ขอคำแนะนำจากผู้รู้ทั้งหลายหน่อยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 63
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำจากผู้รู้ทั้งหลายหน่อยครับ
โพสต์ที่ 1
ผมไม่เคยเล่นหุ้นมาก่อนครับอยากเริ่มต้นครับ
เรื่องของเรื่องคือผมไม่ค่อยมีเงิน มีเงินเก็บพอจะลงทุนได้ก็ไม่ถึง 20k
เลยอยากถามว่าผมควรเริ่มจากการเล่นเก็งกำไร ทำความคุ้นเคยกับข้อมูลต่างๆ กับตลาดหุ้นไปสักพักก่อน ให้พอมีเงินซักก้อนใหญ่หน่อย แล้วค่อยเปลี่ยนมาแนวทางของ VI
หรือว่าควรเริ่มตามแนวทางของ VI ไปเลยตั้งแต่แรกดีครับ เพราะตอนนี้ผมพยายามศึกษาเรื่องต่างๆอยู่ ผมรู้สึกว่าปวดหัวมากเลยครับในการหาข้อมูล หรือทำความเข้าใจข้อมูลต่างๆเพื่อที่จะใช้เลือกหุ้นซักตัวนึง ตอนนี้รู้สึกท้อแท้มากเลยครับ
รบกวนขอคำแนะนำจาก Guru ทั้งหลายหน่อยครับ ขอบคุณครับ
เรื่องของเรื่องคือผมไม่ค่อยมีเงิน มีเงินเก็บพอจะลงทุนได้ก็ไม่ถึง 20k
เลยอยากถามว่าผมควรเริ่มจากการเล่นเก็งกำไร ทำความคุ้นเคยกับข้อมูลต่างๆ กับตลาดหุ้นไปสักพักก่อน ให้พอมีเงินซักก้อนใหญ่หน่อย แล้วค่อยเปลี่ยนมาแนวทางของ VI
หรือว่าควรเริ่มตามแนวทางของ VI ไปเลยตั้งแต่แรกดีครับ เพราะตอนนี้ผมพยายามศึกษาเรื่องต่างๆอยู่ ผมรู้สึกว่าปวดหัวมากเลยครับในการหาข้อมูล หรือทำความเข้าใจข้อมูลต่างๆเพื่อที่จะใช้เลือกหุ้นซักตัวนึง ตอนนี้รู้สึกท้อแท้มากเลยครับ
รบกวนขอคำแนะนำจาก Guru ทั้งหลายหน่อยครับ ขอบคุณครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำจากผู้รู้ทั้งหลายหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2
เงินลงทุนไม่จำเป็นต้องมาในตอนเริ่มต้นครับ
ณ ตอนนี้ควรไปหาหนังสือมาอ่านแล้วเริ่มทำความเข้าใจ
พื้นฐานที่ต้องมีคือ
1. ดูพื้นฐานของตัวธุรกิจที่เราเข้าไปลงทุนอยู่ในกรอบความรู้ที่มีหรือเปล่า
2. มีพื้นฐานทางด้านบัญชีเบื้องต้น อ่านงบดุล งบกำไรขาดทุน และ งบกระแสเงินสดเป็น
3. เข้าใจภาษาไทยอย่างถ่องแท้ และ ภาษาอังกฤษ นิดหน่อย เพราะบ้างครั้ง ข้อมูลข่าวสารมาเป็นภาษาอังกฤษ แต่ภาษาไทยใช้มากเพราะที่นี้เมืองไทย
4. ฝึกใจให้แข็งแรงไว้ กระทบไม่กระเทือน
5. หาหนังสือมาอ่านซัก ว่าจะเอาแบบไหน มีหลายแนวทางให้เลือก แต่ละแนวทางคุณต้องปรับเอาไปใช้ในแบบของคุณเอง คุณไม่ต้องลอกแบบการลงทุนคนอื่น 100% แต่คุณเอาเป็นแนวทางในการใช้งานปรับให้เป็นแบบของคุณ
เมื่อพร้อมแล้ว แนะนำว่า ไปเปิดกับ โบรกเกอร์ที่ไม่มีขั้นต่ำ เช่น Seamico ในแบบ Cash Balance ซึ่งประหยัดในเรื่องต้นทุน
คำถามที่คุณต้องตอบตัวเองมีดังนี้
1. คุณลงทุนเพราะอะไร (ตอบใช้ชัดเจนว่า ตามเพื่อนหรือเปล่า หรือต้องการอิสระภาพทางการเงิน)
2. คุณรับความเสี่ยงได้เท่าไร (คือเงินก้อนนี้หมดไปแล้ว มีผลกระทบหนักหนาหรือไม่)
แนวทางบอกไว้หมดแล้วน่าครับ
หวังว่าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่สามารถเป็น VI ในตำนานของ TVI คนต่อไป
ลืมไปว่า ยินดีที่รู้จักครับ
ณ ตอนนี้ควรไปหาหนังสือมาอ่านแล้วเริ่มทำความเข้าใจ
พื้นฐานที่ต้องมีคือ
1. ดูพื้นฐานของตัวธุรกิจที่เราเข้าไปลงทุนอยู่ในกรอบความรู้ที่มีหรือเปล่า
2. มีพื้นฐานทางด้านบัญชีเบื้องต้น อ่านงบดุล งบกำไรขาดทุน และ งบกระแสเงินสดเป็น
3. เข้าใจภาษาไทยอย่างถ่องแท้ และ ภาษาอังกฤษ นิดหน่อย เพราะบ้างครั้ง ข้อมูลข่าวสารมาเป็นภาษาอังกฤษ แต่ภาษาไทยใช้มากเพราะที่นี้เมืองไทย
4. ฝึกใจให้แข็งแรงไว้ กระทบไม่กระเทือน
5. หาหนังสือมาอ่านซัก ว่าจะเอาแบบไหน มีหลายแนวทางให้เลือก แต่ละแนวทางคุณต้องปรับเอาไปใช้ในแบบของคุณเอง คุณไม่ต้องลอกแบบการลงทุนคนอื่น 100% แต่คุณเอาเป็นแนวทางในการใช้งานปรับให้เป็นแบบของคุณ
เมื่อพร้อมแล้ว แนะนำว่า ไปเปิดกับ โบรกเกอร์ที่ไม่มีขั้นต่ำ เช่น Seamico ในแบบ Cash Balance ซึ่งประหยัดในเรื่องต้นทุน
คำถามที่คุณต้องตอบตัวเองมีดังนี้
1. คุณลงทุนเพราะอะไร (ตอบใช้ชัดเจนว่า ตามเพื่อนหรือเปล่า หรือต้องการอิสระภาพทางการเงิน)
2. คุณรับความเสี่ยงได้เท่าไร (คือเงินก้อนนี้หมดไปแล้ว มีผลกระทบหนักหนาหรือไม่)
แนวทางบอกไว้หมดแล้วน่าครับ
หวังว่าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่สามารถเป็น VI ในตำนานของ TVI คนต่อไป
ลืมไปว่า ยินดีที่รู้จักครับ
- cryptonian_man
- Verified User
- โพสต์: 585
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำจากผู้รู้ทั้งหลายหน่อยครับ
โพสต์ที่ 3
อย่างที่พี่มิราเคิลบอกครับ
ผมเองก้อเริ่มจากเงินก้อนแรกสองหมื่นเหมือนกัน ตอนนี้ก้อยังไม่ได้เติบโตอะไรมากมาย เพราะเพิ่งเริ่มเหมือนกัน
ส่วนจะเริ่มโดยการเก็งกำไรผมว่ามันจะเสี่ยงไปหน่อยป่ะครับ โอกาสเงินสูญมันมีมากไปนะครับ
ผมเองก้อเริ่มจากเงินก้อนแรกสองหมื่นเหมือนกัน ตอนนี้ก้อยังไม่ได้เติบโตอะไรมากมาย เพราะเพิ่งเริ่มเหมือนกัน
ส่วนจะเริ่มโดยการเก็งกำไรผมว่ามันจะเสี่ยงไปหน่อยป่ะครับ โอกาสเงินสูญมันมีมากไปนะครับ
เขาว่า "หลังจากปากพองจากการดื่มนมร้อน เราจะเป่าโยเกิร์ตให้เย็นก่อนตักเข้าปาก"
แต่ทำไมตรูไม่เข็ด เคาะขวาไวตลอดเนี่ย
แต่ทำไมตรูไม่เข็ด เคาะขวาไวตลอดเนี่ย
-
- Verified User
- โพสต์: 1211
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำจากผู้รู้ทั้งหลายหน่อยครับ
โพสต์ที่ 4
ผมแนะนำให้กันเงินเป็นสองส่วน
ทำทั้งสองอย่างพร้อมกัน เก็งกำไร และ VI
เทียบดูว่า เราทำสิ่งไหนได้ดีกว่า และชอบแบบไหนมากกว่ากัน
3 เดือนก็พอรู้บ้างแล้ว
อย่าลืมนะครับคนเก็งกำไรแล้วรวยก็เยอะ VI จนๆก็แยะ และ Vice Versa ครับ
ทำทั้งสองอย่างพร้อมกัน เก็งกำไร และ VI
เทียบดูว่า เราทำสิ่งไหนได้ดีกว่า และชอบแบบไหนมากกว่ากัน
3 เดือนก็พอรู้บ้างแล้ว
อย่าลืมนะครับคนเก็งกำไรแล้วรวยก็เยอะ VI จนๆก็แยะ และ Vice Versa ครับ
- aor_vi
- Verified User
- โพสต์: 336
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำจากผู้รู้ทั้งหลายหน่อยครับ
โพสต์ที่ 5
ที่จริงก็มือใหม่เหมือนกัน
แต่อยากจะแนะนำว่าให้ใช้เงินที่มีอยู่
ไปซื้อหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนมาอ่านเยอะ ๆ
ถ้าไม่รู้จะอ่านเล่มไหน ก็เข้าไปในห้องร้อยคนร้อยเล่ม
มีหนังสือแนะนำมากมาย
การอ่านหนังสือก็เป็นการลงทุนอย่างหนึ่งเหมือกัน
เราว่าการอ่านหนังสือจะช่วยได้มาก นะ :D :welcome:
แต่อยากจะแนะนำว่าให้ใช้เงินที่มีอยู่
ไปซื้อหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนมาอ่านเยอะ ๆ
ถ้าไม่รู้จะอ่านเล่มไหน ก็เข้าไปในห้องร้อยคนร้อยเล่ม
มีหนังสือแนะนำมากมาย
การอ่านหนังสือก็เป็นการลงทุนอย่างหนึ่งเหมือกัน
เราว่าการอ่านหนังสือจะช่วยได้มาก นะ :D :welcome:
"คนที่ไม่เคยล้มเหลวเลย โอกาสที่จะประสบความสำเร็จนั้นยาก"
-
- Verified User
- โพสต์: 81
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำจากผู้รู้ทั้งหลายหน่อยครับ
โพสต์ที่ 6
ผมก็มือใหม่คับ....เปิดบัญชี เดือน มกราคม ปีนี้เอง......เริ่มลงทุนด้วยเงิน 2หมื่นครับ (เงินรางวัลอันดับที่2 จาก set click2win (60%/2เดือน (ในเกม - -" )).......จากนั้นพ่อ ก็สมทบ ให้อีก 2หมื่น........เป็น 4หมื่น
เริ่มเล่น ด้วยการเก็งกำไร
เพราะคิดว่า ถ้าเล่นแบบ vi 20% ต่อปี ของ 40000 ปีนึงจะได้เงินเท่ากับ 8000บาท...........มันน้อยไปสำหรับผม ผมเลยคิดว่า จะเล่นเก็งกำไร เพื่อผลตอบแทนสูงๆ (หวังสูง เสียดฟ้า)........แล้วกะว่า ถ้าเงินเยอะๆ ค่อยมาเล่น แบบ vi ก็ไม่สาย........อีกอย่างเงินลงทุนของผม มันของฟรี เลยไม่ซีเรียสครับ
พอลงสนามจริง.....ก็ได้กำไร 2-10%/อาทิตย์......แต่แล้วก็หาย ไปกับ ค่า cut loss จนเท่าทุน หรือไม่ก็ขาดทุนนิดหน่อย
และต่อมาเกิดการผิดพลาดมหัตน์ ครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อผมไปเห็น หุ้นกำลังร่วงติด ฟอร์ ผมเลยคิดว่า มันต้อง เด้ง เลยเข้าไปตอน ฟอร์ แรก.................และแล้วประสบการณ์ก็สอนว่า นรกมีจริง.....วันต่อมาก็ฟอร์ มะรืนก็ฟอร์ - -".....สุดท้ายก็เด้งขึ้น เหอะๆ.............ก็ช่วยให้ผมขาดทุน แค่ 50% - -" (น่าภูมิใจมั้ยเนี้ย)
ต่อมาประสบการณ์ได้สอนว่า.....การเก็งกำไรมีความเสี่ยง.....จากที่ผมเล่นทุกวัน ....ต่อมาก็เริ่มศึกษา (แต่ก็ไม่ยอมทิ้งการเก็งกำไร) ......ตอนนี้เลยหันมาเล่นหุ้นที่มีข่าวที่แน่นอน..และซื้อตอนราคายังไม่วิ่ง......และแล้วโชคคงเข้าข้าง........ผ่านไปเดือนกว่าๆ จากขาดทุนมา เท่าทุน แล้วก็บัดนี้กำไร 300กว่า% แล้ว (ณ ตอนที่พิมพ์อยู่นี่)...........
แต่ยังไงก็ตาม ผมยังคงระมัดระวังตัว ในการเล่นหุ้นเก็งกำไร เพราะเคยเจ็บตัว แล้ว..........
การเดินทางของผมยัง เริ่มต้น เท่านั้น ระยะทางอีกยาว......แต่ยังไง ผมก็ยังรัก vi ที่ทำให้ผมรักการเล่นหุ้น...........
เริ่มเล่น ด้วยการเก็งกำไร
เพราะคิดว่า ถ้าเล่นแบบ vi 20% ต่อปี ของ 40000 ปีนึงจะได้เงินเท่ากับ 8000บาท...........มันน้อยไปสำหรับผม ผมเลยคิดว่า จะเล่นเก็งกำไร เพื่อผลตอบแทนสูงๆ (หวังสูง เสียดฟ้า)........แล้วกะว่า ถ้าเงินเยอะๆ ค่อยมาเล่น แบบ vi ก็ไม่สาย........อีกอย่างเงินลงทุนของผม มันของฟรี เลยไม่ซีเรียสครับ
พอลงสนามจริง.....ก็ได้กำไร 2-10%/อาทิตย์......แต่แล้วก็หาย ไปกับ ค่า cut loss จนเท่าทุน หรือไม่ก็ขาดทุนนิดหน่อย
และต่อมาเกิดการผิดพลาดมหัตน์ ครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อผมไปเห็น หุ้นกำลังร่วงติด ฟอร์ ผมเลยคิดว่า มันต้อง เด้ง เลยเข้าไปตอน ฟอร์ แรก.................และแล้วประสบการณ์ก็สอนว่า นรกมีจริง.....วันต่อมาก็ฟอร์ มะรืนก็ฟอร์ - -".....สุดท้ายก็เด้งขึ้น เหอะๆ.............ก็ช่วยให้ผมขาดทุน แค่ 50% - -" (น่าภูมิใจมั้ยเนี้ย)
ต่อมาประสบการณ์ได้สอนว่า.....การเก็งกำไรมีความเสี่ยง.....จากที่ผมเล่นทุกวัน ....ต่อมาก็เริ่มศึกษา (แต่ก็ไม่ยอมทิ้งการเก็งกำไร) ......ตอนนี้เลยหันมาเล่นหุ้นที่มีข่าวที่แน่นอน..และซื้อตอนราคายังไม่วิ่ง......และแล้วโชคคงเข้าข้าง........ผ่านไปเดือนกว่าๆ จากขาดทุนมา เท่าทุน แล้วก็บัดนี้กำไร 300กว่า% แล้ว (ณ ตอนที่พิมพ์อยู่นี่)...........
แต่ยังไงก็ตาม ผมยังคงระมัดระวังตัว ในการเล่นหุ้นเก็งกำไร เพราะเคยเจ็บตัว แล้ว..........
การเดินทางของผมยัง เริ่มต้น เท่านั้น ระยะทางอีกยาว......แต่ยังไง ผมก็ยังรัก vi ที่ทำให้ผมรักการเล่นหุ้น...........
-
- Verified User
- โพสต์: 3345
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำจากผู้รู้ทั้งหลายหน่อยครับ
โพสต์ที่ 7
ผลตอบแทนต่อปี 20% ถ้าทำทบต้นได้ถึง 20 ปี เงินต้นจะงอกขึ้นมหาศาลเลยนะครับ :lol:
ทั้งนี้ ยังไม่รวมเงินลงทุนที่ในภายหลังนำมาใส่เพิ่มอีก
น้อยไปหรือมากไป ผมว่าคนๆ นั้นกำหนดกรอบการลงทุนของตัวเองไว้แบบใด ครับ
ถ้าหวังรวยเร็ว แบบวันเดียวขอ +20% เลย หุ้นพื้นฐานดีโดยเฉพาะ value investment ไม่วิ่งเร็วขนาดนั้นหรอกครับ แนะนำว่าไปเล่นหุ้นปั่นเลยครับ อะดรีนาลีนสูบฉีดจนไม่ได้หลับได้นอนกันเลยทีเดียว
แต่ถ้ากำหนดไว้ว่าปีหนึ่งขอ 20% ผมว่าไม่ยากเกินความสามารถปุถุชนทั่วไปครับ
เทคโนโลยีทำให้ทุกอย่างในโลกแบนราบลง เรารู้ข้อมูลบริษัทไม่แตกต่างจาก fund manager เลย ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ แม้กระทั่งข้อมูลใน thaivi แห่งนี้
แต่ท้ายที่สุดแล้ว เป็นวินัยและจิตใจของนักลงทุนมากกว่าครับ ที่จะเล่นเกมเฉพาะที่ถนัดเท่านั้น และเป็นสิ่งที่กำหนดความมั่งคั่งส่วนบุคคลในระยะยาว
ในเมื่อเราไม่สามารถชนะได้ในทุกเกม เราจะเข้าไปเล่นทุกเกมทำไมครับ
เล่นเฉพาะเกมที่เราคิดว่าเราจะชนะได้อย่างง่ายดาย ดีกว่า
หลายท่านในที่นี้ใช้เวลาลงทุนมาพอสมควร และทำผลตอบแทนได้อย่างน่าประทับใจ มีตั้งแต่ปีละ 20% จนถึงปีละหลายร้อยเปอร์เซนต์ นั่นเป็นเพราะเขาได้รับผลตอบแทนจากสิ่งที่เขาได้ลงทุนลงแรง "ด้วยตัวเอง" ครับ
หากมัวแต่ลอกการบ้านคนอื่น แม้จะได้รับผลตอบแทนที่ดี แต่ผมว่าก้อยังช้ากว่า "เจ้าของการบ้าน" อยู่ดี ครับ
แต่การที่เอาการบ้านมาต่อยอด และซื้อในราคาที่ถูกกว่าเจ้าของการบ้านเสียอีก ผมยกให้เป็นเซียนเลยครับ :8) ...
ทั้งนี้ ยังไม่รวมเงินลงทุนที่ในภายหลังนำมาใส่เพิ่มอีก
น้อยไปหรือมากไป ผมว่าคนๆ นั้นกำหนดกรอบการลงทุนของตัวเองไว้แบบใด ครับ
ถ้าหวังรวยเร็ว แบบวันเดียวขอ +20% เลย หุ้นพื้นฐานดีโดยเฉพาะ value investment ไม่วิ่งเร็วขนาดนั้นหรอกครับ แนะนำว่าไปเล่นหุ้นปั่นเลยครับ อะดรีนาลีนสูบฉีดจนไม่ได้หลับได้นอนกันเลยทีเดียว
แต่ถ้ากำหนดไว้ว่าปีหนึ่งขอ 20% ผมว่าไม่ยากเกินความสามารถปุถุชนทั่วไปครับ
เทคโนโลยีทำให้ทุกอย่างในโลกแบนราบลง เรารู้ข้อมูลบริษัทไม่แตกต่างจาก fund manager เลย ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ แม้กระทั่งข้อมูลใน thaivi แห่งนี้
แต่ท้ายที่สุดแล้ว เป็นวินัยและจิตใจของนักลงทุนมากกว่าครับ ที่จะเล่นเกมเฉพาะที่ถนัดเท่านั้น และเป็นสิ่งที่กำหนดความมั่งคั่งส่วนบุคคลในระยะยาว
ในเมื่อเราไม่สามารถชนะได้ในทุกเกม เราจะเข้าไปเล่นทุกเกมทำไมครับ
เล่นเฉพาะเกมที่เราคิดว่าเราจะชนะได้อย่างง่ายดาย ดีกว่า
หลายท่านในที่นี้ใช้เวลาลงทุนมาพอสมควร และทำผลตอบแทนได้อย่างน่าประทับใจ มีตั้งแต่ปีละ 20% จนถึงปีละหลายร้อยเปอร์เซนต์ นั่นเป็นเพราะเขาได้รับผลตอบแทนจากสิ่งที่เขาได้ลงทุนลงแรง "ด้วยตัวเอง" ครับ
หากมัวแต่ลอกการบ้านคนอื่น แม้จะได้รับผลตอบแทนที่ดี แต่ผมว่าก้อยังช้ากว่า "เจ้าของการบ้าน" อยู่ดี ครับ
แต่การที่เอาการบ้านมาต่อยอด และซื้อในราคาที่ถูกกว่าเจ้าของการบ้านเสียอีก ผมยกให้เป็นเซียนเลยครับ :8) ...
-
- Verified User
- โพสต์: 1289
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำจากผู้รู้ทั้งหลายหน่อยครับ
โพสต์ที่ 8
ถูกจัย ใช่เลยbeammy เขียน: ในเมื่อเราไม่สามารถชนะได้ในทุกเกม เราจะเข้าไปเล่นทุกเกมทำไมครับ
เล่นเฉพาะเกมที่เราคิดว่าเราจะชนะได้อย่างง่ายดาย ดีกว่า
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
-
- Verified User
- โพสต์: 63
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำจากผู้รู้ทั้งหลายหน่อยครับ
โพสต์ที่ 10
กราบขอบคุณพี่ๆทุกคนมากเลยครับ คำแนะนำของพี่ๆมีประโยชน์มากเลยครับ ตอนนี้ผมคงฟันธงไม่ได้ว่าจะเอาแนวไหนดี ขอศึกษาหาความรู้ไปพลางๆ
ตอนนี้ผมพยายามหาซื้อหนังสือมาศึกษาเพิ่มเติมอยู่ ผมเห็นมีหนังสือเยอะแยะมากเลย และน่าสนใจทั้งน้น แต่ด้วยงบประมาณอันจำกัด ผมจึงอยากจะเรียนถามอีกซักเรื่องว่าหนังสือเล่มไหนที่พี่ๆคิดว่าผมควรจะมีติดตัวไว้อย่าได้ขาดครับ (ประมาณว่าต่อให้ไปติดเกาะร้างอยู่คนเดียว นักลงทุนก็ต้องมีหนังสือเล่มนี้อยู่ข้างตัวน่ะครับ)
ปล. ตอนนี้ผมมีหนังสือ "ชนะอย่างเต่า" ของอ.นิเวศน์อยู่เล่มนึงครับ
ตอนนี้ผมพยายามหาซื้อหนังสือมาศึกษาเพิ่มเติมอยู่ ผมเห็นมีหนังสือเยอะแยะมากเลย และน่าสนใจทั้งน้น แต่ด้วยงบประมาณอันจำกัด ผมจึงอยากจะเรียนถามอีกซักเรื่องว่าหนังสือเล่มไหนที่พี่ๆคิดว่าผมควรจะมีติดตัวไว้อย่าได้ขาดครับ (ประมาณว่าต่อให้ไปติดเกาะร้างอยู่คนเดียว นักลงทุนก็ต้องมีหนังสือเล่มนี้อยู่ข้างตัวน่ะครับ)
ปล. ตอนนี้ผมมีหนังสือ "ชนะอย่างเต่า" ของอ.นิเวศน์อยู่เล่มนึงครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำจากผู้รู้ทั้งหลายหน่อยครับ
โพสต์ที่ 11
ตอบยากมากๆๆ ครับellevoid เขียน: กราบขอบคุณพี่ๆทุกคนมากเลยครับ คำแนะนำของพี่ๆมีประโยชน์มากเลยครับ ตอนนี้ผมคงฟันธงไม่ได้ว่าจะเอาแนวไหนดี ขอศึกษาหาความรู้ไปพลางๆ
ตอนนี้ผมพยายามหาซื้อหนังสือมาศึกษาเพิ่มเติมอยู่ ผมเห็นมีหนังสือเยอะแยะมากเลย และน่าสนใจทั้งน้น แต่ด้วยงบประมาณอันจำกัด ผมจึงอยากจะเรียนถามอีกซักเรื่องว่าหนังสือเล่มไหนที่พี่ๆคิดว่าผมควรจะมีติดตัวไว้อย่าได้ขาดครับ (ประมาณว่าต่อให้ไปติดเกาะร้างอยู่คนเดียว นักลงทุนก็ต้องมีหนังสือเล่มนี้อยู่ข้างตัวน่ะครับ)
ปล. ตอนนี้ผมมีหนังสือ "ชนะอย่างเต่า" ของอ.นิเวศน์อยู่เล่มนึงครับ
เพราะว่าในตลาดมีหลายเล่มมากจริงๆๆ
ต้องลองอ่านดูก่อนก็ได้ครับ
ถ้าหากอยู่ในกรุงเทพ ลองไปห้องสมุดมารวยอ่านก่อนก็ได้ครับ
ในนั้นมีหนังสือแนวการลงทุนมากพอดูเลยครับ
ลองจดจากร้อยคนร้อยหุ้นไปหาได้ครับ
ส่วนใหญ่ในห้องสมุดนี้มีหมดครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 3345
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำจากผู้รู้ทั้งหลายหน่อยครับ
โพสต์ที่ 12
เอาหลักๆ ที่ผมอ่านซ้ำหลายๆ รอบนะครับ
The Intelligent Investor แปลเป็นไทยแล้ว
One up on Wall Street แปลเป็นไทยแล้ว
Beating the Street แปลเป็นไทยแล้ว
5 Keys to Value Investing แปลเป็นไทยแล้ว
และที่ขาดไม่ได้ คือ ผลงานของ ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ทุกเล่ม ครับ :8) ...
The Intelligent Investor แปลเป็นไทยแล้ว
One up on Wall Street แปลเป็นไทยแล้ว
Beating the Street แปลเป็นไทยแล้ว
5 Keys to Value Investing แปลเป็นไทยแล้ว
และที่ขาดไม่ได้ คือ ผลงานของ ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ทุกเล่ม ครับ :8) ...
- ดาวหางสีแดง
- Verified User
- โพสต์: 635
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำจากผู้รู้ทั้งหลายหน่อยครับ
โพสต์ที่ 13
ถ้าต้องเลือกเพียงเล่มเดียว
ผมเลือก beating the street
แต่ถ้าเริ่มต้น ควรจะอ่าน
one up on wall street ก่อน
ผมเลือก beating the street
แต่ถ้าเริ่มต้น ควรจะอ่าน
one up on wall street ก่อน
-
- Verified User
- โพสต์: 66
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำจากผู้รู้ทั้งหลายหน่อยครับ
โพสต์ที่ 14
เลือกเล่มเดียวเลือก How Buffett Does it ครับ
แปลเป็นไทยแล้วมีชื่อไทยว่า ตามรอย วอเร็น บัฟเฟตต์
ทำไมถึงชอบ?
1.หนังสือบาง สร้างความสบายใจก่อนอ่าน เห็นแล้วไม่เหนื่อย ยกก็ไม่หนัก ฮ่าๆ
2.แต่ละบทเนื้อหาสั้นๆ ได้ใจความ กล่าวถึงทัศนคติและแนวทาง มากกว่าการวิเคราะห์เชิงตัวเลขที่ค่อนข้างซับซ้อน
3.มีการสรุป 3 ข้อ ท้ายบท เป็นหลักการในแนวทางนั้น
4.มีการ์ตูนประกอบทุกบท ดูน่าอ่านกว่าหนังสือที่เป็นตัวหนังสือล้วนครับ
5.เข้าใจง่ายมากครับ ผมอ่านเล่มนี้เป็นเล่มแรกๆ ที่ผมซื้อ เพราะเปิดอ่านแล้วชอบ ถูกใจมากครับ (น่าจะเป็นหนังสือการลงทุน เล่มที่ 3 ของผม)
แปลเป็นไทยแล้วมีชื่อไทยว่า ตามรอย วอเร็น บัฟเฟตต์
ทำไมถึงชอบ?
1.หนังสือบาง สร้างความสบายใจก่อนอ่าน เห็นแล้วไม่เหนื่อย ยกก็ไม่หนัก ฮ่าๆ
2.แต่ละบทเนื้อหาสั้นๆ ได้ใจความ กล่าวถึงทัศนคติและแนวทาง มากกว่าการวิเคราะห์เชิงตัวเลขที่ค่อนข้างซับซ้อน
3.มีการสรุป 3 ข้อ ท้ายบท เป็นหลักการในแนวทางนั้น
4.มีการ์ตูนประกอบทุกบท ดูน่าอ่านกว่าหนังสือที่เป็นตัวหนังสือล้วนครับ
5.เข้าใจง่ายมากครับ ผมอ่านเล่มนี้เป็นเล่มแรกๆ ที่ผมซื้อ เพราะเปิดอ่านแล้วชอบ ถูกใจมากครับ (น่าจะเป็นหนังสือการลงทุน เล่มที่ 3 ของผม)