เปิดสอนบัญชี
- หมีบึงกุ่ม
- Verified User
- โพสต์: 408
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดสอนบัญชี
โพสต์ที่ 91
อยากเรียนบัญชีเหมือนภาษาหนึ่งทางธุรกิจเพื่อให้เข้าใจธุรกิจและคิดว่าใช้ได้จริงเทียบเท่ากับภาษาอื่นๆ ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 5
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดสอนบัญชี
โพสต์ที่ 92
1) เรียนอะไร?
ความรู้ที่อ.สอน โดยเฉพาะความรู้ทางบัญชี งบการเงิน ครับ
2) เอาไปทำอะไร?
เพิ่มความรู้ทางการลงทุนให้ตนเอง นำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน และแบ่งปันให้คนที่ต้องการ ครับ
3) เชื่อมั้ยว่าใช้งานได้จริง?
เชื่อว่า จะได้รับความรู้ใหม่ๆที่เกี่ยวกับ การบัญชี การลงทุน และนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงครับ
ความรู้ที่อ.สอน โดยเฉพาะความรู้ทางบัญชี งบการเงิน ครับ
2) เอาไปทำอะไร?
เพิ่มความรู้ทางการลงทุนให้ตนเอง นำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน และแบ่งปันให้คนที่ต้องการ ครับ
3) เชื่อมั้ยว่าใช้งานได้จริง?
เชื่อว่า จะได้รับความรู้ใหม่ๆที่เกี่ยวกับ การบัญชี การลงทุน และนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 6
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดสอนบัญชี
โพสต์ที่ 93
เรียนอะไร?
-เรียนรู้ทุกอย่างที่ทำให้เราเป็น VI ที่แท้จริง
เอาไปทำอะไร?
-หาปลาเอง และสอนคนอื่นจับปลาได้ในที่สุด...
เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้งานได้จริง"
-เชื่อค่ะ ไม่งั้นคงไม่ขอมาเรียนหรอก :P
หนูเริ่มลงทุนในหุ้นครั้งแรกเพราะรู้จักเวปนี้ รู้สึกว่ามีหลายอย่างที่เราต้องพยายามเรียนรู้ ซื้อหนังสือการลงทุนแนว VI, หนังสือบัญชี เอางบการเงินมาดู วัดมูลค่าหุ้นเองแบบไม่รู้ว่าถูกหรือผิด วิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจแบบงูๆปลาๆ เข้ามาในเวปพี่ๆบอกว่าไม่อยากเอาปลาให้ อยากให้เรียนรู้วิธีจับปลาเอง เพราะอย่างนั้นก็เลยอยากมาเรียนกับพี่ และคงดีมากถ้าวันนึงหนูสอนคนที่อยากจะเริ่มต้นลงทุนแนว VI ได้ เพราะรู้ดีว่าการเริ่มต้นศึกษาเองแบบไม่มีคนคอยแนะนำในตอนแรกมันยากแค่ไหน...
ขอบคุณมากที่พี่คิดโครงการนี้ขึ้นมาสำหรับน้องๆที่ยังรู้น้อย ทั้งๆที่จริงๆพี่จะไม่เสียเวลามาสอนก็ได้ ถึงหนูไม่ได้มาเรียนกับพี่ อย่างน้อยๆก็จะมีคนรู้เรื่องขึ้นมาสัก 20 คน และวันนึงก็อาจจะมีโรงเรียนนักลงทุน แล้วตอนนั้นคงหาทางไปเรียนอีกที เอาใจช่วยนะคะ...
-เรียนรู้ทุกอย่างที่ทำให้เราเป็น VI ที่แท้จริง
เอาไปทำอะไร?
-หาปลาเอง และสอนคนอื่นจับปลาได้ในที่สุด...
เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้งานได้จริง"
-เชื่อค่ะ ไม่งั้นคงไม่ขอมาเรียนหรอก :P
หนูเริ่มลงทุนในหุ้นครั้งแรกเพราะรู้จักเวปนี้ รู้สึกว่ามีหลายอย่างที่เราต้องพยายามเรียนรู้ ซื้อหนังสือการลงทุนแนว VI, หนังสือบัญชี เอางบการเงินมาดู วัดมูลค่าหุ้นเองแบบไม่รู้ว่าถูกหรือผิด วิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจแบบงูๆปลาๆ เข้ามาในเวปพี่ๆบอกว่าไม่อยากเอาปลาให้ อยากให้เรียนรู้วิธีจับปลาเอง เพราะอย่างนั้นก็เลยอยากมาเรียนกับพี่ และคงดีมากถ้าวันนึงหนูสอนคนที่อยากจะเริ่มต้นลงทุนแนว VI ได้ เพราะรู้ดีว่าการเริ่มต้นศึกษาเองแบบไม่มีคนคอยแนะนำในตอนแรกมันยากแค่ไหน...
ขอบคุณมากที่พี่คิดโครงการนี้ขึ้นมาสำหรับน้องๆที่ยังรู้น้อย ทั้งๆที่จริงๆพี่จะไม่เสียเวลามาสอนก็ได้ ถึงหนูไม่ได้มาเรียนกับพี่ อย่างน้อยๆก็จะมีคนรู้เรื่องขึ้นมาสัก 20 คน และวันนึงก็อาจจะมีโรงเรียนนักลงทุน แล้วตอนนั้นคงหาทางไปเรียนอีกที เอาใจช่วยนะคะ...
-
- Verified User
- โพสต์: 12
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดสอนบัญชี
โพสต์ที่ 94
เนื่องจากผมทำงานประจำเหมือนกัน คงต้องสละสิทธิ์ แต่ขอตอบหน่อยแล้วกันครับ :D
เรียนอะไร?
เรียนวิธี หาเงินในตลาดหุ้น ด้วยวิธีวิเคราะห์บัญชี
เอาไปทำอะไร?
เอาไปหาเงินเลี้ยงชีพหลังจากทำงานในสายวิชาชีพตัวเองไม่ไหวแล้ว
เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้งานได้จริง
ผมคิดว่ามันเป็นวิธีที่เป็นเหตุเป็นผลที่สุดแล้วในการลงทุนในหุ้น ก็เลยเชื่อว่าใช้ได้จริง
เรียนอะไร?
เรียนวิธี หาเงินในตลาดหุ้น ด้วยวิธีวิเคราะห์บัญชี
เอาไปทำอะไร?
เอาไปหาเงินเลี้ยงชีพหลังจากทำงานในสายวิชาชีพตัวเองไม่ไหวแล้ว
เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้งานได้จริง
ผมคิดว่ามันเป็นวิธีที่เป็นเหตุเป็นผลที่สุดแล้วในการลงทุนในหุ้น ก็เลยเชื่อว่าใช้ได้จริง
-
- Verified User
- โพสต์: 52
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดสอนบัญชี
โพสต์ที่ 95
เรียนอะไร?
เรียนการลงทุนที่มีเหตุมีผล โดยผ่านการวิเคราะห์เชิงคุณภาพและปริมาณ เช่น การอ่านบัญชีและงบการเงิน การสังเกตุการณ์ในชีวิตประจำวัน การพูดคุยกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง และอื่น ๆ เพื่อที่จะสะท้อนถึงมูลค่าของกิจการที่ดีที่เราจะเข้าไปเป็นเจ้าของ ในราคาและเวลาที่ชาญฉลาดและเหมาะสม.
เอาไปทำอะไร?
นำมาเป็นพื้นฐานทางการลงทุน และเพื่อที่จะนำมาพัฒนาให้เข้ากับสไตล์ของตัวเอง. เพื่อที่จะพิสูจน์ให้ที่บ้านและ เพื่อน ๆ เห็นว่าการลงทุนไม่ใช่การพนัน แต่เป็นการให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าและมีความเสี่ยงต่ำ. เพื่อที่จะเป็นนักธุรกิจที่ดีขึ้น. เพื่อที่จะเป็นนักลงทุนที่ดีขึ้น. เพื่อสอนให้น้อง ๆ ได้รู้จักวิธีการใช้เงินให้เป็น. เพื่อที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งของตลาดทุนในประเทศ. เพื่อมอบทรัพยากรที่ตัวเองมี กลับคืนสู่สังคมในบั้นปลาย.
เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้งานได้จริง?
เชื่อครับ
ขอบคุณครับ.
เรียนการลงทุนที่มีเหตุมีผล โดยผ่านการวิเคราะห์เชิงคุณภาพและปริมาณ เช่น การอ่านบัญชีและงบการเงิน การสังเกตุการณ์ในชีวิตประจำวัน การพูดคุยกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง และอื่น ๆ เพื่อที่จะสะท้อนถึงมูลค่าของกิจการที่ดีที่เราจะเข้าไปเป็นเจ้าของ ในราคาและเวลาที่ชาญฉลาดและเหมาะสม.
เอาไปทำอะไร?
นำมาเป็นพื้นฐานทางการลงทุน และเพื่อที่จะนำมาพัฒนาให้เข้ากับสไตล์ของตัวเอง. เพื่อที่จะพิสูจน์ให้ที่บ้านและ เพื่อน ๆ เห็นว่าการลงทุนไม่ใช่การพนัน แต่เป็นการให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าและมีความเสี่ยงต่ำ. เพื่อที่จะเป็นนักธุรกิจที่ดีขึ้น. เพื่อที่จะเป็นนักลงทุนที่ดีขึ้น. เพื่อสอนให้น้อง ๆ ได้รู้จักวิธีการใช้เงินให้เป็น. เพื่อที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งของตลาดทุนในประเทศ. เพื่อมอบทรัพยากรที่ตัวเองมี กลับคืนสู่สังคมในบั้นปลาย.
เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้งานได้จริง?
เชื่อครับ
ขอบคุณครับ.
- hagrid
- Verified User
- โพสต์: 566
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดสอนบัญชี
โพสต์ที่ 96
จริงๆ ผมอยากเรียนมากเลยนะครับ
แต่ไม่ชอบแย่งกับใคร
ก็หวังแต่ว่าคุณมนตรีจะเปิดสอนแบบเต็มๆ
สำหรับคนที่ยอมเสียเงินบ้าง (ไม่ได้รวยนะครับ แต่คิดว่าคุ้มค่า)
และอีกอย่างปีนี้ผมก็ตั้งใจไว้ว่าจะลงเรียนคอร์สที่คุณมนตรีสอน
แบบปีที่แล้ว (ปีที่แล้วเลี้ยงลูกอ่อนเลยไปไม่ได้)
ยังไงก็ฝากพิจารณาเปิดสอนด้วยนะครับ
แต่ไม่ชอบแย่งกับใคร
ก็หวังแต่ว่าคุณมนตรีจะเปิดสอนแบบเต็มๆ
สำหรับคนที่ยอมเสียเงินบ้าง (ไม่ได้รวยนะครับ แต่คิดว่าคุ้มค่า)
และอีกอย่างปีนี้ผมก็ตั้งใจไว้ว่าจะลงเรียนคอร์สที่คุณมนตรีสอน
แบบปีที่แล้ว (ปีที่แล้วเลี้ยงลูกอ่อนเลยไปไม่ได้)
ยังไงก็ฝากพิจารณาเปิดสอนด้วยนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 11
- ผู้ติดตาม: 0
Answer
โพสต์ที่ 97
"เรียนอะไร? เอาไปทำอะไร? และเชื่อไหม
ขอตอบคำถามดังนี้ครับ
1) เรียนอะไร
- ทำความเข้าใจ หลักการ วีธีการ และการนำไปใช้
ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้
2) เอาไปทำอะไร
- หลังจากที่ทำความเข้าใจถึงลักษณะ และ วิธีการใช้ อย่างถ่องแท้แล้ว
เพื่อลดความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น และก่อให้เกิดมูลค่าของเงินลงทุน
มากขึ้น เมื่อไปลงทุนในตลาดหุ้น
3) เชื่อไหม
- ยังไม่เชื่อ เพราะว่ายังไม่ได้นำหลักการ และวิธีนี้ไปใช้ จนกว่าจะทำ
ความเข้าใจ และนำไปใช้แล้วได้รับผลตอบแทนตามที่เราคาดหวัง
ด้วยตัวของเราเอง
ขอตอบคำถามดังนี้ครับ
1) เรียนอะไร
- ทำความเข้าใจ หลักการ วีธีการ และการนำไปใช้
ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้
2) เอาไปทำอะไร
- หลังจากที่ทำความเข้าใจถึงลักษณะ และ วิธีการใช้ อย่างถ่องแท้แล้ว
เพื่อลดความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น และก่อให้เกิดมูลค่าของเงินลงทุน
มากขึ้น เมื่อไปลงทุนในตลาดหุ้น
3) เชื่อไหม
- ยังไม่เชื่อ เพราะว่ายังไม่ได้นำหลักการ และวิธีนี้ไปใช้ จนกว่าจะทำ
ความเข้าใจ และนำไปใช้แล้วได้รับผลตอบแทนตามที่เราคาดหวัง
ด้วยตัวของเราเอง
-
- Verified User
- โพสต์: 35
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดสอนบัญชี
โพสต์ที่ 98
เรียนอะไร?
เรียนบัญชีเพื่อการลงทุน อันนี้ตั้งชื่อเอาเองนะครับ
เอาไปทำอะไร?
- นำไปเป็นเครื่องมือวิเคราะห์และคัดกรองข้อมูล หรือเป็นตัวช่วยตัดสินใจในการลงทุน (ต่อไปจะได้ไม่ต้องรอลอกการบ้านคนอื่น )
- แนะนำให้คนอื่นต่อไปถ้ามีโอกาส
เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้งานได้จริง?
เชื่อครับ
เรียนบัญชีเพื่อการลงทุน อันนี้ตั้งชื่อเอาเองนะครับ
เอาไปทำอะไร?
- นำไปเป็นเครื่องมือวิเคราะห์และคัดกรองข้อมูล หรือเป็นตัวช่วยตัดสินใจในการลงทุน (ต่อไปจะได้ไม่ต้องรอลอกการบ้านคนอื่น )
- แนะนำให้คนอื่นต่อไปถ้ามีโอกาส
เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้งานได้จริง?
เชื่อครับ
The investor's chief problem and even his worst enemy is likely to be himself.
- Juninho
- Verified User
- โพสต์: 1050
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดสอนบัญชี
โพสต์ที่ 99
1.เรียนอะไร?
เรียนการวิเคราะห์บริษัทต่าง ๆ ว่ามีความแข็งแกร่ง
ในการประกอบธุรกิจมากเพียงใด
รวมทั้งดูสถานะทางการเงินของบริษัท สัญญาณอันตราย
ต่าง ๆ จากงบการเงิน โดยผ่านสายตา มุมมองของ
นักลงทุนผู้ประสบความสำเร็จ
2.เอาไปทำอะไร?
เอาความรู้มาคัดเลือกหุ้นที่ดี เพิ่มพูนเงินลงทุนเพื่อ
ตนเองและครอบครัว ซึงหากประสบความสำเร็จ
จะคืนให้สังคมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
3.เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้งานได้จริง ?
เชื่อครับ เนื่องจากปัจจุบันก็ได้นำความรู้ที่ได้จากการ
อ่านหนังสือเกี่ยวกับงบการเงินมาใช้ประโยชน์อยู่แล้ว
ในการเลือกหุ้น แต่จากการที่รู้แค่ผิวเผินจึงต้องการ
เรียนกับ อาจารย์ เพื่อให้ทราบว่า นักลงทุนที่ประสบ
ความสำเร็จจะต้องแปลความจาก งบการเงิน ลึกเพียงใด
ของคุณครับ
เรียนการวิเคราะห์บริษัทต่าง ๆ ว่ามีความแข็งแกร่ง
ในการประกอบธุรกิจมากเพียงใด
รวมทั้งดูสถานะทางการเงินของบริษัท สัญญาณอันตราย
ต่าง ๆ จากงบการเงิน โดยผ่านสายตา มุมมองของ
นักลงทุนผู้ประสบความสำเร็จ
2.เอาไปทำอะไร?
เอาความรู้มาคัดเลือกหุ้นที่ดี เพิ่มพูนเงินลงทุนเพื่อ
ตนเองและครอบครัว ซึงหากประสบความสำเร็จ
จะคืนให้สังคมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
3.เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้งานได้จริง ?
เชื่อครับ เนื่องจากปัจจุบันก็ได้นำความรู้ที่ได้จากการ
อ่านหนังสือเกี่ยวกับงบการเงินมาใช้ประโยชน์อยู่แล้ว
ในการเลือกหุ้น แต่จากการที่รู้แค่ผิวเผินจึงต้องการ
เรียนกับ อาจารย์ เพื่อให้ทราบว่า นักลงทุนที่ประสบ
ความสำเร็จจะต้องแปลความจาก งบการเงิน ลึกเพียงใด
ของคุณครับ
You Can Get It If You Really Want
But you must try, try and try
But you must try, try and try
-
- Verified User
- โพสต์: 83
- ผู้ติดตาม: 0
ขอตอบคำถาม
โพสต์ที่ 100
1. เรียนอะไร
- เรียนบัญชีและการเงิน เพื่อเปิดมุมมองเจาะลึกของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ให้อ่านงบการเงิน, งบกำไรขาดทุน, งบดุล รวมถึงรูปแบบที่ใช้ในการวิเคราะห์บริษัท
2. เอาไปทำอะไร
- เอาไปใช้ในการหาเสาะหาบริษัทดี ๆ ในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อลงทุนระยะยาวตามแนวทางของ vi และประยุกต์ใช้เพื่อการลงทุนในอนาคต รวมถึงแสวงหาอิสระภาพทางการเงิน และพร้อมถ่ายทอดความรู้ต่อให้กับคนที่ต้องการเรียนรู้การลงทุน
3. เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้งานได้จริง
- ส่วนตัวเชื่อมั่นว่าถ้าหากมีความรู้ด้านบัญชี, การเงิน และอ่านงบการเงินของบริษัทจะช่วยให้เข้าใจรายละเอียด เข้าใจมุมมองของผู้บริหารของบริษัท รวมทั้งผลการดำเนินงานของแต่ละบริษัท ซึ่ง thaivi ก็มีพี่ ๆ หลายคนที่ได้ฝึกฝนและปฏิบัติจนประสบความสำเร็จเป็นตัวอย่างให้เห็น
- เรียนบัญชีและการเงิน เพื่อเปิดมุมมองเจาะลึกของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ให้อ่านงบการเงิน, งบกำไรขาดทุน, งบดุล รวมถึงรูปแบบที่ใช้ในการวิเคราะห์บริษัท
2. เอาไปทำอะไร
- เอาไปใช้ในการหาเสาะหาบริษัทดี ๆ ในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อลงทุนระยะยาวตามแนวทางของ vi และประยุกต์ใช้เพื่อการลงทุนในอนาคต รวมถึงแสวงหาอิสระภาพทางการเงิน และพร้อมถ่ายทอดความรู้ต่อให้กับคนที่ต้องการเรียนรู้การลงทุน
3. เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้งานได้จริง
- ส่วนตัวเชื่อมั่นว่าถ้าหากมีความรู้ด้านบัญชี, การเงิน และอ่านงบการเงินของบริษัทจะช่วยให้เข้าใจรายละเอียด เข้าใจมุมมองของผู้บริหารของบริษัท รวมทั้งผลการดำเนินงานของแต่ละบริษัท ซึ่ง thaivi ก็มีพี่ ๆ หลายคนที่ได้ฝึกฝนและปฏิบัติจนประสบความสำเร็จเป็นตัวอย่างให้เห็น
-
- Verified User
- โพสต์: 1372
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดสอนบัญชี
โพสต์ที่ 101
ก่อนตอบคำถาม ขออนุญาตทบทวนที่มาก่อนนะครับ จากกระทู้
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... 1&start=30
ไหนกลับมากลายเป็น เปิดสอนบัญชีไปได้ครับ
ตอนแรกที่พี่ RONNAPUM โพสไว้แล้วอ้างอิงกระทู้เดิมผมก็งงว่าตกลง อ.มน จะสอนบัญชีอีกหรือ ถ้าสอนจะเป็นบัญชีแนวไหน พื้นฐานหรือวิเคราะห์
ถ้าเป็นการสอนบัญชีแบบนั่งฟังอาจารย์บรรยายผมขอสละสิทธิ์ครับ แต่ถ้าเป็นการสัมนาแบบที่อ.มนพูดไว้ในกระทู้ข้างต้นผมอยากร่วมด้วยครับ
ขอตอบคำถามครับ
1. เรียนอะไร?
ไม่ได้หวังจะไปเรียนครับ ก่อนหน้านี้ที่ได้อ่านกระทู้ข้างต้น คิดว่าอยากจะได้ไปล้อมวงเพื่อ discuss กันในหัวข้อการวิเคราะห์งบ และเชื่อมโยงกับเรื่องในกระทู้
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=34009
ที่ว่าด้วยเรื่อง five force model
2. เอาไปทำอะไร?
1. อยากต่อยอดความรู้
2. อยากเป็นอาสาสมัครให้โรงเรียนนักลงทุนของ อ.มน
3. เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้งงานได้จริง
ถ้าเป็นการเอาไปใช้งานแบบที่ได้พูดคุยกับ อ.มน ผมมั่นใจครับ เพราะยังไงคงไม่ใช่การพูดคุยกันเพียงแค่ครั้งเดียว
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... 1&start=30
ไหนกลับมากลายเป็น เปิดสอนบัญชีไปได้ครับ
ตอนแรกที่พี่ RONNAPUM โพสไว้แล้วอ้างอิงกระทู้เดิมผมก็งงว่าตกลง อ.มน จะสอนบัญชีอีกหรือ ถ้าสอนจะเป็นบัญชีแนวไหน พื้นฐานหรือวิเคราะห์
ถ้าเป็นการสอนบัญชีแบบนั่งฟังอาจารย์บรรยายผมขอสละสิทธิ์ครับ แต่ถ้าเป็นการสัมนาแบบที่อ.มนพูดไว้ในกระทู้ข้างต้นผมอยากร่วมด้วยครับ
ขอตอบคำถามครับ
1. เรียนอะไร?
ไม่ได้หวังจะไปเรียนครับ ก่อนหน้านี้ที่ได้อ่านกระทู้ข้างต้น คิดว่าอยากจะได้ไปล้อมวงเพื่อ discuss กันในหัวข้อการวิเคราะห์งบ และเชื่อมโยงกับเรื่องในกระทู้
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=34009
ที่ว่าด้วยเรื่อง five force model
2. เอาไปทำอะไร?
1. อยากต่อยอดความรู้
2. อยากเป็นอาสาสมัครให้โรงเรียนนักลงทุนของ อ.มน
3. เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้งงานได้จริง
ถ้าเป็นการเอาไปใช้งานแบบที่ได้พูดคุยกับ อ.มน ผมมั่นใจครับ เพราะยังไงคงไม่ใช่การพูดคุยกันเพียงแค่ครั้งเดียว
สติมา ปัญญาเกิด
- Yaileela
- Verified User
- โพสต์: 373
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดสอนบัญชี
โพสต์ที่ 102
เรียนอะไรเรียนหลักการวิเคราะห์บริษัทที่สนใจจะลงทุนให้ละเอียดมากขึ้นนอกเหนือจากการใช้ P/E , PBV , DIV เป็นตัวกำหนดในการเลือก โดยนำรายละเอียดของตัวเลขต่างๆในงบการเงินมาช่วยวิเคราะห์
เอาไปทำอะไร
เอาไปใช้ประกอบการลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อก่อให้เกิดผลตอบแทนที่สามารถชนะอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก+อัตราเงินเฟ้อ
เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้งานได้จริง
เชื่อ 100 % ในแนวทางการใช้งบการเงินเพื่อกลั่นกรองหุ้นที่ต้องการลงทุนและยังสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางแนะนำให้กับผู้ที่สนใจคนอื่นๆด้วย
ปัจจุบันเกษียณตัวเองจากงานประจำแล้วจึงย่อมเป็นโอกาสที่ดีในการที่จะศึกษาอย่างจริงจังเสียที แถมยังเป็นชั้นเรียนที่มีอาจารย์ที่ดีเยี่ยมสอนอีกด้วย
เอาไปทำอะไร
เอาไปใช้ประกอบการลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อก่อให้เกิดผลตอบแทนที่สามารถชนะอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก+อัตราเงินเฟ้อ
เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้งานได้จริง
เชื่อ 100 % ในแนวทางการใช้งบการเงินเพื่อกลั่นกรองหุ้นที่ต้องการลงทุนและยังสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางแนะนำให้กับผู้ที่สนใจคนอื่นๆด้วย
ปัจจุบันเกษียณตัวเองจากงานประจำแล้วจึงย่อมเป็นโอกาสที่ดีในการที่จะศึกษาอย่างจริงจังเสียที แถมยังเป็นชั้นเรียนที่มีอาจารย์ที่ดีเยี่ยมสอนอีกด้วย
-
- Verified User
- โพสต์: 12
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดสอนบัญชี
โพสต์ที่ 103
เรียนอะไร?
การลงทุนนั้นเป็นทั้งศาสตร์ และ ศิลป์
ศาสตร์พื้นฐานที่ต้องเรียน คือ บัญชีพื้นฐาน การวิเคราะห์การเงินพื้นฐาน และ BIZ MODEL ( อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้แต่ต้องอ่านเอง ก็คือหนังสือคลาสสิคทางด้าน Value Investment)
ศิลป์ ก็คือ การที่เรานำศาสตร์พื้นฐานในการลงทุน และ ศาสตร์อื่นๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับพฤติกรรมของคน มาใช้ร่วมกันผ่านประสบการณ์ชีวิตและการลงทุน สร้างสรรค์การลงทุนออกมาราวกับผลงานทางศิลปะ
เรียนรู้วิชาการลงทุนกับผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์เพื่อที่จะได้ไม่หลงทาง หรือ เข้าใจผิด
เรียนรู้เส้นทางที่รุ่นพี่ได้เดินผ่านมา และ พิสูจน์แล้วว่าเป็นทางที่ถูก
เรียนรู้สไตล์การลงทุนของรุ่นพี่ เพื่อนำไปประยุกต์สร้างสไตล์การลงทุนที่เหมาะสมกับประสบการณ์และจุดแข็งของตนเอง
เอาไปทำอะไร?
นำไปใช้วิเคราะห์ธุรกิจเพื่อการลงทุนทั้งในเชิงปริมาณ และ เชิงคุณภาพ อย่างลึกซึ้งเพื่อที่เราจะได้เลือกธุรกิจที่จะลงทุนและสามารถอยู่กับธุรกิจนั้นได้อย่างมั่นใจ ยาวนาน ตราบเท่าที่ยังเป็นธุรกิจที่ดี มีความได้เปรียบเชิงแข่งขัน ราวกับว่าเราเป็นเจ้าของธุรกิจนั้น
เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้งานได้จริง
ขอเล่าประวัติส่วนตัวแล้วกันนะครับ
ย้อนหลังไปประมาณ 4 ปี ผมได้อ่านหนังสือ rich dad poor dad แล้วก็ตั้งเป้าหมายว่าตนเองจะต้องพบกับอิสรภาพทางการเงิน แต่หนังสือบอกแต่เป้าหมายไม่ได้บอกวิธีการ ผมจึงพยายามหาวิธีการนั้นแต่ก็ไม่พบวิธีที่เหมาะกับผม ในที่สุดหลังจากนั้น 3 ปีผมได้หยิบหนังสือตีแตกขึ้นมาอ่านโดยบังเอิญ ผมได้รู้จัก ดร.นิเวศน์ ครั้งแรกในชีวิต ( โชคดีที่ผมเกิดมาเป็นคนรักการอ่าน อ่านหนังสือทุกด้าน แต่โชคร้ายที่ไม่มีใครให้คำแนะนำว่าหนังสืออะไรมีประโยชน์กับเรา ) เมื่อได้อ่านจบก็พบว่าหลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่าเป็นวิธีการที่มีเหตุผล เรียบง่าย ลึกซึ้ง และมนุษย์เงินเดือนธรรมดาแบบเราสามารถนำมาใช้ได้จริง ผมจึงตั้งใจว่าจะใช้การลงทุนแบบเน้นคุณค่าเป็นเครื่องมือในการสร้างอิสรภาพทางการเงิน หลังจากอ่านตีแตก ผมได้หาหนังสือของ ดร.นิเวศน์ที่เหลือมาอ่านทั้งหมด ประมาณ 3 เดือนที่ได้ตะลุยอ่านหนังสือ ผมจึงได้ตัดสินใจเปิดพอร์ตเป็นครั้งแรกในชีวิต การลงทุนของผมเพิ่งครบรอบ 1 ปีเมื่อเดือนที่แล้วได้ผลตอบแทนที่ 13 % ครับ ในระหว่างเวลา 1 ปีนี้ ผมก็ยังเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ผมได้อ่านหนังสือแปลของ ดร.นิเวศน์ คุณพรชัย เรียนรู้บัญชี และการอ่านงบการเงิน จากหนังสือของ ดร.ภาภัทร ได้รู้จัก thai vi ( แอบอ่านอย่างเดียว) มีงานอดิเรกใหม่เป็นการอ่าน 56-1 ได้เข้าฟังสัมนาของ ดร.นิเวศน์ ฯลฯ และเมื่อปลายปีที่แล้วได้มีโอกาศเรียนกับพี่มน ในคอร์สสุดท้ายที่ได้เรียนรวบ 3 เรื่อง จึงได้รู้ว่าถ้าเราจะลงทุนได้อย่างมั่นใจ 100 % สามารถฝากชีวิตและอนาคตทางการเงินของเราไว้กับบริษัทที่เราลงทุนนั้นผมยังมีเรื่องที่ต้องศึกษาอีกมาก เพราะการลงทุนไม่มีสูตรสำเร็จ มันเป็นศิลปะ ต้องการความกว้างในความรู้ (ผมเชื่อว่าผมสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง แต่เหนื่อยมากครับ )
คำชี้แนะของพี่มนช่วยให้ระยะทางของรุ่นน้องสั้นลงและไม่หลงทางครับ
การลงทุนนั้นเป็นทั้งศาสตร์ และ ศิลป์
ศาสตร์พื้นฐานที่ต้องเรียน คือ บัญชีพื้นฐาน การวิเคราะห์การเงินพื้นฐาน และ BIZ MODEL ( อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้แต่ต้องอ่านเอง ก็คือหนังสือคลาสสิคทางด้าน Value Investment)
ศิลป์ ก็คือ การที่เรานำศาสตร์พื้นฐานในการลงทุน และ ศาสตร์อื่นๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับพฤติกรรมของคน มาใช้ร่วมกันผ่านประสบการณ์ชีวิตและการลงทุน สร้างสรรค์การลงทุนออกมาราวกับผลงานทางศิลปะ
เรียนรู้วิชาการลงทุนกับผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์เพื่อที่จะได้ไม่หลงทาง หรือ เข้าใจผิด
เรียนรู้เส้นทางที่รุ่นพี่ได้เดินผ่านมา และ พิสูจน์แล้วว่าเป็นทางที่ถูก
เรียนรู้สไตล์การลงทุนของรุ่นพี่ เพื่อนำไปประยุกต์สร้างสไตล์การลงทุนที่เหมาะสมกับประสบการณ์และจุดแข็งของตนเอง
เอาไปทำอะไร?
นำไปใช้วิเคราะห์ธุรกิจเพื่อการลงทุนทั้งในเชิงปริมาณ และ เชิงคุณภาพ อย่างลึกซึ้งเพื่อที่เราจะได้เลือกธุรกิจที่จะลงทุนและสามารถอยู่กับธุรกิจนั้นได้อย่างมั่นใจ ยาวนาน ตราบเท่าที่ยังเป็นธุรกิจที่ดี มีความได้เปรียบเชิงแข่งขัน ราวกับว่าเราเป็นเจ้าของธุรกิจนั้น
เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้งานได้จริง
ขอเล่าประวัติส่วนตัวแล้วกันนะครับ
ย้อนหลังไปประมาณ 4 ปี ผมได้อ่านหนังสือ rich dad poor dad แล้วก็ตั้งเป้าหมายว่าตนเองจะต้องพบกับอิสรภาพทางการเงิน แต่หนังสือบอกแต่เป้าหมายไม่ได้บอกวิธีการ ผมจึงพยายามหาวิธีการนั้นแต่ก็ไม่พบวิธีที่เหมาะกับผม ในที่สุดหลังจากนั้น 3 ปีผมได้หยิบหนังสือตีแตกขึ้นมาอ่านโดยบังเอิญ ผมได้รู้จัก ดร.นิเวศน์ ครั้งแรกในชีวิต ( โชคดีที่ผมเกิดมาเป็นคนรักการอ่าน อ่านหนังสือทุกด้าน แต่โชคร้ายที่ไม่มีใครให้คำแนะนำว่าหนังสืออะไรมีประโยชน์กับเรา ) เมื่อได้อ่านจบก็พบว่าหลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่าเป็นวิธีการที่มีเหตุผล เรียบง่าย ลึกซึ้ง และมนุษย์เงินเดือนธรรมดาแบบเราสามารถนำมาใช้ได้จริง ผมจึงตั้งใจว่าจะใช้การลงทุนแบบเน้นคุณค่าเป็นเครื่องมือในการสร้างอิสรภาพทางการเงิน หลังจากอ่านตีแตก ผมได้หาหนังสือของ ดร.นิเวศน์ที่เหลือมาอ่านทั้งหมด ประมาณ 3 เดือนที่ได้ตะลุยอ่านหนังสือ ผมจึงได้ตัดสินใจเปิดพอร์ตเป็นครั้งแรกในชีวิต การลงทุนของผมเพิ่งครบรอบ 1 ปีเมื่อเดือนที่แล้วได้ผลตอบแทนที่ 13 % ครับ ในระหว่างเวลา 1 ปีนี้ ผมก็ยังเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ผมได้อ่านหนังสือแปลของ ดร.นิเวศน์ คุณพรชัย เรียนรู้บัญชี และการอ่านงบการเงิน จากหนังสือของ ดร.ภาภัทร ได้รู้จัก thai vi ( แอบอ่านอย่างเดียว) มีงานอดิเรกใหม่เป็นการอ่าน 56-1 ได้เข้าฟังสัมนาของ ดร.นิเวศน์ ฯลฯ และเมื่อปลายปีที่แล้วได้มีโอกาศเรียนกับพี่มน ในคอร์สสุดท้ายที่ได้เรียนรวบ 3 เรื่อง จึงได้รู้ว่าถ้าเราจะลงทุนได้อย่างมั่นใจ 100 % สามารถฝากชีวิตและอนาคตทางการเงินของเราไว้กับบริษัทที่เราลงทุนนั้นผมยังมีเรื่องที่ต้องศึกษาอีกมาก เพราะการลงทุนไม่มีสูตรสำเร็จ มันเป็นศิลปะ ต้องการความกว้างในความรู้ (ผมเชื่อว่าผมสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง แต่เหนื่อยมากครับ )
คำชี้แนะของพี่มนช่วยให้ระยะทางของรุ่นน้องสั้นลงและไม่หลงทางครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 49
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดสอนบัญชี
โพสต์ที่ 104
เล่นเหมือนประกวดนางงามเลยนะครับอาจารย์
ส่วนตัวผมแล้วอยากจะให้ความคิดเห็นดังนี้ครับ
เรียนอะไร? เอาไปทำอะไร? และเชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้งานได้จริง"
สำหรับผมแล้วผมอยากได้รับความรู้ที่จะช่วยให้ผมสามารถตกผลึกความคิดในเชิงการลงทุนและนำไปใช้ได้จริงครับ ผมเชื่อว่าบัญชีเป็น tools ช่วยให้เราสามารถประเมิณคุณภาพของบริษัทที่เรากำลังสนใจ ทำให้เราเข้าใจถึงลักษณะพฤติกรรมและคุณธรรมของผู้บริหารว่าเราควรคบด้วยหรือไม่ และ ทำให้เราทราบว่าบริษัทมี oxygen tank ที่ดีแค่ไหนสำหรับการอยู่รอดในปัจจุบัน
ในขณะเดียวกันผมเชื่อว่าการแม่นบัญชีเพียงอย่างเดียวไม่สำคัญเท่ากับการที่เราสามารถเข้าใจใน strategy ของการบริหารงานของบริษัทและผู้บริหาร ซึ่งจะส่งผลโดยตรงกับความสามารถในการแข่งขัน โอกาสในการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กรครับ
เชื่อไหมว่าจะเอาไปใช้ได้จริง เชื่อครับแต่ต้องอยู่บนความรู้หลายๆอย่างครับ ผมคิดว่า การที่จะประสบความสำเร็จนั้น จะต้องนำเอาความรู้ในด้านต่างๆทั้งMarketing, Strategy , account , economics มาประกอบครับ
สำคัญที่สุดคือสมมติตัวเองเป็นผู้บริหารบริษัทนั้นและประเมิณว่าถ้าหากบริษัทดำเนินการอย่าง strategy ที่ประกาศ บน status อย่างที่ เป็นอยู่ โดยมี oxygen tank ตามบัญชีบอกเราไว้ จะทำให้ บริษัท run ต่อไปอย่างไรครับ
อาจงงๆนิดหน่อยกับคำตอบนะครับ อาจารย์
ส่วนตัวผมแล้วอยากจะให้ความคิดเห็นดังนี้ครับ
เรียนอะไร? เอาไปทำอะไร? และเชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้งานได้จริง"
สำหรับผมแล้วผมอยากได้รับความรู้ที่จะช่วยให้ผมสามารถตกผลึกความคิดในเชิงการลงทุนและนำไปใช้ได้จริงครับ ผมเชื่อว่าบัญชีเป็น tools ช่วยให้เราสามารถประเมิณคุณภาพของบริษัทที่เรากำลังสนใจ ทำให้เราเข้าใจถึงลักษณะพฤติกรรมและคุณธรรมของผู้บริหารว่าเราควรคบด้วยหรือไม่ และ ทำให้เราทราบว่าบริษัทมี oxygen tank ที่ดีแค่ไหนสำหรับการอยู่รอดในปัจจุบัน
ในขณะเดียวกันผมเชื่อว่าการแม่นบัญชีเพียงอย่างเดียวไม่สำคัญเท่ากับการที่เราสามารถเข้าใจใน strategy ของการบริหารงานของบริษัทและผู้บริหาร ซึ่งจะส่งผลโดยตรงกับความสามารถในการแข่งขัน โอกาสในการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กรครับ
เชื่อไหมว่าจะเอาไปใช้ได้จริง เชื่อครับแต่ต้องอยู่บนความรู้หลายๆอย่างครับ ผมคิดว่า การที่จะประสบความสำเร็จนั้น จะต้องนำเอาความรู้ในด้านต่างๆทั้งMarketing, Strategy , account , economics มาประกอบครับ
สำคัญที่สุดคือสมมติตัวเองเป็นผู้บริหารบริษัทนั้นและประเมิณว่าถ้าหากบริษัทดำเนินการอย่าง strategy ที่ประกาศ บน status อย่างที่ เป็นอยู่ โดยมี oxygen tank ตามบัญชีบอกเราไว้ จะทำให้ บริษัท run ต่อไปอย่างไรครับ
อาจงงๆนิดหน่อยกับคำตอบนะครับ อาจารย์
-
- Verified User
- โพสต์: 337
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดสอนบัญชี
โพสต์ที่ 105
อยากตอบ...
เรียนอะไร
การบัญชี
เอาไปทำอะไร
เปิดมุมมองใหม่ๆในสิ่งที่เราไม่รู้และโอกาสในการเรียนรู้เรื่องแบบนี้ช่างน้อยนัก T T และแน่นอนเอาไปลงทุนเพื่อความสบายใจของตนเอง รวมถึงคนรอบข้าง จะหมายถึงTVIด้วยก็ได้ (แต่ทุนผมถูกกว่า)
เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้ได้จริง
มั่นใจ 80 เปอเซนต์ เรื่องอนาคตไม่อยากฟันธงมากนัก
ผมอยากรู้เวลาการเรียนมากที่สุด เพราะยังเรียนอยู่มหาลัย ถ้าติดขัด....น่าเสียดาย
เรียนอะไร
การบัญชี
เอาไปทำอะไร
เปิดมุมมองใหม่ๆในสิ่งที่เราไม่รู้และโอกาสในการเรียนรู้เรื่องแบบนี้ช่างน้อยนัก T T และแน่นอนเอาไปลงทุนเพื่อความสบายใจของตนเอง รวมถึงคนรอบข้าง จะหมายถึงTVIด้วยก็ได้ (แต่ทุนผมถูกกว่า)
เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้ได้จริง
มั่นใจ 80 เปอเซนต์ เรื่องอนาคตไม่อยากฟันธงมากนัก
ผมอยากรู้เวลาการเรียนมากที่สุด เพราะยังเรียนอยู่มหาลัย ถ้าติดขัด....น่าเสียดาย
-
- Verified User
- โพสต์: 125
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดสอนบัญชี
โพสต์ที่ 106
เห็นด้วยกับคุณ HAGRID ไม่ใช่เื่องแปลกประหลาดอะไรที่ อ.มนตรีจะเปิดสอนเป็นเรื่องเป็นราว เอาให้รวยระเบิดเทิดเทิงไปเลย ผมว่าแค่อาจารย์เปิดสอนเนี่ยก็ถือว่าเป็นการช่วยกันมากอยู่แล้ว ค่าเรียนไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนที่เห็นคุณค่าจริงๆ o.k.ละอาจารย์เห็นว่าเรื่องค่าเรียนไม่สำคัญอะไรเลย แล้วอาจารย์จะทำอย่างไรในเมื่อ demand มันhagrid เขียน:จริงๆ ผมอยากเรียนมากเลยนะครับ
แต่ไม่ชอบแย่งกับใคร
ก็หวังแต่ว่าคุณมนตรีจะเปิดสอนแบบเต็มๆ
สำหรับคนที่ยอมเสียเงินบ้าง (ไม่ได้รวยนะครับ แต่คิดว่าคุ้มค่า)
และอีกอย่างปีนี้ผมก็ตั้งใจไว้ว่าจะลงเรียนคอร์สที่คุณมนตรีสอน
แบบปีที่แล้ว (ปีที่แล้วเลี้ยงลูกอ่อนเลยไปไม่ได้)
ยังไงก็ฝากพิจารณาเปิดสอนด้วยนะครับ
ทะลุฟ้าแบบนี้ รับแค่ 20 คน มันน้อยไป ผมว่าถ้าอาจารย์อยากจะช่วยชาว
V.I. นะเปิดสอนเลย ผมสมัคร 1 คน เพราะผมรู้ว่าตราบใดที่ยังไม่มีพื้นฐานเรื่องบัญชี&การเงินที่ดีพอ จะให้ไปวิเคราะห์ค่าต่างๆ มันก็ทำได้อย่างแกนๆ มันไม่ลึกลงในใจหรอก
มันไม่
-
- Verified User
- โพสต์: 90
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดสอนบัญชี
โพสต์ที่ 107
1. เรียนอะไร?
- เรียนรู้ครับ จริงๆ ไม่ได้คิดจะไปเรียน
แต่อยากไป get idea จากคนที่มาร่วม share idea กันมากกว่าครับ
ผมว่าน่าจะมีประโยชน์กว่าการเรียน เพราะถ้าจะเรียนเรื่องบัญชีกันเพียวๆ ผมว่าคงได้ประโยชน์น้อยครับ
ถ้าเรื่องเรียนบัญชี ผมไม่ได้เก่งอะไร พอลงบัญชีได้ และก็เคยเรียนกับอาจารย์มน เรื่องบัญชีที่เพิ่งเปิดไปรอบสุดท้าย
ครั้งนั้น เรื่องทฤษฎีบัญชีผมไม่ได้อะไรเพิ่มมากนัก แต่ที่ผมได้จริงๆ ก็คือลูกเล่นทางบัญชี ที่อาจารย์นำมาเป็น case study มากกว่า
ซึ่งผมเห็นว่า มันได้ประโยชน์กว่าการเรียนครับ เพราะถ้าแค่เรื่องทฤษฎีต่างๆ ผมว่า เราพอจะหาอ่านเอาได้ มีหนังสือตั้งเยอะ
แต่ประสบการณ์ต่างๆ ของแต่ละคนที่ได้มา หาอ่านที่ไหนไม่ได้ครับ (ไม่ได้บอกว่าทฤษฎีไม่สำคัญนะครับ)
ส่วนตัวผมชอบสไตล์ที่อาจารย์เขียนเรื่อง Creative Accounting แบบนี้มากกว่าเรียนทฤษฎีบัญชี
2. เอาไปทำอะไร
- เอาไปเปิดโลกทัศน์ให้ตัวเอง (จะได้ไม่เป็นแบบม้าที่ลำปาง ที่ถูกปิดตาไว้ให้มองเห็นแต่ด้านที่เปิดไว้)
จะได้สามารถนำ idea ที่ได้ไปคิด ไปต่อยอดได้อีกครับ
จากเมื่อก่อนทำงานแบบไม่มีเป้าหมายในชีวิต แต่ตอนนี้มีแล้ว (หลังจากค้นพบ thaivi)
ก็จะเอาความรู้+ประสบการณ์ที่ได้ไปทำให้ถึงเป้าหมายครับ
3. เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้งานได้จริง
- เชื่อว่าใช้งานได้จริงครับ เพราะผมคิดว่าถ้าได้ไป ผมว่าสิ่งที่จะได้ก็คือวิธีการคิด วิธีใช้งานเครื่องมือต่างๆ ที่เรามีอยู่ในมือ
ฉะนั้น ขึ้นชื่อว่า "วิธีใช้งาน" ก็ต้องใช้งานได้ครับ
ส่วนจะใช้งานแล้วผลจะเป็นอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถนำความรู้ต่างๆ มาปะติดปะต่อ มาวิเคราะห์กันจนเห็นภาพทั้งหมด
จะถูกมาก ถูกน้อย ผมว่าก็แล้วแต่ความสามารถในการวิเคราะห์ของแต่ละคนครับ
ป.ล. ช่วงนี้งานเยอะมากจนไม่แน่ใจว่าจะสามารถหยุดได้ในวันเสาร์-อาทิตย์ หรือไม่
หากคำตอบผมถูกใจอาจารย์มนแต่เวลาผมไม่ลงตัว ก็ขอสละสิทธิ์ให้สมาชิกท่านอื่นเหมือนกันครับ
- เรียนรู้ครับ จริงๆ ไม่ได้คิดจะไปเรียน
แต่อยากไป get idea จากคนที่มาร่วม share idea กันมากกว่าครับ
ผมว่าน่าจะมีประโยชน์กว่าการเรียน เพราะถ้าจะเรียนเรื่องบัญชีกันเพียวๆ ผมว่าคงได้ประโยชน์น้อยครับ
ถ้าเรื่องเรียนบัญชี ผมไม่ได้เก่งอะไร พอลงบัญชีได้ และก็เคยเรียนกับอาจารย์มน เรื่องบัญชีที่เพิ่งเปิดไปรอบสุดท้าย
ครั้งนั้น เรื่องทฤษฎีบัญชีผมไม่ได้อะไรเพิ่มมากนัก แต่ที่ผมได้จริงๆ ก็คือลูกเล่นทางบัญชี ที่อาจารย์นำมาเป็น case study มากกว่า
ซึ่งผมเห็นว่า มันได้ประโยชน์กว่าการเรียนครับ เพราะถ้าแค่เรื่องทฤษฎีต่างๆ ผมว่า เราพอจะหาอ่านเอาได้ มีหนังสือตั้งเยอะ
แต่ประสบการณ์ต่างๆ ของแต่ละคนที่ได้มา หาอ่านที่ไหนไม่ได้ครับ (ไม่ได้บอกว่าทฤษฎีไม่สำคัญนะครับ)
ส่วนตัวผมชอบสไตล์ที่อาจารย์เขียนเรื่อง Creative Accounting แบบนี้มากกว่าเรียนทฤษฎีบัญชี
2. เอาไปทำอะไร
- เอาไปเปิดโลกทัศน์ให้ตัวเอง (จะได้ไม่เป็นแบบม้าที่ลำปาง ที่ถูกปิดตาไว้ให้มองเห็นแต่ด้านที่เปิดไว้)
จะได้สามารถนำ idea ที่ได้ไปคิด ไปต่อยอดได้อีกครับ
จากเมื่อก่อนทำงานแบบไม่มีเป้าหมายในชีวิต แต่ตอนนี้มีแล้ว (หลังจากค้นพบ thaivi)
ก็จะเอาความรู้+ประสบการณ์ที่ได้ไปทำให้ถึงเป้าหมายครับ
3. เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้งานได้จริง
- เชื่อว่าใช้งานได้จริงครับ เพราะผมคิดว่าถ้าได้ไป ผมว่าสิ่งที่จะได้ก็คือวิธีการคิด วิธีใช้งานเครื่องมือต่างๆ ที่เรามีอยู่ในมือ
ฉะนั้น ขึ้นชื่อว่า "วิธีใช้งาน" ก็ต้องใช้งานได้ครับ
ส่วนจะใช้งานแล้วผลจะเป็นอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถนำความรู้ต่างๆ มาปะติดปะต่อ มาวิเคราะห์กันจนเห็นภาพทั้งหมด
จะถูกมาก ถูกน้อย ผมว่าก็แล้วแต่ความสามารถในการวิเคราะห์ของแต่ละคนครับ
ป.ล. ช่วงนี้งานเยอะมากจนไม่แน่ใจว่าจะสามารถหยุดได้ในวันเสาร์-อาทิตย์ หรือไม่
หากคำตอบผมถูกใจอาจารย์มนแต่เวลาผมไม่ลงตัว ก็ขอสละสิทธิ์ให้สมาชิกท่านอื่นเหมือนกันครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 16
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดสอนบัญชี
โพสต์ที่ 108
ผมขอตอบแบบย้อนจากผลลัพธ์ มาหา เหตุ นะครับ โดยผมเชื่อว่าถ้าเรามีความเชื่อ(ศรัทธา) ในสิ่งใดๆอย่างมั่นใจนี้แล้วเราจะมุ่งมั่นเพื่อที่จะทำสิ่งนั้นๆให้สำเร็จ โดยความเชื่อในต้องกำกับด้วย สติ และปัญญา
3. เชื่อมั่ยว่าใช้งานได้จริงเชื่อครับ เพราะ งบการเงิน เปรียบเสมือน กับผลการดำเนินงานที่ผ่านมาในอดีต(งบดุล,งบกำไรขาดทุน) และ power(งบกระแสเงินสด,งบแสดงการเปลี่ยแปลงผู้ถือหุ้น)ที่จะใช้ขับเคลื่อนบริษัทต่อไป โดยประชาชนทั่วไปถ้าไม่รู้จักกับผู้บริหารเป็นการส่วนตัว ต้องอาศัยงบการเงินเหล่านี้ในการประกอบการตัดสินใจร่วมหัวจมท้าย(ลงทุน) กับบริษัทนั้นๆ โดยต้องอาศัยข้อมูลอื่นๆประกอบ คือ จริยธรรมของผู้บริหาร (corporate governance) ธุรกิจขาขึ้น ขาลง เศรษฐศาสตร์มหภาค ฯลฯ
2. เอาไปทำอะไร ..ผมขอแบ่งเป็น สองส่วน คือ ส่วนตัว และส่วนรวม
โดยส่วนตัวนั้น เพื่อ ร่วมลงทุนกับบริษัท หวังผลตอบแทน เป็น capital gain และ เงินปันผล เพื่อนำมาเป็นปัจจัยในการดำรงชีวิต
ส่วนรวม .ในความเห็นของผม ผมอยากเป็นหนึ่งในทีมงานของอาจารย์ที่เผยแพร่ความรู้ให้กับนักลงทุนทั่วไปเพื่อ พัฒนาตลาดหุ้นของไทย ให้อยู่ในทิศทางเดียวกัน คือ ลงทุนในบริษัทที่มีผลประกอบการดี มิใช่ เล่นหุ้นเก็งกำไร เล่นตามข่าว ซึ่งถ้าเราสร้างแนวคิดนี้ให้แพร่หลาย ผลดีต่างๆนี้ก็จะย้อนกลับมาหาชาว Vi อีกทีหนึ่ง
1. เรียนอะไร. ผมขอตอบในแนวที่ผมอยากเรียนดีกว่านะครับ คือ งบการเงินมี 4 ประเภท ซึ่งทุกคนสามารถหาdownloadได้ไม่ยากนัก แต่สิ่งที่แตกต่างคือ การวิเคราะห์ว่า ตัวเลขแต่ละบรรทัดนั้น มีความหมายอย่างไร และเราจะสร้าง ratio ในการวิเคราะห์จากบรรทัดใดบ้าง รวมทั้งวิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจนั้นๆว่าสดใสหรือไม่ อย่างไร รวมทั้งอยากทำ case study และ workshop ที่อาจารย์มน พูดถึงครับ
ขอบคุณครับ [email protected],[email protected]
3. เชื่อมั่ยว่าใช้งานได้จริงเชื่อครับ เพราะ งบการเงิน เปรียบเสมือน กับผลการดำเนินงานที่ผ่านมาในอดีต(งบดุล,งบกำไรขาดทุน) และ power(งบกระแสเงินสด,งบแสดงการเปลี่ยแปลงผู้ถือหุ้น)ที่จะใช้ขับเคลื่อนบริษัทต่อไป โดยประชาชนทั่วไปถ้าไม่รู้จักกับผู้บริหารเป็นการส่วนตัว ต้องอาศัยงบการเงินเหล่านี้ในการประกอบการตัดสินใจร่วมหัวจมท้าย(ลงทุน) กับบริษัทนั้นๆ โดยต้องอาศัยข้อมูลอื่นๆประกอบ คือ จริยธรรมของผู้บริหาร (corporate governance) ธุรกิจขาขึ้น ขาลง เศรษฐศาสตร์มหภาค ฯลฯ
2. เอาไปทำอะไร ..ผมขอแบ่งเป็น สองส่วน คือ ส่วนตัว และส่วนรวม
โดยส่วนตัวนั้น เพื่อ ร่วมลงทุนกับบริษัท หวังผลตอบแทน เป็น capital gain และ เงินปันผล เพื่อนำมาเป็นปัจจัยในการดำรงชีวิต
ส่วนรวม .ในความเห็นของผม ผมอยากเป็นหนึ่งในทีมงานของอาจารย์ที่เผยแพร่ความรู้ให้กับนักลงทุนทั่วไปเพื่อ พัฒนาตลาดหุ้นของไทย ให้อยู่ในทิศทางเดียวกัน คือ ลงทุนในบริษัทที่มีผลประกอบการดี มิใช่ เล่นหุ้นเก็งกำไร เล่นตามข่าว ซึ่งถ้าเราสร้างแนวคิดนี้ให้แพร่หลาย ผลดีต่างๆนี้ก็จะย้อนกลับมาหาชาว Vi อีกทีหนึ่ง
1. เรียนอะไร. ผมขอตอบในแนวที่ผมอยากเรียนดีกว่านะครับ คือ งบการเงินมี 4 ประเภท ซึ่งทุกคนสามารถหาdownloadได้ไม่ยากนัก แต่สิ่งที่แตกต่างคือ การวิเคราะห์ว่า ตัวเลขแต่ละบรรทัดนั้น มีความหมายอย่างไร และเราจะสร้าง ratio ในการวิเคราะห์จากบรรทัดใดบ้าง รวมทั้งวิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจนั้นๆว่าสดใสหรือไม่ อย่างไร รวมทั้งอยากทำ case study และ workshop ที่อาจารย์มน พูดถึงครับ
ขอบคุณครับ [email protected],[email protected]
-
- Verified User
- โพสต์: 11
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดสอนบัญชี
โพสต์ที่ 111
ขอตอบนะครับ
1. เรียนอะไร?
เรียนรู้หลักการและวิธีการในการหาหุ้นมูลค่าตามศาสตร์และศิลป์โดยหลักการ
ของ VI โดยได้เรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์ตรงจากการใช้หลักการและวิชาการ
ดังกล่าวเป็นผู้บรรยาย และร่วมกันคิด วิเคราะห์เพื่อกรองที่จะทำให้เกิดนักลง
ทุนที่เป็น VI รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพ และพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงของทั้งตัว
บริษัท และของตัวระบบ(ตัวตลาด) และไม่ตกเป็นเครื่องมือของนักลงทุนที่
สร้างราคาเทียมในตลาดต่อไป
2. เอาไปทำอะไร
ขอตอบตามตรง สร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองและครอบครัว และอีกนัยหนึ่ง
เมื่อมีความมั่งคั่งแล้วก็สามารถแบ่งปันให้กับสังคมได้มากขึ้น และเมื่อมีความ
มั่นใจในหลักการลงทุนแล้วก็สามารถที่จะขยายความบอกต่อแก่นักลงทุนรุ่น
หลังต่อไป ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าถ้าตลาดทุนไทยมีนักลงทุน VI เยอะ ๆ แล้ว
จะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับบริษัทที่จะนำบริษัทของตนเข้ามาในตลาด
ทุนด้วยว่า หากบริษัทเหล่านั้นตั้งใจประกอบธุรกิจของตนตามวิชาชีพ อย่างมี
ธรรมาภิบาลแล้ว จักสามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับบริษัท เจ้าของหุ้น และ
สร้างเสถียรภาพด้านราคาให้กับกิจการเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี
3. เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้งานได้จริง
ขอเล่าอดีตซักนิดครับว่า ผมเริ่มเข้าตลาดหุ้นปี 2543 โดยคิดว่าจะสร้าง
ความมั่งคั่งได้จากตลาด ทั้งทีได้เคยอ่านหนังสือของท่านอาจารย์นิเวศน์
แต่กลับมีความเชื่อว่าเป็นแค่แนวความคิดเท่านั้นใช้กับตลาดบ้านเราไม่ได้
จริงหรอก แต่ก็เรียกร้องหาวิธีการลงทุนที่สร้างยั่งยืนและใช้ได้จริง ทั้งหุ้น
บูลชิพก็แล้ว หุ้นปันผลก็เคย และหุ้นตามปัจจัยเทคนิค แต่ก็ไม่สามารถชนะ
ตลาดได้ จนมาในปีที่ผ่านมามีผู้แนะนำในเข้ามาดูใน web นี้ ผมถึงได้
รู้ว่า "ความคิดของผมต่อแนวความคิด vi นั้นผิดถนัด (ผมลองย้อน
ไปดูว่าผมเคยมีหุ้นที่ดีมาก ๆ เช่นในกลุ่มพลังงาน ทั้งน้ำมัน และถ่านหิน
แต่กลับไม่รู้ว่าบริษัทที่ตนมีอยู่นั้นมีมูลค่าที่แท้จริงเท่าไร ทำให้เป็นได้แค่
นักเล่นหุ้นที่ซื้อมาถูก ขายได้แพงกว่า แต่ก็ซื้อกลับมาได้แพงกว่า
และขายไปถูกที่สุด โอ๊ยชีวิต)
ฉะนั้นผมจึงเชื่ออย่างสนิทใจว่า แนวทางการลงทุน VI นั้นเป็นหลักการที่
ทำให้นักลงทุนสามารถได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม และยั่งยืน ตาม
ความสามารถ และความขยันของแต่ละบุคคล และที่สำคัญนักลงทุน
สามารถลงทุนโดยปราศจากความกลัว (กินอิ่มนอนหลับ) และชนะตลาดได้
ผมทำงานประจำครับสะดวกวันเสาร์-อาทิตย์เหมือนกันครับ
1. เรียนอะไร?
เรียนรู้หลักการและวิธีการในการหาหุ้นมูลค่าตามศาสตร์และศิลป์โดยหลักการ
ของ VI โดยได้เรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์ตรงจากการใช้หลักการและวิชาการ
ดังกล่าวเป็นผู้บรรยาย และร่วมกันคิด วิเคราะห์เพื่อกรองที่จะทำให้เกิดนักลง
ทุนที่เป็น VI รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพ และพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงของทั้งตัว
บริษัท และของตัวระบบ(ตัวตลาด) และไม่ตกเป็นเครื่องมือของนักลงทุนที่
สร้างราคาเทียมในตลาดต่อไป
2. เอาไปทำอะไร
ขอตอบตามตรง สร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองและครอบครัว และอีกนัยหนึ่ง
เมื่อมีความมั่งคั่งแล้วก็สามารถแบ่งปันให้กับสังคมได้มากขึ้น และเมื่อมีความ
มั่นใจในหลักการลงทุนแล้วก็สามารถที่จะขยายความบอกต่อแก่นักลงทุนรุ่น
หลังต่อไป ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าถ้าตลาดทุนไทยมีนักลงทุน VI เยอะ ๆ แล้ว
จะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับบริษัทที่จะนำบริษัทของตนเข้ามาในตลาด
ทุนด้วยว่า หากบริษัทเหล่านั้นตั้งใจประกอบธุรกิจของตนตามวิชาชีพ อย่างมี
ธรรมาภิบาลแล้ว จักสามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับบริษัท เจ้าของหุ้น และ
สร้างเสถียรภาพด้านราคาให้กับกิจการเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี
3. เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้งานได้จริง
ขอเล่าอดีตซักนิดครับว่า ผมเริ่มเข้าตลาดหุ้นปี 2543 โดยคิดว่าจะสร้าง
ความมั่งคั่งได้จากตลาด ทั้งทีได้เคยอ่านหนังสือของท่านอาจารย์นิเวศน์
แต่กลับมีความเชื่อว่าเป็นแค่แนวความคิดเท่านั้นใช้กับตลาดบ้านเราไม่ได้
จริงหรอก แต่ก็เรียกร้องหาวิธีการลงทุนที่สร้างยั่งยืนและใช้ได้จริง ทั้งหุ้น
บูลชิพก็แล้ว หุ้นปันผลก็เคย และหุ้นตามปัจจัยเทคนิค แต่ก็ไม่สามารถชนะ
ตลาดได้ จนมาในปีที่ผ่านมามีผู้แนะนำในเข้ามาดูใน web นี้ ผมถึงได้
รู้ว่า "ความคิดของผมต่อแนวความคิด vi นั้นผิดถนัด (ผมลองย้อน
ไปดูว่าผมเคยมีหุ้นที่ดีมาก ๆ เช่นในกลุ่มพลังงาน ทั้งน้ำมัน และถ่านหิน
แต่กลับไม่รู้ว่าบริษัทที่ตนมีอยู่นั้นมีมูลค่าที่แท้จริงเท่าไร ทำให้เป็นได้แค่
นักเล่นหุ้นที่ซื้อมาถูก ขายได้แพงกว่า แต่ก็ซื้อกลับมาได้แพงกว่า
และขายไปถูกที่สุด โอ๊ยชีวิต)
ฉะนั้นผมจึงเชื่ออย่างสนิทใจว่า แนวทางการลงทุน VI นั้นเป็นหลักการที่
ทำให้นักลงทุนสามารถได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม และยั่งยืน ตาม
ความสามารถ และความขยันของแต่ละบุคคล และที่สำคัญนักลงทุน
สามารถลงทุนโดยปราศจากความกลัว (กินอิ่มนอนหลับ) และชนะตลาดได้
ผมทำงานประจำครับสะดวกวันเสาร์-อาทิตย์เหมือนกันครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 62
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดสอนบัญชี
โพสต์ที่ 112
ขอด้วยคนครับ วัน อาทิตย์ ได้จะขอบคุณอย่างสูงครับ
จะประกาศวันไหนครับช่วยแจ้ง [email protected]
จะประกาศวันไหนครับช่วยแจ้ง [email protected]
-
- Verified User
- โพสต์: 63
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดสอนบัญชี
โพสต์ที่ 113
คอร์สนี้น่าสนใจมากเลยครับ สำหรับคำถามทั้ง 3 ข้อ ผมขอตอบดังนี้นะครับ
ข้อแรก ผมอยากเรียนรู้ในเรื่องบัญชีครับ เครื่องมือ-วิธีการต่างๆที่จะนำมาใช้
ในการวิเคราะห์บัญชี วิเคราะห์มูลค่าหุ้น มูลค่ากิจการ มูลค่าอุตสาหกรรม ผม
อยากเปิด Financial Report แล้วเข้าใจว่าตัวเลขต่างๆมันคืออะไร ตัวไหน
น่าสนใจ อะไรคือตัวการสำคัญที่ผลักดันให้เกิดตัวเลขเหล่านั้นขึ้นมา อยาก
อ่านข่าว อ่านงบแล้วเข้าใจ มองออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปครับ
ข้อสอง ผมจะเอาไปวิเคราะห์หุ้นครับ ผมอยากวัดมูลค่าหุ้นได้ด้วยตนเองครับ
ข้อสาม เชื่อและจะเอาไปใช้จริงๆด้วยครับ (ข้อนี้ฟันธงครับ)
สำหรับคอร์สที่อ.จะเปิด ถ้าเป็นวันธรรมดาผมขอสละสิทธิ์นะครับ และถ้าอ.
คิดว่ามันค่อนข้างยากสำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานความรู้เรื่องบัญชีมาก่อน ผมก็
ขอสละสิทธิ์เช่นกันครับ
ขอรออ่านหนังสือของอ.แทนละกันนะครับ :D
ปล. ไม่ทราบว่าเป็นโรงเรียนเดียวกับที่คุณ sunrise เคยพูดรึเปล่าครับ :)
ข้อแรก ผมอยากเรียนรู้ในเรื่องบัญชีครับ เครื่องมือ-วิธีการต่างๆที่จะนำมาใช้
ในการวิเคราะห์บัญชี วิเคราะห์มูลค่าหุ้น มูลค่ากิจการ มูลค่าอุตสาหกรรม ผม
อยากเปิด Financial Report แล้วเข้าใจว่าตัวเลขต่างๆมันคืออะไร ตัวไหน
น่าสนใจ อะไรคือตัวการสำคัญที่ผลักดันให้เกิดตัวเลขเหล่านั้นขึ้นมา อยาก
อ่านข่าว อ่านงบแล้วเข้าใจ มองออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปครับ
ข้อสอง ผมจะเอาไปวิเคราะห์หุ้นครับ ผมอยากวัดมูลค่าหุ้นได้ด้วยตนเองครับ
ข้อสาม เชื่อและจะเอาไปใช้จริงๆด้วยครับ (ข้อนี้ฟันธงครับ)
สำหรับคอร์สที่อ.จะเปิด ถ้าเป็นวันธรรมดาผมขอสละสิทธิ์นะครับ และถ้าอ.
คิดว่ามันค่อนข้างยากสำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานความรู้เรื่องบัญชีมาก่อน ผมก็
ขอสละสิทธิ์เช่นกันครับ
ขอรออ่านหนังสือของอ.แทนละกันนะครับ :D
ปล. ไม่ทราบว่าเป็นโรงเรียนเดียวกับที่คุณ sunrise เคยพูดรึเปล่าครับ :)
All that is necessary for the triumph of evil is that good men do nothing.
- aor_vi
- Verified User
- โพสต์: 336
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดสอนบัญชี
โพสต์ที่ 114
ขอตอบตามตรง ตามประสามือใหม่
1. เรียนอะไร
เรียนรู้หลักการในการวิเคราะห์งบต่าง ๆ ในบริษัทเพราะทุกวันนี้ที่อ่านงบก็อ่านแบบผิวเผินไม่รู้ว่าอะไรสำคัญอะไรไม่สำคัญ และก็เรียนรู้ในการวิเคราะห์บริษัทในแง่มุมต่าง ๆ สรุปง่าย ๆ อยากเรียนทุกอย่างที่จำเป็นในการลงทุน
2. เอาไปทำอะไร
เรียนไปเพื่อที่จะได้เอามาใช้ในการลงทุน เพราะทุกวันนี้เหมือนกับคนที่สายตาสั้น มองอะไรก็เลือนลาง ไม่ชัดเจน ก็เลยอยากจะเรียน เพื่อที่จะได้มองอะไรให้มันชัดเจน
3. เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้ได้จริง
อันนี้คงจะตอบตอนนี้ไม่ได้คงจะต้องได้ไปเรียนก่อน แล้วนำความรู้ที่ได้มาใช้ในการลงทุน แล้วดูผลของการกระทำว่าผลออกมาเป็นอย่างไร
หวังว่าคงจะได้รับการพิจารณาให้เข้าเรียน นะคะ :D
1. เรียนอะไร
เรียนรู้หลักการในการวิเคราะห์งบต่าง ๆ ในบริษัทเพราะทุกวันนี้ที่อ่านงบก็อ่านแบบผิวเผินไม่รู้ว่าอะไรสำคัญอะไรไม่สำคัญ และก็เรียนรู้ในการวิเคราะห์บริษัทในแง่มุมต่าง ๆ สรุปง่าย ๆ อยากเรียนทุกอย่างที่จำเป็นในการลงทุน
2. เอาไปทำอะไร
เรียนไปเพื่อที่จะได้เอามาใช้ในการลงทุน เพราะทุกวันนี้เหมือนกับคนที่สายตาสั้น มองอะไรก็เลือนลาง ไม่ชัดเจน ก็เลยอยากจะเรียน เพื่อที่จะได้มองอะไรให้มันชัดเจน
3. เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้ได้จริง
อันนี้คงจะตอบตอนนี้ไม่ได้คงจะต้องได้ไปเรียนก่อน แล้วนำความรู้ที่ได้มาใช้ในการลงทุน แล้วดูผลของการกระทำว่าผลออกมาเป็นอย่างไร
หวังว่าคงจะได้รับการพิจารณาให้เข้าเรียน นะคะ :D
"คนที่ไม่เคยล้มเหลวเลย โอกาสที่จะประสบความสำเร็จนั้นยาก"
- Teathink
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1182
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดสอนบัญชี
โพสต์ที่ 115
เรียนอะไร?
ขอเกริ่นก่อนนะครับ เนื่องด้วยตัวผมเองก็เป็นเพียงนักลงทุนมือใหม่มาก อายุการลงทุนก็ไม่ถึงปี
แต่ผมมีความมุ่งมั่นที่จะศึกษาการลงทุนในแบบการลงทุนแบบเน้นคุณค่าเป็นอย่างมาก ผมเคยเป็นนักเก็งกำไรมาก่อนครับ
ซักเดือนสองเดือนแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่ตัวผมเลย และเมื่อได้อ่านหนังสือของ ดร.นิเวศน์ ผมถึงได้ตาสว่าง ทำให้ผมได้อ่านหนังสือ
อีกหลายสิบเล่มตามมา (ผมไม่ได้มีพื้นฐานเกี่ยวกับการลงทุนมาก่อนเลยครับ เริ่มต้นจาก 0 จริงๆ)
ซึ่งในหนังสือเหล่านั้นก็มีหนังสือเกี่ยวกับการบัญชี เช่น
ดร.ภาพร เอกอรรถพร อ่านงบการเงินให้เป็น รู้บัญชีมีประโยชน์ บัญชีศรีธนนชัย กลการบัญชี และอื่นๆครับ
แต่ตลกดีครับผมยิ่งอ่านแทนที่จะรู้สึกมีความรู้มากขึ้น ผมรู้จัก ratio ต่างๆที่สำคัญใช้ในการวิเคราะห์ กลทางบัญชีต่างๆ ข้อควรระวังมากมาย
ผมกลับยิ่งรู้สึกว่าผมรู้น้อยลงไป เพราะรู้สึกว่ามีอีกหลายๆเรื่องที่ผมยังไม่รู้อีกมากมาย
ผมเลยคิดว่าน่าจะเรียนเกี่ยวกับ การวิเคราะห์ทางบัญชีต่างๆ มาตรฐานการบัญชีที่สามารถทำให้บริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกันแตกต่างกันได้
กลเล่ห์ทางบัญชีต่างๆที่ควรระวัง การดูว่าบัญชีบริษัทไหนส่อแววมีพิรุจ Pit fall ทางการบัญชีซึ่งนักลงทุนมือใหม่มักจะเข้าใจผิดเป็นประจำ
เอาไปทำอะไร?
ทำให้รู้สึกมั่นใจขึ้นเวลาต้องวิเคราะห์งบการเงินต่างๆครับ
ตอนนี้ผมมีเพียงแต่ความรู้ที่อ่านมาได้จากในหนังสือต่างๆเท่านั้น จึงไม่มั่นใจ 100 %
ผมอยากนอนหลับให้สนิทครับเวลาซื้อหุ้น ผมอยากเป็นนักลงทุนจริงๆครับ อยากจะเลิกทำงานประจำมาเป็นนักลงทุนเต็มตัวเร็วๆ
มันเป็นความฝันของผมตั้งแต่ผมยังเด็กแล้วครับ
เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้งานได้จริง
เชื่อครับ เนื่องจากคิดว่าจากประสบการณ์ของ อ.มน น่าจะให้ความรู้ในหลายๆสิ่งที่ผมยังไม่รู้
ขอเพิ่มคำถามนะครับ ทำไมถึงอยากเรียน
เพราะจริงๆแล้วผมคิดว่าผมอยากรู้อะไรก็หาหนังสืออ่านได้ครับ แต่ว่าเคยได้ยินคำพูดที่ว่า "ได้คุยกับนักปราชญ์เพียงหนึ่งวัน ได้ความรู้มากกว่าอ่านหนังสือนับพันเล่ม"
ผมอยากไปเรียนมากๆเลยครับ จริงๆแล้วผมว่างเพียงแค่วันเสาร์อาทิตย์บางสัปดาห์เท่านั้น ถ้าจะเรียนช่วยนัดผมล่วงหน้านานๆจะขอบพระคุณมากนะครับ ผมจะได้แลกเวรแต่เนิ่นๆ
ถึงแม้ว่าอ.ไม่ว่างวัน ส.อา. ผมก็ยินดีลาหยุดเลยก็ได้ครับ แต่ขอแค่นัดล่วงหน้านานๆหน่อยละกันนะครับ ขอบคุณครับ
ขอเกริ่นก่อนนะครับ เนื่องด้วยตัวผมเองก็เป็นเพียงนักลงทุนมือใหม่มาก อายุการลงทุนก็ไม่ถึงปี
แต่ผมมีความมุ่งมั่นที่จะศึกษาการลงทุนในแบบการลงทุนแบบเน้นคุณค่าเป็นอย่างมาก ผมเคยเป็นนักเก็งกำไรมาก่อนครับ
ซักเดือนสองเดือนแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่ตัวผมเลย และเมื่อได้อ่านหนังสือของ ดร.นิเวศน์ ผมถึงได้ตาสว่าง ทำให้ผมได้อ่านหนังสือ
อีกหลายสิบเล่มตามมา (ผมไม่ได้มีพื้นฐานเกี่ยวกับการลงทุนมาก่อนเลยครับ เริ่มต้นจาก 0 จริงๆ)
ซึ่งในหนังสือเหล่านั้นก็มีหนังสือเกี่ยวกับการบัญชี เช่น
ดร.ภาพร เอกอรรถพร อ่านงบการเงินให้เป็น รู้บัญชีมีประโยชน์ บัญชีศรีธนนชัย กลการบัญชี และอื่นๆครับ
แต่ตลกดีครับผมยิ่งอ่านแทนที่จะรู้สึกมีความรู้มากขึ้น ผมรู้จัก ratio ต่างๆที่สำคัญใช้ในการวิเคราะห์ กลทางบัญชีต่างๆ ข้อควรระวังมากมาย
ผมกลับยิ่งรู้สึกว่าผมรู้น้อยลงไป เพราะรู้สึกว่ามีอีกหลายๆเรื่องที่ผมยังไม่รู้อีกมากมาย
ผมเลยคิดว่าน่าจะเรียนเกี่ยวกับ การวิเคราะห์ทางบัญชีต่างๆ มาตรฐานการบัญชีที่สามารถทำให้บริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกันแตกต่างกันได้
กลเล่ห์ทางบัญชีต่างๆที่ควรระวัง การดูว่าบัญชีบริษัทไหนส่อแววมีพิรุจ Pit fall ทางการบัญชีซึ่งนักลงทุนมือใหม่มักจะเข้าใจผิดเป็นประจำ
เอาไปทำอะไร?
ทำให้รู้สึกมั่นใจขึ้นเวลาต้องวิเคราะห์งบการเงินต่างๆครับ
ตอนนี้ผมมีเพียงแต่ความรู้ที่อ่านมาได้จากในหนังสือต่างๆเท่านั้น จึงไม่มั่นใจ 100 %
ผมอยากนอนหลับให้สนิทครับเวลาซื้อหุ้น ผมอยากเป็นนักลงทุนจริงๆครับ อยากจะเลิกทำงานประจำมาเป็นนักลงทุนเต็มตัวเร็วๆ
มันเป็นความฝันของผมตั้งแต่ผมยังเด็กแล้วครับ
เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้งานได้จริง
เชื่อครับ เนื่องจากคิดว่าจากประสบการณ์ของ อ.มน น่าจะให้ความรู้ในหลายๆสิ่งที่ผมยังไม่รู้
ขอเพิ่มคำถามนะครับ ทำไมถึงอยากเรียน
เพราะจริงๆแล้วผมคิดว่าผมอยากรู้อะไรก็หาหนังสืออ่านได้ครับ แต่ว่าเคยได้ยินคำพูดที่ว่า "ได้คุยกับนักปราชญ์เพียงหนึ่งวัน ได้ความรู้มากกว่าอ่านหนังสือนับพันเล่ม"
ผมอยากไปเรียนมากๆเลยครับ จริงๆแล้วผมว่างเพียงแค่วันเสาร์อาทิตย์บางสัปดาห์เท่านั้น ถ้าจะเรียนช่วยนัดผมล่วงหน้านานๆจะขอบพระคุณมากนะครับ ผมจะได้แลกเวรแต่เนิ่นๆ
ถึงแม้ว่าอ.ไม่ว่างวัน ส.อา. ผมก็ยินดีลาหยุดเลยก็ได้ครับ แต่ขอแค่นัดล่วงหน้านานๆหน่อยละกันนะครับ ขอบคุณครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 4
- ผู้ติดตาม: 0
ขอตอบเพื่อสมัครเรียนบัญชี
โพสต์ที่ 116
1) เรียนอะไร
เรียนหลักเกณฑ์ในการเลือกซื้อหุ้นพื้นฐาน
2) เอาไปทำอะไร
เลือกหุ้นที่จะลงทุน
3) เชื่อไหมว่าจะเอาไปใช้งานได้จริง
เชื่อ
เรียนหลักเกณฑ์ในการเลือกซื้อหุ้นพื้นฐาน
2) เอาไปทำอะไร
เลือกหุ้นที่จะลงทุน
3) เชื่อไหมว่าจะเอาไปใช้งานได้จริง
เชื่อ
songsomjai
-
- Verified User
- โพสต์: 4
- ผู้ติดตาม: 0
ขอสมัครเรียนบัญชี
โพสต์ที่ 117
อยากทราบว่าอ.มนจะตัดสินใจคัดเลือกผู้สมัครเมื่อไร
songsomjai
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอสมัครเรียนบัญชี
โพสต์ที่ 118
ก็เลือกไปบ้างแล้วละ ละก็แจ้งเขาไปแล้วด้วยsongsomjai เขียน:อยากทราบว่าอ.มนจะตัดสินใจคัดเลือกผู้สมัครเมื่อไร
ผมยืนยันเอาแค่ 20คนครับ ส่วนท่านที่ต้องการจะมาอบรมแต่ไม่ได้รับเลือกกรุณาอย่าเสียใจ เสียความรู้สึก เพราะครั้งนี้ผมต้องการสร้างคนมาช่วยผมถ่ายทอดความรู้ต่อไป จึงเลือกมากหน่อย เพราะการสร้างคนไม่ง่าย คนสอนก็ต้องสอนให้ดี คนเรียนก็ต้องอดทน พยายาม ใฝ่รู้ ขยันเป็นพิเศษ
ส่วนมากแล้ว พยายามตอบคำถามให้ได้ดีที่สุด ผมเชื่ออย่างนั้น คำถามของผมกว้างมากๆ และเป็นแบบปลายเปิด ไม่ได้ต้องการคำตอบแบบห้วนๆ ผมต้องการเห็นความตั้งใจจริง
คนที่ผมเลือกนี้ส่วนหนึ่งจะกลับมาช่วยกันแบ่งปันความรู้ให้พวกท่านภายในเวลาไม่นานจากนี้ไป
ผมสัญญา....
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
- << New >>
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1145
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดสอนบัญชี
โพสต์ที่ 119
สวัสดีครับอาจารย์มน
ขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมชื่อนิวครับ เคยเจออาจารย์มนอยู่หลายครั้งตามที่อาจารย์ได้ไปพูดตามที่ต่างๆ แล้วก็ company visit อย่างเช่น kcar ล่าสุดที่ผมเจออาจารย์ก็ตอนไปเรียนกับอาจารย์วรศักดิ์ ทุมมานนท์ คอร์ส Financial anaysis น่ะครับ ผมเป็นคนถามอาจารย์ว่า อาจารย์มนไม่เปิดคอร์สต่อ อาจารย์ก็ตอบผมว่าก็ให้เรียนกับอาจารย์วรศักดิ์ ทุมมานนท์. ตอนนั่งกินข้าวผมก็นั่งอยู่ข้างซ้ายมือของอาจารย์ครับ คุยเกี่ยวกับเรื่อง workshop แล้วคิดว่า คอร์สควรเป็น 2 วันแทนที่ 1 วัน อาจารย์ก็ตอบว่า 2 วันคงมีแต่ผมที่มาเรียน คนเค้าไม่มีเวลากันหรอก.
ผมมีความตั้งใจจริง..จริงๆนะครับ ไม่ได้เห่อเรียนตามกระแสอย่างแน่นอน
ตอบคำถามของอาจารย์ครับ
เรียนอะไร?
เรียนวิชาการอ่านงบ และสิ่งที่จำป็นสำหรับการเป็น value investor ที่ดี และต่อยอดความรู้ในด้านการลงทุนของผม.
เอาไปทำอะไร?
อย่างแรกก็คงเอาไปใช้ประโยชน์ screen ดูข้อดีข้อด้อย ของหุ้นใน port ผมก่อน และก็เพื่อหาหุ้นตัวใหม่เข้า port เพิ่ม. สรุปก็เพื่อพัฒนาการลงทุนในหุ้นให้ดีขึ้น สุดท้ายผมก็ต้องนำวิชาที่อาจารย์มนสอนบวกกับประสบการณ์ที่ได้จากการลงทุนทั้งที่ถูกและผิดพลาดถ่ายทอดต่อนักลงทุนรุ่นต่อไป
เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้งานได้จริง
ผมเชื่อล้านเปอร์เซนต์ครับ วิชาต่างๆที่ได้เรียนรู้มาจากการอ่านก็ดีจากคอร์สก็ดีผมก็ได้นำมาใช้อยู่เสมอครับ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะไม่เชื่อเลยครับ
สุดท้ายนี้ผมขอสนับสนุนความคิดเรื่อง thaivi school ด้วยคนครับ ไม่ว่าผมจะได้เรียนกับอาจารย์มนหรือไม่ ถ้ามีอะไรให้ผมรับใช้เกี่ยวกับ thaivi school ผมก็ยินดีช่วยเสมอครับ
ขอบคุณครับ
ขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมชื่อนิวครับ เคยเจออาจารย์มนอยู่หลายครั้งตามที่อาจารย์ได้ไปพูดตามที่ต่างๆ แล้วก็ company visit อย่างเช่น kcar ล่าสุดที่ผมเจออาจารย์ก็ตอนไปเรียนกับอาจารย์วรศักดิ์ ทุมมานนท์ คอร์ส Financial anaysis น่ะครับ ผมเป็นคนถามอาจารย์ว่า อาจารย์มนไม่เปิดคอร์สต่อ อาจารย์ก็ตอบผมว่าก็ให้เรียนกับอาจารย์วรศักดิ์ ทุมมานนท์. ตอนนั่งกินข้าวผมก็นั่งอยู่ข้างซ้ายมือของอาจารย์ครับ คุยเกี่ยวกับเรื่อง workshop แล้วคิดว่า คอร์สควรเป็น 2 วันแทนที่ 1 วัน อาจารย์ก็ตอบว่า 2 วันคงมีแต่ผมที่มาเรียน คนเค้าไม่มีเวลากันหรอก.
ผมมีความตั้งใจจริง..จริงๆนะครับ ไม่ได้เห่อเรียนตามกระแสอย่างแน่นอน
ตอบคำถามของอาจารย์ครับ
เรียนอะไร?
เรียนวิชาการอ่านงบ และสิ่งที่จำป็นสำหรับการเป็น value investor ที่ดี และต่อยอดความรู้ในด้านการลงทุนของผม.
เอาไปทำอะไร?
อย่างแรกก็คงเอาไปใช้ประโยชน์ screen ดูข้อดีข้อด้อย ของหุ้นใน port ผมก่อน และก็เพื่อหาหุ้นตัวใหม่เข้า port เพิ่ม. สรุปก็เพื่อพัฒนาการลงทุนในหุ้นให้ดีขึ้น สุดท้ายผมก็ต้องนำวิชาที่อาจารย์มนสอนบวกกับประสบการณ์ที่ได้จากการลงทุนทั้งที่ถูกและผิดพลาดถ่ายทอดต่อนักลงทุนรุ่นต่อไป
เชื่อไหมว่าเรียนแล้วจะเอาไปใช้งานได้จริง
ผมเชื่อล้านเปอร์เซนต์ครับ วิชาต่างๆที่ได้เรียนรู้มาจากการอ่านก็ดีจากคอร์สก็ดีผมก็ได้นำมาใช้อยู่เสมอครับ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะไม่เชื่อเลยครับ
สุดท้ายนี้ผมขอสนับสนุนความคิดเรื่อง thaivi school ด้วยคนครับ ไม่ว่าผมจะได้เรียนกับอาจารย์มนหรือไม่ ถ้ามีอะไรให้ผมรับใช้เกี่ยวกับ thaivi school ผมก็ยินดีช่วยเสมอครับ
ขอบคุณครับ
อยากสูงต้องเขย่ง อยากเก่งต้องขยัน
-
- Verified User
- โพสต์: 4
- ผู้ติดตาม: 0
อ.มนค่ะ
โพสต์ที่ 120
ขอบคุณสำหรับคำตอบและคำอธิบายค่ะ
ขอทราบว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ เกี่ยวกับหลักสูตรที่กำลังจะเปิดนี้ (เห็นว่าจะเปิดแบบเป็น Programe) ซึ่งเข้าใจว่า จะมีเนื้อหาครอบคลุม ครบถ้วน จะมีการทำชีท หรือ อัดลงCD แล้วสามารถกระจายให้ผู้สนใจได้มากกว่าค่ะ
ขอทราบว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ เกี่ยวกับหลักสูตรที่กำลังจะเปิดนี้ (เห็นว่าจะเปิดแบบเป็น Programe) ซึ่งเข้าใจว่า จะมีเนื้อหาครอบคลุม ครบถ้วน จะมีการทำชีท หรือ อัดลงCD แล้วสามารถกระจายให้ผู้สนใจได้มากกว่าค่ะ
songsomjai