น้องเจ๋งถึงดร.นิเวศน์
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
น้องเจ๋งถึงดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 1
ตลาดหุ้นบ้านเรา
ผมว่า มีจำนวนคนมาเล่นน้อยมาก และมีบริษัทดีๆน้อยมาก คนที่มาเล่นส่วนใหญ่ก็ต้องการกำไรมากๆ อย่างรวดเร็ว สำหรับมือใหม่ทั้งหลายก็ตกเป็นเหยื่อของความโลภของตัวเอง เพราะรุ่นเก่าๆทั้งหลาย รู้วิธีเล่นแล้ว
คนไทย 60 ล้านคน คนที่มีเงินเกิน 10 ล้านบาท มี 57500 คนโดยประมาณ แต่แทนที่จะมีเงิน 575000 ล้านบาท กลับมีเงิน 2 ล้านๆ โดยประมาณ จาก 5 ล้านล้านบาท คนเหล่านี้มีหลายคนที่ลงทุนในตลาด สมดั่งคำที่ว่าคนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุน
หุ้นในเมืองไทยนั้น หุ้นที่เป็นแนวลงทุนระยะยาว มีผลประกอบการที่ดี มีกำไร มีปันผล และราคาอยู่ในจุดที่น่าซื้อเพื่อถือยาว มีน้อยตัวมาก แต่ก็มากพอ ที่จะให้มือใหม่ทั้งหลาย เลือกลงทุนได้ตามใจชอบ เพียงแต่เมื่อลงทุนไปแล้ว ก็ต้องเข้าใจ และทำใจ ที่จะถือหุ้นตัวนั้นไว้นานๆ และปล่อยให้เพื่อนๆที่เล่นเก็งกำไร แล้วมาทับถม ว่าเล่นหุ้นอะไร ทำไมได้กำไรน้อยจัง เขาเล่นแป๊ปเดียวกำไรตั้งเยอะ แต่เมื่อเวลาผ่านไปนักเก็งกำไรทั้งหลายก็ขาดทุน และไม่กล้าแม้แต่จะพูดเรื่องขาดทุนให้เพื่อนๆที่ตัวเองเคยทับถมมาก่อน
หุ้นส่วนใหญ่ในเมืองไทย ที่มีสภาพคล่องเกิน 20 ล้านบาทต่อวัน นั่นหมายถึง มีการจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้เหล่าบรรดา นักวิเคราะห์ มาร์เก็ตติ้งและโบรกเกอร์ เป็นจำนวนเงินสูงถึง 1 ล้านบาทต่อวัน มีสูงถึง 76 ตัวจาก ทั้งหมดที่มีการซื้อขาย 536 ตัว ( รวมวอแร้น )
อย่างไรก็ตามผมคิดว่า เมืองไทยยังเป็นอย่างนี้ไปอีกนาน ถึงแม้ว่าผมจะรู้ว่า การลงทุนระยะยาว เป็นเรื่องที่ดี และถูกต้อง แต่ผมก็สนุกสนานกับการลงทุนระยะสั้นถึงสั้นมาก เพราะทำให้หัวใจสูบฉีด ( เลือดรัก VS ในกายผมเดือดผล่าน )
การลงทุนระยะยาว ราคาของหุ้นมักสะท้อนกับผลประกอบการ แต่การลงทุนระยะสั้นนั้น ราคาไม่สะท้อนเลย ราคามักจะขึ้น แล้วลง แล้วก็ขึ้น ตามแต่ตลาดจะพาไป บางครั้ง คิดว่าน้ำมันขึ้น หุ้นจะลง หุ้นกลับขึ้น หรือ น้ำมันลง หุ้นจะขึ้น หุ้นกลับลง เป็นต้น
ผมสังเกตุเห็นว่า หุ้นในเมืองไทย มีคนเข้ามาเล่นน้อย ถึงน้อยมาก ขนาดนับหุ้นได้เลย คือ จ้าวทั้งหลาย นับหุ้นเลยครับ ตั้งทั้งบิดและออฟเฟอร์ พอมีใครเข้าไปซื้อ ก็เป็นทีของจ้าวแล้ว ว่าจะให้รายย่อยยับท่านนั้นได้กำไรหรือขาดทุน
ผมเองเมื่อฝึกฝีมือในการเก็งกำไรไปอีกซัก 2 ปี ผมก็จะกลับมาเล่นแนว vi อีกครั้ง เพราะมันต่างกันเยอะมาก ทั้งแนวคิด หลักการ กลยุธ วิธีตัดสินใจ การเอาตัวรอด เวลาสำหรับครอบครัว ต่างกันจนอดสงสัยไม่ได้ ว่ามาอยู่รวมกันในตลาดเดียวกันได้อย่างไร
ผมเชื่อว่าเว็บ TVI แห่งนี้จะเป็นตัวส่งเสริมให้การลงทุนแนว VI เป็นแนวทางการลงทุนที่ทำให้ประเทศชาติพัฒนา เพราะลำพังแต่การเล่นเก็งกำไร ไม่ได้ทำให้นักลงทุนเข้าใจสภาพเศรษฐกิจ สภาพธุรกิจ และไม่สามารถจะพัฒนาไปลงทุนข้ามชาติได้ แต่การลงทุนแนว VI นั้นในที่สุด จะสุกงอม และมีกลุ่มทุนที่มีแกนนำชัดเจน ออกมาทำการระดมทุนเพื่อลงทุนในแนวนี้
อย่างไรก็ตามขอให้เป็นไปในลักษณะอยากลงทุนให้ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่อยากเป็น VI สมดั่งคำว่า แมวสีอะไรขอให้จับหนูได้
ผมไม่ได้จุดชนวนเรื่อง VS VI แต่ผมคิดแบบนี้ และผมก็มีสิทธิ์ที่จะคิด ใครมาต่อว่า ผมก็ลบ ใครแสดงความเห็นอย่างมีเหตุมีผลผมก็ปล่อยไว้
สักวันหนึ่งข้างหน้า ถ้าดร.นิเวศน์เบื่องานแบงค์ แล้วออกมาระดมทุน 10000 ล้านบาท เพื่อลงทุนแนว VI ผมเชื่อว่าจะมีคนลงทุนกับดร.นิเวศน์แน่นอน
คงต้องรอวันนั้น
อย่างไรก็ตามผมหวังว่าดร.นิเวศน์จะรีบๆเปิดบริษัท bershire 2 ขึ้นมาในเมืองไทยโดยเร็ว
น้องเจ๋งถึงดร.นิเวศน์
ผมว่า มีจำนวนคนมาเล่นน้อยมาก และมีบริษัทดีๆน้อยมาก คนที่มาเล่นส่วนใหญ่ก็ต้องการกำไรมากๆ อย่างรวดเร็ว สำหรับมือใหม่ทั้งหลายก็ตกเป็นเหยื่อของความโลภของตัวเอง เพราะรุ่นเก่าๆทั้งหลาย รู้วิธีเล่นแล้ว
คนไทย 60 ล้านคน คนที่มีเงินเกิน 10 ล้านบาท มี 57500 คนโดยประมาณ แต่แทนที่จะมีเงิน 575000 ล้านบาท กลับมีเงิน 2 ล้านๆ โดยประมาณ จาก 5 ล้านล้านบาท คนเหล่านี้มีหลายคนที่ลงทุนในตลาด สมดั่งคำที่ว่าคนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุน
หุ้นในเมืองไทยนั้น หุ้นที่เป็นแนวลงทุนระยะยาว มีผลประกอบการที่ดี มีกำไร มีปันผล และราคาอยู่ในจุดที่น่าซื้อเพื่อถือยาว มีน้อยตัวมาก แต่ก็มากพอ ที่จะให้มือใหม่ทั้งหลาย เลือกลงทุนได้ตามใจชอบ เพียงแต่เมื่อลงทุนไปแล้ว ก็ต้องเข้าใจ และทำใจ ที่จะถือหุ้นตัวนั้นไว้นานๆ และปล่อยให้เพื่อนๆที่เล่นเก็งกำไร แล้วมาทับถม ว่าเล่นหุ้นอะไร ทำไมได้กำไรน้อยจัง เขาเล่นแป๊ปเดียวกำไรตั้งเยอะ แต่เมื่อเวลาผ่านไปนักเก็งกำไรทั้งหลายก็ขาดทุน และไม่กล้าแม้แต่จะพูดเรื่องขาดทุนให้เพื่อนๆที่ตัวเองเคยทับถมมาก่อน
หุ้นส่วนใหญ่ในเมืองไทย ที่มีสภาพคล่องเกิน 20 ล้านบาทต่อวัน นั่นหมายถึง มีการจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้เหล่าบรรดา นักวิเคราะห์ มาร์เก็ตติ้งและโบรกเกอร์ เป็นจำนวนเงินสูงถึง 1 ล้านบาทต่อวัน มีสูงถึง 76 ตัวจาก ทั้งหมดที่มีการซื้อขาย 536 ตัว ( รวมวอแร้น )
อย่างไรก็ตามผมคิดว่า เมืองไทยยังเป็นอย่างนี้ไปอีกนาน ถึงแม้ว่าผมจะรู้ว่า การลงทุนระยะยาว เป็นเรื่องที่ดี และถูกต้อง แต่ผมก็สนุกสนานกับการลงทุนระยะสั้นถึงสั้นมาก เพราะทำให้หัวใจสูบฉีด ( เลือดรัก VS ในกายผมเดือดผล่าน )
การลงทุนระยะยาว ราคาของหุ้นมักสะท้อนกับผลประกอบการ แต่การลงทุนระยะสั้นนั้น ราคาไม่สะท้อนเลย ราคามักจะขึ้น แล้วลง แล้วก็ขึ้น ตามแต่ตลาดจะพาไป บางครั้ง คิดว่าน้ำมันขึ้น หุ้นจะลง หุ้นกลับขึ้น หรือ น้ำมันลง หุ้นจะขึ้น หุ้นกลับลง เป็นต้น
ผมสังเกตุเห็นว่า หุ้นในเมืองไทย มีคนเข้ามาเล่นน้อย ถึงน้อยมาก ขนาดนับหุ้นได้เลย คือ จ้าวทั้งหลาย นับหุ้นเลยครับ ตั้งทั้งบิดและออฟเฟอร์ พอมีใครเข้าไปซื้อ ก็เป็นทีของจ้าวแล้ว ว่าจะให้รายย่อยยับท่านนั้นได้กำไรหรือขาดทุน
ผมเองเมื่อฝึกฝีมือในการเก็งกำไรไปอีกซัก 2 ปี ผมก็จะกลับมาเล่นแนว vi อีกครั้ง เพราะมันต่างกันเยอะมาก ทั้งแนวคิด หลักการ กลยุธ วิธีตัดสินใจ การเอาตัวรอด เวลาสำหรับครอบครัว ต่างกันจนอดสงสัยไม่ได้ ว่ามาอยู่รวมกันในตลาดเดียวกันได้อย่างไร
ผมเชื่อว่าเว็บ TVI แห่งนี้จะเป็นตัวส่งเสริมให้การลงทุนแนว VI เป็นแนวทางการลงทุนที่ทำให้ประเทศชาติพัฒนา เพราะลำพังแต่การเล่นเก็งกำไร ไม่ได้ทำให้นักลงทุนเข้าใจสภาพเศรษฐกิจ สภาพธุรกิจ และไม่สามารถจะพัฒนาไปลงทุนข้ามชาติได้ แต่การลงทุนแนว VI นั้นในที่สุด จะสุกงอม และมีกลุ่มทุนที่มีแกนนำชัดเจน ออกมาทำการระดมทุนเพื่อลงทุนในแนวนี้
อย่างไรก็ตามขอให้เป็นไปในลักษณะอยากลงทุนให้ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่อยากเป็น VI สมดั่งคำว่า แมวสีอะไรขอให้จับหนูได้
ผมไม่ได้จุดชนวนเรื่อง VS VI แต่ผมคิดแบบนี้ และผมก็มีสิทธิ์ที่จะคิด ใครมาต่อว่า ผมก็ลบ ใครแสดงความเห็นอย่างมีเหตุมีผลผมก็ปล่อยไว้
สักวันหนึ่งข้างหน้า ถ้าดร.นิเวศน์เบื่องานแบงค์ แล้วออกมาระดมทุน 10000 ล้านบาท เพื่อลงทุนแนว VI ผมเชื่อว่าจะมีคนลงทุนกับดร.นิเวศน์แน่นอน
คงต้องรอวันนั้น
อย่างไรก็ตามผมหวังว่าดร.นิเวศน์จะรีบๆเปิดบริษัท bershire 2 ขึ้นมาในเมืองไทยโดยเร็ว
น้องเจ๋งถึงดร.นิเวศน์
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
น้องเจ๋งถึงดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 2
ทำไมเสนอให้ท่านดร.นิเวศน์ ระดมทุน 10000 ล้านบาท
เพราะ
1. ดอกเบี้ยต่ำมาก และมีเงินอยู่ในแบงค์เยอะมากที่ไม่ได้ทำอะไร
2. ความรู้ในการลงทุน ท่านดร.พิสูจน์ตัวเองแล้วในระดับหนึ่ง
3. ตลาดบ้านเรา มีความล่อแหลม ในการขาดทุนอย่างมาก
4. กองทุนในบ้านเรามีความเสี่ยงจากการถอนหน่วยการลงทุน แต่ถ้าเป็นรูปบริษัทที่สามารถซื้อขายหุ้นได้ ทำให้เกิดความมั่นคงในการบริหารพอร์ทการลงทุน
ต้นทุนในการบริหารงาน สมมุติ 1 % เท่ากับ 100 ล้านบาท ต่อปี จะทำให้ทีมงานของดร.นิเวศน์ สามารถไปวิเคราะห์เจาะลึกกิจการต่างๆได้ เนื่องจากหุ้นดีๆจำนวนมาก ขาดสภาพคล่อง ทำให้โบรกเกอร์ ไม่ทำบทวิเคราะห์เพราะไม่คุ้มที่จะทำ เนื่องจากไม่ได้คอมมิชชั่น
การทำกำไรประมาณ 15 % ต่อปีอย่างสม่ำเสมอ น่าจะเป็นอะไรที่ดร.นิเวศน์สามารถทำได้อย่างยาวนาน
โดยปกติตลาดหุ้นมีคนจำนวนมากเข้ามาเล่นแล้วขาดทุนออกไป คนเหล่านั้นมีเงินพร้อมจะเล่น แต่ขาดเวลา + หลักการในการเล่น ไม่ใช่ไม่อยากลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
ก็เป็นไอเดียเล่นๆ แต่อยากให้เป็นจริง
เพราะ
1. ดอกเบี้ยต่ำมาก และมีเงินอยู่ในแบงค์เยอะมากที่ไม่ได้ทำอะไร
2. ความรู้ในการลงทุน ท่านดร.พิสูจน์ตัวเองแล้วในระดับหนึ่ง
3. ตลาดบ้านเรา มีความล่อแหลม ในการขาดทุนอย่างมาก
4. กองทุนในบ้านเรามีความเสี่ยงจากการถอนหน่วยการลงทุน แต่ถ้าเป็นรูปบริษัทที่สามารถซื้อขายหุ้นได้ ทำให้เกิดความมั่นคงในการบริหารพอร์ทการลงทุน
ต้นทุนในการบริหารงาน สมมุติ 1 % เท่ากับ 100 ล้านบาท ต่อปี จะทำให้ทีมงานของดร.นิเวศน์ สามารถไปวิเคราะห์เจาะลึกกิจการต่างๆได้ เนื่องจากหุ้นดีๆจำนวนมาก ขาดสภาพคล่อง ทำให้โบรกเกอร์ ไม่ทำบทวิเคราะห์เพราะไม่คุ้มที่จะทำ เนื่องจากไม่ได้คอมมิชชั่น
การทำกำไรประมาณ 15 % ต่อปีอย่างสม่ำเสมอ น่าจะเป็นอะไรที่ดร.นิเวศน์สามารถทำได้อย่างยาวนาน
โดยปกติตลาดหุ้นมีคนจำนวนมากเข้ามาเล่นแล้วขาดทุนออกไป คนเหล่านั้นมีเงินพร้อมจะเล่น แต่ขาดเวลา + หลักการในการเล่น ไม่ใช่ไม่อยากลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
ก็เป็นไอเดียเล่นๆ แต่อยากให้เป็นจริง
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
น้องเจ๋งถึงดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 3
ขอต่อยอดครับ
ต้นทุนในการบริหารงานน่าจะมากกว่า 1% ต่อปีนะครับ
ผมคิดว่าควรจะใช้ rate 0.1 - 0.2% ของ NAV ต่อสองสัปดาห์
ถ้าจะให้ดีกองทุนนี้ควรจะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
เพื่อป้องกันปัญหาการถอนเงินออกจากกองทุน คือใครต้อง
การขายก็ให้ไปขายในตลาดแทนที่จะดึงเงินสดออกจาก
กองทุน
อาจจะมีการจ่ายปันผลจากการดำเนินงานสัก 20% ของ
กำไร (เฉพาะส่วนของเงินปันผลจากเงินลงทุน) และปันผล
ที่เหลือบวก capital gain ให้ใส่กลับเข้าไปลงทุนต่อ
อาจจะมีการทำ PO อีกปีละ 1 ครั้งหรือตามต้องการ เพื่อดึงเงิน
ใหม่เข้าระบบด้วย
กองทุนควรจะมีนโยบายเข้าไปลงทุนในตราสารอื่นๆ ได้ด้วย
แต่ต้องมีนโยบายจำกัดความเสี่ยงที่ชัดเจน
ต้นทุนในการบริหารงานน่าจะมากกว่า 1% ต่อปีนะครับ
ผมคิดว่าควรจะใช้ rate 0.1 - 0.2% ของ NAV ต่อสองสัปดาห์
ถ้าจะให้ดีกองทุนนี้ควรจะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
เพื่อป้องกันปัญหาการถอนเงินออกจากกองทุน คือใครต้อง
การขายก็ให้ไปขายในตลาดแทนที่จะดึงเงินสดออกจาก
กองทุน
อาจจะมีการจ่ายปันผลจากการดำเนินงานสัก 20% ของ
กำไร (เฉพาะส่วนของเงินปันผลจากเงินลงทุน) และปันผล
ที่เหลือบวก capital gain ให้ใส่กลับเข้าไปลงทุนต่อ
อาจจะมีการทำ PO อีกปีละ 1 ครั้งหรือตามต้องการ เพื่อดึงเงิน
ใหม่เข้าระบบด้วย
กองทุนควรจะมีนโยบายเข้าไปลงทุนในตราสารอื่นๆ ได้ด้วย
แต่ต้องมีนโยบายจำกัดความเสี่ยงที่ชัดเจน
-
- ผู้ติดตาม: 0
น้องเจ๋งถึงดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 4
ผมเห็นด้วยครับ แต่รัฐส่งเสริม การลงทุนน้อยมากๆ เลย ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะครับ และรายย่อยที่จะเข้ามาลงทุน ก็โดนนักเก็งกำไร และรายใหญ่ทุบซะเละ 100 คนที่เข้ามาเต็มตัว ออกไป 60 ถ้าเจ็บตัว ก็จะมี 30 แปลงร่างกายเป็น VS 7 คนรอดูสถานะการณ์ 3 คน ก็ยังยืนหลักการเดิม สงสัยผมก็ยังเป็น 1 ใน 3 คนแน่เลย
เพราะผมยังเชื่อมั่นและกำลังศึกษาเศรษฐศาสตร์และอยากจะเก็บความรู้ความเข้าใจไปสอนน้องๆ ลูกๆหลายๆ ให้เข้าใจเศรษฐศาสตร์ของแต่ละคน
คุณ ck และคุณ jeng เป็นแนวทางที่ดีมากๆ ครับ ผมชื่นชม
อยากให้รัฐสงเสริมความรู้ความเข้าใจระบบเศรษฐศาตร์โดยรวมเพื่อเอาไปใช้ประกอบการดำเนินชีวิตประจำวันได้ครับ
เพราะผมยังเชื่อมั่นและกำลังศึกษาเศรษฐศาสตร์และอยากจะเก็บความรู้ความเข้าใจไปสอนน้องๆ ลูกๆหลายๆ ให้เข้าใจเศรษฐศาสตร์ของแต่ละคน
คุณ ck และคุณ jeng เป็นแนวทางที่ดีมากๆ ครับ ผมชื่นชม
อยากให้รัฐสงเสริมความรู้ความเข้าใจระบบเศรษฐศาตร์โดยรวมเพื่อเอาไปใช้ประกอบการดำเนินชีวิตประจำวันได้ครับ
- Young-VI
- Verified User
- โพสต์: 132
- ผู้ติดตาม: 0
น้องเจ๋งถึงดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 6
ขอต่อยอดจากพี่เจ๋งกับ พี่ CK น่ะครับ
จำได้ว่าเคยอ่านเกี่ยวกับชมรมการลงทุน
ที่บทเสริมท้ายเล่มตีแตกของดร.นิเวศน์
รู้สึกว่าท่านก็อยากให้มีเกิดขึ้นเหมือนกัน
แต่ก็ไม่รู้ว่าเหตุผลอะไร ทำไมถึงยังไม่ได้รับ
การสานต่อ ทั้งที่ก็ผ่านมานานแล้วพอสมควร
ขออนุญาตคัดลอกรายละเอียดดังกล่าว
ให้เพื่อนๆพี่ๆที่ยังไม่ได้อ่านให้ทราบนะครับ
การจัดตั้งชมรมการลงทุน
ผมเขียนหลักการลงทุนต่าง ๆ จบแล้ว มีความรู้สึกว่า ยังขาดอะไรบางอย่างที่อาจจะทำให้การลงทุนของหลายคนไม่เกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นก็ไม่มีคุณภาพพอ หรือมีคุณภาพแต่ก็ไม่สนุกถ้าทำอยู่คนเดียวการลทุนที่จะแก้ปัญหาทั้งหมดที่กล่าวถึงได้นั้นก็คือ การที่คุณมีเพื่อนลงทุน มีคนคุย หรือปรึกษาด้วย เป็นคนที่พูดจาประสาเดียวกัน เข้าใจความคิดของกันและกัน ผมจึงต้องเขียนบทนี้ขึ้นมา และแนะนำว่า ถ้าคุณมีเพื่อน หรือคุณเป็นสมาชิกของกลุ่มธุรกิจหรือของเพื่อนนักเรียนก็ดี หรือเพื่อนที่ทำกิจกรรมสังคมร่วมกันก็ดี และมีเพื่อนในกลุ่มหลายคนที่สนใจการลงทุน ทำไมไม่จัดตั้งชมรมการลงทุน (Investment Club) ขึ้นมา ถ้าคุณสนใจ หลักการและวิธีการจัดตั้งเป็นดังต่อไปนี้
หลักการของชมรมการลงทุน
1. ชมรมการลงทุน เป็นการรวมสมาชิกของผู้ที่สนใจ และต้องการลงทุนระยะยาวร่วมกัน
2. สมาชิกที่เข้าร่วม จะต้องมีส่วนร่วมในการวิเคราะห์ ให้ความเห็นเสนอแนะหุ้นที่น่าสนใจลงทุน เพื่อเสนอต่อชมรม
3. สมาชิกต้องลงเงินเข้าชมรมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การลงทุนความต่อเนื่อง และไม่ผันแปรไปกับความผันผวนของตลาดหลักทรัพย์
4. สมาชิกจะต้องมีความหลากหลายในสาขาอาชีพ เพื่อจะได้เสนอความรู้ และความคิดเห็นได้หลากหลาย เป็นประโยชน์ต่อการลงทุน
5. สมาชิกควรจะเป็นคนที่ชอบพอกัน หรือมีความคิดไปกันได้ เนื่องจากชมรมจะดำรงอยู่หลาย ๆ ปี
6. สมาชิกแต่ละคนควรมีความรับผิดชอบในหน้าที่บางประการ และอย่างน้อยต้องมาประชุมชมรมเป็นประจำ
7. การตัดสินใจที่ต้องมีการลงคะแนน จะใช้เสียงส่วนใหญ่ที่อาจจะนับโดยจำนวนทุนของแต่ละคนในชมรม หรือจะนับจากจำนวนสมาชิกก็ได้
8. สมาชิกชมรมสามารถนำข้อมูลที่ได้รับจากที่ประชุมไปใช้ในการลงทุนส่วนตัวได้
จำได้ว่าเคยอ่านเกี่ยวกับชมรมการลงทุน
ที่บทเสริมท้ายเล่มตีแตกของดร.นิเวศน์
รู้สึกว่าท่านก็อยากให้มีเกิดขึ้นเหมือนกัน
แต่ก็ไม่รู้ว่าเหตุผลอะไร ทำไมถึงยังไม่ได้รับ
การสานต่อ ทั้งที่ก็ผ่านมานานแล้วพอสมควร
ขออนุญาตคัดลอกรายละเอียดดังกล่าว
ให้เพื่อนๆพี่ๆที่ยังไม่ได้อ่านให้ทราบนะครับ
การจัดตั้งชมรมการลงทุน
ผมเขียนหลักการลงทุนต่าง ๆ จบแล้ว มีความรู้สึกว่า ยังขาดอะไรบางอย่างที่อาจจะทำให้การลงทุนของหลายคนไม่เกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นก็ไม่มีคุณภาพพอ หรือมีคุณภาพแต่ก็ไม่สนุกถ้าทำอยู่คนเดียวการลทุนที่จะแก้ปัญหาทั้งหมดที่กล่าวถึงได้นั้นก็คือ การที่คุณมีเพื่อนลงทุน มีคนคุย หรือปรึกษาด้วย เป็นคนที่พูดจาประสาเดียวกัน เข้าใจความคิดของกันและกัน ผมจึงต้องเขียนบทนี้ขึ้นมา และแนะนำว่า ถ้าคุณมีเพื่อน หรือคุณเป็นสมาชิกของกลุ่มธุรกิจหรือของเพื่อนนักเรียนก็ดี หรือเพื่อนที่ทำกิจกรรมสังคมร่วมกันก็ดี และมีเพื่อนในกลุ่มหลายคนที่สนใจการลงทุน ทำไมไม่จัดตั้งชมรมการลงทุน (Investment Club) ขึ้นมา ถ้าคุณสนใจ หลักการและวิธีการจัดตั้งเป็นดังต่อไปนี้
หลักการของชมรมการลงทุน
1. ชมรมการลงทุน เป็นการรวมสมาชิกของผู้ที่สนใจ และต้องการลงทุนระยะยาวร่วมกัน
2. สมาชิกที่เข้าร่วม จะต้องมีส่วนร่วมในการวิเคราะห์ ให้ความเห็นเสนอแนะหุ้นที่น่าสนใจลงทุน เพื่อเสนอต่อชมรม
3. สมาชิกต้องลงเงินเข้าชมรมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การลงทุนความต่อเนื่อง และไม่ผันแปรไปกับความผันผวนของตลาดหลักทรัพย์
4. สมาชิกจะต้องมีความหลากหลายในสาขาอาชีพ เพื่อจะได้เสนอความรู้ และความคิดเห็นได้หลากหลาย เป็นประโยชน์ต่อการลงทุน
5. สมาชิกควรจะเป็นคนที่ชอบพอกัน หรือมีความคิดไปกันได้ เนื่องจากชมรมจะดำรงอยู่หลาย ๆ ปี
6. สมาชิกแต่ละคนควรมีความรับผิดชอบในหน้าที่บางประการ และอย่างน้อยต้องมาประชุมชมรมเป็นประจำ
7. การตัดสินใจที่ต้องมีการลงคะแนน จะใช้เสียงส่วนใหญ่ที่อาจจะนับโดยจำนวนทุนของแต่ละคนในชมรม หรือจะนับจากจำนวนสมาชิกก็ได้
8. สมาชิกชมรมสามารถนำข้อมูลที่ได้รับจากที่ประชุมไปใช้ในการลงทุนส่วนตัวได้
- Young-VI
- Verified User
- โพสต์: 132
- ผู้ติดตาม: 0
น้องเจ๋งถึงดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 7
ข้อกำหนดต่าง ๆ ที่ควรจะมี
1. สมาชิก
การรับสมาชิก ควรจะต้องมีเกณฑ์กำหนด เช่น จะต้องมีคนรับรอง และจะต้องได้รับการสนับสนุนไม่ต่ำกว่า 2 ใน 3 ของสมาชิกทั้งหมด
การออกจากสมาชิก ถ้าลาออกควรมีค่าธรรมเนียมในการลาออก โดยหัก
ออกจากเงินที่ต้องจ่ายคืนสมาชิก และต้องบอกล่วงหน้ายกเว้นในกรณีฉุกเฉิน
หรือหุ้นในส่วนของตนให้สมาชิกอื่นได้
การปลดออกจากสมาชิก อย่างน้อยควรต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ของสมาชิกชมรม
2. การลงเงิน
ขึ้นอยู่กับรายประจำของสมาชิกส่วนใหญ่ในกลุ่มอาจจะกำหนดที่ประมาณ 5-10 เปอร์เซ็นต์ของสมาชิกระดับกลาง ๆ ของชมรม
ควรจะต้องกำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำที่สมาชิกแต่ละคนจะต้องลง และอาจเปิดโอกาสให้ลงเพิ่มได้ถึงระดับหนึ่งในแต่ละงวด
สมาชิกรายใดรายหนึ่ง ในขณะใด ๆ ไม่ควรจะมีเงินทุนเกินกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ ของเงินกองทุนทั้งหมด
การถอนเงินออกก่อนกำหนดควรจะต้องมีค่าเบี้ยปรับ
การจ่ายปันผล ควรจะมีข้อกำหนดว่า ไม่เกินกี่เปอร์เซ็นต์ของกำไรในแต่ละปี
3. เงื่อนไขการลงทุน
กองทุนของชมรมจะต้องระบุเวลาชัดเจน ว่าจะลงทุนกี่ปี
ระดับความเสี่ยงของหุ้นที่จะลงทุนควรกำหนดไว้ให้ชัดเจน
จำนวนของหุ้นที่จะลง ควรกำหนดไม่ให้มากเกินไปและควรมีการกระจายความเสี่ยงที่เหมาะสม
4. การบริหารงาน
ต้องมีผู้บริหารที่มีวาระการดำรงตำแหน่งแน่นอนและต่อได้เพียงครั้งเดียวติดต่อกัน
ตำแหน่งที่ควรจะต้องมีคือ ประธานชมรม, รองประธาน, เลขานุการชมรม,การเงินชมรม ผู้มีอำนาจสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ เป็นต้น
5. การประชุม
ควรกำหนดสถานที่ชัดเจน เช่น ร้านอาหารใจกลางเมือง
เวลาประชุม อาจกำหนดเป็นวันใดวันหนึ่งของแต่ละเดือน ในช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับทุกคน และต้องรักษาเวลาการประชุมอย่างเคร่งครัด
ควรมีบทปรับถ้ามีการขาดประชุม และถ้าขาดมากเกินไป อาจจะต้องออกจากการเป็นสมาชิก
ในกรณีที่มีการมอบฉันทะ ต้องมอบให้เฉพาะกับสมาชิกชมรมเท่านั้น
6. วาระการประชุม อย่างน้อยควรมีวาระดังต่อไปนี้
รับรองรายงานการประชุมครั้งก่อน
สรุปผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา
รายงานโอกาสการลงทุนในหลักทรัพย์ตัวใหม่
รายงานสิ่งที่ที่ประชุมได้มอบหมาย
7. อำนาจของผู้รับผิดชอบ
การเปิดบัญชีธนาคาร และการเขียนเช็ค ควรจะต้องลงนามโดยบุคคล 2 คน ที่ได้รับมอบหมายจากที่ประชมชมรม
การเปิดบัญชีซื้อขายหุ้น ควรจะมีข้อจำกัดที่รัดกุม เช่น ให้ทำได้เฉพาะการซื้อขายเท่านั้น เป็นต้น
8. สัญญาหุ้นส่วน
ชมรมการลงทุนจะต้องมีสัญญาระหว่างสมาชิกชมรมที่ทุกคนต้องลงนาม เนื้อหาในสัญญาก็คือ สิ่งที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด
1. สมาชิก
การรับสมาชิก ควรจะต้องมีเกณฑ์กำหนด เช่น จะต้องมีคนรับรอง และจะต้องได้รับการสนับสนุนไม่ต่ำกว่า 2 ใน 3 ของสมาชิกทั้งหมด
การออกจากสมาชิก ถ้าลาออกควรมีค่าธรรมเนียมในการลาออก โดยหัก
ออกจากเงินที่ต้องจ่ายคืนสมาชิก และต้องบอกล่วงหน้ายกเว้นในกรณีฉุกเฉิน
หรือหุ้นในส่วนของตนให้สมาชิกอื่นได้
การปลดออกจากสมาชิก อย่างน้อยควรต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ของสมาชิกชมรม
2. การลงเงิน
ขึ้นอยู่กับรายประจำของสมาชิกส่วนใหญ่ในกลุ่มอาจจะกำหนดที่ประมาณ 5-10 เปอร์เซ็นต์ของสมาชิกระดับกลาง ๆ ของชมรม
ควรจะต้องกำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำที่สมาชิกแต่ละคนจะต้องลง และอาจเปิดโอกาสให้ลงเพิ่มได้ถึงระดับหนึ่งในแต่ละงวด
สมาชิกรายใดรายหนึ่ง ในขณะใด ๆ ไม่ควรจะมีเงินทุนเกินกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ ของเงินกองทุนทั้งหมด
การถอนเงินออกก่อนกำหนดควรจะต้องมีค่าเบี้ยปรับ
การจ่ายปันผล ควรจะมีข้อกำหนดว่า ไม่เกินกี่เปอร์เซ็นต์ของกำไรในแต่ละปี
3. เงื่อนไขการลงทุน
กองทุนของชมรมจะต้องระบุเวลาชัดเจน ว่าจะลงทุนกี่ปี
ระดับความเสี่ยงของหุ้นที่จะลงทุนควรกำหนดไว้ให้ชัดเจน
จำนวนของหุ้นที่จะลง ควรกำหนดไม่ให้มากเกินไปและควรมีการกระจายความเสี่ยงที่เหมาะสม
4. การบริหารงาน
ต้องมีผู้บริหารที่มีวาระการดำรงตำแหน่งแน่นอนและต่อได้เพียงครั้งเดียวติดต่อกัน
ตำแหน่งที่ควรจะต้องมีคือ ประธานชมรม, รองประธาน, เลขานุการชมรม,การเงินชมรม ผู้มีอำนาจสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ เป็นต้น
5. การประชุม
ควรกำหนดสถานที่ชัดเจน เช่น ร้านอาหารใจกลางเมือง
เวลาประชุม อาจกำหนดเป็นวันใดวันหนึ่งของแต่ละเดือน ในช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับทุกคน และต้องรักษาเวลาการประชุมอย่างเคร่งครัด
ควรมีบทปรับถ้ามีการขาดประชุม และถ้าขาดมากเกินไป อาจจะต้องออกจากการเป็นสมาชิก
ในกรณีที่มีการมอบฉันทะ ต้องมอบให้เฉพาะกับสมาชิกชมรมเท่านั้น
6. วาระการประชุม อย่างน้อยควรมีวาระดังต่อไปนี้
รับรองรายงานการประชุมครั้งก่อน
สรุปผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา
รายงานโอกาสการลงทุนในหลักทรัพย์ตัวใหม่
รายงานสิ่งที่ที่ประชุมได้มอบหมาย
7. อำนาจของผู้รับผิดชอบ
การเปิดบัญชีธนาคาร และการเขียนเช็ค ควรจะต้องลงนามโดยบุคคล 2 คน ที่ได้รับมอบหมายจากที่ประชมชมรม
การเปิดบัญชีซื้อขายหุ้น ควรจะมีข้อจำกัดที่รัดกุม เช่น ให้ทำได้เฉพาะการซื้อขายเท่านั้น เป็นต้น
8. สัญญาหุ้นส่วน
ชมรมการลงทุนจะต้องมีสัญญาระหว่างสมาชิกชมรมที่ทุกคนต้องลงนาม เนื้อหาในสัญญาก็คือ สิ่งที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด
- Young-VI
- Verified User
- โพสต์: 132
- ผู้ติดตาม: 0
น้องเจ๋งถึงดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 8
ชมรมการลงทุนแห่งแรกของประเทศไทย VALUE 1
ผมรองวาดภาพดูว่าชมรมการลงทุนที่จะตั้งขึ้นแห่งหนึ่งนั้นจะมีลักษณะอย่างไร สมมติให้ชื่อว่า ชมรมการลงทุน VALUE1 ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า สมาชิกกลุ่มนี้เน้นการลงทุนแบบ Value Investment สมาชิกประกอบด้วยอดีตนักศึกษา MBA ที่เรียนจบมาจากสถานบันเดียวกันซึ่งอยากพบปะกัน สมาชิกกลุ่มนี้มีจำนวน 15 คน ซึ่งผมคิดว่าเป็นจำนวนที่พอเหมาะ สมาชิกต่างมีงานทำในสายงานที่แตกต่างกันออกไป และอยู่ในสายงานทั้งด้านการตลาด การเงิน และบริหารทั่งไป หลาย ๆ คนเป็นผู้บริหารระดับสูง ดังนั้นถือว่าสมาชิกมีประสบการณ์ที่หลากหลาย และมีความรู้เชิงธุรกิจดี
ชมรมตกลงว่าจะลงเงินกันทุกเดือน เดือนละ 5,000 บาท และอนุญาตให้ลงเพิ่มเติมได้ช่วงละ 1,000 บาท จนถึง 1,000 บาทในแต่ละเดือน เงินที่เก็บจากสมาชิกอย่างน้อยเดือนละ 75,000 บาท จะต้องทยอยลงทุนในหุ้นให้หมดภายใน 1 เดือน จะไม่มีการคาดการณ์ว่าตลาดหลักทรัพย์จะลงหรือขึ้น ชมรมสนใจเฉพาะหุ้นที่จะลง ชมรมเลือกตั้งประธานและตำแหน่งต่าง ๆ ที่จำเป็นครบถ้วนรวมทั้งได้ตั้ง ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เป็นที่ปรึกษาชมรมด้วย (ขอบคุณครับ)
ในการประชุมชมรมทุกเดือนนั้น ชมรมตกลงว่าสมาชิกจะต้องเฉลี่ยกันจ่ายเงินค่าอาหาร การประชุมจะประชุมที่ร้านอาหารกลางเมือง แต่จะเปลี่ยนร้านไปเรื่อย ๆ เพื่อความไม่ช้าซ้ำซากจำเจการประชุมจะเริ่มเวลา 19.00 น. ของวันศุกร์ที่สามของทุกเดือนและใช้เวลารับประทานอาหารถึง 20.00 น. และยกเลิกประชุมนอกรอบ ในการประชุมจะมีวาระดังที่ผมได้เขียนไว้แล้ว
ผมรองวาดภาพดูว่าชมรมการลงทุนที่จะตั้งขึ้นแห่งหนึ่งนั้นจะมีลักษณะอย่างไร สมมติให้ชื่อว่า ชมรมการลงทุน VALUE1 ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า สมาชิกกลุ่มนี้เน้นการลงทุนแบบ Value Investment สมาชิกประกอบด้วยอดีตนักศึกษา MBA ที่เรียนจบมาจากสถานบันเดียวกันซึ่งอยากพบปะกัน สมาชิกกลุ่มนี้มีจำนวน 15 คน ซึ่งผมคิดว่าเป็นจำนวนที่พอเหมาะ สมาชิกต่างมีงานทำในสายงานที่แตกต่างกันออกไป และอยู่ในสายงานทั้งด้านการตลาด การเงิน และบริหารทั่งไป หลาย ๆ คนเป็นผู้บริหารระดับสูง ดังนั้นถือว่าสมาชิกมีประสบการณ์ที่หลากหลาย และมีความรู้เชิงธุรกิจดี
ชมรมตกลงว่าจะลงเงินกันทุกเดือน เดือนละ 5,000 บาท และอนุญาตให้ลงเพิ่มเติมได้ช่วงละ 1,000 บาท จนถึง 1,000 บาทในแต่ละเดือน เงินที่เก็บจากสมาชิกอย่างน้อยเดือนละ 75,000 บาท จะต้องทยอยลงทุนในหุ้นให้หมดภายใน 1 เดือน จะไม่มีการคาดการณ์ว่าตลาดหลักทรัพย์จะลงหรือขึ้น ชมรมสนใจเฉพาะหุ้นที่จะลง ชมรมเลือกตั้งประธานและตำแหน่งต่าง ๆ ที่จำเป็นครบถ้วนรวมทั้งได้ตั้ง ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เป็นที่ปรึกษาชมรมด้วย (ขอบคุณครับ)
ในการประชุมชมรมทุกเดือนนั้น ชมรมตกลงว่าสมาชิกจะต้องเฉลี่ยกันจ่ายเงินค่าอาหาร การประชุมจะประชุมที่ร้านอาหารกลางเมือง แต่จะเปลี่ยนร้านไปเรื่อย ๆ เพื่อความไม่ช้าซ้ำซากจำเจการประชุมจะเริ่มเวลา 19.00 น. ของวันศุกร์ที่สามของทุกเดือนและใช้เวลารับประทานอาหารถึง 20.00 น. และยกเลิกประชุมนอกรอบ ในการประชุมจะมีวาระดังที่ผมได้เขียนไว้แล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
น้องเจ๋งถึงดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 10
หากผมขอ(อนุญาติ)เป็นท่าน ดร.นิเวศน์
ผมจะลาออกจากงานธนาคารครับ
แล้วไปทำงานเป็นผู้จัดการกองทนหุ้น (เน้นคุณค่า) ที่ บจล.สักแห่ง
ด้วยชื่อเสียงของท่าง คงไม่มี บจล แห่งไหนปฎิเสธ
หลังจากนั้นก็ตั้งกองทุนหุ้น ลงทุนแบบเน้นคุณค่าครับ
คล้ายๆกับเบอคเชียร์ของวอร์เรนหรือแมคแจแลนฟัน ของปีเตอร์ลินซ์
แม้ตอนแรกๆ จะไม่มีเงินมากนัก แต่เมื่อนักลงทุนเห็นผลตอบแทน กองทุนนี้จะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ครับ
ที่ผมคิดเช่นนี้ เพราะหากถามว่าเป้าหมายจุดสูงสุดในชีวิตของท่าน ดร.
คืออะไร ผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องเงินๆ ทองๆ แน่ๆ แต่น่าจะเป็นการทำประโยชน์ให้คนส่วนรวม ให้สังคม การทำงานจัดการกองทุนหุ้นเน้นคุณค่า จะทำให้คนไทยรู้จักการลงทุนในหุ้น ที่ถูกต้อง ไม่ใช่อย่างที่เป็นอยู่
นอกจากนั้นก็ยังทำให้มีคนที่จะร่ำรวยอีกมาก หลายคนจะมีเงินใช้ตอนเกษียณ
อายุ ทำให้ราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์มีราคาที่ควรจะเป็น ทำให้เป็นแหล่งระดมทุนของบริษัทใหม่ๆ เพิ่มจีดีพีของประเทศ
แม้เป็นเรื่องไม่ง่าย ที่จะบริหารเงินให้คนอื่น แต่ผมคิดว่าท่านทำได้แน่นอนครับ กองทุนนี้อาจจะใหญ่กว่าของ กบข ก็ได้ครับ ขอแค่ท่านตัดสินใจแค่นั้นเอง
(หากท่านตัดสินใจตั้งกองทุน ผมขอสมัครเป็นลูกศิษย์ด้วยครับ.. :lol: )
ผมจะลาออกจากงานธนาคารครับ
แล้วไปทำงานเป็นผู้จัดการกองทนหุ้น (เน้นคุณค่า) ที่ บจล.สักแห่ง
ด้วยชื่อเสียงของท่าง คงไม่มี บจล แห่งไหนปฎิเสธ
หลังจากนั้นก็ตั้งกองทุนหุ้น ลงทุนแบบเน้นคุณค่าครับ
คล้ายๆกับเบอคเชียร์ของวอร์เรนหรือแมคแจแลนฟัน ของปีเตอร์ลินซ์
แม้ตอนแรกๆ จะไม่มีเงินมากนัก แต่เมื่อนักลงทุนเห็นผลตอบแทน กองทุนนี้จะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ครับ
ที่ผมคิดเช่นนี้ เพราะหากถามว่าเป้าหมายจุดสูงสุดในชีวิตของท่าน ดร.
คืออะไร ผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องเงินๆ ทองๆ แน่ๆ แต่น่าจะเป็นการทำประโยชน์ให้คนส่วนรวม ให้สังคม การทำงานจัดการกองทุนหุ้นเน้นคุณค่า จะทำให้คนไทยรู้จักการลงทุนในหุ้น ที่ถูกต้อง ไม่ใช่อย่างที่เป็นอยู่
นอกจากนั้นก็ยังทำให้มีคนที่จะร่ำรวยอีกมาก หลายคนจะมีเงินใช้ตอนเกษียณ
อายุ ทำให้ราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์มีราคาที่ควรจะเป็น ทำให้เป็นแหล่งระดมทุนของบริษัทใหม่ๆ เพิ่มจีดีพีของประเทศ
แม้เป็นเรื่องไม่ง่าย ที่จะบริหารเงินให้คนอื่น แต่ผมคิดว่าท่านทำได้แน่นอนครับ กองทุนนี้อาจจะใหญ่กว่าของ กบข ก็ได้ครับ ขอแค่ท่านตัดสินใจแค่นั้นเอง
(หากท่านตัดสินใจตั้งกองทุน ผมขอสมัครเป็นลูกศิษย์ด้วยครับ.. :lol: )
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 2513
- ผู้ติดตาม: 0
น้องเจ๋งถึงดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 11
หากผมเป็นท่าน ผมคงจะไม่หาความเครียดใส่ตัวโดยการเป็นผู้จัดการกองทุนนะครับ ผมคงพอใจกับการลงทุนของตัวเองครับ เท่าที่อ่านหนังสือของปีเตอร์ ลินช์ เค้าทำงานหนักมาก และขอเกษียณที่อายุ 40 กว่าๆ เท่านั้น
ผมเดาว่า ดร.นิเวศน์ คงไม่รับเชิญจากบลจ. แต่อาจจะแต่งหนังสือ รับเชิญเป็นวิทยากร อาจารย์พิเศษ ที่ปรึกษา หรืองานอื่นทางวิชาการหรือทางสังคม น่าจะมีความสุขมากกว่าครับ
อย่างรายการ Money Talk ของ ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา (เพื่อนของดร.นิเวศน์ใช่มั้ย) ก็เป็นรายการที่ดีครับ ถ้า ดร.นิเวศน์ ทำรายการโทรทัศน์ คงมีแฟนๆ ตามกันเพียบ
ผมเดาว่า ดร.นิเวศน์ คงไม่รับเชิญจากบลจ. แต่อาจจะแต่งหนังสือ รับเชิญเป็นวิทยากร อาจารย์พิเศษ ที่ปรึกษา หรืองานอื่นทางวิชาการหรือทางสังคม น่าจะมีความสุขมากกว่าครับ
อย่างรายการ Money Talk ของ ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา (เพื่อนของดร.นิเวศน์ใช่มั้ย) ก็เป็นรายการที่ดีครับ ถ้า ดร.นิเวศน์ ทำรายการโทรทัศน์ คงมีแฟนๆ ตามกันเพียบ
เสรีภาพก็เหมือนอากาศที่เราไม่อาจมองเห็นด้วยตา แต่จะรู้สึกได้ในทันทีหากมีมันอยู่เบาบางหรือขาดหายไป
-จีรนุช เปรมชัยพร
-จีรนุช เปรมชัยพร
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 0
น้องเจ๋งถึงดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 18
ผมก็คนหนึ่งที่ไม่มีเงินสดเท่าไหร่Jeng เขียน:อ๋อ คนอื่นๆ มีเงินน้อยกว่า 10 ล้านครับ เป็นจำนวนคน อีก ประมาณ 60 ล้านคน
มีแต่หุ้น พันธบัตร และที่ดิน(อยากปลูกหอพักไว้เก็บค่าเช่ากินตอนแก่
ใครมีไอเดียดีดี แนะนำคนใกล้แก่ด้วยครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
น้องเจ๋งถึงดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 19
คุณ Jeng & Young VI
เห็นชอบ ดำเนินการด่วนเลยยิ่งดี เห็นด้วยครับ
ในขั้นแรก หากยังไม่สามารถดำเนินการได้ทัน อาจตั้งเป็นคณะกรรมการ
ก่อนก็ได้ เพื่อมาพูดคุยกันให้ชัดเจน (ต้องดูกฏหมายด้วยหรือเปล่าเพราะ
หากตั้งเป็นกองทุน ต้องอยู่ภายใต้กฏเกณฑ์ที่ กลต กำหนดหรือไม่) เมื่อ
ยืนยัน (ให้สัตยาบัน) กันทุกคน ก็เริ่มเลยครับ มั่นใจว่าสมาชิกใน TVI คง
สนใจเข้าร่วม เงื่อนไขการลงทุนในแต่ละเดือน ผมว่า ก็ OK นะครับ แล้ว
อย่าลืมเชิญ ท่าน VI อาวุโสเข้ามาร่วมถือหุ้นด้วยนะครับ เช่น ลุงขวด คุณ
ครรชิต (ไม่ต้องขึ้นมา กทม ก็ได้ครับ สมัยนี้ติดต่อกันได้รวดเร็วจะตาย)
ดร นิเวศ หรือบุคคลที่มีฝีมือที่ฝากผลงานให้เราเห็น (ถ้ามีใครพอจะเชิญ
มาได้) กองทุนนี้คงจะค่อย ๆ ขยายเติบโตขึ้นไปได้ครับ
เห็นชอบ ดำเนินการด่วนเลยยิ่งดี เห็นด้วยครับ
ในขั้นแรก หากยังไม่สามารถดำเนินการได้ทัน อาจตั้งเป็นคณะกรรมการ
ก่อนก็ได้ เพื่อมาพูดคุยกันให้ชัดเจน (ต้องดูกฏหมายด้วยหรือเปล่าเพราะ
หากตั้งเป็นกองทุน ต้องอยู่ภายใต้กฏเกณฑ์ที่ กลต กำหนดหรือไม่) เมื่อ
ยืนยัน (ให้สัตยาบัน) กันทุกคน ก็เริ่มเลยครับ มั่นใจว่าสมาชิกใน TVI คง
สนใจเข้าร่วม เงื่อนไขการลงทุนในแต่ละเดือน ผมว่า ก็ OK นะครับ แล้ว
อย่าลืมเชิญ ท่าน VI อาวุโสเข้ามาร่วมถือหุ้นด้วยนะครับ เช่น ลุงขวด คุณ
ครรชิต (ไม่ต้องขึ้นมา กทม ก็ได้ครับ สมัยนี้ติดต่อกันได้รวดเร็วจะตาย)
ดร นิเวศ หรือบุคคลที่มีฝีมือที่ฝากผลงานให้เราเห็น (ถ้ามีใครพอจะเชิญ
มาได้) กองทุนนี้คงจะค่อย ๆ ขยายเติบโตขึ้นไปได้ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 329
- ผู้ติดตาม: 0
น้องเจ๋งถึงดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 20
มีแต่หุ้น พันธบัตร และที่ดิน(อยากปลูกหอพักไว้เก็บค่าเช่ากินตอนแก่
ใครมีไอเดียดีดี แนะนำคนใกล้แก่ด้วยครับ
พี่ปรัชญาคะ
ถ้าพี่มีที่ดินไม่ไกลจากมหาลัยขอนแก่นหรือวิทยาลัยเทคนิคไทย-เยอรมัน หรือสถานศึกษาอื่นๆ ก็น่าจะนำที่ดินมาทำหอพักมากค่ะ เพราะที่ผ่านมาก็ยังมีไม่ค่อยพออยู่ สามารถเก็บค่าเช่าไปได้ตลอด
เรื่องราคาคงสู้หอพักในมหาวิทยาลัยไม่ได้แน่ๆเพราะค่าเช่าเดือนละ 2000 บาท หรือจะสู้เทอมละ 2000 บาท ซึ่งตอนนี้ในมหาวิทยาลัยก็ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายส่วนเกินนี้อยู่มากพอสมควร
ส่วนจุดขายนั้น ติงๆคิดว่าพี่สามารถเพิ่มพื้นที่ใช้สอยที่หอพักเอกชนอื่นๆไม่มี และเป็นจุดเด่นที่ทำให้คนเลือกมาอยู่ที่หอพักของพี่มากกว่า
เกริ่นเอาไว้ ถ้าเผื่อพี่สนใจ ติงๆจะมาคุยต่อนะคะ
ใครมีไอเดียดีดี แนะนำคนใกล้แก่ด้วยครับ
พี่ปรัชญาคะ
ถ้าพี่มีที่ดินไม่ไกลจากมหาลัยขอนแก่นหรือวิทยาลัยเทคนิคไทย-เยอรมัน หรือสถานศึกษาอื่นๆ ก็น่าจะนำที่ดินมาทำหอพักมากค่ะ เพราะที่ผ่านมาก็ยังมีไม่ค่อยพออยู่ สามารถเก็บค่าเช่าไปได้ตลอด
เรื่องราคาคงสู้หอพักในมหาวิทยาลัยไม่ได้แน่ๆเพราะค่าเช่าเดือนละ 2000 บาท หรือจะสู้เทอมละ 2000 บาท ซึ่งตอนนี้ในมหาวิทยาลัยก็ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายส่วนเกินนี้อยู่มากพอสมควร
ส่วนจุดขายนั้น ติงๆคิดว่าพี่สามารถเพิ่มพื้นที่ใช้สอยที่หอพักเอกชนอื่นๆไม่มี และเป็นจุดเด่นที่ทำให้คนเลือกมาอยู่ที่หอพักของพี่มากกว่า
เกริ่นเอาไว้ ถ้าเผื่อพี่สนใจ ติงๆจะมาคุยต่อนะคะ
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 0
น้องเจ๋งถึงดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 21
ติงติง เขียน:มีแต่หุ้น พันธบัตร และที่ดิน(อยากปลูกหอพักไว้เก็บค่าเช่ากินตอนแก่
ใครมีไอเดียดีดี แนะนำคนใกล้แก่ด้วยครับ
พี่ปรัชญาคะ
ถ้าพี่มีที่ดินไม่ไกลจากมหาลัยขอนแก่นหรือวิทยาลัยเทคนิคไทย-เยอรมัน หรือสถานศึกษาอื่นๆ ก็น่าจะนำที่ดินมาทำหอพักมากค่ะ เพราะที่ผ่านมาก็ยังมีไม่ค่อยพออยู่ สามารถเก็บค่าเช่าไปได้ตลอด
เรื่องราคาคงสู้หอพักในมหาวิทยาลัยไม่ได้แน่ๆเพราะค่าเช่าเดือนละ 2000 บาท หรือจะสู้เทอมละ 2000 บาท ซึ่งตอนนี้ในมหาวิทยาลัยก็ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายส่วนเกินนี้อยู่มากพอสมควร
ส่วนจุดขายนั้น ติงๆคิดว่าพี่สามารถเพิ่มพื้นที่ใช้สอยที่หอพักเอกชนอื่นๆไม่มี และเป็นจุดเด่นที่ทำให้คนเลือกมาอยู่ที่หอพักของพี่มากกว่า
เกริ่นเอาไว้ ถ้าเผื่อพี่สนใจ ติงๆจะมาคุยต่อนะคะ
ที่ดินแถวเทคนิคไทยเยอรมัน ติดถนนศรีจันทร์แตะไม่ลงครับ
ตรว.150,000ขึ้นไป
แถวหลังหอ11ในมอ หรือซอยบาดาลหลังคณะแพทย์กำลังเหล่ๆอยู่
ขับรถเข้าไปทานข้าวร้านลุงแสงหลังหอ11 เห็นนักศึกษาเพียบ
ที่ดินก็ยังถูกกว่าในเมืองครับ กำลังหาทางไปแถวหลังตลาดเจ๊พร
หรือบ้านม่วง ขอบคุณครับที่ช่วยให้ความคิดเห็น
กำลังคุยกับเพื่อนวิศว ว่าถ้าสร้างห้องหนึ่งตก2แสนกว่าบาทรวมสุขภัณฑ์
เลยกำลังหาที่ดินที่เหมาะอยู่ครับ คุณติงๆมีที่ดินแนะนำก็ช่วยผมหน่อย
เผื่อถูกทำเลครับ ขอบคุณ
-
- Verified User
- โพสต์: 329
- ผู้ติดตาม: 0
น้องเจ๋งถึงดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 22
โห...พี่ปรัชญาใช้ตัวอักษรใหญ่มากเลยค่ะ อ่านง่าย สบายตา
เอ่อ...ต้องขออภัยค่ะที่ทำให้พี่คิดว่าติงๆรู้จักแถวนั้น บังเอิญเมื่อกี๊มีน้องที่เป็นชาวอุดรแต่จบจากขอนแก่นมานั่งคุยด้วยพอดี ก็เลยได้คุยเรื่องนี้กันด้วย ติงๆไม่ค่อยได้ไป แต่มีเพื่อนๆเป็นคนขอนแก่น และเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นค่ะ
เลยกำลังหาที่ดินที่เหมาะอยู่ครับ คุณติงๆมีที่ดินแนะนำก็ช่วยผมหน่อย
เผื่อถูกทำเลครับ ขอบคุณ
เดี๋ยวลองเช็คกับคนรู้จักให้ค่ะ ในเรื่องทำเล และราคา แล้วจะมาแจ้งพี่อีกทีค่ะ
เอ่อ...ต้องขออภัยค่ะที่ทำให้พี่คิดว่าติงๆรู้จักแถวนั้น บังเอิญเมื่อกี๊มีน้องที่เป็นชาวอุดรแต่จบจากขอนแก่นมานั่งคุยด้วยพอดี ก็เลยได้คุยเรื่องนี้กันด้วย ติงๆไม่ค่อยได้ไป แต่มีเพื่อนๆเป็นคนขอนแก่น และเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นค่ะ
เลยกำลังหาที่ดินที่เหมาะอยู่ครับ คุณติงๆมีที่ดินแนะนำก็ช่วยผมหน่อย
เผื่อถูกทำเลครับ ขอบคุณ
เดี๋ยวลองเช็คกับคนรู้จักให้ค่ะ ในเรื่องทำเล และราคา แล้วจะมาแจ้งพี่อีกทีค่ะ
-
- ผู้ติดตาม: 0
น้องเจ๋งถึงดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 23
เฮียปรัญญาจะสร้างหอพีกใกล้ มข. ผมมีข้อสังเกตทั่วไปให้เฮียพิจารณาเป็นข้อมูล ดังนี้
แนวโน้มด้านลบ
- ระยะ 2 - 3 ปี ที่ผ่านมามีหอพักเอกชนผุดขึ้นรอบ ๆ มข. เยอะมาก (จำนวนห้องยังไม่ได้สำรวจ) และในปีนี้ก็มีหอพักขนาดค่อนข้างใหญ่รอบ ๆ มข. เปิดใหม่อีกอย่างน้อย 2 แห่ง
- มีแนวโน้มว่าจำนวนนักศึกษานักศึกษาจะไพ่มขึ้นมาก เพราะเหตุว่า มีมหาวิทยาลัยอื่น ๆ เปิดใหม่เพิ่มขึ้น มข. กำลังตั้งท่าออกนอกระบบราชการ อาจจะหมายความว่าต้องขึ้นค่าเรียน ทำให้นักศึกษาที่จะเข้าเรียนใน มข. อาจเปลี่ยนไปเรียนที่อื่นที่ค่าเรียนถูกกว่า
- ค่าหอพักของมข. เอง ประมาณ 8XX บาท/เดือน ซึ่งค่อนข้างถูก ราคานี้เป็นราคาสำหรับหอที่ดีที่สุดของมข. ส่วนราคาหออึ่น ๆ ที่เหลือจะถูกกว่านี้
- จนถึงขณะนี้หอพักของมข.เองก็ยังว่างอยู่ เข้าใจว่าประมาณ 100 ห้อง โดยอยู่ได้ห้องละสองคน
แนวโน้มด้านบวก
- ที่บอกว่าหอพักของมข. ยังว่างอยู่ ผมคิดเอาเองว่าอาจจะเป็นด้านบวกของหอพักเอกชนด้วย คือ แสดงว่า นศ. ไม่ชอบหอพักของมหาวิทยาลัยเพราะอาจจะขาดความเป็นอิสระในการเข้าออกหอพักซึ่งมีเวลากำหนด และมีนศง ไม่น้อยที่ไม่ชอบหอพักในของมข. เพราะทำให้อยู่กันแบบครอบครัว (หรือคู่นอน -แล้วแต่จะเรียก) ไม่สามารถทำได้
ถ้าเฮียต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มเติมที่ผมรู้ก็ยินดีที่จะบอก หรือจะให้ผมพาทัวร์ให้ทุหซอกทุกมุทก็ยินดีนะครับ ด้วยความเต็มใจ
แนวโน้มด้านลบ
- ระยะ 2 - 3 ปี ที่ผ่านมามีหอพักเอกชนผุดขึ้นรอบ ๆ มข. เยอะมาก (จำนวนห้องยังไม่ได้สำรวจ) และในปีนี้ก็มีหอพักขนาดค่อนข้างใหญ่รอบ ๆ มข. เปิดใหม่อีกอย่างน้อย 2 แห่ง
- มีแนวโน้มว่าจำนวนนักศึกษานักศึกษาจะไพ่มขึ้นมาก เพราะเหตุว่า มีมหาวิทยาลัยอื่น ๆ เปิดใหม่เพิ่มขึ้น มข. กำลังตั้งท่าออกนอกระบบราชการ อาจจะหมายความว่าต้องขึ้นค่าเรียน ทำให้นักศึกษาที่จะเข้าเรียนใน มข. อาจเปลี่ยนไปเรียนที่อื่นที่ค่าเรียนถูกกว่า
- ค่าหอพักของมข. เอง ประมาณ 8XX บาท/เดือน ซึ่งค่อนข้างถูก ราคานี้เป็นราคาสำหรับหอที่ดีที่สุดของมข. ส่วนราคาหออึ่น ๆ ที่เหลือจะถูกกว่านี้
- จนถึงขณะนี้หอพักของมข.เองก็ยังว่างอยู่ เข้าใจว่าประมาณ 100 ห้อง โดยอยู่ได้ห้องละสองคน
แนวโน้มด้านบวก
- ที่บอกว่าหอพักของมข. ยังว่างอยู่ ผมคิดเอาเองว่าอาจจะเป็นด้านบวกของหอพักเอกชนด้วย คือ แสดงว่า นศ. ไม่ชอบหอพักของมหาวิทยาลัยเพราะอาจจะขาดความเป็นอิสระในการเข้าออกหอพักซึ่งมีเวลากำหนด และมีนศง ไม่น้อยที่ไม่ชอบหอพักในของมข. เพราะทำให้อยู่กันแบบครอบครัว (หรือคู่นอน -แล้วแต่จะเรียก) ไม่สามารถทำได้
ถ้าเฮียต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มเติมที่ผมรู้ก็ยินดีที่จะบอก หรือจะให้ผมพาทัวร์ให้ทุหซอกทุกมุทก็ยินดีนะครับ ด้วยความเต็มใจ
-
- ผู้ติดตาม: 0
น้องเจ๋งถึงดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 24
เฮียปรัญญาจะสร้างหอพีกใกล้ มข. ผมมีข้อสังเกตทั่วไปให้เฮียพิจารณาเป็นข้อมูล ดังนี้
แนวโน้มด้านลบ
- ระยะ 2 - 3 ปี ที่ผ่านมามีหอพักเอกชนผุดขึ้นรอบ ๆ มข. เยอะมาก (จำนวนห้องยังไม่ได้สำรวจ) และในปีนี้ก็มีหอพักขนาดค่อนข้างใหญ่รอบ ๆ มข. เปิดใหม่อีกอย่างน้อย 2 แห่ง
- มีแนวโน้มว่าจำนวนนักศึกษานักศึกษาจะไพ่มขึ้นมาก เพราะเหตุว่า มีมหาวิทยาลัยอื่น ๆ เปิดใหม่เพิ่มขึ้น มข. กำลังตั้งท่าออกนอกระบบราชการ อาจจะหมายความว่าต้องขึ้นค่าเรียน ทำให้นักศึกษาที่จะเข้าเรียนใน มข. อาจเปลี่ยนไปเรียนที่อื่นที่ค่าเรียนถูกกว่า
- ค่าหอพักของมข. เอง ประมาณ 8XX บาท/เดือน ซึ่งค่อนข้างถูก ราคานี้เป็นราคาสำหรับหอที่ดีที่สุดของมข. ส่วนราคาหออึ่น ๆ ที่เหลือจะถูกกว่านี้
- จนถึงขณะนี้หอพักของมข.เองก็ยังว่างอยู่ เข้าใจว่าประมาณ 100 ห้อง โดยอยู่ได้ห้องละสองคน
แนวโน้มด้านบวก
- ที่บอกว่าหอพักของมข. ยังว่างอยู่ ผมคิดเอาเองว่าอาจจะเป็นด้านบวกของหอพักเอกชนด้วย คือ แสดงว่า นศ. ไม่ชอบหอพักของมหาวิทยาลัยเพราะอาจจะขาดความเป็นอิสระในการเข้าออกหอพักซึ่งมีเวลากำหนด และมีนศง ไม่น้อยที่ไม่ชอบหอพักในของมข. เพราะทำให้อยู่กันแบบครอบครัว (หรือคู่นอน -แล้วแต่จะเรียก) ไม่สามารถทำได้
ถ้าเฮียต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มเติมที่ผมรู้ก็ยินดีที่จะบอก หรือจะให้ผมพาทัวร์ให้ทุหซอกทุกมุทก็ยินดีนะครับ ด้วยความเต็มใจ
แนวโน้มด้านลบ
- ระยะ 2 - 3 ปี ที่ผ่านมามีหอพักเอกชนผุดขึ้นรอบ ๆ มข. เยอะมาก (จำนวนห้องยังไม่ได้สำรวจ) และในปีนี้ก็มีหอพักขนาดค่อนข้างใหญ่รอบ ๆ มข. เปิดใหม่อีกอย่างน้อย 2 แห่ง
- มีแนวโน้มว่าจำนวนนักศึกษานักศึกษาจะไพ่มขึ้นมาก เพราะเหตุว่า มีมหาวิทยาลัยอื่น ๆ เปิดใหม่เพิ่มขึ้น มข. กำลังตั้งท่าออกนอกระบบราชการ อาจจะหมายความว่าต้องขึ้นค่าเรียน ทำให้นักศึกษาที่จะเข้าเรียนใน มข. อาจเปลี่ยนไปเรียนที่อื่นที่ค่าเรียนถูกกว่า
- ค่าหอพักของมข. เอง ประมาณ 8XX บาท/เดือน ซึ่งค่อนข้างถูก ราคานี้เป็นราคาสำหรับหอที่ดีที่สุดของมข. ส่วนราคาหออึ่น ๆ ที่เหลือจะถูกกว่านี้
- จนถึงขณะนี้หอพักของมข.เองก็ยังว่างอยู่ เข้าใจว่าประมาณ 100 ห้อง โดยอยู่ได้ห้องละสองคน
แนวโน้มด้านบวก
- ที่บอกว่าหอพักของมข. ยังว่างอยู่ ผมคิดเอาเองว่าอาจจะเป็นด้านบวกของหอพักเอกชนด้วย คือ แสดงว่า นศ. ไม่ชอบหอพักของมหาวิทยาลัยเพราะอาจจะขาดความเป็นอิสระในการเข้าออกหอพักซึ่งมีเวลากำหนด และมีนศง ไม่น้อยที่ไม่ชอบหอพักในของมข. เพราะทำให้อยู่กันแบบครอบครัว (หรือคู่นอน -แล้วแต่จะเรียก) ไม่สามารถทำได้
ถ้าเฮียต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มเติมที่ผมรู้ก็ยินดีที่จะบอก หรือจะให้ผมพาทัวร์ให้ทุหซอกทุกมุทก็ยินดีนะครับ ด้วยความเต็มใจ
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 0
น้องเจ๋งถึงดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 25
จริงอย่าคุณใต้ต้นคูณว่าครับ
หอพักใหญ่น้องโรงแรมขึ้นเยอะด้านซอยบาดาล พวกนนทรีคอร์ทและ
หลังหอ11 เห็นกำลังจะเปิด เขียนป้ายผ้าว่าซักผ้าให้ฟรีเดือนละ80ชิ้น
การแข่งขันเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อย พิมานคอนโดที่หลังมอ เพื่อนซื้อไว้ให้เขาเช่าเดือนละ2,500บาท ยังหาคนเช่าไม่เต็ม แต่2ปีนี้ก็มีคณะใหม่เพิ่มขึ้นนิครับ วิศวกรรมคอมพิวเตอร์(คุณลุค ที่เวปโต๊ะสินธรเป็นอาจารย์อยุ่ที่นั่นครับ)
และอะไรนะอีก2คณะ เดี๋ยวนี้มีโต้รุ่ง2แห่งโรงอาหารกลางหน้าคณะวิทยาศาสตร์เล่นเอาเงียบไปเลย
ดีใจครับที่ได้คุยกับคนขอนแก่นด้วยกัน
ตอนนี้วิธีใช้เงินไปทำงาน ดูจะคิดไม่ทันเขาแล้ว
เปิดร้านค้าขายก็ไม่ไหวครับ
โชห่วยที่ตาย เพราะปั๊มน้ำมัน เพราะเซเว่น
จะไปขายก๋วยเตี๋ยว ก็ล้างชามไม่เป็น
เลยอยากทำหอพักครับ
ปีที่แล้วก็มีมหาลัยมาเปิดใหม่อีกคือ...
มหาลัยเอเชีย ของ ดร.กระแส ชนะวงศ์
ในมหาลัยอากาศดีนะครับต้นไม้เยอะ ผมจะเข้าไปตลาดต้นไม้ทุกพฤหัส
ตามซื้อต้นดาหลายังไม่ครบสีครับ
หอพักใหญ่น้องโรงแรมขึ้นเยอะด้านซอยบาดาล พวกนนทรีคอร์ทและ
หลังหอ11 เห็นกำลังจะเปิด เขียนป้ายผ้าว่าซักผ้าให้ฟรีเดือนละ80ชิ้น
การแข่งขันเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อย พิมานคอนโดที่หลังมอ เพื่อนซื้อไว้ให้เขาเช่าเดือนละ2,500บาท ยังหาคนเช่าไม่เต็ม แต่2ปีนี้ก็มีคณะใหม่เพิ่มขึ้นนิครับ วิศวกรรมคอมพิวเตอร์(คุณลุค ที่เวปโต๊ะสินธรเป็นอาจารย์อยุ่ที่นั่นครับ)
และอะไรนะอีก2คณะ เดี๋ยวนี้มีโต้รุ่ง2แห่งโรงอาหารกลางหน้าคณะวิทยาศาสตร์เล่นเอาเงียบไปเลย
ดีใจครับที่ได้คุยกับคนขอนแก่นด้วยกัน
ตอนนี้วิธีใช้เงินไปทำงาน ดูจะคิดไม่ทันเขาแล้ว
เปิดร้านค้าขายก็ไม่ไหวครับ
โชห่วยที่ตาย เพราะปั๊มน้ำมัน เพราะเซเว่น
จะไปขายก๋วยเตี๋ยว ก็ล้างชามไม่เป็น
เลยอยากทำหอพักครับ
ปีที่แล้วก็มีมหาลัยมาเปิดใหม่อีกคือ...
มหาลัยเอเชีย ของ ดร.กระแส ชนะวงศ์
ในมหาลัยอากาศดีนะครับต้นไม้เยอะ ผมจะเข้าไปตลาดต้นไม้ทุกพฤหัส
ตามซื้อต้นดาหลายังไม่ครบสีครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
น้องเจ๋งถึงดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 26
ถ้าท่านนิเวศน์ทำอย่างนั้น เขาเรียกว่า "เจียะป้าบ่อสื่อจ่อ" หรือ "หาเหาใส่หัว" คับ
ท่านอยู่อย่างนี้ก็อยู่ดีมีสุข สบายกายสบายใจอยู่แล้วมั้งคับ
ท่านอยู่อย่างนี้ก็อยู่ดีมีสุข สบายกายสบายใจอยู่แล้วมั้งคับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
น้องเจ๋งถึงดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 27
ผมคิดว่าท่านต้องเคยได้รับเชิญจากพวกกองทุนอยู่แล้วครับ ถ้าท่านอยากเป็นท่านคงทำไปแล้ว ผมเห็นด้วยว่าท่านคงไม่หาเรื่องมาใส่ตัวหรอกครับ อีกอย่างเงินก้อนใหญ่ขนาดนั้นมาลงทุนหุ้นแบบคุณค่า แต่ปริมาณหุ้นมันไม่มากพอที่จะมีขายให้ครับ นี่คงเป็นอีกประเด็นหนึ่ง