เสาร์ พ.ค. 03, 2008 3:05 am | 0 คอมเมนต์
เรื่องบางอย่างไม่อาจเอื้อมจริงๆคับ เพราะไม่รู้เรื่อง... แหะๆ
แต่ขอ comment หน่อยว่าตู้เย็นที่มี freezer / ice box อยู่ด้านล่างนี่ดูเหมือนจะดี แต่ถ้าคุณแปลนว่าจะมีลูกเล็กๆก็ขอให้ระวังแล้วกันครับ... เด๋วเกิดเหตุการณ์เด็กชายไอติมนะ...
ส่วนเรื่องที่พูดได้เต็มปากหน่อยคือเครื่องกรองน้ำครับ หลักการของการกรองน้ำมักจะมีดังนี้
1) source of raw water ซึ่งถ้าทั่น จขกท อยู่คอนโดในเมืองแล้วไม่อุตริเจาะน้ำบาดาลเอง ก็คงต้องใช้น้ำประปาล่ะครับ :8) แต่ไหนๆก็ไหนๆ เพื่อเพื่อนๆ คน อื่นๆด้วยจะขอพูดหมดเลยละกันนะ
1.1) ground water / tap water อันนี้ปริมาณ ion ต่างๆที่อยู่ในน้ำจะมีปริมาณน้อย...ปัญหามักจะมาจากการที่น้ำมีปริมาณจุลินทรีย์มากมากกว่าสาเหตุอื่น
1.2) underground water อันนี้แทบไม่มีจุลินทรีย์เลยครับ แต่ปริมาณ ion ต่างๆจะสูงมากๆ คือว่าเป็นน้ำกระด้างโค-ต-รๆ ว่างั้น
2) treatment system หลักๆก็จะมีพวก activated carbon, softener, deioniser, coarse / fine filter, RO, UV, Ozone, etc. ส่วนเราจะใช้อันไหนก็เลือกเอาตาม source of raw water นั่นล่ะครับ
2.1) ground water / tap water คงต้องเน้นที่ activated carbon และพวก UV เป็นหลัก น้ำของท่านก็จะไม่มีกลิ่นคลอรีนและมีเชื้อจุลินทรีย์เพียงเล็กน้อย
2.2) underground water อันนี้ลำบากหน่อยครับ คงต้องเริ่มกันตั้งกะต้นเลยคือลดความกระด้าง ถ้ากระด้างมากอาจต้องใช้ softener 2 ชั้น แล้วถ้ามี deioniser (แค่ column เดียวพอครับ...เอาแบบดักได้ทั้งประจุลบและบวก...ยกเว้นท่านจะทำน้ำขายค่อยว่ากัน...)
3) finishing / polishing ที่เขียนแบบนี้ก็เพราะว่ามันเริ่มจะเวอร์ไปหน่อย แต่ก็เป็น component ที่อาจจะเลือกใส่เข้าไปในระบบได้ครับ
3.1) ozone - ozone จาก ozone generator นั้นมีฤทธิ์กัดกร่อนสูงมากๆครับ สามารถทำลายพวก biofilm (คราบเมือกๆนั่นล่ะครับ...เชื้อโรคทั้งน้าน) ในระบบท่อได้หมด รวมถึงอาจจะกัดท่อได้ด้วย... เปิดใช้เวลาต้องการ sanitise ระบบครับ โปรดระวัง... ozone กัดกร่อนและเป็นพิษนะครับไอ้ที่เราๆบอกกันว่าสูดโอโซนนี่ลองสูดเข้าไปซักเฮือกเดียวเท่านั้นล่ะ... รับรอง กัดปอดงิ :8) ดังนั้น โดยปกติจะมีการติดตั้งระบบเพื่อกำจัด ozone ไม่ให้มาถึงเราโดยการใช้ UV ครับ
3.2) RO - reverse osmosis เป็นวิธีดันน้ำผ่าน membrane ซึ่งจะทำให้ปริมาณเชื้อและ ion ต่างๆลดลงอย่างมาก น้ำที่ได้จะสะอาดสุดๆ หากบ้านใครนำระบบ RO ไปติดจะถูกมองว่าเป็นพวกชอบกินของบริสุทธิ์ (
) ข้อเสียคือมีน้ำทิ้งจำนวนมาก แต่สามารถเอาไปรถต้นไม้ได้ครับ...
4) maintenance สุดท้ายนี่สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการ maintenance ครับ เพราะไม่ว่าระบบของท่านจะดีเลิศแค่ไหน ใช้ๆไปมันก็ต้องเจ๊ง บอกข้อมูลการ maintenance ไว้เผื่อให้ทั่น จขกท ไปสอบถามกับผู้ขายเอาละกันนะครับว่าเครื่องที่ทั่นจะซื้อสามารถ maintenance ได้ไหม
4.1) activated carbon - ล้างโดยการ back wash ครับ ก็ง่ายๆ ต้องมีระบบเปิดน้ำให้ไหลย้อนกลับ (แล้วค่อยเอาลอรีเอะไปดูดซับ :lol: )
4.2) softener - ถ้าเป็นสารส้มล่ะก็ต้อง back wash และคอยดูว่าสารส้มหมดไปรึยัง
4.3) deioniser - สารเคมีใน column มีปริมาณ ion ที่จับได้จำกัด เมื่อถึงเวลาต้องล้างด้วย กรด-เบส อันนี้อาจจะต้องจ้างมาทำ ดังนั้น deioniser ควรมีวิธีที่จะบอกให้เรารู้ว่า column เริ่มเสื่อมสภาพแล้ว
4.4) coarse / fine filter เปลี่ยน filter หรือถอดล้างตามปกติครับ
4.5) RO ตรวจเช็คความดันและอาจต้องมีการเปลี่ยน membrane ครับ
4.6) UV เปลี่ยนหลอดตามระยะเวลา และถอดล้างบ้างเพื่อให้หลอดแก้วใส UV จะได้ผ่านไปสัมผัสน้ำอย่างสะดวกๆ....
เท่านี้ก็จะสามารถกินน้ำที่สะอาดไม่แพ้น้ำสิงห์ หรือ คริสตัลล่ะครับ
นึกออกเท่านี้ล่ะครับ ^_^ ยังไงขอให้ได้ของถูกใจนะครับ...
ปล. กินน้ำสะอาดมากๆ ระวังไปกินน้ำแข็งเปล่าร้านตามสั่งแล้วจู๊ดๆนคับ อิอิ :lol: :lol: [/list]