม่เคยมีเลือกหุ้นผิดเลยก็ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณครับ
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6447
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 220

โพสต์

sci เขียน:โดยส่วนตัวแล้วชื่นชม พี่ลูกอีสานครับ จากการประสบความสำเร็จการลงทุนเคยได้ฟังพี่ พูดถึงเรื่อง การลงทุนสามารถเปลี่ยนฐานะของเราได้ พี่พอจะเล่าให้ฟังได้มั้ยครับ ว่า นอกจากพี่แล้ว ยังมีใครที่รู้จัก ที่ลงทุนโดยเริ่มจาก นับ 1เลย โดยที่ มาจากเงินที่หาได้เอง ครับ
ปล.หาดใหญ่ยังน่าอยู่มั้ยครับ ไม่ได้กลับนานแล้ว
เป็นความตั้งใจของผมเองครับที่จะสื่อออกไปอย่างนั้น ผมมักจะบอกว่า ผมเป็นคนที่มีต้นทุนทางสังคมต่ำ เป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดา เป็นเด็กต่างจังหวัด เป็นชนชั้นกลางธรรมดา แต่ผมก็สามารถลงทุนในหุ้นและเปลี่ยนสถานะทางสังคมได้ เหตุผลเพราะคนส่วนใหญ่น่าจะเป็นแบบผม หลายคนมีโอกาสมากกว่าผมซะอีก และถ้าผมยังทำได้ ทำไมคนอื่นๆจะทำไม่ได้ แต่แน่นอนว่าผมไม่ได้คาดหวังคนที่มาสนใจจะประสบความสำเร็จทุกคน
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
Radio
Verified User
โพสต์: 1296
ผู้ติดตาม: 1

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 221

โพสต์

ผมขอแสดงความนับถือคุณ ลูกอิสาน อย่างสูงครับ ไม่ใช่ในฐานะที่
ประสบความสำเร็จ  แต่ในฐานะที่มีจิตใจดีงามที่หวังให้ผู้อื่นได้ประสบ
ความสำเร็จ ได้เลื่อนฐานะทางชนชั้น โดยการให้กำลังใจและแนะนำวิธีการ
ต่างๆโดยไม่ปิดบังไม่รู้เบื่อ  ขอคาราวะครับ
Tlk
Verified User
โพสต์: 395
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 222

โพสต์

เห็นด้วยอย่างยิ่งกับความเห็นของคุณ Radio ครับ
sunrise
Verified User
โพสต์: 2266
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 223

โพสต์

ขอถามบ้างครับ พี่

ว่าพี่มีแนวทางกลับการซื้อหุ้นที่คิดว่าดีแต่สภาพคล่องต่ำมากๆถ้าเทียบกับพอร์ตอย่างไร เช่น ซื้อขายแต่ละช่องไม่เกิน 1-2 % ของพอร์ต
แล้วก็ถ้ามั่นใจว่าหุ้นน่าจะมีผลประกอบการดีมากในระยะ 1-2 ปี แต่ ความเสี่ยงผู้บริหารที่จะทำอะไรที่คาดไม่ถึงก็มีเช่นกัน
อย่างนี้พี่พิจารณาอะไรบ้างก่อนที่จะตัดสินใจซื้อแบบตีแตก

การถือหุ้นสัก 5 ตัว ในมุมมองของพี่คิดว่ามากหรือ น้อยไปครับ สำหรับ พอร์ตเจ็ดหลัก แล้วถ้าพอร์ตระดับ 8 หลัก และ9 หลัก <--  :pray: ขอให้มีบ้างเถอะในอนาคต
เรายังสามารถใช้การจำกัดจำนวนหุ้นน้อยๆ ได้อีกหรือไม่ครับ
เพราะผมคาดว่าคงจะยากที่จะติดตามหุ้นจำนวนมากๆได้อย่างพี่น่ะครับ
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6447
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 224

โพสต์

teelek เขียน:เรียนถามคุณพี่ลูกอิสานว่าที่ผ่านมาในสถานการณ์ใดบ้างในอดีตที่ คุณลูกอิสานได้ตัดสินใจซื้อและขายหุ้นตัวนั้นๆที่คุณลูกอิสานรู้สึกประทับใจและอยากถ่ายทอดประสบการณ์เชิงวิเคราะห์นั้นให้ ผู้ที่เป็นแฟนกระทู้นี้ได้เรียนรู้และเป็นวิทยาทานหน่อยครับ ถ้าได้ทั้งแบบกำไรท่วมท้น และขาดทุนก็ยิ่ดีครับ แต่ถ้าไม่เคยมีเลือกหุ้นผิดเลยก็ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณครับ
ผมยกตัวอย่างดีกว่า ว่าเหตุผลอะไรที่ผมสนใจหุ้นเหล่านี้ เอาที่พอจำได้นะครับ


หุ้น 2 ตัวนี้ไม่มีคำว่าสาย หากคิดจะซื้อ = mint & tr ตอนเกือบๆ 4 บ.และ 35 บ.

EASTW หุ้นดีอีกตัวที่น่าสนใจมาก= eastw ตอน 29-30 บ.ก่อนแตกพาร์

งบออกแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันดีกว่า= scnyl ตอน 51 บ.

ลืมชายอุ๋ยไปได้แล้ว หุ้นตัวนี้น่าสนใจกว่า= drt ตอน 1.2 บ.

uec & ums หากถึงคราวจะต้องเลือก

ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล= kh tnh ram ahc

หุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือเปล่า= uec ตอนประมาณ 1.2 บ.

เอาไงดีครับ กับหุ้นไทยรักไทย = trt ตอน 5.4 บ.

ความเหมือนของหุ้น 3C= cei cpl cm

หุ้นดีที่โลกลืมอีกตัว sfp


ส่วนที่วิเคราะห์ผิดครับ

บรรยากาศอย่างนี้ หาหุ้นดีราคาไม่แพงมาคุยกันดีกว่า= tapac

ผมสนใจ slc

โอกาสที่มาพร้อมกับความเสี่ยง>>> UOBAPF

ทำไมหลายท่านมองข้าม FANCY !


และคงมีอีกหลายตัวที่ผมจำไม่ได้แล้ว

ทุกกระทู้ผมมักจะโพสต์เหตุผลพื้นฐานด้านดีไม่ดีเสมอ
ตัวไหนที่เหตุผลผมถูก ผมจะรู้สึกดีครับเช่น mint :lol:
ตัวไหนที่แม้ราคาจะขึ้น แต่เหตุผลผมผิดผมจะไม่ค่อยดีใจครับ และอีกหลายๆตัวผมวิเคราะห์ผิดดังตัวอย่างครับ :lol:
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6447
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 225

โพสต์

[quote="Radio"]ผมขอแสดงความนับถือคุณ ลูกอิสาน อย่างสูงครับ ไม่ใช่ในฐานะที่ประสบความสำเร็จ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6447
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 226

โพสต์

[quote="sunrise"]ขอถามบ้างครับ พี่
ว่าพี่มีแนวทางกลับการซื้อหุ้นที่คิดว่าดีแต่สภาพคล่องต่ำมากๆถ้าเทียบกับพอร์ตอย่างไร เช่น ซื้อขายแต่ละช่องไม่เกิน 1-2 % ของพอร์ตการถือหุ้นสัก 5 ตัว ในมุมมองของพี่คิดว่ามากหรือ น้อยไปครับ สำหรับ พอร์ตเจ็ดหลัก แล้วถ้าพอร์ตระดับ 8 หลัก และ9 หลัก <--
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
sunrise
Verified User
โพสต์: 2266
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 227

โพสต์

ขอบคุณครับ พี่ ช่วยได้เยอะ

มาถามต่อที่พี่ว่ากำไรมาราคาหุ้นต้องไป

เป็นกำไรปกติอย่างเดียวหรือเปล่าครับ
ถ้าเป็นกำไรพิเศษ เช่น
1. one time gain พิจารณาไหมครับ เช่น เอารายการที่หักเป็นหนี้ศูนย์กลับมา ปรับโครงสร้างหนี้
2. อาจจะปรับได้หลายรอบ เช่น กำไร stock เช่นเหล็กหรือ น้ำมัน
3. Exchange rate

หรือ อื่นๆที่ผมอาจจะยังคิดไม่ถึง

แล้วถ้าเป็นหุ้นที่กำไรไม่คงที่หล่ะครับ เช่นหุ้นรับเหมา ประมูลงาน อย่างนี้พี่มีแนวคิดอย่างไรบ้าง เพราะรายได้จะโตเป็นพักๆ ซบเป็นพักๆ

พี่จะดักตั้งแต่ผลประกอบการณ์ยังไม่ออก หรือเปล่าครับ เงือนไขในการซื้อของพี่คืออะไรครับ
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
Tlk
Verified User
โพสต์: 395
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 228

โพสต์

รบกวนถามคุณลูกอีสานครับว่าใช้วิธีไหนในการประมาณการมูลค่าหุ้นในอนาคตครับ ยกตัวอย่างให้ดูสักตัว ในอดีตก็ได้ครับ ขอบคุณครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
SEHJU
Verified User
โพสต์: 1238
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 229

โพสต์

ขอรบกวนพี่ลุกอิสานนะครับ ไม่ทราบว่ามีใครเคยถามไปรึยัง

เงินลงทุนของผมก็มีเพียงน้อยนิดอ่ะครับ เพราะเก็บมาจากเงินออมตั้งแต่เริ่มเข้ามหาลัย แล้วตอนนี้ก็เริ่มทำงานได้ไม่นาน ก็มีตังเหลือเก็บบ้างมาลงทุน ผมมีคำถามอยากถามพี่มากมายเลยอ่ะครับ แต่ว่าวันนี้รบกวนพี่แค่นี้ก่อนแล้วกัน

1.พี่มีวิธีเมมมอรี่ข้อมูลหุ้นตั้งเป็นร้อยๆตัวยังไง เพราะในwatch list ของพี่นั้นก็ติดตามอยู่ตั้ง 200 ตัว เกิดว่าวันหนึ่งมีตัวเร่งหรือปัจจัยที่ส่งผลกระทบเกิดขึ้นมาแล้วพี่จะดึงเอาข้อมูลที่พี่ลูกอิสานเคยอ่านไปนั้นออกมาใช้ได้ยังไงครับ พี่มีวิธีการจัดการข้อมูลตรงนี้ยังไง..

2.ตอนที่พี่ศึกษาเรื่องหุ้นอยู่คนเดียวแล้วพี่ก็ลงทุนนั้น โดยเฉพาะการอ่านหนังสือซึ่งมันตอบโต้ซักถามไม่ได้เหมือนเรียนกับอาจารย์นั้น เวลาพี่มีปัญหาที่สงสัยหรือไม่แน่ใจนั้น พี่จะหาข้อมูลมายืนยันได้ยังไงว่าพี่คิดถูก ชี้แนะด้วยครับ

3.หุ้นที่จะออกจากตลาดนั้น มีปัจจัยใดเป็นตัวเกื้อหนุน และมีสัญญาณอะไรเป็นตัวบ่งบอกครับว่า หุ้นตัวนี้มีแนวโน้มที่จะต้องออกจากตลาด

4.ผมยังไม่เคยได้ลองศึกษาหุ้นวัฎจักรสักที ถ้าจะเริ่มศึกษาพี่มีอะไรแนะนำเบื้องต้นบ้างครับ ผมอยากจะลองศึกษาเกี่ยวกับพวกอะลูมิเนียม พี่มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ

ขอบคุณพี่ลูกอิสานล่วงหน้าครับที่สละเวลามาตอบคำถาม..
aonanfield
Verified User
โพสต์: 365
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 230

โพสต์

ขอบคุณความรู้และประสบการณ์ของพี่ลูกอีสาน และคำถามดีๆจากเพื่อนๆพี่ๆ ทุกคนด้วยครับ
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6447
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 231

โพสต์

sunrise เขียน:ขอบคุณครับ พี่ ช่วยได้เยอะ
มาถามต่อที่พี่ว่ากำไรมาราคาหุ้นต้องไป
เป็นกำไรปกติอย่างเดียวหรือเปล่าครับ
ถ้าเป็นกำไรพิเศษ เช่น
1. one time gain พิจารณาไหมครับ เช่น เอารายการที่หักเป็นหนี้ศูนย์กลับมา ปรับโครงสร้างหนี้
2. อาจจะปรับได้หลายรอบ เช่น กำไร stock เช่นเหล็กหรือ น้ำมัน
3. Exchange rate
หรือ อื่นๆที่ผมอาจจะยังคิดไม่ถึง
เดี๋ยวนี้นักลงทุนมีความรู้มากขึ้น ส่วนใหญ่จะรู้ว่ากำไรที่เพิ่มเป็นกำไรปกติ หรือ one time gain ดังนั้นราคาหุ้นก็จะตอบสนองไปตามที่นักลงทุนคิด  เราจะเห็นได้ว่าหุ้นบางตัวจะมีกำไรพิเศษ และนักลงทุนรู้ข้อมูลนั้นแล้ว พอประกาศออกมาราคาหุ้นจะไม่ค่อยไปครับ เพราะรับรู้ไปแล้ว จะกลายเป็น sell on fact ไปซะมากกว่า ถ้าเราต้องการกำไรจากกรณี้อย่างนี้ ต้องรู้ว่ามีกำไรพิเศษ แต่ตลาดไม่รู้ ถามว่าทำไมตลาดไม่รู้ ผมยกตัวอย่างละกัน บริษัทโฆษณาแห่งนึงประกาศขายหุ้นในบริษัทย่อยได้เงิน 60 ล้าน บางคนอาจจะไม่เอะใจ แต่บางคนอาจจะดูข้อมูลพบว่าต้นทุนเงินลงทุนแค่ 20 ล้าน กำไร 40 ล้าน หักภาษีเหลือ 30 ล้าน ปกติบริษัททำกำไรได้ปีละ 15 ล้าน แสดงว่ากำไรพิเศษถึง 2 เท่าของกำไรปกติ ถ้าราคาหุ้นไม่ไปไหน ก็น่าสนใจครับ

ปกตินักลงทุนvi ไม่ค่อยกำไรพิเศษครั้งเดียว แต่ถ้าเป็นกำไรที่มากมาย กรณีนี้จะน่าสนใจ เช่น ขายที่ดินเก็บเก่าได้เงินสดมากกว่า mkt และบริษัทก็แทบไม่มีหนี้ อย่างนี้แม้เป็นกำไรพิเศษ แต่ถือว่าปัจจัยพื้นฐานของหุ้นเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญ ราคาหุ้นต้องขึ้น ถ้าไม่ขึ้นหรือขึ้นนิดเดียว ก็เป็นช่องทางทำมาหากินของเรา :lol:
แล้วถ้าเป็นหุ้นที่กำไรไม่คงที่หล่ะครับ เช่นหุ้นรับเหมา ประมูลงาน อย่างนี้พี่มีแนวคิดอย่างไรบ้าง เพราะรายได้จะโตเป็นพักๆ ซบเป็นพักๆพี่จะดักตั้งแต่ผลประกอบการณ์ยังไม่ออก หรือเปล่าครับ เงือนไขในการซื้อของพี่คืออะไรครับ
หุ้นรับเหมาก่อสร้าง หุ้นประมูลงานไอที หุ้นพวกนี้มีความไม่แน่นอนของรายได้กำไรสูง ดังนั้นวิธีการหามุลค่าหุ้นอาจจะต้องใช้แตกต่างออกไป เนื่องจากความไม่แน่นอน ดังนั้นจังหวะจะสำคัญมากที่สุด ตอนซื้อก็ควรเป็นเวลาที่ธุรกิจซบเซา (แต่เรามีข้อมูลเชื่อได้ว่าอนาคตใกล้ๆต้องดีแน่) ส่วนเวลาขายก็ต้องตรงกันข้ามครับ หุ้นพวกนี้เวลาซื้อต้องมี MOS เยอะหน่อยเพราะความไม่แน่นอน หากเราคาดผิดอย่างน้อยจะได้ไม่เจ็บตัวมาก ถ้าตัวไหนงบดี แถมปันผลพอสมควร จะน่าสนใจเป็นพิเศษ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6447
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 232

โพสต์

teelek เขียน:รบกวนถามคุณลูกอีสานครับว่าใช้วิธีไหนในการประมาณการมูลค่าหุ้นในอนาคตครับ ยกตัวอย่างให้ดูสักตัว ในอดีตก็ได้ครับ ขอบคุณครับ
วิธีการเรียบง่ายที่ผมใช้ทำมาหากินแทบทุกครั้งจะเป็นอย่างนี้ครับ..

1.หา P/E ที่เหมาะสมของแต่ละบริษัท บริษัทไหนที่คาดการง่ายหน่อย กำไรโตเรื่อยๆ ปันผลดี พวกนี้จะ P/E สูงเหมือนพวกค้าปลีก โรงพยาบาลเป็นต้น ส่วนพวกที่ด้อยกว่าเช่นพวกรับเหมาก็ให้ P/E ต่ำๆ

2.หา P/E ในอนาคต(อันใกล้)ของบริษัทที่เราสนใจ นี่หมายความว่าเราต้องประมาณกำไรของกิจการได้ เราจะทำได้ต้องหาข้อมูลเพื่อประเมินกำไรให้ผิดพลาดน้อยที่สุด

3.หาส่วนต่างของ P/E ที่เหมาะสมและ P/E ที่จะเกิดขึ้นจริง เช่นเราประเมินว่าบริษัทนี้ควรมี P/E 15 เท่า แต่เราประเมินแล้วราคาตลาดวันนี้หรือในอนาคตใกล้ๆนี้ P/E แค่ 7 เท่า  นั่นแสดงว่าราคาตลาดต่ำกว่าที่ควรจะเป็นถึง 50% (มี margin of safety 50%) อย่างนี้น่าสนใจครับ ปกติต่ำกว่าราคาที่ควรจะเป็นสัก 30% ผมก็สนใจแล้ว :lol:
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
noooon010
Verified User
โพสต์: 2712
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 233

โพสต์

พี่ลูกอีสานสวัสดีครับ

อยากทราบว่า พี่มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้อย่างไรบ้างครับ

1.Fund flow ที่ช่วงนี้ เริ่มมีการสับขา ซื้อ-ขาย ของ NVDR :D
2.ราคาขอสินค้าโภคภัณฑ์ ที่แกว่งตัว ขึ้นๆลงๆ
3.การลงทุน ในสินทรัพย์อื่นๆ เช่น ทอง อสังหาริมทรัพย์ หรือแม้แต่ หวย
(แบบว่า อยากทราบน่ะครับ ถามขำๆนะครับเรื่องหวยเนี่ย :lol: )
4.ดัชนีต่างชาติ เช่น DJI, Nikkei

บางคนอาจบอกว่า อย่าไปสนใจเรื่องเหล่านี้ แต่ผมอยากเปิดใจให้กว้างขึ้นและอยากทราบความคิดเห็นของพี่น่ะครับ ขอบคุณนะครับพี่ครับ :D

รูปภาพ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ

มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม


นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
Stock Broker
Verified User
โพสต์: 2509
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 234

โพสต์

[quote="ลูกอิสาน"]
วิธีการเรียบง่ายที่ผมใช้ทำมาหากินแทบทุกครั้งจะเป็นอย่างนี้ครับ..

1.หา P/E ที่เหมาะสมของแต่ละบริษัท บริษัทไหนที่คาดการง่ายหน่อย กำไรโตเรื่อยๆ ปันผลดี พวกนี้จะ P/E สูงเหมือนพวกค้าปลีก โรงพยาบาลเป็นต้น ส่วนพวกที่ด้อยกว่าเช่นพวกรับเหมาก็ให้ P/E ต่ำๆ [quote]
ขอเสริมครับ

บริษัทที่คาดการณ์กำไรได้ง่าย ลักษณะโตเรื่อยๆ และปันผลดี  P/E หรือความคุ้มค่าการลงทุนควรจะนำไปเทียบกับผลตอบแทนในทางเลือกอื่นๆ เช่น ตราสารหนี้ ฝากธนาคาร แล้วปรับแต่งด้วยผลตอบแทนจากความเสี่ยง  

พวก P/E สูง เป็นกิจการพวกเติบโตสูง (แต่เติบโตค่อนข้างแน่) เช่น ค้าปลีก โรงพยาบาล โรงแรม (บางแห่ง) แต่ไม่ใช่ตอนนี้นะครับ ต้องเป็น 2-3 ปีก่อน

ส่วนพวก P/E ต่ำ เป็นกิจการตะวันตกดินครับ หรือไม่ก็พวกรับจ้างผลิต หรือไม่ก็พวกอุตสาหกรรมหนักที่ต้องมีการลงทุนสูงเพื่อขยายการผลิต

ส่วนพวก cyclical เช่น โภคภัณฑ์ เดินเรือ รับเหมา ซึ่งมีความไม่แน่นอนสูง  จะได้ผลตอบแทนดีต้องซื้อตอน P/E สูง ขายตอน P/E ต่ำครับ

ป.ล. คุณลูกอีสานเห็นงบแผ่นฟิล์มรึยังครับ มีความเห็นยังไงบ้างครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Yod
Verified User
โพสต์: 167
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 235

โพสต์

teelek wrote:
รบกวนถามคุณลูกอีสานครับว่าใช้วิธีไหนในการประมาณการมูลค่าหุ้นในอนาคตครับ ยกตัวอย่างให้ดูสักตัว ในอดีตก็ได้ครับ ขอบคุณครับ


วิธีการเรียบง่ายที่ผมใช้ทำมาหากินแทบทุกครั้งจะเป็นอย่างนี้ครับ..

1.หา P/E ที่เหมาะสมของแต่ละบริษัท บริษัทไหนที่คาดการง่ายหน่อย กำไรโตเรื่อยๆ ปันผลดี พวกนี้จะ P/E สูงเหมือนพวกค้าปลีก โรงพยาบาลเป็นต้น ส่วนพวกที่ด้อยกว่าเช่นพวกรับเหมาก็ให้ P/E ต่ำๆ

2.หา P/E ในอนาคต(อันใกล้)ของบริษัทที่เราสนใจ นี่หมายความว่าเราต้องประมาณกำไรของกิจการได้ เราจะทำได้ต้องหาข้อมูลเพื่อประเมินกำไรให้ผิดพลาดน้อยที่สุด

3.หาส่วนต่างของ P/E ที่เหมาะสมและ P/E ที่จะเกิดขึ้นจริง เช่นเราประเมินว่าบริษัทนี้ควรมี P/E 15 เท่า แต่เราประเมินแล้วราคาตลาดวันนี้หรือในอนาคตใกล้ๆนี้ P/E แค่ 7 เท่า  นั่นแสดงว่าราคาตลาดต่ำกว่าที่ควรจะเป็นถึง 50% (มี margin of safety 50%) อย่างนี้น่าสนใจครับ ปกติต่ำกว่าราคาที่ควรจะเป็นสัก 30% ผมก็สนใจแล้ว
สวัสดีครับ พี่ลูกอีสาน
ผมอ่านกระทู้นี้หลายรอบแล้ว กำลังทำความเข้าใจอยู่
มีประโยชน์มากเลยครับ
ทีนี้ผมอ่านแล้วสงสัยว่า
1.P/E ในอนาคตนี่ หลังจากที่เราประมาณกำไรคือได้ E มาแล้ว P นี่คือราคาในตอนนี้หรือเปล่าครับ
2.ข้อสังเกตการที่ตลาดจะให้ P/E เพิ่มจากปัจจุบัน ไปเป็นP/E ที่เหมาะสมนี่มันมีิวิธีไหนบ้างครับ
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6447
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 236

โพสต์

SEHJU เขียน:เงินลงทุนของผมก็มีเพียงน้อยนิดอ่ะครับ เพราะเก็บมาจากเงินออมตั้งแต่เริ่มเข้ามหาลัย แล้วตอนนี้ก็เริ่มทำงานได้ไม่นาน ก็มีตังเหลือเก็บบ้างมาลงทุน
เริ่มเก็บเงินตั้งแต่เรียนมหาลัยนี่เป็นแนวโน้มที่ดีมากเลยครับ แสดงว่าเริ่มวางแผนไปในอนาคตแล้ว เริ่มต้นเร็วสำคัญมากโดยเฉพาะการลงทุนแบบ vi ที่ต้องอาศัยเวลาในการทบต้น ดูซิครับวอร์เรนใช้เวลาเท่าไหร่กว่าจะรวยที่สุดในโลก
:D
1.พี่มีวิธีเมมมอรี่ข้อมูลหุ้นตั้งเป็นร้อยๆตัวยังไง เพราะในwatch list ของพี่นั้นก็ติดตามอยู่ตั้ง 200 ตัว เกิดว่าวันหนึ่งมีตัวเร่งหรือปัจจัยที่ส่งผลกระทบเกิดขึ้นมาแล้วพี่จะดึงเอาข้อมูลที่พี่ลูกอิสานเคยอ่านไปนั้นออกมาใช้ได้ยังไงครับ พี่มีวิธีการจัดการข้อมูลตรงนี้ยังไง..
ผมจำรายละเอียดหุ้นแต่ละตัวไม่ได้หรอกครับ จำได้คร่าวๆแค่นั้นเอง แต่ผมใช้วิธีสร้างฐานข้อมูล โดยทำเป็น
โฟลเดอร์ไว้ในคอมพิวเตอร์ หุ้นแต่ละตัวก็สร้างเป็น 1 folder ผมอ่านเจอข้อมูลอะไรที่เกี่ยวกับหุ้นตัวใดตัวหนึ่งก็จะ save เก็บไว้ เมื่อไหร่มีอะไรที่มาสะกิดความสนใจ ก็จะมาอ่านรายละเอียดอีกครั้งครับ ติดตาม 200 ตัว ผมก็มี 200 folder ครับ
2.ตอนที่พี่ศึกษาเรื่องหุ้นอยู่คนเดียวแล้วพี่ก็ลงทุนนั้น โดยเฉพาะการอ่านหนังสือซึ่งมันตอบโต้ซักถามไม่ได้เหมือนเรียนกับอาจารย์นั้น เวลาพี่มีปัญหาที่สงสัยหรือไม่แน่ใจนั้น พี่จะหาข้อมูลมายืนยันได้ยังไงว่าพี่คิดถูก ชี้แนะด้วยครับ
เราไม่รู้หรอกครับว่าเราคิดถูกหรือคิดผิด ต้องอาศัยเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ถ้าสิ่งที่เราคิดถูกต้อง ราคาตอบสนองไปตามนั้น แสดงว่าเราน่าจะมาถูกทางแล้ว ผมก็ลองผิดลองถูกมาตลอด ทุกวันนี้ก็ยังเป็น
3.หุ้นที่จะออกจากตลาดนั้น มีปัจจัยใดเป็นตัวเกื้อหนุน และมีสัญญาณอะไรเป็นตัวบ่งบอกครับว่า หุ้นตัวนี้มีแนวโน้มที่จะต้องออกจากตลาด
เท่าทีเคยเจอมานะครับ..

1.หุ้นตัวนั้นไม่จำเป็นต้องระดมทุนแล้ว มักจะเป็นหุ้นที่งบการเงินแข็งแกร่ง
2.หุ้นตัวนั้นเป็นกิจการที่มีอนาคตสดใส จนผู้ทำ tender offer ต้องการเป็นหุ้นส่วนทั้งหมด
3.หุ้นตัวนั้นมีมูลค่าซ่อนเร้นที่นักลงทุนมองไม่เห็น แต่คนทำ tender เห็น
4.หุ้นที่มีหุ้นหมุนเวียนในตลาดน้อย ผู้ถือหุ้นใหญ่มีหุ้นเกือบทั้งหมด สามารถทำ tender offer ได้ง่ายเพราะผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่มีอำนาจต่อรอง
5.หุ้นที่ผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นต่างชาติ ผมไม่รู้เหมือนกันว่าด้วยเหตุผลอะไร เช่น astl cmbt tgp โพส์โมส
6.ผู้ถือหุ้นใหญ่ ไม่ชอบให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยกดดันหรือไม่ชอบกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ที่ค่อนข้างเข้มงวด รวมถึงไม่อยากเสียค่าธรรมเนียมให้ ตลท. ครับ

ว่าแต่ทำไมคุณSEHJU สนใจประเด็นนี้ครับ :?

4.ผมยังไม่เคยได้ลองศึกษาหุ้นวัฎจักรสักที ถ้าจะเริ่มศึกษาพี่มีอะไรแนะนำเบื้องต้นบ้างครับ ผมอยากจะลองศึกษาเกี่ยวกับพวกอะลูมิเนียม พี่มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ
ต้องอ่านหนังสือของปีเตอร์ ลินซ์ ทั้ง 2 เล่มที่พี่เวปแปล และที่สำคัญต้องขอความรู้จากพี่หมอประธานของเรา ซึ่งเป็นเซียนหุ้นวัฎจักรตัวจริง ถ้าจำไม่ผิดมีกระทู้สอนเทคนิคการลงทุนหุ้นวัฎจักรในห้องบทความ ตั้งกระทู้โดยท่าน Alastor ครับ  ส่วนธุรกิจอลูมินั่ม ผมไม่มีความรู้แต่เข้าใจว่าเป็นธุรกิจที่ความผันผวนไม่มากเท่ากับโลหะตัวอื่นๆ เคยอ่านเจอว่าเป็นธาตุที่มีมากเป็นอันดับ 4 ของโลก ไม่รู้สาเหตุนี้หรือเปล่าที่ราคาไม่ผันผวนเหมือนโลหะตัวอื่นๆ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6447
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 237

โพสต์

noooon010 เขียน:พี่ลูกอีสานสวัสดีครับ
อยากทราบว่า พี่มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้อย่างไรบ้างครับ
1.Fund flow ที่ช่วงนี้ เริ่มมีการสับขา ซื้อ-ขาย ของ NVDR :D
4.ดัชนีต่างชาติ เช่น DJI, Nikkei
บางคนอาจบอกว่า อย่าไปสนใจเรื่องเหล่านี้ แต่ผมอยากเปิดใจให้กว้างขึ้นและอยากทราบความคิดเห็นของพี่น่ะครับ ขอบคุณนะครับพี่ครับ :D
เรื่องการซื้อขายของต่างชาติ ดัชนีดาวโจนส์ ผมดูทุกวันครับ ไม่ได้ดูเพราะเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ลงทุนแต่อย่างใด แต่ดูเพื่อให้รู้อารมณ์ของตลาด จะได้ซื้อขายได้ถูกจังหวะประมาณนี้ครับ
2.ราคาขอสินค้าโภคภัณฑ์ ที่แกว่งตัว ขึ้นๆลงๆ
ถ้าผมถือหุ้นผลิตสินค้าโภคภัณฑ์หรือถือหุ้นกิจการที่ใช้สินค้าโภคภัณฑ์เป็นวัถตุดิบ ผมก็จะติดตามครับเพราะเกี่ยวข้องกับพื้นฐานของกิจการโดยตรง เช่นเราถือหุ้นบริษัทผลิตน้ำมัน ก็ควรติดตามราคาน้ำมัน เราถือหุ้นที่ผลิตแบตเตอร์รี่ ก็ต้องดูราคาสินค้าตะกั่ว เป็นต้น

3.การลงทุน ในสินทรัพย์อื่นๆ เช่น ทอง อสังหาริมทรัพย์ หรือแม้แต่ หวย (แบบว่า อยากทราบน่ะครับ ถามขำๆนะครับเรื่องหวยเนี่ย :lol: )
ผมแสดงความเห็นรวมๆนะครับ..

1.อสังหา ข้อดีคือถ้าได้ทำเลดีๆ ก็ร่ำรวยได้เลย และจับต้องได้ขายไม่ออกยังปลูกผักหรือให้เช่าได้ ข้อเสียคือสภาพคล่องต่ำ ขายไม่ออกก็จุก ทุนจม ดังนั้นควรเป็นเงินเย็น การซื้อขายเกี่ยวข้องกับคน มีความเสี่ยงฉ้อโกง อาจได้กินลูกตะกั่วแทน ถ้าเป็นการให้เช่าคอนโด อพาทร์เมนต์ ไม่มี barrier of entry ผลตอบแทนสุทธิไม่น่าจะชนะเงินเฟ้อมากมาย ไม่ขาดทุนแต่ไม่รวยครับ สรุปว่าการลงทุนอสังหา ราคาและทำเลสำคัญที่สุดครับ

2.ทอง ข้อดีคือจับต้องได้ ให้ความสุขทางใจ(สำหรับบางคน) สภาพคล่องสูงมาก เกือบๆเสมือนเงินสด เป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีสัญชาติ ทุกประเทศยอมรับมูลค่า ไม่เหมือนธนบัตรนะครับ ข้อเสียคือผลตอบแทนระยะยาวไม่ดี แม้ช่วงนี้จะเหมือนดี นอกจากนั้นยังต้องจุกจิกในการเก็บรักษา ให้ความทุกข์ทางใจสำหรับบางคน กลัวคนขโมยเหมือนที่พูดกันว่า มีทองเท่าหนวดกุ้งนอนสะดุ้งจนเรือนไหว :lol:  สรุปว่าถ้ามีทองไว้ขำๆ คงไม่เสียหาย ถ้าหวังรวยคงไม่ใช่

3.หวย ข้อดีคือผลตอบแทนสูง ไม่ต้องใช้ความรู้มาก ใช้เงินทุนน้อย ให้ความสุขในการลุ้นพอสมควร ชาวบ้านชอบ ข้อเสียคือความเสี่ยงสูงมาก ถ้าหวย 3 ตัวโอกาสถูก 1/1000 ล็อตเตอรี่ 1/ล้าน(หวังรวย) หวยหุ้น 1/100

4.ภาพศิลป์ แสตมป์ นาฬิกา พระเครื่องอื่นๆ ข้อดีคือให้ความสุขทางใจพอสมควร ถ้าโชคดีผลตอบแทนสูง ข้อเสียคือสภาพคล่องต่ำ มูลค่าผันผวน ไม่มีมาตรฐานที่ชัดเจน

5.ความรู้ ข้อดีคือลงทุนครั้งเดียวใช้ได้ตลอดชีวิต ข้อเสียถ้าเรียนรู้ในสิ่งที่สร้างประโยชน์ ผลตอบแทนไม่ได้ ก็เสียเวลาเปล่า

6. หุ้น ข้อดีจากการศึกษาผลตอบแทนสูง จับต้องได้ มีมูลค่าเพิ่มตามเวลา สภาพคล่องสูง การซื้อขายง่ายมีความเสี่ยงในการแลกเปลี่ยนน้อยมาก ข้อเสียคือระยะสั้นๆมีความเสี่ยงการผันผวนของราคา ถ้าวิเคราะห์ผิดอาจขาดทุนได้


สรุปว่าจะลงทุนอะไรก็แล้วแต่ ให้ท่องไว้ 2 คำ >>>ผลตอบแทนและความเสี่ยง
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
noooon010
Verified User
โพสต์: 2712
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 238

โพสต์

ขอบคุณพี่ลูกอีสานมากๆนะครับ
ช่วงนี้ฝนตกบ่อยๆ รักษาสุขภาพด้วยนะครับผม  :D
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ

มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม


นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
ภาพประจำตัวสมาชิก
SEHJU
Verified User
โพสต์: 1238
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 239

โพสต์

ขอบคุณพี่ลูกอิสานมากครับที่สละเวลามาตอบคำถาม...

Quote:
3.หุ้นที่จะออกจากตลาดนั้น มีปัจจัยใดเป็นตัวเกื้อหนุน และมีสัญญาณอะไรเป็นตัวบ่งบอกครับว่า หุ้นตัวนี้มีแนวโน้มที่จะต้องออกจากตลาด


เท่าทีเคยเจอมานะครับ..

1.หุ้นตัวนั้นไม่จำเป็นต้องระดมทุนแล้ว มักจะเป็นหุ้นที่งบการเงินแข็งแกร่ง
2.หุ้นตัวนั้นเป็นกิจการที่มีอนาคตสดใส จนผู้ทำ tender offer ต้องการเป็นหุ้นส่วนทั้งหมด
3.หุ้นตัวนั้นมีมูลค่าซ่อนเร้นที่นักลงทุนมองไม่เห็น แต่คนทำ tender เห็น
4.หุ้นที่มีหุ้นหมุนเวียนในตลาดน้อย ผู้ถือหุ้นใหญ่มีหุ้นเกือบทั้งหมด สามารถทำ tender offer ได้ง่ายเพราะผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่มีอำนาจต่อรอง
5.หุ้นที่ผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นต่างชาติ ผมไม่รู้เหมือนกันว่าด้วยเหตุผลอะไร เช่น astl cmbt tgp โพส์โมส
6.ผู้ถือหุ้นใหญ่ ไม่ชอบให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยกดดันหรือไม่ชอบกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ที่ค่อนข้างเข้มงวด รวมถึงไม่อยากเสียค่าธรรมเนียมให้ ตลท. ครับ

ว่าแต่ทำไมคุณSEHJU สนใจประเด็นนี้ครับ

เรื่องหุ้นที่จะออกจากตลาดผมนึกถึงไปเรื่อยเปื่อยถึงหุ้นตัวนึงที่ถืออยู่

แล้วก็สงสัยก็เลยอยากถามเป็นความรู้ครับ  ขอบคุณพี่มากครับ  :D  :D  :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
crazyrisk
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 4549
ผู้ติดตาม: 0

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์ที่ 240

โพสต์

ลูกอิสาน เขียน:
ผมยกตัวอย่างดีกว่า ว่าเหตุผลอะไรที่ผมสนใจหุ้นเหล่านี้ เอาที่พอจำได้นะครับ


หุ้น 2 ตัวนี้ไม่มีคำว่าสาย หากคิดจะซื้อ = mint & tr ตอนเกือบๆ 4 บ.และ 35 บ.

EASTW หุ้นดีอีกตัวที่น่าสนใจมาก= eastw ตอน 29-30 บ.ก่อนแตกพาร์

งบออกแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันดีกว่า= scnyl ตอน 51 บ.

ลืมชายอุ๋ยไปได้แล้ว หุ้นตัวนี้น่าสนใจกว่า= drt ตอน 1.2 บ.

uec & ums หากถึงคราวจะต้องเลือก

ผมเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ถือหุ้นโรงพยาบาล= kh tnh ram ahc

หุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือเปล่า= uec ตอนประมาณ 1.2 บ.

เอาไงดีครับ กับหุ้นไทยรักไทย = trt ตอน 5.4 บ.

ความเหมือนของหุ้น 3C= cei cpl cm

หุ้นดีที่โลกลืมอีกตัว sfp


ส่วนที่วิเคราะห์ผิดครับ

บรรยากาศอย่างนี้ หาหุ้นดีราคาไม่แพงมาคุยกันดีกว่า= tapac

ผมสนใจ slc

โอกาสที่มาพร้อมกับความเสี่ยง>>> UOBAPF

ทำไมหลายท่านมองข้าม FANCY !


และคงมีอีกหลายตัวที่ผมจำไม่ได้แล้ว

ทุกกระทู้ผมมักจะโพสต์เหตุผลพื้นฐานด้านดีไม่ดีเสมอ
ตัวไหนที่เหตุผลผมถูก ผมจะรู้สึกดีครับเช่น mint :lol:
ตัวไหนที่แม้ราคาจะขึ้น แต่เหตุผลผมผิดผมจะไม่ค่อยดีใจครับ และอีกหลายๆตัวผมวิเคราะห์ผิดดังตัวอย่างครับ :lol:

พี่โจครับ  สบายดีไหมครับ...

ไม่ได้ติดต่อไปซะนานครับ

มัวแต่ยุ่งเรื่องเรียน

แวะเข้ามาอีกที กระทู้พี่ยาว เป็นกระทู้ปักหมุดไปซะแล้ว...

เนื้อหา แบบนี้ โดนใจมากๆครับ

ถ้ามีแบบตัวอย่างแบบนี้ ยิ่งน่าสนใจเข้าไปใหญ่ครับ

รบกวนพี่โจ เอามาเป็นตัวอย่างอีกเรื่อยๆนะครับ
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.