ลงทุนในจีน : การลงทุนที่ย้าว...ยาว
-
- Verified User
- โพสต์: 987
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในจีน : การลงทุนที่ย้าว...ยาว
โพสต์ที่ 1
ไม่แน่ใจว่าตั้งถูกห้องหรือเปล่านะครับ
หากพิมพ์ไปเขียนไป ชักเริ่มมันในอารมณ์ตามสไตล์กูรู
ข้อความ เรื่องราว อาจเริ่มคลาดเคลื่อน ชักไร้สาระ
รบกวนให้ท่านพ่อมดทั้งหลาย โยกย้ายตามความถูกต้อง
อารัมภบท : วันซักฟอก
ก่อนจะไปถึงตัวเนื้อหาจริงๆ ขอเกริ่นให้เครดิตสักหน่อย
สัมมนาครั้งนี้ภายใต้หัวข้อ China : The Long Term Investment
โดย ดร. สมภพ มานะรังสรรค์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านเอเชียศึกษา
จัดโดย TMBAM ที่โรงแรมพลาซ่า แอทเธอนี ..เอ สะกดถูกหรือเปล่าเนี่ย :?
เมื่อบ่ายวันศุกร์ลุ้นระทึกที่ผ่านมานี้ เย้ว เย้ว ราชดำเนิน
ตอนแรกที่ตัดสินใจไปฟังก็เพราะอยากจะได้มุมมองจากผู้รู้จริงเรื่องจีน
(ซึ่งตอนนั้นยังไม่เปิดเผยว่าใครเป็นวิทยากร)
โดยมีข้อสงสัยว่าทำไมกองทุนจีนที่ TMBAM บริหารจัดการอยู่กองหนึ่ง
คือ China Equity ถึงด้อยค่าลงทุกวัน
ไหน ไหน บอกว่าเศรษฐกิจจีนดีไง
จาก IPO ที่ 10 บาท เปิดเทรดวันแรก 11 บาท
แล้วก็หล่นตุ๊บลงไปเหลือแค่ครึ่งเดียว
มีอะไรในดินแดนกอไผ่และกังฟูแพนด้าที่เรายังไม่รู้หรือถูกปิดบังอยู่
ปรากฏว่าตลอดเกือบ 2 ชั่วโมงที่วิทยากรสาธยายล้วนเป็นเรื่อง Macroทั้งสิ้น
คนฟังก็พยักหน้าหงึกหงักไปตามเรื่อง เห็นพ้องบ้าง หลับบ้าง..แห่ะ แห่ะ
แต่พอถึง Q&A นี่ซิ ทุกตาตาสว่าง ได้เวลาเอาคืนแล้ว...
ผู้จัดการกองทุนและ MD ซึ่งไม่ได้ถูกกำหนดให้ขึ้นเวทีอภิปราย
ต้องถูกตามตัวมาตอบคำถามระรัวเป็นชุด
เหมือนถูกซักฟอกอย่างหนักจากผู้สูญเสียเงินลงทุนที่หายไปเกือบ 50%แต่แรกเริ่ม :oops:
จนทำให้ Hi Light เบี่ยงจากภาพ Macro กลายเป็นเรื่องการลงทุนอย่างเดียว
แน่นอน..หลายคนมาร่วมสัมมนาครั้งนี้ด้วยอารมณ์กรุ่นๆ
หวังจะซัดของว่างให้เต็มคราบ รีบมาก่อนเวลา
ก็มีอยู่น้อยนิด 3 อย่างเท่านั้นเอง
คือ ชิ้นแซนวิสเล็กๆ เอแคลร์ลูกเท่าหัวแม่โป้ง
และแผ่นเค้กกระจุ๋มกระจิ๋ม แถมขาดระยะอีกต่างหาก
เฮอ..โชคดีที่ตัวเองไม่ได้ลงทุนไปกับเขาด้วย (โชคดีที่ไม่ค่อยมีเงินเย็นเหลือเยอะด้วย อิอิ)
เลยพยายามนั่งฟังอย่างเป็นกลาง
และจับประเด็นของคำบรรยายมาสรุปโดยไม่ต้องมีอารมณ์ขุ่นข้องเป็นพื้นฐาน
มาแจกจ่ายให้เพื่อนๆในเวปรับรู้
หรือการจัดครั้งนี้เพื่อปลอบใจ ตอกย้ำความมั่นใจว่า
จีน ยังมีอนาคตที่ยาวไกลมาก มาก ครับพี่น้อง
ฉะนั้นตกไป 50% ก็รอเอาคืนอีก 150% ภายในปี สองปีนี้แหละ
ก็บอกแล้ว การลงทุนเป็นเรื่องให้เงินทำงานระยะย้าว...ยาว
ส่วนที่ท่านที่ยังไม่ได้ลงทุนในกองทุนนี้ก็ดูๆเสียหน่อย อย่าปล่อยโอกาสนี้ผ่านไป
ว่ากันตามนั้น
ดีหน่อยที่ MD ได้กราบขอโทษผู้ลงทุนทุกคนถึงผลประกอบการที่ผิดคาด
ช่วยลดบรรยากาศที่กำลังปะทุร้อนแรงพอๆกับแถวทำเนียบรัฐบาลลง
เอาล่ะครับ บอกให้รู้ที่มาที่ไปของการจัดสัมมนานี้เสียก่อนว่า
ทาง TMBAM ไม่ได้ตั้งใจจะขายกองทุนใหม่แต่อย่างไร (แต่อนาคต ไม่แน่)
หลุกพ้นจากเรื่องซักฟอกแล้ว ค่อยเข้าเรื่องมีสาระเสียที
กูรูจะเรียบเรียงคำบรรยายมาถ่ายทอดในสไตล์ตัวเองเป็นลำดับ
เพราะถ้าเอาคำพูดของ ดร.สมภพ มาทั้งดุ้น คงจะงงเก็ก
เพราะอาจารย์พูดเร็วมาก จนบางครั้งฟังและจดไม่ทัน
ชื่อเมือง ชื่อจังหวัดก็เป็นภาษาจีน
ต้องขอไปค้นเพิ่มเติม เพราะตัวเองก็ไม่เคยกลับไปรากเหง้าตัวเองเลย..สักวันเหอะน่า :lol:
นอกเหนือจากเมืองจีนแล้วยังมีเกร็ดเล็กๆเกี่ยวกับเวียดนามด้วย
ทิ้งไว้ตรงนี้ให้เพื่อนทายกันว่า สินค้าไทยตัวไหนที่ขายดีที่สุดในเวียดนามขณะนี้
ขอตัวไปเข้า Class แป๊ปหนึ่ง ค่ำๆค่อยกลับมาเริ่มรายยาวครับ :lol:
หากพิมพ์ไปเขียนไป ชักเริ่มมันในอารมณ์ตามสไตล์กูรู
ข้อความ เรื่องราว อาจเริ่มคลาดเคลื่อน ชักไร้สาระ
รบกวนให้ท่านพ่อมดทั้งหลาย โยกย้ายตามความถูกต้อง
อารัมภบท : วันซักฟอก
ก่อนจะไปถึงตัวเนื้อหาจริงๆ ขอเกริ่นให้เครดิตสักหน่อย
สัมมนาครั้งนี้ภายใต้หัวข้อ China : The Long Term Investment
โดย ดร. สมภพ มานะรังสรรค์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านเอเชียศึกษา
จัดโดย TMBAM ที่โรงแรมพลาซ่า แอทเธอนี ..เอ สะกดถูกหรือเปล่าเนี่ย :?
เมื่อบ่ายวันศุกร์ลุ้นระทึกที่ผ่านมานี้ เย้ว เย้ว ราชดำเนิน
ตอนแรกที่ตัดสินใจไปฟังก็เพราะอยากจะได้มุมมองจากผู้รู้จริงเรื่องจีน
(ซึ่งตอนนั้นยังไม่เปิดเผยว่าใครเป็นวิทยากร)
โดยมีข้อสงสัยว่าทำไมกองทุนจีนที่ TMBAM บริหารจัดการอยู่กองหนึ่ง
คือ China Equity ถึงด้อยค่าลงทุกวัน
ไหน ไหน บอกว่าเศรษฐกิจจีนดีไง
จาก IPO ที่ 10 บาท เปิดเทรดวันแรก 11 บาท
แล้วก็หล่นตุ๊บลงไปเหลือแค่ครึ่งเดียว
มีอะไรในดินแดนกอไผ่และกังฟูแพนด้าที่เรายังไม่รู้หรือถูกปิดบังอยู่
ปรากฏว่าตลอดเกือบ 2 ชั่วโมงที่วิทยากรสาธยายล้วนเป็นเรื่อง Macroทั้งสิ้น
คนฟังก็พยักหน้าหงึกหงักไปตามเรื่อง เห็นพ้องบ้าง หลับบ้าง..แห่ะ แห่ะ
แต่พอถึง Q&A นี่ซิ ทุกตาตาสว่าง ได้เวลาเอาคืนแล้ว...
ผู้จัดการกองทุนและ MD ซึ่งไม่ได้ถูกกำหนดให้ขึ้นเวทีอภิปราย
ต้องถูกตามตัวมาตอบคำถามระรัวเป็นชุด
เหมือนถูกซักฟอกอย่างหนักจากผู้สูญเสียเงินลงทุนที่หายไปเกือบ 50%แต่แรกเริ่ม :oops:
จนทำให้ Hi Light เบี่ยงจากภาพ Macro กลายเป็นเรื่องการลงทุนอย่างเดียว
แน่นอน..หลายคนมาร่วมสัมมนาครั้งนี้ด้วยอารมณ์กรุ่นๆ
หวังจะซัดของว่างให้เต็มคราบ รีบมาก่อนเวลา
ก็มีอยู่น้อยนิด 3 อย่างเท่านั้นเอง
คือ ชิ้นแซนวิสเล็กๆ เอแคลร์ลูกเท่าหัวแม่โป้ง
และแผ่นเค้กกระจุ๋มกระจิ๋ม แถมขาดระยะอีกต่างหาก
เฮอ..โชคดีที่ตัวเองไม่ได้ลงทุนไปกับเขาด้วย (โชคดีที่ไม่ค่อยมีเงินเย็นเหลือเยอะด้วย อิอิ)
เลยพยายามนั่งฟังอย่างเป็นกลาง
และจับประเด็นของคำบรรยายมาสรุปโดยไม่ต้องมีอารมณ์ขุ่นข้องเป็นพื้นฐาน
มาแจกจ่ายให้เพื่อนๆในเวปรับรู้
หรือการจัดครั้งนี้เพื่อปลอบใจ ตอกย้ำความมั่นใจว่า
จีน ยังมีอนาคตที่ยาวไกลมาก มาก ครับพี่น้อง
ฉะนั้นตกไป 50% ก็รอเอาคืนอีก 150% ภายในปี สองปีนี้แหละ
ก็บอกแล้ว การลงทุนเป็นเรื่องให้เงินทำงานระยะย้าว...ยาว
ส่วนที่ท่านที่ยังไม่ได้ลงทุนในกองทุนนี้ก็ดูๆเสียหน่อย อย่าปล่อยโอกาสนี้ผ่านไป
ว่ากันตามนั้น
ดีหน่อยที่ MD ได้กราบขอโทษผู้ลงทุนทุกคนถึงผลประกอบการที่ผิดคาด
ช่วยลดบรรยากาศที่กำลังปะทุร้อนแรงพอๆกับแถวทำเนียบรัฐบาลลง
เอาล่ะครับ บอกให้รู้ที่มาที่ไปของการจัดสัมมนานี้เสียก่อนว่า
ทาง TMBAM ไม่ได้ตั้งใจจะขายกองทุนใหม่แต่อย่างไร (แต่อนาคต ไม่แน่)
หลุกพ้นจากเรื่องซักฟอกแล้ว ค่อยเข้าเรื่องมีสาระเสียที
กูรูจะเรียบเรียงคำบรรยายมาถ่ายทอดในสไตล์ตัวเองเป็นลำดับ
เพราะถ้าเอาคำพูดของ ดร.สมภพ มาทั้งดุ้น คงจะงงเก็ก
เพราะอาจารย์พูดเร็วมาก จนบางครั้งฟังและจดไม่ทัน
ชื่อเมือง ชื่อจังหวัดก็เป็นภาษาจีน
ต้องขอไปค้นเพิ่มเติม เพราะตัวเองก็ไม่เคยกลับไปรากเหง้าตัวเองเลย..สักวันเหอะน่า :lol:
นอกเหนือจากเมืองจีนแล้วยังมีเกร็ดเล็กๆเกี่ยวกับเวียดนามด้วย
ทิ้งไว้ตรงนี้ให้เพื่อนทายกันว่า สินค้าไทยตัวไหนที่ขายดีที่สุดในเวียดนามขณะนี้
ขอตัวไปเข้า Class แป๊ปหนึ่ง ค่ำๆค่อยกลับมาเริ่มรายยาวครับ :lol:
- cryptonian_man
- Verified User
- โพสต์: 585
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในจีน : การลงทุนที่ย้าว...ยาว
โพสต์ที่ 2
มาลงชื่อรอครับ
ว่าแต่เวียดนามด้วยเหรอครับ หรือTMBAM จะออกกองทุนลุยเวียดนามครับ
ว่าแต่เวียดนามด้วยเหรอครับ หรือTMBAM จะออกกองทุนลุยเวียดนามครับ
เขาว่า "หลังจากปากพองจากการดื่มนมร้อน เราจะเป่าโยเกิร์ตให้เย็นก่อนตักเข้าปาก"
แต่ทำไมตรูไม่เข็ด เคาะขวาไวตลอดเนี่ย
แต่ทำไมตรูไม่เข็ด เคาะขวาไวตลอดเนี่ย
-
- Verified User
- โพสต์: 1808
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในจีน : การลงทุนที่ย้าว...ยาว
โพสต์ที่ 4
มารออ่านต่อด้วยคนครับ :8)
ทหารไทยกองทุนหุ้นต่างประเทศมี 3 กองทุนครับ
กองทุนเปิดทหารไทย China Equity Index
- ลงเฉพาะในจีน
กองทุนเปิดทหารไทย Emerging Markets Equity Index
- อันนี้มีเวียดนามครับ แต่ลงทุนในหลายๆประเทศเกิดใหม่นะครับ มีไทยด้วย
กองทุนเปิดทหารไทย World Equity Index
- อันนี้จะไม่มีทั้ง จีนและเวียดนามครับ มีเฉพาะประเทศใหญ่ๆ ญี่ปุ่น สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส ฯลฯ
ทหารไทยกองทุนหุ้นต่างประเทศมี 3 กองทุนครับ
กองทุนเปิดทหารไทย China Equity Index
- ลงเฉพาะในจีน
กองทุนเปิดทหารไทย Emerging Markets Equity Index
- อันนี้มีเวียดนามครับ แต่ลงทุนในหลายๆประเทศเกิดใหม่นะครับ มีไทยด้วย
กองทุนเปิดทหารไทย World Equity Index
- อันนี้จะไม่มีทั้ง จีนและเวียดนามครับ มีเฉพาะประเทศใหญ่ๆ ญี่ปุ่น สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส ฯลฯ
"Risk comes from not knowing what you're doing" - Warren Buffet
สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
http://www.sarut-homesite.net/
สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
http://www.sarut-homesite.net/
-
- Verified User
- โพสต์: 987
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในจีน : การลงทุนที่ย้าว...ยาว
โพสต์ที่ 5
เอ้ากลับมาต่อ
จีน : การลงทุนที่ย้าว...ยาว
แข็งแกร่งด้วยเงินสำรอง 1 ใน 6 ของโลก
ดร.สมภพ ปลุกให้คนฟังตาโตด้วยการเปิดเม็ดเงินแดนมังกรให้คนฟังทราบ
(เอ๋...สรรพนามชวนเกรงขามไปหรือเปล่า ขอเรียกพี่หมีกังฟูแพนด้าเข้าสมัยดีกว่า อิอิ..)
ทุนสำรองของพี่หมีกังฟูแพนด้า ณ วันนี้อยู่ที่ 1.76 ล้านล้านเหรียญ
ขณะที่เงินสำรองทั่วโลกมีอยู่ 6 ล้านล้านเหรียญ
คิดคร่าวๆภาษาคนอ่อนเลข 1 ใน 6 เชียวหรือเนี่ย ว๊าว :roll:
เมื่อเงินหยวนท่วมจีนอย่างนี้ก็ต้องหาทางระบายออก ไม่งั้นอึดอัดแน่นจุกตายแน่ๆ
การระบายเงินออกของพี่หมี ก็ไม่ใช่นึกอยากจะเขวี้ยงไปที่ไหนก็ได้
มีการดำเนินการด้วยประสิทธิภาพนั่นก็คือ
หนึ่ง เอาไปใช้สร้างระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่ตอนในของแผ่นดิน
โดยเฉพาะบริเวณภาคกลางและภาคตะวันตกซึ่งยังกันดาร ยากไร้
เมื่อสาธารณูปโภคขั้นมูลฐานพร้อม (ถนน น้ำ ประปา ไฟฟ้าสนามบิน)
การขยายตัวด้านอุตสาหกรรมก็จะเกิดขึ้นตามมา
การประกาศตัวให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อเชื้อชวนชาวต่างประเทศให้มาลงทุนก็ง่ายขึ้น
สอง เอาไปลงทุนในต่างประเทศเสีย
ลงทุนโดยตรง ก็ไปสร้างเขื่อน สร้างฝาย สร้างสารพัดระบบสาธารณูปโภคในประเทศด้อยพัฒนาต่างๆ
ทั้งในแอฟริกา เอเชียใต้ อเมริกาใต้ แต่ทวีปหลังอาจจะยากหน่อยเพราะพี่ใหญ่ลุงแซมก็จ้องตาเป็นมันเหมือนกัน
วิธีการนี้ยิงนกทีเดียวได้ 2 ตัวก็คือ นอกจากได้พัฒนาศักยภาพของแรงงานจีนให้ชาวโลก(ที่ 3)ประจักษ์แล้ว
เมื่อประเทศนั้นพัฒนาขึ้นมาอีกระดับ ประชากรมีรายได้มากขึ้นก็จะหวนซื้อสินค้าที่ Made in Chinaมากขึ้น
(สิทธิมนุษยชนหรือใครจะแซงชั่นใคร ฝ่ายเหนือฝ่ายใต้ทะเลาะไล่ล่าฆ่ากัน เป็นเรื่องภายในประเทศนั้นๆ
ข้าน้อยขอไม่รับรู้...อันนี้กูรูคิดในใจ )
ตัวอย่างล่าสุด จีนไปลงทุนสร้างสนามบินในทิเบต
ทั้งๆที่มีประชากรอยู่เพียง 80,000 คน
อันนี้อาจจะเป็นเรื่องของการเมืองเข้ามาเอี่ยวสักหน่อย
เพื่อประกาศชัดแจ้งว่านี่เป็นดินแดนภายใต้ในอุ้งตีนหมีเอ๊ย..ภายในอาณัติของอั๊วนะเฟ้ย
ลงทุนทางอ้อม ก็คือ ซื้อสินทรัพย์ราคาถูกๆทั้งหลายนอกประเทศ
จากบริษัทที่มีปัญหาหนี้สินรุมเร้า ขาดสภาพคล่องหรือต้องการระดมทุนจากพันธมิตรใหม่
ทั้งที่จดและยังไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำ
เมื่อเป็นเช่นนี้มูลค่าทรัพย์สินต่างประเทศของจีนก็เพิ่มขึ้นพะเรอ เออเฮอ..อิจฉา อิจฉา
จีน : การลงทุนที่ย้าว...ยาว
แข็งแกร่งด้วยเงินสำรอง 1 ใน 6 ของโลก
ดร.สมภพ ปลุกให้คนฟังตาโตด้วยการเปิดเม็ดเงินแดนมังกรให้คนฟังทราบ
(เอ๋...สรรพนามชวนเกรงขามไปหรือเปล่า ขอเรียกพี่หมีกังฟูแพนด้าเข้าสมัยดีกว่า อิอิ..)
ทุนสำรองของพี่หมีกังฟูแพนด้า ณ วันนี้อยู่ที่ 1.76 ล้านล้านเหรียญ
ขณะที่เงินสำรองทั่วโลกมีอยู่ 6 ล้านล้านเหรียญ
คิดคร่าวๆภาษาคนอ่อนเลข 1 ใน 6 เชียวหรือเนี่ย ว๊าว :roll:
เมื่อเงินหยวนท่วมจีนอย่างนี้ก็ต้องหาทางระบายออก ไม่งั้นอึดอัดแน่นจุกตายแน่ๆ
การระบายเงินออกของพี่หมี ก็ไม่ใช่นึกอยากจะเขวี้ยงไปที่ไหนก็ได้
มีการดำเนินการด้วยประสิทธิภาพนั่นก็คือ
หนึ่ง เอาไปใช้สร้างระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่ตอนในของแผ่นดิน
โดยเฉพาะบริเวณภาคกลางและภาคตะวันตกซึ่งยังกันดาร ยากไร้
เมื่อสาธารณูปโภคขั้นมูลฐานพร้อม (ถนน น้ำ ประปา ไฟฟ้าสนามบิน)
การขยายตัวด้านอุตสาหกรรมก็จะเกิดขึ้นตามมา
การประกาศตัวให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อเชื้อชวนชาวต่างประเทศให้มาลงทุนก็ง่ายขึ้น
สอง เอาไปลงทุนในต่างประเทศเสีย
ลงทุนโดยตรง ก็ไปสร้างเขื่อน สร้างฝาย สร้างสารพัดระบบสาธารณูปโภคในประเทศด้อยพัฒนาต่างๆ
ทั้งในแอฟริกา เอเชียใต้ อเมริกาใต้ แต่ทวีปหลังอาจจะยากหน่อยเพราะพี่ใหญ่ลุงแซมก็จ้องตาเป็นมันเหมือนกัน
วิธีการนี้ยิงนกทีเดียวได้ 2 ตัวก็คือ นอกจากได้พัฒนาศักยภาพของแรงงานจีนให้ชาวโลก(ที่ 3)ประจักษ์แล้ว
เมื่อประเทศนั้นพัฒนาขึ้นมาอีกระดับ ประชากรมีรายได้มากขึ้นก็จะหวนซื้อสินค้าที่ Made in Chinaมากขึ้น
(สิทธิมนุษยชนหรือใครจะแซงชั่นใคร ฝ่ายเหนือฝ่ายใต้ทะเลาะไล่ล่าฆ่ากัน เป็นเรื่องภายในประเทศนั้นๆ
ข้าน้อยขอไม่รับรู้...อันนี้กูรูคิดในใจ )
ตัวอย่างล่าสุด จีนไปลงทุนสร้างสนามบินในทิเบต
ทั้งๆที่มีประชากรอยู่เพียง 80,000 คน
อันนี้อาจจะเป็นเรื่องของการเมืองเข้ามาเอี่ยวสักหน่อย
เพื่อประกาศชัดแจ้งว่านี่เป็นดินแดนภายใต้ในอุ้งตีนหมีเอ๊ย..ภายในอาณัติของอั๊วนะเฟ้ย
ลงทุนทางอ้อม ก็คือ ซื้อสินทรัพย์ราคาถูกๆทั้งหลายนอกประเทศ
จากบริษัทที่มีปัญหาหนี้สินรุมเร้า ขาดสภาพคล่องหรือต้องการระดมทุนจากพันธมิตรใหม่
ทั้งที่จดและยังไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำ
เมื่อเป็นเช่นนี้มูลค่าทรัพย์สินต่างประเทศของจีนก็เพิ่มขึ้นพะเรอ เออเฮอ..อิจฉา อิจฉา
-
- Verified User
- โพสต์: 987
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในจีน : การลงทุนที่ย้าว...ยาว
โพสต์ที่ 6
เพิ่มเพื่อลด : เครือข่าย Logistics โยงใยเป็นหนึ่งเดียว
แต่ไหนแต่ไรมา ประเทศจีนประกอบด้วยมณฑลใหญ่ๆ
อยู่ห่างไกลกันออกไปราวกับเป็นประเทศเอกราช
ทั้งนี้เนื่องมาจากปัญหาการคมนาคมที่ไม่เชื่อมต่อกัน
(อันนี้กูรูเห็นจากหนังจีนยุคใหม่หลายเรื่อง
ที่สะท้อนความยากจนของชนบท
อย่าง Road A Home หรือ Not One Less)
พี่กังฟูแพนด้าคงเห็นตัวอย่างของการเชื่อมเครือข่ายประเทศ
จากลูกพี่ลุงแซม และเยอรมันมาแล้วว่า
ส่งผลกระทบในเชิงบวกมหาศาลเพียงใด
กว่าพี่ลุงแซมจะขยายไปตะวันตกได้เป็นเรื่องเป็นราว
ก็ต้องรอทางรถไฟสร้างเสร็จ
เมื่อรถไฟเริ่มเปิดดำเนินการ
การขนส่งสินค้าและการอพยพมุ่งหน้าตะวันตกก็ตีคลื่นระลอกใหญ่
ฝ่าดง(และฆ่า)อินเดียนแดงเป็นโขลง จนจ้าวแผ่นดินเดิมถอยหด
หลังจากนั้นการสร้างบ้านแปงเมืองก็เริ่มต้นตามรายทางไม้หมอนรถไฟ
(ถึงช่วงนี้นึกถึงหนังสือชุด บ้านเล็กในป่าใหญ่ ของ ลอร่า อิงกัล ไวด์เดอร์ เลย)
ส่วนพี่หมีเยอรมันได้รับผลบุญจากสมัยฮิตเลอร์
ที่ระดมแรงงานสร้างถนนให้อาณาจักรไร้ช
ขุดแล้วกลบ กลบแล้วขุดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการหมุนเวียนของเงินตรา
จนถนนไฮเวย์ ออโต้บาห์นชองเยอรมันได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดในโลก
(เอ..คล้ายๆของไทยเลย ถนนสายเดียวกันกลบแล้วขุดทุกยุค ทุกสมัย
แต่ไม่รู้เงินหมุนไปที่ไหนเนอะ)
อะหา ว่าแล้วพี่หมีแพนด้าก็ขยับงบประมาณลงมาทุ่มเทตรงนี้เป็นการใหญ่
สร้างทางเชื่อม Hi Way ทั้งประเทศด้วยความยาวประมาณ 500,000 กม.
ทางหลวงปัจจุบัน 2,000,000 กม.
และรถไฟอีก 70,000 กม.
ทั้งนี้เพื่อกดต้นทุนของระบบ Logistics ให้ต่ำลงจากเดิม
จาก 4 ปีที่แล้ว 35% ของ GDP ให้เหลือไม่ถึง 20% ในปีนี้ให้จนได้
(เปรียบเทียบต้นทุน Logistics ไทย จากเดิม 20% ตอนนี้เพิ่มเป็น 22 % แล้ว)
เมื่อระบบการขนส่ง ขนถ่ายสินค้า - ผู้คน -สิงสาราสัตว์
รองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจได้มากขึ้นเท่าไหร่
ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายที่สูญเสียไปอย่างไม่จำเป็นได้อีกโข
การพัฒนาด้านอื่นๆก็จะตามมา เช่น โรงงานอุตสาหกรรมใหม่ๆ
การลงทุนร่วมในระดับประเทศต่อประเทศซึ่งจีนต้องการมาก
การเพิ่มแรงงานและรายได้ของประชากรในเขตชนบท
เหอ...ข้อนี้ ฟังแล้วขนลุกครับ :shock:
แค่ทุกวันนี้สินค้า Made in China ก็ตีพี่ไทยระเบิดเถิดเทิงแล้ว
หากมีแหล่งผลิตใหม่ แรงงานราคาถูกเพิ่มอีก โอ้โฮ...
แต่ไหนแต่ไรมา ประเทศจีนประกอบด้วยมณฑลใหญ่ๆ
อยู่ห่างไกลกันออกไปราวกับเป็นประเทศเอกราช
ทั้งนี้เนื่องมาจากปัญหาการคมนาคมที่ไม่เชื่อมต่อกัน
(อันนี้กูรูเห็นจากหนังจีนยุคใหม่หลายเรื่อง
ที่สะท้อนความยากจนของชนบท
อย่าง Road A Home หรือ Not One Less)
พี่กังฟูแพนด้าคงเห็นตัวอย่างของการเชื่อมเครือข่ายประเทศ
จากลูกพี่ลุงแซม และเยอรมันมาแล้วว่า
ส่งผลกระทบในเชิงบวกมหาศาลเพียงใด
กว่าพี่ลุงแซมจะขยายไปตะวันตกได้เป็นเรื่องเป็นราว
ก็ต้องรอทางรถไฟสร้างเสร็จ
เมื่อรถไฟเริ่มเปิดดำเนินการ
การขนส่งสินค้าและการอพยพมุ่งหน้าตะวันตกก็ตีคลื่นระลอกใหญ่
ฝ่าดง(และฆ่า)อินเดียนแดงเป็นโขลง จนจ้าวแผ่นดินเดิมถอยหด
หลังจากนั้นการสร้างบ้านแปงเมืองก็เริ่มต้นตามรายทางไม้หมอนรถไฟ
(ถึงช่วงนี้นึกถึงหนังสือชุด บ้านเล็กในป่าใหญ่ ของ ลอร่า อิงกัล ไวด์เดอร์ เลย)
ส่วนพี่หมีเยอรมันได้รับผลบุญจากสมัยฮิตเลอร์
ที่ระดมแรงงานสร้างถนนให้อาณาจักรไร้ช
ขุดแล้วกลบ กลบแล้วขุดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการหมุนเวียนของเงินตรา
จนถนนไฮเวย์ ออโต้บาห์นชองเยอรมันได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดในโลก
(เอ..คล้ายๆของไทยเลย ถนนสายเดียวกันกลบแล้วขุดทุกยุค ทุกสมัย
แต่ไม่รู้เงินหมุนไปที่ไหนเนอะ)
อะหา ว่าแล้วพี่หมีแพนด้าก็ขยับงบประมาณลงมาทุ่มเทตรงนี้เป็นการใหญ่
สร้างทางเชื่อม Hi Way ทั้งประเทศด้วยความยาวประมาณ 500,000 กม.
ทางหลวงปัจจุบัน 2,000,000 กม.
และรถไฟอีก 70,000 กม.
ทั้งนี้เพื่อกดต้นทุนของระบบ Logistics ให้ต่ำลงจากเดิม
จาก 4 ปีที่แล้ว 35% ของ GDP ให้เหลือไม่ถึง 20% ในปีนี้ให้จนได้
(เปรียบเทียบต้นทุน Logistics ไทย จากเดิม 20% ตอนนี้เพิ่มเป็น 22 % แล้ว)
เมื่อระบบการขนส่ง ขนถ่ายสินค้า - ผู้คน -สิงสาราสัตว์
รองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจได้มากขึ้นเท่าไหร่
ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายที่สูญเสียไปอย่างไม่จำเป็นได้อีกโข
การพัฒนาด้านอื่นๆก็จะตามมา เช่น โรงงานอุตสาหกรรมใหม่ๆ
การลงทุนร่วมในระดับประเทศต่อประเทศซึ่งจีนต้องการมาก
การเพิ่มแรงงานและรายได้ของประชากรในเขตชนบท
เหอ...ข้อนี้ ฟังแล้วขนลุกครับ :shock:
แค่ทุกวันนี้สินค้า Made in China ก็ตีพี่ไทยระเบิดเถิดเทิงแล้ว
หากมีแหล่งผลิตใหม่ แรงงานราคาถูกเพิ่มอีก โอ้โฮ...
-
- Verified User
- โพสต์: 987
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในจีน : การลงทุนที่ย้าว...ยาว
โพสต์ที่ 7
คืนนี้ดึกแล้วครับ
ขอลาไปนอนก่อน ชักไม่ไหว
แล้วค่อยมาต่ออีกประมาณ 3-4 reply
ขอลาไปนอนก่อน ชักไม่ไหว
แล้วค่อยมาต่ออีกประมาณ 3-4 reply
-
- Verified User
- โพสต์: 711
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในจีน : การลงทุนที่ย้าว...ยาว
โพสต์ที่ 8
ผมก็ไปฟังมาครับ
ไปฟังกับแม่(จริงๆ) แม่ฟังไปซักพักก็หลับ
ส่วนผมเริ่มคล้อยเล็กน้อย มีผงกหัวบ้าง
นี่ขนาดไม่ค่อยได้กินของว่างที่เค้าจัดให้นะเนี่ย
ผมนั่งอยู่ตรงแถวกลางๆใกล้กับคนแรกที่ถามออกไมค์
เด็กหนุ่มคนนั้นก็ดูเก่งดีนะครับ หาข้อมูล ทำการบ้านมาดีเหมือนกัน
แต่ที่ผมชอบจริงๆ คือ คนสุดท้ายที่แนะนำให้ทำกองทุน Veitnam Equity
ที่ไม่ชอบ คือ FM ที่เป็นผู้ชาย เวลาเด็กคนแรกพูดผิด แล้วอ.ตามแก้
พี่แกหัวเราะคิกคัก เหมือนจะบอกว่า เด็กที่ถามกำลังหน้าแตกอยู่
โดยส่วนตัวจากที่ฟังอ.บรรยาย
ผมมองว่า จีนจะยังไม่ฟื้นตัวในเร็วๆนี้
หลังโอลิมปิกก็ไม่น่าจะมีอะไรตื่นเต้น
อาจจะได้เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในระยะสั้นจากการขึ้นราคาน้ำมันด้วย
มีคนถาม FM ว่า ทำไมถึงขายกองทุนในตอนที่ ตลาดหุ้นจีนวิ่งขึ้นมาไกลขนาดนี้
FM ผู้หญิง ตอบว่า ที่จริงเราจะขายตั้งนานแล้ว
แต่เราก็ลังเลเหมือนกัน ด้วยเหตุผลว่า ตลาดมันขึ้นมาแรงมาก
แต่ด้วยความคาดหวังจากการเป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิปปิค
อาจจะส่งผลให้ตลาดหุ้นในจีนปรับตัวไปได้อีก
เป็นคำตอบที่ผมฟังแล้วขัดแย้งอยู่ในใจ
เพราะในตอนแรก FMหญิงคนนี้
พูดว่า การลงทุนในหุ้น เงินทุนที่ใช้ควรเป็นเงินเย็น
และเป็นการลงทุนระยะยาว ถึงจะได้ผลตอบแทนที่น่าพึ่งพอใจ และไม่เสี่ยงต่อการขาดทุน
แต่กองทุนตัวนี้จัดขึ้นตอนประมาณ ช่วงปลายปี
งานโอลิมปิคจัดขึ้นช่วงประมาณเร็วๆนี้
ร่วมแล้วก็ครึ่งปีกว่า
ผมก็มองไม่เห็นเลยว่า มันจะเป็นการลงทุนระยะยาวตรงใหน
เพราะสิ่งที่คุณคาดหวังมันเป็นแค่การเก็งกำไรในระยะสั้น
เท่านี้ละครับ
ปล.ผมยังไม่ได้ลงทุนตัวนี้นะครับ
แต่ตอนนี้นใจมากๆ มากกว่าตลาดบ้านเราตอนนี้แน่ๆ
ไปฟังกับแม่(จริงๆ) แม่ฟังไปซักพักก็หลับ
ส่วนผมเริ่มคล้อยเล็กน้อย มีผงกหัวบ้าง
นี่ขนาดไม่ค่อยได้กินของว่างที่เค้าจัดให้นะเนี่ย
ผมนั่งอยู่ตรงแถวกลางๆใกล้กับคนแรกที่ถามออกไมค์
เด็กหนุ่มคนนั้นก็ดูเก่งดีนะครับ หาข้อมูล ทำการบ้านมาดีเหมือนกัน
แต่ที่ผมชอบจริงๆ คือ คนสุดท้ายที่แนะนำให้ทำกองทุน Veitnam Equity
ที่ไม่ชอบ คือ FM ที่เป็นผู้ชาย เวลาเด็กคนแรกพูดผิด แล้วอ.ตามแก้
พี่แกหัวเราะคิกคัก เหมือนจะบอกว่า เด็กที่ถามกำลังหน้าแตกอยู่
โดยส่วนตัวจากที่ฟังอ.บรรยาย
ผมมองว่า จีนจะยังไม่ฟื้นตัวในเร็วๆนี้
หลังโอลิมปิกก็ไม่น่าจะมีอะไรตื่นเต้น
อาจจะได้เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในระยะสั้นจากการขึ้นราคาน้ำมันด้วย
มีคนถาม FM ว่า ทำไมถึงขายกองทุนในตอนที่ ตลาดหุ้นจีนวิ่งขึ้นมาไกลขนาดนี้
FM ผู้หญิง ตอบว่า ที่จริงเราจะขายตั้งนานแล้ว
แต่เราก็ลังเลเหมือนกัน ด้วยเหตุผลว่า ตลาดมันขึ้นมาแรงมาก
แต่ด้วยความคาดหวังจากการเป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิปปิค
อาจจะส่งผลให้ตลาดหุ้นในจีนปรับตัวไปได้อีก
เป็นคำตอบที่ผมฟังแล้วขัดแย้งอยู่ในใจ
เพราะในตอนแรก FMหญิงคนนี้
พูดว่า การลงทุนในหุ้น เงินทุนที่ใช้ควรเป็นเงินเย็น
และเป็นการลงทุนระยะยาว ถึงจะได้ผลตอบแทนที่น่าพึ่งพอใจ และไม่เสี่ยงต่อการขาดทุน
แต่กองทุนตัวนี้จัดขึ้นตอนประมาณ ช่วงปลายปี
งานโอลิมปิคจัดขึ้นช่วงประมาณเร็วๆนี้
ร่วมแล้วก็ครึ่งปีกว่า
ผมก็มองไม่เห็นเลยว่า มันจะเป็นการลงทุนระยะยาวตรงใหน
เพราะสิ่งที่คุณคาดหวังมันเป็นแค่การเก็งกำไรในระยะสั้น
เท่านี้ละครับ
ปล.ผมยังไม่ได้ลงทุนตัวนี้นะครับ
แต่ตอนนี้นใจมากๆ มากกว่าตลาดบ้านเราตอนนี้แน่ๆ
- kotaro
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1495
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในจีน : การลงทุนที่ย้าว...ยาว
โพสต์ที่ 9
สินค้าไทยตัวไหนที่ขายดีที่สุดในเวียดนามขณะนี้
กลุ่มไหนครับ
เดาว่า
มอเตอร์ไซด์ฮอนด้า กระทิงแดง โออิชิ ปลากระป๋องปุมปุ้ย สามแม่ครัว มาม่า เครื่องสำอางไทย แบรนด์ต่างๆ อินเด็กซ์ คอนเซ็บ ตู้เซฟ
อะไรอีกอะ
“Laughter is timeless. Imagination has no age. And dreams are forever.” ― Walt Disney Company
-
- Verified User
- โพสต์: 393
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในจีน : การลงทุนที่ย้าว...ยาว
โพสต์ที่ 10
ขอบคุณมากน่ะครับ ผมก็อยากไปแต่ไปไม่ได้ติดงายครับ มีแต่เพื่อนๆมาเล่าให้ฟัง
ขอบคุณอีกครั้งน่ะครับ ที่อุตส่าห์เขียนมาย่อยให้อ่านตั้งเยอะมาก เพื่อนผมเล่าให้ฟังแป๊ปเดียวเองครับ
ขอบคุณอีกครั้งน่ะครับ ที่อุตส่าห์เขียนมาย่อยให้อ่านตั้งเยอะมาก เพื่อนผมเล่าให้ฟังแป๊ปเดียวเองครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 9
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในจีน : การลงทุนที่ย้าว...ยาว
โพสต์ที่ 11
ผมก็ซื้อตอนประมาณต้นปี หลังจากซื้อลงแทบทุกวันจากราคาอัฟเดดในเวป
จนถึง1กุมภา เวปหยุดอัฟเดดดื่อๆเลย จากนั้นผมก็ไม่ได้ตามเท่าไร แต่รู้ว่าลงมากแล้ว
ตั้งแต่ซื้อมาได้กระดาษแผ่นเดียว เชิญไปสัมมนาแก้ตัวกัน ผมว่ากองทุนไม่ค่อยเต็ม100กับลูกค้าเท่าไร บอกได้คำเดียวเซ็งเป็ด
จนถึง1กุมภา เวปหยุดอัฟเดดดื่อๆเลย จากนั้นผมก็ไม่ได้ตามเท่าไร แต่รู้ว่าลงมากแล้ว
ตั้งแต่ซื้อมาได้กระดาษแผ่นเดียว เชิญไปสัมมนาแก้ตัวกัน ผมว่ากองทุนไม่ค่อยเต็ม100กับลูกค้าเท่าไร บอกได้คำเดียวเซ็งเป็ด
-
- Verified User
- โพสต์: 393
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในจีน : การลงทุนที่ย้าว...ยาว
โพสต์ที่ 14
ผมเห็นเหมือนกัน คือมองว่ามันถูกลงมากจากเมื่อตอนตั้งกองครับ ลงมาเกือบครึ่งแล้ว (คำว่าถูกของผม ผมก็แค่มองว่ามันลงมาเยอะแล้ว ง่ายๆอย่างนั้นแหละฮ่ะ)
ทีนี้พออ่านเยอะๆเข้าก็กลัวครับ มี article อันนึงผมอ่ายจากที่ไหน ผมจำไม่ได้แน่ชัด แต่เศรษฐกรของจีนที่มีชื่อเสียงบอกว่าการโตติดๆกัน 2 digits เกิน 5 ปีติดๆกันมันฝืนธรรมชาติครับ เค้าก็บอกว่าจีนผ่านช่วงที่สูงที่สุดในปี 2007 มาแล้ว จากการโตมาตลอดตั้งแต่ 2003-2007
เค้ายกตัวอย่างว่าที่เห็นก็มีอีกสองประเทศที่ทำได้คือญี่ปุ่นในปี 1961-1966, แล้วก็ฮ่องกงอีกอันยุคต้น 60 เหมือนกัน (ปีอาจจะคลาดเคลื่อนนิดหน่อย ขอโทษน่ะครับ ผมหาไม่เจอจิงๆว่าไปอ่านมาจากไหน อยากจะมาแปะให้ดูเหมือนกัน)
จิงๆจีนก็โต 5 ปีติดมาแล้วรอบนึงในยุคต้น 90 ครับ, เพราะฉะนั้นครั้งนี้ก็รอบที่สอง มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเข้าสู่การชะลอตัวที่เห็นได้ชัดในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
แต่เค้าก็ยังเชื่อว่านี่ก็คือการจะโตอย่างยั่งยืนน่ะครับ พูดง่ายๆว่ามีการปรับฐาน และก็อาจจะไม่ใช่เวลาสั้นๆครับ ผมก็เลยลังเลเหมือนกัน ว่ายังคงไม่น่าใช่เวลาที่จะเข้า (รึเปล่า?)
คุยกันเล่นๆน่ะครับ เพื่อนผมบอกมาแต่เพียงว่ากองนี้ไปถือหุ้น insurance ชื่อ Ping An ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของหุ้นประกัน ซึ่งก็ตกลงอย่างมากในกระดาน A (จริงๆหุ้น Ping An ก็ตกหมดทุกที่แหละฮ่ะ ฮ่องกงก็ตกเยอะ แต่ตกเยอะ จากที่เคยสูงสุดก็ที่ SH) ตัวอื่น เค้าไม่ได้บอกครับ เพื่อนๆทราบมั๊ยครับว่ามีตัวไหน? อย่างไรครับ?
แล้วถ้าซื้อกองนี้ เนื่องจากไปซื้อปลีกมาจากกอง HK2823, ผมมีคำถามอีกนิดเดียวว่า F/X ที่จะเปลี่ยนแปลงไป against Th Bht นี่..........เป็น HK หรือ CNY อ่ะครับ? ผมคิดเอาเองว่าน่าจะเป็น CNY, เพื่อนบอกว่าเป็น HK เพราะเป็นกองของฮ่องกง แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอ่ะครับ...........
ทีนี้พออ่านเยอะๆเข้าก็กลัวครับ มี article อันนึงผมอ่ายจากที่ไหน ผมจำไม่ได้แน่ชัด แต่เศรษฐกรของจีนที่มีชื่อเสียงบอกว่าการโตติดๆกัน 2 digits เกิน 5 ปีติดๆกันมันฝืนธรรมชาติครับ เค้าก็บอกว่าจีนผ่านช่วงที่สูงที่สุดในปี 2007 มาแล้ว จากการโตมาตลอดตั้งแต่ 2003-2007
เค้ายกตัวอย่างว่าที่เห็นก็มีอีกสองประเทศที่ทำได้คือญี่ปุ่นในปี 1961-1966, แล้วก็ฮ่องกงอีกอันยุคต้น 60 เหมือนกัน (ปีอาจจะคลาดเคลื่อนนิดหน่อย ขอโทษน่ะครับ ผมหาไม่เจอจิงๆว่าไปอ่านมาจากไหน อยากจะมาแปะให้ดูเหมือนกัน)
จิงๆจีนก็โต 5 ปีติดมาแล้วรอบนึงในยุคต้น 90 ครับ, เพราะฉะนั้นครั้งนี้ก็รอบที่สอง มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเข้าสู่การชะลอตัวที่เห็นได้ชัดในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
แต่เค้าก็ยังเชื่อว่านี่ก็คือการจะโตอย่างยั่งยืนน่ะครับ พูดง่ายๆว่ามีการปรับฐาน และก็อาจจะไม่ใช่เวลาสั้นๆครับ ผมก็เลยลังเลเหมือนกัน ว่ายังคงไม่น่าใช่เวลาที่จะเข้า (รึเปล่า?)
คุยกันเล่นๆน่ะครับ เพื่อนผมบอกมาแต่เพียงว่ากองนี้ไปถือหุ้น insurance ชื่อ Ping An ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของหุ้นประกัน ซึ่งก็ตกลงอย่างมากในกระดาน A (จริงๆหุ้น Ping An ก็ตกหมดทุกที่แหละฮ่ะ ฮ่องกงก็ตกเยอะ แต่ตกเยอะ จากที่เคยสูงสุดก็ที่ SH) ตัวอื่น เค้าไม่ได้บอกครับ เพื่อนๆทราบมั๊ยครับว่ามีตัวไหน? อย่างไรครับ?
แล้วถ้าซื้อกองนี้ เนื่องจากไปซื้อปลีกมาจากกอง HK2823, ผมมีคำถามอีกนิดเดียวว่า F/X ที่จะเปลี่ยนแปลงไป against Th Bht นี่..........เป็น HK หรือ CNY อ่ะครับ? ผมคิดเอาเองว่าน่าจะเป็น CNY, เพื่อนบอกว่าเป็น HK เพราะเป็นกองของฮ่องกง แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอ่ะครับ...........
-
- Verified User
- โพสต์: 987
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในจีน : การลงทุนที่ย้าว...ยาว
โพสต์ที่ 17
เอ้ามาต่อครับ เดี๋ยว Hi-Light ของกระทู้จะเบี่ยงอีก
ไว้โพสจนจบแล้ว ค่อยมาแถลงคำตอบของบรรดาผู้บริหารและ FM ในงานให้
Special Effect : แปรวิกฤตเป็นโอกาส ยกโอกาสเป็นคุณภาพ
ว้าก เพ่ย..อะอะ ไม่ใช่กังฟูแพนด้าแผลงฤทธิ์แสดงแสงเฮากวงหรือ Special Effect แต่อย่างไร
แต่หมายถึงเหตุการณ์หรือสถานการณ์พิเศษทั้งที่คาดคิดและไม่คาดคิดเกิดขึ้น
รัฐบาลสามารถจัดการหรือแปรวิกฤตเป็นโอกาสอย่างไร
Earth Quake Demand โศกนาฎกรรมล้างแผ่นดินที่เสฉวน
ผู้คนล้มตาย บาดเจ็บร่วมหลายแสน บรรดาพ่อแม่หลายครอบครัวสูญเสียจักรพรรดิองค์น้อยไปอย่างไม่มีวันกลับ
รัฐบาลต้องฟื้นฟูจิตใจประชาชนพอๆกับต้องเร่งบูรณะบ้านเมืองใหม่อย่างรวดเร็ว
เพื่อให้โลกเห็นว่าสามารถจัดการวิกฤตครั้งนี้(Crisis Management)ได้รวดเร็วก่อนโอลิมปิคจะเริ่มถึง
ฉะนั้นวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการแปลงเมืองใหม่จะได้รับผลบวก (ปูนซิเมนต์ เหล็ก กระเบื้อง โลหะต่างๆ)
การก่อสร้างครั้งนี้จะต้องถูกตรวจสอบอย่างใกล้ชิดว่าแข็งแรง มั่นคง
ไม่กลายเป็นตึกถล่มฝังผู้คนอีกรอบ
Olympic ที่กำลังจะมาถึง
เสมือนสายลมเย็น ลดความหมองเศร้าจากโศกนาฎกรรมที่เสฉวนได้บ้าง
(คล้ายๆกับบ้านเรา ปีไหนที่เศร้าโศก หรือขัดแย้ง พอมีซีเกมส์ หรือเอเชี่ยนเกมส์
คนไทยก็หยุดหงุดหงิดชั่วขณะ ไปเชียร์กีฬาก่อนแล้วค่อยกลับมาตีกันใหม่)
ถ้ามองเป็นเพียงสายลมพัดผ่านชั่วคราว
มาแล้วก็ไปก็คงไม่มีความหม่ายอะไร
แต่ Halo Effect ที่จะเกิดตามติดมาก็คือ
การสร้างคุณภาพของวงการกีฬาจีนให้มีคุณภาพมากขึ้น
(โอ้โฮ แค่นี้ จีนก็กวาดเหรียญทองไปเกือบหมดแล้ว จะสร้างอะไรนักหนา)
เราจะเห็นนักกีฬาคนเก่งสัญชาติจีนออกสู้ระดับอินเตอร์มากขึ้น
ไม่ใช่แค่นักบาสตัวโหย่งอย่าง "เหยาหมิง " คนเดียว
เราจะเห็นโค้ชจีนเก่งๆ ออกสู่และถูกแย่งชิงในวงการกีฬาโลกมากขึ้น
(อะฮ้า อย่างงั้นเชียว ใครในเวปเราเก่งๆรีบสมัครเป็นโคตรเอ๊ย Coach ที่นั่นเร็วๆ)
เราจะเห็นกีฬา Match สำคัญๆไปจัดที่จีนมากขึ้น
(แน่นอน สนามมาตรฐานโอลิมปิคก็มีพร้อม จะปล่อยให้ร้างๆเฉยๆได้อย่างไร
เงินทั้งน้าน)
เหล่านี้ก็คือการใช้กลยุทธ์ Sport Marketing
กระตุ้นเศรษฐกิจภาค..อะไรดีหว่า ภาคพลกำลัง ดีมั้ย คร้าบ :lol:
แล้วใครจะได้ประโยชน์ส่วนนี้ บริษัทขายอุปกรณ์กีฬา ผู้จัดและดำเนินการถ่ายทอด
มีเดีย สปอนเซอร์ทั้งหลายที่จะแห่เข้าไปขอติดชื่อป้ายตัวเองข้างสนาม
เอ้า อีกสักตัวอย่าง Service Era Effect
แต่ไหนแต่ไรมา มณฑลพื้นที่ทางริมฝั่งทะเล
จะเป็นแหล่งอุตสาหกรรมที่เน้นการส่งออกเพราะท่าเรืออยู่ตรงนั้น
แต่ด้วยระบบการขนส่งที่เร่งดำเนินการเข้าสู่พื้นที่ตอนใน
แหล่งอุตส่าหากรรมที่เกิดใหม่จะทะยอยเข้าไปสู่ด้านในด้วยเหตุผลนานัปการ
ทั้งค่าแรงที่ถูกกว่า ภาษีพิเศษกว่า ค่าจัดการดำเนินการและพื้นที่ที่กว้างกว่า
หายใจหายคอคล่องจมูกกว่าจมเลย
แล้วพื้นที่ชายฝั่งเดิมจะทำอะไร
ก็ยกระดับเป็น HUB เอเชียหรือจะโลกก็ได้
อย่างเมืองเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้...แทนที่จะมาเป็นเมืองผลิตก็ยกชั้นเป็นเมืองบริการ
ทั้งการเงิน การท่องเที่ยว หรือการค้าระหว่างประเทศไปเสีย
เพราะมาตรฐานการครองชีพที่สูงขนาดนี้
จะมาทำเป็นโรงงานผลิตเสื้อผ้า ถุงมือส่งออก อย่างไรก็ไม่คุ้ม
ทั้ง 3 Effect เป็นตัวอย่างเบื่องต้นของการแปลงวิกฤตสู่โอกาสสู่คุณภาพ
สอดคล้องกับหลักการ Dialecticของ Friedrich Enkels นักสังคมศาสตร์ชาวเยอรมัน
ว่าด้วยการพัฒนาจากปริมาณสู่คุณภาพ :)
ไว้โพสจนจบแล้ว ค่อยมาแถลงคำตอบของบรรดาผู้บริหารและ FM ในงานให้
Special Effect : แปรวิกฤตเป็นโอกาส ยกโอกาสเป็นคุณภาพ
ว้าก เพ่ย..อะอะ ไม่ใช่กังฟูแพนด้าแผลงฤทธิ์แสดงแสงเฮากวงหรือ Special Effect แต่อย่างไร
แต่หมายถึงเหตุการณ์หรือสถานการณ์พิเศษทั้งที่คาดคิดและไม่คาดคิดเกิดขึ้น
รัฐบาลสามารถจัดการหรือแปรวิกฤตเป็นโอกาสอย่างไร
Earth Quake Demand โศกนาฎกรรมล้างแผ่นดินที่เสฉวน
ผู้คนล้มตาย บาดเจ็บร่วมหลายแสน บรรดาพ่อแม่หลายครอบครัวสูญเสียจักรพรรดิองค์น้อยไปอย่างไม่มีวันกลับ
รัฐบาลต้องฟื้นฟูจิตใจประชาชนพอๆกับต้องเร่งบูรณะบ้านเมืองใหม่อย่างรวดเร็ว
เพื่อให้โลกเห็นว่าสามารถจัดการวิกฤตครั้งนี้(Crisis Management)ได้รวดเร็วก่อนโอลิมปิคจะเริ่มถึง
ฉะนั้นวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการแปลงเมืองใหม่จะได้รับผลบวก (ปูนซิเมนต์ เหล็ก กระเบื้อง โลหะต่างๆ)
การก่อสร้างครั้งนี้จะต้องถูกตรวจสอบอย่างใกล้ชิดว่าแข็งแรง มั่นคง
ไม่กลายเป็นตึกถล่มฝังผู้คนอีกรอบ
Olympic ที่กำลังจะมาถึง
เสมือนสายลมเย็น ลดความหมองเศร้าจากโศกนาฎกรรมที่เสฉวนได้บ้าง
(คล้ายๆกับบ้านเรา ปีไหนที่เศร้าโศก หรือขัดแย้ง พอมีซีเกมส์ หรือเอเชี่ยนเกมส์
คนไทยก็หยุดหงุดหงิดชั่วขณะ ไปเชียร์กีฬาก่อนแล้วค่อยกลับมาตีกันใหม่)
ถ้ามองเป็นเพียงสายลมพัดผ่านชั่วคราว
มาแล้วก็ไปก็คงไม่มีความหม่ายอะไร
แต่ Halo Effect ที่จะเกิดตามติดมาก็คือ
การสร้างคุณภาพของวงการกีฬาจีนให้มีคุณภาพมากขึ้น
(โอ้โฮ แค่นี้ จีนก็กวาดเหรียญทองไปเกือบหมดแล้ว จะสร้างอะไรนักหนา)
เราจะเห็นนักกีฬาคนเก่งสัญชาติจีนออกสู้ระดับอินเตอร์มากขึ้น
ไม่ใช่แค่นักบาสตัวโหย่งอย่าง "เหยาหมิง " คนเดียว
เราจะเห็นโค้ชจีนเก่งๆ ออกสู่และถูกแย่งชิงในวงการกีฬาโลกมากขึ้น
(อะฮ้า อย่างงั้นเชียว ใครในเวปเราเก่งๆรีบสมัครเป็นโคตรเอ๊ย Coach ที่นั่นเร็วๆ)
เราจะเห็นกีฬา Match สำคัญๆไปจัดที่จีนมากขึ้น
(แน่นอน สนามมาตรฐานโอลิมปิคก็มีพร้อม จะปล่อยให้ร้างๆเฉยๆได้อย่างไร
เงินทั้งน้าน)
เหล่านี้ก็คือการใช้กลยุทธ์ Sport Marketing
กระตุ้นเศรษฐกิจภาค..อะไรดีหว่า ภาคพลกำลัง ดีมั้ย คร้าบ :lol:
แล้วใครจะได้ประโยชน์ส่วนนี้ บริษัทขายอุปกรณ์กีฬา ผู้จัดและดำเนินการถ่ายทอด
มีเดีย สปอนเซอร์ทั้งหลายที่จะแห่เข้าไปขอติดชื่อป้ายตัวเองข้างสนาม
เอ้า อีกสักตัวอย่าง Service Era Effect
แต่ไหนแต่ไรมา มณฑลพื้นที่ทางริมฝั่งทะเล
จะเป็นแหล่งอุตสาหกรรมที่เน้นการส่งออกเพราะท่าเรืออยู่ตรงนั้น
แต่ด้วยระบบการขนส่งที่เร่งดำเนินการเข้าสู่พื้นที่ตอนใน
แหล่งอุตส่าหากรรมที่เกิดใหม่จะทะยอยเข้าไปสู่ด้านในด้วยเหตุผลนานัปการ
ทั้งค่าแรงที่ถูกกว่า ภาษีพิเศษกว่า ค่าจัดการดำเนินการและพื้นที่ที่กว้างกว่า
หายใจหายคอคล่องจมูกกว่าจมเลย
แล้วพื้นที่ชายฝั่งเดิมจะทำอะไร
ก็ยกระดับเป็น HUB เอเชียหรือจะโลกก็ได้
อย่างเมืองเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้...แทนที่จะมาเป็นเมืองผลิตก็ยกชั้นเป็นเมืองบริการ
ทั้งการเงิน การท่องเที่ยว หรือการค้าระหว่างประเทศไปเสีย
เพราะมาตรฐานการครองชีพที่สูงขนาดนี้
จะมาทำเป็นโรงงานผลิตเสื้อผ้า ถุงมือส่งออก อย่างไรก็ไม่คุ้ม
ทั้ง 3 Effect เป็นตัวอย่างเบื่องต้นของการแปลงวิกฤตสู่โอกาสสู่คุณภาพ
สอดคล้องกับหลักการ Dialecticของ Friedrich Enkels นักสังคมศาสตร์ชาวเยอรมัน
ว่าด้วยการพัฒนาจากปริมาณสู่คุณภาพ :)
-
- Verified User
- โพสต์: 987
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในจีน : การลงทุนที่ย้าว...ยาว
โพสต์ที่ 18
เสี่ยงแค่ไหนถ้าอยากจะลงทุนย้าว....ยาวในจีน
ปัจจัยบวก
หนึ่ง การทุ่มงบประมาณเพื่อพัฒนา Infrastructure
รองรับเม็ดเงิน เทคโนโลยีการลงทุนจากต่างประเทศ
สอง เงินออมที่มีอย่างล้นกระเป๋าพร้อมจะลงทุนนอกประเทศ
กฏเกณฑ์ของ WTO ที่กำหนดมาตรฐานการค้าขายระดับโลก
ทำให้จีนต้องปรับขบวนการทำงานให้ถูกต้อง
โดยเฉพาะการใช้แรงงานเด็ก แรงงานผู้หญิง ซึ่งปัจจุบันยังหลบๆซ่อนๆ
ทำให้หลายประเทศไม่ยินยอมที่จะสั่งซื้อสินค้าจีน
(นอกจากปัญหาคุณภาพที่ไม่สม่ำเสมอแล้ว)
หากปฎิบัติได้ก็จะมี Order เพิ่มขึ้นอีก
ข้อนี้ SME จะเสียเปรียบหน่อย เพราะเมื่อปรับสภาพการทำงาน สิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นก็ต้องมี Cost เพิ่มขึ้น
การยกระดับแรงงาน คนทำงานให้มีความรู้มากขึ้น
เห็นได้จากสถาบันการศึกษาใหญ่ๆ Ivy League
ไปเปิดรับในตลาดการศึกษาจีนกันโขลงใหญ่..แปร๋น แปร๋น เรียกบรรดาตี๋ หมวยให้เข้า Class เป็นกระแส
ขณะเดียวกันนายฝรั่งทั้งหลายก็ต้องเข้า Course ฝึกพูด เรียนภาษาจีนด้วยเช่นกัน
ปัจจัยลบ
เงินเฟ้อ ที่ผ่านมาเฟ้อเพราะภาคเกษตร อาหาร เนื่องจากผลกระทบจากภัยพิบัติธรรมชาติ ทำให้พืชผลการเกษตรเสียหาย
ซึ่งควบคุมได้ระดับหนึ่ง
ณ วันนี้หลังจากปล่อยราคาน้ำมันขึ้น 18% (ใช่หริอเปล่า)
หลังจากเข้าไปแบกภาระชดเชยอยู่นานสองนาน เงินเฟ้อจะถีบตัวสูงกว่านี้ แต่ในสายตาวิทยากรบอกว่า ระยะสั้นเท่านั้นเอง
ผลดีตามมาก็คือ ผู้บริโภคจะปรับตัวและประหยัด ไม่เติมน้ำมันฟุ้มเฟือยเกินไป
ความร้อนแรงของอสังหาริมทรัพย์ ปัจจุบันได้ลดลงไปแล้ว
พอๆกับความร้อนแรงของตลาดหุ้นเมื่อสองสามปีที่แล้ว
จะเห็นบรรดาอากง อาม่า อาเจ๊ก อาแป๊ะ มาเข้าคิวหน้าห้องค้าตั้งแต่ตี 5
เพื่อเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ :roll:
การบริหารจัดการ Crisis Management จะทำได้ดีเพียงใด ซึ่งจะพิสูจน์จากกรณี โศกนาฎกรรมที่เสฉวน
การถูกกีดกันการค้าจากทั่วโลกด้วย NTB (Non Tariff Barrier)
การวางตัวและ Deal กับสายตาชาวโลกอย่างไร
เช่น ท่าทีที่ไม่สนใจหรือเพิกเฉยกับเสียงเรียกร้องประชาคมโลก
ต่อการลงทุนของจีนในดินแดนที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน (เช่น พม่า ซูดาน กูรูคิดเอง) :twisted:
ปัจจัยบวก
หนึ่ง การทุ่มงบประมาณเพื่อพัฒนา Infrastructure
รองรับเม็ดเงิน เทคโนโลยีการลงทุนจากต่างประเทศ
สอง เงินออมที่มีอย่างล้นกระเป๋าพร้อมจะลงทุนนอกประเทศ
กฏเกณฑ์ของ WTO ที่กำหนดมาตรฐานการค้าขายระดับโลก
ทำให้จีนต้องปรับขบวนการทำงานให้ถูกต้อง
โดยเฉพาะการใช้แรงงานเด็ก แรงงานผู้หญิง ซึ่งปัจจุบันยังหลบๆซ่อนๆ
ทำให้หลายประเทศไม่ยินยอมที่จะสั่งซื้อสินค้าจีน
(นอกจากปัญหาคุณภาพที่ไม่สม่ำเสมอแล้ว)
หากปฎิบัติได้ก็จะมี Order เพิ่มขึ้นอีก
ข้อนี้ SME จะเสียเปรียบหน่อย เพราะเมื่อปรับสภาพการทำงาน สิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นก็ต้องมี Cost เพิ่มขึ้น
การยกระดับแรงงาน คนทำงานให้มีความรู้มากขึ้น
เห็นได้จากสถาบันการศึกษาใหญ่ๆ Ivy League
ไปเปิดรับในตลาดการศึกษาจีนกันโขลงใหญ่..แปร๋น แปร๋น เรียกบรรดาตี๋ หมวยให้เข้า Class เป็นกระแส
ขณะเดียวกันนายฝรั่งทั้งหลายก็ต้องเข้า Course ฝึกพูด เรียนภาษาจีนด้วยเช่นกัน
ปัจจัยลบ
เงินเฟ้อ ที่ผ่านมาเฟ้อเพราะภาคเกษตร อาหาร เนื่องจากผลกระทบจากภัยพิบัติธรรมชาติ ทำให้พืชผลการเกษตรเสียหาย
ซึ่งควบคุมได้ระดับหนึ่ง
ณ วันนี้หลังจากปล่อยราคาน้ำมันขึ้น 18% (ใช่หริอเปล่า)
หลังจากเข้าไปแบกภาระชดเชยอยู่นานสองนาน เงินเฟ้อจะถีบตัวสูงกว่านี้ แต่ในสายตาวิทยากรบอกว่า ระยะสั้นเท่านั้นเอง
ผลดีตามมาก็คือ ผู้บริโภคจะปรับตัวและประหยัด ไม่เติมน้ำมันฟุ้มเฟือยเกินไป
ความร้อนแรงของอสังหาริมทรัพย์ ปัจจุบันได้ลดลงไปแล้ว
พอๆกับความร้อนแรงของตลาดหุ้นเมื่อสองสามปีที่แล้ว
จะเห็นบรรดาอากง อาม่า อาเจ๊ก อาแป๊ะ มาเข้าคิวหน้าห้องค้าตั้งแต่ตี 5
เพื่อเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ :roll:
การบริหารจัดการ Crisis Management จะทำได้ดีเพียงใด ซึ่งจะพิสูจน์จากกรณี โศกนาฎกรรมที่เสฉวน
การถูกกีดกันการค้าจากทั่วโลกด้วย NTB (Non Tariff Barrier)
การวางตัวและ Deal กับสายตาชาวโลกอย่างไร
เช่น ท่าทีที่ไม่สนใจหรือเพิกเฉยกับเสียงเรียกร้องประชาคมโลก
ต่อการลงทุนของจีนในดินแดนที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน (เช่น พม่า ซูดาน กูรูคิดเอง) :twisted:
-
- Verified User
- โพสต์: 987
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในจีน : การลงทุนที่ย้าว...ยาว
โพสต์ที่ 19
ก้าวเดินที่ไม่ซ้ำรอย
สรุป Strategy Path ของจีนนับแต่นี้ ในสายตาของกูรูมีไม่กี่ข้อ (อ่านมาตั้งนานเนอะ อิอิ)
โตจากภายใน (สาธารณูปโภค การบริโภคและการลงทุน)
ยกระดับขึ้นอินเตอร์ ( ปรับทุกอุตสาหกรรมให้มีคุณภาพเทียบมาตรฐานโลก มีตัวอย่างญี่ปุ่น เกาหลีให้เห็นใกล้ๆอยู่แล้ว)
กระโดดออกไปข้างนอก ( ลงทุนร่วมกับประเทศด้อยพัฒนา ยกระดับบริษัทขึ้นชั้นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สำคัญๆ)
แค่นี้ล่ะครับ จบแล้ว :lol:
สรุป Strategy Path ของจีนนับแต่นี้ ในสายตาของกูรูมีไม่กี่ข้อ (อ่านมาตั้งนานเนอะ อิอิ)
โตจากภายใน (สาธารณูปโภค การบริโภคและการลงทุน)
ยกระดับขึ้นอินเตอร์ ( ปรับทุกอุตสาหกรรมให้มีคุณภาพเทียบมาตรฐานโลก มีตัวอย่างญี่ปุ่น เกาหลีให้เห็นใกล้ๆอยู่แล้ว)
กระโดดออกไปข้างนอก ( ลงทุนร่วมกับประเทศด้อยพัฒนา ยกระดับบริษัทขึ้นชั้นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สำคัญๆ)
แค่นี้ล่ะครับ จบแล้ว :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 987
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในจีน : การลงทุนที่ย้าว...ยาว
โพสต์ที่ 20
มาอ่านอีกที ขอเปลี่ยนบางประโยคนิดหน่อย
เพราะนึกดูอีกที
พี่หมีกังฟูแพนด้าก็กำลังจะคล้อยๆน้องซามูไรกับน้องแดจังกึมเหมือนกัน
เอาล่ะมาตอบคำถามที่ค้าง
น่าจะแปลว่าซื้อไปเท่าตัวเพื่อถัวเฉลี่ยต้นทุน โดยทำเป็นร่ายเดือน Dollar Cost Average
เพราะมี Rate แลกเปลี่ยนอยู่บนเวปไซค์ของ บลจ.
รบกวนผู้รู้ที่ซื้อกองทุนนี้มาให้ข้อมูลครับ
หรือ Brief สถานการณ์ต่างๆให้ผู้ร่วมลงทุน
จะเป็นจดหมายข่าวหรือจัดอภิปรายแบบนี้ก่อนหน้าก็จะดี
อันนี้ฟังมาข้อเสนอแนะจากบรรดาผู้ร่วมสัมมนาครับ
คนเวียดนามขณะนี้ ไม่มีอะไรจะเท่เท่ากับ
ขี่มอเตอร์ไซค์ฮอนด้าที่ผลิตจากเมืองไทย
ดื่มกระทิงแดงไปด้วย
หรือ เคี้ยวขนมปังฝรั่งเศสที่สอดไส้ปลากระป๋องตราสามแม่ครัว :lol:
ขอเปลี่ยนเป็น ก้าวเดิน 3 ประสานก้าวเดินที่ไม่ซ้ำรอย
เพราะนึกดูอีกที
พี่หมีกังฟูแพนด้าก็กำลังจะคล้อยๆน้องซามูไรกับน้องแดจังกึมเหมือนกัน
เอาล่ะมาตอบคำถามที่ค้าง
MD หญิงของ TMBAM ตอบว่า เธอเองก็ขาดทุนแต่ใช้วิธี Double Positionจนบัดนี้ก็ยังถืออยู่ ไม่รู้MDเข้าขายไปหรือยัง กะว่าถือยาวววววว เหมือนรูปที่โฆษณากองทุนใช้รูปกำแพงเมืองจีน ความจริงผมหน้าจะนึกได้ว่าไห๊ม
น่าจะแปลว่าซื้อไปเท่าตัวเพื่อถัวเฉลี่ยต้นทุน โดยทำเป็นร่ายเดือน Dollar Cost Average
ตามความเข้าใจของกูรูน่าจะเป็นเหรียญดอลล่าร์ฮ่องกงนะครับแล้วถ้าซื้อกองนี้ เนื่องจากไปซื้อปลีกมาจากกอง HK2823, ผมมีคำถามอีกนิดเดียวว่า F/X ที่จะเปลี่ยนแปลงไป against Th Bht นี่..........เป็น HK หรือ CNY อ่ะครับ? ผมคิดเอาเองว่าน่าจะเป็น CNY, เพื่อนบอกว่าเป็น HK เพราะเป็นกองของฮ่องกง แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอ่ะครับ...........
เพราะมี Rate แลกเปลี่ยนอยู่บนเวปไซค์ของ บลจ.
รบกวนผู้รู้ที่ซื้อกองทุนนี้มาให้ข้อมูลครับ
ถูกต้องครับ แต่ปัญหาที่ผ่านมาคือ บลจ.ไม่มีโอกาสได้ทำความเข้าใจกองนี้เป็น Index fund นิครับ
ไปโทษ FM เเละ บลจ ไม่ได้หรอกครับ
มันเป็น index คนซื้อต้องตามหาข้อมูลเอง
เเต่ดูๆ ตอนนี้ก็น่าสน นะ
หรือ Brief สถานการณ์ต่างๆให้ผู้ร่วมลงทุน
จะเป็นจดหมายข่าวหรือจัดอภิปรายแบบนี้ก่อนหน้าก็จะดี
อันนี้ฟังมาข้อเสนอแนะจากบรรดาผู้ร่วมสัมมนาครับ
อะหา เก่งจริงๆ :lol:กลุ่มไหนครับ
เดาว่า
มอเตอร์ไซด์ฮอนด้า กระทิงแดง โออิชิ ปลากระป๋องปุมปุ้ย สามแม่ครัว มาม่า เครื่องสำอางไทย แบรนด์ต่างๆ อินเด็กซ์ คอนเซ็บ ตู้เซฟ
อะไรอีกอะ
คนเวียดนามขณะนี้ ไม่มีอะไรจะเท่เท่ากับ
ขี่มอเตอร์ไซค์ฮอนด้าที่ผลิตจากเมืองไทย
ดื่มกระทิงแดงไปด้วย
หรือ เคี้ยวขนมปังฝรั่งเศสที่สอดไส้ปลากระป๋องตราสามแม่ครัว :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 84
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในจีน : การลงทุนที่ย้าว...ยาว
โพสต์ที่ 21
ที่จริงผมก็สนใจลงทุนในจีนเหมือนกัน แต่หลังจากอ่านข่าวที่ bloomberg ก็ยังชักไม่มั่นใจอยู่ดีว่า ตอนนี้น่าซื้อหรือป่าว รู้สึกว่ามันน่าจะลงไปได้อีกน้า
ลองอ่านดูเองละกันครับ
http://www.bloomberg.com/apps/news?pid= ... pPkxTdo9A4
ลองอ่านดูเองละกันครับ
http://www.bloomberg.com/apps/news?pid= ... pPkxTdo9A4