คนกรุงเทพมีเน็ตไร้สายให้ใช้กันฟรีๆ แล้วครับ
- MacroArt
- Verified User
- โพสต์: 265
- ผู้ติดตาม: 0
คนกรุงเทพมีเน็ตไร้สายให้ใช้กันฟรีๆ แล้วครับ
โพสต์ที่ 1
http://www.thairath.co.th/news.php?sect ... tent=94748
มาแล้ว กรีน บางกอก ไว-ไฟ ชีวิต ต่อติดเมืองเน็ตไร้สาย [25 มิ.ย. 51 - 06:45]
หากได้ลองสังเกตกันช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ ผู้อ่านหลายๆ คนคงคุ้นเคยกับบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สาย หรือ ไว-ไฟ กันดี เพราะจากจุดฮอตสปอตที่ให้บริการตามอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า ร้านอาหาร โรงแรมชั้นนำ รวมไปถึงสถาบันการศึกษา และย่านธุรกิจบางแห่ง ที่มีการแปะป้าย Wi-Fi เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการลดการตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์สาธารณะ เพราะลูกค้าสามารถใช้โน้ตบุ๊ค หรือพีดีเอโฟน ในการเชื่อมต่อเพื่อดูเว็บไซต์ต่างๆ จนกลายเป็นภาพชินตา
นับเป็นอีกเทคโนโลยีที่มาช่วยสนับสนุนการใช้งานโน้ตบุ๊ค ทำให้ยอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดดทุกปี เพราะคนรุ่นใหม่ต่างอยากได้ไว้ใช้งาน นักศึกษาก็อยากมีเพราะทางมหาวิทยาลัยหลายแห่ง หันมาเปิดเป็นไวร์เลสแคมปัส หรือ ไว-ไฟโซน ทำให้คนไทยได้สัมผัสกับอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์อีกทางหนึ่ง นอกจากการใช้งานตามบ้านที่ยังมีข้อจำกัดในการขยายเครือข่าย โดยเป็นเหตุให้จำนวนประชากรที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตของไทยมีเพียง 1.5 ล้านราย ไปไม่ถึงฝันที่อยากเทียบเคียงประเทศเพื่อนบ้านเสียที
หลายฝ่ายจึงพยายามหาทางทำลายข้อจำกัดด้านเครือข่ายไวร์ไลน์ หรือสายโทรศัพท์ ด้วยเทคโนโลยีไร้สาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้มือถือระบบ 3G หรือการใช้ไวแมกซ์ ที่ยังไม่เห็นวี่แววการเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับชาวกรุงเทพมหานคร หรือ คน กทม.อาจจะได้เริ่มดีใจก่อน เมื่อกำลังจะได้เข้าสู่ยุคไว-ไฟคลุมเมือง หรือ Wi-Fi City เหมือนกับมหานครชั้นนำของโลก ไม่ว่าจะเป็นกรุงไทเป ไต้หวัน กรุงโซล เกาหลีใต้ หรือ ประเทศสิงคโปร์ที่เป็นเมืองสำคัญในภูมิภาคเอเชีย เมื่อกรุงเทพมหานคร (กทม.) และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันสร้างสังคมสีเขียวแก่คนเมือง ส่งเสริมใช้อินเทอร์เน็ต ลดการเดินทางด้วยกับบริการฟรีไวไ-ฟ
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงโครงการ Green Bangkok Wi-Fi ที่เป็นหนึ่งในนโยบาย วาระกรุงเทพฯ สีเขียว ว่า กทม.ต้องการส่งเสริมโลกกว้างแห่งการเรียนรู้ไป พร้อมกับการเป็นสังคมที่สะดวก ปลอดภัย โดยใช้อินเทอร์เน็ตไร้สายแทนการเดินทาง ที่ช่วยประหยัดพลังงานในภาวะวิกฤตและในอนาคต อีกทั้งลดค่าใช้จ่าย เพิ่มความสะดวกสบาย รวมถึงความคล่องตัวในการออนไลน์เข้าถึงข้อมูล ข่าวสารได้ทุกที่ทุกเวลา และตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ ที่เป็นอนาคตที่สำคัญ โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม หรือ Green Generation และสานต่อแนวทางสร้างความสุขให้คนกรุงเทพฯ สู่กรุงเทพฯ เมืองสวรรค์
ผู้ว่าฯ กทม.เล่าให้ฟังว่า ที่ผ่านมา กทม.ได้เดินหน้านโยบาย วาระกรุงเทพฯ สีเขียว อย่างเข้มแข็งใน 6 แนวทาง ได้แก่ Green Society สังคมสะดวก ประหยัดทันสมัย Green Living สุขภาวะสมบูรณ์ ชีวิตมั่นคง Green Zone ธรรมชาติสะอาด อากาศสดใส Green Generation สานฝันคนรุ่นใหม่ เรียนรู้ทันโลก Green Community ครอบครัวอบอุ่น ชุมชนผูกพัน และ Green Economy เศรษฐกิจชุมชน บนความพอเพียง ที่เป็นการมุ่งพัฒนาทุกมิติ ทั้งด้านคุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และเศรษฐกิจ โดยดำรงความเป็นสากลภายใต้แนวทางการพัฒนาโดยใช้คนเป็นศูนย์กลาง และมุ่งเน้นการเติบโต บนพื้นฐานความพอเพียง ภายใต้สำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม และร่วมกันผลักดันกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองแห่งอนาคตที่น่าอยู่บนความเจริญอย่างยั่งยืน
นายอภิรักษ์ อธิบายเพิ่มเติมว่า การที่ กทม. และทรูร่วมมือกันครั้งนี้ จะยกระดับให้กรุงเทพฯ กลายเป็นมหานครชั้นนำของโลก และยังผลักดันให้เกิดการใช้ไอทีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต สู่การเป็นมหานครแห่งการเรียนรู้ ทำให้ประชาชนมีความสุข สะดวกสบาย ปลอดภัย จากการที่ทรูเข้ามาสนับสนุนจุดบริการไวไฟ 15,000 จุดที่มากกว่ามหานครใดๆ ในโลก ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะ หรือถนนสำคัญๆ โดย กทม.จะแจกบัตรใช้ไวไฟฟรี 3 เดือน 500,000 ใบแก่ชาวกรุงเทพฯ รวมไปถึงยังสนับสนุนให้ชาวต่างชาติที่เข้ามาติดต่อธุรกิจ สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตในการติดต่อสื่อสาร อันจะเสริมสร้างภาพความเป็นเมืองที่ทันสมัยด้วย
ในด้านการส่งเสริมการศึกษา กทม.พยายามทำเต็มที่ไม่ว่าจะโรงเรียนในสังกัดของ กทม.หรือห้องสมุดประชาชนก็มีไวไฟให้บริการแล้ว อย่างไรก็ตาม ทำระบบมาแล้วถ้าไม่มีใครใช้ก็ไม่มีความหมาย ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำต่อ คือ การประชาสัมพันธ์ให้คนรุ่นใหม่ และคนทำงานได้รับรู้ และเข้ามาใช้งาน เพราะตัวเครือข่ายไวไฟในทางเทคโนโลยียังสามารถให้ กทม.เชื่อมโยงระบบและข้อมูลต่างๆ เข้าด้วยกัน แม้แต่สำนักงานเขตทั้ง 50 เขตก็จะมีไว-ไฟใช้งาน ตรงนี้จะผลักดันให้เกิดการใช้รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ทำอี-เซอร์วิส เพื่อบริการประชาชนที่มาติดต่องานทะเบียนได้ ล่าสุด กทม.ก็ได้ปรับเว็บไซต์ www.bma.go.th ของ กทม.ใหม่ ให้เป็น www.bangkok.go.th ของคนกรุงเทพฯ ไม่ใช่เหมือนเว็บไซต์ของหน่วยงานราชการทั่วไปแล้ว ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว
ด้าน นายธิติฎฐ์ นันทพัฒน์สิริ ผู้อำนวยการบริหารด้าน Home/Consumer Solution & Hi-speed Access บริษัททรูฯ กล่าวว่า ในฐานะที่ทรูเป็นผู้ติดตั้งและวางระบบ Wi-Fi หรืออินเทอร์เน็ตไร้สายบนเครือข่ายที่มีศักยภาพทั่วกรุงเทพฯ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 400 ตารางกิโลเมตร ส่งผลให้ ขณะนี้ กรุงเทพฯ เป็นมหานครไอทีที่มีจุดให้บริการ Wi-Fi กว่า 15,000 จุด มากที่สุดในเอเชีย และทำให้ประเทศไทย ติดอันดับ 1 ใน 6 ประเทศที่มีจุด Wi-Fi มากที่สุดของโลก โดยบริการ Wi-Fi ของทรูในโครงการ Green Bangkok Wi-Fi พร้อมเปิดให้ใช้บริการ ค้นหาข้อมูล เช็คอีเมล์ และทำธุรกรรมออนไลน์ต่างๆ ได้แล้ววันนี้
ผู้อำนวยการบริหารฯ บริษัท ทรู กล่าวต่อว่า กรุงเทพมหานครได้จัดทำ Wi-Fi Card จำนวน 500,000 ใบ เพื่อแจกให้ประชาชนฟรีที่ศูนย์บริการท่องเที่ยวกว่า 50 แห่ง และห้างสรรพสินค้า อาทิ เซ็นทรัลเวิลด์ สยามพารากอน เอ็มโพเรียม เซ็นทรัลพลาซ่า สยามเซ็นเตอร์ และเดอะมอลล์ หรือลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ได้ที่ www.truewifi.net โดยสามารถนำ Wi-Fi Card มาลงทะเบียนเปิดใช้บริการและต่ออายุการใช้งานทุก 3 เดือนที่ www.truewifi.net ที่จะใช้งานได้จนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 52
นายธิติฏฐ์ กล่าวเสริมว่า โครงการ Green Bangkok Wi-Fi สะท้อนวิสัยทัศน์ของ กทม.ที่ต้องการลดภาวะโลกร้อนด้วยเทคโนโลยี เปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้ใช้งานอินเทอร์เน็ต ขณะนี้ ความเจริญของประเทศถูกวัดที่ความสามารถในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต คนอาจจะสงสัยว่าทรูได้อะไรจากการลงทุนทำไว-ไฟฮอตสปอตกว่า 15,000 จุด นั่นเพราะทรูมองว่าทรูไม่ใช่แค่การสร้างถนน หรือ การทำโครงสร้างพื้นฐาน ยังมีคอนเทนท์และความบันเทิงอีกมากมายรองรับผู้ใช้งาน จ่ายค่าอินเทอร์เน็ตไปทุกเดือนใช้ทำอะไรบ้าง อยากบอกว่าทรูไม่ได้หวังกำไรจากบริการบรอดแบนด์ 64 Kbps นี้ แต่ประโยชน์ที่ประชาชนได้จากการใช้อินเทอร์เน็ต จะเป็นผลพลอยได้ ได้เมื่อทรูมีบริการมารองรับการใช้งานตามไลฟ์สไตล์ที่ต่างกันไปของแต่ละบุคคล
ผู้ที่ต้องการใช้งานสามารถใช้บริการ Wi-Fi ได้ฟรีที่จุดให้บริการสังเกตจากป้าย Wi-Fi by TrueMove ด้วยความเร็วการเชื่อมต่อที่ 64 Kbps ที่ติดตั้งอยู่ทั่วกรุงเทพฯ 15,000 จุด บนถนนย่านธุรกิจสายหลัก 10 สาย
ได้แก่ 1.ถ. สีลม (ถ.เจริญกรุง-พระราม 4) 2.ถ.สาทร (สะพานตากสิน พระราม 4) 3.ถ.พระราม 4 (หัวลำโพง-อาคารมาลีนนท์) 4.ถ.ราชปรารภ (โรงแรมเอราวัณแยกศรีอยุธยา) 5. ถ.พระราม1 (MBK Center-ถนนวิทยุ) 6.ถ.สุขุมวิท (ถ.วิทยุ-คลองตัน) 7.ถ.เพชรบุรีตัดใหม่(แยกอโศก-ซ.ศูนย์วิจัย) 8.ถ.อโศก 9.ถ.เจริญกรุง (ถ.สี่พระยา-ถ.พระราม 3) 10.ถ.ราชดำเนินนอก (สะพานผ่านฟ้า-สนามหลวง) รวมทั้งสวนสาธารณะ 2 แห่ง ได้แก่ สวนลุมพินี และสวนเบญจสิริ
มาถึงตรงนี้ คงต้องแสดงความยินดีกับชาวกรุงเทพฯ ที่จะได้ใช้งานอินเทอร์เน็ตไร้สาย หรือ ไว-ไฟ กันแบบฟรีๆ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการมุ่งหน้าพัฒนาเมืองหลวงด้วยไอซีที บนเทคโนโลยีที่มีอยู่ และเอามาใช้งานให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ถือเป็นอีกความคิดดีๆ จากยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคม และพ่อเมืองที่ตัดสินใจทำสิ่งที่ยกระดับชีวิตคนได้
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีไว-ไฟมีข้อจำกัดในเรื่องรัศมีการให้บริการ ถ้าสามารถนำไวแม็กซ์มาใช้งานได้ การมีบรอดแบนด์คลุมเมืองคงไม่ใช่ฝัน และไม่ต้องจำกัดอยู่แค่กรุงเทพฯ...
มาแล้ว กรีน บางกอก ไว-ไฟ ชีวิต ต่อติดเมืองเน็ตไร้สาย [25 มิ.ย. 51 - 06:45]
หากได้ลองสังเกตกันช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ ผู้อ่านหลายๆ คนคงคุ้นเคยกับบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สาย หรือ ไว-ไฟ กันดี เพราะจากจุดฮอตสปอตที่ให้บริการตามอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า ร้านอาหาร โรงแรมชั้นนำ รวมไปถึงสถาบันการศึกษา และย่านธุรกิจบางแห่ง ที่มีการแปะป้าย Wi-Fi เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการลดการตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์สาธารณะ เพราะลูกค้าสามารถใช้โน้ตบุ๊ค หรือพีดีเอโฟน ในการเชื่อมต่อเพื่อดูเว็บไซต์ต่างๆ จนกลายเป็นภาพชินตา
นับเป็นอีกเทคโนโลยีที่มาช่วยสนับสนุนการใช้งานโน้ตบุ๊ค ทำให้ยอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดดทุกปี เพราะคนรุ่นใหม่ต่างอยากได้ไว้ใช้งาน นักศึกษาก็อยากมีเพราะทางมหาวิทยาลัยหลายแห่ง หันมาเปิดเป็นไวร์เลสแคมปัส หรือ ไว-ไฟโซน ทำให้คนไทยได้สัมผัสกับอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์อีกทางหนึ่ง นอกจากการใช้งานตามบ้านที่ยังมีข้อจำกัดในการขยายเครือข่าย โดยเป็นเหตุให้จำนวนประชากรที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตของไทยมีเพียง 1.5 ล้านราย ไปไม่ถึงฝันที่อยากเทียบเคียงประเทศเพื่อนบ้านเสียที
หลายฝ่ายจึงพยายามหาทางทำลายข้อจำกัดด้านเครือข่ายไวร์ไลน์ หรือสายโทรศัพท์ ด้วยเทคโนโลยีไร้สาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้มือถือระบบ 3G หรือการใช้ไวแมกซ์ ที่ยังไม่เห็นวี่แววการเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับชาวกรุงเทพมหานคร หรือ คน กทม.อาจจะได้เริ่มดีใจก่อน เมื่อกำลังจะได้เข้าสู่ยุคไว-ไฟคลุมเมือง หรือ Wi-Fi City เหมือนกับมหานครชั้นนำของโลก ไม่ว่าจะเป็นกรุงไทเป ไต้หวัน กรุงโซล เกาหลีใต้ หรือ ประเทศสิงคโปร์ที่เป็นเมืองสำคัญในภูมิภาคเอเชีย เมื่อกรุงเทพมหานคร (กทม.) และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันสร้างสังคมสีเขียวแก่คนเมือง ส่งเสริมใช้อินเทอร์เน็ต ลดการเดินทางด้วยกับบริการฟรีไวไ-ฟ
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงโครงการ Green Bangkok Wi-Fi ที่เป็นหนึ่งในนโยบาย วาระกรุงเทพฯ สีเขียว ว่า กทม.ต้องการส่งเสริมโลกกว้างแห่งการเรียนรู้ไป พร้อมกับการเป็นสังคมที่สะดวก ปลอดภัย โดยใช้อินเทอร์เน็ตไร้สายแทนการเดินทาง ที่ช่วยประหยัดพลังงานในภาวะวิกฤตและในอนาคต อีกทั้งลดค่าใช้จ่าย เพิ่มความสะดวกสบาย รวมถึงความคล่องตัวในการออนไลน์เข้าถึงข้อมูล ข่าวสารได้ทุกที่ทุกเวลา และตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ ที่เป็นอนาคตที่สำคัญ โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม หรือ Green Generation และสานต่อแนวทางสร้างความสุขให้คนกรุงเทพฯ สู่กรุงเทพฯ เมืองสวรรค์
ผู้ว่าฯ กทม.เล่าให้ฟังว่า ที่ผ่านมา กทม.ได้เดินหน้านโยบาย วาระกรุงเทพฯ สีเขียว อย่างเข้มแข็งใน 6 แนวทาง ได้แก่ Green Society สังคมสะดวก ประหยัดทันสมัย Green Living สุขภาวะสมบูรณ์ ชีวิตมั่นคง Green Zone ธรรมชาติสะอาด อากาศสดใส Green Generation สานฝันคนรุ่นใหม่ เรียนรู้ทันโลก Green Community ครอบครัวอบอุ่น ชุมชนผูกพัน และ Green Economy เศรษฐกิจชุมชน บนความพอเพียง ที่เป็นการมุ่งพัฒนาทุกมิติ ทั้งด้านคุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และเศรษฐกิจ โดยดำรงความเป็นสากลภายใต้แนวทางการพัฒนาโดยใช้คนเป็นศูนย์กลาง และมุ่งเน้นการเติบโต บนพื้นฐานความพอเพียง ภายใต้สำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม และร่วมกันผลักดันกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองแห่งอนาคตที่น่าอยู่บนความเจริญอย่างยั่งยืน
นายอภิรักษ์ อธิบายเพิ่มเติมว่า การที่ กทม. และทรูร่วมมือกันครั้งนี้ จะยกระดับให้กรุงเทพฯ กลายเป็นมหานครชั้นนำของโลก และยังผลักดันให้เกิดการใช้ไอทีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต สู่การเป็นมหานครแห่งการเรียนรู้ ทำให้ประชาชนมีความสุข สะดวกสบาย ปลอดภัย จากการที่ทรูเข้ามาสนับสนุนจุดบริการไวไฟ 15,000 จุดที่มากกว่ามหานครใดๆ ในโลก ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะ หรือถนนสำคัญๆ โดย กทม.จะแจกบัตรใช้ไวไฟฟรี 3 เดือน 500,000 ใบแก่ชาวกรุงเทพฯ รวมไปถึงยังสนับสนุนให้ชาวต่างชาติที่เข้ามาติดต่อธุรกิจ สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตในการติดต่อสื่อสาร อันจะเสริมสร้างภาพความเป็นเมืองที่ทันสมัยด้วย
ในด้านการส่งเสริมการศึกษา กทม.พยายามทำเต็มที่ไม่ว่าจะโรงเรียนในสังกัดของ กทม.หรือห้องสมุดประชาชนก็มีไวไฟให้บริการแล้ว อย่างไรก็ตาม ทำระบบมาแล้วถ้าไม่มีใครใช้ก็ไม่มีความหมาย ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำต่อ คือ การประชาสัมพันธ์ให้คนรุ่นใหม่ และคนทำงานได้รับรู้ และเข้ามาใช้งาน เพราะตัวเครือข่ายไวไฟในทางเทคโนโลยียังสามารถให้ กทม.เชื่อมโยงระบบและข้อมูลต่างๆ เข้าด้วยกัน แม้แต่สำนักงานเขตทั้ง 50 เขตก็จะมีไว-ไฟใช้งาน ตรงนี้จะผลักดันให้เกิดการใช้รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ทำอี-เซอร์วิส เพื่อบริการประชาชนที่มาติดต่องานทะเบียนได้ ล่าสุด กทม.ก็ได้ปรับเว็บไซต์ www.bma.go.th ของ กทม.ใหม่ ให้เป็น www.bangkok.go.th ของคนกรุงเทพฯ ไม่ใช่เหมือนเว็บไซต์ของหน่วยงานราชการทั่วไปแล้ว ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว
ด้าน นายธิติฎฐ์ นันทพัฒน์สิริ ผู้อำนวยการบริหารด้าน Home/Consumer Solution & Hi-speed Access บริษัททรูฯ กล่าวว่า ในฐานะที่ทรูเป็นผู้ติดตั้งและวางระบบ Wi-Fi หรืออินเทอร์เน็ตไร้สายบนเครือข่ายที่มีศักยภาพทั่วกรุงเทพฯ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 400 ตารางกิโลเมตร ส่งผลให้ ขณะนี้ กรุงเทพฯ เป็นมหานครไอทีที่มีจุดให้บริการ Wi-Fi กว่า 15,000 จุด มากที่สุดในเอเชีย และทำให้ประเทศไทย ติดอันดับ 1 ใน 6 ประเทศที่มีจุด Wi-Fi มากที่สุดของโลก โดยบริการ Wi-Fi ของทรูในโครงการ Green Bangkok Wi-Fi พร้อมเปิดให้ใช้บริการ ค้นหาข้อมูล เช็คอีเมล์ และทำธุรกรรมออนไลน์ต่างๆ ได้แล้ววันนี้
ผู้อำนวยการบริหารฯ บริษัท ทรู กล่าวต่อว่า กรุงเทพมหานครได้จัดทำ Wi-Fi Card จำนวน 500,000 ใบ เพื่อแจกให้ประชาชนฟรีที่ศูนย์บริการท่องเที่ยวกว่า 50 แห่ง และห้างสรรพสินค้า อาทิ เซ็นทรัลเวิลด์ สยามพารากอน เอ็มโพเรียม เซ็นทรัลพลาซ่า สยามเซ็นเตอร์ และเดอะมอลล์ หรือลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ได้ที่ www.truewifi.net โดยสามารถนำ Wi-Fi Card มาลงทะเบียนเปิดใช้บริการและต่ออายุการใช้งานทุก 3 เดือนที่ www.truewifi.net ที่จะใช้งานได้จนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 52
นายธิติฏฐ์ กล่าวเสริมว่า โครงการ Green Bangkok Wi-Fi สะท้อนวิสัยทัศน์ของ กทม.ที่ต้องการลดภาวะโลกร้อนด้วยเทคโนโลยี เปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้ใช้งานอินเทอร์เน็ต ขณะนี้ ความเจริญของประเทศถูกวัดที่ความสามารถในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต คนอาจจะสงสัยว่าทรูได้อะไรจากการลงทุนทำไว-ไฟฮอตสปอตกว่า 15,000 จุด นั่นเพราะทรูมองว่าทรูไม่ใช่แค่การสร้างถนน หรือ การทำโครงสร้างพื้นฐาน ยังมีคอนเทนท์และความบันเทิงอีกมากมายรองรับผู้ใช้งาน จ่ายค่าอินเทอร์เน็ตไปทุกเดือนใช้ทำอะไรบ้าง อยากบอกว่าทรูไม่ได้หวังกำไรจากบริการบรอดแบนด์ 64 Kbps นี้ แต่ประโยชน์ที่ประชาชนได้จากการใช้อินเทอร์เน็ต จะเป็นผลพลอยได้ ได้เมื่อทรูมีบริการมารองรับการใช้งานตามไลฟ์สไตล์ที่ต่างกันไปของแต่ละบุคคล
ผู้ที่ต้องการใช้งานสามารถใช้บริการ Wi-Fi ได้ฟรีที่จุดให้บริการสังเกตจากป้าย Wi-Fi by TrueMove ด้วยความเร็วการเชื่อมต่อที่ 64 Kbps ที่ติดตั้งอยู่ทั่วกรุงเทพฯ 15,000 จุด บนถนนย่านธุรกิจสายหลัก 10 สาย
ได้แก่ 1.ถ. สีลม (ถ.เจริญกรุง-พระราม 4) 2.ถ.สาทร (สะพานตากสิน พระราม 4) 3.ถ.พระราม 4 (หัวลำโพง-อาคารมาลีนนท์) 4.ถ.ราชปรารภ (โรงแรมเอราวัณแยกศรีอยุธยา) 5. ถ.พระราม1 (MBK Center-ถนนวิทยุ) 6.ถ.สุขุมวิท (ถ.วิทยุ-คลองตัน) 7.ถ.เพชรบุรีตัดใหม่(แยกอโศก-ซ.ศูนย์วิจัย) 8.ถ.อโศก 9.ถ.เจริญกรุง (ถ.สี่พระยา-ถ.พระราม 3) 10.ถ.ราชดำเนินนอก (สะพานผ่านฟ้า-สนามหลวง) รวมทั้งสวนสาธารณะ 2 แห่ง ได้แก่ สวนลุมพินี และสวนเบญจสิริ
มาถึงตรงนี้ คงต้องแสดงความยินดีกับชาวกรุงเทพฯ ที่จะได้ใช้งานอินเทอร์เน็ตไร้สาย หรือ ไว-ไฟ กันแบบฟรีๆ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการมุ่งหน้าพัฒนาเมืองหลวงด้วยไอซีที บนเทคโนโลยีที่มีอยู่ และเอามาใช้งานให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ถือเป็นอีกความคิดดีๆ จากยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคม และพ่อเมืองที่ตัดสินใจทำสิ่งที่ยกระดับชีวิตคนได้
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีไว-ไฟมีข้อจำกัดในเรื่องรัศมีการให้บริการ ถ้าสามารถนำไวแม็กซ์มาใช้งานได้ การมีบรอดแบนด์คลุมเมืองคงไม่ใช่ฝัน และไม่ต้องจำกัดอยู่แค่กรุงเทพฯ...
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 0
คนกรุงเทพมีเน็ตไร้สายให้ใช้กันฟรีๆ แล้วครับ
โพสต์ที่ 2
ขอบคุณที่แจ้งครับ ไปรับมาแล้ว :D
- Qคุง
- Verified User
- โพสต์: 1328
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คนกรุงเทพมีเน็ตไร้สายให้ใช้กันฟรีๆ แล้วครับ
โพสต์ที่ 3
[quote="MacroArt"]http://www.thairath.co.th/news.php?sect ... tent=94748
มาแล้ว กรีน บางกอก ไว-ไฟ ชีวิต ต่อติดเมืองเน็ตไร้สาย [25 มิ.ย. 51 - 06:45]
หากได้ลองสังเกตกันช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ ผู้อ่านหลายๆ คนคงคุ้นเคยกับบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สาย หรือ ไว-ไฟ กันดี เพราะจากจุดฮอตสปอตที่ให้บริการตามอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า ร้านอาหาร โรงแรมชั้นนำ รวมไปถึงสถาบันการศึกษา และย่านธุรกิจบางแห่ง ที่มีการแปะป้าย Wi-Fi เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการลดการตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์สาธารณะ เพราะลูกค้าสามารถใช้โน้ตบุ๊ค หรือพีดีเอโฟน ในการเชื่อมต่อเพื่อดูเว็บไซต์ต่างๆ จนกลายเป็นภาพชินตา
นับเป็นอีกเทคโนโลยีที่มาช่วยสนับสนุนการใช้งานโน้ตบุ๊ค ทำให้ยอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดดทุกปี เพราะคนรุ่นใหม่ต่างอยากได้ไว้ใช้งาน นักศึกษาก็อยากมีเพราะทางมหาวิทยาลัยหลายแห่ง หันมาเปิดเป็นไวร์เลสแคมปัส หรือ ไว-ไฟโซน ทำให้คนไทยได้สัมผัสกับอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์อีกทางหนึ่ง นอกจากการใช้งานตามบ้านที่ยังมีข้อจำกัดในการขยายเครือข่าย โดยเป็นเหตุให้จำนวนประชากรที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตของไทยมีเพียง 1.5 ล้านราย ไปไม่ถึงฝันที่อยากเทียบเคียงประเทศเพื่อนบ้านเสียที
หลายฝ่ายจึงพยายามหาทางทำลายข้อจำกัดด้านเครือข่ายไวร์ไลน์ หรือสายโทรศัพท์ ด้วยเทคโนโลยีไร้สาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้มือถือระบบ 3G หรือการใช้ไวแมกซ์ ที่ยังไม่เห็นวี่แววการเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับชาวกรุงเทพมหานคร หรือ คน กทม.อาจจะได้เริ่มดีใจก่อน เมื่อกำลังจะได้เข้าสู่ยุคไว-ไฟคลุมเมือง หรือ Wi-Fi City เหมือนกับมหานครชั้นนำของโลก ไม่ว่าจะเป็นกรุงไทเป ไต้หวัน กรุงโซล เกาหลีใต้ หรือ ประเทศสิงคโปร์ที่เป็นเมืองสำคัญในภูมิภาคเอเชีย เมื่อกรุงเทพมหานคร (กทม.) และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันสร้างสังคมสีเขียวแก่คนเมือง ส่งเสริมใช้อินเทอร์เน็ต ลดการเดินทางด้วยกับบริการฟรีไวไ-ฟ
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงโครงการ Green Bangkok Wi-Fi
มาแล้ว กรีน บางกอก ไว-ไฟ ชีวิต ต่อติดเมืองเน็ตไร้สาย [25 มิ.ย. 51 - 06:45]
หากได้ลองสังเกตกันช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ ผู้อ่านหลายๆ คนคงคุ้นเคยกับบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สาย หรือ ไว-ไฟ กันดี เพราะจากจุดฮอตสปอตที่ให้บริการตามอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า ร้านอาหาร โรงแรมชั้นนำ รวมไปถึงสถาบันการศึกษา และย่านธุรกิจบางแห่ง ที่มีการแปะป้าย Wi-Fi เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการลดการตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์สาธารณะ เพราะลูกค้าสามารถใช้โน้ตบุ๊ค หรือพีดีเอโฟน ในการเชื่อมต่อเพื่อดูเว็บไซต์ต่างๆ จนกลายเป็นภาพชินตา
นับเป็นอีกเทคโนโลยีที่มาช่วยสนับสนุนการใช้งานโน้ตบุ๊ค ทำให้ยอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดดทุกปี เพราะคนรุ่นใหม่ต่างอยากได้ไว้ใช้งาน นักศึกษาก็อยากมีเพราะทางมหาวิทยาลัยหลายแห่ง หันมาเปิดเป็นไวร์เลสแคมปัส หรือ ไว-ไฟโซน ทำให้คนไทยได้สัมผัสกับอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์อีกทางหนึ่ง นอกจากการใช้งานตามบ้านที่ยังมีข้อจำกัดในการขยายเครือข่าย โดยเป็นเหตุให้จำนวนประชากรที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตของไทยมีเพียง 1.5 ล้านราย ไปไม่ถึงฝันที่อยากเทียบเคียงประเทศเพื่อนบ้านเสียที
หลายฝ่ายจึงพยายามหาทางทำลายข้อจำกัดด้านเครือข่ายไวร์ไลน์ หรือสายโทรศัพท์ ด้วยเทคโนโลยีไร้สาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้มือถือระบบ 3G หรือการใช้ไวแมกซ์ ที่ยังไม่เห็นวี่แววการเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับชาวกรุงเทพมหานคร หรือ คน กทม.อาจจะได้เริ่มดีใจก่อน เมื่อกำลังจะได้เข้าสู่ยุคไว-ไฟคลุมเมือง หรือ Wi-Fi City เหมือนกับมหานครชั้นนำของโลก ไม่ว่าจะเป็นกรุงไทเป ไต้หวัน กรุงโซล เกาหลีใต้ หรือ ประเทศสิงคโปร์ที่เป็นเมืองสำคัญในภูมิภาคเอเชีย เมื่อกรุงเทพมหานคร (กทม.) และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันสร้างสังคมสีเขียวแก่คนเมือง ส่งเสริมใช้อินเทอร์เน็ต ลดการเดินทางด้วยกับบริการฟรีไวไ-ฟ
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงโครงการ Green Bangkok Wi-Fi
-
- Verified User
- โพสต์: 274
- ผู้ติดตาม: 0
คนกรุงเทพมีเน็ตไร้สายให้ใช้กันฟรีๆ แล้วครับ
โพสต์ที่ 5
เทค 2
พี่มาเล่นใจดีกันตอนนี้ จะไม่ให้ อินเตอร์เน็ตไฟเบอร์ ไวแม็กซ์ เครื่อข่ายสายไฟฟ้า เขาได้ผุดได้เกิดกันเลยเหรอพี่ สงสารประเทศชาติประชาชนกันหน่อยเถอะ ดาวเทียมก็ไม่มีแล้ว ไหนยังจะมาซ้ำเติมกันอย่างนี้อีก
ขอให้พี่รวยซะให้เข็ดเลยนะครับ
พี่มาเล่นใจดีกันตอนนี้ จะไม่ให้ อินเตอร์เน็ตไฟเบอร์ ไวแม็กซ์ เครื่อข่ายสายไฟฟ้า เขาได้ผุดได้เกิดกันเลยเหรอพี่ สงสารประเทศชาติประชาชนกันหน่อยเถอะ ดาวเทียมก็ไม่มีแล้ว ไหนยังจะมาซ้ำเติมกันอย่างนี้อีก
ขอให้พี่รวยซะให้เข็ดเลยนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 274
- ผู้ติดตาม: 0
คนกรุงเทพมีเน็ตไร้สายให้ใช้กันฟรีๆ แล้วครับ
โพสต์ที่ 6
เทค 3
อ๊ะ ถือว่าพี่ยังมีบุญเก่า เครือข่าย PCT ของพี่แล้วกัน (ไม่รู้เค้าใช้เครือข่าย PCT เก่าหรือเปล่านะ อันนี้ผมมั่ว)
สรุป
ผมมองเค้าแง่ร้ายไปหรือเปล่าเนี่ย จริงๆ เขาให้ฟรี คงใช่มั้ง คิดในแง่ดีมันคงช่วยส่งเสริมให้คนขาดอินเตอร์เน็ตไม่ได้ เหมือนกับไฟฟ้า อาจจะช่วยเสริมเส้นทางการจราจรข้อมูลใหม่ๆ (ไฟเบอร์ ไวแมกซ์ สายไฟ) ก็ได้
เหมือนกับที่ E-banking ช่วยเสริมให้คนทำธุรกรรมธนาคาร แทนที่จะต้องพกเิงินไปมา
ปล.
ถ้าความเขลาไปบรรเจิดกับผู้ใด ช่วยชี้แจ้งด้วยนะครับ ผู้น้อยจักไม่ลืมพระคุณ
อ๊ะ ถือว่าพี่ยังมีบุญเก่า เครือข่าย PCT ของพี่แล้วกัน (ไม่รู้เค้าใช้เครือข่าย PCT เก่าหรือเปล่านะ อันนี้ผมมั่ว)
สรุป
ผมมองเค้าแง่ร้ายไปหรือเปล่าเนี่ย จริงๆ เขาให้ฟรี คงใช่มั้ง คิดในแง่ดีมันคงช่วยส่งเสริมให้คนขาดอินเตอร์เน็ตไม่ได้ เหมือนกับไฟฟ้า อาจจะช่วยเสริมเส้นทางการจราจรข้อมูลใหม่ๆ (ไฟเบอร์ ไวแมกซ์ สายไฟ) ก็ได้
เหมือนกับที่ E-banking ช่วยเสริมให้คนทำธุรกรรมธนาคาร แทนที่จะต้องพกเิงินไปมา
ปล.
ถ้าความเขลาไปบรรเจิดกับผู้ใด ช่วยชี้แจ้งด้วยนะครับ ผู้น้อยจักไม่ลืมพระคุณ